Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: GreenG ที่ เมษายน 08, 2013, 17:41:36
-
ผมรู้สึกนะครับ ว่ากระบะ ถ้าไม่ใช่ตัว แคปกับมาตราฐาน มันแพงจังเลย
เพราะนอกจากตัวรถจะแพงแล้ว ยังเจอค่าภาษีป้ายแบบรถเก๋ง
จดป้ายฟ้าก็ต้องระวังภาษี
เจอค่ายางรถใหญ่(เพราะมักจะเป็นตัว ยกสูง หมด)
ล้อใหญ่ๆ ทั้งนั้น
จนบางที การซื้อรถ compact กับกระบะ ถ้าไม่นับน้ำมัน ผมว่า กระบะมันเหมือนจะเปลืองกว่านิดๆ ครับ
เพราะน้ำมันเครื่องก็ใช้เยอะ(แต่มันถูกกว่า งง เหมือนกัน)
คิดอย่างไรกันครับ (ผมไม่เคยใช้กระบะนะครับ แต่ดูคร่าวๆ นะครับ)
-
เสียเท่ารถเก๋งนิครับ พวกเครื่อง3พัน ได้ยินมาว่าปีละ6พัน....
-
แพงครับ โดยเฉพาะยาง
Bridgestone Dueler 684II 112T ผมดูราคาแล้วประมาณ 9,000/เส้น แต่ผมยังไม่ได้เปลี่ยนนะครับ ;D
ภาษีผมเสีย 3,000 กว่าๆ เองนะ ถือว่าถูกมากๆ เครื่อง 2.2L ครับ
-
ใช่ค่ะ ทำไมกระบะ 4 ประตูมันถึงแพง? แล้วทำไมต้องโดนภาษีแบบรถเก๋ง?
ในความคิดของเรา เราว่า รถกระบะ 4 ประตู มีความเป็นรถอเนกประสงค์มากกว่ารถ SUV อีกค่ะ เพราะในเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็น "รถยนต์นั่งที่มีกระบะ" ดังนั้นก็ต้องใช้งานเป็นรถยนต์นั่ง แทนรถเก๋งและ SUV ได้ แต่ก็ใช้บรรทุกของได้ด้วย ส่วนตัวแค็บ ก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่จะเน้นไปทางบรรทุกมากกว่า ส่วนตัวตอนเดียวออกแบบมาใช้สำหรับบรรทุก-งานขนส่งโดยเฉพาะ
แต่ลองไปดูรถ SUV อันนี้ดูจะเป็นไลฟ์สไตล์มากกว่า เพราะคิดว่าความอเนกประสงค์ยังน้อยกว่ากระบะ 4 ประตู เพราะมันเอามาบรรทุกของไม่ได้ คนนั่งได้เยอะกว่า แต่เบาะคู่หลังสุดรู้สึกเหมือนนั่งแค็บกระบะเลย
ตอนนี้พ่อเราก็ใช้ Ford Ranger 3.2 Wildtrak อยู่ค่ะ เวลาออกต่างจังหวัดทีไรก็ขนสัมภาระเต็มกระบะทุกที โดยสารได้เยอะกว่าเพราะนั่งกระบะได้หลายคน แต่ก่อนพ่อเราใช้ Fortuner (คันที่ขายไปเพื่อเอามาซื้อ 3.2 WILDTRAK) ซึ่ง ตอนออกต่างจังหวัดทีไรอึดอัดมาก ยิ่งขากลับนี่บรรทุกของฝากจากญาติๆ กันไม่ไหวเลย
ถ้าได้ไปที่ประเทศออสเตรเลีย จะพบว่า กระบะ 4 ประตูที่นั่นแพงมากค่ะ เพราะภาษีรถกระบะที่นั่นแพงมาก เพราะอย่างที่ว่ามันใช้งานได้อเนกประสงค์จริงๆ ทั้งใช้เป็นรถครอบครัว ขับไปทำงาน รับงาน-ขนของ และที่นั่น ถ้าใครเอารถเก๋งมาติดแร็คเสริมบรรทุกบนหลังคาก็จะผิดกฏหมายด้วยค่ะ
-
จดครั้งแรก8500ครับสำหรับตัว3.0ครับ ส่วน2.5 6500บาทครับ ถ้าCCต่ำลงมาอาจะถูกลงกว่านันครับเวลาเสียภาษีปีต่อมามันลดไป200บาทหละครับตามปีนะครับผม
-
4ประตูจุดประสงค์การใช้งานมันไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์แล้วไงครับ มันกลายเป็นรถบ้านไปแล้ว ก็ต้องเสียภาษีตามกฏเกณฑ์ของรถบ้าน
-
ประเด็นหลักๆคือ
- ค่ายาง
- ค่าประกันภัย
- ค่าซ่อมบำรุง
ค่ายาง
ในรถเก๋ง ยางเกรดธรรมดา รีดน้ำธรรมดาๆ นุ่มใช้ได้ และสมรรถนะพอพึงพาได้
ผมสมมุติว่า คือ ยาง AR10 หรือพวกยางเกรดธรรมดาๆอย่าง Energy ทั้งหลาย
ในรถเก๋ง ล้อ 15 ทั่วๆไป คุณหายางพวกนี้ได้ ในราคาไม่ถึง 3 พันบาท อย่างมากก็ 3,300 บาท ต่อเส้น
(3,300 บาทนี่ ได้ระดับ Primacy LC หรือ S-Drive นะครับ)
แต่ ในรถกระบะ ยางโตๆ คุณจะหายางระดับนี้ได้ ต้องมี 5-6 พันบาทต่อเส้น
ไม่แน่ ยางรถกระบะที่คุณได้ อาจจะเป็นแนว Latitude Tour หรือ Latitude Cross แค่นั้น
ยางรีดน้ำดีๆ สมรรถนะดีๆ ในรถเก๋ง อย่าง PS3 RE002 หรือ Invo
คุณหาได้ เส้นล่ะไม่ถึง 5 พัน ในล้อและสเปคยางที่ไม่ใหญ่เกินไป (ขอบ 15 ราคาราวๆ 3,500 ต่อเส้น)
แต่คุณจะหายางดีๆแบบนี้ในรถกระบะ ต้องข้ามไปเล่น Latitude Sport อย่างเดียว
ซึ่ง... ราคาต่อเส้น แพงหูดับ ครับ
อย่าประมาทว่า เปลี่ยนยางทีนึงใช้ได้หลายปี
ถ้าคุณซื้อรถมาใช้หลายๆปี ระดับ 8 ปีขึ้นไป (เปลี่ยนยาง 2 รอบ)
ึความต่างของค่าใช้จ่าย จะเห็นได้ชัดขึ้น ไหนจะค่าแบต น้ำมันเครื่องหลายๆลิตร น้ำมันเฟืองท้าย
..................
คอมม่อนเรล ที่มีทั้งเทอร์โบ มีหัวฉีด ECUฉลาด มีระบบราง แรงดัน
ทำให้กระบะสมัยนี้ สมรรถนะดีเวอร์ๆ ประหยัดมากๆ ทั้งๆที่เครื่องโต และแบกน้ำหนักตัวถังระดับเกือบ 2 ตัน
แต่ ค่าใช้จ่าย ถ้าเสียขึ้นมาก็...
กลายเป็นว่า รถกระบะ คือรถสำหรับคนรวยไปแล้วล่ะครับ โดยเฉพาะ 4 ประตูยกสูงทั้งหลาย
แต่ ก็ยอมรับในสมรรถนะ และประโยชน์ใช้สอยของเค้าจริงๆนะ
-
มันไม่ใช่รถเพื่อการพานิชย์ไงครับ เครื่องก็ใหญ่ คันก็ใหญ่ คนที่จะซื้อก็เป็นกลุ่มคนพอมีหรือมีเงินแล้ว ไม่ใช่กลุ่มใช้เพื่อขนส่งแต่อย่างใด
-
ราคาขายกระบะ 4 ประตู ไม่แพงหรอกครับ
ลองเทียบ option และสิ่งที่ได้ กับ C-Segment ที่ราคาเท่ากันสิครับ
จะเห็นว่ากระบะ Option เยอะกว่าด้วยซ้ำ
หรือถ้าเห็นว่าราคาสูงไปในตัวท๊อปๆ ลองมองตัวกลางๆหรือตัวล่างก็ได้ครับ
มีให้เลือกรุ่นย่อยอยู่เหมือนกัน เชื่อว่าไม่แพงกว่าถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้รับ
///// แต่ค่าใช้จ่ายหลังจากซื้อรถเห็นด้วยบางอย่าง บางอย่างไม่เห็นด้วยครับ /////
เพราะมันค่อนข้างสูงจริงๆ ในบางรายการ แต่บางรายการก็พอๆกัน
- น้ำมันเครื่อง ใช้จำนวนลิตรมากกว่า
- ค่ายาง ไซส์ใหญ่กว่า แพงกว่า
- ค่าประกันภัย คิดตามมูลค่ารถ คิดว่าอัตราส่วนเท่ากันครับ
- ค่าภาษีประจำปี แพงกว่า
(แพงกว่า 2,000 - 5,000 บาทต่อปี เฉลี่ยต่อเดือนก็แค่ 200 - 400 กว่าบาท)
- ค่าซ่อมบำรุงหลายอย่างแพงกว่า เพราะมันทนทานกว่า กว่าจะถึงระยะเวลา
ที่จะเปลี่ยน น่าจะใช้ได้ยาวนานกว่ารถเก๋งนะครับ เช่น ระบบช่วงล่าง
ก็เฉลี่ยๆแล้ว น่าจะเท่ากันครับ
แต่ในเมื่อเดี๋ยวนี้รถกระบะ 4 ประตูและ PPV กระบะดัดแปลง พัฒนาขึ้นมามาก
ใหญ่ขึ้น ใช้ได้อเนกประสงค์มากขึ้น อยู่ในฐานะรถยนต์นั่ง ไม่ใช่รถเพื่อการพาณิชย์
ก็ต้องประมาณนี้แหละครับค่าใช้จ่าย
แต่ถ้าเน้นการโดยสารจริงๆ ส่วนตัวยังมองว่า รถเก๋งก็ตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ
-
กระบะจริงๆมันคือรถแพงนี่ครับ ราคาที่เป็นอยู่เพราะไม่ได้โดนภาษีเท่าเก๋ง
พอมาคิดอุปกรณ์,อะไหล์บางตัว,รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ มันก็จะแพงกว่าเก๋งในรุ่นที่ราคาใกล้กันครับ
-
แพงกว่าอยู่แล้วครับ
เพราะอัตราภาษีจะเอื้อให้กับรถที่ใช้ขนส่งเชิงพาณิชย์ มากกว่าการใช้ส่วนตัวหรือโดยสารครับ
เพราะคนซื้อกระบะตอนเดียวพื้นที่บรรทุกมากกว่า และส่วนมากซื้อไปเพื่อขนส่ง และบางส่วนที่นำมาใช้ส่วนบุคคลก็จะเป็นคนมีรายได้ไม่มาก
แต่คนซื้อ 4 ประตูมีแนวโน้วว่าจะใช้ในวัตถุประสงค์อื่นมากกว่าการขนส่งเชิงพานิชย์ครับ ยิ่งถ้าเป็น PPV ก็จะยิ่งสูงกว่าเช่นกัน
ซึ่งแบ่งอัตราภาษีอย่างนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องนะแล้วนะครับ ในความคิดของผม
-
แน่นอนครับ PPV นี่อวกเลย
-
ค่าใช้จ่ายของกระบะ4*4 4ประตู คร่าวๆโดยเฉลี่ยนะครับ
เปลี่ยนลูกปืนล้อหน้า5,400-6,000
เปลี่ยนยางเกรดมีมาตรฐานหน่อยครั้งละ32,000
ถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งละ7ลิตร
ค่าประกันฯปีละ17,xxx-19,xxx
ซื้อกระบะสมัยนี้ มีเงิน1ล้านแทบไม่เหลือทอนแล้วครับ แง............
-
ค่าใช้จ่ายของกระบะ4*4 4ประตู คร่าวๆโดยเฉลี่ยนะครับ
เปลี่ยนลูกปืนล้อหน้า5,400-6,000
เปลี่ยนยางเกรดมีมาตรฐานหน่อยครั้งละ32,000
ถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งละ7ลิตร
ค่าประกันฯปีละ17,xxx-19,xxx
ซื้อกระบะสมัยนี้ มีเงิน1ล้านแทบไม่เหลือทอนแล้วครับ แง............
รถอะไรครับทำไมลูกปืนล้อแพงจัง
-
Nissan Navara LE 4*4 4ประตูครับ ลูกปืนล้อหน้า"ข้างละ"5,400
ค่าซ่อมบำรุงเฉลี่ยกม.ละ1บาท