Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: touchme ที่ มีนาคม 11, 2013, 11:44:27
-
จริงๆก้ไม่เชิงหนี ไฟแนนซ์ หรอกคับ
พอดี ญาติของเพื่อน เค้าได้ รถจากลูกหนี้ มาว่างไว้เพื่อยืมเงินไป ที่นี้ ตอนนี้ตัวลูกหนี้ หายสาบสูญไปเลย ไม่มี ญาติพี่น้องติดต่อและรู้เรื่อง รถเลย
จะเอามาใช้ก็ไม่ได้เพราะกลัวไฟแนนซ์ จะไปเคลียร์ ก็ไม่รู้ไฟแนนซ์ไหนอีก
ทางญาติของเพื่อน ก็เลยอยากจะทำไงก้ได้ที่จะเปลี่ยน รถ คันนี้เป็นเงินกลับมาอะคับ
-
จริงๆก้ไม่เชิงหนี ไฟแนนซ์ หรอกคับ
พอดี ญาติของเพื่อน เค้าได้ รถจากลูกหนี้ มาว่างไว้เพื่อยืมเงินไป ที่นี้ ตอนนี้ตัวลูกหนี้ หายสาบสูญไปเลย ไม่มี ญาติพี่น้องติดต่อและรู้เรื่อง รถเลย
จะเอามาใช้ก็ไม่ได้เพราะกลัวไฟแนนซ์ จะไปเคลียร์ ก็ไม่รู้ไฟแนนซ์ไหนอีก
ทางญาติของเพื่อน ก็เลยอยากจะทำไงก้ได้ที่จะเปลี่ยน รถ คันนี้เป็นเงินกลับมาอะคับ
สืบทางเลขตัวถังได้มั้ยครับ ไม่น่าจะหาไฟแนนซ์ยากขนาดนั้น
-
แยกชิ้นส่วนขายอู่ครับ
-
แยกชิ้นขายนี่่ ระวังไอดัง คุกๆๆๆๆ อะเป่าาาาา
-
ขายเข้าป่ายาง สวนปลาม์ อิ
-
ถ้ากระบะคงขายไม่ยาก
-
ได้รถจากลูกหนี้มานี่ มีหลักฐานอะไรที่เค้าโอนให้หรือเปล่า หรือสัญญายืนเงินไม๊ และถ้าเป็นการปล่อยกู้นอกระบบ ผมกลัวว่าจะซวย 2 ต่อนะครับ คือปล่อยกู้นอกระบบ และอาจจะโอนลูกหนี้แซบ ไปแจ้งความว่ารถหายแล้วให้ตำรวจมาจับเรา ข้อหาลักทรัพย์ ก็ได้
ปล.ดูแล้วเสี่ยวแทนครับ :P
-
ผมเตือนด้วยความหวังดีนะครับ เพราะคุณอาจจะยังไม่รู้ว่าคนที่ซื้อจากไฟแนนซ์ผิดฐานยักยอกทรัพย์ คนที่ซื้อต่อมาผิดฐานรับของโจร คนที่ชำแหละรถขายชิ้นส่วนผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ด้วยความหวังดีเพื่อไม่ให้ทำสิ่งที่ผิดครับ และขอบอกว่าคดีแบบนี้มีเยอะมากนะครับ มีตัวอย่างคำตัดสินของศาลครับ
คำพิพากษาฎีกาที่ 7727/2544
จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกจากบริษัท อ.โดยชำระเงินในวันทำ
สัญญาบางส่วน ที่เหลือผ่อนชำระเดือนละงวดรวม 36 งวดมีชาวบ้านที่จำเลย
จ้างมาเป็นผู้ค้ำประกัน หลังจากทำสัญญาเช่าซื้อและรับรถไปแล้วจำเลยไม่ชำระ
ค่าเช่าซื้อและไม่ติดต่อกับผู้เสียหายอีกเลย บริษัท อ.จึงบอกเลิกสัญญา แต่จำเลย
ไม่ส่งมอบรถคืน เมื่อสอบถามจำเลย จำเลยแจ้งว่าขายไปแล้วแต่ไม่ยอมบอกว่า
ขายให้แก่ผู้ใด ดังนี้ การที่จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อและชำระเงินล่วงหน้าก็เพื่อให้ได้
รถยนต์ไปไว้ในครอบครอง มิได้มีเจตนาจะชำระราคาอีก พฤติการณ์ของจำเลย
ดังกล่าวเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์ของบริษัท อ. ที่อยู่ในครอบครองของจำเลยไป
โดยทุจริตเป็นความผิดฐานยักยอก หาใช่เป็นเพียงการกระทำผิดสัญญาทางแพ่ง
เท่านั้นไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาโจทก์
ฟังขึ้น"
พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352
วรรคแรก จำคุก 2 ปี ให้จำเลยคืนรถยนต์หรือใช้ราคารถยนต์ 2,238,009.25
บาท แก่ผู้เสียหาย
-
ผมเตือนด้วยความหวังดีนะครับ เพราะคุณอาจจะยังไม่รู้ว่าคนที่ซื้อจากไฟแนนซ์ผิดฐานยักยอกทรัพย์ คนที่ซื้อต่อมาผิดฐานรับของโจร คนที่ชำแหละรถขายชิ้นส่วนผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ด้วยความหวังดีเพื่อไม่ให้ทำสิ่งที่ผิดครับ และขอบอกว่าคดีแบบนี้มีเยอะมากนะครับ มีตัวอย่างคำตัดสินของศาลครับ
คำพิพากษาฎีกาที่ 7727/2544
จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกจากบริษัท อ.โดยชำระเงินในวันทำ
สัญญาบางส่วน ที่เหลือผ่อนชำระเดือนละงวดรวม 36 งวดมีชาวบ้านที่จำเลย
จ้างมาเป็นผู้ค้ำประกัน หลังจากทำสัญญาเช่าซื้อและรับรถไปแล้วจำเลยไม่ชำระ
ค่าเช่าซื้อและไม่ติดต่อกับผู้เสียหายอีกเลย บริษัท อ.จึงบอกเลิกสัญญา แต่จำเลย
ไม่ส่งมอบรถคืน เมื่อสอบถามจำเลย จำเลยแจ้งว่าขายไปแล้วแต่ไม่ยอมบอกว่า
ขายให้แก่ผู้ใด ดังนี้ การที่จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อและชำระเงินล่วงหน้าก็เพื่อให้ได้
รถยนต์ไปไว้ในครอบครอง มิได้มีเจตนาจะชำระราคาอีก พฤติการณ์ของจำเลย
ดังกล่าวเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์ของบริษัท อ. ที่อยู่ในครอบครองของจำเลยไป
โดยทุจริตเป็นความผิดฐานยักยอก หาใช่เป็นเพียงการกระทำผิดสัญญาทางแพ่ง
เท่านั้นไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาโจทก์
ฟังขึ้น"
พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352
วรรคแรก จำคุก 2 ปี ให้จำเลยคืนรถยนต์หรือใช้ราคารถยนต์ 2,238,009.25
บาท แก่ผู้เสียหาย
ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะผิดตามประมวลกฎหมายอาญานั้นต้องขึ้นอยู่กับเจตนาด้วยครับ
ไม่ใช่ว่า จะผิดเสมอไป หากขาดเจตนาและสามารถนำสืบจนศาลเห็นควรก็ไม่ผิดครับ เป็นาระที่จำเลยต้องนำสืบ
-
ผมเตือนด้วยความหวังดีนะครับ เพราะคุณอาจจะยังไม่รู้ว่าคนที่ซื้อจากไฟแนนซ์ผิดฐานยักยอกทรัพย์ คนที่ซื้อต่อมาผิดฐานรับของโจร คนที่ชำแหละรถขายชิ้นส่วนผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ด้วยความหวังดีเพื่อไม่ให้ทำสิ่งที่ผิดครับ และขอบอกว่าคดีแบบนี้มีเยอะมากนะครับ มีตัวอย่างคำตัดสินของศาลครับ
คำพิพากษาฎีกาที่ 7727/2544
จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์บรรทุกจากบริษัท อ.โดยชำระเงินในวันทำ
สัญญาบางส่วน ที่เหลือผ่อนชำระเดือนละงวดรวม 36 งวดมีชาวบ้านที่จำเลย
จ้างมาเป็นผู้ค้ำประกัน หลังจากทำสัญญาเช่าซื้อและรับรถไปแล้วจำเลยไม่ชำระ
ค่าเช่าซื้อและไม่ติดต่อกับผู้เสียหายอีกเลย บริษัท อ.จึงบอกเลิกสัญญา แต่จำเลย
ไม่ส่งมอบรถคืน เมื่อสอบถามจำเลย จำเลยแจ้งว่าขายไปแล้วแต่ไม่ยอมบอกว่า
ขายให้แก่ผู้ใด ดังนี้ การที่จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อและชำระเงินล่วงหน้าก็เพื่อให้ได้
รถยนต์ไปไว้ในครอบครอง มิได้มีเจตนาจะชำระราคาอีก พฤติการณ์ของจำเลย
ดังกล่าวเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์ของบริษัท อ. ที่อยู่ในครอบครองของจำเลยไป
โดยทุจริตเป็นความผิดฐานยักยอก หาใช่เป็นเพียงการกระทำผิดสัญญาทางแพ่ง
เท่านั้นไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาโจทก์
ฟังขึ้น"
พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352
วรรคแรก จำคุก 2 ปี ให้จำเลยคืนรถยนต์หรือใช้ราคารถยนต์ 2,238,009.25
บาท แก่ผู้เสียหาย
ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะผิดตามประมวลกฎหมายอาญานั้นต้องขึ้นอยู่กับเจตนาด้วยครับ
ไม่ใช่ว่า จะผิดเสมอไป หากขาดเจตนาและสามารถนำสืบจนศาลเห็นควรก็ไม่ผิดครับ เป็นาระที่จำเลยต้องนำสืบ
ถูกต้องครับ แต่อย่าไปสู้คดีให้เสียเวลาเลยครับ เหนื่อยเปล่าๆ ทำสิ่งที่ถูกต้องไปเลยดีกว่าครับ สืบไม่ยากครับไฟแนนซ์ไหนไปบริษัทรถยี่ห้อนั้นใกล้บ้านเลยครับ ไปบันทึกประจำวันไว้ด้วยนะครับ เพราะไม่รู้ตอนนี้ไฟแนนซ์แจ้งความไว้แล้วยัง ความเห็นผมคือผมเห็นใจนะครับยืมเงินไปแล้วไม่คืน แต่ผมไม่อยากให้ต้องมารับกรรมลำบากกับสิ่งที่คุณไม่ได้ตั้งใจทำผิด
-
ระวังเจอลูกหนี้ัไปแจ้งว่าโดนขโมย เพื่อให้จบเรื่องกับไฟแนนท์
จะกลายเป็นว่าเราครอบครองรถที่ขโมยมาโดยปริยาย
ขนาดรถที่เป็นของลูกหนี้100% หากหลุดจำนำ เจ้าหนี้ยังต้องแอบๆรถเลยครับ เพราะรถได้ไม่โอน
ท่านรับเผือกร้อนมาต้องรีบจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งครับ
-
ด้วยความหวังดีระวังที่รถมี จีพีเอส ติดตามตัวรถ แล้วท่านจะเดือดร้อนนะครับ...