Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: YIM ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 14:14:31

หัวข้อ: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 14:14:31
สมัยก่อน นอกจาก Corona/Camry, Accord, Teana/Cefiro/Bluebird แล้ว เรายังมีรถอย่าง Galant, 626, Modeo/Sierra และอื่นๆ อีกหลายรุ่นใน segment นี้ แต่ทำไมเจ้าอื่นนอกจาก Toyota, Honda, Nissan ถึงได้ยื้อตลาดนี้เอาไว้ไม่ได้ครับ

และอีกคำถามคือ สมัยก่อน ทำไมคนซื้อรถญี่ปุ่นคันใหญ่ๆ กันได้ อย่าง Crown, Cressida, Cedric แต่ตอนนี้ คนกลับไม่นิยมรถแบบนี้แล้วครับ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JONNY ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 14:26:57
เมื่อก่อนภาษีนำเข้ายังถูกครับ สามารถนำเข้าราคาไม่แพงมาก ทุกวันนี้ถ้าอยู่ได้ ต้องผลิตในประเทศ และภูมิภาคในประเทศFTA เห็นแต่รถเยอรมันหละครับ ตั้งแต่อตีด-ปัจจุบัน ที่อยู่ได้ ก็แบรนด์ เขาก้าวพ้นเป็นพรีเมี่ยมแบรด์ ใครๆก็อยากขับ
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 14:31:13
สภาพเศรฐกิจมั้งครับ เมื่อก่อนที่ยังไม่มีปัญหาเศรฐกิจปัญหาการเมืองคนไทยมีรายได้กันสูงๆทั้งนั้น ในเมืี่อมีเง้นเหลือเฟือการจะมีรถโตๆก็ไม่แปลกอะไร ดต่ในตอนนี้เศรฐกิจระดับโลกซบเซาบ้านเราก็ขาดคนบริหารที่มีความสามารถ ทุกอย่างราคาแพงราาน้ำมันมีแต่ขึ้นอย่างเดียวก็เลยหันมาดูรถเล็กๆระดับอึโคคาร์กันหมด ยิ่งส่วนใญ่ของคนไทยไม่ได้มีรายได้มากมายขนาดจะใช้รถใหญ่ได้ตลาดรถใหญ่เลยต้องปิดตัวไป เมื่อก่อนธนาคารเนี่ยดอกเบี้ยระดับ10%กันทั้งนั้น หากมีเงินเก็บในธนาคารสูงก็อยู่ได้สบายๆ ผ่านมาสิบปีหน่อยๆดอกเบี้ยแม่มหดเหลือไม่เกิน2%นานๆๆๆๆทีจะออกสัก3-4%มาให้พร้อมกับเงินไขฝากระยะยาว ธนาคารอ้างว่าสภาพเศรษกิจไม่ดีทำให้ต้องปรับลดดอกเบี้ยลงใตขณะที่ภาษีคงทึ่เท่าเดิม แต่กำไรรายปีธนาคารไม่ยักลดลงอู้ฟู่เหมือนเดิม แต่ลูกค้าเงินหดกันถ้วนหน้ารอวันประกาศลดดอกเบึ้ย รุ่นลูกรุ่นหลานคงหดเหลือ0.5%เป็นมาตรฐานกันแล้ว  :P บ๊ะนอกเรืี่องไปไกลเลย  :P
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: HOMY_DEMIO ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 14:38:39
ถ้า D-Segment ที่ไม่ใช่ Toyota,Honda,Nissan ก็คงเกิดจากตัวเองเสียมากกว่าครับ
บริษัทตัวแทนในไทยอาจจะมองความจำเป็นในด้านการลงทุนและการค้นหากำไร
หรืออาจติดปัญหาด้านต้นทุนในเจเนเรชั่นถัดไป
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: hutzero ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 15:23:52
อีกสาเหตุก็เหมือนกับรุ่นอื่นๆทั่วๆไป  คือ "ขายได้น้อย  ก็เลยต้องเลิกขายไป"
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 15:31:51
ผู้บริหารไม่ดี ford Renault Holden Opel Seat
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 16:35:58
เขาพากันฆ่าตัวตายครับ เหมือนเป็ดพากันเดินตกเหวอ่ะ
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 17:09:24
ผมอยากเห็น sub D มากกว่านะครับ

ถ้ามาสด้าเป็น Sub D ราคาไม่ถึง D ตัวจริงๆ แต่กึ่ง และได้ภาพลักษณ์ ก็น่าสนใจนะครับ ;)
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: valensena ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 19:42:38
Sub-D Segment หรือที่เรียกกันว่า CD-Segment ใช่มั้ยครับ

ที่มันตายจากเมืองไทยเพราะตอนนี้เมืองไทยนิยม DVD-Segment กับ Bluray-Segment มากกว่าครับ

หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 20:56:05
Sub-D Segment หรือที่เรียกกันว่า CD-Segment ใช่มั้ยครับ

ที่มันตายจากเมืองไทยเพราะตอนนี้เมืองไทยนิยม DVD-Segment กับ Bluray-Segment มากกว่าครับ


สุดยอด ไปไกลถึงบลูเรละ

แต่ซับดี ก็น่าจะนับครูซได้มั้งครับ สองสามวันก่อนเห็นหนังสือพิมพ์ของบริษัทสองภาษาเอามาเทียบกับแคมรี่ แอคคอร์ด อยู่เลย
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 20:56:40
น้ำมันแพงครับ   ;D เมื่อตอนนั้นเบนซิลธรรมดาลิตรละ 12-15 บาท ส่วนดีเซลถ้าจะไม่ผิดราคาจี้ตูดกันเลย ส่วนปัจจุบัน แพงxxหาย
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nlight ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 21:18:07
ผมว่าตัวโตกว่า D-Seg ตายเพราะ น้ำมันแพงขึ้น(มากกก)
Sub-D ตายเพราะ บริษัทฆ่าเองเพื่อจะได้ขาย D มากขึ้น
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: golf8023 ที่ พฤษภาคม 15, 2013, 22:43:36
เอาที่ผมจำได้นะ บางคันหายไปในช่วงฟองสบู่แตกปี40
MitsubushiเคยมีGalantขายในบ้านเราเมื่อหลายสิบปีก่อน รูปทรงภูมิฐาน สวยงามในสายตาเด็กๆอย่างผม จนรุ่นสุดท้ายGalant Ultima ผมเห็นครั้งแรกฟินมาก ซีดานอะไรสปอร์ตได้ใจ มีเครื่องV6ให้เลือกอีกต่างหาก ยอดขายก็ไม่เลวนักแต่ขายสู้Accord Coronaสมัยั้นไม่ได้ เพราะราคาขายค่อนข้างแพง ตัวTopราคาแตะล้าน แถมกินน้ำมัน ภายในก็ดันนั่งไม่สบายอีก พอหมดยุคUltimaก็ไม่เอามาขายอีกจนถึงวันนี้
Mazdaเคยมี626ขาย เทคโนโลยีอะไรๆก็เหนือกว่าชาวบ้าน พอมาถึงยุค626 Cronos ประกอบนอกทั้งคัน รูปร่างสวยได้ใจ มีทั้ง4ประตู5ประตู ยอดขายก็ไม่เลว แต่ตัวรถดันเล็กกว่าAccord Coronaนิดนึง ราคากลับไปแพงกว่าเจ้าตลาด หลังๆเลยขายไม่ค่อยออก จนถึง626รุ่นสุดท้ายในบ้านเรา หน้าตาออกแนวอนุรักษ์นิยม ดูไม่เฟี้ยวเหมือนCronos ราคาขายก็แพงกว่าชาวบ้าน สรุปคือ626รุ่นสุดท้ายขายแทบไม่ได้ ตั้งแต่มันออกมาจนถึงวันนี้สิบกว่าปีแล้ว ผมเห็นบนถนนไม่เกิน5ครั้ง ถือเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในD-SegmentของMazda มันเลยหยุดอยู่แค่นั้น
Bluebirdรุ่นสุดท้ายในบ้านเราเป็นรถประกอบนอก สยามนิสสันเอามาขายแบบไม่ตั้งใจขายมากกว่า ตัวTopราคาแตะล้าน แล้วใคมันจะไปซื้อ หลายคนไปมองDseg.ที่ใหญ่และราคาย่อมเยากว่า
Ford Modeo(หรือMondeo) ผมเพิ่งจำได้เนี่ยว่ามีขายในบ้านเราด้วย ราคาขายตอนนั้นจำไม่ได้แล้ว แต่หน้าตาไม่ถูกใจคนไทย ประกอบกับภาพลักษณ์Fordตอนนั้นคืออะไหล่และค่าบำรุงรักษาแพงมาก เลยไม่ได้รับความนิยม แล้วก็หายไปจากตลาด

ส่วนนึงที่ทำให้รถดังกล่าวหายไปจากตลาด ก็น่าจะมาจากบริษัทขายรถเหล่านั้นผิดพลาดเรื่องการตลาดเอง ตั้งราคาขายไม่เหมาะสม สภาพเศรษฐกิจในตอนนั้นก็ย่ำแย่ รวมทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ค่ายไหนเอามาขายแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็ไม่สานต่อ ผมเสียดาย626กับGalantมาก ถ้าทำตลาดดีๆต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้เจ้าตลาดมีหนาว

แต่ที่Toyota Honda Nissanยังรักษาตลาดนี้ไว้ได้ ส่วนนึงเป็นเพราะตัวรถเอง ภาพลักษณ์ การทำตลาดที่ต่อเนื่องของบริษัทและการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย
ยุคทีToyotaตัดสินใจเอาCamryมาขายแทนCoronaถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างมาก คิดดูว่าถ้าตอนนั้นเอาCoronaที่หน้าตาเชยๆมาขายมันจะสู้Accordในตอนนั้นได้อย่างไร Toyotaเลยยังรักษาความเป็นผู้นำในตลาดนี้ไว้ได้
ส่วนHondaนี่ทำAccordจนกลายเป็นตำนานใบ้านเราไปแล้ว ตัวรถพัฒนาไปเรื่อย ใหญ่ขึ้น หรูหราขึ้น
Nissanในยุคนึงก็เปลี่ยนจากCefiroหน้าตาเฟี้ยวๆกลายเป็นCefiroที่ดูหรูหรา ชราขึ้นเป็นกอง แต่ก็ขายได้ ขายดีด้วย จนเปลี่ยนมาเป็นTeanaในปัจจุบัน ภาพลัดษณ์ความหรูหราก็ยังคงติดตัวมาจนถึงวันนี้

หวังว่า626จะกลับมาขายในบ้านเราอีก  ;D
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: choomodify ที่ พฤษภาคม 16, 2013, 13:18:37
พฤติกรรมการใช้รถเปลี่ยนไปตามกาลเวลาครับ ไม่ได้เป็นแค่บ้านเรา แต่มันเป็น ทั่วโลก เลย
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ พฤษภาคม 16, 2013, 18:06:42
หรืออีกนัยหนึ่ง เป็นเพราะ ในปัจจุบัน รถที่มีขนาดพอเหมาะกับคนไทย คือ C-Segment หรือเปล่าครับ

บางทีผมก็สงสัยเหมือนกันว่า เราพอใจกับขนาดของรถที่เราขับกันอยู่แค่ไหน
หัวข้อ: Re: รถ D-Segment/Sub-D Segment ในอดีตตายจากเมืองไทยไปเพราะอะไรครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gumpzgear ที่ พฤษภาคม 17, 2013, 07:26:52
ที่ผมคิดนะครับ
ตลาดนี้เหมาะกับภาพลักษณ์ภูมิฐานมากกว่าภาพลักษณ์สปอร์ต เราจึงเห็นรถที่เหลืออยู่ในปัจจุบันเป็นสามค่ายที่เน้นความหรูหรา ที่ตายๆไปก็เป็นแบรนด์ที่เน้นความสปอร์ตอย่างมาสด้า และ มิตซูบิชิ. กำลังรอดูว่า Mazda6 ถ้าออกมาจะไปได้ยาวไหม

อีกข้อผมว่ารถเซกเม้นต์เดินเทียบวันนี้กับสิบห้าปีก่อนมันคนละเรื่องเลย อัลติสคันใหญ่กว่าโคโรน่าสมัยก่อนอีก. พวก C-Segment ในปัจจุบันค่อนข้างตอบโจทย์ได้แล้ว ทั้งเรื่องความสะดวกสบาย การกินน้ำมัน

ผมว่า D-Segment เนี่ย โหดสุดแล้ว