Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: avanue ที่ กรกฎาคม 25, 2013, 22:23:21
-
สวัสดีครับ ตัวผมปัจจุบันอายุ 28 ปัจจุบันใช้ Nissan March ปี 2010 อยู่ (ตามประสาลูกจ้างรายเดือน) ปัจจุบันผ่อนหมดแล้ว
ตัวผมมีลูกชายอายุ 1 ขวบปี และภรรยาเรียน ป.โทอยู่ ทุกวันนี้หลังจากตื่นนอน ก็ไปส่งภรรยาที่มหาลัย จากนั้นผมก็ไปทำงาน แล้วฝากให้น้องชายช่วยเลี้ยงลูก เย็นๆถึงจะไปรับลูกกลับมาบ้าน
ปัจจุบัน March ค่อนข้างสร้างความยากลำบากให้ตัวผมค่อนข้างมาก เพราะพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด ไม่สามารถใส่ของลูก และภรรยาได้หมด ไม่ว่าจะเป็น คาร์ซีท รถเข็น ตะกร้าผ้า ตะกร้าขวดนม หนังสือเรียนภรรยา กระเป๋าภรรยา เอาง่ายๆแน่นจนล้นไปทั้งคัน อีกทั้งยังเป็นรถเล็กที่มักจะทำให้ลูกของผมตกใจตื่นมาร้องไห้บ่อยมากเวลาขึ้นลูกระนาด หรือตกหลุมถนน
ผมจึงอยากจะลองมองหา D-Segment ที่ราคาไม่แพงมาก สามารถตอบโจทย์เรื่องของความจุของท้ายรถมากๆหน่อย และความนิ่มนวลของรถที่ไม่ทำให้เจ้าตัวน้อยตกใจตื่น เวลาออกไปข้างนอกกับลูกและเมียจะได้ไม่ลำบากมากนัก
ตอนนี้ผมมอง Toyota Camry 2.0G ปี 2006-2008 สักคันไว้ใช้งาน (ไม่ชอบ SUV,PPV,Van ด้วยเหตุผลที่ภรรยาชอบรถซีดาน) มันสามารถตอบโจทย์เรื่องของการขับขี่ การจุของ รวมถึงความสะดวกสบายได้ครบครันหรือไม่ครับ เรื่องความแรงคงไม่จำเป็นสำหรับผมเท่าไหร่ เพราะผมขับรถช้า (เป็นห่วงความปลอดภัยลูกและเมีย)
ขอขอบคุณล่วงหน้านะครับ
-
ตอบโจทย์ได้ครับ
แต่
บรรทัดแรกของคุณเลยน่ะ.
คุณอาจจะไม่ชินกับรายจ่าย. เช่นค่าน้ำมัน เมื่อเทียบกับตัวปัจจุบันที่คุณใช้อยู่ครับ. เนื่องจากคำที่อยู่ในวงเล็บ.
แต่ถ้ารับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตรงนี้ได้ก็ไม่มีปัญหาครับผม
ลองตัดสินใจดูครับ
-
ได้ชัวครับ
แต่ต้องรับค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น 1-2.5 เท่าโดยประมาณ ช่วงล่างของ Camry ตัวนี้แน่นอนครับนุ่มจนย่วยได้ใจแน่ แต่เครื่องก็ใช้ย่อยครับจะออกจะแรงซะด้วยซ้ำ
หนักที่ตกคันเร่งครับ ถ้าจะกดสุดมันจะมีจังหวะคิดอยู่ 0.5-1.2 วิ แล้วมาจะมาเต็มครับ
-
ตอบสนองได้แน่ นุ่ม แรง แต่พาไปติด LPG ด่วนกระเป๋าแฟบตอนเริ่ม ตอนหลังสบาย
-
ตอบโจทย์เจ้ากระทู้ได้หมดครับ....เเต่ขอเเนะนำครับเอาตัว2.4 ดีกว่าครับ ราคาพอกัน ออฟชั่นเยอะกว่าครับ ติดเเก๊สขับสบายครับๆๆ ;D ;D
-
เอาตัว 2.4 มาลงแก๊สคุ้มกว่าไหมค่ะ ราคาไม่ได้ต่างจาก 2.0 เลย แพงกว่ากันหน่อย แต่ได้อะไรหลาย ๆ อย่างที่คุ้มกับการลงทุน ;)
-
ข้อเสียของตัว 2.0 คือ เกียร์มันชอบกระตุก ตอนออกตัว (เป็นทุกคัน)
ถ้ารับเรื่องนี้ กับ อัตราสิ้นเปลืองในเมืองได้ อย่างอื่นก็ตอบโจทย์ครับ
ช่วงล่างก็ไม่ได้นุ่มซะจนไม่ให้ความมั่นใจนะ
ความเร็วระดับเดินทางทั่วไป มันก็พอๆ กับ D segment ญี่ปุ่นในยุคนั้นนั่นแหละ
ยกเว้นคุณจะกดขึ้นไปสัก 140+ อันนี้ก็จะเห็นความแตกต่างจากคู่แข่งและ
แต่ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยไม่เครียดนัก
-
รุ่นนี้ต้องทำใจกับความอืดและแป้นเหยียบที่ไม่ทันใจครับ
-
ผมใช้อยู่ ครับ2.0g extremo สีขาวปี 2010
รถดีนะครับ ไม่อึดเลยหากคุณขับมาร์ชมา เรื่องคันเร่งไฟฟ้าก็เรียนรู้นิสัยกันแป๊บๆก็ได้แล้ว
แต่ที่คุณจะไม่ชินก็คือความใหญ่โตของมัน จะมีปัญหาเรื่องที่จอดได้ และก็การบริโภคน้ำมันในเมือง 9-10 km/l นอกเมือง ทางไกล 10-13 km/l
ถ้าขับรถไม่เกิน 140-150 km/h ก็ไม่มีปัญหา กดแล้วไป แต่เกินจากนั้นจะไหลช้าไปนิด
โดยรวมก็โอนะครับ ผมมีลูกชายแฝด ข้าวของก็ขนได้หมด จะมีปัญหาก็ตอนไปเที่ยวนี่แหละที่อาจจะเอาของเล่นลูกไปไม่หมด
ผมเลยกำลังหา SUV มาแทนเจ้าคันนี้อยู่
-
ต้องถามตัวเองก่อนว่า งบประมาณกับราบรับรายจ่ายต่อเดือนมีผลกระทบต่อการมีรถอีกคันเพิ่มขึ้นมา ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง จิปาถะที่เพิ่มขึ้นมามั้ย
ถ้าคิดออกมาแล้วโอเค ก็โอเคครับ
ถ้าพูดเรื่องตัวรถ จากใช้รถเล็กๆมาใช้คันยาวๆ ช่วงแรกนี่ต้องกะระยะดีๆนะครับ อาจจะมีพลาดบ้าง นานๆไปก็ชิน
ถ้าเรื่องราคา จากรุ่นปีที่บอกมา อยู่ประมาน 6 แสนกว่าๆ ไล่ไปถึง 7 แสนกว่าๆในปีใหม่
ผมว่าในตลาดตอนนี้ ราคา 2.0 กับ 2.4 มันไม่หนีกันมาก แต่ออฟชั่นในตัวรถที่ได้มันต่างกันพอสมควร ถ้ารับได้กับส่วนต่างการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ผม่วา 2.4 ก็น่าสนนะครับ
-
ผมคิดว่า หา C-Seg อย่าง Slyphy, Altis Civic ก็น่าจะเพียงพอสำหรับลูก 1 คน นะครับ
ราคาแคมรี่ประมาณ 700,000
ผมว่า Slyphy 1.6 ราคา 776000 (CVT) แล้วครับ มันใกล้เคียงกัน
พื้นที่วางขา พื้นที่บรรจุของกระโปรงหลัง ใหญ่นะครับ ลองดูครับ
Altis, Civic ก็ 8 ขึ้น แพงไปนิด
City ก็รอรถนาน
ถ้ามีรถคันเดียวอย่างนี้ ลองดูมือ 1 ดีกว่าครับ กัดฟันอีกนิด March ไปเทิร์น น่าจะโอเคกับ Slyphy นะครับ
-
ถ้าหาสภาพดีๆ ไม่ย้อมแมว ไม่โกงไมล์ ราคาสมเหตุสมผลได้ก็เอาครับ
แต่ถ้ามือ 1 เชียร์ Sylphy ท้ายจุ 510 ลิตร ใหญ่พอกับ D-seg เลย
มีความนุ่มแถมมาด้วย
-
ผมมองว่าถ้าต้องผ่อน ดอกเบี้ยรถมือสองค่อนข้างสูง
ในขณะที่รถ C segment ช่วงนี้แทบไม่มีดอกเบี้ย โปรโมชันกันสุดๆ
หากนำมาบวกลบกันแล้วส่วนต่างเมื่อเทียบกับ C segment มือหนึ่งไม่น่าต่างกันมากครับ
ลองดู Sylphy 1.6 หรือ civic E85 เป็นทางเลือกไหมครับ
อย่างน้อยค่าบำรุงรักษาก็ประหยัดลงไปได้อีกมาก
-
พอครับ ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา
แต่ถ้ายังมีเรื่องทุนทรัพย์จำกัดผมว่า Ertiga Freed Avanza น่าจะป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกันครับ
ไม่ก็พวก Hatchback B-C Jazz , Pulsar น่าจะบรรทุกของได้ไม่แพ้ Sedan D-Seg นะครับ
-
ลูกขวบนึง ภรรยา เท่าที่คำนวนเรื่องพื้นที่กับของแล้ว เป็นผมผมเลือก c-seg ตัวท็อปๆหน่อย + Hatchback ขอความปลอดภัยครบ ก็น่าจะขนหมดสบายๆนะครับ การประหยัดน้ำมันก็ดีกว่าด้วย ยกเว้นว่าแอบสนใจเรื่องภาพลักษณ์หน่อย ก็ถึงจะน่าไปเล่น d-seg 2.0ครับ แต่ถ้า d-seg 2.0 แล้วต้องคบแก๊ส พื้นที่การบรรทุกก็จะหายไปอีก 60-70 ลิตรนะครับ :D
ที่ผมแนะนำ hatchback เพราะว่ามันเหมาะและสะดวกในการจัดของหยิบของ ยิ่งถ้าคุณไปไหนแล้วให้ภรรยานั่งด้านหลังกับลูกด้วยนะครับ
-
ขอขอบคุณทุกท่านมากๆครับ
ผมจอง Toyota Camry 2.4v สีขาวปี 2008 จากเต้นท์รถเรียบร้อยแล้วครับ วันจันทร์-อังคาร ไฟแนนซ์น่าจะโทรมาที่บริษัท วันพุธก็น่าจะได้รถแล้ว
ขอบคุณเป็นอย่างสูงอีกครั้งครับผม
-
ตอบโจทย์ได้ครับ รถใหญ่ นั่งสบายมากๆ อัตราเร่งดี
แต่....อย่าลืมไปติด LPG นะครับ ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน
;D ;D ;D
-
ยินดีด้วยครับ คิดถูกแล้วที่เล่นตัว 2.4V เพราะราคาก็พอๆกัน
แต่ออฟชั่นเยอะกว่า แถมได้เกียร์ 5สปีด ขับทางไกลสบายขึ้นครับ
-
2.4V คุ้มค่าหรูหรา ความปลอดภัยไม่ขี่เหร่ เป็นการตัดสินใจที่ดีครับ แต่รับกับค่าน้ำมันในเมืองนิดนึง นอกเมือง โอเคเลย