Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: bluefox101 ที่ เมษายน 22, 2013, 23:50:00
-
จากกระทู้ก่อนหน้านี้ที่ผมพูดถึง "รอยขีดข่วนจากการถูกนิ้วเขียนเล่นบนฝากระโปรงขณะรถมีฝุ่น"
ตอนแรกก็กะจะไม่โพสรูปอะไร แต่เปลี่ยนใจมาโพสรูปเพิ่มเติม เพราะเห็นว่ามีหลายความเห็นที่
มีข้อสงสัย เกี่ยวกับรอยข่วนและการเคลือบแก้ว หรือบางท่านอาจจะอยากเห็นว่ารอยที่ผมเจอมานั้น
มันมากน้อยแค่ไหน (ส่วนผมเคลือบยี่ห้อไหน ไม่ขอเอ่ยถึงแล้วนะครับ เพราะมีพูดไปแล้ว
ในกระทู้ก่อนหน้านี้) และคิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์ สำหรับกับบางท่านในการประกอบการพิจารณา เผื่อกำลังสนใจจะไปเคลือบครับ
(http://i1298.photobucket.com/albums/ag50/bluefox101/IMG_0264_zps256028a0.jpg) (http://s1298.photobucket.com/user/bluefox101/media/IMG_0264_zps256028a0.jpg.html)
รูปนี้จะเบลอ ๆ นิดหน่อย
(http://i1298.photobucket.com/albums/ag50/bluefox101/IMG_0263_zps8f92b7a9.jpg) (http://s1298.photobucket.com/user/bluefox101/media/IMG_0263_zps8f92b7a9.jpg.html)
รูปนี้จะเห็นรอยค่อนข้างชัด
(http://i1298.photobucket.com/albums/ag50/bluefox101/IMG_0262_zps6d3573d6.jpg) (http://s1298.photobucket.com/user/bluefox101/media/IMG_0262_zps6d3573d6.jpg.html)
รูปทั้งหมดที่โพสนี้ ถ่ายด้วยมือถือ หลังจากล้างรถใหม่ ๆ เลยครับ (1 ชม. หลังจากที่เห็นรอยนิ้วมือเขียนเล่น) และรูปอาจจะดูยาก หรือไม่ค่อยชัด เพราะหลังจากล้างเสร็จตัวฝากระโปรงรถมันค่อน
ข้างสะท้อนแสง แต่ถ้ามองด้วยตาเปล่า อันนี้จะชัดกว่าในรูปเยอะมากครับ
ทั้งนี้ผมไม่มีเจตนาที่จะ ดิสเครดิต ร้านเคลือบแก้ว ร้านใดร้านหนึ่ง และคงไม่ออกความเห็นว่า มันปกป้องผิวรถได้ดี สมความคาดหวัง หรือว่าคุ้มค่าหรือไม่
เพราะความคาดหวังและความคุ้มค่าของแต่ละคนคงไม่เท่ากัน และสถานการณ์ที่แต่ละคนเจอก็อาจจะแตกต่างกัน อย่างของรถผม
ผมเจอฝุ่นก่อสร้างถนนเป็นระยะทาง 8 กม. ทุกวัน เช้า-เย็น ซึ่งฝุ่นที่เจอ ก็เป็นฝุ่นดิน ฝุ่นทรายเป็นหลัก
ซึ่งอาจจะมีความคมในตัวของมันเองมากกว่าฝุ่นทั่วไปในเมืองก็เป็นได้
ตัวผมเองก็เลยบอกไม่ได้ว่าเหมือนกันว่า ระดับฝุ่นที่ผมเจอนั้น มันเกินระดับการปกป้องไปแล้วหรือยัง หรือผมเองก็ไม่รู้ว่า ถ้ารถไม่ได้เคลือบรอยข่วนจะลึกกว่านี้หรือไม่ ดังนั้นขอให้ใช้วิจารณญาณ
ส่วนบุคคล พิจารณากันเองครับ
-
ขอให้มันเป็นรอยที่ layer แก้วแล้วกันครับ ขัดก้อออก ภาวนาอย่าให้ถึงชั้นสีของรถ ;)
-
ไม่ค่อยทราบเรื่องเคลือบแก้วมากนัก แต่ที่เห็น ถ้าเคลือบแก้วจริงก็ไม่น่ามีปัญหา
ไปหาร้านลองขัดเอา เคลือบอาจจะบางลง แต่ก็หาตัวเคลือบหรือ wax ธรรมดามาน่าจะอยู่
รอเข้า 6เดือน ค่อยให้เขาเสริมเคลือบแก้วใหม่ก็จบครับ
ปล. ขอให้รถกลับมาหล่อๆเหมือนเดิมนะครับ
-
สอบถามเป็นข้อมูลหน่อยครับว่า หลังจากที่เกิดเรื่องแล้วได้เอารถไปล้างนี้ ล้างแบบเฉยๆ หรือว่าล้างแบบเคลือบสีธรรมดาเพิ่มมาด้วย
คือ ผมจะเอามาเป็นข้อมูลเรื่องเคลือบแก้วนะครับ พอดีเห็นว่าถ้าเคลือบแก้วแล้ว ไม่ต้องเคลือบอีกเลย แล้วอีก 6 เดือนก้อเอาไปเข้าทรีตเมนต์
แต่ว่าผมเป็นคนชอบเคลือบสีรถบ่อยๆ แบบชอบรถเงาๆ ที่นี้สมมุติว่าไปเคลือบแก้ว แล้วเรามาเคลือบธรรมดาทับแบบนี้จะได้มั้ย หรือจะเกิดอะไรขึ้นแบบนี้
ขอบคุณมากครับ
-
แล้วสรุปเอาไงกับพนักงานครับ
-
ดูจากรูปแล้ว นายมือบอนคนนั้นคงจะมือหนักพอตัวนะครับ ขนาดเคลือบแก้วยังเอาไม่อยู่
มีทางเดียวคือ ต้องไปลองคุยกับทางร้านที่เคลือบว่าพอจะทำอะไรได้ไหม
-
เท่าที่ดูจากรูปผมว่าขัดออกนะครับ เคยโดนแมวข่วนเข้าเนื้อลึกกว่าในรูปก็ขัดออกมาเนียนเลยครับ
-
เท่าที่ดูรูปบอกตามตรง ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายสืบสวนเอฟบีไอแกะภาพก่อน เพราะภาพเบลอมาก ไม่รู้ว่าลึกแค่ไหน น่าจะลองเอาน้ำยาลบรอยมาลองขัดดู ^_0
-
ตอบคำถามจากหลาย ๆ คห. นะครับ
ตามรูปนั้น เป็นล้างรถแบบ "ธรรมดา" ครับ เพราะจะล้างเพื่อที่จะสำรวจดูรอยครับ และรอยข่วนเหล่านี้จากที่ดูแล้ว มันก็ไม่ได้เข้าไปลึกมากครับ
แต่มันลึกกว่ารอยขนแมวทั่ว ๆ ไปตามปกติ เพราะตามลักษณะรอยที่เกิดมันเป็น "ปื้น ๆ" ไม่ใช่ เส้นบาง ๆ อย่างขนแมวปกติ และถ้าเอารถไปขัด
เพื่อลบรอยนั้นทำได้ครับ แต่เป็นการแลกกับชั้นเคลือบที่จะ "บางลง" ครับ เท่ากับว่า เคลือบแก้วที่ผมทำมาไม่ถึง 2 เดือนจะต้องมาบางลง
เร็วกว่าที่ควรจะเป็น เพราะความมือบอนของคนบางคนนั่นเอง
หลังจากที่ล้างเสร็จ คนล้างเองก็เห็นรอยข่วนพวกนี้ เลยเสนอที่จะลอง ลง cleaner เพื่อลบรอย (แต่คนล้างบอกว่ามันคือการ "กลบ" รอยมากกว่า เพราะไม่ได้ลบรอย
อะไรออก รอยยังอยู่เหมือนเดิม แต่เห็นได้ยากขึ้น) จากนั้นก็ลองเอา wax มาลงบาง ๆ โดยใช้ผ้าเช็ดเบา ๆ (ไม่ได้ใช้เครื่องขัด) ก็สามารถกลบรอยไปได้เยอะพอสมควร
ซึ่งผมคงจะให้ทางร้านเคลือบแก้วของผม ทำการขัดสีให้ใหม่ ตอนไปทำ ทรีตเม้นต์ ในอีก 5 เดือนข้างหน้าครับ
-
สอบถามเป็นข้อมูลหน่อยครับว่า หลังจากที่เกิดเรื่องแล้วได้เอารถไปล้างนี้ ล้างแบบเฉยๆ หรือว่าล้างแบบเคลือบสีธรรมดาเพิ่มมาด้วย
คือ ผมจะเอามาเป็นข้อมูลเรื่องเคลือบแก้วนะครับ พอดีเห็นว่าถ้าเคลือบแก้วแล้ว ไม่ต้องเคลือบอีกเลย แล้วอีก 6 เดือนก้อเอาไปเข้าทรีตเมนต์
แต่ว่าผมเป็นคนชอบเคลือบสีรถบ่อยๆ แบบชอบรถเงาๆ ที่นี้สมมุติว่าไปเคลือบแก้ว แล้วเรามาเคลือบธรรมดาทับแบบนี้จะได้มั้ย หรือจะเกิดอะไรขึ้นแบบนี้
ขอบคุณมากครับ
ตอบให้เป็นข้อมูลนะครับ ตอนเกิดเรื่องผมล้างธรรมดาครับ ไม่เคลือบสีใด ๆ แต่มีการลง cleaner และ wax บาง ๆ เพื่อลบรอยนิดหน่อยครับ ทีนี้ ที่ถามว่า
ถ้าเคลือบแก้วแล้ว ไม่ต้องเคลือบสีอีกเลยนั้น ผมขอตอบตามที่ได้ฟังจากคนขายมาละกันครับว่า
หลังเคลือบแล้ว สามารถล้างรถด้วยแชมพูได้ ลง wax ได้ แต่ควรต้องเลือกยี่ห้อ หรือส่วนผสม ที่ไม่กัดผิวเคลือบ ซึ่งตรงส่วนนี้
เค้าไม่ได้ระบุยี่ห้อหรือรุ่นอะไรมาเป็นพิเศษครับ ถ้าจะลง wax ทีหลัง อาจจะต้องลองถามกับทางร้านที่จะทำก่อนจะดีกว่าครับ เพื่อเป็นการยืนยัน
และจากการสังเกตของผมนะครับ ผมว่า เคลือบแก้วแล้วรถมันไม่ได้เงาอะไรมากมายเลย จริง ๆ โดยส่วนตัวผมว่ามันก็ไม่ได้เงาต่างอะไรกับสีรถเดิม ๆ เลยด้วยซ้ำ (อยากจะบอกว่า
ผมก็นั่งมอง รถ Ferrari สองคันที่จอดโชว์อยู่ ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเงาวิ๊ง ๆ อะไรนะ) ดังนั้นโดยความเห็นส่วนตัว ถ้าคุณตั้งใจจะเคลือบแก้วเพื่อให้รถเงา ทดแทน WAX อันนี้คุณ
อาจผิดหวังได้ (ยี่ห้ออื่นผมไม่รู้นะ แต่ยี่ห้อที่ผมไปทำ ผมว่ามันไม่เงาอะไรเท่าไหร่) ถ้าชอบเงา ๆ สีฉ่ำ ๆ อันนี้ WAX ปกติน่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ และ
ถ้าคุณชอบลง WAX รถบ่อย ๆ เป็นปกติอยู่แล้ว เคลือบแก้วนี่ผมว่าไม่จำเป็นแต่อย่างใดครับ
-
แม่มกดเต็มนิ้วเลย
รอยถึงเป็นขนาดนี้
น่าตัดมือมันทิ้งจริงๆ >:(
-
ถ้าจำไม่ผิด CTS สามารถเคลมได้ 1 ชิ้นนะครับ(ยุคที่ผมทำมา)
เพราะรอยแบบนี้คงต้องขัดออกครับ ซึ่งนั่นจะทำให้ Coating หลุดแน่นอน ไม่ใช่แค่บางครับ
ผมว่าส่งรถเข้า CTS แล้วให้เขาประเมินสถานการณ์ให้ดีกว่าครับ ถ้าขัดออก ก็ให้เขา Coat ให้ใหม่ครับ
โดยใช้สิทธิ์รับประกันของเราเนี่ยแหละ แบบนี้น่าจะดีกว่าครับ เพราะการเอารถไป Maintenance ทุกๆ 6 เดือน
CTS จะแค่ล้างน้ำแร่(ตามที่ CTS อ้าง) แค่นั้นแล้วจบครับ รอยไม่หายแ่น่นอน
-
เคลือบแก้วก็แค่เคลือบให้เงาครับ
รอยขีดข่วนป้องกันไม่ได้
ผมโง่มาคนนึงแล้วที่เชื่อว่ามันป้องกันรอยขีดข่วนได้
อุตส่าห์เสียเงินไปตั้งสี่ห้าหมื่น
คือเฟอรารี่ ปอร์เช่ที่มันเอามาโฆษณา มันชุปเซรามิกมาจากโรงงาน สีแข็งแรงอยู่แล้วครับ
แต่รถหรูหรือรถธรรมดาโดนน้ิวเขียนตอนเป็นฝุ่น ยังงัยก็เป็นรอยครับ
-
เคลือบแก้วมันไม่ได้ทำให้เงาขึ้นเลยนะคับ ผมพยายามบอกไปหลายครั้งแล้ว ไอ้ที่เห็นว่าเงาลื่นเพราะเค้าลงเคลือบสีอีกทีซึ่งจะเป็นของยี่ห้ออะไรมันก็เงาทั้งนั้น เพราะเป็นรถใหม่ป้ายแดง ซึ่งจริงๆไม่ควรทำด้วยหลังเคลือบแก้วควรจะทิ้งรถไว้อย่างน้อย 24ชม. ก่อนเอาไปขับหรือเคลือบสี แต่ร้านนี้เห็นบอกว่ามีห้องอบให้แห้งก็พอโออยูคับ ส่วนเคสนี้ต้องขัดรอยออกเท่านั้นคับ ถ้าลึกมากกินไปถึงชั้นแลคเกอร์สีเดิมยังไงก็ไม่ออก เพราะมันจะกินไปถึงชั้นสี รถที่เคลือบแก้วไปแล้ว จะมาเมนเทแนนเคลือบซ้ำมันไม่มีจริงหรอกคับ เพราะมันต้องขัดของเก่าทิ้งไปก่อน ถึงจะลงใหม่ได้ น้ำยาเคลือบแก้วที่ผสมกันแล้ว ส่วนมากจะเก็บไว้ได้ไม่นาน ทีนี้ร้านเค้าจะยอมทำให้ใหม่รึเปล่ากับฝากระโปรงชิ้นเดียวเนี่ย ผมไม่ค่อยจะเชื่อหรอกคับ เคยจี้ถามไปหลายที่แล้วก็อ้ำๆอึ้งๆ แค่นี้ก็จับไต๋ได้แล้วคับ
-
ปรับเงินเจ้าพนักงานมือบอนคนนั้นเลยค่ะ หักไปเรื่อยๆ แล้วเอาเงินมาซื้อฝากระโปรงใหม่ใส่ไปเลย อิอิ
-
เป็นผม จะให้ option ครับ ว่าให้ทำงานต่อครับ แต่เนื่องจากสร้างความเสียหาย จึงหักเงินเดือน เดือนละ 2000
หรือจะเลือกลาออกไปเอง ก็ได้
-
เป็นผม จะให้ option ครับ ว่าให้ทำงานต่อครับ แต่เนื่องจากสร้างความเสียหาย จึงหักเงินเดือน เดือนละ 2000
หรือจะเลือกลาออกไปเอง ก็ได้
จากที่ทำงานห่วยอยู่แล้วเกรงว่าจะยิ่งสร้างความเสียหายให้กับองค์กรมากขึ้นไปอีกหน่ะสิ เนื้อไหนร้ายต้องตัดทิ้งครับแล้วจากกระทู้ก่อนแสดงว่าทำงานห่วย ขาดงานบ่อย มีปัญหาพฤติกรรมทั้งเพื่อนในแผนกและนอกแผนกต่อให้ไม่มีเรื่องนี้ก็ไม่ผ่านการทดลองงานอยู่ดี ใครจะใจดีรับเข้าทำงานก็เอาเลยแต่เป็นผมผมไล่ออกไปนานแล้วอิงจากกระทู้ก่อนหน้านะครับ
ก็จะเข้ามา update เป็นครั้งสุดท้ายแล้วล่ะครับ (ตัวกระทู้เองก็เริ่มเลื่อนตกหน้าไปบ้างแล้ว) ครับอย่างที่หลาย ๆ คห.แนะนำ และที่ผมเองก็ได้แจ้งไปว่า จะเรียกเจ้าตัวเข้า
มาเคลียร์ โดยก่อนที่จะเรียกตัวเข้ามาสอบสวนนั้น ผมได้ทำการเช็คประวัติการทำงาน กับทางแผนกบุคคลก่อน เผื่อต้องพิจารณเรื่องกฎหมายแรงงาน ที่เกี่ยวข้องด้วย
คำตอบที่ได้จาก แผนกบุคคล คือ "ถึงผมยังไม่ให้ออกจากงานตอนนี้ อีกไม่กี่วันก็ออกอยู่ดี" ด้วย พฤติกรรมของเจ้าตัว ที่ทำมาตลอด เกือบ 4 เดือนนั้น ทางบุคคล
ก็จะไม่เอาไว้ครับ เพราะว่า เจ้าตัวเข้าทำงาน สัปดาห์สุดท้ายของ ธ.ค. 2555 ดังนั้น อาทิตย์นี้ ก็จะครบ 4 เดือน (120 วัน) ซึ่งทางบุคคลจะทำการแจ้ง
"ไม่ผ่านทดลองงาน" อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าเจ้าตัวจะเป็นผู้ที่มือบอนหรือไม่ก็ตาม บริษัทฯ ก็จะไม่จ้างต่อแน่นอน ดังนั้นกรณีรถของผม อย่างมากก็เป็นแค่ "ฟางเส้นสุดท้าย"
เท่านั้น
เมื่อได้ฟังจากแผนกบุคคลดังนี้ เมื่อผมเรียกตัวเข้ามาคุย ผมจึงเก็บเรื่องของรถผมเอาไว้ก่อน แล้วเริ่มชี้แจงด้วย จำนวนวันที่ขาดงานมากเกิน, การแต่งตัวผิดระเบียบ,
รายงานพฤติกรรมจากเพื่อนร่วมงาน ทั้งในแผนก และต่างแผนก และสรุปด้วยการแจ้งให้ทราบว่า "ไม่ผ่านทดลองงาน พรุ่งนี้ไม่ต้องมาแล้ว" เป็นอันจบบทสนทนา
ซึ่งหลังจากให้พนักงานคนดังกล่าวออกจากงาน ก็มีเสียงสะท้อนกลับมาว่า "เหมาะแล้ว", "ควรแล้ว" เพราะหลายต่อหลายคนค่อนข้างจะเอือมระอา กับพฤติกรรมของ
พนักงานคนนี้ ซึ่งยังไม่นับรวมกับที่ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ บางคนที่เคยเจอกับคำพูดท้าทาย "ก็แล้วไงล่ะ" และพฤติกรรมล่าสุดเมื่อปลายอาทิตย์ที่
ผ่านมา ที่ไปยืนสูบบุหรี่ พ่นใส่กลุ่มพนักงานหญิง ทำให้มีปากเสียงกับพนักงานหญิงกลุ่มนั้น
จากเรื่อง ๆ นี้ ทำให้ผมคิดได้ข้อหนึ่งคือ ผมอาจจะใจดีเกินไป ไม่เด็ดขาด ปล่อยให้คนแบบนี้อยู่ในองค์กรนานเกินไป ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการปกครองในระยะยาวได้
ครับ สำหรับเรื่องพนักงานมือบอน ก็เป็นอันจบไปครับ
ไหนๆก็เกิดเรื่องนี้แล้วอยากให้ จขกท ลองพิจารณาดูนะครับว่าผิดพลาดเรื่องการปกครองอะไรยังไงจะได้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น เป็นระดับเจ้าของกิจการแล้วต้องมองการณ์ไกลหน่อยยิ่งมากคนระบบก็ต้องยิ่งดีไม่งั้นวุ่นวายแทนที่จะเอาเวลาไปทำงานกลับต้องมาคอยแก้ปัญหาภายในไหนจะเหนื่อยจะเครียดอีก
-
อ่านทั้งสองกระทู้ ชอบบทสรุปครับ ให้ไม่พ้นโปร และให้ข้อคิดว่า พวกเปรี้ยวๆ ปล่อยไว้นานก็เสียระบบ ครับ อ่านแล้วชอบแง่คิดเจ้าของกระทู้ และความเห็นหลายๆ ท่านครับ
เรื่องเคลือบแก้ว ผมเข้าใจว่า การที่เอาไปทำแล้วรถเงาขึ้น เพราะ เค้าไม่ได้เคลือบอย่างเดียว ทางร้านน่าจะทำ pcs คือขัดทำความสะอาดและชักเงาผิวรถ ก่อน จากนั้นจึงเคลือบครับ นั่นน่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้เงาขึ้นครับ ไม่ได้เกี่ยวเฉพาะชั้นเคลือบ ส่วนเรื่องปกป้อง ดูจากรอยแล้ว ผมว่า เจ้าตัวแสบก็คงกดเต็มนิ้วเลยหล่ะ ฝุ่นไม่หนามาก คงเปรี้ยว กลัวคนอ่านจะเห็นไม่ชัด ..
ส่วนหนึ่งเรื่องเคลือบ ที่เถึยงกันนักหนา อาจมาจากโฆษณาของทางร้านเอง แต่ผมว่า อีกส่วนก็มาจาก ลูกค้าบางส่วนที่ไปทำมาแล้ว ก็ต้องคุยกันไปว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ ตามประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป ผมว่า ไม่ต้องรอถึง 5 เดือนหรอกครับ ลองเข้าไปที่ร้านให้เค้าประเมินดู ผมว่า ร้านเองเค้าน่าจะมีอะไรรองรับ เรื่องแบบนี้อยู่แล้วครับ
ส่วนตัวผมไม่ได้เคลือบนะครับ เพราะพอมีเวลาล้างเอง ลง wax เอง
-
แสดงว่าเป็นเพราะเคลือบแก้วใช่มั้ยครับถึงจะเป็นรอยแบบนี้ เพราะ นี่ผมลองเองที่บ้านถูยังไงมันก็ไม่เป็นรอย เพราะผมไม่ได้เคลือบแก้วเลยไม่เป็นใช่มั้ยครับ นึกว่าจะช่วยป้องกันซะอีก
-
เคลือบมานานรึยังครับ จขกท เพราะถ้ายังไม่นาน เคยได้ยินมาว่าน้ำยาเคลือบต้องใช้เวลาเซตตัว7วัน-30วันเลยนะครับ กว่าจะอยู่ตัว
-
อ่านแล้วเริ่มงง ตกลงการเคลือบแก้วที่ฮิตๆกันนี่มันช่วยอะไรหรอครับ ถ้ามันไม่ได้เงาขึ้นแล้วแถมโดนขีดเหมือนจขกท.แล้วเป็นรอยอีก
แล้วจะจ่ายเพงไปเพือ? :-\
ดีนะเนี่ยมาอ่านก่อน ว่าจะเอาไปทำตอนได้รถ
-
ลึกขนาดนี้คงไม่ใช่เขียนรถเล่นจากฝุ่นแล้วครับ ผมเขียนรถตัวเองเล่น ลากเบาๆให้อ่านได้ รอยมันหายไปตามฝุ่นตอนล้าง
แต่ มันเหมือนกันเอานิ้วสากๆกดแรงๆเหมือนจิ้มเขียนหนังสือบนพื้นทรายเลยครับ ไม่ต่างจากโดนโรคจิตขูดรถเลย
ยังไงก็ขอให้หมดปัญหาไวๆแล้วกันครับ
-
ของผมก็เคลือบมาครับ
ตอนนี้ 6เดือน ล้างรถที่ร้านเฉลี่ยเดือนละ2ครั้ง ล้างสีดูดฝุ่นอย่างเดียว
โดยส่วนตัวผมรถสีดำเลยเห็นความเงาขึ้นชัดเจน รอยขนแมวจากการล้างรถพอเอาไฟส่องไม่มีเป็นวงๆครับ แต่มีเป็นเส้นยาวๆน่าจะเป็นเศษหินโดนตอนขับ
ขี้จิ้งจก ยางไม้ แป้งสงกรานต์ ทิ้งไว้2-3วันแล้วล้างออกไม่มีคราบทิ้งไว้ครับ ถ้ามีฝุ่นก็ใช้ไม้ปัดฝุ่นปัดออกเอง
ผมว่าตัวน้ำยาเคลือบน่าจะมีส่วนให้เกิดความต่างนะครับ เท่าที่ทราบมาหลักๆจะมีของเยอรมันกับญี่ปุ่น แต่ละร้านก็จะมีสูตรต่างออกไปอีก
ส่วนตัวของผมที่ทำมาคุณภาพโอเคครับ
-
ลองคุยกับคุณแคท CTS ดูก่อนก็ได้นะครับ ผมว่ารอยนิดหน่อยแค่นี้ ให้ royalty กันดีกว่า
-
มือหนักใช่เล่น
คงขีดเขียนด้วยความแค้นแน่เลย
-
อ่านแล้วเริ่มงง ตกลงการเคลือบแก้วที่ฮิตๆกันนี่มันช่วยอะไรหรอครับ ถ้ามันไม่ได้เงาขึ้นแล้วแถมโดนขีดเหมือนจขกท.แล้วเป็นรอยอีก
แล้วจะจ่ายเพงไปเพือ? :-\
ดีนะเนี่ยมาอ่านก่อน ว่าจะเอาไปทำตอนได้รถ
ตามที่เห็นทดสอบตามมอเตอโชว์ คือ เคลือบแก้วแล้วจะป้องกันสีรถจากรอยขีดข่วนทั่วไป น้ำจะไม่เกาะตัว คือเวลาโดนน้ำฝนไรพวกนี้ น้ำจะไม่เกาะกับตัวรถ จะไหลออก และเท่าที่เห็นคือตัวรถจะเงากว่าแต่ก่อน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเคลือบแก้วหรือเป็นเพราะที่ขัดสีมา
ถ้ารถที่วิ่งตามต่างจังหวัด ถนนไม่เรียบฝุ่นเยอะ เวลาขับๆไปแล้วก้อนหินเล็กๆกระเด็นจากคันหน้ามาโดนรถที่เคลือบแก้ว สีก็จะไม่เป็นอะไร แต่อาจจะเป็นรอยบุบแทน ส่วนรถที่ไม่ได้เคลือบแก้วก็สีอาจจะร่อนและตัวถังบุบ ต่างกันตรงที่ป้องกันสีรถแค่นั้นเอง ส่วนเรื่องทำให้เงานานกว่าเดิมอันนี้ไม่ชัวครับ
เคสนี้มาแปลกตรงที่สีมีรอยขีดข่วนทั้งทีเคลือบแก้วแล้ว คนเลยสงสัยเยอะ
-
สอบถามเป็นข้อมูลหน่อยครับว่า หลังจากที่เกิดเรื่องแล้วได้เอารถไปล้างนี้ ล้างแบบเฉยๆ หรือว่าล้างแบบเคลือบสีธรรมดาเพิ่มมาด้วย
คือ ผมจะเอามาเป็นข้อมูลเรื่องเคลือบแก้วนะครับ พอดีเห็นว่าถ้าเคลือบแก้วแล้ว ไม่ต้องเคลือบอีกเลย แล้วอีก 6 เดือนก้อเอาไปเข้าทรีตเมนต์
แต่ว่าผมเป็นคนชอบเคลือบสีรถบ่อยๆ แบบชอบรถเงาๆ ที่นี้สมมุติว่าไปเคลือบแก้ว แล้วเรามาเคลือบธรรมดาทับแบบนี้จะได้มั้ย หรือจะเกิดอะไรขึ้นแบบนี้
ขอบคุณมากครับ
ตอบให้เป็นข้อมูลนะครับ ตอนเกิดเรื่องผมล้างธรรมดาครับ ไม่เคลือบสีใด ๆ แต่มีการลง cleaner และ wax บาง ๆ เพื่อลบรอยนิดหน่อยครับ ทีนี้ ที่ถามว่า
ถ้าเคลือบแก้วแล้ว ไม่ต้องเคลือบสีอีกเลยนั้น ผมขอตอบตามที่ได้ฟังจากคนขายมาละกันครับว่า
หลังเคลือบแล้ว สามารถล้างรถด้วยแชมพูได้ ลง wax ได้ แต่ควรต้องเลือกยี่ห้อ หรือส่วนผสม ที่ไม่กัดผิวเคลือบ ซึ่งตรงส่วนนี้
เค้าไม่ได้ระบุยี่ห้อหรือรุ่นอะไรมาเป็นพิเศษครับ ถ้าจะลง wax ทีหลัง อาจจะต้องลองถามกับทางร้านที่จะทำก่อนจะดีกว่าครับ เพื่อเป็นการยืนยัน
และจากการสังเกตของผมนะครับ ผมว่า เคลือบแก้วแล้วรถมันไม่ได้เงาอะไรมากมายเลย จริง ๆ โดยส่วนตัวผมว่ามันก็ไม่ได้เงาต่างอะไรกับสีรถเดิม ๆ เลยด้วยซ้ำ (อยากจะบอกว่า
ผมก็นั่งมอง รถ Ferrari สองคันที่จอดโชว์อยู่ ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเงาวิ๊ง ๆ อะไรนะ) ดังนั้นโดยความเห็นส่วนตัว ถ้าคุณตั้งใจจะเคลือบแก้วเพื่อให้รถเงา ทดแทน WAX อันนี้คุณ
อาจผิดหวังได้ (ยี่ห้ออื่นผมไม่รู้นะ แต่ยี่ห้อที่ผมไปทำ ผมว่ามันไม่เงาอะไรเท่าไหร่) ถ้าชอบเงา ๆ สีฉ่ำ ๆ อันนี้ WAX ปกติน่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับ และ
ถ้าคุณชอบลง WAX รถบ่อย ๆ เป็นปกติอยู่แล้ว เคลือบแก้วนี่ผมว่าไม่จำเป็นแต่อย่างใดครับ
ขอบคุณมากเลยครับ
-
โห ใช่เล่นนะเนี่ย
ขอให้หายมาหล่อไวๆนะครับ เห็นใจจริงๆ