Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Coat145 ที่ มิถุนายน 23, 2013, 22:40:48
-
.....สวัสดีครับ.....
..มีเรื่องจะถามครับ ตอนนี้ขับเเคมรี่ไฮบริดกับปาเจโร่ วี6 ติดเเก็ส ....วันนี้ขับเเคมรี่ครับ เจอกระบะบ้าพลัง ยี่ห้อ เจ้าตลาด(หัวจรวด)ขับมาเร็วมาก แถมริบไฟใส่ด้วย ผมก็เลย กดไป..รู้นะครับว่ารถตัวเองล้อคความเร็วเเต่ก็มั่นใจพอสมควรว่าคงทิ้งห่างได้..เเต่ที่ไหนได้พอได้..193(ตามเข็มไมล์) โดนกระบะฉีกออกซ้ายไปเฉยๆๆ ....บอกตรงครับ ถึงกับเงิบเลยครับ โอ้วพอมามองอีกที สติ๊กเกอร์..เต็มเลย..คาดว่าน่าจะเเต่งเต็มๆๆ
เรื่องที่จะถามมีอยู่ดังนี้ครับ
1.ปลดล็อคความเร็วปลายแคมรี่ไฮบริด ทำได้ไหมครับ ยุ่งยากไหมครับ..ถ้าเกิดหมดประกัน3ปีเเล้วผมจะทำ..คิดว่ายังไงครับ..ม่ายด้ายมีไว้ซิ่งนะครับ..เเต่มีไว้กันเหนียว..แบบเหตุการณ์วันนนี้ 8) 8)
2.ทุกวันนี้...ความเร็ว200km/h คิดว่าจำเป็นกันไหมครับ ถ้าเราไม่ได้เอาไว้เเข่งกับใคร รถเเต่ละคันควรจะทำได้ไหมครับ
3.รถที่ อัตราเร่ง 0-100 ประมาน 8วิกว่า ปลายตัน 195 กับ 0-100 ประมาน10วิ เเต่ตัน 220 คุนจะเลือกคันไหนครับ
4.รถกระบะทุกวันนี้ ถ้ามีเงินประมาน 1 เเสน สามารถ เเต่งให้เเรงกว่ารถเก่งเบนซิล ช่ายไหมครับ (ไม่รวมช่วงล่างนะครับ)
ปล.ที่ถามทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะผมบ้าความเร็วนะครับ..เพียงเเต่ต้องการความรู้จากทุกๆท่าน มาเเชร์กันครับ..
-
กระบะเดิมๆ ไม่แต่งก็แตะสองร้อยได้ครับ
แต่ผมว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ตามถ้าไม่ใช่สนามแข่ง อย่าวิ่งเลยครับ พลาดมาผมว่า ไม่คุ้ม เพราะไม่ใช่ถนนเราคนเดียว มีคนอยู่บนถนนที่ไม่รู้เรื่องเยอะมากๆ ครับ เขาเหล่านั้น ไม่อยากเป็นเหยื่อความเร็วครับ จริงๆ ครับ
:)
-
เรื่องปลดล็อค ลองอ่านกระทู้นี้ดูครับ http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,29838.msg479798.html#msg479798 (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,29838.msg479798.html#msg479798)
ส่วนตัวคิดว่า น่าจะหา FD มาวาง K20a ฝาแดง จัดช่วงล่างเต็ม หลัง 200 ขึ้นไป น่าจะพอสู้ได้
-
เป็นผมผมไม่ทำอะ คิดว่าต้องเจอเหตุการณ์ที่ต้องแข่งกันแน่ๆ
นอกเรื่องนิดละกัน
เมื่อก่อนนี้ผมก็ไม่ได้กลัวอะไรมากกับเรื่องทำผิดกฏจราจรเล็กๆน้อยๆ ขับเร็วเกินบ้าง ผ่าไฟเหลืองเริ่มแดงบ้าง
ปีก่อนโดนจับความเร็วไป เสียเงินไป ตอนนั้นเซงมากคิดในใจว่าจะเข็ด ไม่ทำอีกแล้ว
เดือนก่อนดันซ่าส์ผ่าไฟเหลือง/แดงซ่ะนี่ (เพราะใจร้อนกลัวไม่ทัน) ได้รับจดหมายเมื่ออาทิตย์ก่อนว่าทำผิดอะไรไป โดนปรับหนักกว่าเดิมแน่คราวนี้ (ด่าตัวเองในใจไปหลายรอบ)
เมื่อเช้าเอาอีกแระ ไปขับรถสวนทาง one way ระยะ 50 เมตรคิดว่าไม่มีอะไรมาก, พอพ้นระยะนั้นไป มีคนดีดไฟสูงใส่ ผมก็คิดว่าเค้าจะถามทาง เปิดกระจกลงมา ผมก็เปิดรอรับฟัง ที่ไหนได้ คนแก่อายุประมาณ 60+ อ่ะ เค้าบอกผมว่า "นั้นมันทาง one way นะ !!!" ทีแรกก็เถียงไป "ก็บ้านผมอยู่ในถนนนั้น" แต่เถียงยังไงก็ฟังไม่ขึ้น เลยบอก "ครับๆ ขอบคุณที่เตือน"
ในใจตอนนั้นรู้สึกโมโห กล้าดียังไงมาสั่งเรา คิดไปคิดมา ก็สมควรแล้วละ เราผิดจริงๆ ถ้าเค้าไม่เตือนสักวันผมต้องโดนปรับตรงนี้อีกแน่
ต่อไปนี้ก็จะทำตามกฏจราจรมากขึ้นไปอีก และก็รอโดนค่าปรับผ่าไฟแดง นึกถึงทีไรโครตเซง
;D อยากระบาย
-
ตอบข้อ 2
200km/h เพียงพอแล้วครับ อย่าเร็วกว่านี้เลย สงสารคนขับรถช้าๆไม่รู้อิโหน่อิเหน่บ้างๆ บางทีเค้าเห็นรถคุณอยู่ไกลอาจจะเปลี่ยนเลน แต่ด้วยความเร็วบางทีมันอาจไม่ทัน เกิดอุบัติเหตุมาเดี๋ยวจะอดซิ่งนะครับ :-[
-
ไม่ได้กวนนะครับ แต่อยากให้ลองถามตัวเองนิดนึงว่า สุดท้ายทำไปเพื่ออะไรครับ เอาชีวิตไปเสี่ยงบนท้องถนนแบบนั้น เกิดเป็นไรขึ้นมา เรายังมีลูกเมียอยู่ข้างหลัง มีลูกต้องดูแล ไม่คุ้มเลยครับ เขาอยากแซงก็ปล่อยแซงไป
ผมก็ใช้แคมรี่ไฮบริดครับ วันนี้วิ่งเส้นบางปะอิน ผมขับ140วิ่งขวา ด้านหลังวีออสจี้มากระพริบไฟใส่รัวๆ ผมก็หลบออกซ้ายให้ อยากแซงก็แซงไปได้เลยครับ
ส่วนถ้าอยากจะบี้กับรถกะบะ ผมมองว่ารถอย่างเดียวไม่เท่าไร ต้องอยู่ที่ใจด้วยครับ ยังไงผมไม่เชื่อว่ากะบะมันจะกด200ได้ตลอดเวลา ไหนจะต้องหลบคันอื่น ไหนจะเจอโค้ง พื้นฐานแคมรี่ที่เตี้ยกว่า คล่องกว่า ได้เปรียบอยู่แล้วครับ ถ้าให้ผมตั้งใจกัดไม่ปล่อยจริงๆ ผมเชื่อว่าหนีผมไม่หลุดครับ แต่สมมติเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา มันจะเสียใจทีหลังน่ะสิ
-
ข้อสองตอบได้เลยว่าไม่จำเป็น
เหตุการณ์ที่ว่ามา ไม่ใช่เหตุผลที่จะต้องมีรถเร็วๆ เอาไว้
เจอรถคันอื่นเร็วมากๆ เราก็แค่หลบให้เขาไปก็พอ
-
1.ปลดล็อคความเร็วปลายแคมรี่ไฮบริด ทำได้ไหมครับ ยุ่งยากไหมครับ..ถ้าเกิดหมดประกัน3ปีเเล้วผมจะทำ..คิดว่ายังไงครับ..ม่ายด้ายมีไว้ซิ่งนะครับ..เเต่มีไว้กันเหนียว..แบบเหตุการณ์วันนนี้ เจ๋ง เจ๋ง
น่าจะได้ครับแต่ตามเหตุการณ์คุณต้องการซิ่งแน่ๆ
2.ทุกวันนี้...ความเร็ว200km/h คิดว่าจำเป็นกันไหมครับ ถ้าเราไม่ได้เอาไว้เเข่งกับใคร รถเเต่ละคันควรจะทำได้ไหมครับ
คิดว่าไม่จำเป็นเลยครับสำหรับชีวิตประจำวัน มันเร็วมากๆ ถนนไม่มีให้วิ่ง มีเอาไว้แค่อวดกันกดกันมันๆเวลาถนนโล่งๆ
3.รถที่ อัตราเร่ง 0-100 ประมาน 8วิกว่า ปลายตัน 195 กับ 0-100 ประมาน10วิ เเต่ตัน 220 คุนจะเลือกคันไหนครับ
ผมอยากได้0-100 8วิ มันได้ใช้ในชีวิตจริง ช่วงออกตัว ช่วงเร่งแซงจำเป็นครับ แต่ปลาย220 จะเอาไปทำไมครับถ้าไม่เอาไว้ซิ่งแข่งกัน
-
1. ปลดล็อคฯ ทำได้ครับ ตามไปดูในคลับ แคมรี่
2. วิ่งได้เกิน 200 จำเป็นไหม สำหรับถนนประเทศไทยไม่ค่อยจำเป็นครับ
แต่ถ้ารถคันไหนวิ่งเกิน 200 ได้ ก็ถือเป็นจุดขายเด่นเลยครับ อย่างน้อยก็ ถือว่า เป็นรถแรง
เพราะ ผู้ซื้อรถส่วนมาก ก่อนซื้อรถ มักจะถามถึง กำลังเครื่องยนต์ เป็นอย่างแรก คำถามต่อมา ก็ การประหยัดเชื้อเพลิง (แรงไหม ประหยัดไหม)
3. ปัจจุบันนี้ ผมเลือก อัตราเร่ง ที่ดี มากกว่า ความเร็วปลาย ครับ
เพราะ 1 เดือนของผม แทบนับได้ครั้งได้เลยว่า ใช้ความเร็วสูงสุดของรถไปกี่ครั้ง
สมัยเกือบ 20 ปีที่แล้ว ผมใช้แทบทุกครั้งเมื่อขับออกต่างจังหวัด ในเส้นทางที่คุ้นเคย
4. แรงกว่าเก๋งเบนซิน ระดับไหนล่ะครับ ถ้าเทียบกับเก๋ง รถยุโรป เยอรมัน กระบะกินยากครับ
เงิน 1 แสนบาท แต่งเครื่องรถกระบะดีเซล ไม่รวมช่วงล่าง เน้นแรง โดยไม่เน้นรักษาชีวิตเจ้าของและตัวรถ ทำได้ครับ
-
ผมว่าแล้วแต่คนครับ
สำหรับผมไม่จำเป็นครับ เพราะ ความเร็วระดับนั้นมันอันตรายเกินสำหรับผม
ผมเลือกรถที่อัตราเร่งมากกว่าตีนปลายแน่นอนครับ
-
ผมขอ สูงสุด 160 กม/ชม
0-100 10 วิ
80-120 7 วิ
ใครจะ 200 - 220 เชิญโลดเลยครับ
(ปล. อายุ 30 เลย ขอ play save ไม่รู้จะแข่งกับใครไปทำใม)
ขอแซงรถอ้อยพ้นไวๆก็พอแล้ว
-
ตอนแรกผมก็กะเข้ามาถามความเห็น จขกท. แต่คนอื่นก็ได้พูดไปแล้ว
แต่ผมติดใจกับคำว่า "กระบะบ้าพลัง"
คือเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเพราะเราไม่อยากเหนกระบะจะมาเร็วกว่ารถเก๋งแพงๆเหรอครับ
หรือว่าตามหลักการณ์แล้วคิดว่ากระบะมีไว้ขนส่ง มีไว้เพื่อการพาณิชย์ ไม่ควรเอามาขับเร็ว
ถ้าอยากเร็วไปขับรถเก๋งสิ
หรือคิดว่าคนขับรถกระบะเวลาแซงได้แล้วเค้าจะทำหน้าเยาะเย้ยใส่เรา จริงๆเค้าอาจเป็นแค่คนที่กำลังรีบเพราะเมียจะคลอดก็ได้
ฝากถามคนอื่นๆด้วยนะครับ เพราะผมอยากรู้จริงๆ เพราะผมก็เคยขับกระบะ ไม่เคยคิดว่าแซงเก๋งได้แล้วจะเก่งตรงไหน
แค่รีบกลับไปกินข้าวกับแม่เฉยๆ
-
ชอบขับแช่ขวาหรอครับ ? มีรถขับมาเร็วกว่าเราก็ต้องเข้าซ้ายหลบให้อยู่แล้ว จะโมรถไปเพื่ออะไร
-
ตอนแรกผมก็กะเข้ามาถามความเห็น จขกท. แต่คนอื่นก็ได้พูดไปแล้ว
แต่ผมติดใจกับคำว่า "กระบะบ้าพลัง"
คือเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเพราะเราไม่อยากเหนกระบะจะมาเร็วกว่ารถเก๋งแพงๆเหรอครับ
หรือว่าตามหลักการณ์แล้วคิดว่ากระบะมีไว้ขนส่ง มีไว้เพื่อการพาณิชย์ ไม่ควรเอามาขับเร็ว
ถ้าอยากเร็วไปขับรถเก๋งสิ
หรือคิดว่าคนขับรถกระบะเวลาแซงได้แล้วเค้าจะทำหน้าเยาะเย้ยใส่เรา จริงๆเค้าอาจเป็นแค่คนที่กำลังรีบเพราะเมียจะคลอดก็ได้
ฝากถามคนอื่นๆด้วยนะครับ เพราะผมอยากรู้จริงๆ เพราะผมก็เคยขับกระบะ ไม่เคยคิดว่าแซงเก๋งได้แล้วจะเก่งตรงไหน
แค่รีบกลับไปกินข้าวกับแม่เฉยๆ
เพราะแซงแคมรี่ไฮบริดได้ชิวๆที่ 193 ไงครับ เค้าเลยเรียกบ้าพลัง
เด๋วนี้ทำใจครับ เจอเค้ามา ปล่อยเค้าไปครับ สู้ด้วยไม่ไหว สงสารรถ
-
สำหรับตอนนี้ ผมต้องการแค่รถที่ต้นจัด กลางดี ปลายเอาแค่ประหยัดน้ำมันพอ เพราะผมเองก็ไม่ได้ขับเร็วแล้ว
-
จะทำไปทำไมครับ เขาอยากแรงก็ปล่อยเขาแซงไปเถอะครับ ไม่คุ้มชีวิต อยากแรงเอารถไปลงสนามแข่งดีกว่าครับ
-
ปัจจุบันเหยียบ200-220นับครั้งได้เลยครับตั้งแต่รับรถ กดแค่160-180ก็แทบไม่มีคนเหยียบตามแล้วครับผมไม่เจอเลยรู้สึก200แทบไม่มีความจำเป็นครับ แต่ที่จำเป็นคือ0-140ไวๆ และประหยัดน้ำมันมากๆ
-
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ เกือบไม่ได้ขับรถอีกแล้วชาตินี้ขึ้น ผมเลิกมอง 200 นานแล้วครับ ขับแค่ 120-140 เต็มที่เลยก็160
ขอ ESC ช่วงล่างดีๆ กับถุงลมข้างดีกว่า
-
จำเป็น.....เมื่ออยากให้ฉีกหนีกลุ่มบ้าพลังบ่อยๆ
ไม่จำเป็น.....ถ้าใช้ขับทั่วไป กลัวกล้องจับความเร็ว ปล่อยให้กลุ่มบ้าพลังไปตายเอาดาบหน้า XD
-
ไม่จำเป็นครับ
เกิดอะไรขึ้นกระทันหันตายอย่างเดียว ???
ข้างหลังมาเร็ว ตบเข้าเลนซ้ายปล่อยเค้าไปครับง่ายๆ
พวกกระบะบ้าพลังหรือฟอจูนเนอ เจอโค้งทีไรเห็นส่ายทุกที ไม่ค่อยอยากเข้าใกล้
เอาตามที่กฏหมายกำหนด+ขับอย่างมีสตื+ไม่แช่ขวา ดีที่สุด :)
-
ผมว่าผมเป็นคนขับรถเร็วนะ.. แต่วิ่งเกิน 180 แค่ไม่กี่ครั้ง..
ความเร็วระดับ 200 จึงไม่ค่อยจำเป็นสำหรับผมเท่าไหร่..
ผมเลือก 0-100 8 วิ ครับ.. มันได้ใช้มากกว่าความเร็วปลาย..
และถ้ามีตัวเลือกคือ
1) 0-100 ได้ 8 วิ 80-120 ได้ 10 วิ
2) 0-100 ได้ 10 วิ 80-120 ได้ 8 วิ
ตัวเลือกนี้ผมก็เลือกข้อ 2 ครับ เพราะได้ใช้บ่อยกว่า..
-
ผมใช้ กระบะ สี่ประตู กะ jAZZ ยังไม่เคยเหยียบเกิน120 เลย
กลัวตายครับ มีลูกเมีย หมาๆ ที่บ้าน ให้คอยดูแล หาเลี้ยงครับ
-
ความจริงก็คือความจริง
หลังๆกระบะบ้าพลังเยอะเกินไป ไม่รู้จะรีบทำไมนักหนา
ถ้ารีบก็อย่าจี้ตูด เดี่ยวผมตกใจเหยีบคันเร่งผิดเป็นเหยียบเบรคแล้วเรื่องจะยาว
เอาละนอกเรื่อง ;D ;D
ผมขอตอบในนามคนชอบกระบะนะ เพราะทำเรื่องเกี่ยวกับกระบะบ่อย
อย่าว่าแต่คนขับรถเก๋งเลยครับ แม้แต่คนขับกระบะแบบผมยังโดนจี้
สมาคมคนชอบจี้ก็มีอยู่2รุ่น รุ่นพี่โตบ้าพลัง กับรุ่น อีสุขนผักปลา ที่เจอเยอะสุดก็วีโก้นะแหละ
จะมาอ้างว่าเพราะรถขายเยอะ เลยเห็นว่าขับไม่ดีเยอะ คิดเป็นอัตราส่วนสิ ขอบอกว่า
ไม่รู้ว่าคนขับรถยี่ห้อนี้ที่ผมเจอสวมวิญญาน อันเดียวกันมารึเปล่า เวลานั่งหลังพวงมาลัยกระบะยี่ห้อนี้
วิญญานนักแข่งสิงร่างเลยรึเปล่าก็ไม่รู้ วิธีขับพิมพ์เดียวกันเลย
ถ้ารีบก็ออกขวารึออกซ้ายแซงก็ได้ครับ จะจี้ทำไมไม่มีเงินให้ปล้นหรอก จี้ทำไมครับ >:(
โก้//จะมาบอกว่า ผมดริฟไฟให้ตั้งไกลแล้วทำไมไม่หลบทางให้ผม
ผม//พี่ครับผมขับ100 กิโลเมตรเน้นประหยัด พี่ขับมาซะ200 ผมจะหลบพี่ทันไหมละ มายังกะจรวด
;D ;D อุ้ยนอกเรื่องอีกละ ;D ;D
200 ในไทยถนนวิ่งหายากครับ บางที่เราคิดว่าถนนดีเลยอัด ไปกลางทางถนนชำรุดซะงั้นอันตรายครับ
ถนนเมืองไทยเส้นดีๆหายาก ที่จะให้วิ่งได้ขนาดนั้น ทุกวันนี้ผมขับไม่เกิน 140 เลย
ความเร็วแค่140 อัตราเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุของผมก็ 140 % ละ คิดถึงคนอื่นไว้ครับ เค้าไม่อยากรับความเสี่ยง
จากความคึกคะนองของเรา :)
-
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ เกือบไม่ได้ขับรถอีกแล้วชาตินี้ขึ้น ผมเลิกมอง 200 นานแล้วครับ ขับแค่ 120-140 เต็มที่เลยก็160
ขอ ESC ช่วงล่างดีๆ กับถุงลมข้างดีกว่า
เหมือนกันเลยครับ ไปหยุดแรงตอนเฉียดๆตายนี่แหละ ;D ;D ;D
หลังๆมองรถก็ดูแต่ระบบความปลอดภัยทั้งนั้น กำลังเครื่องยนต์มันไม่หนีห่างกันมากแล้ว
-
กระบะขับ 200 นี่ ต้องใจถึงมากๆเลยนะ
กระบะดีเซล อย่าไปยุ่งเลยครับ เก๋งกลางเครื่อง 2 พันยังหืดจับ
ฟอร์จูนเนอร์ลุงผมเอาไปดันราง ยกหัวฉีด แค่ใบเดียว งบไม่เกิน 3 หมื่น แรงหน้าหงาย
ที่เหลือลงช่วงล่าง ทำเบรค สบายแฮ จัดเต็มช่วงล่างได้เลย เครื่องแรงเหลือๆ เอี๊ยด 2 เกียร
เพื่อนผมแต่ง FD 2.0 แต่งท่อ จูนกล่อง เด๋วสูตรนู้นนี้ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา หมดเป็นแสน
เจอกระบะเจ้าถิ่นแถวชลบุรี สวนหน้าหงาย หายไปเลย ได้แต่ตามดมควันดำๆอยู่ไกลๆ
เพื่อนอีกคนขับเทียน่า 2.5 รู้ๆกันว่ามันแรงระดับที่รถบ้านๆด้วยกันไล่ไม่ทันอยู่แล้ว
ขับไปเอแบค บูรพาวิถี เจอกระบะขนของเจ้าถิ่น รถเปล่าๆไม่ได้บรรทุก ตีกรง หน้าทิ่มๆ
สวนหายไปเลย
แอร์เย็น เพลงเพราะ นั่งสบายๆ ขับชิลๆ ดีกว่าครับ
เรื่องเครื่องยนต์ สู้ไม่ได้ แต่ความสบาย ขับ 140-160 เก๋งก็ยังสบายกว่า แต่กระบะ(เดิมๆ)เหงื่อชุ่มแน่ๆ
-
กระบะขับ 200 นี่ ต้องใจถึงมากๆเลยนะ
กระบะดีเซล อย่าไปยุ่งเลยครับ เก๋งกลางเครื่อง 2 พันยังหืดจับ
ฟอร์จูนเนอร์ลุงผมเอาไปดันราง ยกหัวฉีด แค่ใบเดียว งบไม่เกิน 3 หมื่น แรงหน้าหงาย
ที่เหลือลงช่วงล่าง ทำเบรค สบายแฮ จัดเต็มช่วงล่างได้เลย เครื่องแรงเหลือๆ เอี๊ยด 2 เกียร
เพื่อนผมแต่ง FD 2.0 แต่งท่อ จูนกล่อง เด๋วสูตรนู้นนี้ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา หมดเป็นแสน
เจอกระบะเจ้าถิ่นแถวชลบุรี สวนหน้าหงาย หายไปเลย ได้แต่ตามดมควันดำๆอยู่ไกลๆ
เพื่อนอีกคนขับเทียน่า 2.5 รู้ๆกันว่ามันแรงระดับที่รถบ้านๆด้วยกันไล่ไม่ทันอยู่แล้ว
ขับไปเอแบค บูรพาวิถี เจอกระบะขนของเจ้าถิ่น รถเปล่าๆไม่ได้บรรทุก ตีกรง หน้าทิ่มๆ
สวนหายไปเลย
แอร์เย็น เพลงเพราะ นั่งสบายๆ ขับชิลๆ ดีกว่าครับ
เรื่องเครื่องยนต์ สู้ไม่ได้ แต่ความสบาย ขับ 140-160 เก๋งก็ยังสบายกว่า แต่กระบะ(เดิมๆ)เหงื่อชุ่มแน่ๆ
เห็นด้วยครับ ขับสบายๆ ดีกว่าขับ ไม่เครียดด้วย ยิ่งขับเร็ว ยิ่งเครียด ปวดหัวเปล่าๆ
ทุกครั้งที่ผมเจอ กระบะแต่ง ติดติ๊กเกอร์เยอะๆ ขับซิ่งๆ หรือ รถเก๋งวิ่งมาเร็วๆ ผมหลบให้ครับ เพราะผมไม่รีับไปไหน
อันที่จริง อยากจะบอกว่า ทุกวันที่ผมขับรถมาทำงาน จาก ทางด่วน พระราม 2 ไปสุขุมวิท ทั้งเช้าและเย็น ยังไม่เคยเจอรถขับ 200km/hr วิ่งผ่านสักครั้ง
(เพราะรถมันแน่นเต็มถนนมาก จริงๆ .... ;D )
-
อย่าว่าผมปากไม่ดีเลยนะ แต่ผมไม่ได้อยากตายเร็วขนาดนั้น
-
ความเร็วสูงสุดสัก200ไม่เกินนี้ครับ ขับจริงๆประจำวันไม่ถึงแต่เผืี่อไว้ครับ
-
ผมว่าไม่จำเป็นนะครับ ยิ่งถ้าจะทำแค่เพื่ออยากชนะกระบะ
เดี๋ยวนี้กระบะเขาแรงครับ เกิน200ยังเอาไม่อยู่
ผมเคยขับcamry avc 40 ผมว่า 180 นี่ก็เริ่มอันตรายแล้วครับ
แล้วก็ส่วนใหญ่นะครับ(หากกระทบส่วนน้อยผมต้องขออภัยครับ)กระบะบ้าพลังนั้นต้นทุนทางสังคมน้อยกว่าคุณนะครับ
ทั้งทางบ้าน ทั้งค่าตัวรถ ทั้งอนาคต และความหวังของครอบครัว ฯลฯ
อย่าเอาพิมเสนไปแลกกะเกลือครับ แล้วก็อย่างที่สมาชิกท่านก่อนว่าไว้ กระบะอาจรีบส่งของหรืออาจจะแค่ปวดเข้อย่างแรงก็ได้ 555
ส่วนถ้าอยากได้ความเร็วปลายจริงๆ ผมก็ยังไม่เห็นด้วยครับ เพื่อนเคยพูดว่าถ้าได้เพิ่มอีก 20km/hr นะ มันจะเจ๋งไปเลย
ถามว่าเจ๋งไปไหน
ขับบนโทลเวย์เลย สมมุติว่าแช่ 180 ได้ตลอดทาง วิ่งไปลงดอนเมืองรีบไปขึ้นเครื่อง ระยะทางประมาณ 20 โล ใช้เวลา 6 นาที 40 วิ
ถ้าได้ 200 ตลอดทาง ใช้เวลา 6 นาทีเป๊ะๆ ถามว่าเอา 40 วินั้นไปทำอะไรครับ หาทีจอดได้ช้าหน่อยก็หมดเวลาที่อุตส่าห์อัดมาแล้ว
เพราะฉะนั้นผมว่าความเร็วเกิน 200 ไม่จำเป็นครับ
-
ตอบตามหัวข้อสำหรับผมไม่จำเป็นครับ ปกติขับอยู่ที่ 100 - 110 เร่งแซงยังไงก็ไม่ค่อยเกิน 120 อย่างมาก 130 แซงเสร็จก็ขับตามปกติ ถือคติไม่มั่นใจอย่าแซงถ้าแซงต้องแซงให้ขาด ใครอยากเร็วก็เร็วไปผมมีชีวิตอยู่เพื่อคนที่เรารักและคนที่รักเราอยากจะอยู่กับเค้าไปนานๆไม่ได้มีชีวิตเพื่อมาขับรถแข่งเอาชนะกับใครก็ไม่รู้เอาแค่สนุกสะใจชั่วครั้งชั่วคราว ภาวนาให้แต่เวลาเกิดเหตุก็เกิดเฉพาะกับตัวเองและคนที่แข่งด้วยกันเองแล้วกันอย่ามาทำให้คนอื่นที่เค้าไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนไปด้วย ถ้าอยากซิ่งเสี่ยงตายแบบไม่รักตัวเองก็ตามใจแต่ผู้ร่วมทางคนอื่นเค้าไม่ได้อยากมาเสี่ยงด้วย
บ่นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาช่วยกันเพิ่มจิตสาธารณะกันดีกว่า
-
ผมว่าไม่จำเป็นนะครับ ยิ่งถ้าจะทำแค่เพื่ออยากชนะกระบะ
เดี๋ยวนี้กระบะเขาแรงครับ เกิน200ยังเอาไม่อยู่
ผมเคยขับcamry avc 40 ผมว่า 180 นี่ก็เริ่มอันตรายแล้วครับ
แล้วก็ส่วนใหญ่นะครับ(หากกระทบส่วนน้อยผมต้องขออภัยครับ)กระบะบ้าพลังนั้นต้นทุนทางสังคมน้อยกว่าคุณนะครับ
ทั้งทางบ้าน ทั้งค่าตัวรถ ทั้งอนาคต และความหวังของครอบครัว ฯลฯ
อย่าเอาพิมเสนไปแลกกะเกลือครับ แล้วก็อย่างที่สมาชิกท่านก่อนว่าไว้ กระบะอาจรีบส่งของหรืออาจจะแค่ปวดเข้อย่างแรงก็ได้ 555
ส่วนถ้าอยากได้ความเร็วปลายจริงๆ ผมก็ยังไม่เห็นด้วยครับ เพื่อนเคยพูดว่าถ้าได้เพิ่มอีก 20km/hr นะ มันจะเจ๋งไปเลย
ถามว่าเจ๋งไปไหน
ขับบนโทลเวย์เลย สมมุติว่าแช่ 180 ได้ตลอดทาง วิ่งไปลงดอนเมืองรีบไปขึ้นเครื่อง ระยะทางประมาณ 20 โล ใช้เวลา 6 นาที 40 วิ
ถ้าได้ 200 ตลอดทาง ใช้เวลา 6 นาทีเป๊ะๆ ถามว่าเอา 40 วินั้นไปทำอะไรครับ หาทีจอดได้ช้าหน่อยก็หมดเวลาที่อุตส่าห์อัดมาแล้ว
เพราะฉะนั้นผมว่าความเร็วเกิน 200 ไม่จำเป็นครับ
ผมเห็นด้วยครับ
-
1.ทำได้ครับ แต่จะคุ้มหรือเปล่า ถ้าพวกมอเตอร์ หรือ แบต หรือ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆไปไวกว่ากำหนด(แล้วแพงด้วย)
2.ผมมองว่าไม่จำเป็นครับ(ผมขับแต่ในเมือง ชานเมือง) ยิ่งเอาไม่ได้เอาไปแข่งยิ่งไม่จำเป็นเลยสักนิดเดียวครับ
ผมขับ Accord G8 ใช้ความเร็วสูงสุด 210 แค่ครั้งเดียว(ขับมาเกือบ 2ปีใช้แค่ครั้งเดียว) ตอนนั้นรีบไปสอบครับ ถ้าไม่ทันต้องลงเรียนใหม่
3.เลือก 0-100 8วิกว่าตัน 195 ครับ เพราะ ผมขับในเมือง ชอบตีนต้นจัดๆ แล้ว 195 ก็เฉียด 200 แล้วนะครับ น่ากลัวมากๆ
4.ใช่ครับ แรงกว่ามากๆๆๆๆด้วย
ปล.อย่าไปทำเลยครับเสียดายรถ ไฮบริดทำมาให้ประหยัด ความแรงคือผลพลอยได้
แล้วกระบะดังราง ควันดำสมัยนี้ แรงมากๆครับ ปล่อยเค้าไปเถอะ อย่าไปยุ่งเลย
-
ผมตอบเฉพาะหัวข้อเลยนะครับ
...
ถามคนที่คุณรักครับ เขาจะตอบว่า "ไม่จำเป็น และไม่เห็นด้วย"
-
ถ้าอยากจะมีความแรงเพื่อป้องกันตัวเองในกรณีฉุกเฉิน หรือ เข้าตาจน เพื่อเอาตัวรอด อันนี้เข้าใจได้
แต่ถ้ามีแล้วสร้างความเสี่ยงจากอารมณ์โกรธ.....ผมว่ามันไม่คุ้ม เพราะทางเลี่ยงอื่นยังมี
บทเรียนบางเรื่อง ต้องเจอเองถึงจะเข้าใจ ผมอ่านดูเห็นหลายคำตอบนั้น ตอบมาจากคนที่เคยมีประสบการณ์ไม่ดีจากเรื่องราวเหล่านี้ ท่าน จขกท. คงต้องชั่งน้ำหนักแล้วหล่ะครับว่า จะเลือกอันไหน
ความเร็วของรถ ก็เหมือนอาวุธแบบปืนแหละครับ มีทั้งคุณและโทษ อยู๋ที่ตัวคนใช้ว่าตัวคุณมีวุฒิภาวะอยู่ในระดับใด
มีไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายเพื่อเอาตัวรอด
หรือ
เพื่อ ตอบสนองอารมณ์โกรธ แล้วสร้างความเสี่ยงใหม่เพิ่มขึ้นมา
ลองดูครับ
-
สำหรับผมนะครับ
วิ่งได้ 180 km/Hr พอ (ชีวิตจริงขับไม่เกิน 120)
อัตราเร่ง 0-100 ที่ 10 วินาที 80-120 ที่ 8 วินาที
กระบะ ศูนย์ถ่วงสูง ขับเร็วอันตรายมากนะครับ ปล่อยเขา่ไปเถอะครับ
-
พอขับถึง 200 แล้วต้องกดเบรคซัก 80 เปอร์เซ็นต์ นี่ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะครับ ถ้าเป็นเบรคเดิมๆติดโรงงาน ไม่ใช่เรื่องเครื่องแรงอย่างเดียวๆนะครับที่ต้องเตรียมพร้อม เบรคเอย ช่วงล่างเอง ยางเอย ต้องสัมพันธ์กันครับ
-
Crash Test a 200km/h (http://www.youtube.com/watch?v=vFYHovJEUBg#ws)
-
ความเร็ว 200 บนถนนทั่วไปในเมืองไทยไม่ควรทำอันตรายครับ ยกเว้นสนามแข่ง
-
มันจะจำเป็นได้ยังไงหละครับ ในเมื่อไม่มีถนนไหนในเมืองไทยให้วิ่งเร็วเกิน120เลย......
ผมหละเบื่อมากเอาจริงๆ พวกเก่งทางตรงบนถนนเนี่ย คือจะพิสูจน์อะไรเหรอบนนถนนเนี่ย ว่าตรูเก่งทางตรงงั้นเหรอ ตลก
ลองพิจารณาดูครับ คนขับเร็ว ไม่แคร์กฎจราจร อัดบนถนนซ้าย-ขวา(ถ้าไม่มีอะไรเดือดร้อนเช่นเมียจะคลอด) มันมีผลดีอะไรไหม?
-
ตอนผมอยู่ มิวนิค ความเร็ว 2xx กว่า นี่ ปกติครับ
เพราะทุกคันมีวินัย หลบให้หมด เขาไม่แช่ซ้าย (พวงมาลัยซ้าย)
เมืองไทยนี่ ถือว่า ไร้สาระ ครับ รถมันเยอะ ถนนก็ห่วย
ผมรำคาญพวกปาดซ้าย ขวา ความเร็วสูงมาก เพราะ ผมเห็นคันอื่นต้องชะลอ
ให้ไป เนื่องจากกลัวอุบัติเหตุไม่อยากให้มาเกิดกับตัวเองมากกว่า
ผมมองว่าสร้างความเดือดร้อนมาก ที่เจอบ่อย
บนทางด่วน ประดิษฐ์มนูธรรมนี่แหละ
-
เบื่อมากๆเวลาเจอกระบะแว๊น ได้แต่บอกกับตัวเอง ปล่อยมันไปเดี๋ยวมันก็ตายไปเอง
วันก่อนเจออยู่แถวหน้าเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ รถก็ติดช่วงเช้าๆมีกระบะโหลดคันหนึ่งมุดไปมุดมาคิดว่าตัวเองขับมอเตอร์ไซค์อยู่มั้ง
ขอเหอะจะแรงช่วยไปแรงในสนามอย่ามาแรงบนถนน ขับรถไปต้องมาคอยระวังไป
-
200 ไม่จำเป็นสำหรับผมครับ
ผมอยากได้ 0-100 กับ 80-120 เร็วๆมากกว่า่
เพราะใช้แซง ข้ามถนนสี่เลน ออกตัวเข้าถนนใหญ่ ยูเทิร์น ทันใจและรู้สึกปลอดภัยมากกว่าครับ
-
แคมรี่น่าจะปลดล็อกได้อีกนะครับ แต่จะมีผลเสียต่อเครื่องยนต์ ไม่แนะนำให้ทำครับ ส่วนกระบะผมว่ามันแรงมาตั้งนานแล้วครับ แรงกว่าเครื่องเบนซินอีกมั้งครับ แรงม้ามันเยอะ เจอจี้ตูดประจำ
-
สำหรับ จขกท.
อยากให้มองกลับมาที่พื้นฐานตัวรถของคุณเองก่อน
อยากให้เข้าใจสิ่งที่รถคุณมีมากกว่า และแสดงได้ชัดเจนกว่า
อยากให้เข้าใจอาการและลิมิตของรถคุณให้ได้ใกล้เคียงที่สุด
อยากให้เข้าใจเส้นทางที่วิ่งมากที่สุด
จุดนี้จะเป็นตัวดึงความสามารถของรถออกมาให้ได้มากที่สุด
ถ้าคุณตอบเรื่องนี้ได้ชัดเจนแล้ว "จัดไป" ครับ
การปลดล็อคทำให้รถมีความสามารถของรถเพิ่มมากยิ่งขึ้น
แต่ก็ต้องมีความเข้าใจของผู้ขับมากขึ้นไปด้้วยจึงจะปลอดภัยครับ
จากเหตุการณ์ที่ จขกท. เล่ามานั้น
อาจเป็นได้ว่า กะบะคันนั้นอาจจะกดไม่เต็มนะครับ
เขาอาจต้องการให้คุณขึ้นนำมาก่อนจนถึงความเร็วที่รถคุณล็อคไว้
แม้ จขกท.จะไปปลดล็อคความเร็วแล้ว หากเจอเหตุการณ์ประเภทนี้อีกแล้วเขาแรงกว่า
ก็ควรให้เขาแซงนะครับ แล้วไปชดเชยในจังหวะที่เราได้เปรียบ หรือจุดที่เราทำได้ชัดเจนกว่าครับ
เล่นเท่าที่อาการรถและเหตุการณ์อำนวยครับ ไม่อยากให้เครียดเอาชนะเิกินไปครับ
เพราะชนะก็ไม่ได้ถ้วย แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเราและผู้ร่วมใช้ทางรับไปเต็มๆครับ
-
ความเร็ว 200 km/hr ไม่จำเป็นหรอกครับบนถนนหลวง
นอกจากคุณขับที่ความเร็วนั้นประจำ
-
ผมว่าในเมืองไทยขับเกิน 200 ไม่จำเป็นเลยครับ
ใครจะมาเร็วขนาดนั้นผมหลบให้แซงไปเลย เอาปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า
-
ไม่จำเป็นครับ ก็คิดง่ายๆ รถส่วนใหญ่บนถนนกดได้ 200 ไหม ถ้าจำเป็น พวกเขาขับกันอยู่ได้ไง แสดงว่ามันไม่จำเป็นครับ แต่ถ้าสนามแข่งจำเป็นไหม ก็พลิกมือตอบครับ
-
ผมอยากได้เบรค 200-0 แค่ 4 วิครับ เบรคเทพยางเทพ กลัวแค่โดนอัดท้าย
ส่วนอัตราเร่งเหลือแหล่แล้ว
-
ไม่จำเป็นครับ ที่บ้านเคยมีรถที่วิ่งทะลุ 200 ได้ แล้วตอนนี้ก็มี รวมถึง 0-100 ได้ตามคำถาม แต่ก็ไม่เคยใช้ถึงครับ เอาอัตราเร่งไว้ก่อนเผื่อใช้ในชีวิตจริงแล้วกัน
ส่วนถ้าเจอกระบะตีนผี เราช้ากว่าต้องอยู่ทางซ้าย ตามข้างล่างนี่ครับ
ตอนผมอยู่ มิวนิค ความเร็ว 2xx กว่า นี่ ปกติครับ
เพราะทุกคันมีวินัย หลบให้หมด เขาไม่แช่ซ้าย (พวงมาลัยซ้าย)
เมืองไทยนี่ ถือว่า ไร้สาระ ครับ รถมันเยอะ ถนนก็ห่วย
ผมรำคาญพวกปาดซ้าย ขวา ความเร็วสูงมาก เพราะ ผมเห็นคันอื่นต้องชะลอ
ให้ไป เนื่องจากกลัวอุบัติเหตุไม่อยากให้มาเกิดกับตัวเองมากกว่า
ผมมองว่าสร้างความเดือดร้อนมาก ที่เจอบ่อย
บนทางด่วน ประดิษฐ์มนูธรรมนี่แหละ
ก็เห็นด้วย แต่ทางด่วน คือฉลองรัชนะครับ ประดิษฐ์มนูธรรมคือถนนข้างล่าง
-
จะเอาไปวิ่งที่ไหนกันนัก 200กม./ชม. พอรถเยอะก็ไปปาดซ้าย ปาดขวาเค้าอีก เดือดร้อนคนเดียวที่ไหน พาชาวบ้านเค้าเดือดร้อนไปด้วย พวกกระบะบ้าพลัง ส่วนใหญที่เห็นก็จะมีแต่กลุ่มวัยรุ่น ความคิดความอ่านยังไม่มี เค้าอยากแรงปล่อยเค้าไปเฮอะ เอาชีวิตไปเสี่ยงทำไมคนข้างหลังเรายังมีอีก
-
อยากได้ซัก 220 เพราะไม่ชอบเสียหน้ากับกระบะแต่ง ;) ;) ;) แต่ในความเป็นจริงถ้าไม่ได้ขับเร็วอะไรก็ปล่อยไปเถอะยกเว้นเจอเหตุการณ์พิเศษ
-
อยู่เฉยๆ ปล่อยมันไปครับ
ปล. ผมขับคันนี้มาจะ4ปี ผมขับถึง200เเค่ครั้งเดียวครับ ผมคิดว่าถนนบ้านเรามันอัตรายมาก ทั้งหมา ทั้งสภาพถนนเลวร้าย รถบรรทุกค่อยๆขึ้นขวาอย่างช้า รถส่วนบุคคลที่ไม่ชอบเปิดไฟเลี้ยวเมื่อจะเเซง
-
ถึงขนาดนั้นหลบเถอะครับ ปล่อยมันไปครับ และ ภาวนาว่าเกิดอะไรขึ้น ขอไห้เขาไปแบบสงบๆ คนคันเดียวอย่าพ่วงคันอื่นหรือเพื่อนร่วมทางไปด้วยครับ
สำหรับผม 200+ ไม่จำเป็นอย่างยิ่งดครับ 0-100 8วิพอครับ
-
ไม่จำเป็นครับ อันตราย ถ้าเจอคนบ้าๆแบบนั้น ปล่อยมันไป
ผมยังไม่เคยขับถึง 200เลย แถวบ้านผมหาทางโล่งๆยาวๆยากมาก
อีกอย่าง รถผมมันติดล็อควิ่งได้ไม่ถึง 200
เคยขับคันเก่า Sunny Neo ได้ 170 ก็เสียวแย่ละ
ผมขอรถที่ 0-100เร็วๆดีกว่า อัดกันให้มันเงิบไปเร็วๆ
-
ของผม สูงสุดที่ขับก็ไม่เกิน 160 ดังนั้น ที่จำกัดไว้ที่ 200 สำหรับผมนี่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปลดล็อคเลยครับ
แต่ผมเน้นที่ 0-120 มากกว่าเพราะมันเป็นช่วงที่ผมใช้งานมากที่สุดครับ
-
ขออัตราเร่ง 0-100 6-7 วิ
แล้วความเร็วสูงสุดซัก 180 ผมพอแล้ว
ใครจะมาท้าแข่งที่ความเร็วเกินนี้ไม่เอาด้วย
กลัวตาย
-
ต่างคนต่างเหตุผลครับ
ผมเองขับเร็ว-เร็วมาก แต่ผมเองจะไม่ดัดแปลงรถตัวเองใดๆ ทั้งนั้นครับ เพราะถือว่ารถแต่ละคันมันมีลิมิตของมันเองทำมากกว่านั้นก็เท่ากับเกินลิมิตของมัน รถเดิมๆ น่าจะสบายใจสุดครับ
ถึงความเร็วนั้น เขาแซงผมได้ โอเคผมยกคันเร่งแล้วก็ยอมรับ มันแน่จริง...แต่อย่าปาดหน้าแล้วเบรคใส่เป็นพอครับ ::)
-
ก่อนจะตอบว่า ความเร็ว 200Km/h จำเป็นหรือไม่ ผมถาม จขกท. ก่อนครับว่า
"ฝีมือ และทักษะ" ที่จะควบคุมรถที่ความเร็วสูงน่ะ จขกท. มีหรือเปล่าครับ?
ถ้าทักษะไม่มากพอ ขับความเร็วขนาดนั้นก็เสี่ยงเอาชีวิตไปทิ้งบนถนนอยู่ดี
แล้วคิดว่า ในชีวิตประจำวันมี เหตุจำเป็นอันใด ที่มีความคุ้มค่ามากพอกับการเอา
ชีวิตไปทิ้งหรือเปล่าครับ? ถ้าคำตอบคือ "มี" ก็แสดงว่าจำเป็น ก็จัดหารถ
ที่ตอบสนองความจำเป็นที่ว่านั้น เอาได้ตามสะดวกครับ
-
ใช้คัมรี่ไฮบริดตัวปัจจุบันเหมือนกันครับ...
แต่ผมคิดต่างจากท่าน จขกท.ครับ...
เหตุผลหนึ่งที่ผมเลือกคัมรี่คันนี้เพราะมันล็อคความเร็วไว้ที่ 195 km/h นี่แหละครับ...
แน่นอนว่าอัตราเร่งดีๆใครก็อยากได้...
แต่ผมอยากได้รถที่มันช่วยยับยั้งชั่งใจ ช่วยเซฟชีวิตผมไว้ด้วยครับ... :-*
-
ขับกะบะหรือรถเล็กเกิน 160 ผมว่าใจถึงโคตรๆแล้วครับ
ใครอยากเฝ้ายมบาล เชิญครับ อิอิ ;D ;D ;D
ต่อให้ D-seg เหยียบ 200 ผมว่าไม่ไหวนะ ช่วงล่าง เบรค ยาง เอาไม่อยู่แน่นอนครับ
คนไทยตายเพราะอุบัติเหตุมากมาย ก็เพราะคิดแค่นี้ละครับ "มึงเร็วกว่ากูไม่ได้"
-
มีใว้ก็ดีครับ แต่บ้านเราไม่น่าใช้ครับความเสี่ยงสูงเกินไป ถนนไม่เรียบ ขับรถไม่สนใจรอบข้าง ช้าแช่ขวา
ถ้าใครมาเร็วๆแรงๆ ให้เขาไปแข่งกับเครื่องบินดีกว่าครับ เร็วนักใช่มั๊ย อิอิ
-
ใช้แคมรี่ ไฮบริดตัวล่าสุดนี้เหมือนกัน มีข้อข้องใจนิดนึงว่า ที่มันล็อค 195
Gps ขึ้นเท่าไหร่ เพราะที่ใช้อยู่ หน้าปัด 100 gps ขึ้นแค่ 94 เองครับ วิ่ง 120 gps ขึ้น 113
แต่ไม่เคยกดถึง 195 นะครับ ถ้าให้เดา ที่หน้าปัด 195 จริงๆอาจจะมีแค่ 180 กว่าๆนิดหน่อยเท่านั้น
ดังนั้นไม่แปลกครับที่กดหมดแล้วจะโดนกระบะ ฉีกขนาดนั้นครับ
-
ถนนบ้านเราไม่อำนวยซักเท่าไหร่ หลบหลุมได้ก็เจอหมาอีก เฮ้อ ....
-
เจอกระบะแต่งๆ ชับกวน เห็นจบที่โค้งทุกที สุดท้ายขับสู้ไม่ได้ก็แซงมั่วๆไป
-
ถึงคุณเจ้าของกระทู้ครับ
ตอบคำถามก่อน
1. ทำได้ครับ อย่างที่ความเห็นหน้าแรกๆ บอกไปหมดแล้ว
2. ไม่จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับสภาพถนน ที่มี "คนไทยส่วนใหญ่" ขับรถกันอยู่
3. ผมจะเลือกรถที่อัตราเร่ง ขึ้นไปได้เร็ว รถที่ อัตราเร่ง 0-100 ประมาน 8วิกว่า ปลายตัน 195
แค่นั้น เกินพอแล้วครับสำหรับผม
4. แสนนึง ทำได้แล้ว แต่ไม่รวมช่วงล่าง อันนั้น ทำได้ครับ แต่จะได้ความแรงระดับไหน
ก็ต้องไปถามบรรดาอู่หรือสำนักโมดิฟายทั้งหลายกันเอาเองครับ แต่ละเจ้า ก็คิดไม่เหมือนกัน
---------------------------------
สิ่งที่อยากจบอกกับเจ้าของกระทู้ ก็คือ
คุณอาจจะเห็นว่า ผมทำท็อปสปีดของรถทุกคันที่นำมาทำรีวิว ก็จริงอยู่
แต่...
1. วันไหนที่ผมนอนไม่พอ ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ผมจะไม่ทำการทดลอง Top Speed เด็ดขาด
2. ถ้ารถที่ผมทดลอง ยางไม่พร้อม หรือ ตัวรถมีอาการบางอย่าง ที่บ่งบอกให้ผมรู้ว่า มันมีปัญหาซ่อนอยู่
ผมจะไม่ทำการทดลอง Top Speed เด็ดขาด ซึ่งมันเคยมีรถแบบนั้นมาแล้ว
Subaru Impreza WRX ทั้งรุ่นธรรมดา ที่มีปัญหา กับพื้นตัวรถเคยฉีกมาก่อน แล้วซ่อมเอา
กับ WRX STi 4 ประตู รุ่นก่อนปัจจุบัน คันนั้น พวงมาลัยมันแย่มาก จนหาความมั่นใจกับมันไม่ได้เลย
จึงตัดสินใจ ไม่ทำ Top Speed
แม้แต่ Mercedes-Benz A250 ที่ผมจองคิวไว้ ปรากฎว่า แก้มยางซ้าย ฉีก เพราะใครไม่รู้ไปเบียดฟุตบาทมา
ผมตัดสินใจ ส่งรถคืนทันที ไม่ขอทดลองขับ จนกว่าจะเปลี่ยนยางใหม่ทั้ง 4 เส้นให้เรียบร้อย แล้วค่อยว่ากันใหม่
3. รถที่ผมหวาดเสียวที่สุดตอนทำ Top Speed คือกลุ่มรถกระบะแทบทุกคัน ที่มีช่วงล่างเดิมๆ จากโรงงาน
มีแค่ Mazda BT-50 PRO ตัว 3.2 เท่านั้น ที่ผมยังพอจะไว้ใจได้บ้าง เพราะแม้แต่ Ranger ผมยังแอบเสียว
เรืองการตอบสนองของเบรกในช่วงความเร็วตอนนั้น รถอะไรก็ตาม ที่มีน้ำหนักเยอะ การหน่วงความเร็ว
จะต้องใช้ระยะทางเพิ่มมากขึ้นจากรถธรรมดาอีกหลายเมตร
ลองนึกดูว่า รถเก๋ง ปกติ ระยะเบรกจาก 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จนหยุดนิ่ง จาการเบระกระทันหัน
อยู่ที่ 30 เมตร บวกบวก ขึ้นไป Fortuner ที่เปลี่ยนระบบเบรกมาเป็น EBD แล้ว ยังได้ 33-34 เมตร
Pajero Sport มี 35-36 เมตร Mercedes-Benz S-Class W140 ปลาวาฬ ยังมี 40 เมตร บวกบวก
แล้วถ้าความเร็วเกินกว่านั้นละ ระยะเบรกต้องมากกว่านั้น กี่เท่าตัว ลองคำนวนดูแล้วกันครับ
มันหมายความว่า ขณะใช้ความเร็ว แค่คุณเห็นบั้นท้ายรถคันข้างหน้า ไกลลิบ เป็นจุดเล็กๆ
คุณต้องถอนเท้าจากคันเร่งได้แล้ว และต้องห้ามไม่ให้จิตตัวเองคิดว่า "อีกนิดนึงน่า" เด็ดขาด!!!
ไอ้ที่ตายๆกันไป ส่วนใหญ่ เพราะไอ้ความคิดที่ว่า "อีกนิดนึงน่า" นี่ทั้งนั้นแหละครับ มันน่ากลัวตรงนี้แหละ!
ทั้งหมดที่ผมซีเรียสขนาดนี้ เพราะรู้ดีว่า
ความเร็วสูงระดับนั้น มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น มันไม่ใช่วีดีโอเกมส์ ที่ถ้าพลาด พัง ตาย ก็กด Restart เริ่มต้นใหม่
4. ผมทำ Top Speed เฉพาะ ในยามวิกาลเท่านั้น จะไม่มีการขับเร็วนรกแตกแบบนั้น ตอนกลางวันแสกๆ เด็ดขาด!!
พลาดขึ้นมา เราอาจไม่ได้ซวยคนเดียว อาจมีคนที่ไไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับเราด้วย มันไม่คุ้มกันเลยครับ
กับแค่การรีบไปถึงที่หมาย ได้เร็วกว่ากัน ไม่เกิน 20 นาที แต่ถ้าพลาดสักที คุณจะไปไม่ึงจุดหมายเลยสักที่
และต้องเปลี่ยนจุดหมายกันใหม่ ถ้าไม่ใช่ โรงพยาบาล ก็ไปหาท่านยมบาล
5. ในชีวิตจริง บนถนนหลวง ช่วงกลางวัน ผมจะขับรถเร็วเต็มที่ แค่ ไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง เด็ดขาดครับ
เร็วกว่านั้น ไม่มีประโยชน์ สุดท้าย ต้องไปติดรถคันข้างหน้า บรรดารถคันที่เราแซงขึ้นมา ก็จะมาต่อท้ายแถวตามตูดเราอยู่ดี
ถ้าคุณอยู่เยอรมัน เอาเลยครับ แต่...ที่นี่ เมืองไทย เมืองที่คุณก็รู้ว่า อะไรต่อมิอะไร มันเป็นอะไรของมันกันไปหมดแบบนี้
ลองคิดดีๆครับ
-
ขอออกความเห็นในข้อ 2.) กับข้อ 3.) ครับ
2.) สำหรับตัวผมเอง ยอมรับว่าขับบ่อยครับ เพราะผมเข้ากรุงเทพฯทุกวัน และมีทั้งโทลเวย์ และทางด่วนเพื่อวิ่งเข้าไป ซึ่งความเร็วระดับ 160 - 200++ จะใช้ก็ต่อเมื่อ
- รถว่างครับ อยากวิ่งดู
- อันนี้บ่อยครับ คือทำเวลา ชอบนัดเพื่อน หรือจีบสาว แล้วชิวเผื่อเวลาน้อยเกิน หรือนัดกระทันหัน เลยมีเหตุให้ต้องขับเร็วจี๋ สุดท้ายไปถึงก่อนเวลา --"
3.) ผมไม่เลือกทั้ง 2 อย่าง แต่ผมเลือกโดยเอาทั้ง 2 อย่างรวมกัน คือทั้งอัตราเร่งดี และความเร็วปลายฝุดฝุด
สุดท้าย ส่วนตัวผมจะไม่ชอบแข่งกับใคร ชอบแข่งกับตัวเอง และจะขับเร็วก็ต่อเมื่อรถโล่งเท่านั้น แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะบางครั้ง วิ่งบนทางด่วน หรือโทลเวย์ ก็จะมีพวกช้าชิดขวา หรือแบบเลนซ้าย 2 เลนอย่างโล่ง แต่ก็ยังวิ่งขวา พอจะแซงทำเร่งความเร็ว พวกนี้แหละผมจัดให้จนบางครั้งก็กลัวลูกปืนครับ ;D :o >:(
-
ตอบ
๑.ทำได้แน่นอนครับ ลองดูในคลับแคมรี่
๒.ไม่จำเป็นครับ เปลือง อันตราย แต่ถ้าถามว่า รถทุกคันควรเคลมได้ตัวเลขขนาดนี้ไหม ผมคิดว่าจำเป็นครับ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้รถดีๆ มีสมรรถนะที่ดีเยี่ยม
๓.ผมเลือก พวกรถที่มีอัตราเร่งในช่วงความเร็ว 80-120 ดีกว่าครับเพราะอาจจะได้ใช้บ่อย
๔.มันแน่นอน โดยพื้นฐานกระบะก็แรงกว่าแล้วครับ ๑แสนทำแรงได้แบบเต็มๆ มีข้อยกเว้น ถ้าไม่ห่วงชีวิตนะครับ จัดเลย
ปล.ตอบนอกเรื่องกระบะบ้าพลัง ส่วนตัวผมอยู่พัทยา เป็นที่ทราบกันว่ากระบะพวกนี้เยอะมากๆ ซึ่งผมไม่ได้อวดตัวเองหรือเก๋าหรือโชว์พาวนะครับ แต่ไม่เคยหลบให้พวกนี้เลยครับ
เค้าอยากแซงเดี๋ยวเค้าก็หาช่องแซงไปเอง พวกนี้เค้าขามุดอยู่แล้วครับ
-
เสนอแนะครับ
ข้อ 2 ก็ในเมื่อท่านไม่ได้เอาไว้แข่งกะใครแล้วจะเอาไปทำไมล่ะครับ 200 น่ะ ต่อให้รีบๆ ด่วนๆ แค่ไหน ท่านกล้าขับแช่ที่ 200 หรือครับ......ผมไม่กล้าครับ
ข้อ 3 ไม่ลังเลเลยครับ ผมเอาต้นไว ปลายช่างมัน วิ่งได้ 120 ก็พอล่ะ แต่ขอต้นจัดๆ ขับสนุกกว่าครับ
ข้อ 4 เดิมๆ เค้าก็แรงกว่าเบนซินหลายๆ รุ่นแล้วครับ แต่งอีกนิดหน่อยก็แรงขึ้นอีกเยอะ แต่แรงคนละอารมณ์กับเบนซินครับ
ปล.รถผมคันเก่าเซฟิโร่สองเจโบ + จูนกล่องอย่างเดียว เคยลองกับกระบะ 3000 เดิมๆ โห......หืดขึ้นเลยครับ สับพลาดซักเกียร์นี่โดนเลย
-
อย่า ! คำเดียวครับ ไปคิดเองครับผม
-
1. วันไหนที่ผมนอนไม่พอ ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ผมจะไม่ทำการทดลอง Top Speed เด็ดขาด
ข้อนี้มีประโยชน์มาก....
ปล.ตอบนอกเรื่องกระบะบ้าพลัง ส่วนตัวผมอยู่พัทยา เป็นที่ทราบกันว่ากระบะพวกนี้เยอะมากๆ ซึ่งผมไม่ได้อวดตัวเองหรือเก๋าหรือโชว์พาวนะครับ แต่ไม่เคยหลบให้พวกนี้เลยครับ
เค้าอยากแซงเดี๋ยวเค้าก็หาช่องแซงไปเอง พวกนี้เค้าขามุดอยู่แล้วครับ
ไม่น่าใช่แล้วครับ ถ้าจะไม่ปล่อยให้แซงก็อุดไว้ ไม่ต้องให้มันแซง ไม่งั้นถ้ามันมุดไปก็เกรงจะไปก่อปัญหาให้คนอื่นอีก เลือกเอาครับ สักอย่าง
-
จำเป็น.....เมื่ออยากให้ฉีกหนีกลุ่มบ้าพลังบ่อยๆ
ไม่จำเป็น.....ถ้าใช้ขับทั่วไป กลัวกล้องจับความเร็ว ปล่อยให้กลุ่มบ้าพลังไปตายเอาดาบหน้า XD
วิธีฉีกหนีพวกขับเร็วบ้าพลังที่ใช้ได้ดีที่สุดสำหรับผม
คือเวลาเราอยู่เลนขวาแล้วเจอพวกมาเร็วกระพริบใส่ ผมฉีกซ้ายแล้วลดเหลือ 80 เลยครับ
แป๊บเดียวฉีกขาด มองเห็นกันลิบ ๆ
-
รู้แต่ว่าวิ่ง 200 แล้วกินน้ำมันสุดๆครับ แต่ถ้ารถวิ่งได้ก็ดีครับ เพราะบางทีอาจจะได้ใช้ความเร็วนั้น
-
สำหรับผม ผมว่าความเร็วขนาดนั้นไม่ค่อยจำเป็นครับ อันตรายมากอย่างที่ความเห็นอื่นๆบอกไว้แล้ว โดยเฉพาะถ้าเป็นพนักงานขับรถให้ลูกให้เมียแล้ว 120 ก็ว่าเร็วมากแล้ว เคยขับถึง 160 เหมือนกันครับกลางวันแสกๆ บนทางลอยฟ้าคู่ขนานบรมราชชนนี ถนนโล่งมากและเป็นทางตรงยาว + กับพึ่งได้รถมาใหม่ๆก็อยากลองดูครับ แต่ก็แค่ครั้งเดียวครับ