Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: EG-5182 ที่ เมษายน 27, 2013, 21:58:48
-
เป็นการทดสอบแบบบ้านๆ นะครับ
รายละเอียดรถ
รถที่ทดสอบเป็นรถผมเองคับ Jazz GE MT เลขไมล์ 123,xxx
เกียร์ MT เครื่องเดิมสนิท
น้ำมันเครื่อง SUNOCO 0W-30 วิ่งมา 3000 กว่าโล
H-Drive หน้า-หลัง เบอร์ 9
ลมยางหน้า 32 หลัง 30
ล้อ RPF1 15 เบาๆ ยาง RE002 195-55-15
พักปลายใบเดียว 2 นิ้วเดินถึงหน้าแปลนเดิม
น้ำหนักบรรทุกรวมคนขับ ประมาณ 90 โล เบาะครบ ยางอะไ่หล่ครบ ไม่ลดน้ำหนัก
น้ำมันบางจาก โซฮอล์ 95 3/4 ถัง
การทดสอบ
ลองทั้งหมด 7 RUN ถ่ายมาได้ 3 คลิป ปิดแอร์ตลอดการทดสอบ
เลือกคลิปมาเฉพาะที่ออกตัวใกล้เคียงกันมากที่สุด
อาจไม่ 100% นะครับ เพราะวิ่งถนนหลวงนี่เลย ปัจจัยแวดล้อมมันเยอะมาก พยายาม Safe ที่สุดครับ
เริ่มจากกรองเดิม Standard โรงงาน ระยะวิ่ง 3000 โล ฝุ่นจับน้อยมาก มองผ่านแสงทะลุเลยครับ รูปอาจไม่มีนะครับ ไม่ได้ถ่ายไว้
สถานที่ตอนเช้า วงแหวนตะวันออก ระหว่าง คลองหลวง มุ่งหน้า ต่างระดับ บางปะอิน
อุณหภูมิขณะทดสอบ ในท่อร่วมไอดี ดูจาก V-Checker อยู่ระหว่าง 38-40
รอบการออกตัว 2000 นิดๆ ยกครัช แล้วเดินคันเร่งเต็ม
สับเกียร์ 6800 ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=RKfZ54PPhtw&feature=youtu.be (https://www.youtube.com/watch?v=RKfZ54PPhtw&feature=youtu.be)
0 - 100 8.5
0 - 120 11.9
0 - 140 16.3
0 - 160 22.6
0 - 180 32.7
0 - 195 53.6 (คลิปนี้ขึ้นเนินช่วงท้ายครับ เวลาดรอปไปนิดหน่อย)
อัตราเร่งช่วงต่างๆ
80 - 120 6.5
100 - 160 13.5
0 - 100 8.5 (จากหน้าจอ V-Checker)
0 - 400M. 16.4 (จากหน้าจอ V-Checker)
ถัดมาเป็นกรอง K&N สภาพใหม่กริ๊ป เพิ่งแกะห่อ เนื้อกรองดูโปร่งแสงมากกว่าเดิมถ้าส่องกับแสง แสงผ่านมากกว่ากรองเดิมแบบชัดเจน
ตัวกรองเตี้ยกว่ากรองเดิม แต่การเรียงผ้าเป็นระเบียบดีมาก
สถานที่ตอนตอนกลางคืน 5 ทุ่มกว่า เส้นเลียบรันเวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิ ฝั่งมุ่งหน้าถนนบางนา-ตราด
อุณหภูมิขณะทดสอบ ในท่อร่วมไอดี ดูจาก V-Checker อยู่ระหว่าง 36-38
รอบการออกตัว 2000 นิดๆ ยกครัช แล้วเดินคันเร่งเต็ม
สับเกียร์ 6800 ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=09ac320-ETQ (https://www.youtube.com/watch?v=09ac320-ETQ)
0 - 100 8.3
0 - 120 11.9
0 - 140 16.1
0 - 160 22.4
0 - 180 33.3
0 - 195 53.1
อัตราเร่งช่วงต่างๆ
80 - 120 6.2
100 - 160 13.6
0 - 100 8.2 (จากหน้าจอ V-Checker)
0 - 400M. 16.2 (จากหน้าจอ V-Checker)
***เศษทศนิยมเสี้ยววินาที ไม่อยากให้สนใจครับ มันไม่มีนัยสำคัญมาก***
บทสรุปนะครับ
กรอง K&N แบบแผ่น ไม่ได้วิ่งดีกว่ากรองกระดาษ Standard โรงงานครับ
ไส้กรองเดิม Standard อากาศผ่านเพียงพอสำหรับรถเครื่องเดิม ที่ไม่ได้ผ่านการโมดิฟาย
กรองแผ่น K&N อาจเหมาะกับรถที่ผ่านการทำฝา หรือ แคมฯ ที่ต้องการเรียกอากาศเข้าเยอะมากกว่าเดิม มากกว่าครับ เพราะดูโปร่งกว่าจริง
กรองแผ่น K&N โหงวเฮ้ง น่าจะดีกว่า กรอง Standard ตอนกรอง Standard เริ่มตันแล้ว
ถ้ากรอง K&N วิ่งไม่แตกต่างจาก กรองเดิม Standard ผมใส่ของ Standard ครับ เพราะดูแล้ว กรอง Standard น่าจะกรองฝุ่นได้ดีกว่ากรองเดิม
ปัจจัยหลักๆ ผมว่าคืออุณหภูมิอากาศครับ
ลองวิ่งตอนกลางวัน (อุณหภูมิท่อร่วมไอดี 49-51 องศา) กับตอนกลางคืน (อุณภูมิในท่อร่วมไอดี 36-38)
0 - 100 กลางวันมี 9.5 กลางคืน เหลือ 8.2
100 - 160 กลางวันมี 15.5 กลางคืน เหลือ 13.5
***สรุปผิดตรงไหนก็อย่าว่ากันครับ Factor มันเยอะ ถ่ายเอง ขับเอง ทำเอง มันได้แค่นี้ เวลามีจำกัดด้วย***
แถมอีกคลิป อันนี้เก็บไว้นานแล้ว เป็นคลิปที่ใส่กรองเดิมนะครับ ผมมาสังเกตุ ช่วงเกิน 180 ขึ้นไปแล้ว มีอยู่ครั้งนึง วิ่งจนตัดที่ 195 ในเวลา 46 วินาที
https://www.youtube.com/watch?v=qG1DUBIifxI (https://www.youtube.com/watch?v=qG1DUBIifxI)
สังเกตุเอาเองว่า เคยทำได้ครั้งเดียว ซึ่งผมว่ามันน่าจะมีปัจจัย เรื่องกระแสลมมาช่วย ทำให้เวลามันดูดีเว่อร์
เฉลี่ยๆ ลองหลายครั้ง วิ่งยันตัด 195 จะใช้เวลาแถวๆ 52 - 53 -54 วินาที ตลอด
ตอนนี้กรอง K&N มีคนใจดี มารับต่อไปแล้วครับ (ซื้อมาเพื่อการทดลองจริงๆ) 555
จบการทดลองครับ
-
ชอบการ Review ละเอียดดีครับ ตอนยังไม่ได้เปิดดู Clip คิดว่าต้องใช้ขาตั้งกล้องแน่นอนเพราะเป็นเกียร์ MT แต่พอเปิดดูคลิปแล้วเล่นเอางงไปเลย ;D
-
ขอบคุณครับ เป็นผมทำไม่ได้แน่ ๆ รายละเอียดเยอะมาก ๆ
-
ขอบคุณคับ
ผมใส่อยู่พอดีเลย แต่ให้ได้ซัก 5000 กิโล ก่อนเด๋วถอดออกล่ะคับ โดนคนรอบตัวขู่ไว้เยอะเหลือเกิน :'(
-
ขอบคุณครับ จริงๆแบบแผ่น ประโยชน์หลักของมันคือไม่ต้องเปลี่ยน ลดการสร้างขยะให้โลกเท่านั้นล่ะครับ
แต่ตอนคันเก่าใส่ ลองทำอัตราเร่งดูก็ดีขึ้นนิดเดียวนะ ส่วนความรู้สึก รู้ว่าใส่มันเลยคิดว่าแรงขึ้นครับ
-
เรื่องอุณหภูมิของอากาศ ผมก็เคยอ่านเจอในหนังสือที่เกี่ยวกับแต่งรถของสำนักต่างๆในญี่ปุ่น เขาบอกว่ามันมีผลพอสมควรครับ คือ อุณหภูมิสูงขึ้น 1 อาศา จะทำให้พลังลดลง 0.8 แรงม้า เขาจึงทำกล่องกรองอากาศด้วยคาร์บอนขนาดใหญ่เพื่อให้อากาศที่เครื่องยนต์ดูดไปใช้เย็นลง
-
ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่านะครับ กรองแผ่น K&N เคยใช้ในรถตัวเองมาแล้วทั้ง 2 คัน ( Civic ES / Accord G8 2.4 ) มันจะให้ความรู้สึกที่ดีช่วงออกตัวน่ะครับ รู้สึกได้เลยแต่ไม่มากมายนักครับ พอเราปรับตัวได้สักพักก็เฉยๆแล้ว เหมาะกับรถเกียร์ A/T นะครับ เพราะชอบอั้นๆ
ที่สำคัญเลย มันจะแจ่มมากที่สุดตอนที่ซื้อแกะห่อครั้งแรก พอใช้ไป 5000-8000 โลแล้ว เอามาล้างทำความสะอาดแล้วพ่นน้ำมันเคลือบ(สีแดงๆ) จะรู้สึกว่าวิ่งได้ไม่ดีเท่าเดิม (กลัวว่าจะพ่นหนาไป น้อยไป) ก็แปลกดีครับ
-
โหพึ่งรู้ว่ามีรถราคาไม่แพงเครื่องเดิมๆแรงขนาดเบนซ์ บีเอม แบบนี้ด้วย อัตราเร่งต่างกับเกียร์ATมากๆเลยสุดยอดจริงๆ คันต่อไปต้องมองบ้างซะแล้ว จะได้ไม่ต้องมองหาแต่เทอโบ ;D
-
0-100 8 วิกว่า :o :o
-
การทดสอบ พอจะอนุมาน ได้ว่า กรองวิศวกรโรงงาน กับ กรองสำนักแต่ง ไม่ค่อยต่างกันนัก
เนื่องจาก
ปัจจัย ตัวแปร เกี่ยวข้องมากมาย อย่างที่เจ้าของกระทู้กล่าวไว้ครับ
โดยเฉพาะ ทดลองด้วยรถเกียร์ MT เนี่ย คนขับเปลี่ยนคน ก็ได้เวลาต่างกันแล้ว
ส่วนเรื่อง ทดสอบตอนกลางวัน-ตอนกลางคืน, กระแสลม, อากาศร้อน-เย็น ก็ยิ่งให้ผลที่มีความแตกต่างทั้งสิ้น
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
-
ตามนั้นคับ มันไม่ได้ช่วยไรมากมายเลย Sunoco ยังจะเห็นผลมากกว่า
-
ถ้ากรองเดิมสามารถให้อากาศผ่านได้เพียงพอจากการเคลื่อนที่ขึ้นลงของลูกสูบในการดูดอากาศของเครื่องยนต์นั้นๆ
การใส่กรองที่อนุญาตให้อากาศผ่านได้สะดวกขึ้นก็ไม่มีความจำเป็นใดๆครับ เหมือนคนกินข้าว ต่อให้เอาช้อนคันใหญ่
ตักข้าวได้เยอะกว่ายัดเข้าไป ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเพราะปากเราก็รับได้พอดีคำเท่าเดิม ข้อเสียของกรองอากาศแบบเคลือบ
น้ำยา หรือน้ำมัน มันมีแน่นอนครับ ตรรกะง่าย ในเมื่อมันโล่งมากขึ้นหมายความว่ารูกรองอากาศหรือถ้าเทียบง่ายๆคือแห
ที่มันตาห่างขึ้น โอกาสที่ฝุ่นเล็ดลอดก็มากขึ้น มันจึงจำเป็นต้องเคลือบน้ำมันเพื่อจับฝุ่นแทน เมื่อนานๆเข้าน้ำมันพวกนี้
จะหลุดเข้าไปในเครื่องแต่เครื่องคงไม่มีปัญหา ปัญหาจะเกิดกับรถที่ใช้ระบบการวัดอากาศแบบHotwire ก็คือแอร์โฟลว์มิเตอร์
ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์ซึ่งอยู่ต่อจากกรองอากาศน้ำมันหรือน้ำยาจะถูกหลุดเข้าเคลือบขดลวดHotwire ซึ่งเวลาที่เราดับกุญแจ
พวกนี้จะมีระบบself cleaning คือขดลวดจะร้อนหลายร้อยองศาใน1/1000วินาที ทำให้น้ำยาที่ไปเกาะมันมีโอกาสแห้งติดกับขดลวด
เมื่อนานๆเข้า มันก็จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่แอร์โฟลว์มิเตอร์ แล้วบังเอิญเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้มีราคาค่าตัวที่สูงลิบลิ่วในรถยุโรปว่ากัน
ตัวละหมื่นถึงหลายหมื่นบาท ก็ควรพิจารณาก่อนจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยครับ
-
ปิดแอร์หรือเปิดแอร์วิ่งครับ?
เวลาดีจริงๆ
-
ด้านบน
ไม่อ่านเลยเหรอครับ มีแต่จะถาม :D
-
สำหรับผมแล้วใช้ K&N ทุกคัน ไม่ได้ต้องการให้แรงขึ้น แต่มันทำความสะอาดบ่อยได้ เห็นสกปรกนิดหน่อยก็ล้างได้สะอาดเหมือนใหม่
แต่กรองกระดาษพอสกปรกแล้วเป่ามันก็สกปรกอยู่ดีแค่สกปรกน้อยลง ทำให้สมรรถนะได้ไม่เต็มร้อย ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์มันก็ลดลงไปตาม ยิ่งรอ10000โลเปลี่ยนทีแทบบจะตันแล้ว
-
ผมว่าปัจจัยอากาศ มีผลมากกว่ากรองอีกครับ เคยขับ air intake ประมาณ 39-43 รถมีแรงกำลังดี
พอกลับต่างจังหวัดช่วง ร้อนจัดๆทีผ่านมา air intake เพิ่มเป็น 54-59 ขับที่ 120-140 เท่ากัน
รถแทบไม่มีแรงเลยครับ
-
เขียนละเอียดดีครับ
ผมซื้อมาลองใส่ดูเหมือนกัน ใส่กับ Vw Passat CC 2.0TSI สิ่งที่รู้สึกคือ Turbo Lag ในช่วงความเร็วต่ำได้น้อยลงกว่าเดิม นอกนั้นเฉยๆหมด
-
Iat มีผลเยอะมากๆแน่นอนครับ ข้อมูลในกล่องสั่งจ่ายองศาไฟต่างกันตา iatครับ