Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: settavut ที่ มีนาคม 26, 2013, 12:20:07

หัวข้อ: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: settavut ที่ มีนาคม 26, 2013, 12:20:07
อ้างถึง
โครงการรถคันแรกวุ่นอีกระลอก กระทรวงการคลังไม่มีเงินพอจ่ายผู้ที่ได้รับสิทธิในเดือนเม.ย.นี้กว่า 40,000 ราย

นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมบัญชีกลางยังไม่ทราบว่าจะใช้เงินจากส่วนใด มาจ่ายคืนให้กับผู้ได้สิทธิรถคันแรกในเดือน เม.ย. นี้ เนื่องจากเงินงบประมาณที่มีอยู่ไม่พอจ่าย แต่ขณะนี้กำลังหาเงินจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ยังไม่ได้ใช้ มาจ่ายให้ผู้ได้สิทธิ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐบาลตกลงไว้

ด้านกระทรวงการคลัง ระบุว่า ในปีงบประมาณ 56 นี้ รัฐบาลจัดสรรงบเพื่อจ่ายคืนผู้ได้สิทธิรถคันแรก 7,250 ล้านบาท แต่มีภาระที่ต้องจ่ายจริง 38,000 ล้านบาท โดยกรมบัญชีกลางจ่ายไปแล้ว 99,200 ราย รวม 6,889 ล้านบาท และมีเงินเหลือเพียง 361 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้ไม่พอจ่ายให้กับผู้ได้สิทธิฯ ในเดือน เม.ย นี้

ทั้งนี้ การจ่ายเงินคืนให้ผู้ได้สิทธิฯ จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 56 ต้องใช้เงินอีก 30,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ได้เตรียมแนวทางแก้ปัญหาไว้แล้ว โดยอาจใช้เงินคงคลังจ่ายคืนไปก่อน เพื่อไม่ให้เกิดภาพลบกับนโยบายและการบริหารงานของรัฐบาล

โดยในวันที่ 5 เม.ย.นี้ คาดว่าจะมีผู้ที่ไม่ได้รับเงินคืน 40,000 ราย ซึ่งระหว่างนี้ กรมสรรพสามิตกำลังจัดทำข้อมูล ว่ามีผู้ที่ได้รับคืนเงินจากยอดที่เหลือจกี่ราย ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับนั้น กรมบัญชีกลางจะทยอยจ่ายจนครบให้ภายในเดือนเม.ย.นี้

credit www.dailynews.co.th/businesss/193002 (http://www.dailynews.co.th/businesss/193002)

พอดีเคย discuss กันในนี้ แล้วเคยมีเพื่อนสมาชิก บอกว่า รัฐบาลให้เงินภาษีสรรพสามิต มาจ่ายไง แค่หักเงินภาษีที่ต้องเก็บเข้ารัฐออกมาจ่ายก่อนไม่ใช่หรอ แล้วมันจะไม่มีเงินจ่ายได้ไง ในเมื่อรัฐต้องได้เงินไปก่อน ถึงจะคืนมาภาษีมาให้  :-X หรือสงสัยเอาไปหมุน (1 ปี) ผลาญจนหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: KAKASHII ที่ มีนาคม 26, 2013, 12:24:33
นี้ไงกำลังไปกู้ 2.2 ล้านล้านมาคืนนี้ไง  ;D   
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ มีนาคม 26, 2013, 12:27:25
ก็แค่ช่วงที่หาเงินมาหมุนม่ทัน เพราะเยอะ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Jump ที่ มีนาคม 26, 2013, 12:30:44
นี้ไงกำลังไปกู้ 2.2 ล้านล้านมาคืนนี้ไง  ;D   


ถึงไม่ค่อยชอบ นโยบาย รถคันแีรก อย่างมากๆ
แต่เรื่อง 2.2 ล้านนี้ เค้ากู้มาทำอะไร มีรายละเอียดบอกอยู่ครับ
ไม่ใช่กู้มาแล้ว เอาไปใช้ อะไรได้ตามใจ

หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ มีนาคม 26, 2013, 12:34:31
สงสัยเหมือนเจ้าของกระทู้เลย

ถึงผมจะเป็นผู้รับสิทธิ  แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยกันนโยบายนี้มาตลอด
ผลกระทบเยอะมาก
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Night_Angel ที่ มีนาคม 26, 2013, 12:36:37
ไม่เกี่ยวกับโครงการกู้เงินเลย


แต่เกี่ยวที่คัลงเองทำบัญชีชขักช้า  เงินมันแค่ย้ายกระเป๋า ซ้ายขวา

และโครงการรถคันแรก  มันก็คือเงินค่ารถทั้งคันนั่นแหละ บริษัทรถ จ่ายรัฐ เข้าคลังไปแล้ว  คลังก็ต้อง จ่ายคืนให้ คนเข้าโครงการ

ถามว่าเงินไปไหน  คลังนั่นแหละยึกยักเอง  
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: settavut ที่ มีนาคม 26, 2013, 12:38:37
นี้ไงกำลังไปกู้ 2.2 ล้านล้านมาคืนนี้ไง  ;D   


ถึงไม่ค่อยชอบ นโยบาย รถคันแีรก อย่างมากๆ
แต่เรื่อง 2.2 ล้านนี้ เค้ากู้มาทำอะไร มีรายละเอียดบอกอยู่ครับ
ไม่ใช่กู้มาแล้ว เอาไปใช้ อะไรได้ตามใจ



รายละเอียด พรบ. เนื้อหา 4 แผ่น ที่ไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าใช้อะไรบ้าง มีแต่ยอดที่จะกู้ อะเหรอครับ อุ๊บบ ไม่เอาละ เดี๋ยวกลายเป็นการเมือง off topic ไปไกล

กลับมาเรื่องนโยบายนี้ดีกว่า เพราะเกี่ยวกับรถยนต์

ปล.ผมไม่เห็นด้วยกับโครงการรถคันแรกเลย เพราะมองเห็นแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดีมากๆ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Night_Angel ที่ มีนาคม 26, 2013, 12:46:19
นี้ไงกำลังไปกู้ 2.2 ล้านล้านมาคืนนี้ไง  ;D  


ถึงไม่ค่อยชอบ นโยบาย รถคันแีรก อย่างมากๆ
แต่เรื่อง 2.2 ล้านนี้ เค้ากู้มาทำอะไร มีรายละเอียดบอกอยู่ครับ
ไม่ใช่กู้มาแล้ว เอาไปใช้ อะไรได้ตามใจ




รายละเอียด พรบ. เนื้อหา 4 แผ่น ที่ไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าใช้อะไรบ้าง มีแต่ยอดที่จะกู้ อะเหรอครับ อุ๊บบ ไม่เอาละ เดี๋ยวกลายเป็นการเมือง off topic ไปไกล

กลับมาเรื่องนโยบายนี้ดีกว่า เพราะเกี่ยวกับรถยนต์

ปล.ผมไม่เห็นด้วยกับโครงการรถคันแรกเลย เพราะมองเห็นแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดีมากๆ

“รองโฆษกฯรบ.”แจงยิบ “เงินกู้ 2 ล้านล้าน”

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวตอบโต้พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ออกมาโจมตี พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทว่า ไม่มีรายละเอียด รวมถึงโครงการกู้เงินนี้จะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถกู้เงินได้อีก 50 ปี ว่า

ข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่เป็นความจริงเนื่องจากโครงการนี้มีรายละเอียดครบถ้วนซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำเป็นเอกสารกว่า 268 หน้า จะมีรายละเอียดโครงการ วัตถุประสงค์ แผนที่ประกอบแนบท้าย และจะเสร็จสิ้นก่อนที่สภาจะพิจารณาวาระ 1

ส่วนที่มีการโจมตีว่ามีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางคมนาคมนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะเส้นทางสายหลัก ได้มีการกำหนดไว้แล้ว อาทิ เส้นทางรถไฟความเร็วสูง
- กทม.-เชียงใหม่
- กทม.-หนองคาย
- และกทม.-หัวหิน- ปาดังเบซา

และความกังวลว่าจะมีการวิ่งเต้นเพื่อทำถนนสายรองในพื้นที่นั้น ก็ไม่สามารถทำได้เพราะยุทธศาสตร์ของโครงการนี้จะทำเฉพาะ เส้นทางสายหลัก ส่วนสายรองจะใช้งบประมาณประจำปี

ส่วนการกล่าวหาว่าจะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถกู้เงินได้อีก 50 ปี ในระยะเวลาการชำระเงินกู้นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะจากการคำนวณแล้ว วงเงินกู้ดังกล่าวเป็นเพียงร้อยละ 50 ของจีดีพี แต่กรอบหนี้สาธารณะตามความยั่งยืนทางการคลังอยู่ที่ ร้อยละ 60 ยังมีช่องว่างอยู่อีก ร้อยละ 10 ที่สามารถกู้เงินในภาวะฉุกเฉินได้



และการกู้เงินครั้งนี้ก็ไม่ใช่การกู้เงินในครั้งเดียวแต่จะทยอยกู้ในระยะเวลา 7 ปี และเมื่อเฉลี่ยแล้ว จะกู้เงินปีละ 3 แสนล้านบาท ซึ่งไม่แตกต่างจากรัฐบาลก่อนๆ และยืนยันว่าการคำนวณดังกล่าวเป็นไปตามหลักวิชาการ ภายใต้กรอบในการมองสถานการณ์ที่แย่ที่สุด

และขอยืนยันว่าพ.ร.บ.นี้ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยตีความ ในโครงการไทยเข้มแข็งสมัยรัฐบาลที่แล้วว่า เงินกู้ยังไม่เกี่ยวกับงบประมาณของแผ่นดิน

[email protected]/dailynews


จะเชื่อว่า แผ่นตามคนพรรคนั้น ว่าก็ตามใจครับ

หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: KAKASHII ที่ มีนาคม 26, 2013, 12:49:51
จะซีเรียสอะไรกันนักหนาผมแค่แซวเล่น หุหุ ขำๆ  ;D
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: armuay ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:03:59
การเมืองบนบอร์ดระวังวูบนะฮะ  (โดนแบน) -*-
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: settavut ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:07:29
นี้ไงกำลังไปกู้ 2.2 ล้านล้านมาคืนนี้ไง  ;D   


ถึงไม่ค่อยชอบ นโยบาย รถคันแีรก อย่างมากๆ
แต่เรื่อง 2.2 ล้านนี้ เค้ากู้มาทำอะไร มีรายละเอียดบอกอยู่ครับ
ไม่ใช่กู้มาแล้ว เอาไปใช้ อะไรได้ตามใจ




รายละเอียด พรบ. เนื้อหา 4 แผ่น ที่ไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าใช้อะไรบ้าง มีแต่ยอดที่จะกู้ อะเหรอครับ อุ๊บบ ไม่เอาละ เดี๋ยวกลายเป็นการเมือง off topic ไปไกล

กลับมาเรื่องนโยบายนี้ดีกว่า เพราะเกี่ยวกับรถยนต์

ปล.ผมไม่เห็นด้วยกับโครงการรถคันแรกเลย เพราะมองเห็นแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดีมากๆ

“รองโฆษกฯรบ.”แจงยิบ “เงินกู้ 2 ล้านล้าน”

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวตอบโต้พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ออกมาโจมตี พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทว่า ไม่มีรายละเอียด รวมถึงโครงการกู้เงินนี้จะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถกู้เงินได้อีก 50 ปี ว่า

ข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่เป็นความจริงเนื่องจากโครงการนี้มีรายละเอียดครบถ้วนซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำเป็นเอกสารกว่า 268 หน้า จะมีรายละเอียดโครงการ วัตถุประสงค์ แผนที่ประกอบแนบท้าย และจะเสร็จสิ้นก่อนที่สภาจะพิจารณาวาระ 1

ส่วนที่มีการโจมตีว่ามีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางคมนาคมนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะเส้นทางสายหลัก ได้มีการกำหนดไว้แล้ว อาทิ เส้นทางรถไฟความเร็วสูง
- กทม.-เชียงใหม่
- กทม.-หนองคาย
- และกทม.-หัวหิน- ปาดังเบซา

และความกังวลว่าจะมีการวิ่งเต้นเพื่อทำถนนสายรองในพื้นที่นั้น ก็ไม่สามารถทำได้เพราะยุทธศาสตร์ของโครงการนี้จะทำเฉพาะ เส้นทางสายหลัก ส่วนสายรองจะใช้งบประมาณประจำปี

ส่วนการกล่าวหาว่าจะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถกู้เงินได้อีก 50 ปี ในระยะเวลาการชำระเงินกู้นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะจากการคำนวณแล้ว วงเงินกู้ดังกล่าวเป็นเพียงร้อยละ 50 ของจีดีพี แต่กรอบหนี้สาธารณะตามความยั่งยืนทางการคลังอยู่ที่ ร้อยละ 60 ยังมีช่องว่างอยู่อีก ร้อยละ 10 ที่สามารถกู้เงินในภาวะฉุกเฉินได้



และการกู้เงินครั้งนี้ก็ไม่ใช่การกู้เงินในครั้งเดียวแต่จะทยอยกู้ในระยะเวลา 7 ปี และเมื่อเฉลี่ยแล้ว จะกู้เงินปีละ 3 แสนล้านบาท ซึ่งไม่แตกต่างจากรัฐบาลก่อนๆ และยืนยันว่าการคำนวณดังกล่าวเป็นไปตามหลักวิชาการ ภายใต้กรอบในการมองสถานการณ์ที่แย่ที่สุด

และขอยืนยันว่าพ.ร.บ.นี้ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยตีความ ในโครงการไทยเข้มแข็งสมัยรัฐบาลที่แล้วว่า เงินกู้ยังไม่เกี่ยวกับงบประมาณของแผ่นดิน

[email protected]/dailynews


จะเชื่อว่า แผ่นตามคนพรรคนั้น ว่าก็ตามใจครับ

แต่ถ้าอ่านหนังสือเกิน 8บรรทัด /ปี  หวังว่าคงจะเข้าใจอะไรมากกว่า

เดี๋ยวผมจะรอดู 268 หน้าละกันครับ ว่าจะยัดไส้อะไรมาบ้าง เพราะตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จ มีแต่ลมปาก  พูดถึงนิดเดียว ไม่ต้องไปชักแม่น้ำทั้ง 5 เรื่องอื่นมาก็ได้ ผมยังไม่ได้พูดถึงพรรคไหนเลย แค่พูดถึงรัฐบาล ไม่ใช่พรรคการเมือง

ว่าแต่มาจบเรื่องนี้เถอะ เพราะมัน Off topic ไปไกล เดี๋ยวกระทู้จะโดนอุ้ม

เรื่องรถคันแรก คงพูดได้ เพราะ  discuss กันหลายครั้งแล้ว แล้วมันก็เกี่ยวข้องกับนโยบาย อุตสาหกรรมรถยนต์
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: hellbz ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:08:27
การเมืองบนบอร์ดระวังวูบนะฮะ  (โดนแบน) -*-

ถ้าดีเบตกันตามนโยบายก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

ถ้ามาคลั่งใส่กันก็สมควร
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Night_Angel ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:08:44
จะซีเรียสอะไรกันนักหนาผมแค่แซวเล่น หุหุ ขำๆ  ;D

ซีเรียจครับ

เพราะ การเอาบริบท  สั้นๆ มาโดยไม่ตรวจสอบ  มันทำให้ความต้องการสื่อสาร ผิดไป จากเรื่องจริง  เรียกว่าคนละเรื่องกันเลยครับ  ข่าวก็ไปคนละทาง

และ ไม่ว่าจะหนีเท่าไหร่ เรื่องการเมือง มันก็มายุ่งกับเราอยู่ดี

และคุณไป เอาเรื่องอื่นมาโยงทำไมครับ 2.2 ล้านล้าน ก็ปล่อยไป ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับโครงการรถคันแรกด้วยซ้ำ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Disk™ ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:25:34
จะซีเรียสอะไรกันนักหนาผมแค่แซวเล่น หุหุ ขำๆ  ;D

ผมอ่านก็ว่าขำๆนะ รู้อยู่แล้วไม่เกี่ยว 555+

ส่วนปัญหา่เรื่องหาเงินจ่ายไม่ได้ ก็เพราะ รัฐบาลบริหาร"ไม่ดี" หรือ อาจจะผิดที่นโยบาย จบข่าว
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: pang2299 ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:27:26
นี้ไงกำลังไปกู้ 2.2 ล้านล้านมาคืนนี้ไง  ;D  


ถึงไม่ค่อยชอบ นโยบาย รถคันแีรก อย่างมากๆ
แต่เรื่อง 2.2 ล้านนี้ เค้ากู้มาทำอะไร มีรายละเอียดบอกอยู่ครับ
ไม่ใช่กู้มาแล้ว เอาไปใช้ อะไรได้ตามใจ




รายละเอียด พรบ. เนื้อหา 4 แผ่น ที่ไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าใช้อะไรบ้าง มีแต่ยอดที่จะกู้ อะเหรอครับ อุ๊บบ ไม่เอาละ เดี๋ยวกลายเป็นการเมือง off topic ไปไกล

กลับมาเรื่องนโยบายนี้ดีกว่า เพราะเกี่ยวกับรถยนต์

ปล.ผมไม่เห็นด้วยกับโครงการรถคันแรกเลย เพราะมองเห็นแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดีมากๆ

“รองโฆษกฯรบ.”แจงยิบ “เงินกู้ 2 ล้านล้าน”

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวตอบโต้พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ออกมาโจมตี พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทว่า ไม่มีรายละเอียด รวมถึงโครงการกู้เงินนี้จะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถกู้เงินได้อีก 50 ปี ว่า

ข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่เป็นความจริงเนื่องจากโครงการนี้มีรายละเอียดครบถ้วนซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำเป็นเอกสารกว่า 268 หน้า จะมีรายละเอียดโครงการ วัตถุประสงค์ แผนที่ประกอบแนบท้าย และจะเสร็จสิ้นก่อนที่สภาจะพิจารณาวาระ 1

ส่วนที่มีการโจมตีว่ามีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางคมนาคมนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะเส้นทางสายหลัก ได้มีการกำหนดไว้แล้ว อาทิ เส้นทางรถไฟความเร็วสูง
- กทม.-เชียงใหม่
- กทม.-หนองคาย
- และกทม.-หัวหิน- ปาดังเบซา

และความกังวลว่าจะมีการวิ่งเต้นเพื่อทำถนนสายรองในพื้นที่นั้น ก็ไม่สามารถทำได้เพราะยุทธศาสตร์ของโครงการนี้จะทำเฉพาะ เส้นทางสายหลัก ส่วนสายรองจะใช้งบประมาณประจำปี

ส่วนการกล่าวหาว่าจะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถกู้เงินได้อีก 50 ปี ในระยะเวลาการชำระเงินกู้นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะจากการคำนวณแล้ว วงเงินกู้ดังกล่าวเป็นเพียงร้อยละ 50 ของจีดีพี แต่กรอบหนี้สาธารณะตามความยั่งยืนทางการคลังอยู่ที่ ร้อยละ 60 ยังมีช่องว่างอยู่อีก ร้อยละ 10 ที่สามารถกู้เงินในภาวะฉุกเฉินได้



และการกู้เงินครั้งนี้ก็ไม่ใช่การกู้เงินในครั้งเดียวแต่จะทยอยกู้ในระยะเวลา 7 ปี และเมื่อเฉลี่ยแล้ว จะกู้เงินปีละ 3 แสนล้านบาท ซึ่งไม่แตกต่างจากรัฐบาลก่อนๆ และยืนยันว่าการคำนวณดังกล่าวเป็นไปตามหลักวิชาการ ภายใต้กรอบในการมองสถานการณ์ที่แย่ที่สุด

และขอยืนยันว่าพ.ร.บ.นี้ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยตีความ ในโครงการไทยเข้มแข็งสมัยรัฐบาลที่แล้วว่า เงินกู้ยังไม่เกี่ยวกับงบประมาณของแผ่นดิน

[email protected]/dailynews


จะเชื่อว่า แผ่นตามคนพรรคนั้น ว่าก็ตามใจครับ

แต่ถ้าอ่านหนังสือเกิน 8บรรทัด /ปี  หวังว่าคงจะเข้าใจอะไรมากกว่า

ผมว่าบรรทัดสุดท้ายแรงไปนะครับที่เอามาใช้สำหรับเพื่อนสมาชิกในเวปด้วยกัน
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: tosa ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:27:54
คิดอย่าง พูดอย่าง ทำอย่าง นั่นละหล่ะการเมือง...ทู้นี้โดนอุ้มแหงๆ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: john ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:28:18
สงสัยหมุนเงินไม่ทันเพราะเอาเงินไปทำอย่างอื่นหมดแล้ว  :P
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Andromeda ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:35:48
นี้ไงกำลังไปกู้ 2.2 ล้านล้านมาคืนนี้ไง  ;D   


ถึงไม่ค่อยชอบ นโยบาย รถคันแีรก อย่างมากๆ
แต่เรื่อง 2.2 ล้านนี้ เค้ากู้มาทำอะไร มีรายละเอียดบอกอยู่ครับ
ไม่ใช่กู้มาแล้ว เอาไปใช้ อะไรได้ตามใจ




รายละเอียด พรบ. เนื้อหา 4 แผ่น ที่ไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าใช้อะไรบ้าง มีแต่ยอดที่จะกู้ อะเหรอครับ อุ๊บบ ไม่เอาละ เดี๋ยวกลายเป็นการเมือง off topic ไปไกล

กลับมาเรื่องนโยบายนี้ดีกว่า เพราะเกี่ยวกับรถยนต์

ปล.ผมไม่เห็นด้วยกับโครงการรถคันแรกเลย เพราะมองเห็นแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดีมากๆ

“รองโฆษกฯรบ.”แจงยิบ “เงินกู้ 2 ล้านล้าน”

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวตอบโต้พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ออกมาโจมตี พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทว่า ไม่มีรายละเอียด รวมถึงโครงการกู้เงินนี้จะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถกู้เงินได้อีก 50 ปี ว่า

ข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่เป็นความจริงเนื่องจากโครงการนี้มีรายละเอียดครบถ้วนซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำเป็นเอกสารกว่า 268 หน้า จะมีรายละเอียดโครงการ วัตถุประสงค์ แผนที่ประกอบแนบท้าย และจะเสร็จสิ้นก่อนที่สภาจะพิจารณาวาระ 1

ส่วนที่มีการโจมตีว่ามีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางคมนาคมนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะเส้นทางสายหลัก ได้มีการกำหนดไว้แล้ว อาทิ เส้นทางรถไฟความเร็วสูง
- กทม.-เชียงใหม่
- กทม.-หนองคาย
- และกทม.-หัวหิน- ปาดังเบซา

และความกังวลว่าจะมีการวิ่งเต้นเพื่อทำถนนสายรองในพื้นที่นั้น ก็ไม่สามารถทำได้เพราะยุทธศาสตร์ของโครงการนี้จะทำเฉพาะ เส้นทางสายหลัก ส่วนสายรองจะใช้งบประมาณประจำปี

ส่วนการกล่าวหาว่าจะทำให้ประเทศไทยไม่สามารถกู้เงินได้อีก 50 ปี ในระยะเวลาการชำระเงินกู้นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะจากการคำนวณแล้ว วงเงินกู้ดังกล่าวเป็นเพียงร้อยละ 50 ของจีดีพี แต่กรอบหนี้สาธารณะตามความยั่งยืนทางการคลังอยู่ที่ ร้อยละ 60 ยังมีช่องว่างอยู่อีก ร้อยละ 10 ที่สามารถกู้เงินในภาวะฉุกเฉินได้



และการกู้เงินครั้งนี้ก็ไม่ใช่การกู้เงินในครั้งเดียวแต่จะทยอยกู้ในระยะเวลา 7 ปี และเมื่อเฉลี่ยแล้ว จะกู้เงินปีละ 3 แสนล้านบาท ซึ่งไม่แตกต่างจากรัฐบาลก่อนๆ และยืนยันว่าการคำนวณดังกล่าวเป็นไปตามหลักวิชาการ ภายใต้กรอบในการมองสถานการณ์ที่แย่ที่สุด

และขอยืนยันว่าพ.ร.บ.นี้ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยตีความ ในโครงการไทยเข้มแข็งสมัยรัฐบาลที่แล้วว่า เงินกู้ยังไม่เกี่ยวกับงบประมาณของแผ่นดิน

[email protected]/dailynews


จะเชื่อว่า แผ่นตามคนพรรคนั้น ว่าก็ตามใจครับ

แต่ถ้าอ่านหนังสือเกิน 8บรรทัด /ปี  หวังว่าคงจะเข้าใจอะไรมากกว่า

เดี๋ยวผมจะรอดู 268 หน้าละกันครับ ว่าจะยัดไส้อะไรมาบ้าง เพราะตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จ มีแต่ลมปาก  พูดถึงนิดเดียว ไม่ต้องไปชักแม่น้ำทั้ง 5 เรื่องอื่นมาก็ได้ ผมยังไม่ได้พูดถึงพรรคไหนเลย แค่พูดถึงรัฐบาล ไม่ใช่พรรคการเมือง

ว่าแต่มาจบเรื่องนี้เถอะ เพราะมัน Off topic ไปไกล เดี๋ยวกระทู้จะโดนอุ้ม

เรื่องรถคันแรก คงพูดได้ เพราะ  discuss กันหลายครั้งแล้ว แล้วมันก็เกี่ยวข้องกับนโยบาย อุตสาหกรรมรถยนต์

ผมก็จะรออ่านเช่นกัน 268 หน้า ถ้าทำแล้วเกิดประโยชน์ก็ดีกว่ามีแต่นะโยบายแต่ทำไม่ได้

และไม่ได้ลงมือทำ ขอให้การเมืองจบไปเถอะน่ะครับ พื้นที่สาธารณะย่อมมีความเห็นที่แตกต่าง

จริงๆชื่อกระทู้ผมเข้าใจ แต่พอเข้ามาอ่านคนที่โพสๆ ประเด็นมันก็เริ่มมีเรื่องอื่นปะปนเข้ามา

โยงไปโน้นนี่นั้น หาที่จบไม่เจอครับ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: baddream11 ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:38:01
เรามีเงินเดือนแสนนึง เราทำเงินหาย 10000 นึง กับเราโดนหักเงินเดือนไป10000นึง
ต่างกันไหม? สุดท้ายเราจะเหลือเงิน 90000 รถคันแรกก็เช่นกัน อุตสาหกรรมยานยนต์
อาจดีขึ้นในช่วงนี้ แต่ช่วงต่อไปล่ะ คนมีรถแล้วจะซื้อรถอีกรึ สุดท้ายจากเคยซื้อเสื้อผ้าทุกเดือน
ซื้อผลไม้กินทุกวัน ก็ต้องลดลงเพราะประหยัดไว้จ่ายค่างวด รถดีขึ้นอย่างอื่นก็ได้ผลกระทบ
อ่านหนังสือมากๆ เกิน8บรรทัดก็ดี แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่ได้ใช้ความคิด :-\
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: KAKASHII ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:46:41
เรามีเงินเดือนแสนนึง เราทำเงินหาย 10000 นึง กับเราโดนหักเงินเดือนไป10000นึง
ต่างกันไหม? สุดท้ายเราจะเหลือเงิน 90000 รถคันแรกก็เช่นกัน อุตสาหกรรมยานยนต์
อาจดีขึ้นในช่วงนี้ แต่ช่วงต่อไปล่ะ คนมีรถแล้วจะซื้อรถอีกรึ สุดท้ายจากเคยซื้อเสื้อผ้าทุกเดือน
ซื้อผลไม้กินทุกวัน ก็ต้องลดลงเพราะประหยัดไว้จ่ายค่างวด รถดีขึ้นอย่างอื่นก็ได้ผลกระทบ
อ่านหนังสือมากๆ เกิน8บรรทัดก็ดี แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่ได้ใช้ความคิด :-\

น่าคิดแหะ +1
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: raygun ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:53:43
.
.
.
ไม่ค่อยอยากให้เข้าการเมืองกันเลยเดี๋ยวเดือดกัน

แต่บางทีมันก็อดตลกไม่ได้ที่มีคนเชื่อว่ารัฐบาลสามารถทำเรื่องกู้เงิน
เยอะขนาดนั้นโดยใช้การชี้แจงแค่กระดาษ 4 แผ่น
เอากันแบบไม่อคติก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่และเป็นไปไม่ได้
ผมว่าทุกวันนี้เราควรจะรับข่าวสารจากหลายๆทางจะดีกว่าครับ

ส่วนเรื่องรถคันแรกถ้ามีปัญหาจริงรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบเต็มๆ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: wanarat7777 ที่ มีนาคม 26, 2013, 13:57:36
เรามีเงินเดือนแสนนึง เราทำเงินหาย 10000 นึง กับเราโดนหักเงินเดือนไป10000นึง
ต่างกันไหม? สุดท้ายเราจะเหลือเงิน 90000 รถคันแรกก็เช่นกัน อุตสาหกรรมยานยนต์
อาจดีขึ้นในช่วงนี้ แต่ช่วงต่อไปล่ะ คนมีรถแล้วจะซื้อรถอีกรึ สุดท้ายจากเคยซื้อเสื้อผ้าทุกเดือน
ซื้อผลไม้กินทุกวัน ก็ต้องลดลงเพราะประหยัดไว้จ่ายค่างวด รถดีขึ้นอย่างอื่นก็ได้ผลกระทบ
อ่านหนังสือมากๆ เกิน8บรรทัดก็ดี แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่ได้ใช้ความคิด :-\
เห็นด้วยมากๆครับ ผมว่าปัญหาเกิดแน่ เพราะอย่างน้อย Taxi บ่นกันทุกคันว่าคนไม่ขึ้นรถอยู่ดีดีก็หายไปหมด รถติดเวลาแปลกๆอีก แล้วเวลารถหายก็หายหมด เหมือนคนหยุดจับจ่าย คือเลิกงานก็กลับบ้าน แล้วโครงการคอนโดตอนนี้เห็นเพื่อนๆบอกเริ่มมีปัญหา คนจองต้องเข็นยอดเยอะเหมือนกัน เว้นแต่โครงการถูกๆก็มีคนพอซื้อไว้ปล่อยเช่าพอควร ผมคิดว่าเงินคนเอาไปผ่อนรถกันเยอะเหมือนกันนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: settavut ที่ มีนาคม 26, 2013, 14:04:09
.
.
.
ไม่ค่อยอยากให้เข้าการเมืองกันเลยเดี๋ยวเดือดกัน

แต่บางทีมันก็อดตลกไม่ได้ที่มีคนเชื่อว่ารัฐบาลสามารถทำเรื่องกู้เงิน
เยอะขนาดนั้นโดยใช้การชี้แจงแค่กระดาษ 4 แผ่น
เอากันแบบไม่อคติก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่และเป็นไปไม่ได้
ผมว่าทุกวันนี้เราควรจะรับข่าวสารจากหลายๆทางจะดีกว่าครับ

ส่วนเรื่องรถคันแรกถ้ามีปัญหาจริงรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบเต็มๆ


ผมเชื่อว่าถึงมีปัญหา ก็ลอยตัวไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

ปัจจุบันก็มีแล้วทั้งรถติดหนักมาก ถนนไม่พอวิ่ง รถติดไม่เป็นเวลา เวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นมากๆ (เนื่องจากปริมาณรถเพิ่มขึ้นหลายแสนขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว มาจากนโยบายนี้) หรือปัญหาการผ่อนไม่ไหว (นโยบายเป็นตัวกระตุ้นความอยาก ของผู้ที่ไม่รู้จักประมาณตน เพียงเพื่อคะแนนนิยมตอนหาเสียง)

ผมก็ไม่เห็นรัฐบาลผู้ก่อให้เกิดนโยบายนี้จะรับผิดชอบอะไรเลย

ในนโยบายอื่นๆที่ผิดพลาด (ไม่อยากเจาะลงมาก เดี๋ยวจะ off topic) เช่น จำนำข้าว ขาดทุนไปหลายแสนล้าน ก็ไม่เห็นจะรับผิดชอบอะไรเลย

ผู้ที่รับกรรมมีแต่ประชาชนผู้เสียภาษี โดยเฉพาะ มนุษย์เงินเดือน
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Jump ที่ มีนาคม 26, 2013, 14:05:32
จริงๆ คุยกันด้วย ข้อมูล ก็พอ ครับ
ไม่แขวะกันนะครับ
ลองอ่านเอาเฉพาะตรงข้อมูล ก็มีประโยชน์ ดีครับ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Jump ที่ มีนาคม 26, 2013, 14:07:29
.
.
.
ไม่ค่อยอยากให้เข้าการเมืองกันเลยเดี๋ยวเดือดกัน

แต่บางทีมันก็อดตลกไม่ได้ที่มีคนเชื่อว่ารัฐบาลสามารถทำเรื่องกู้เงิน
เยอะขนาดนั้นโดยใช้การชี้แจงแค่กระดาษ 4 แผ่น
เอากันแบบไม่อคติก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่และเป็นไปไม่ได้
ผมว่าทุกวันนี้เราควรจะรับข่าวสารจากหลายๆทางจะดีกว่าครับ

ส่วนเรื่องรถคันแรกถ้ามีปัญหาจริงรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบเต็มๆ


ผมเชื่อว่าถึงมีปัญหา ก็ลอยตัวไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

ปัจจุบันก็มีแล้วทั้งรถติดหนักมาก ถนนไม่พอวิ่ง รถติดไม่เป็นเวลา เวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นมากๆ (เนื่องจากปริมาณรถเพิ่มขึ้นหลายแสนขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว มาจากนโยบายนี้) หรือปัญหาการผ่อนไม่ไหว (นโยบายเป็นตัวกระตุ้นความอยาก ของผู้ที่ไม่รู้จักประมาณตน เพียงเพื่อคะแนนนิยมตอนหาเสียง)

ผมก็ไม่เห็นรัฐบาลผู้ก่อให้เกิดนโยบายนี้จะรับผิดชอบอะไรเลย

ในนโยบายอื่นๆที่ผิดพลาด (ไม่อยากเจาะลงมาก เดี๋ยวจะ off topic) เช่น จำนำข้าว ขาดทุนไปหลายแสนล้าน ก็ไม่เห็นจะรับผิดชอบอะไรเลย

ผู้ที่รับกรรมมีแต่ประชาชนผู้เสียภาษี โดยเฉพาะ มนุษย์เงินเดือน

นโยบาย ประกัน ราคาข้าว ของ รัฐบาลก่อน ก็ขาดทุนนี่ครับ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: settavut ที่ มีนาคม 26, 2013, 14:18:32
.
.
.
ไม่ค่อยอยากให้เข้าการเมืองกันเลยเดี๋ยวเดือดกัน

แต่บางทีมันก็อดตลกไม่ได้ที่มีคนเชื่อว่ารัฐบาลสามารถทำเรื่องกู้เงิน
เยอะขนาดนั้นโดยใช้การชี้แจงแค่กระดาษ 4 แผ่น
เอากันแบบไม่อคติก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่และเป็นไปไม่ได้
ผมว่าทุกวันนี้เราควรจะรับข่าวสารจากหลายๆทางจะดีกว่าครับ

ส่วนเรื่องรถคันแรกถ้ามีปัญหาจริงรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบเต็มๆ


ผมเชื่อว่าถึงมีปัญหา ก็ลอยตัวไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

ปัจจุบันก็มีแล้วทั้งรถติดหนักมาก ถนนไม่พอวิ่ง รถติดไม่เป็นเวลา เวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นมากๆ (เนื่องจากปริมาณรถเพิ่มขึ้นหลายแสนขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว มาจากนโยบายนี้) หรือปัญหาการผ่อนไม่ไหว (นโยบายเป็นตัวกระตุ้นความอยาก ของผู้ที่ไม่รู้จักประมาณตน เพียงเพื่อคะแนนนิยมตอนหาเสียง)

ผมก็ไม่เห็นรัฐบาลผู้ก่อให้เกิดนโยบายนี้จะรับผิดชอบอะไรเลย

ในนโยบายอื่นๆที่ผิดพลาด (ไม่อยากเจาะลงมาก เดี๋ยวจะ off topic) เช่น จำนำข้าว ขาดทุนไปหลายแสนล้าน ก็ไม่เห็นจะรับผิดชอบอะไรเลย

ผู้ที่รับกรรมมีแต่ประชาชนผู้เสียภาษี โดยเฉพาะ มนุษย์เงินเดือน

นโยบาย ประกัน ราคาข้าว ของ รัฐบาลก่อน ก็ขาดทุนนี่ครับ


ขาดทุนครับ แต่หลักหมื่นล้าน ไม่ใช่แสนล้าน แล้วยังทำต่อไป

แต่เรื่องนี้แค่เป็นการยกตัวอย่างประกอบข้อเท็จจริง ว่าไม่ว่าจะเกิดผลเสียอย่างไร รัฐบาลก็ไม่รับผิดชอบอะไรอยู่แล้ว

กลับมาเรื่อง รถคันแรกกันต่อดีกว่าครับ  :)
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: KAKASHII ที่ มีนาคม 26, 2013, 14:31:24
ข้อมูลของใครมันก็ไม่น่าเชื่อถือทั้งนั้นแหละครับยิ่งเดี๋ยวนี้สื่อเองก็ไม่มีจรรยาบรร เดี๋ยวน้ำลดตอก็ผุดเองและครับว่าอะไรคือความจริง  ;D
 
white lie   ;D
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: rick ที่ มีนาคม 26, 2013, 14:42:33
เงินมันมีแต่หมุนออก ไม่มีหมุนเข้าทั้งรับจำนำข้าว(ซึ่งขายไม่ออก)  รถคันแรก  อุ้มดีเซล จะหาที่ไหนมาคืนกันเอ่ย
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: อีกนิดก็แรง ที่ มีนาคม 26, 2013, 14:48:00
ต้องรอดูว่าถึงเวลานั้น จะเป็นอย่างไหร่ มีเวลาอีก 2-3 อาทิตย์ว่าจะไปหาเงินมาจากไหน
นโยบายนี้ถ้ามองตามหลักทฤษฎี สามารถกระตุ้นเศรฐษกิจได้ ดีกว่านโยบายแจกเงินให้คนไปซื้อของ
แต่ในภาคปฏิบัตินั้นถือว่ายากอยู่ เพราะเงินไม่สามารถอยู่นิ่งๆ ได้ มันต้องเอาไปหมุนให้เกิดประโยชน์ในด้านอื่นๆ
พอถึงคราวต้องเอาเงินที่ยืมไปหมุนมาคืน หมุนไม่ทัน มันก็จะกระทบกับการคืนเงิน อาจจะกระทบต่อผู้ใช้สิทธิ์ด้วย
ส่วนตัวผมเห็นด้วยครึ่งไม่เห็นด้วยครึ่ง จึงไม่ขอไปใช้สิทธิ์หรือให้ใครมาใช้สิทธิ์แทน

ส่วนพี่ที่บ่นรถติดก็เปลี่ยนมาใช้รถสาธาระกันนะครับ ถ้าบ่นอีกว่ารถสาธารณะห่วยไม่อยากใช้
ก็อย่าไปว่าคนที่เขาอยากมีรถคันแรกเลย เพราะเขาเหล่านั้นก็น่าจะรู้สึกเช่นเดียวกับท่าน

ว่ากันนโยบายเป็นเรื่องๆ ดีกว่าครับ อย่าไปโยงเรื่องอื่น เพราะนอกจะไม่เกิดประโยชน์แล้ว
มันจะแสดงอคติออกมาต่อรัฐบาลนั้นๆ ทำให้ความคิดเห็นที่ถ่ายทอดออกมาอาจถูกเมินเฉยได้
เพราะเจออคติซ้อนอคติ ฟังหลายๆ ความเห็นแล้วมาวิเคราะห์ดีกว่าสู้กันจนตายสุดท้าย รัฐบาล
ก็ยังคงเป็นรัฐบาลเดิม นโยบายเดิม ต้องเคารพในประชาธิปไตยนะครับ :D
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: focus man ที่ มีนาคม 26, 2013, 15:16:28
คือจริงๆ มองมุมไหน มันก็ควรจะเจ๊งตั้งแต่เริ่มแล้วละครับ
ดังนั้นพอมีข่าวนี้ ผมก็ไม่แปลกใจอะไร?

รัฐ ไม่ได้แบ่งเงินกันเงินเป็นก้อนๆ ว่าก้อนนี้มาจาก สพม.ของโครงการรถคันแรก ต้องกันเอาไว้คืนให้คนซื้อรถ
ถ้าโลกสวยก็จะคิดว่า ก็เอาเงินจาก สพม. ที่ได้มานั่นแหละไปคืน  แต่ในความเป็นจริงเอามา "ยำ" เละครับ...

ไม่ต้องตื่นเต้นหรือคาดหวังความรับผิดชอบหรอกครับ...มันไม่มีอยู่แล้ว
ถามว่าเมื่อมีปัญหาแล้ว จะเอาเงินที่ไหนมาโปะ?

ผมว่า อาจได้เห็น vat 10% ก็เป็นได้ครับ....อิอิ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: seamonkey ที่ มีนาคม 26, 2013, 15:25:45
ผมไม่รู้แต่ภาษีผมโดนหักไปแล้ว ;)
ในใจผมอยากให้รัฐบาลนี้ได้กู้ตามที่ต้องการนะ เพราะผมเชื่อว่าโอกาสใช้หนี้คืนตํ่ามาจนต้องกู้ IMF อีกรอบ ทีนี้การรถไฟ การไฟฟ้า จะได้โดนแปรรูปซักทีและผมก็พร้อมที่จะส่อยในราคาถูก

หรือถ้ามันแย่มาก คนที่มีศักยภาพสูงก็จะโดนดึงตัวไปประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: dumrongkiat ที่ มีนาคม 26, 2013, 15:34:08
ตัวใหญ่ๆ แดงๆ ไม่มา เพราะช่วงนี้ยุ่งๆ อยู่ 555+
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: keamglad ที่ มีนาคม 26, 2013, 15:42:39
เรามีเงินเดือนแสนนึง เราทำเงินหาย 10000 นึง กับเราโดนหักเงินเดือนไป10000นึง
ต่างกันไหม? สุดท้ายเราจะเหลือเงิน 90000 รถคันแรกก็เช่นกัน อุตสาหกรรมยานยนต์
อาจดีขึ้นในช่วงนี้ แต่ช่วงต่อไปล่ะ คนมีรถแล้วจะซื้อรถอีกรึ สุดท้ายจากเคยซื้อเสื้อผ้าทุกเดือน
ซื้อผลไม้กินทุกวัน ก็ต้องลดลงเพราะประหยัดไว้จ่ายค่างวด รถดีขึ้นอย่างอื่นก็ได้ผลกระทบ
อ่านหนังสือมากๆ เกิน8บรรทัดก็ดี แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่ได้ใช้ความคิด :-\

เห็นด้วย
นโยบายอะไร ถ้ามันมาจากคนที่ชอบ พรรครที่รักมันก็หอมหวานหมดแหละ อย่าไปถามถึงเหตผล
เพราะผมยังหาเหตผลที่ดีที่ควรทำนโยบาย รถคันแรก  ลดราคาน้ำมันทันทีโดยดึงเงินจากกองทุนมาผลาญ พอกองทุนหมดก็เด้งราคาน้ำมันกลับมาเท่าเดิม


ไม่เจอเลย จิงๆ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: JONNY ที่ มีนาคม 26, 2013, 15:45:29
คือจริงๆ มองมุมไหน มันก็ควรจะเจ๊งตั้งแต่เริ่มแล้วละครับ
ดังนั้นพอมีข่าวนี้ ผมก็ไม่แปลกใจอะไร?

รัฐ ไม่ได้แบ่งเงินกันเงินเป็นก้อนๆ ว่าก้อนนี้มาจาก สพม.ของโครงการรถคันแรก ต้องกันเอาไว้คืนให้คนซื้อรถ
ถ้าโลกสวยก็จะคิดว่า ก็เอาเงินจาก สพม. ที่ได้มานั่นแหละไปคืน  แต่ในความเป็นจริงเอามา "ยำ" เละครับ...

ไม่ต้องตื่นเต้นหรือคาดหวังความรับผิดชอบหรอกครับ...มันไม่มีอยู่แล้ว
ถามว่าเมื่อมีปัญหาแล้ว จะเอาเงินที่ไหนมาโปะ?

ผมว่า อาจได้เห็น vat 10% ก็เป็นได้ครับ....อิอิ

ถ้า Vat 10% จริง ผมว่า ต้องมีสูญเสียการครั้งใหญ่อีกครั้งแน่ๆ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: DF-SLB ที่ มีนาคม 26, 2013, 16:01:17
เรื่องมันยังไม่จบหรอกครับ ปีนี้ ปีหน้า เรื่องมันจะชัดขึ้น ว่ารถจะถูกยึดกี่คัน

ปล.  คำพูดที่ว่า ที่อ่านหนังสือปีนึง ไม่ถึง 8 บรรทัด  ผมว่าแรงและดูหมิ่นกันเกินไป.    
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Mario_Yadel ที่ มีนาคม 26, 2013, 16:36:36

แต่ถ้าอ่านหนังสือเกิน 8บรรทัด /ปี  หวังว่าคงจะเข้าใจอะไรมากกว่า
[/quote]

ไม่เห็นด้วยกับข้อความนี้ครับ แรงไป
ไม่มีใครรอบรู้ทุกเรื่องหรอกครับ
ดีเบตเฉพาะข้อมูลก้อพอครับ ไม่อยากให้เอาอารมณ์มาร่วมด้วย
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ มีนาคม 26, 2013, 16:49:24
มัวไปเดินมอเตอร์โชว์อยู่ 5 5 5 เดี๋ยวกลับมาจัดหนักแน่ๆ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ มีนาคม 26, 2013, 16:54:15
ผมว่า อาจได้เห็น vat 10% ก็เป็นได้ครับ....อิอิ

Vat 10% อืม ผมว่าแค่เก็บภาษีให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่อยจากการตกหล่น พวกเลี่ยงภาษีและหนีภาษีดีกว่าครับ แล้วช่วยขยายฐานภาษีให้ด้วยโดนหักทุกเดือนเลยหนีไม่ได้หรือเพิ่มเรื่องลดหย่อนเยอะๆหน่อยลูกได้แค่ 15,000 จะไปพออะไร๊ เข้าใจดีว่าประชาชนทุกคนมีหน้าที่เสียภาษีเพื่อเอาไปพัฒนาประเทศแต่ดูเหมือนมนุษย์เงินเดือนจะเสียภาษีเยอะมากเมื่อเทียบเป็น % ของรายได้ หลบเลี่ยงอะไรก็ไม่ได้ ได้ยินแต่คนรวยเค้าเลี่ยงภาษีกัน เจ้านายเก่าของแฟนผมเอารายได้อะไรไม่รู้มาใส่ชื่อแฟนผมเพื่อเสียภาษีน้อยๆแต่ไม่ให้ค่าตอบแทนอะไรเลยงกจริงๆ และทำให้ผมเสียผลประโยชน์ไปด้วยแทนที่จะเอาชื่อแฟนมาลดหย่อนเพราะไม่ได้ทำงาน ต่อว่าแฟนซะเยอะเลย
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: balliblue ที่ มีนาคม 26, 2013, 17:32:23
ไม่เห็นด้วยกับเรื่องรถคันแรก แต่แรกละ ข้อเสียมีมากกว่าข้อดี และเห็นด้วยว่า เงินคลังไม่ได้แยกว่ามาจากก้อนไหนจะไปคิดว่าเพราะรัฐแค่ไม่เก็บภาษีสรรพสามิต มันไม่ได้หรอก ส่วนเรื่อง หนังสือ 8 บรรทัด น่าเกลียดไปนะครับ อย่าดูถูกสมาชิกด้วยกัน มาคุยกันด้วยเหตุผล แบบไม่มีอคติ มันก็ไม่ทะเลาะกันหรอก ทุกวันนี้ที่ทะเลาะกัน เพราะเอาความชอบส่วนตัวมาบดบังความชั่งของฝ่ายตัวเอง แล้วด่าอีกฝ่ายว่าเลวมากกว่า
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Tyde ที่ มีนาคม 26, 2013, 17:36:00
ผมว่า อาจได้เห็น vat 10% ก็เป็นได้ครับ....อิอิ

Vat 10% อืม ผมว่าแค่เก็บภาษีให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่อยจากการตกหล่น พวกเลี่ยงภาษีและหนีภาษีดีกว่าครับ แล้วช่วยขยายฐานภาษีให้ด้วยโดนหักทุกเดือนเลยหนีไม่ได้หรือเพิ่มเรื่องลดหย่อนเยอะๆหน่อยลูกได้แค่ 15,000 จะไปพออะไร๊ เข้าใจดีว่าประชาชนทุกคนมีหน้าที่เสียภาษีเพื่อเอาไปพัฒนาประเทศแต่ดูเหมือนมนุษย์เงินเดือนจะเสียภาษีเยอะมากเมื่อเทียบเป็น % ของรายได้ หลบเลี่ยงอะไรก็ไม่ได้ ได้ยินแต่คนรวยเค้าเลี่ยงภาษีกัน เจ้านายเก่าของแฟนผมเอารายได้อะไรไม่รู้มาใส่ชื่อแฟนผมเพื่อเสียภาษีน้อยๆแต่ไม่ให้ค่าตอบแทนอะไรเลยงกจริงๆ และทำให้ผมเสียผลประโยชน์ไปด้วยแทนที่จะเอาชื่อแฟนมาลดหย่อนเพราะไม่ได้ทำงาน ต่อว่าแฟนซะเยอะเลย

เรื่องนี้ยืนยันเลย  คนรวยหลายคนเสียภาษีไม่ครบครับ    บางบริษัทข้ามชาติดูมั่นคง  ดูแล้วไม่น่าเลี่ยงภาษี  แต่ก็ยังเลี่ยง
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: focus man ที่ มีนาคม 26, 2013, 17:37:26
ผมว่า อาจได้เห็น vat 10% ก็เป็นได้ครับ....อิอิ

Vat 10% อืม ผมว่าแค่เก็บภาษีให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่อยจากการตกหล่น พวกเลี่ยงภาษีและหนีภาษีดีกว่าครับ แล้วช่วยขยายฐานภาษีให้ด้วยโดนหักทุกเดือนเลยหนีไม่ได้หรือเพิ่มเรื่องลดหย่อนเยอะๆหน่อยลูกได้แค่ 15,000 จะไปพออะไร๊ เข้าใจดีว่าประชาชนทุกคนมีหน้าที่เสียภาษีเพื่อเอาไปพัฒนาประเทศแต่ดูเหมือนมนุษย์เงินเดือนจะเสียภาษีเยอะมากเมื่อเทียบเป็น % ของรายได้ หลบเลี่ยงอะไรก็ไม่ได้ ได้ยินแต่คนรวยเค้าเลี่ยงภาษีกัน เจ้านายเก่าของแฟนผมเอารายได้อะไรไม่รู้มาใส่ชื่อแฟนผมเพื่อเสียภาษีน้อยๆแต่ไม่ให้ค่าตอบแทนอะไรเลยงกจริงๆ และทำให้ผมเสียผลประโยชน์ไปด้วยแทนที่จะเอาชื่อแฟนมาลดหย่อนเพราะไม่ได้ทำงาน ต่อว่าแฟนซะเยอะเลย

เหตุที่ต้อง VAT เพราะ ได้ทันที ได้ทุกวัน

มัวไล่เก็บภาษี เก็บได้ไม่ทันดอกเบี้ยที่เบ่งบานซิครับ หนำซ้ำ เพิ่งไปลดภาษีให้กับกิจการใหญ่ๆมาหยกๆ จะไปโขกอะไรมาได้อีกละ ถ้าไม่ใช่ VAT

ปล. ถ้าจะไล่เก็บภาษีกันจริงๆ...ผมว่า เริ่มจากให้คนในครอบครัวทุกคน เสียภาษีกันจริงๆจังๆ ก่อนดีกว่า
(ผมหมายถึง ครอบครัวเราๆท่านๆนะครับ...ไม่ได้หมายถึงครอบครัวคนอื่น....อุอุ)
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Night_Angel ที่ มีนาคม 26, 2013, 17:49:08

แต่ถ้าอ่านหนังสือเกิน 8บรรทัด /ปี  หวังว่าคงจะเข้าใจอะไรมากกว่า

ไม่เห็นด้วยกับข้อความนี้ครับ แรงไป
ไม่มีใครรอบรู้ทุกเรื่องหรอกครับ
ดีเบตเฉพาะข้อมูลก้อพอครับ ไม่อยากให้เอาอารมณ์มาร่วมด้วย
[/quote]

ผมขอลบข้อความนี้นะครับ  อ่านดู มันก็แรงจริงๆ  น้อมรับความผิดพลาดครับ

และชี้แจงแถลงไขว่า

ไม่ควรพาดพิง หรือนำข้อมูล ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องในกระทู้ มาโพสเพื่อเบี่ยงประเด็น  ไม่ว่าคุณจะชอบ หรือเชียฝั่งไหนก็ตาม 

ดังเช่นความเห็นก่อนหน้า ที่บอกว่า เงินไม่พอ คงเอาเงินกู 2.2 ล้านๆ มาโปะ  แล้วยังเจอ ขำๆต่อว่า เอกสาร 4หน้า  ทั้งๆที่ ข่าวสารก็ออกจะมากมาย แต่ไม่เลือกใช้ข้อมูลแบบนั้น 

มันก็ไม่ถูกเหมือนกัน

หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: rut191 ที่ มีนาคม 26, 2013, 18:15:52
ผมว่าที่รัฐทำนโบายรถคันแรกออกมารัฐไม่น่าจะเสียประโยชน์นะคับเพราะถึงจะคืนเงินภาษีให้กับประชาชน100000บาทแต่แค่เจอvat7%เข้าไปของจำนวนรถที่ขายได้มากขึ้นผมว่ารัฐน่าจะเก็บภาษีได้เพิ่มนะคับ คล้ายๆกับลดราคาเพื่อเพิ่มยอดขาย กำไรก็เพิ่มขึ้นตามยอดขายน่ะคับ ทำนองนี้นะผมว่า
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: KAKASHII ที่ มีนาคม 26, 2013, 18:22:57

แต่ถ้าอ่านหนังสือเกิน 8บรรทัด /ปี  หวังว่าคงจะเข้าใจอะไรมากกว่า

ไม่เห็นด้วยกับข้อความนี้ครับ แรงไป
ไม่มีใครรอบรู้ทุกเรื่องหรอกครับ
ดีเบตเฉพาะข้อมูลก้อพอครับ ไม่อยากให้เอาอารมณ์มาร่วมด้วย

ผมขอลบข้อความนี้นะครับ  อ่านดู มันก็แรงจริงๆ  น้อมรับความผิดพลาดครับ

และชี้แจงแถลงไขว่า

ไม่ควรพาดพิง หรือนำข้อมูล ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องในกระทู้ มาโพสเพื่อเบี่ยงประเด็น  ไม่ว่าคุณจะชอบ หรือเชียฝั่งไหนก็ตาม  

ดังเช่นความเห็นก่อนหน้า ที่บอกว่า เงินไม่พอ คงเอาเงินกู 2.2 ล้านๆ มาโปะ  แล้วยังเจอ ขำๆต่อว่า เอกสาร 4หน้า  ทั้งๆที่ ข่าวสารก็ออกจะมากมาย แต่ไม่เลือกใช้ข้อมูลแบบนั้น  

มันก็ไม่ถูกเหมือนกัน


[/quote]

เหอๆ ไม่เห็นมีใครซีเรียสเลยยกเว้นคุณแล้วพาลไปว่าคนอื่น  ผมก็แค่ตอบเจ้าของกระทู้ว่าเงิน 2.2ล้านล้านไงที่จะเอามาคืนประชาชนซึ่งมันจริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้ แล้วคุณคิดว่าข้อมูลที่มาจากข่าวเอามาโพสคุณคิดว่ามันคือความจริงหรือครับ เสพข่าวแต่พอเหมาะ ไม่ใช่คิดว่าคนเอาไรมาพูดคือความจริงหมด พอตัวเองเชื่อข้อมูลนั้นก็คิดว่าเป็นความจริง  แล้วเอามาด่าคนอื่นว่าอ่านหนังสือไม่ถึง 8 บรรทัด / ปี  ขำๆดี  ;D
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Nismo De Alpina ที่ มีนาคม 26, 2013, 18:35:14
กระทู้นี้ท่าทางจะไม่รอดนะเนี่ย  :D
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: settavut ที่ มีนาคม 26, 2013, 18:37:05

แต่ถ้าอ่านหนังสือเกิน 8บรรทัด /ปี  หวังว่าคงจะเข้าใจอะไรมากกว่า

ไม่เห็นด้วยกับข้อความนี้ครับ แรงไป
ไม่มีใครรอบรู้ทุกเรื่องหรอกครับ
ดีเบตเฉพาะข้อมูลก้อพอครับ ไม่อยากให้เอาอารมณ์มาร่วมด้วย

ผมขอลบข้อความนี้นะครับ  อ่านดู มันก็แรงจริงๆ  น้อมรับความผิดพลาดครับ

และชี้แจงแถลงไขว่า

ไม่ควรพาดพิง หรือนำข้อมูล ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องในกระทู้ มาโพสเพื่อเบี่ยงประเด็น  ไม่ว่าคุณจะชอบ หรือเชียฝั่งไหนก็ตาม 

ดังเช่นความเห็นก่อนหน้า ที่บอกว่า เงินไม่พอ คงเอาเงินกู 2.2 ล้านๆ มาโปะ  แล้วยังเจอ ขำๆต่อว่า เอกสาร 4หน้า  ทั้งๆที่ ข่าวสารก็ออกจะมากมาย แต่ไม่เลือกใช้ข้อมูลแบบนั้น 

มันก็ไม่ถูกเหมือนกัน



สำหรับเคส เอกสาร 263 แผ่น ปัจจุบันก็ยังไม่มีเอกสารนี้ออกมา เป็นแค่โฆษก รบ เขามาแถลงตอบโต้ (เมื่อวานที่ผ่านมาเอง) เรื่องเอกสาร 4 แผ่น (อันนี้ข้อมูลออกมาหลายวันแล้ว)  

คุณคิดว่า คนทุกคนจะสามารถเสพข้อมูลพร้อมกันได้ทุกอย่างเหรอครับ อันนึงข้อมูลออกมาหลายวันแล้ว (4แผ่น)  อันนึงเพิ่งแถลงเมื่อวาน (263แผ่น)

คุณพิมพ์อย่างกับทั้งสองข้อมูลออกมาพร้อมๆกัน ออกมาหลายวันแล้ว  

แล้วทั้งสองข้อมูลก็ยังไม่มีเอกสารออกมาในที่สาธารณะเลย  ยังไม่เสร็จเลย

สำหรับประโยคที่คุณ Night_Angel  พิมพ์ด่าผมว่า แต่ถ้าอ่านหนังสือเกิน 8บรรทัด /ปี  หวังว่าคงจะเข้าใจอะไรมากกว่า

คุณไปเห็นเอกสารนี้แล้วเหรอครับ   ข่าวที่คุณอ่านมันก็เป็นแค่ลมปาก เหมือนกับข้อมูลอีกฝ่ายหนึ่ง มันอาจจะเป็นการแก้เกมส์แก้ข่าวก็ได้ แล้วพอโดนตำหนิแล้วมาขยายร่างเนื้อหา  คุณจะไปจริงจังอะไรมากมายกับส่วนนี้ครับ พิมพ์ยังกับเห็นข้อมูล 263 หน้ามาแล้วกับตัวเอง

ตอนแรกผมก็พยายามไม่สนใจข้อความนี้ของคุณแล้วอ่านผ่านๆ เป็นสิบรอบแล้ว   พยายามนำทุกท่านกลับเข้าสู่ topic เดิมต่อ

พอมีคนมาตำหนิเรื่องข้อความนี้แรงไป คุณก็มาโพส แก้ต่างให้กับตัวเอง
อ้างถึง
ผมขอลบข้อความนี้นะครับ  อ่านดู มันก็แรงจริงๆ  น้อมรับความผิดพลาดครับ

ผมเห็นก็มองข้ามๆไป ถือว่าจบ ไม่อยากสร้างดราม่า


แต่ที่ไหนได้ พออีกสักพัก คุณก็ edit ข้อความเดิม เพิ่มข้อมูลแก้ต่างกับตัวเองอีก

อ้างถึง
และชี้แจงแถลงไขว่า

ไม่ควรพาดพิง หรือนำข้อมูล ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องในกระทู้ มาโพสเพื่อเบี่ยงประเด็น  ไม่ว่าคุณจะชอบ หรือเชียฝั่งไหนก็ตาม  

ดังเช่นความเห็นก่อนหน้า ที่บอกว่า เงินไม่พอ คงเอาเงินกู 2.2 ล้านๆ มาโปะ  แล้วยังเจอ ขำๆต่อว่า เอกสาร 4หน้า  ทั้งๆที่ ข่าวสารก็ออกจะมากมาย แต่ไม่เลือกใช้ข้อมูลแบบนั้น  

มันก็ไม่ถูกเหมือนกัน

ผมเห็นมีแต่คุณที่ซีเรียส และเชียร์อีกฝั่งเกินไปนะครับ จะพยายามจุดดราม่าอะไรนักหนา

ผมเองพยายามใจเย็น อ่านข้ามข้อความที่คุณด่าผมไปแล้วเป็นสิบรอบ แล้วคุณก็มาแก้ไขข้อความนั้นออก แล้วพิมพ์ว่าน้อมรับผิด
สักพัก ก็มาพิมพ์เพิ่มเติม แก้ต่างให้กับตัวเอง แล้วแถมเหน็บแนมคนอื่นไปอีก

เมื่อไรคุณจะจบครับ จบได้รึยัง
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ มีนาคม 26, 2013, 18:38:37
พอกันเถอะครับยาวกันเยอะล่ะแล้วไม่อยากให้คาดหวังต้องรอให้คุณจิมมี่หรือแอดมินท่านอื่นต้องมาคอยไล่เกลี่ยทุกครั้งไปแค่นี้งานของทีมงานก็เยอะแล้วอยากให้ดูแลกันเองมากกว่า


ตอบเอาตามหัวข้ออีกทีนะครับ คิดว่าเรื่องเงินที่จ่ายก็มีนั่นแหละเพราะเป็นเงินภาษีสรรพสามิตรที่จ่ายไปก่อนหน้านี้แล้วรัฐเค้าไม่ยอมเสียรังวัดกับเรื่องนี้หรอกครับเพราะเป็นนโยบายธงเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องวุ่นนี่วุ่นจริงครับเพราะคนใช้สิทธิเยอะมากเอกสารกองเป็นภูเขาแน่นอน ไหนจะเรื่องเงิน เอกสาร การคัดกรองผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ คนที่คืนเงิน คนที่โดนยึดรถ รถเกิดอุบัติเหตุ รถหาย เงินครบ เงินขาด เงินเกิน โอ้ย... บานตะเกียง ดังนั้นวุ่นแน่นอนครับ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: be_worldnext ที่ มีนาคม 26, 2013, 18:54:40
คือ ถ้ามีคนเริ่มด่าอีกฝั่งนึงก่อน ก็จะมีอีกฝั่งมาด่าคืน ตอบโต้ไม่จบละครับ :(
ล็อคหรือลบกระทู้นี้เถอะครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Night_Angel ที่ มีนาคม 26, 2013, 19:09:48
ถ้าคิดว่าผมว่า

แล้วยังคงไม่จบ

ให้ท่านเจ้าของเว็บตัดสินเอาแล้วกันครับ

เพราะผมก็ยังคงยืนยันว่า  

มันหลงประเด็นตั้งแต่ความเห็นแรกๆแล้ว  

ถ้าตามไปต้นทาง ข่าวมันอยู่หน้าแรกทั้งคุ่ กวาดสายตาก็ต้องเจอ
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: keamglad ที่ มีนาคม 26, 2013, 19:24:03
จบดีกว่า ไม่อยากดราม่า
หัวข้อ: Re: คลังวุ่นหาเงินมาจ่ายคืนผู้ได้สิทธิ์รถคันแรก
เริ่มหัวข้อโดย: settavut ที่ มีนาคม 26, 2013, 19:54:57
ถ้าคิดว่าผมว่า

แล้วยังคงไม่จบ

ให้ท่านเจ้าของเว็บตัดสินเอาแล้วกันครับ

เพราะผมก็ยังคงยืนยันว่า  

มันหลงประเด็นตั้งแต่ความเห็นแรกๆแล้ว  

ถ้าตามไปต้นทาง ข่าวมันอยู่หน้าแรกทั้งคุ่ กวาดสายตาก็ต้องเจอ

ผมตามข่าวมาจาก facebook ไม่จำเป็นต้องเขาไปบนเว็บหลักก็ได้ครับ

สำหรับผม จบไปนานแล้ว ตั้งแต่คุณด่าผม สังเกตดูผมก็ตอบความคิดเห็นคนอื่น หลังจากคุณโพส ผมก็แค่ไม่สนใจ ปล่อยวางไป

แต่ที่ต้องพิมพ์ข้างบน เพราะ คุณมาแก้ไขข้อความนั้น แล้วพิมพ์ "น้อมรับความผิดพลาดครับ "  ตอนแรกที่เห็นผมก็ happy แล้ว คิดว่าแนวทางที่ผมเมินไป ไม่ต้องสนใจ มันมาถูกทางแล้ว  

แต่สุดท้าย ไม่วายคุณก็ต้องมาแขวะอีก ทั้งๆที่ ทั้งสองข้อมูลทั้งคุณและผมมันก็เป็นแค่ลมปาก น้ำหนักพอๆกัน ไม่ได้ไปเห็นเอกสาร 263 หน้า เพราะในข่าวก็บอกเองยังไม่เสร็จ รายละเอียดตามข้างบนที่ผมโพสไปแล้ว   แล้วยังจะไปว่าคนอื่นอีก  ทำให้ผมต้องโพสข้างบนอีกครั้ง

หลังจากข้อความนี้ไป สำหรับตัวผมเอง ถือว่าจบเรื่องนี้ 4 / 263 หน้าละกัน เพราะแค่นี้ก็ off topic กันไปไกลแล้ว

กลับเข้าสู่ topic เดิมกันดีกว่าครับ  ;)