Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: PorPor ที่ กรกฎาคม 28, 2013, 13:27:14
-
ให้ 4 สูบเทอร์โบ เป็นสักเครื่อง 2500 ได้แรงม้า 350 แรงบิดสัก 369 เทียบกับ เครื่อง 6 สูบธรรมดา 3400 แรงม้า 325 แรงบิดสัก 270 อันไหนน่าจะเป็นรถที่ดีกว่าครับ ถ้าให้ลงตัวถังเดียวกันครับ
-
ให้ 4 สูบเทอร์โบ เป็นสักเครื่อง 2500 ได้แรงม้า 350 แรงบิดสัก 369 เทียบกับ เครื่อง 6 สูบธรรมดา 3400 แรงม้า 325 แรงบิดสัก 270 อันไหนน่าจะเป็นรถที่ดีกว่าครับ ถ้าให้ลงตัวถังเดียวกันครับ
เลข 0 เกินมา 1 ตัว
-
ให้ 4 สูบเทอร์โบ เป็นสักเครื่อง 2500 ได้แรงม้า 350 แรงบิดสัก 369 เทียบกับ เครื่อง 6 สูบธรรมดา 3400 แรงม้า 325 แรงบิดสัก 270 อันไหนน่าจะเป็นรถที่ดีกว่าครับ ถ้าให้ลงตัวถังเดียวกันครับ
เลข 0 เกินมา 1 ตัว
เค้าจะบอกว่าเครื่อง3400cc เขียนถูกแล้วครับ
เครื่องเล็ก+โบ แรงม้าเยอะกว่าเครื่องใหญ่ไม่มีโบ ก็เอาเครื่องเล็กครับ แต่้ถ้าแรงม้าเท่ากันเอาเครื่องไม่โบครับ
-
ถ้าไม่พูดถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลทั้งหมด เอาแค่ความรู้สึกล้วนๆ ผมเลือก 6 สูบ NA ครับ ;D
-
4 สูบโบได้อะไร
- แรง
- ได้เสียงหอนเทอร์โบ +- ว่าอาจจะมีเสียง BOV ได้อารมณ์การขับแบบนึง
- แรงบิดมาตั้งแต่รอบต้นๆได้ (แล้วแต่การเซทมาอีกทีครับ แต่ส่วนใหญ่กราฟมาเร็วกว่า)
- เสียงเครื่องอาจไม่ค่อยหวานหูเท่าไหร่
6 สูบเพียวได้อะไร
- แรง(เหมือนกันนะ)
- ได้เสียงเครื่องไพเราะหวานหูมากๆ
- รอบเดินเบาต่ำกว่า เงียบกว่า
ส่วนตัว เคยขับทั้งคู่ แต่ 4 สูบโบนี่คือ ผมเอา Vios ไปเซทโบเองนะ อีกอันที่ขับคือ Camry 3.5 Q ครับ
ถ้าพูดเรื่องแรงดึงยังไง Camry 3.5Q มันแรงอยู่แล้ว แต่แรงดึงนับตั้งแต่กระทืบเท้าลงไปเลยเนี่ย Vios เซทโบผมเหมือนจะดึงแรงกว่าครับผม แต่ถึงกระนั้น ผมชอบอารมณ์ฺในการขับของ 6 สูบมากกว่านะ ;D ;D
ปล. ความรู้สึกล้วนๆๆๆๆๆๆ
-
ต้องลองขับGolf Gti กับ Scirocco ดูครับ ดึงโคตรน่ากลัว ขับรถดีเซลยังไม่น่ากลัวเท่านี้เลย
-
ให้ 4 สูบเทอร์โบ เป็นสักเครื่อง 2500 ได้แรงม้า 350 แรงบิดสัก 369 เทียบกับ เครื่อง 6 สูบธรรมดา 3400 แรงม้า 325 แรงบิดสัก 270 อันไหนน่าจะเป็นรถที่ดีกว่าครับ ถ้าให้ลงตัวถังเดียวกันครับ
เลข 0 เกินมา 1 ตัว
เครื่อง 3400 CC 325 แรงม้า ก็ถูกแล้วหนิครับ
-
ผมว่าเครื่อง 6 สูบ na ขนาด 3400 cc ที่อยู่ในยุคเดียวกับเครื่อง 2500 cc 4สูบ turbo ที่สามารถผลิตแรงบิดได้ 369 nm คงไม่ได้ผลิตแรงบิดได้แค่ 270nm หรอกครับ ขนาดเครื่อง 2JZ-GE แค่ 3000cc ในยุค 90 มันยังมีแรงบิด290nmแล้ว ถ้าบนพื้นฐานเทคโนโลยียุคเดียวกัน เครื่อง na 6 สูบ กับ 4สูบเทอร์โบ ที่เล็กกว่า ดี เสียกันคนละอย่างครับ ชอบนุ่ม ราบเรียบ เงียบ ไป 6 สูบ ชอบแรงดึงมันส์ หน้าเบาๆหน่อย กินน้อยเมื่องไม่ขับรุนแรง ไป 4 สูบเทอร์โบ ครับ
รถแบบในโจทย์ ผมไม่มี แต่เอาแบบที่เคยใช้ เห็นชัดๆ นะครับคือ ผมเคยใช้ C-Class W202 2 คัน คันนึงเป็น C280 อีกคัน C230Kompressor ทั้งคู่ปี 97 ทั้งคู่ใช้เกียร์ 5 ออโต้ สเปกในกระดาษใกล้เคียงกันมาก แต่เวลาขับจริง ช่วงก่อน 120 C230K เรียกกำลังง่ายกว่า ทันใจกว่า เหมาะกับขับมันส์ในเมือง เร่งแซงช่วงความเร็วต่ำถึงปานกลางเยี่ยม แต่ C280 เครื่อง เงียบกว่า การส่งกำลังต่อเนื่อง นุ่มนวลกว่าชัดเจน แรงบิดดูต่อเนื่อง ไหลมาเทมา แต่ไม่จี๊ดเท่า แต่บนย่านความเร็วสูง เกิน 120 C280 ขับดีกว่ามาก เดินทางไกลให้ความรู้สึกเป็น cruiser ขับสบาย รอบต่ำ เร่งแซงได้ แม้แต่ช่วงความเร็ว 200 ก็ยังลงเกียร์4 ให้ ปลายไหลสบายๆกว่า และที่แน่ๆรถ 2 คันนี้ ตัว 230k รักอู่กว่าครับ อันนี้ต้องแล้วแต่ชอบ
-
ถ้าเอาเรื่องความประหยัดน้ำมัน กับ มลภาวะ มาคิดด้วย 4สูบ turbo กินขาดครับ
-
ต้องลองขับGolf Gti กับ Scirocco ดูครับ ดึงโคตรน่ากลัว ขับรถดีเซลยังไม่น่ากลัวเท่านี้เลย
เทียบกับคู่นี้แล้วแรงดึงของ BMW 320D เฉยๆไปเลย
-
เครื่องสี่สูบที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้ จะมีปัญหาเรื่องแรงสั่นสะเทือนครับ ขนาดสูบมันจะต้องใหญ่มากๆ ถึงแม้ว่าจะมี Balance shaft มาช่วยทำให้แรงสั่นสะเทือนน้อยลง แต่ก็ยังไม่นุ่มนวลเทียบเท่าเครื่อง 6สูบแน่นอน เครื่องสองพัน สองพันสอง ปัญหานี้จะยังไม่เกิดขึ้นมากเสียเท่าไหร่ แต่ถ้าสองพันห้าเมื่อไหร่ มันจะชัดเจนเอามากๆ โอเค สมัยนี้เครื่องยนต์มันก็ไม่ใช่เครื่องแบบออสติน 2.6 ลิตร 4สูบ แล้ว มันก็ไม่ได้สั่นขนาดที่จะทำให้ฟันหลุดกันเลยทีเดียว แต่เครื่อง 6สูบ ก็ยังนุ่มนวลกว่า
แล้วถ้าเกิดรถมันออกแบบมารองรับกับเครื่อง 6สูบ ตัวแท่นยึดเครื่องยนต์จะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับแรงสั่นของเครื่อง 4สูบด้วยนะครับ แรงสั่นจะแย่กว่าปกตินิดนึง แต่ส่วนมากเขาก็จะทำแท่นยึดมารองรับเป็นปกติ BMW 4สูบ กับ 6สูบ แท่นยึดไม่เหมือนกัน
-
ผมว่าเครื่อง 6 สูบ na ขนาด 3400 cc ที่อยู่ในยุคเดียวกับเครื่อง 2500 cc 4สูบ turbo ที่สามารถผลิตแรงบิดได้ 369 nm คงไม่ได้ผลิตแรงบิดได้แค่ 270nm หรอกครับ ขนาดเครื่อง 2JZ-GE แค่ 3000cc ในยุค 90 มันยังมีแรงบิด290nmแล้ว ถ้าบนพื้นฐานเทคโนโลยียุคเดียวกัน เครื่อง na 6 สูบ กับ 4สูบเทอร์โบ ที่เล็กกว่า ดี เสียกันคนละอย่างครับ ชอบนุ่ม ราบเรียบ เงียบ ไป 6 สูบ ชอบแรงดึงมันส์ หน้าเบาๆหน่อย กินน้อยเมื่องไม่ขับรุนแรง ไป 4 สูบเทอร์โบ ครับ
รถแบบในโจทย์ ผมไม่มี แต่เอาแบบที่เคยใช้ เห็นชัดๆ นะครับคือ ผมเคยใช้ C-Class W202 2 คัน คันนึงเป็น C280 อีกคัน C230Kompressor ทั้งคู่ปี 97 ทั้งคู่ใช้เกียร์ 5 ออโต้ สเปกในกระดาษใกล้เคียงกันมาก แต่เวลาขับจริง ช่วงก่อน 120 C230K เรียกกำลังง่ายกว่า ทันใจกว่า เหมาะกับขับมันส์ในเมือง เร่งแซงช่วงความเร็วต่ำถึงปานกลางเยี่ยม แต่ C280 เครื่อง เงียบกว่า การส่งกำลังต่อเนื่อง นุ่มนวลกว่าชัดเจน แรงบิดดูต่อเนื่อง ไหลมาเทมา แต่ไม่จี๊ดเท่า แต่บนย่านความเร็วสูง เกิน 120 C280 ขับดีกว่ามาก เดินทางไกลให้ความรู้สึกเป็น cruiser ขับสบาย รอบต่ำ เร่งแซงได้ แม้แต่ช่วงความเร็ว 200 ก็ยังลงเกียร์4 ให้ ปลายไหลสบายๆกว่า และที่แน่ๆรถ 2 คันนี้ ตัว 230k รักอู่กว่าครับ อันนี้ต้องแล้วแต่ชอบ
ลืมบอกไปครับว่าค่าแรงบิด เป็นหน่วย pound/ft ครับ เทียบเป็น nm ก็ได้ประมาณ 370 สำหรับ 6 สูบ กับ 500 ของ 4 สูบ เทอร์โบครับ
-
ด้วยเทคโนโลยี ณ ปัจจุบัน
คิดว่า 4 สูบเทอร์โบชนะครับ
แรงกว่า ประหยัดกว่า น้ำหนักเบากว่า
turbo lag ก็ไม่มีให้เห็น
ดูพวก MB, BMW ครับ โละ 6 สูบทิ้งแทนที่ด้วย 4 สูบเทอร์โบหมด
-
ให้ 4 สูบเทอร์โบ เป็นสักเครื่อง 2500 ได้แรงม้า 350 แรงบิดสัก 369 เทียบกับ เครื่อง 6 สูบธรรมดา 3400 แรงม้า 325 แรงบิดสัก 270 อันไหนน่าจะเป็นรถที่ดีกว่าครับ ถ้าให้ลงตัวถังเดียวกันครับ
เลข 0 เกินมา 1 ตัว
เค้าจะบอกว่าเครื่อง3400cc เขียนถูกแล้วครับ
ให้ 4 สูบเทอร์โบ เป็นสักเครื่อง 2500 ได้แรงม้า 350 แรงบิดสัก 369 เทียบกับ เครื่อง 6 สูบธรรมดา 3400 แรงม้า 325 แรงบิดสัก 270 อันไหนน่าจะเป็นรถที่ดีกว่าครับ ถ้าให้ลงตัวถังเดียวกันครับ
เลข 0 เกินมา 1 ตัว
เครื่อง 3400 CC 325 แรงม้า ก็ถูกแล้วหนิครับ
ผมคงอ่านพลาดเอง อ่านว่า " 3400 แรงม้า" เลยตกใจ เลยนึกว่า คง 340 แรงม้า แล้วเลข 0 เกินมา
แต่จริงๆคือ 325 แรงม้า
-
เทคโนโลยีมันไวครับ
4สูบผูกโบ น่าใช้กว่า
แต่ถ้าขับทางไกล ขับเร็ว V6 ได้อารมณ์จริงๆครับ
-
ปัจจุบัน 4 สูบเทอร์โบ แรงกว่าประหยัดกว่า มลพิษต่ำกว่า
bmw ตอนแรกก็เคยออกมาประกาศว่า จะไม่ทำเครื่องเทอร์โบสุดท้ายก็ทำเพราะด้วยเทคโนโลยีเครื่อง na มันไม่ไปไหนเท่าไหร่แล้ว
-
ถ้า 4 สูบ มีโบ เครื่องประมาณ 2.0 ลิตร แรงบิดมาแน่ๆ 250 NM แรงม้าผมไม่สน
เผลอๆ แรงบิดลงพื้นเกือบหมดตั้งแต่ 3 พันรอบแล้ว ขับสบายๆชิลๆ
อัตราสิ้นเปลืองดี จอดนิ่งๆ รถติดก็ไม่กลัว
ลองคิดว่า ขับรถ 2.0 โบ เทียบกับ 3.5 V6
วี6 เหนือกว่าด้านอัตราเร่งเพราะความจุมากกว่าค่อนข้างเยอะ
แต่อัตราเร่งเหนือกว่ากันไม่มาก ในขณะที่อัตราสิ้นเปลือง ต่างกันโข...
-
เลือกไม่ถูกเลยครับ อยากมีไว้ทั้ง2แบบ เสน่ห์แต่ละแบบก็ต่างกันไป เลือกไม่ถูกจริงๆ
-
อยู่ที่ลักษณะการใช้งานครับ ถ้าวิ่งยาวๆทางไกลเครื่องCC น้อยมันหอบกว่าพวกCCเยอะเป็นทุนเดิม แต่เครื่องยนต์ที่มีเทอร์โบ
มันปลอดภัยและ อัตราเร่งกระชับกว่าเครื่องNA โขครับ ส่วนตัวผมเอง รวมถึงลักษณะการใช้งาน ยังไงผมขอรถที่มีเทอร์โบครับ เพราะ
มันต่อยอดง่ายกว่า สมมติว่าเราได้กำลังมา X แรงม้า Y แรงบิด อาจจะยังไม่เพียงพอ มีขาดเกิน รถที่พื้นฐานเครื่องเทอร์โบ มันยืดหยุ่น
ค่า X Y ได้มากกว่าNA และในงบประมาณที่ถูกกว่า สำหรับผมปัจจุบัน รถเครื่องยนต์ 6 สูบ ขนาดความจุสัก3000-3500CC
ผมเฉยๆครับ 4สูบเทอร์โบเครื่องแค่1.8-2.3L ต่อยอดได้มากกว่าNA น่าพิศมัยมากกว่าครับ เพราะผมเองคงไม่ได้ขับแช่ที่180km/H
ตลอดเวลา ถ้าจะเล่นNA ขอV8 4.2 บล๊อคเครื่องของพวกAudiครับ อัตราเร่งไม่ได้ดีเด่ครับ แต่ถ้าใครเคยได้ยินเสียงเครื่องV8
เวลามันหอบตอนเดินเบา หรือเวลาคำรามตอนเหยียบ มันเสนาะโสตครับ
-
6 สูบเทอร์โบ ActiveHybrid จบป่ะ??
ที่บ้านไม่นิยมเทอร์โบเลยมี 6 สูบเรียง "นรกตัวสุดท้าย" อยู่ครับ
แต่ถ้าจากตัวเลือก 6 สูบ 3.4l ได้แค่ 270 นิวตันเมตร อันนี้บ๊ายบาย
-
6 สูบเทอร์โบ ActiveHybrid จบป่ะ??
ที่บ้านไม่นิยมเทอร์โบเลยมี 6 สูบเรียง "นรกตัวสุดท้าย" อยู่ครับ
แต่ถ้าจากตัวเลือก 6 สูบ 3.4l ได้แค่ 270 นิวตันเมตร อันนี้บ๊ายบาย
ผมลืมแจ้งไปว่าหน่วยแรงบิดเป็น ft·lbf ครับ ไม่ใช่ Nm ชี้แจงไปกระทู้บนๆ แล้วครับ
-
อยู่ที่ลักษณะการใช้งานครับ ถ้าวิ่งยาวๆทางไกลเครื่องCC น้อยมันหอบกว่าพวกCCเยอะเป็นทุนเดิม แต่เครื่องยนต์ที่มีเทอร์โบ
มันปลอดภัยและ อัตราเร่งกระชับกว่าเครื่องNA โขครับ ส่วนตัวผมเอง รวมถึงลักษณะการใช้งาน ยังไงผมขอรถที่มีเทอร์โบครับ เพราะ
มันต่อยอดง่ายกว่า สมมติว่าเราได้กำลังมา X แรงม้า Y แรงบิด อาจจะยังไม่เพียงพอ มีขาดเกิน รถที่พื้นฐานเครื่องเทอร์โบ มันยืดหยุ่น
ค่า X Y ได้มากกว่าNA และในงบประมาณที่ถูกกว่า สำหรับผมปัจจุบัน รถเครื่องยนต์ 6 สูบ ขนาดความจุสัก3000-3500CC
ผมเฉยๆครับ 4สูบเทอร์โบเครื่องแค่1.8-2.3L ต่อยอดได้มากกว่าNA น่าพิศมัยมากกว่าครับ เพราะผมเองคงไม่ได้ขับแช่ที่180km/H
ตลอดเวลา ถ้าจะเล่นNA ขอV8 4.2 บล๊อคเครื่องของพวกAudiครับ อัตราเร่งไม่ได้ดีเด่ครับ แต่ถ้าใครเคยได้ยินเสียงเครื่องV8
เวลามันหอบตอนเดินเบา หรือเวลาคำรามตอนเหยียบ มันเสนาะโสตครับ
เห็นด้วย turbo ต่อยอดง่ายกว่ามากแบบไม่ต้องรื้อเครื่อง พูดง่ายๆคือแรงได้ง่ายกว่า แต่ทั้งนี้ขึ้นกับการขับครับ ขับ na แช่ยาวๆออกต่างจังหวัด ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนขึ้น เหมือนกับเครื่อง turbo ที่ต้องคอยดูเกจ์ความร้อนอยู่เรื่อยๆ เครื่อง v6 ช่วงความเร็วปลายผมว่าดีมากนะครับ ไหลมาเทมาเหมือนกัน
-
250XV 6สุบผม กินน้ำมัน แบบสูบเลยครับ ถ้าขับในเมือง
ขับรถ 4 สูบยังไงก็ได้ 140-160 แล้วครับ ดังนั้น เลือกเทอร์โบ เพื่อประหยัดน้ำมันเวลาวิ่งในเมือง
ปล. เสียง 6 สูบ มันไพเราะกว่า จริงๆนะ ^_^
-
เครื่องในโจทย์ฟังดูแล้วเหมือนเครื่อง 6 สูบนอนใน Cayman S ตัวใหม่นะครับ
ถ้าระดับนี้แล้วก็ขอเลือกเครื่อง na ครับ ยกเว้นกรณีที่จะเอาไปต่อยอดทำแรงม้าออกมามากๆก็คงต้องเครื่อง turbo
แต่ถ้าเครื่องสี่สูบ turbo ไปเทียบกับหกสูบที่ cc ต่ำกว่าและไม่ใช่พวกเครื่องสมรรถนะสูง ผมก็เลือกสี่สูบก่อน
-
4 เม็ดเพศเมีย
6 เม็ดเพศผู้
คำถามกว้างมากสำหรับผม ของแบบนี้เทียบรุ่นกันมาเลยดีกว่าจะตรงจุดกว่า
โดยมากพวก 6 เม็ดมักจะมีดีตรงที่เสียงเพราะ และไม่ค่อยมีจุดให้ดูแลรักษามากนัก
แต่เรื่องน้ำหนักเครื่อง 6 เม็ดมักเสียเปรียบถ้าเทคโนโลยีและวัสดุเท่าๆกัน
สิ่งที่ผมมักไม่ชอบใน 4 เม็ดมีหอยคือเสียงเครื่อง โดยเฉพาะฝั่งญี่ปุ่น ผมฟังแล้ว
ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็น SR20DET หรือ 4G63T มันฟังดูตดๆ
ขาดอารมณ์ ..แต่ถ้าเป็นเสียงเครื่อง Boxer-4 ท่อ Unequal length อย่าง
EJ20Turbo คอขาว หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คอแดง JDM หลังจากปี 2003
ผมโอนะ ชอบ สะเด่าดี หรือถ้าเป็น 4 สูบที่คิดกระทั่งการกรองเสียงว่าเสียงไหน
จะเข้าห้องโดยสารเสียงไหนจะกันอย่าง Golf/Scirocco อย่างนี้ผมโอเค
ถ้าจัดการเรื่องเสียงเครื่องให้ดีได้ ผมก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่อง 6 สูบ
หรือถ้าเป็น 6 สูบแล้วเสียงแปร่งๆอย่าง 350Z N/A ผมก็ไม่เอาเหมือนกัน
6 สูบ N/A ทำเสียงให้เพราะได้ง่ายกว่า ดู Boxster กับ Cayman เดิมๆสิ
เสียงมาก็เพราะแล้ว หรือ M3 E46 3.2ลิตรที่ทำกรองทำท่อมา ลองเร่ง
เครื่อง 6 สูบเรียงของ BMW ดูสักรอบแล้วจะติดใจ
แต่ก็นะ..ให้ผมเลือกระหว่าง 523i ที่เสียงเพราะมากแต่วิ่งจริงๆไม่เท่าไหร่
กับ 528i ที่เสียงธรรมดามากแต่กดแล้วพุ่งกว่ามาก..ผมก็เอา 528i
ถึงบอกว่าเล่นกับเคสบายเคสเลยเหอะจ้ะ
-
ใช้อยู่ทั้งคู่เลย v60 1.6 turbo กับ teana j32 250Xv รู้สึกไม่ต่างกันเลยแรงม้าแรงบิดใกล้เคียงกัน แต่ปลาย j32 ไหลกว่าเยอะน่าดู
ตอนแรกก็นึกว่า v60 จะประหยัดกว่าจมหู แต่ปรากฎว่าเติมน้ำมันเดียวกัน (แถวบ้านหา e85 ไม่ค่อยมี) กินเท่าๆกันเลย :'( น่าจะเป็นเพราะต่อให้เป็นช่วงรถติดแต่การเอาเครื่อง 1.6 ที่เทอร์โบบูสทืยังไม่ทำงานมาลากตัวถังหนัก 1.6ตัน มันเหมือนกันทรมานควายเทียมเกวียนดีๆนี่เอง แต่เหยียบทีแรงบิดมาเร็วทันใช้ทันใจเลยครับ
สรุปถ้าเป็นผมก็คงดูเปรียบเทียบเป็นตัวๆไป แต่ต้องยอมรับว่าเทอร์โบสมัยนี้ทำเอาผมตกใจมาก!!! คำว่าเทอร์โบแล็กคืออะไรลืมไปเลย....... ;D