Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: fishfinger ที่ เมษายน 20, 2013, 19:47:37
-
คือ ในฐานะคนที่ไม่เคยไปอยู่เมืองนอก
สงสัยว่า เวลาเราดูโฆษณา ของรถ D segment ของต่างประเทศจะไป style บู้ๆลุยๆ Sport ใช้งานแบบอเนกประสงค์
แต่ทำไม ในเมืองไทยรถ D segment กลายเป็นรถอารมณ์ผู้บริหาร ค่อนไปทางหรูซะงั้นอะครับ
ทั้งที่ความจริงแล้วราคา ทิ้งกับ C seg ไม่มากนัก :) :)
-
D segment ในญี่ปุ่นก็ถือว่าเป้นรถหรูนะครับ
จริงๆ พวก C-segment ก็เริ่มจะเข้าสู่รถระดับภูมิฐานแล้วครับ
-
ต่างอยู่แล้วคับ,,, ไซส์คนเอเชีย กับไซส์ฝรั่ง ก็ต่างกันอยู่แล้ว :-\
-
ถ้าเป็นเมกา เล็กกว่านี้ มันจะดูแคบๆสำหรับเขาครับ
ฟิต ยาริส มาสด้าสอง ก็มี แต่มันหาดูยากกว่าพวก D Segment ครับ
-
อเมริกา D-Segment (Camry, Accord) ถือว่าเป็นรถครอบครัวครับ
แต่ถ้า D-Segment แบบหรูหราขึ้นมาหน่อยประมาณ Camry หรือ Accord บ้านเราก็มีพวก Toyota Avalon, Lexus ES, Acura TL
-
ที่บ้านเขาจะเป็นอย่างน้อยๆก็ C-seg ให่ลูกๆขับ วัยรุ่นต่างๆ
D-seg ที่โน่น ถือว่าเป็นรถที่ครอบครัวขับกันทั่วไป สมัยนี้วัยรุ่นก็เริ่มเอามาขับบ้าง
ตั้งแต่ B-seg ลงไปหายากมากครับ
อีกอย่าง Camry ที่โน่นรถเบสิกมาก ภายในธรรมดา ไม่มีลายไม้ เทาๆอย่างเดียว ล้อกระทะ
แต่ที่ขายดีจริงๆ ก็จะเป็นพวก MPV SUV แล้วก็ กระบะครับ ที่โน่นเน้นอเนกประสงค์มากกว่าภาพลักษณ์ครับ
ขนาดรถกระบะ SUV ยังทำซะหรูเลย
เคยนั่ง Jeep Grand Cherokee ทีนึงตอนอยู่อเมริกาครับ ราคาเริ่มต้น ประมาณรุ่นรองท็อป CRV ที่โน่น แต่ตัวถังมาขนาดประมาณ Fortuner ใหญ่กว่าหน่อย
ภายในนี่หรูมากครับ แบบงงเลยว่านี่ SUV นะไม่ใช่รถเก๋ง
ประมาณว่าที่โน่นเน้นพวกรถอเนกประสงค์เนี่ยแหละครับ มีตั้งแต่ถูกๆยันหรูๆ
-
อเมริกา เน้น คุ้มค่า ไม่เน้นภาพลักษณ์
D seg vs Premium compact ยังไงก็ D seg ถูกกว่า ใหญ่กว่า คุ้มค่ากว่า
ไทย อีโก้สูง หน้าตามาก่อน
D seg vs Premium compact เพิ่มอีกนิดก็ได้ premiumแล้ว หรูหรา ดูดี ยามรู็จัก ไปไหนใครๆก็คิดว่ารวย
ตัวรถมันดีกว่าในทุกๆด้านอยู่แล้วอันนั้นมันจริง แต่จะมีสักกี่คนที่คิดถึงมุมนั้นจริงๆ(ผมยอมรับว่าผมไม่ใช่หนึ่งในนั้น) ;D ;D ;D
ปล.เวลาพูดถึง D seg ทีไร เสียงผู้หญิงที่ร้องท่อน "ความรักเอย เจ้าลอยลมมาหรือไร มาดลจิต มาดลใจเสน่หา"
มันติดหูจริงๆครับ :D :D :D
-
ผมเห็นในยุโรปด้านเหนือชอบขับรถคันใหญ่กันครับ อย่างรัสเซียเครื่อง1500 ลงไปหาแทบไม่ได้ ปกติ 1800++ ทั้งนั้น
-
D Segment ที่เมกา = รถครอบครัวครับ
แถว California น้อยมากที่เห็นวัยรุ่นหรือ young couple ที่จะออกรถใหม่เป็น Accord (ส่วน Accord Coupe นี้อีกเรื่องน่ะครับ)
และ Accord, Camry ก็ไม่ได้เป็นคู่แข่งจอง 3 หรือ C ด้วยคับ
-
D-segment ที่นู่น ก็รถบ้านธรรมดาๆ เหมือนกับเราขับ Altis ครับ เพราะที่นู่นทางไกล รถเล็กมีเหนื่อยครับ
10 กว่าปีที่แล้ว บ้านผมไปเที่ยว ก็เช่า Taurus ขับครับ
ส่วนญี่ปุ่น D-Segment ถือว่าค่อนข้างหรูแล้ว เพราะคนที่นู่นใช้รถเล็ก อย่าง Honda ปัจจุบันที่ไม่มี Legend แล้ว Accord ถือเป็น flagship sedan ของ Honda ไปแล้วครับ
แต่จริงๆ รถที่จะเรียกได้ว่า เป็นรถผู้บริหารจริงๆ น่าจะเป็นระดับ Mark-X, Teana, Accord ขึ้นไปครับ
-
ในอเมริกา ภาษีรถเขาไม่แพงเหมือนไทยน่ะค่ะ แล้วที่โน่น รถตลาดส่วนใหญ่ใช้เครื่องใหญ่ๆ แรงๆ กันทั้งนั้น อย่างรถกระบะ เครื่องต่ำกว่า 3.0 นี่หาไม่ได้เลย เราเองเคยมีโอกาสได้ไปลองนั่ง Ford F-150 ของญาติที่จังหวัดหนองคาย ปรากฏว่า หรูมากค่ะ พอๆ กับ Benz E-Class เลย
แต่เชื่อไหมว่ารถรุ่นนี้ในอเมริกาน่ะ คนใช้ส่วนใหญ่เขาเป็นชาวนาชาวไร่
-
ตามที่คุณ Minny บอกเลยครับ
ที่โน่นมีแต่เครื่องใหญ่เท่านั้น
D-seg ไม่มี 2.0 มีตั้งแต่ 2.4-2.5 ขึ้นไปครับ
BMW ที่โน่น เริ่มตั้นที่ 328i ในขณะที่ยุโรปมี 316i
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาไม่ชอบเครื่องดีเซล ปั้มที่มีดีเซลยังต้องหาเลยครับ ปิคอัพ SUV ต่างๆที่โน่นไม่ลง 2.2 2.5 บลาๆ ที่เป็นดีเซลหรอกครับ มีแต่ 3.0เบนซินขึ้นไป
(ดีเซลจริงๆก็มี แต่เห็นน้อยมากกกก น่าจะพอๆกับที่ผมเห็น Supercar ในกรุงเทพเลยละ อาจจะน้อยกว่าอีก)
เค้าชอบเครื่องใหญ่เพราะ มันขับสบายกว่า ที่โน่นบางคนขับไฮเวย์ติดกัน 2-3คืนข้ามประเทศ จอดนอนตามจุดพักรถ แล้วถ้าใช้เครื่องเล็กต้องมาลุ้น มาเหยียบตอนแซงนี่เหนื่อยตายพอดีครับ
อีกอย่างคือ ส่วนใหญ่ประเทศเขาก็ไม่ได้เป็นเมืองใหญ่แบบ นิวยอร์ก แอลเอ คนก็อยู่แบบสบายๆครับ เสาร์ตกปลา ลากเรือไป ลองคิดดูว่าถ้าเอาเครื่องเล็กไปลากเนี่ย คงไม่ถึง
-
ตามที่ทุกคนบอกเลยครับ แต่เครื่องยนต์ เช่น 2.0 (เขาถือว่าค่อนข้างเล็ก)กัอแรงเช่นกัน
เพราะน้ำมันเขาสะอาดกว่าบ้านเราในระดับหนึ่งครับส่งผมให้เครื่องแรงขึ้นอีก
นอกประเด็นไปมาก ;D
D-seg ความรู้สึกเหมือนขับ altis บ้านเรา
พวกรถที่หรู(ที่จะมีคนเหลียวมอง)ของเขาคือระดับ s-class ขึ้นไปเลยครับ และก้อพวก x6
Bentley RR AUDI MAYBACH CADILLAC ประมาณนี้ครับ
นอกนั้น เขาเฉยๆ ผมเห็น HUMMER H3 ผมตาลุกวาวแต่คนอื่น บอกว่า ตื่นเต้นอะไรเหรอ
แค่... ดอลลาร์ เอง ผมตีเงินไทยประมา เจ็ดแสนกว่าๆครับ
อ่อถึงรุ้ว่ามันไม่ได้แพงอย่างเมืองไทยนี่เอง
-
ตามที่ทุกคนบอกเลยครับ แต่เครื่องยนต์ เช่น 2.0 (เขาถือว่าค่อนข้างเล็ก)กัอแรงเช่นกัน
เพราะน้ำมันเขาสะอาดกว่าบ้านเราในระดับหนึ่งครับส่งผมให้เครื่องแรงขึ้นอีก
นอกประเด็นไปมาก ;D
D-seg ความรู้สึกเหมือนขับ altis บ้านเรา
พวกรถที่หรู(ที่จะมีคนเหลียวมอง)ของเขาคือระดับ s-class ขึ้นไปเลยครับ และก้อพวก x6
Bentley RR AUDI MAYBACH CADILLAC ประมาณนี้ครับ
นอกนั้น เขาเฉยๆ ผมเห็น HUMMER H3 ผมตาลุกวาวแต่คนอื่น บอกว่า ตื่นเต้นอะไรเหรอ
แค่... ดอลลาร์ เอง ผมตีเงินไทยประมา เจ็ดแสนกว่าๆครับ
อ่อถึงรุ้ว่ามันไม่ได้แพงอย่างเมืองไทยนี่เอง
ครับ ที่โน่นรถถูกมากกกกก เคยเข้าไปกดดูเล่นๆ แคมรี่ไฮบริดจัดเต็ม มูนรูฟ, JBL, Blind Spot, อุ่นตูด เป่าตูด, keyless+รีโมทสตาร์ท
ราคา 1 ล้านบาท มีเศษอีก400กว่าๆ อันนี้รวม VAT เมืองที่ผมเคยอยู่แล้วนะครับ 7.5% หรือไงเนี่ยแหละ
ยี่ห้ออื่นก็ใกล้เคียงครับ เคยลองคิดๆดู บ้านเราจะราคา ประมาณ 230% จากบ้านเค้า
-
ปล.เวลาพูดถึง D seg ทีไร เสียงผู้หญิงที่ร้องท่อน "ความรักเอย เจ้าลอยลมมาหรือไร มาดลจิต มาดลใจเสน่หา"
มันติดหูจริงๆครับ :D :D :D
จริงครับ ติดหูมาก ;)