Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Monn ที่ มีนาคม 28, 2013, 17:33:13
-
ตอนนี้เลือกระหว่าง X1 กับ X3 อยู่ครับ แต่เลือกอยู่ระหว่าง balloon หรือไม่ดีกว่ากัน
ตอนนี้ลังเลอยู่ ขอเสียงหน่อยนะครับ จริงๆ ก็รู้ว่า ดอกเบี้ย จ่ายยิ่งน้อยยิ่งดี แต่การดึงเวลาจ่ายออกไป อาจจะคล่องตัวกว่า
ประเด็นคือผมคิดว่า ยังไง finance ก็ผ่านอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยากดึงตัวเองให้ตึงมากนัก
1. X1 ผ่อน 42xxx บาท 60 เดือน
2. X3 ผ่อน 40xxx บาท 60 เดือน + balloon 1.1 ล้าน
เพราะหากไม่ balloon ต้องผ่อน 53xxx บาท 60 เดือน ผมว่ามันเยอะไป
ตัวเลือกอีกอัน แต่น่าจะไม่เอา ดูไว้เปรียบเทียบคือ
3. X1 ผ่อน 33xxx บาท 60 เดือน + balloon 839xxx บาท
ระหว่าง 1 กับ 3 เมื่อผ่อนเสร็จ + จ่าย balloon เลย ไม่ผ่อนต่อ ราคารถ ต่างกัน 320,000 บาท ซึ่งเท่ากับคือดอกเบี้ยของก้อน balloon สำหรับ 5 ปี
ดังนั้น ข้อ 3 เลย ตัดทิ้ง เพราะหากเอา x1 ผ่อนธรรมดาเลยดีกว่า
เพียงแต่ ใจนึงก็อยากได้ X3 แต่มันก็นะ แพงเหลือหลาย หุหุ
เขียนมาซะยาว ขอความเห็นเพื่อนๆ หน่อยละกันครับ
ปล. ออกรถต้นปีหน้าครับ ถ้า X3 ได้ LCI แล้ว
-
แบบบอลลูนดอกแพงไปครับ เป็นผมเอาแบบผ่อนธรรมดาครับอ่อลืมบอกไปครับถ้าซื้อแบบบุคคลธรรมดา แบบเช่าซื่อปกติคุ้มกว่าเยอะครับ
-
บอลลูนดีสำหรับคนที่เอาเงินไปลงทุน ครับ เช่น ลงทุนในตลาดหุ้นเป็นต้น
แต่ถ้าไม่มีความคิดเรื่องลงทุน ทำยังไงก็ได้ให้จ่ายโดยผลรวมน้อยที่สุดครับ
-
2. X3 ผ่อน 40xxx บาท 60 เดือน + balloon 1.1 ล้าน
เพราะหากไม่ balloon ต้องผ่อน 53xxx บาท 60 เดือน ผมว่ามันเยอะไป
ถ้าแบบนั้นก็จัด Balloon ครับ เอาแบบที่ไม่รัดตัวเราเกินไปดีกว่าครับ
เพราะถ้าอนาคตแน่ใจว่ามีเงิน 1.1 M ก็จัดไปเลยครับ จะได้ไม่บีบตัวมาก
X3 LCI ซะด้วย ;D ;D ;D
-
คหสต คิดว่าการผ่อนแบบบอลลูนมันเหมือนการหลอกตัวเอง เหมือนว่าจะผ่อนน้อยแต่งวดสุดท้ายก้อนใหญ่ เหมือนตายเอาดาบหน้าไงไม่รู้ ประมาณว่างวดสุดท้ายไม่มีจ่ายก็ขายขาดทุนทิ้งไป ผมว่าแบบบอลลูนที่ดีคือเอาก้อนใหญ่ไว้ข้างหน้า แล้วสุดท้ายน้อยๆดีกว่า สบายตัว ไม่เกินตัว ก็คือดาวน์เยอะๆนั่นแหล่ะ ไม่มีไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องเอา เพราะผมมองว่ารถยนต์แพงๆคือสินค้าฟุ่มเฟือยครับ คหสต นะครับ
-
ผมจะไม่พิจารณาว่า Balloon เป็นทางเลือกเลย
ถ้ายอดผ่อนแบบธรรมดาต่อเดือนเห็นแล้วไม่ไหว ก็คือไม่ไหว ผมจะตัดใจจากรถคันนั้น เพราะแสดงว่ามันเกินกำลังของเรา
ถ้าวันนี้ยังคิดว่ายอดผ่อนต่อเดือนไม่ไหว เราจะมั่นใจได้ไงว่าอีก 5 ปีเราจะมีเงินเหลือสดๆ เป็นล้านมาจ่ายงวดสุดท้าย
เรื่องเงินผมไม่เสี่ยง
-
ผมว่าดอกเบี้ยแบบบอลลูนแพงเหลือหลาย หากไม่จำเป็นจริงๆก็น่าตัดใจเอาตัวที่ถูกกว่า หรือหากไม่ชอบก็รอเก็บเงินซะหน่อยดีกว่า คหสต ครับ ตามหลักบอลลูนที่เซลส์บอกคือผ่อน 60 เดือนไกล้หมดทั้งค่างวดและ BSI ก็ขายทิ้งเปลี่ยนคันใหม่ เงินที่ขายรถได้มันมักจะสูงกว่าบอลลูนก็เอามาโป๊ะ และที่เหลือก็ดาว์นคันใหม่
-
บอลลูนนี่ไม่คุ้มเลยนะครับนอกจากดอกแพงแล้วบางทีเราเห็นว่างวดน้อยๆทำให้เพิ่มรุ่นแพงขึ้นโดยไม่จำเป็น ไม่ไหวคือไม่ไหวดีกว่ามาหลอกตัวเองอนาคตจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ผ่อนช่วงแรกหมดการเงินช่วงนั้นไม่ค่อยดีก็ต้องผ่อนส่วนที่เหลือต่ออีกดอกบานสะพรั่ง
-
ถ้าซื้อนามบุคคล บอลลูนไม่คุ้มครับ ดอกโครตแพง ถ้านามนิติ ผมว่าคุ้ม ผมก็ซื้อนามนิติ ผ่อนเดือนละ 36000 เหลือที่ต้องดาว์น ล้านนิดๆ
จ่ายครึ่ง เหลือบอลลูนครึ่ง เอามาลงทุนได้มากกว่าดอกที่ต้องจ่าย ดอกแพง แต่ก็เอามาหักค่าใช้จ่ายได้อีกทางครับ
ส่วนใหญ่คนที่ผมรู้จักถ้าทำธุรกิจ ซื้อแบบนี้ทั้งนั้นเลย แต่ถ้ารวยที่ รวยทอง ผมเห็นถือเงินสดๆ ที่ละสามสี่ล้าน ไปศูนย์เลย
แบบว่า บัตรเครคิตไม่มี เช็คไม่ใช้ รวยจริงๆ
-
การผ่อนแบบบอลลูน
ตัวอย่าง
สมมติว่าดาวน์ที่ 9x,xxx บาท และต้องการผ่อน 72 งวด
กรณีผ่อนบอลลูนจะตกเดือนล่ะประมาณ 5,xxx บาท/เดือน (รวม Vat 7%) ในช่วง 1 - 48 เดือนแรก หลังจากนั้นเค้าจะให้เราเลือกว่าจะปิด หรือ ไม่ปิดยอด
- ถ้าปิด ก็จะคงดอกเบี้ยเดิม อาจมีส่วนลดบ้าง
- ถ้าไม่ปิด ก็ผ่อนต่อไป แต่ยอดจะเพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนว่าแพงกว่าเดิมหลายบาทอยู่ อาจเป็น 8,xxx ต่อเดือน (รวม Vat 7%) ตั้งแต่เดือน 49 จนถึงงวดสุดท้าย ซึ่งแน่นอนว่าแพงกว่าเดิมมาก
-----------------
ตอนแรกผมก็สนใจครับ แต่พอคำนวณแล้ว อัตราดอกเบี้ยเรี่มแรกก็ 7% แล้ว พอๆกับดอกเบี้ยรถมือสองด้วยซ้ำ
ผมเลยผ่อนแบบธรรมดาดอกเบี้ยคงที่ดีกว่า
-
ไม่ลองซื้อรถแบบ fleet ดูละครับ
-
ขึ้นแชร์ในเครือญาติครับ
เหมือนจะล้อเล่น ฮ่าๆๆ แต่ดอกถูกมากนะครับ
-
บอลลูนก็สะดวกกับนิติบุคคล(ที่มีกำไร) เมื่อรถหมดค่าเสื่อมแล้ว ขายทิ้งไม่จำเป็นต้องจ่ายงวดสุดท้าย
หักผ่อนหักค่าใช้จ่าย ลดภาษีไปแล้ว ถ้านิติมีกำไรก็ไม่ต่างจากใช้รถฟรี
แต่นิติที่มีกำไรเยอะจริงๆก็ผ่อนเต็มๆได้ครับ หักค่าใช้จ่ายได้อยู่ดี ใช้ฟรีเหมือนกัน
สรุปแล้ว บอลลูนเหมาะกับคนที่ไม่มีกำลังผ่อน แต่อยากครับ
หรือ เปลี่ยนรถบ่อย ปี สองปี ขายทิ้ง ขายเอง ราคาตกไม่มาก
แต่คนทำงานรับเงินเดือน ไม่เหมาะกับบอลลูนด้วยประการทั้งปวง นอกจากอยากจ่ายแพงกว่าปกติเล่นๆ
-
เอ ผมสงสัย อย่างนึงครับ แล้วอัตราดอกเบี้ย สมมุติเราไม่ปิดยอดแล้วเราผ่อนต่อยอดบอลลูนที่เหลือ อัตราดอกเบี้ยจะคิดจากเงินที่เหลือก้อนสุดท้ายหรือคิดจากเงินก้อนจำนวนเต็มๆที่เราซื้อรถครับ เพราะต้องดูเงื่อนไขดีๆ ไม่งั้น ค่าดอกเบี้ยอ่วมเลย ครับ
-
ซื้อแบบ Fleet เป็นยังไงครับ รบกวนช่วยอธิบายให้หน่อยครับ :)
-
บอลลูนดีสำหรับคนที่เอาเงินไปลงทุน ครับ เช่น ลงทุนในตลาดหุ้นเป็นต้น
ครบ 5 ปี บอลลูนอาจะหายไปเลยนะครับ หุหุ
-
เอ ผมสงสัย อย่างนึงครับ แล้วอัตราดอกเบี้ย สมมุติเราไม่ปิดยอดแล้วเราผ่อนต่อยอดบอลลูนที่เหลือ อัตราดอกเบี้ยจะคิดจากเงินที่เหลือก้อนสุดท้ายหรือคิดจากเงินก้อนจำนวนเต็มๆที่เราซื้อรถครับ เพราะต้องดูเงื่อนไขดีๆ ไม่งั้น ค่าดอกเบี้ยอ่วมเลย ครับ
คิดจากก้อนสุดท้ายครับ เหมือนกับผ่อนทีละครึ่งคัน ผ่อนครึ่งคันแรกเสร็จ ครึ่งคันหลังเอายังไงก็ว่ากันต่อ
โปรแกรมนี้มันเหมาะกับคนใช้รถ4หรือ5ปีเปลี่ยนที(ตามระยะเวลาครึ่งแรก) ผ่อนครึ่งแรกหมดขายรถเอาตังมาปิดครึ่งหลัง ถ้าใช้ยาวเสียดอกแพงเกินไม่คุ้มครับ
ส่วนใหญ่พวกที่เลือกผ่อนแบบนี้จะเป็นพวกบริษัทรถเช่า ครึ่งแรกผ่อนถูกแต่ไปเก็บค่าเช่าแพง พอหมดครึ่งแรกรถก็หมดอายุเช่าพอดี ขายเอาตังมาปิดครึ่งหลัง
-
.
.
.
คือสงสัยว่าทำไม x1 มันถึงผ่อนแพงจังครับ
a180 ที่ผมไปดูมาผ่อนต่อเดือนประมาณ 30,000 เท่านั้น
x1 ราคาน่าจะพอๆกันรึเปล่าครับ ทำไมผ่อนต่างกันเยอะจัง
-
บอลลูนดีสำหรับคนที่เอาเงินไปลงทุน ครับ เช่น ลงทุนในตลาดหุ้นเป็นต้น
ครบ 5 ปี บอลลูนอาจะหายไปเลยนะครับ หุหุ
ไม่ก็อาจจะต้องขายรถไปเลย ก็มีเหมือนกันครับ >_<
-
ผ่อนแบบบอลลูน,,, ผมว่า เหมาะสำหรับ คนที่มี 2 ข้อนี้พร้อมกัน
- ใจรัก(มากๆ) ,,, ในสิ่งที่จะผ่อน
- ต้องการ,,, เงินสด หมุนอยู่ในระบบ
-
รถมีแต่ลด ผมว่าเอาแบบที่เราซื้อได้สบาย ผ่อนไม่หนัก ดอกไม่มากดีกว่าครับ
-
บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับการผ่อน
บางคนบอกคนมีเงิน ไม่เอาเงินก้อนมาผ่อน เอาไปลงทุนได้เยอะกว่า......หมายความว่าการลงทุนนั้น กำไรเสมอไปหรือ ได้มากกว่าดอกที่เสียไปชัวร์เลยหรือ เอาไปเล่นหุ้นได้มากกว่า ...... ผมอาจเจอคนมาน้อยก็ได้ เพราะไม่เคยเจอคนที่มาคุยให้ฟังตอนเจ๊งหุ้น มีแต่มาคุยให้ฟังตอนได้ซะมากกว่า
แล้วไม่คิดเผื่อเลยหรือว่า ถ้าเจ๊งทั้งลงทุน แบกทั้งดอกเบี้ย และเงินต้น + ช่วงเวลาอีกหลายปี จะฟื้นได้แน่นอนทุกคนจริงหรือ
เราลงทุน เน้นกำไร เอาดอกผลจากกำไรที่มากกกว่ามาใช้ อันนี้เข้าใจได้ แต่มันไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้
การผ่อนบอลลูนคือการล่อให้คุณเป็นหนี้ เป็นแบบสบายใจ ดอกมันมากกว่าผ่อนธรรมดาเห็นๆ
จริงอยู่บางคนว่า ผ่อนสบายๆ ก้อนสุดท้าย เอาเงินที่ผ่อนน้อยกว่าในแต่ละเดือน ไปลงทุนไว้ มาตัดบอลลูนที่เดือนสุดท้าย อาจจะจ่ายน้อยกว่า มันเหมือนการเล่นพนันซะมากกว่า
เพราะเมื่อถึงเวลานั้น เกิดช๊อต ก็เอาก้อนนั้นไปผ่อนต่อ เสียดอกมั๊ย...........
มันสองคนยลตามช่อง เงินหมุน กับเงินเย็น เอามาลงทุนก็ต่างกันลิบแล้ว
บางท่านว่าผ่อนรายเดือนน้อยกว่า จะได้มีเงินไว้หมุนในระบบ
ถ้าต้องหมุนเงิน แล้วซื้อของราคาสูงๆ ให้เป็นภาระ มีความเสี่ยง เพื่ออะไร.... ตอบสนองความพอใจใช่หรือไม่
ถ้าต้องลงทุน หรือ หาเงิน สร้างความมั่นคง แต่ใช้ความพอใจนำทาง ผมว่ามันผิดตั้งแต่ต้น เหมือนสร้างเงื่อนตายให้ตัวเองแบบไม่จำเป็นเลย
ผมมองว่าการผ่อน ไม่ว่าจะแบบไหน มันคือการใช้เงินอนาคต จำกัดอิสรภาพทั้งด้านการเงินและความคิด
เข้าใจครับ คนไม่มากนักที่มีเงิน อีกส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการผ่อน เพื่อสร้างอนาคต
แต่........อย่าให้อารมณ์ ความพอใจ อยู่เหนือเหตุผล
จะผ่อนแบบไหน ไม่สำคัญเท่ากับผ่อนอะไร หรือ เพื่ออะไรครับ
ผมไม่ได้จะดราม่าอะไรนะ อยากแชร์บางด้าน ที่เชื่อว่ามีอีกหลายคน ยังไม่เคยเจอแบบที่ผมเจอมา ก็เท่านั้นเองครับ
-
บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับการผ่อน
...
ชอบความคิดเห็นครับผมมม ^_^
อีกอย่างครับ รถราคามันลงไปเรื่อยๆ
... เงินก้อนสุดท้าย ... อาจจะใกล้กับราคามือสองตอนนั้นก็ได้นะครับ
... คิดอีกมุมก็แปลกๆ ดี ...
-
บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับการผ่อน
บางคนบอกคนมีเงิน ไม่เอาเงินก้อนมาผ่อน เอาไปลงทุนได้เยอะกว่า......หมายความว่าการลงทุนนั้น กำไรเสมอไปหรือ ได้มากกว่าดอกที่เสียไปชัวร์เลยหรือ เอาไปเล่นหุ้นได้มากกว่า ...... ผมอาจเจอคนมาน้อยก็ได้ เพราะไม่เคยเจอคนที่มาคุยให้ฟังตอนเจ๊งหุ้น มีแต่มาคุยให้ฟังตอนได้ซะมากกว่า
แล้วไม่คิดเผื่อเลยหรือว่า ถ้าเจ๊งทั้งลงทุน แบกทั้งดอกเบี้ย และเงินต้น + ช่วงเวลาอีกหลายปี จะฟื้นได้แน่นอนทุกคนจริงหรือ
เราลงทุน เน้นกำไร เอาดอกผลจากกำไรที่มากกกว่ามาใช้ อันนี้เข้าใจได้ แต่มันไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้
การผ่อนบอลลูนคือการล่อให้คุณเป็นหนี้ เป็นแบบสบายใจ ดอกมันมากกว่าผ่อนธรรมดาเห็นๆ
จริงอยู่บางคนว่า ผ่อนสบายๆ ก้อนสุดท้าย เอาเงินที่ผ่อนน้อยกว่าในแต่ละเดือน ไปลงทุนไว้ มาตัดบอลลูนที่เดือนสุดท้าย อาจจะจ่ายน้อยกว่า มันเหมือนการเล่นพนันซะมากกว่า
เพราะเมื่อถึงเวลานั้น เกิดช๊อต ก็เอาก้อนนั้นไปผ่อนต่อ เสียดอกมั๊ย...........
มันสองคนยลตามช่อง เงินหมุน กับเงินเย็น เอามาลงทุนก็ต่างกันลิบแล้ว
บางท่านว่าผ่อนรายเดือนน้อยกว่า จะได้มีเงินไว้หมุนในระบบ
ถ้าต้องหมุนเงิน แล้วซื้อของราคาสูงๆ ให้เป็นภาระ มีความเสี่ยง เพื่ออะไร.... ตอบสนองความพอใจใช่หรือไม่
ถ้าต้องลงทุน หรือ หาเงิน สร้างความมั่นคง แต่ใช้ความพอใจนำทาง ผมว่ามันผิดตั้งแต่ต้น เหมือนสร้างเงื่อนตายให้ตัวเองแบบไม่จำเป็นเลย
ผมมองว่าการผ่อน ไม่ว่าจะแบบไหน มันคือการใช้เงินอนาคต จำกัดอิสรภาพทั้งด้านการเงินและความคิด
เข้าใจครับ คนไม่มากนักที่มีเงิน อีกส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาการผ่อน เพื่อสร้างอนาคต
แต่........อย่าให้อารมณ์ ความพอใจ อยู่เหนือเหตุผล
จะผ่อนแบบไหน ไม่สำคัญเท่ากับผ่อนอะไร หรือ เพื่ออะไรครับ
ผมไม่ได้จะดราม่าอะไรนะ อยากแชร์บางด้าน ที่เชื่อว่ามีอีกหลายคน ยังไม่เคยเจอแบบที่ผมเจอมา ก็เท่านั้นเองครับ
ชอบความเห็นนี้มาก
มันเป็นแง่คิดที่ว่าคนที่ยังพึ่งการหมุนเงิน ก็คือคนที่มีความเสี่ยงในตัวเอง
ตลาดหุ้น มันเสี่ยง บางครั้งเกิดติดดอยเราต้องเอาเงินออกมาตอนนั้น ทั้งขาดทุนทั้งเสียโอกาสเลยซื้อของถูกด้วย ตลาดขึ้นยังไงมันลงแบบเดียวกัน
อันนี้เป็นเพียงแง่คิด แต่จริงๆขึ้นกับคน บางคนอาจจะมีอาชีพหลักหรือรายได้ทางอื่นที่มั่นคงมาก จะผ่อนก็ไม่ผิด ไม่มีกฏตายตัว
-
อย่าซื้อเกินกำลังตัวเองเลยครับ
อนาคตมันไม่แน่ไม่นอน
โดยส่วนตัวผมจะซื้อแค่ที่ผมมีเงินก้อน +/- ได้เล็กน้อย
เช่นถ้ามีเงินก้อน 3 ล้าน ก็ซื้อแค่นั้น
แล้วก็ผ่อนเอาครับ ไม่เอาบอลลูน
จะได้สบายใจด้วยว่ามีเงินจ่ายแน่ๆ และผมยังสามารถเอาเงินก้อนนั้นไปลงทุนได้อีกเล็กน้อยในกองทุนที่ไม่เสี่ยงมาก
ลดความเครียดได้เยอะ
แต่ถ้าเงินที่มียังไม่พอ
ก็ยังไม่ซื้อครับ เก็บเงินให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน
-
โอ้ว ได้ความเห็นเยอะเลย ขอบคุณทุกท่านนะครับ ขอตอบบางคนนะครับ
2. X3 ผ่อน 40xxx บาท 60 เดือน + balloon 1.1 ล้าน
เพราะหากไม่ balloon ต้องผ่อน 53xxx บาท 60 เดือน ผมว่ามันเยอะไป
ถ้าแบบนั้นก็จัด Balloon ครับ เอาแบบที่ไม่รัดตัวเราเกินไปดีกว่าครับ
เพราะถ้าอนาคตแน่ใจว่ามีเงิน 1.1 M ก็จัดไปเลยครับ จะได้ไม่บีบตัวมาก
X3 LCI ซะด้วย ;D ;D ;D
อันนี้คือใจรัก อนาคตผมรู้ว่ามีเงินมาจ่ายแน่ๆ เลยเอามาคิดด้วยครับ
บางครั้ง เหตุผลอย่างเดียว อาจจะไม่ตอบโจทย์ของตัวเอง
ยอมรับนะครับ บางที เราไม่ได้พร้อมตอนนี้ แต่การผ่อน ก็คือการที่ทำให้เรามีโอกาสใช้ชีวิตที่ต้องการ
แต่ต้องด้วยการมีวินัยการเงินด้วย แค่นั้นเอง
บอลลูนก็สะดวกกับนิติบุคคล(ที่มีกำไร) เมื่อรถหมดค่าเสื่อมแล้ว ขายทิ้งไม่จำเป็นต้องจ่ายงวดสุดท้าย
หักผ่อนหักค่าใช้จ่าย ลดภาษีไปแล้ว ถ้านิติมีกำไรก็ไม่ต่างจากใช้รถฟรี
แต่นิติที่มีกำไรเยอะจริงๆก็ผ่อนเต็มๆได้ครับ หักค่าใช้จ่ายได้อยู่ดี ใช้ฟรีเหมือนกัน
สรุปแล้ว บอลลูนเหมาะกับคนที่ไม่มีกำลังผ่อน แต่อยากครับ
หรือ เปลี่ยนรถบ่อย ปี สองปี ขายทิ้ง ขายเอง ราคาตกไม่มาก
แต่คนทำงานรับเงินเดือน ไม่เหมาะกับบอลลูนด้วยประการทั้งปวง นอกจากอยากจ่ายแพงกว่าปกติเล่นๆ
นั่นสิครับ น่าจะเป็นสำหรับ นิติบุคคลมากกว่า ไม่มีบริษัทซะด้วย
บอลลูนดีสำหรับคนที่เอาเงินไปลงทุน ครับ เช่น ลงทุนในตลาดหุ้นเป็นต้น
ครบ 5 ปี บอลลูนอาจะหายไปเลยนะครับ หุหุ
นั่นสิครับ เคยเจ็บตัวอย่างแรงมาแล้ว ผมไม่เสี่ยงแบบนั้นแน่ๆ เพียงแต่ ในอีก 5 ปีข้างหน้าเงินล้าน ผมหาได้แน่ๆ แต่แค่ว่าจะโป๊ะรถ หรือเอาตัวเล็กแล้วเก็บไอ้ล้านนึงไว้ดีกว่า. คิดๆ
.
.
.
คือสงสัยว่าทำไม x1 มันถึงผ่อนแพงจังครับ
a180 ที่ผมไปดูมาผ่อนต่อเดือนประมาณ 30,000 เท่านั้น
x1 ราคาน่าจะพอๆกันรึเปล่าครับ ทำไมผ่อนต่างกันเยอะจัง
A180 มัน 2 ล้านครับ. X1 18i ก็ 2.199m ครับ
แต่ที่ผมจะเอาคือ x1 20d. ราคา 2.799m ครับ ผ่อนประมาณ 42xxx ครับ 5 ปี
บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจในหลายๆเรื่องเกี่ยวกับการผ่อน
บางคนบอกคนมีเงิน ไม่เอาเงินก้อนมาผ่อน เอาไปลงทุนได้เยอะกว่า......หมายความว่าการลงทุนนั้น กำไรเสมอไปหรือ ได้มากกว่าดอกที่เสียไปชัวร์เลยหรือ เอาไปเล่นหุ้นได้มากกว่า ...... ผมอาจเจอคนมาน้อยก็ได้ เพราะไม่เคยเจอคนที่มาคุยให้ฟังตอนเจ๊งหุ้น มีแต่มาคุยให้ฟังตอนได้ซะมากกว่า
แล้วไม่คิดเผื่อเลยหรือว่า ถ้าเจ๊งทั้งลงทุน แบกทั้งดอกเบี้ย และเงินต้น + ช่วงเวลาอีกหลายปี จะฟื้นได้แน่นอนทุกคนจริงหรือ
เราลงทุน เน้นกำไร เอาดอกผลจากกำไรที่มากกกว่ามาใช้ อันนี้เข้าใจได้ แต่มันไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้
......
เห็นด้วยครับ. แต่ในโลกความเป็นจริง ด้วยความที่ผมเองไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ เป็นพนักงานประจำ ซึ่งก็มีเงินเดือนและโบนัส ระดับนึง
และด้วยวัยตอนนี้ 40 ต้น มันแค่ว่าน่าจะถึงเวลาการหาความสุขใส่ตัวเท่าที่พึงจะหาได้ หากรอการเก็บเงิน เพื่อซื้อสด หรือรอพร้อมกว่านี้
สงสัยต้องรอใกล้เกษียณหรือป่าว ก็ไม่รู้ เข้าใจว่าดอกแพง แต่บางครั้ง มันก็ทำให้เราเข้าถึงสิ่งที่ต้องการง่ายขึ้น ด้วยการยืมเขามาก่อน
มันอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แต่นะ อย่างที่บอกแต่ต้น ในโลกของความเป็นจริง นี่คือราคาที่ต้องจ่าย
คหสต นะครับ
อย่าซื้อเกินกำลังตัวเองเลยครับ
อนาคตมันไม่แน่ไม่นอน
โดยส่วนตัวผมจะซื้อแค่ที่ผมมีเงินก้อน +/- ได้เล็กน้อย
เช่นถ้ามีเงินก้อน 3 ล้าน ก็ซื้อแค่นั้น
แล้วก็ผ่อนเอาครับ ไม่เอาบอลลูน
จะได้สบายใจด้วยว่ามีเงินจ่ายแน่ๆ และผมยังสามารถเอาเงินก้อนนั้นไปลงทุนได้อีกเล็กน้อยในกองทุนที่ไม่เสี่ยงมาก
ลดความเครียดได้เยอะ
แต่ถ้าเงินที่มียังไม่พอ
ก็ยังไม่ซื้อครับ เก็บเงินให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน
ก็เห็นด้วยนะครับ เลยว่าจะเอา x1 เนี่ยแหละครับ
ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ
-
บอลลูนเท่าที่ลองคำนวณดูนะครับ เหมือนจะสบายนะครับ เงินก่อนแรกเค้าเอามาคูนยอดทั้งหมด แต่ผ่อนชุดแรกแค่ 55% เท่านั้น
แต่อีก 45% ต้องโยนทังก่อน หรือไม่ก็จัดใหม่ ซึ่งดูแล้วผมว่ามันโหดไปนะ
ปล. ผมเข้าใจถูกไหมอ่าครับ
-
อย่าลืมคิดเรื่องความเปลี่ยนแปลงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตด้วยนะครับ
เข้าใจว่าทำงานกินเงินเดือนจนอายุสี่สิบแล้ว แต่ในชีวิตจริงๆ ความไม่แน่นอนมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ภาษาชาวบ้านเค้าเรียกว่า "เผื่อ" ไงครับ
ผมมีคนไข้หลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำอะไรหลายๆอย่างได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
แต่ความเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นตัวเราเอง หรือคนใกล้ตัวที่เราต้องดูแล เป็นสิ่งที่เหนือความคาดเดานะครับ ขอให้เผื่อตรงนี้ไว้เยอะๆ เพราะคนที่เรารัก มัีนสำคัญกว่ารถหนึ่งคันมากกครับ
เรื่องหน้าที่การงานก็เหมือนกัน
ตอนนี้เศรษฐกิจบูม เงินอะไรมันก็ดูหมุนเวียนได้คล่องไปหมด เล่นหุ้นตาสีตาสาก็มีกำไรได้
แต่มัีนจะเป็นแบบนี้ไปสักกี่ปีครับ, เงินเดือนที่มั่นคง โบนัสแพงๆ มันอาจจะไ่ม่ได้อยู่กับเราไปตลอด
สุดท้าย ...
อย่าลืมคิดเผื่อเรื่อง เบื่อๆ อยากๆ ไว้ด้วย
เห็นว่ามี series 3 อยู่ ตอนนี้อยากได้ SUV
อีกสี่ห้าปี จะมีโมเดลใหม่ๆ มาให้คุณชอบอีกมากมายเลยครับ, เจ้า X3 นับไปอีกไม่กี่ปีก็จะต้องมีรุ่นใหม่มาแทนที่ อาจจะสวยกว่ามากๆ ก็ได้
ถึงเวลานั้น ถ้าคุณทุ่มให้เจ้า x3 แล้วต้องมารับภาระดอกแพงๆ ..จากที่เคยชอบ คุณอาจจะเซ็งมากๆ ก็ได้
ถึงตอนนั้นถ้าอยากได้รถใหม่ก็ต้องขายคันเก่า...ซึ่งมันมีแต่ขาดทุนอยู่แล้วครับ
การใช้เงินเพื่อสนองความอยากมากกว่าความจำเป็น....ต้องคิดให้รอบด้านมากๆๆ ครับ ::)
-
อย่าลืมคิดเรื่องความเปลี่ยนแปลงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตด้วยนะครับ
เข้าใจว่าทำงานกินเงินเดือนจนอายุสี่สิบแล้ว แต่ในชีวิตจริงๆ ความไม่แน่นอนมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ภาษาชาวบ้านเค้าเรียกว่า "เผื่อ" ไงครับ
ผมมีคนไข้หลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำอะไรหลายๆอย่างได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
แต่ความเจ็บป่วย ไม่ว่าจะเป็นตัวเราเอง หรือคนใกล้ตัวที่เราต้องดูแล เป็นสิ่งที่เหนือความคาดเดานะครับ ขอให้เผื่อตรงนี้ไว้เยอะๆ เพราะคนที่เรารัก มัีนสำคัญกว่ารถหนึ่งคันมากกครับ
เรื่องหน้าที่การงานก็เหมือนกัน
ตอนนี้เศรษฐกิจบูม เงินอะไรมันก็ดูหมุนเวียนได้คล่องไปหมด เล่นหุ้นตาสีตาสาก็มีกำไรได้
แต่มัีนจะเป็นแบบนี้ไปสักกี่ปีครับ, เงินเดือนที่มั่นคง โบนัสแพงๆ มันอาจจะไ่ม่ได้อยู่กับเราไปตลอด
สุดท้าย ...
อย่าลืมคิดเผื่อเรื่อง เบื่อๆ อยากๆ ไว้ด้วย
เห็นว่ามี series 3 อยู่ ตอนนี้อยากได้ SUV
อีกสี่ห้าปี จะมีโมเดลใหม่ๆ มาให้คุณชอบอีกมากมายเลยครับ, เจ้า X3 นับไปอีกไม่กี่ปีก็จะต้องมีรุ่นใหม่มาแทนที่ อาจจะสวยกว่ามากๆ ก็ได้
ถึงเวลานั้น ถ้าคุณทุ่มให้เจ้า x3 แล้วต้องมารับภาระดอกแพงๆ ..จากที่เคยชอบ คุณอาจจะเซ็งมากๆ ก็ได้
ถึงตอนนั้นถ้าอยากได้รถใหม่ก็ต้องขายคันเก่า...ซึ่งมันมีแต่ขาดทุนอยู่แล้วครับ
การใช้เงินเพื่อสนองความอยากมากกว่าความจำเป็น....ต้องคิดให้รอบด้านมากๆๆ ครับ ::)
อ่า. ขอบคุณครับ อันสุดท้าย น่าสนใจครับ
ขอเก็บไว้คิดต่ออีกที. ขอบคุณมากๆครับ คุณหมอ
-
บอลลูนดีสำหรับคนที่เอาเงินไปลงทุน ครับ เช่น ลงทุนในตลาดหุ้นเป็นต้น
แต่ถ้าไม่มีความคิดเรื่องลงทุน ทำยังไงก็ได้ให้จ่ายโดยผลรวมน้อยที่สุดครับ
+1
ถ้าคุณจะ Balloon คุณควรมีเงินงวดสุดท้ายก้อน Balloon ณ ตอนนี้เลย แล้วเอาเงินก้อนนั้นไปลงทุน
ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือน เงินลงทุนซื้อ LTF อะไรแนวนั้นยังเอามาหักลดภาษีได้อีก
ถ้าคุณยังไม่มีเงินก้อนงวด Balloon ณ วันนี้ ซื้อผ่อนธรรมดาไปดีกว่าครับ
-
ผมอยากให้เอา 18i ครับ เพราะถ้าขายมือ2 18i กับ 20d ราคาต่างไม่เกินแสนห้าแน่นอนครับ
ตอนนี้ 18i เต็นท์ตี 1.3-1.5ล้าน ถ้าเกิดฉุกเฉินในอนาคต 18iช้ำน้อยกว่าเยอะนะครับ
กล้องกับจอ ถ้าไปติดข้างนอกตอนนี้มีแล้วครับราคาไม่เกินแสน ส่วนตัวที่เคยเห็นผมว่าใช้ดี(ง่าย)กว่าidriveเยอะเลยครับ
-
ผมอยากให้เอา 18i ครับ เพราะถ้าขายมือ2 18i กับ 20d ราคาต่างไม่เกินแสนห้าแน่นอนครับ
ตอนนี้ 18i เต็นท์ตี 1.3-1.5ล้าน ถ้าเกิดฉุกเฉินในอนาคต 18iช้ำน้อยกว่าเยอะนะครับ
กล้องกับจอ ถ้าไปติดข้างนอกตอนนี้มีแล้วครับราคาไม่เกินแสน ส่วนตัวที่เคยเห็นผมว่าใช้ดี(ง่าย)กว่าidriveเยอะเลยครับ
บอกแฟนแล้วคับ เขาได้ลองทั้งคู่ say no กับ 18i เลย หากได้เครื่องตัวเดียวกับ F30 จะเอา แต่หากเครื่องเดิมนี้ไม่เอา
ไม่เกี่ยวกะ idrive แต่เกี่ยวกับเรื่องการขับ และอัตราเร่ง บวกกับการกินน้ำมันหนะครับ รวมๆ
แต่ผมลองแล้ว มันต่างกันมากจริงๆ นะ เพียงแต่ ไอ 600,000 นี่ก็มากโขอยู่ หุหุ