Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: suchinna ที่ มีนาคม 08, 2013, 12:53:06
-
Learn About Subaru Boxer Engine Technology (http://www.youtube.com/watch?v=8BWEcXe6NU0#ws)
หนึ่งในความเป็นตำนาน
-
เปรียบเทียบในเรื่องความสมดุลย์ได้ดีมากเลยครับ ซูบารุนี่มีทั้งศาสตร์แห่งความแรงและศิลป์แห่งการขับขี่จริงๆ :-*
-
แต่รถรุ่นตลาดยังทำออกมาไม่ค่อยได้ฟิลซูบารุเท่าไหร่ โดยเฉพาะเครื่องยนต์
-
มีคำถามครับ สูบแนวนอนแบบนี้แรงสั่นมันไม่ปลดปล่อยไปซ้ายขวาทำให้ขับตรงยาก หรือเวลาเข้าโค้งยากหรอครับ
แล้วมีสูบแนวนอนที่ทิศทางเคลื่อนที่ข้างหน้าหลังมั้ยครับ
แล้วถ้ามันดีจริงมากๆ ทำไมซุปเปอคาร์คาถึงไม่แห่กันใช้หรอครับ หรือข้อดีไม่มากพอครับ
ขอบคุณครับ
-
สูบนอน นอนยัน เคยได้ยินมาว่า มันสึกเฉพาะส่วนล่าง
ข้อดีหลักๆเลยคือมันทำให้ศูนย์ถ่วงต่ำ
น้ำหนักเครื่องอยู่ข้างล่าง ทำให้บาลานซ์ดีขึ้น
ส่วนที่ว่า ทำไมซุปเปอร์คาร์ไม่ใช้
เพราะเค้าวางกลาง วางหลัง ซึ่งดีกว่าวางหน้า ในด้านการขับขี่อยู่แล้ว
ด้วยความที่ซูฯยังพอมีความเป็นรถบ้าน เลยต้องมี 4 ประตู หรือเป็นแวกอน
จะวางหลัง วางกลาง คงไม่ได้ แต่จะให้วางเครื่องธรรมดา ก็ไม่ใช่ซูฯสิครับ
-
แล้วเครื่อง Boxer ของปอร์เช่มีหลักการณ์เหมือนกับซูบารุมั้ยครับ แล้วใครเริ่มใช้ก่อนกัน ใครทราบช่วยตอบด้วยครับผม
-
มีคำถามครับ สูบแนวนอนแบบนี้แรงสั่นมันไม่ปลดปล่อยไปซ้ายขวาทำให้ขับตรงยาก หรือเวลาเข้าโค้งยากหรอครับ
แล้วมีสูบแนวนอนที่ทิศทางเคลื่อนที่ข้างหน้าหลังมั้ยครับ
แล้วถ้ามันดีจริงมากๆ ทำไมซุปเปอคาร์คาถึงไม่แห่กันใช้หรอครับ หรือข้อดีไม่มากพอครับ
ขอบคุณครับ
เท่าที่รู้มาคือจังหวะการจุดระเบิดซ้ายและขวาพร้อมกันครับ เลยเกิดสมดุลแรงซ้ายและขวา
แต่มันทำให้ความถี่ที่ความเร็วรอบเท่ากัน กับแบบสี่สูบชนิดอื่นจะหายไปครึ่งนึง
จึงเป็นเอกลักษณ์เรื่องเสียงเดินเบาของเครื่องชนิดนี้ด้วย
ลองดูตามยูทูปก็ได้นะครับ เผื่อจะเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
ส่วนเรื่องอื่นก็ไม่รู้เหมือนกันครับ
-
เครื่อง 4 สูบBoxer ของ Subaru จะมีลำดับการจุดระเบิดเป็น 1,3,2,4
พูดง่ายๆคือจุดแบงค์นึงก่อนสองสูบ แล้วค่อยจุดอีกแบงค์สองสูบ
คำว่าจุดนี่คือการที่ยิงประกายหัวเทียน และเป็นจังหวะกำลังด้วย
ส่วนการจุดพร้อมกันสองลูก มีเหมือนกัน ในเครื่องปี 96 เดือนธันวาจน
ถึงตัวสุดท้ายของ GC แต่ในการจุดนั้นสูบนึงจะจุดจังหวะสปาร์คเพื่อสร้างกำลัง
ส่วนอีกสูบจะจุดในจังหวะคายไอเสีย กล่าวคือเป็นระบบ Waste Spark
คอยล์ตัวเดียวจุดสองสูบ เหมือนเครื่อง 4G63 ใน Evo III
เครื่องสูบนอนที่จริงก็เคยมีรถรุ่นอื่นใช้ 911, Cayman, Boxster
ล้วนเป็น Boxer-6 และ Ferrari เคยใช้ใน 512 Berlinetta Boxer, Testarossa, 512TR
,F512M ซึ่งเป็น Boxer -12สูบ
เครื่อง Boxer นั้นนอกจากจะเสียเปรียบที่ผนังกระบอกมักสึกข้างเดียวแล้ว
ยังมีปัญหากับการเผาไหม้ เพราะการเผาไหม้มักไปเกิดรอบๆวาล์วไอดี ไม่ได้เกิด
แบบทั่วถึงอย่างรถสูบตั้งหรือพวกเครื่อง V-engine ทำให้อัตราส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง
ต่ออากาศต้องหนา น้ำมันต้องเยอะ จากที่เพื่อนผมเคยลองจูนมา รถสเป็คใกล้เคียงกัน
แต่เทียบซูบารุกับพวก Evo, SR เครื่องซูบารุต้องมีค่าAir/Fuel หนากว่าปกติหน่อยจึงจะได้แรงม้าสูง
นอกจากนี้ยังเสียเปรียบเรื่องการออกแบบท่อไอเสีย เวลาท่อเฮดเดอร์จะยิงออกจากพอร์ท
มันจะต้องยิงโค้งรับกับพอร์ทไอเสีย แล้วค่อยอ้อมไปทางที่ต้องการ สังเกตพวกรถสูบตั้ง
เวลาทำเฮดเดอร์แต่ง ก็จะต้องยิงท่อขึ้นเล็กน้อยแล้วค่อยๆม้วนกลับลงด้านล่าง
เครื่อง Boxer นั้นตัวก็เตี้ยติดพื้นอยู่แล้ว เครื่องก็เตี้ย ถ้าทำเฮดเดอร์ยิงออกมาสวยๆ
แล้วค่อยวนกลับ ท่อครูดพื้นพอดี ถ้าเป็นรถแต่ง รถแข่งนั้นยอมรับได้สบาย แต่รถโรงงาน
ออกขายคนทั่วไปคงไม่ค่อยดี
พูดง่ายๆคือถ้าเอามาวิ่งทางตรงแบบDrag เครื่อง Boxer แทบไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลย
เป็นภาระมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่ที่ยังสามารถจำหน่ายขายอยู่ได้เพราะเป็นเอกลักษณ์
ที่คนต้องการให้คงเอาไว้ ถ้า Subaru Impreza ใช้เครื่อง 4 สูบเรียงวางขวาง..เอามั้ย
หรืออีกเหตุผลก็คือการจัดรูปทรงของรถที่ส่งผลกับรูปแบบของเครื่อง 911 เป็นเครื่องวางหลัง
ถ้าใช้เครื่องสูบตั้งแบบ V ท้ายก็จะต้องสูงกว่านี้ รูปทรงไม่สามารถออกแบบให้มีเอกลักษณ์
แบบ 911 ได้
-
เครื่อง 4 สูบBoxer ของ Subaru จะมีลำดับการจุดระเบิดเป็น 1,3,2,4
พูดง่ายๆคือจุดแบงค์นึงก่อนสองสูบ แล้วค่อยจุดอีกแบงค์สองสูบ
คำว่าจุดนี่คือการที่ยิงประกายหัวเทียน และเป็นจังหวะกำลังด้วย
ส่วนการจุดพร้อมกันสองลูก มีเหมือนกัน ในเครื่องปี 96 เดือนธันวาจน
ถึงตัวสุดท้ายของ GC แต่ในการจุดนั้นสูบนึงจะจุดจังหวะสปาร์คเพื่อสร้างกำลัง
ส่วนอีกสูบจะจุดในจังหวะคายไอเสีย กล่าวคือเป็นระบบ Waste Spark
คอยล์ตัวเดียวจุดสองสูบ เหมือนเครื่อง 4G63 ใน Evo III
เครื่องสูบนอนที่จริงก็เคยมีรถรุ่นอื่นใช้ 911, Cayman, Boxster
ล้วนเป็น Boxer-6 และ Ferrari เคยใช้ใน 512 Berlinetta Boxer, Testarossa, 512TR
,F512M ซึ่งเป็น Boxer -12สูบ
เครื่อง Boxer นั้นนอกจากจะเสียเปรียบที่ผนังกระบอกมักสึกข้างเดียวแล้ว
ยังมีปัญหากับการเผาไหม้ เพราะการเผาไหม้มักไปเกิดรอบๆวาล์วไอดี ไม่ได้เกิด
แบบทั่วถึงอย่างรถสูบตั้งหรือพวกเครื่อง V-engine ทำให้อัตราส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง
ต่ออากาศต้องหนา น้ำมันต้องเยอะ จากที่เพื่อนผมเคยลองจูนมา รถสเป็คใกล้เคียงกัน
แต่เทียบซูบารุกับพวก Evo, SR เครื่องซูบารุต้องมีค่าAir/Fuel หนากว่าปกติหน่อยจึงจะได้แรงม้าสูง
นอกจากนี้ยังเสียเปรียบเรื่องการออกแบบท่อไอเสีย เวลาท่อเฮดเดอร์จะยิงออกจากพอร์ท
มันจะต้องยิงโค้งรับกับพอร์ทไอเสีย แล้วค่อยอ้อมไปทางที่ต้องการ สังเกตพวกรถสูบตั้ง
เวลาทำเฮดเดอร์แต่ง ก็จะต้องยิงท่อขึ้นเล็กน้อยแล้วค่อยๆม้วนกลับลงด้านล่าง
เครื่อง Boxer นั้นตัวก็เตี้ยติดพื้นอยู่แล้ว เครื่องก็เตี้ย ถ้าทำเฮดเดอร์ยิงออกมาสวยๆ
แล้วค่อยวนกลับ ท่อครูดพื้นพอดี ถ้าเป็นรถแต่ง รถแข่งนั้นยอมรับได้สบาย แต่รถโรงงาน
ออกขายคนทั่วไปคงไม่ค่อยดี
พูดง่ายๆคือถ้าเอามาวิ่งทางตรงแบบDrag เครื่อง Boxer แทบไม่ได้มีส่วนช่วยอะไรเลย
เป็นภาระมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่ที่ยังสามารถจำหน่ายขายอยู่ได้เพราะเป็นเอกลักษณ์
ที่คนต้องการให้คงเอาไว้ ถ้า Subaru Impreza ใช้เครื่อง 4 สูบเรียงวางขวาง..เอามั้ย
หรืออีกเหตุผลก็คือการจัดรูปทรงของรถที่ส่งผลกับรูปแบบของเครื่อง 911 เป็นเครื่องวางหลัง
ถ้าใช้เครื่องสูบตั้งแบบ V ท้ายก็จะต้องสูงกว่านี้ รูปทรงไม่สามารถออกแบบให้มีเอกลักษณ์
แบบ 911 ได้
ชัดเจนเลยครับ ทุกอย่างมีทั้งดีและเสียจริงๆ
ขอบคุณมากครับพี่แพน
-
ได้ความรู้อีกแล้ว
ขอบคุณมากครับพี่แพน
-
ต้องวัดกันที่โค้งอ่ะครับ ทางตรงยังไงก็โดนเครื่องแบบอื่นๆสวนแหละ ถ้าไม่แรงจริง