Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kritsnutty ที่ เมษายน 02, 2013, 10:42:19
-
กด Over Drive กับ Kick Down ให้ผลที่เหมือนหรือต่างกันยังไงครับ แบบไหนถูกต้องกว่ากัน
คือ จริงๆเป็นมือใหม่สำหรับเกียร์ออโต้ ขับแต่ MT มา20ปี ก็เลยขอสอบถามเป็นข้อมูลซักหน่อย
Over Drive กดตอนไหน ต้องดูรอบเครื่องรึเปล่าหรือจะแซงก็กดเลย กดแล้วต้องกดซ้ำเพื่อปิดหรือมันจะปิดเองเมื่อรอบเครื่องเบา
Click Down กินน้ำมันมากกว่า OD เหรอครับ เครื่องพังไวกว่ามั้ย หรือแค่กินน้ำมันมากกว่า แล้วรถจะพุ่งเร็วทันใจกว่า OD รึเปล่าครับ
สรุปแนะนำแบบไหน อย่างไรครับ
ขอบคุณครับ
-
ไม่เหมือนกันครับ
กด O/D Off คือการให้รถวิ่ง3เกียร์ไม่ใช่เกียร์สูงสุดที่เรียกว่า Overdrive เพื่อใช้ในการเร่งแซง
ส่วน kick down เร่งเครื่องและเชนเกียร์ครับ
เอาเข้าจริงๆแล้ว กด kickdown ก็พอครับ และ ไม่จำเป็นอย่ากด o/d off เพราะจะเปลืองน้ำมันครับเพราะรถจะไม่ได้วิ่งด้วยเกียร์สูงสุดที่ลดรอบและประหยัดน้ำมัน
-
ต้องดูรถเป็นรุ่นๆไป จขกท ขับรุ่นไหน?
-
ถ้าขับทางไกล กด O/D Off แล้วเหยียบส่งอีกน่าจะไวกว่า อาจจะได้ ลง 2 เกียร์แถม
ถ้า kick down เฉยๆ รอกล่องมันคิดนิดนึง มันจะได้ผลคล้ายๆ กัน
แต่รถรุ่นใหม่ๆ เกียร์ขยัน แค่ขยับ(เท้า) ก็สับเกียร์ให้แล้ว
-
ประสบการณ์ขับ tiida ที่มีปุ่ม overdrive ให้กดเล่น ผมว่ามันไม่ต่างนะ
มันก็ลดเกียร์ให้เหมือนกันนั่นแหละ ไว้สำหรับเร่งแซงเป็นหลัก
กด overdrive มันก็ลดเกียร์ลงมาเลยเกียร์นึง kick down นี่แล้วแต่แรงเหยียบ เหยียบปานกลางอาจลง 1 เกียร์ มิดๆ อาจลงไปสองเกียร์
-
คลิ๊กไม่ได้นะครับ รถไม่มีเมาส์ (ยกเว้นเล็กซัสบางรุ่น) ดังนั้นหาปุ่ม OD จะมีความเป็นไปได้ว่าจะเจอมากกว่า
-
;D สวิตช์ O/D มีไว้เพื่อตัดการทำงานของเกียร์สุดท้ายที่เป็น overdrive ออก
ยกตัวอย่างเช่น ในรถที่มี 4 เกียร์ ก็จะเหลือเกียร์ให้ใช้แค่ 3 เกียร์ คือ 1-2-3
ในขณะที่เราขับอยู่นิ่งๆความเร็วประมาณ 80-100 km/h
ปกติจะเป็นเกียร์สุดท้ายคือเกียร์ 4
ถ้าเรากดคันเร่ง เร็ว/ลึก แม้จะไม่ได้กดเต็ม 100% ก็ตาม (kick down)
เกียร์จะเปลีี่่ยนลงสู่เกียร์ที่ต่ำลง
เช่นขับอยู่เกียร์ 4 ลงมาที่เกียร์ 3 หรืออาจจะต่อลงมาถึงเกียร์ 2 ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขความเร็วและสัดส่วนการกดเร่ง
พอได้เร่งแซงได้ความเร็วที่ต้องการ เราเบาคันเร่งลงเกียร์ก็จะเปลี่ยนไปยังเกียร์สูงให้เหมาะสมกับความเร็วเอง
ในกรณีเดียวกันถ้าเรากดปุ่ม O/D off (มีไฟโชว์ที่หน้าปัด)
เกียร์ก็จะเปลี่ยนจาก 4->3 เช่นเดียวกัน แต่จะคาดไว้ไม่เกินเกียร์ 3
จนกว่าจะกดปุ่ม O/D off ใหม่
ในบางสถานะการณ์เช่นขับรถสวนเลนต่างจังหวัด
รอจังหวะเร่งแซงอย่างต่อเนื่องในย่านความเร็ว 80-110
กด O/D off ไว้จะสะดวกกว่า เพราะเกียร์มารอที่เกียร์ 3 อยู่เลย
มีจังหวะก็เบนหัวแซงได้ ไม่ต้องรอกด kick down เปลี่ยนจากเกียร์ 4->3 ก่อน
หรือระหว่างแซงอยู่เกิดต้องถอนคันเร่ง แล้วกดต่อ ก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเด้งขึ้น 4 แล้วสับลงมา 3 ใหม่อีก
แต่สำหรับรถบางยี่ฮ้อจะไม่ได้เป็นปุ่ม O/D แต่เป็นปุ่ม Hold แทน
การทำงานก็จะต่างไปจากนี้
-
การกด O/D off ,,, เป็นแค่ "การตัดการทำงานของเกียร์ที่เป็น Overdrive"
....เกียร์ Overdrive ,,, คือ เกียร์ที่มีอัตราทดน้อยว่า 1
....ซึ่งส่วนใหญ่,,, สำหรับรถ 4-5 เกียร์, มักจะเป็นเกียร์สูงสุด คือ เกียร์ 4 และ เกียร์ 5 ตามลำดับ
....ดังนั้น,,, เมื่อกดปุ่ม, รถก็จะวิ่งแค่ 3 เกียร์ และ 4 เกียร์ ตามลำดับ
แต่การ Kick down ,,, เปรียบเสมือนการเชนจ์เกียร์
....ซึ่งการเชนจ์เกียร์,,, จะถอยจาก 5 ลงไป 4 , หรือจะถอยจาก 3 ลงไป 2 ก็ได้
2 คำนี้,,, มีความหมายแตกต่างกัน, แต่ในบางเหตุการณ์ เราอาจใช้ประโยชน์ใกล้เคียงกัน
เช่นว่า,,, ถ้ารถท่าน 4 เกียร์ แล้วท่านเร่งแซงที่ความเร็ว 100 ในขณะที่ขับอยู่เกียร์ 4
....ท่านจะ,,, กด O/D off หรือจะเหยียบคันเร่ง เพื่อ Kick down ก็ได้
....ทั้ง 2 อย่าง,,, ให้ผลเหมือนกัน, คือจะทอนเกียร์ลงมาที่เกียร์ 3 สร้างแรงฉุด
แต่ถ้า,,, รถ 4 เกียร์, แล้วท่านจะเร่งแซงที่ความเร็ว 40 ในขณะที่รถขับอยู่เกียร์ 3
....ถ้าท่าน,,, กด O/D off ก็กดได้, แต่มันก็ไม่ช่วยอะไร
....เพราะมัน,,, ไปตัดการทำงานเกียร์ Overdrive คือเกียร์ 4 (ซึ่งก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเหตุการณ์นี้อยู่แล้ว :-\)
....แต่ถ้าท่าน,,, เหยียบคันเร่ง เพื่อ Kick down, เกียร์ก็จะทอนลงไปเกียร์ 2 ช่วยสร้างแรงฉุดลาก
ที่ผมเข้าใจ,,, ก็ประมาณนี้ ถูก-ผิด โปรดชี้แนะ (http://www.soccersuck.com/soccer/images/smiles/onion_sorry.gif)
-
เคยขับแค่รถ 4-5เกียร์ ถ้ารถวิ่งที่เกียร์สูงสุดอยู่แล้ว ไม่ต่างเลยกันครับ
มันไม่ได้ลงไปถึง2เกียร์แน่นอน(เคยลง2เกียร์แต่ตอนนั้นกดเกือบจม) แต่ถ้ารถ 6-8เกียร์ O/D+kickdown คงดีกว่า น่าจะลงไป2เกียร์
ส่วนถ้าตอนออกตัวหรือจากความเร็วต่ำๆผมว่า O/D ดีกว่าครับ
คิดแบบบ้านๆ มันจะเอากำลัง/จำนวนเกียร์ที่มีครับ ยิ่งเกียร์มีน้อย รอบเครื่องต่อการเปลี่ยนเกียร์จะสูงขึ้น
แต่ผมว่า ecu ในรถปัจจุบันมันฉลาดแล้วนะ ทำให้แทบไม่ต่างกันครับ มันคำนวนพฤติกรรมได้ ถ้าเหยียบลึก มันสามารถเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงๆให้เอง โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
-
ประสบการณ์ขับ tiida ที่มีปุ่ม overdrive ให้กดเล่น ผมว่ามันไม่ต่างนะ
มันก็ลดเกียร์ให้เหมือนกันนั่นแหละ ไว้สำหรับเร่งแซงเป็นหลัก
กด overdrive มันก็ลดเกียร์ลงมาเลยเกียร์นึง kick down นี่แล้วแต่แรงเหยียบ เหยียบปานกลางอาจลง 1 เกียร์ มิดๆ อาจลงไปสองเกียร์
ไม่เหมือนนะครับ ตามท่านข้างบนบอกครับ overdrive คือการล็อกไม่ใช้เกียร์สุดท้าย ตลอดจนกว่าจะกดยกเลิก
แต่ kick down คือการเร่งแซงในขณะนั้นที่เราเหยียบส่ง มันจะตบเกียร์ลง 1 ถึง 2 เกียร์แล้วแต่ความเร็วและการเหยียบของเรา
-
รถที่บ้าน 3 คัน แตกต่างกันไป
วีออส 4 เกียร มี 2 วิธี ถ้าอยากเร่งแซง
1. กดคันเร่งลงไปตรงๆ ให้เกียรคิ๊กดาวเอง ถ้าวิ่ง 70-80 กดคันเร่งเต็มๆ มีลงถึงเกียร 2
2. สับเกียรไว้ที่ D-3 ให้รถใช้เกียร 3 ตลอดเวลา เหยียบแล้วมาเลย แต่ใช้ได้แค่ถึง 160 ก่อนรอบจะตัด
พรีอุส
1. Eco Mode เหยียบคันเร่งลึกๆจนถึงขีดแดง เด๋วมันมาเอง (เกียร CVT)
2. Power Mode กดไว้ คันเร่งตอบสนองไวขึ้น กระฉับกระเฉงขึ้น
แคมรี่
1. กดคันเร่งลงไปตรงๆ
2. กด O/D Off ตัดเกียร 5 ออก ใช้เกียร 4 แทน (เกียร 4 แคมรี่ เหลือเฟือ)
3. กดปุ่ม ECT ตรงใต้คอนโซล ระบบจะล๊อคให้เปลี่ยนเกียรช้าลง ลากรอบขึ้น
รถแต่ล่ะคัน แตกต่างกันไปครับ
ส่วนตัวผมคิดว่า คิ๊กดาวไปๆมาๆ ไม่ไวเท่าเปลี่ยน Mode รอไว้
แต่ถ้าขับธรรมดาๆ เร่งแซงนิดๆหน่อย แค่กดคันเร่งลึกๆก็พอ
-
มันก็คือการเล่นกับเกียร์เหมือนกันแหละครับ
สมมุติเกียร์4สปีด อัตราทด 2.2 1.5 1 0.83
ถ้าขับอยู่ที่เกียร์สี่ ถ้าkick down ตำแหน่งเกียร์จะลดให้อัตโนมัติกี่ตำแหน่งก็แล้วแต่น้ำหนักเท้าแต่ส่วนใหญ่จะ1ตำแหน่งคือลดมาอยู่ที่เกียร์3 พอความเร็วถึงจุดเกียร์ก็จะเปลี่ยนเป็นเกียร์4ให้เอง
ถ้าoverdrive off ก็เป็นการบังคับว่ารถเข้าเกียร์สูงสุดได้แค่เกียร์3 ถ้าเราเหยียบคันเร่งต่อก็ไม่ต่างจากkick down แต่เราต้องปิด overdrive off เพื่อให้เกียร์เปลี่ยนเป็นเกียร์4ด้วยตัวเอง
แต่ถ้าไม่เหยีบคันเร่งต่อก็จะกลายเป็นengine breakไปเหมือนกับเกียร์ธรรมดาเลยครับ
ถ้าเริ่มตั้งแต่เกียร์หนึ่ง เปิดoverdrive off เกียร์ก็จะเปลี่ยนได้สูงสุดแค่เกียร์3เท่านั้นไม่สามารถเปลี่ยนไปถึงเกียร์4ได้ ในขณะที่ Kick down ทำงานเหมือนเดิม
ส่วนตัวผมถ้าใช้เร่งแซงผมว่ามันก็เหมือนกัน
kick down ข้อดีคือ สบาย แต่ไม่ทันใจ
overdrive off ข้อดีคือต้องมานั่งควบคุมเอง แต่ได้ดั่งใจกว่า
-
ปกติผมใช้ over drive ในสองกรณีครับ
คือใช้เร่งแซง ที่ต้องการความรวดเร็ว ไม่นิยมใช้คิกดาวน์ เพราะคิกดาวน์ กำลังมันตก เนื่องจากพอมันเร่งได้รอบแล้วเกียร์มันเปลี่ยนเป็นเกียร์สูงขึ้น
ในจังหวะที่เรายังไม่ต้องการ เลยกด over drive เอา แล้วลากรอบเร่งแซงขึ้นไป พอได้ที่ก็กดปลด
อีกกรณีคือใช้ตอนขับลงเขาสูง ๆ เป็น engine break ครับ
-
เคยขับแค่รถ 4-5เกียร์ ถ้ารถวิ่งที่เกียร์สูงสุดอยู่แล้ว ไม่ต่างเลยกันครับ มันไม่ได้ลงไปถึง2เกียร์แน่นอน(เคยลง2เกียร์แต่ตอนนั้นกดเกือบจม) แต่ถ้ารถ 6-8เกียร์ O/D+kickdown คงดีกว่า น่าจะลงไป2เกียร์
ส่วนถ้าตอนออกตัวหรือจากความเร็วต่ำๆผมว่า O/D ดีกว่าครับ
คิดแบบบ้านๆ มันจะเอากำลัง/จำนวนเกียร์ที่มีครับ ยิ่งเกียร์มีน้อย รอบเครื่องต่อการเปลี่ยนเกียร์จะสูงขึ้น
แต่ผมว่า ecu ในรถปัจจุบันมันฉลาดแล้วนะ ทำให้แทบไม่ต่างกันครับ มันคำนวนพฤติกรรมได้ ถ้าเหยียบลึก มันสามารถเปลี่ยนเกียร์ที่รอบสูงๆให้เอง โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
ตอนออกตัวความเร็วต่ำๆ ไม่ว่าจะ O/D หรือไม่
เท่าเจอมารถรุ่นเก่าๆจะไม่ต่างครับ
เพราะเกียร์สุดท้ายยังไม่ได้เข้ามาเกี่ยว
(http://www.Po-40.com/pic/shift_pattern.jpg)
ในรถยุคที่ยังนิยมใช้ O/D ส่วนมากกล่องยังไม่ค่อยซับซ้อน
ตรรกะในการในการเลือกจุดเปลี่ยนเกียร์ขึ้น
จะไม่ต่างกัน การลากรอบได้สูงหรือไม่นั้นก็จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับ ปุ่ม O/D
ถ้าจะลากรอบได้มากขึ้่น น่าจะเป็นปุ่ม Power Mode มากกว่านะครับ
ว่าแต่รถใหม่ที่มีหลายๆเกียร์ ยังมีปุ่ม O/D อยู่ไหมครับ ผมไม่มีโอกาสได้ลองขับ
เพราะถ้ามี manual override ที่โยกหัวเกียร์เล่นได้ หรือมี paddle shift
น่าจะไม่มีปุ่ม O/D แล้วนะครับ ท่านใดทราบรบกวนขอข้อมูลด้วยครับ ;D
-
ปกติผมใช้ over drive ในสองกรณีครับ
คือใช้เร่งแซง ที่ต้องการความรวดเร็ว ไม่นิยมใช้คิกดาวน์ เพราะคิกดาวน์ กำลังมันตก เนื่องจากพอมันเร่งได้รอบแล้วเกียร์มันเปลี่ยนเป็นเกียร์สูงขึ้น
ในจังหวะที่เรายังไม่ต้องการ เลยกด over drive เอา แล้วลากรอบเร่งแซงขึ้นไป พอได้ที่ก็กดปลด
อีกกรณีคือใช้ตอนขับลงเขาสูง ๆ เป็น engine break ครับ
ใช้แบบเดียวกันเลยครับ กดkick down มันต้องรอ แต่กด OD แล้วรถผมมันสั่งไวกว่า และก้ใช้เป็น engine brake เหมือนกันครับ แค่ไม่ใด้ใช้บนเขา แต่ผมใช้ในเมือง บนทางด่วน แถวๆ กทม เนี่ยแหละครับ พอดีรถผมไม่มี ABS เลยต้องใช้เครื่องช่วยเบรกในบางครั้ง
-
ผมกดปิด OD ตอนแซงให้มันลงมาเกียร์3 ลากรอบไปจนแซงได้แล้วก็กดเปิด OD เหมือนเดิมครับ เพราะรถเก่าบางรุ่นกว่าจะ kick downให้ ต้องกดคันเร่งลึกมากเกินครึ่ง แล้วกว่าจะเปลี่ยนเกีบร์ลงให้ช้าไม่ทันกินครับ
-
ปกติผมใช้ over drive ในสองกรณีครับ
คือใช้เร่งแซง ที่ต้องการความรวดเร็ว ไม่นิยมใช้คิกดาวน์ เพราะคิกดาวน์ กำลังมันตก เนื่องจากพอมันเร่งได้รอบแล้วเกียร์มันเปลี่ยนเป็นเกียร์สูงขึ้น
ในจังหวะที่เรายังไม่ต้องการ เลยกด over drive เอา แล้วลากรอบเร่งแซงขึ้นไป พอได้ที่ก็กดปลด
อีกกรณีคือใช้ตอนขับลงเขาสูง ๆ เป็น engine break ครับ
ใช้แบบเดียวกันเลยครับ กดkick down มันต้องรอ แต่กด OD แล้วรถผมมันสั่งไวกว่า และก้ใช้เป็น engine brake เหมือนกันครับ แค่ไม่ใด้ใช้บนเขา แต่ผมใช้ในเมือง บนทางด่วน แถวๆ กทม เนี่ยแหละครับ พอดีรถผมไม่มี ABS เลยต้องใช้เครื่องช่วยเบรกในบางครั้ง
ผมก็ใช้อย่างนี้เหมือนกันครับ
B-14 อายุ 18 ปี
-
รถผม kickdown แล้วรำคาญเสียงมัน อื้อไปแป๊บกว่าจะรู้ว่ากรูต้องเร่งแซงนะ เลยไม่ใช่
ดีสุดคือกด ECT ค้างไว้เลย เวลาจะแซงแบบกระทันหันแล้วตบมาเกียร์ 3 เอา รถผม camry 2.0 ครับ
ปล. กำลังจะหากล่องหลอกคันเร่งไฟฟ้ามาใช้ จะได้ลดไอ้อาการสมองกลคิดช้าเวลาแซง คำตอบนี้ผมว่าน่าจะดีสุดแล้วในงบ 5 พัน
-
ผมว่าแล้วแต่การใช้งานนะครับ ก็ตามที่คนอื่นๆตอบมานะครับ
ตัวผมเองไม่ค่อยใช้ O/D กับ kick down เท่าไรครับ
ผมจะตบเกียร์ลงเองตลอดเลยครับ แซงง่ายกว่าเยอะเลยนะครับ
ไม่ต้องรอให้เครื่องมันตัดสินใจแทนว่ากด kick down ไปแล้วจะเลือกเกียร์อะไรให้เรา
ถ้าคุ้นเคยกับรถ รู้ว่าช่วงรอบเครื่องและความเร็วเท่านี้ควรต้องใช้เกียร์อะไรเวลาแซง
มีใครเป็นเหมือนผมบ้างมั้ยหนอ?
-
สรุปคือ OD ใช้ตอนที่เราต้องการให้รถมันคาเกียร์สามเลย ในกรณีที่เราต้องใช้แรงบิดต่อเนื่อง (แซงแล้วเข้าซ้าย แล้วเดี๋ยวแซงเรื่อยๆ)
ส่วน Kick down ใช้จังหวะต้องการกำลังแค่ชั่วคราวครับ เพราะเดี๋ยวมันจะกลับสู่เกียร์สูงสุดเหมือนเดิม
ส่วนตัวใช้คุมคันเร่งเอาครับ กดไปลึกประมาณนึง (บอกไม่ถูก แต่กดถูก) ก็ลดเกียร์นึง ถ้ากดมิดก็ลดสองเกียร์ (ขึ้นอยู่กับความเร็วด้วย) พอชินแล้ว เดี๋ยวรู้เองครับ ผมก็ขับ MT มาตลอดเหมือนกัน พอมาออโต้ ก็ไม่ได้ใช้เวลามากอะไรครับ
มาสด้า 2 นี่ ผมใช้ Hold mode แทน แค่ตอนลงเนินชันเองครับ จะได้ไม่ต้องเหยียบเบรค >_<