Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: GreenG ที่ มิถุนายน 13, 2013, 11:32:52

หัวข้อ: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มิถุนายน 13, 2013, 11:32:52
มีคนเคยบอกผมว่า รถนะ เป็นทรัพย์สินที่เสื่อมราคาไปเรื่อยๆ ทำไมถึงไม่ซื้อบ้าน หรือ คอนโดละ

แต่ในความคิดผม ผมเองก็มีบ้านอยู่แล้ว และคิดว่า คงไม่แต่งงานหรอก (กลัว ผญ รับไม่ได้ อยู่แบบนี้ดีกว่า กับพ่อแม่ อย่างมากก็ ซื้อปล่อยเช่า ไม่ก็ทำ apartment ดีกว่า)

ผมเองก็ไม่ใช่ชอบอะไร Eco ไปหมดนะครับ (ขอย้ำครับ) :D แต่ผมมองว่า สถานะการณ์ปัจจุบัน ขอประหยัดไว้ก่อน

แต่ จริงๆ ผมยอมรับ ผมชอบอะไรที่หรูหรา ชอบโทนสีเบส ลายไม้ ชอบรถที่ขับแล้ว สงบจิตใจ เงียบ เป็น CVT ช่วงล่างไม่เด้งเวลาขึ้นลูกระนาด วิ่งผ่านเหมือนพรมรูดไปได้เลย

โดยรวมๆ ผมชอบ Sylphy 1.6V วิทยุ USB ครับ และคิดว่าก็ในอนาคต อีกไม่เกินปี ก็น่าจะซื้อได้โดยไม่ลำบาก(ตอนนี้ก็ซื้อได้แล้ว แต่ยังก่อน :D)

และถ้าดิวงานอีกอันได้ ก็น่าจะเป็นธุรกิจได้ ซึ่งผมมีดวงทางด้านนี้อยู่แล้ว(อะไรหลายๆ อย่างมันชักพาผมมาด้านนี้ครับ)  ;) ผมอาจจะซื้อ Accord 2.0 ตัวล่าง หรือ Teana 2.0 ตัวล่าง ได้ครับ

ขอถามหน่อยครับ ใครเคยเอารถเป็นแรงบันดาลใจบ้างครับ และไปได้ถึงฝันกันไหมครับ และเคยโดนใครคัดคานบ้างว่าไม่มีความคิด ไร้สาระบ้าง
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nogia ที่ มิถุนายน 13, 2013, 11:46:21
ไม่ผิดหรอกครับ และผมคิดว่ามันถูกต้องแล้วด้วย ตั้งเป้าแล้วหาวิธีที่จะไปจุดนั้นให้ได้ ผมว่าคนจะประสบความสำเร็จได้ต้องมีจุดหมาย (ความฝัน) แล้วไปหามัน ถ้าล่องลอยไปวันๆ ทำงานไปวันๆ ก็จะมีใช้ไปวันๆ
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: IzzZ ที่ มิถุนายน 13, 2013, 11:52:17
มันก็ดีกว่าไม่มีจุดหมาย

แต่อย่าลืมว่ารถยน์เป็นทรัพย์สินที่เสื่อมมูลค่าอยู่ทุกวันครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: raygun ที่ มิถุนายน 13, 2013, 11:52:57
.
.
.
ไม่เห็นผิดเลยครับ ผมเคยบอกตัวเองถ้าได้เลื่อนตำแหน่ง
จะจัด cla ซักคัน ตอนนี้เลยจัดการไปเรียบร้อย แต่กว่าจะได้รถ
อาจจะได้เลื่อนอีกซักตำแหน่งแล้วก็ได้
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ มิถุนายน 13, 2013, 12:10:20
Top of the line ของ Ferrari ครับ อยากได้ที่สุดละ ;)
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ มิถุนายน 13, 2013, 12:24:48
ถ้ามีแรงบันดาลใจแล้วชีวิตเจริญขึ้นถือว่าเป็นเรื่องดีเลยครับ ไม่ว่าแรงบัลดาลใจนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม ถ้ามันช่วยผลักดันให้คุณก้าวหน้าขึ้น รวยขึ้น ก็ลุยเลยครับ

แต่ผมอยากให้คุณมองอีกมุม ในฐานะที่ผมผ่านจุดที่คุณยืนอยู่มาก่อน

ผมเคยตั้งเป้าว่่าถ้าผมมีรายได้ถึงจุดนึง ผมจะซื้อ d-segment งบ1.5ล้าน
และผมก็ทำได้ตามเป้า ผมซื้อรถมา

แต่สุดท้ายเมื่อผมได้ครอบครองแล้ว มันก็แค่นั้น สุดท้ายเสียดายเงิน เพราะรถมันเกินการใช้งาน เกินความจำเป็น

ผมเคยห่วงภาพลักษณ์ อยากเท่ อยากดูหล่อ อยากขับแคมรี่ แอคคอร์ด ไปไหนก็มั่นใจ
ตอนยังไม่มี ก็ใฝ่ฝันอยากได้มา แต่พอซื้อมาจริงๆ กลับคิดว่าแทนที่ผมจะซื้อรถคันเล็กๆอย่างมาสด้า2 ประหยัดเงินไปอีกเกือบล้าน แต่ผมกลับจ่ายแพงขึ้นอีกเกือบล้าน เพียงเพื่ออยากให้ใครก็ไม่รู้จัก เห็นผมขับd-segment เพื่ออะไรก็ไม่รู้ คนที่มองผมอย่างชื่นชมที่เห็นผมขับรถคันละล้านกว่าบาททั้งที่อายุยังไม่30ดี มันเป็นใครก็ไม่รู้ ทุกอย่างผมทำไปเพื่ออะไร ตอนนี้ก็ได้แต่ถามตัวเอง เพราะผมทำกิจการเองวันๆไม่ได้ไปไหน ขับแค่อยู่ในเมือง ออกต่างจังหวัดปีนึงไม่เกิน3ครั้ง ถ้าไกลก็นั่งเครื่องบิน

ถ้าผมย้อนเวลาได้ ผมจะซื้อรถที่ถูกที่สุดที่เพียงพอ และเหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ขับคันใหญ่ๆจอดยากอีก เทอะทะ แถมเปลืองเงินอีก เหมือนที่วิล สมิท บอกว่า คนส่วนใหญ่ใช้เงินที่เขาหามาอย่างลำบาก ซื้อของที่ไม่ได้จำเป็น เพื่อให้คนที่เขาไม่ได้รู้จักดู

ผมก็ให้ความเห็นอีกมุมนึง ในฐานะที่ผ่านมาก่อน
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dazetos ที่ มิถุนายน 13, 2013, 12:33:41
ไม่ผิดครับ

ผมก็มีเป้าหมายเป็นรถในฝันเหมือนกัน
แต่ผมเก็บอสังหาก่อน ตอนนี้ก็มีหลายที่น่าจะพอเหลือไว้ให้ลูกแล้ว
เป้าต่อไปก็รถละครับ แต่ของผมเป็นรถเก่าใกล้จะคลาสสิกแล้ว
ทำให้มีแต่จะเพิ่มค่า แต่ก็จะปล่อยยาก จึงต้องมั่นใจว่าเงินเย็นจริงๆ
ตอนนี้ยังต้องรอจังหวะก่อน

ตั้งเป้าแล้วลุยเลยครับ เราทำเองสร้างเอง ไม่ได้ขอใครครับ ใครค้านเราก็ฟังครับ
แต่ถ้ามีทางเป็นไปได้ตามฝันเราก็ไปต่อ

ความฝัน ความรัก และน้ำใจ ใช้เหตุผลไม่ได้ครับ ;D
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sanya ที่ มิถุนายน 13, 2013, 12:43:08
ผมก็คนนึงครับซื้อรถเป็นรางวัลชีวิตให้ตัวเอง มีรถหลักอยู่แล้ว ตอนนี้ซื้อรถสปอร์ตคันเล็กๆไว้ขับเล่นอีกคัน
บ้านก็มีแล้ว หนี้ก็มีเยอะด้วย เงินเดือนเหลือใช้เดือนชนเดือนแบบไม่เดือดร้อน ไม่ถึงขนาดกินมาม่า
มีเงินสำรองบ้างนิดหน่อยหลักแสน การงานมั่นคงถ้าไม่ทุจริตไม่มีให้ออก มีโบนัสไม่ต่ำกว่า5เดือนทุกปี ออกจากงานได้เงินก้อนคำนวนแล้ว
อย่างต่ำ 12 ล้าน สำหรับผมถือว่ามากแล้ว ตายตอนนี้ก็ไม่ทิ้งภาระไว้ให้คนข้างหลัง ไม่รู้จะเก็บเงินไว้ทำไมเยอะๆ สำหรับผมทำอะไรที่เราไหวแล้ว
ไม่ลำบากก็ทำไปครับ แต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน ดูอย่างข่าวล่าสุดมีเงินเยอะๆตายไปก็เอาไปไม่ได้เอามาใช้ตอนอยู่เป็นๆดีกว่า
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nikle_pk ที่ มิถุนายน 13, 2013, 12:55:06
เป้าหมาย..............มีไว้ พุ่งชน ( แล้วหนี อิอิอิ )

( คดีเป็นไงบ้างไม่รู้หายไปเลย เรดบลู เรา )
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Bingoboy_Joe ที่ มิถุนายน 13, 2013, 13:00:36
ผมว่าไม่ผิดครับ เพราะผมก็เป็น ^^

ที่ผมอดทนตั้งใจเรียนตั้งแต่ตอน ม.ปลาย จนถึงปัจจุบันเรียนอยู่ ปี6 แล้ว

เพราะ

1. คุณพ่อคุณแม่ของทุกท่านก็คงไม่มีใครอยากให้ลูกอดตาย ทุกๆท่านอยากให้ลูกสบายที่สุด

2. น้าของผม ทำงานเป็นพยาบาลอยู่ รพ.พญาไท เล่าให้ฟังว่า เป็นหมอแล้ว รายได้พอเลี้ยงครอบครัวได้สบายตลอดชาติเลยนะ

3. บอกตามตรง ผมเป็นคนหัวสูงครับ จะซื้อของอะไรยังไงก็ต้องเป็นที่สุดเสมอ (สงสัยคุณพ่อคุณแม่พาเป็น ,,,น่าน โทษท่านอีก)

4. ผมเป็นคนชอบความเร็ว

ดังนั้น จากข้อ 1-3 ผมจึงเหลือตัวเลือกเพียงไม่กี่คณะ คือ แพทย์ ทันตะ เภสัช วิศวะ นิติศาสตร์

(คณะกลุ่มวิทยาการ หรือธุรกิจต่างๆไม่เคยอยู่ในความคิด เพราะตระกูลผมค้าขายไม่เป็น เป็นข้าราชการมาตลอด)

สุดท้ายก็เลือกเรียนอันที่ยากที่สุด เพียงเพราะ "ต้องการทำตามความฝัน(ของพ่อแม่และตนเอง)ให้เร็วที่สุด"

ตอนนี้ เหลือระยะเวลาอีก 8 เดือนในการเรียน ผมจึงใช้เป้าหมายนี้ คือ "BMW M5" ซึ่งมูลค่ามันไม่น้อยเลย

แต่ก็จะพยายามให้มากที่สุด ในการไล่ล่าความฝันนี้ให้เป็นจริงให้ได้ครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ton247 ที่ มิถุนายน 13, 2013, 13:23:53
การมีเป้าหมายในชีวิต ไม่ว่าจะระยะสั้น กลางหรือยาว ล้วนดีหมดแหละครับ

ตราบใดที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และทำให้เราเดินไปข้างหน้าและเจริญขึ้น

มีเป้าหมายอยากได้รถในวันนี้ แล้วค่อยเก็บเงินไป ถึงวันนั้นที่มีพอซื้อได้แล้ว เป้าหมายอาจจะเปลี่ยน ก็ไม่เป็นไรครับ

เป้าหมายเปลี่ยนได้เรื่อยๆอยู่แล้ว ชีวิตเรา เราเลือกเองครับ

หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มิถุนายน 13, 2013, 13:26:42
ไม่ผิดหรอกครับ มีฝันก็ต้องไปให้ถึง พยาเข้าไว้

แรงบัลดาลใจเป็นสิ่งสำคัญมากๆครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: keanetona ที่ มิถุนายน 13, 2013, 13:41:00
ผมรู้แต่ว่าบ้านเรามีเสี่ยอยู่คนนึง เขาใฝ่ฝันมาตลอดว่าชีวิตนี้จะต้องมีเฟอรารี่ขับ เขาก็มุ่งมั่นจนถอยเฟอรารี่มาขี่ได้ (แต่สุดท้ายเขาก็ขายไป เพราะเขาขับไม่ไหว)
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nlight ที่ มิถุนายน 13, 2013, 13:43:31
บางอย่างมันทำให้เรามีชีวิตต่อไป พาเราไปทำงานได้ ไม่อดตายเลี้ยงคนข้างหลังได้ ไม่ทำให้เราต้องเดือดร้อนเกินไป

แต่มันทมีแค่บางอย่างที่ทำให้เราอยากมีชีวิตต่อ (สำหรับผม ข้อนี้คือ ความฝัน)

สู้ๆครับ  :P ขอให้ทำงานให้สนุก

(ผมบอกตัวเองเหมือนกัน อุบ๊ะ ;D)
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: OLan-मंदिर लड़का ที่ มิถุนายน 13, 2013, 14:00:24
ไม่ผิดหรอกครับ เพราะผมก็เป็นเหมือนกัน เอาความอยากมาเป็นแรงผลักดันของเราครับ  ;)
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: cdap ที่ มิถุนายน 13, 2013, 15:48:21
1. รถมันเสื่อมราคา
2. มีค่าบำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองในการใช้งาน(เช่นค่าน้ำมัน) ยิ่งเก่ายิ่งแพง
3. ชนอุบัติเหตุ เสียหาย
4. หาย
ถ้ารถ 1ล้าน บวกข้อ 2 ,3 ไปซัก 7 แสน(ถ้าคุณวิ่งซัก 1แสนกิโล) ตอนขายเหลือ 5แสน เท่ากับคุณใช้เงินไประหว่างนั้น 1ล้าน2แสน

ถ้าคุณเอาเงินไปซื้อทองมูลค่าจะถูกทุบร่วงกระจายขนาดใหน เงินคุณไม่หายไปมากขนาดนั้นหรอก
หรือถ้าเอาไปซื้อบ้านซื้อที่ เงินคุณอาจเพิ่มพูนเยอะกว่านั้น

นี่แหละคือสิ่งที่คนอื่นคิด
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ มิถุนายน 13, 2013, 16:07:15
ไม่ผิดแหละไม่แปลกอะไรครับเ เงื่อนไขชีวิตคนเราไม่เท่ากันสำหรับผมควรต้องมีอะไรที่เป็นมูลค่าอย่างบ้านหรือรถยนต์ก่อน 30 ไม่งั้นก็เหมือนทำงานไปวันๆไม่มีเป้าหมายอะไรเลย พอผมอายุ 28 ก็คิดว่าจะเอาบ้านหรือรถดีสุดท้ายก็มาเอาบ้านเพราะเช่าหออยู่จ่ายเดือนละสองพันกว่าบาทเลยซื้อบ้านผ่อนเดือนละ 4300 เท่ากับว่าผมเพิ่มตังมาแค่ 2000 แต่ถ้าผมซื้อรถก็ยังต้องจ่ายค่าเช่าหออยู่ดีก็เลยเลือกบ้านก่อน

บางคนที่รู้จักก่อนซื้อรถเค้าก็ใช้เงินเดือนชนเดือนเงินที่มีก็เอาไปกินเหล้าหมด พอซื้อรถก็กลับเป็นว่ากินเหล้าน้อยลงทำโอมากขึ้นเพราะต้องเอาเงินมาส่งค่างวดดูแล้วเหมือนความสุขลดลงแต่กลับไม่เค้าบอกว่าถ้าไม่ซื้อรถก็ไม่มีเงินเก็บอยู่ดีแต่ซื้อรถยังมีเป็นชิ้นเป็นอัน อีกอย่างจะได้เป็นข้ออ้างกับเพื่อนฝูง (กรูไม่มีตัง)
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ มิถุนายน 13, 2013, 17:32:59
ผมเคยเป็นเด็กเลวๆคนนึง
เข้าเอแบค เจอเพื่อนเที่ยวๆ เที่ยวสารพัด (ป่านนี้ยังเรียนไม่จบ 8-9 ปีเข้าไปแล้ว)
แต่งรถ แข่งรถไปวันๆ บางวันเผาน้ำมันทิ้งทั้งถังแค่ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
แต่งเจ้าวีออสคันน้อยๆ ประเคนลงไป ทั้งเงิน ทั้งเวลา จนคิดว่า"สุด"
พ่อแม่กลุ้มใจ ปลงตก


วันนึง ผมคิดได้เอง
อยากซื้อ C-Segment เครื่อง 2.0 มาขับให้ได้ >> อยากได้ ก็ต้องเรียน ต้องทำงานหาเงิน
ผมก็เริ่มเรียน ขยันเรียนจนจบ
เชื่อมั้ยว่า Project และวิชาหลายๆวิชา ผมใช้"รถ" ในการพรีเซ้นงานแทบทั้งนั้น
การตลาด การบริหาร IBM แม้กระทั่ง Project จบ ก็ใช้รถ

ปัจจุบันผมมีรายได้ที่มั่นคง เก็บเงินได้พอที่จะซื้อ C-Segment 2.0 ได้แล้ว
คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจ คุณพ่อผมให้ได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับรถและความรู้เรื่องรถ
พ่อผมอัพเดตข่าวรถกับผมประจำ ดีใจที่มีเรื่องให้คุยกันบ่อยๆ
มันคือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมมีทุกวันนี้ได้

ถึงตอนนี้ เงินพอแล้ว แต่ไม่ซื้อหรอกครับ ยังขับวีออสคันเดิมต่อไป
ยิ่งทำงาน ยิ่งรู้ค่าของเงิน ยิ่งขับเจ้าออส ยิ่งรู้ว่า C-Segment เครื่อง 2.0 ที่ผมฝัน มันไม่จำเป็นเลย
ตอนนี้ ถ้าถามว่ารถ คือแรงบันดาลใจได้มั้ย
ชีวิตผม พอมั้ยครับ??
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zeb80 ที่ มิถุนายน 13, 2013, 17:50:22
ไม่แปลกเลยครับที่จะมีรถเป็นเป้าหมาย
เป้าหมายไม่จำเป็นจะต้องมีเหตุผลที่จริงจังควบคู่ไปด้วยเสมอ

การใช้ชีวิตจำเป็นจะต้องบาลานซ์ อารมณ์และเหตุผล ไปอย่างพอดีๆจึงจะมีความสุขครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Volta ที่ มิถุนายน 13, 2013, 19:29:26
เข้ามาดูกระทู้ดีๆครับ

อ่านความคิดเห็นจากหลายๆท่านแล้วได้ข้อคิดดีๆเยอะมาก
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ มิถุนายน 13, 2013, 20:13:27
อย่าไปคิดมากครับ

มีหลายคนที่พอใจกับบ้านหลังเล็กๆ ไม่จำเป็นต้องใหญ่ แต่รถเป็นความภูมิใจ 

ของแบบนี้แล้วแต่คนครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ มิถุนายน 13, 2013, 20:23:45
ผมเคยเป็นเด็กเลวๆคนนึง
เข้าเอแบค เจอเพื่อนเที่ยวๆ เที่ยวสารพัด (ป่านนี้ยังเรียนไม่จบ 8-9 ปีเข้าไปแล้ว)
แต่งรถ แข่งรถไปวันๆ บางวันเผาน้ำมันทิ้งทั้งถังแค่ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
แต่งเจ้าวีออสคันน้อยๆ ประเคนลงไป ทั้งเงิน ทั้งเวลา จนคิดว่า"สุด"
พ่อแม่กลุ้มใจ ปลงตก


วันนึง ผมคิดได้เอง
อยากซื้อ C-Segment เครื่อง 2.0 มาขับให้ได้ >> อยากได้ ก็ต้องเรียน ต้องทำงานหาเงิน
ผมก็เริ่มเรียน ขยันเรียนจนจบ
เชื่อมั้ยว่า Project และวิชาหลายๆวิชา ผมใช้"รถ" ในการพรีเซ้นงานแทบทั้งนั้น
การตลาด การบริหาร IBM แม้กระทั่ง Project จบ ก็ใช้รถ

ปัจจุบันผมมีรายได้ที่มั่นคง เก็บเงินได้พอที่จะซื้อ C-Segment 2.0 ได้แล้ว
คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจ คุณพ่อผมให้ได้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับรถและความรู้เรื่องรถ
พ่อผมอัพเดตข่าวรถกับผมประจำ ดีใจที่มีเรื่องให้คุยกันบ่อยๆ
มันคือแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมมีทุกวันนี้ได้

ถึงตอนนี้ เงินพอแล้ว แต่ไม่ซื้อหรอกครับ ยังขับวีออสคันเดิมต่อไป
ยิ่งทำงาน ยิ่งรู้ค่าของเงิน ยิ่งขับเจ้าออส ยิ่งรู้ว่า C-Segment เครื่อง 2.0 ที่ผมฝัน มันไม่จำเป็นเลย
ตอนนี้ ถ้าถามว่ารถ คือแรงบันดาลใจได้มั้ย
ชีวิตผม พอมั้ยครับ??

สุดยอดเลยครับ ;)
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JikorokunG ที่ มิถุนายน 14, 2013, 00:14:23
ผมก็ทำครับ ....... คิดว่าไม่น่าผิด

ทำเพื่อให้พ่อกับแม่เห็น ว่าเราทำงาน ซื้อรถได้ มีธุรกิจของตนเอง ไม่ทำให้ที่บ้านเดือดร้อน ผมก็มีความสุขพอแล้วครับ

จะมีหนี้แล้วขยันครับ  ยิ่งตอนมีหนี้ ยิ่งขยันกว่า ฮ่าๆ

หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BG ที่ มิถุนายน 14, 2013, 00:50:32
แชร์บ้างครับ
คืออาจเพราะ background ผมเป็นวิศวะ ธุรกิจที่ทำก็ยังต้องพยายามสร้างอะไรใหม่ๆ เพื่อให้ประสิทธิภาพต่างๆ มันสูงขึ้นอยู่ตลอด

พอมาใช้ Prius ทุกครั้งที่เห็นตัวเลขการบริโภคต่ำๆ มันจะรู้สึกแบบ "เฮ้ย มันทำได้ไงวะ"
"ทำไงเราถึงจะทำ Product ให้ได้เจ๋ง ให้ efficient ได้ขนาดนี้บ้าง" เอ้าคิดๆๆ สู้โว้ย...อะไรประมาณนี้  ;D
มันเป็นแรงบันดาลใจที่ไม่เลวทีเดียวครับ
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Mark_UK ที่ มิถุนายน 14, 2013, 06:09:01
ไม่ผิดเลยครับ ทุกคนต่างมีเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างกันไป
บางคนอยากเป็นโน่นเป็นนี่ บางคนอยากได้บ้าน อยากมีธุรกิจ
ถ้าเราอยากมีรถดีๆแพงๆบ้างมันก็คงไม่ผิดหรอกครับ

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องมีรถดีๆแพงๆให้สมฐานะตัวเองในอนาคตให้ได้
ฉะนั้นผมก็พยายามเรียนจนถึงจุดสูงสุดและทำให้ตัวเองมีฐานะดี รายได้เยอะๆให้สมกับรถที่ใฝ่ฝัน
เพราะตราบใดที่ผมยังฐานะไม่ดี รายได้ต่ำ ผมก็จะไม่ยอมซื้อรถที่ว่า และก็ถือว่าผมก็ยังไม่บรรลุเป้าหมาย ก็ต้องพยายามบนแรงบันดาลใจนั้นต่อไป
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kati348 ที่ มิถุนายน 14, 2013, 07:48:32
เรื่องเป้าหมายในชีวิตเป็นเรื่องที่ดีครับ ผมก็คนนึง เคยคิดอยากขับรถหรูๆสักวัน ... แต่

ล่าสุดได้นั่งรถ แคมรี่ได้ท๊อป ของพี่คนนึง พอสัมผัสมัน .. เห้ยยย ฟิลลิ้งต่างกับรถเราจริงๆ

แต่... กับรถราคาแพงกว่ารถผม 1 ล้านบาท ผมว่าผมขับคันเดิมดีกว่า แล้วประหยัดเงิน 1 ล้านไว้ดีกว่า

หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: HYDE-- ที่ มิถุนายน 14, 2013, 20:00:23
ไม่ผิดแน่นอน ผมเอง และ หลายๆคนก้มีรถเป็นแรงบันดาลใจครับ
อีกอย่าง ถึงบางคนจะบอกว่า รถมันเสื่อมมูลค่า ยังงั้น ยังงี้ แต่เชื่อสิคับ ทุกคนมีความฝันที่ไม่เหมือนกัน
วันก่อนไปเจอเพื่อนพ่อ เป็นนักธุรกิจ ที่บ้านเค้ามีแต่รถเก่าๆคันละไม่เกิน 3 แสน
แต่บ้านเค้าสิครับ ผมว่า เกิน 20 ล้านแน่ๆ

บางคนใช้รถธรรมดา แต่ซื้อกระเป๋า / นาลิกา รวมกันก้เกินราคา mb ป้ายแดงไปเยอะ
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Emission-Tester ที่ มิถุนายน 14, 2013, 20:37:25
แรงบันดาลใจจากการทำงานของผม คือ 86

ถูกหรือผิด ไม่มีคำตอบ ชอบล้วนๆ เลยครับ :)
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ มิถุนายน 14, 2013, 21:42:51
แต่ก่อนใช่นะ ฝันว่า ถ้าทำโปรเจคนี้ได้อยากได้คันนู้น คันนี้ แต่อย่างว่าครับ รถเป็นทรัพย์สินที่เสื่อมราคา

ผมเลยพอแล้ว หยุดกับอิม และ สามประตู ที่ทั้งคู่เป็นรถที่ชอบและดีคนละแบบ จะไม่หามาเพิ่ม

ตอนนี้ผมเบนเข็มไปที่ อสังหาริมทรัพย์ หาซื้อที่ เก็บเงินทำโปรเจค และถ้าได้เงินก็จะลงกับที่ดิน หรือคอนโด
เพราะตั้งเป้าว่า รถอ่ะไม่ขอเพิ่ม แต่อยากได้กิ๊กเพิ่มสักคน ขอแบบไม่เสื่อมราคา ไม่รู้จะหาได้มั๊ย

แต่ก็ยังชอบรถ ถ้าจะหาเพิ่มคือต้องขายคันเก่าเพื่อเปลี่ยนคันใหม่ ถ้าขายอิม ต้องหารถที่ดีกว่าอิม ถ้าขายสามประตู ต้องหารถที่ดีกว่าสามประตู

นั่นคือ ถ้าขายอิม ต้องหารถที่ใช้งานได้ดีกว่าอิม เป็นสี่ประตู และมีเทอร์โบ
ถ้าขายสามประตู อันนี้คิดไว้แล้วว่า ขอไปโลตัส ครับ ต้องเป็นรถที่มีสองประตู เครื่อง N/A ขับดีๆ ซิ่งๆสักคัน

ซึ่งแค่โจทย์นี้ผมก็คิดไม่ออกแล้ว ว่าอะไรจะแทนอิมได้ รักมันมากที่สุดในบรรดารถ 18 คันที่เปลี่ยนมาตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมา 33 ปี
หัวข้อ: Re: ถ้าเราจะนำรถสักคันเป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เพื่อนๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ผิดหรือไม่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: secrecyguy ที่ มิถุนายน 15, 2013, 00:46:25
หาฉลามมาไล่ แต่ถ้าว่ายเหนื่อยเมื่อไรก็โดนมันกัดตาย

รถยิ่งแพงยิ่งขาดทุนเยอะ เงินหายเยอะ เทียน่าJ32ใช้มา3ปีครึ่ง ซื้อมา 1,666,000 ขายเข้าเต็นซ์คงได้ไม่เกิน 8 แสน นี้ล่ะข้อเสียของมัน ซื้อมันเพราะชอบ J31 แต่ไม่มีปัญญาซื้อในช่วงนั้น กว่าจะมีเงิน ก็ซื้อJ32 ตามความฝัน เงินอาจจะหายไปเยอะ แต่เดินทางไกลทุกครั้ง ทุกสัปดาห์ มันทำให้เรามั่นใจ ผบ หลับคารถทุกที ต้องยอมรับจริง ซื้อรถซื้อชีวิต ถ้ารายได้ที่ดี ซื้อรถแพงมันคุ้มค่า BM MB มันก็ช่วยรักษาชีวิตเรา

รถบางคันไม่ใช่ความฝัน แต่มันให้เรามากจริงๆ
วันก่อนเพิ่งขาย Vigo 2.7G 4x4 ปี2006 ซื้อต่อเขามาในราคามิตรภาพ พี่ช่วยน้อง 400,000 บาท ติดแก๊สมาเเล้วตั้งแต่ช่วงราคาน้ำมันยังถูก ผมขับเองไปสองแสนโล ขายได้เงินกลับมา 400,000กว่า ขายเข้าเต็นซ์ด้วย กำไรสุดๆ อย่างน้อยในช่วงราคาน้ำมันเริ่มเเพงมันก็ช่วยเราปรับตัวได้ดี และช่วยพาเราไปทุกที่ทำงาน

ซื้อรถซื้อชีวิตครับ อย่าคิดมากกับค่าเสื่อม ถ้าคุณจ่ายไหว