Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: massyy ที่ สิงหาคม 07, 2013, 01:16:40
-
ไอ้เจ้าตัว Stuffit มันช่วยแรงเสียงได้จริงๆมั้ยคับ มีใครลองใช้ยังคับ
-
ใช้อยู่ครับ mitsu lancer CK2 ... เห็นผลน้อยมากกกกกกกกกกกกก สำหรับผมคือมันไม่เห็นผลชัดเจนอ่ะ
ปล. mitsu เค้าไม่เน้นเรื่องความเงียบครับ (แต่ปัจจุบันไม่รู้นะ) มันมีเสียงรบกวนด้านอื่นๆเข้ามาเยอะอยู่แล้ว
มันเลยอาจจะดูเหมือนไม่ค่อยช่วยก็ได้มั้ง แต่ของรุ่นพี่อีกคนเค้าลองเอาไปใช้กับ altis กับ march เค้าก็บอกว่า
ไม่ค่อยเห็นผลชัดเจนเท่าไร
-
หลักการของมันคือ ลดเสียงลม ที่เข้ามาทางขอบประตู แต่ที่มาของเสียงมันมาจากหลายทาง เช่นซุ้มล้อ ใต้ท้อง ห้องเครื่อง ดังนั้นนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ติดแล้วรู้สึกไม่เงียบ เพราะเสียงลมเข้ามาทางประตู อาจจะลดไปจริง แต่เสียงรบกวนที่เข้ามาทางอื่น มันยังอยู่ และดังกว่าซะอีก
การใช้ เจ้ายางตัวนี้ ให้ได้ผลที่สุด จึงต้องทำควบคู่ไปกับการลดเสียงรบกวน ที่เข้ามาทางด้านอื่นด้วย เช่น พ่น Sound Clad (พ่นกันสนิม) ที่ซุ้มล้อ ผลพลอยได้คือ เสียงรบกวนจากซุ้มล้อลดลง, พ่นใต้ท้อง ลดเสียงหิน ทราย กระเด็น ซึ่งทำให้เกิดเสียงรบกวนเช่นกัน รวมถึงการแดมป์รอบคัน เป็นต้น
เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจะเห็นได้ว่า สตัฟฟิต มันก็เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่จะทำให้เสียงรบกวนในห้องโดยสารลดลง ถ้าเราแค่ติดเจ้าตัวนี้อย่างเดียว จึงรู้สึกว่าเสียงรบกวนไม่ได้ลดลงเท่าไหร่ มันจะเห้นผลได้ เมื่อทำส่วนอื่นควบคู่ไปด้วย
-
ผมใช้ในวีออส 09 ครับ
ผลคือ เห็นผลนิดเดียวครับ นิดเดียวจริงๆ กับเงิน 450 ที่เสียไป
ถ้าถามว่าคุ้มไหมนะเหรอครับ ส่วนตัวผมก็ว่ามันไม่คุ้มนะครับ แต่ใส่ไปแล้วทำยังไงได้
-
ผมใช้ Stuffit ทั้งรุ่นแรก และรุ่น 2 ครับ
ใช้ Stuffit รุ่นแรก เป็นยางอย่างเดียว กับรถ
- Vios 2003 (รถสีบรอนซ์เงิน) เห็นผลนะ แต่นิดเดียว (หรือคิดไปเองไมารู้)
- Swift Eco (รถสีขาว) อันนี้แหละปัญหา ใส่ไปพักนึง พอดีมันหลุด เลยเห็นว่าตรงที่ติด Stuffit มันเป็นคราบเหลือง ผมบ่นไปทางคนขาย คนขายก็รับผิดชอบโดยการมาเปลี่ยนเป็น Stuffit รุ่น 2 ให้ฟรี (เป็นโครงเหล็ก ส่วนยางหุ้ม เค้าบอกว่าไม่ทำให้เหลือง) แต่ที่มันเหลืองไปแล้ว เค้ารบกวนให้ผมซื้อครีม cana มาถูออก (ผมลองแล้ว ออกโครตยาก ปัจจุบันคราบเหลืองยังอยู่เลย)
สรุป ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ไม่น่าติดเลย
-
ตอนแรกก็สนใจจะติดนะ แต่พออ่านคอมเมนต์จากผู้มีประสบการณ์แล้ว....เปลี่ยนใจดีกว่า แฮ่ะ :'(
-
สำหรับผม มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ
อุปทานว่าดีขึ้นนิดนึง เหมือนติดพวก กราวน์ไวน์
ติดแล้วเครื่องนิ่ง ติดแล้วแอร์เย็นเร็ว ประหยัดน้ำมัน
อะไรทำนองนี้ ซึ่งในความจริง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ลองคิดดูนะครับ ของพวกนี้ขายเราราคาเท่าไหร่
คิดดูนะครับว่าต้นทุนชิ้นละเท่าไหร่ แล้วถ้าบริษัทรถ
ซื้อขึ้นมาล่ะ จะเหลือชิ้นละกี่สิบบาทกันเชียว เพราะ
รถเค้าผลิตเป็นแสนเป็นล้านคัน ถ้าติดเจ้าตัวพวกนี้
โดยเพิ่มเงินแค่ไม่กี่บาท แล้วทำให้รถที่ตัวเองจำหน่าย
เงียบขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้น แอร์เย็นเร็วขึ้น ไม่ต้องอะไร
แค่ขอให้เห็นผลชัดเจนกว่ารถคู่แข่ง แค่นี้รถก็ขายกระจุย
แล้วครับ แต่ที่เค้าไม่ติดไม่ใช่เพราะกลัวเรื่องต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
อีกนิดหน่อย แต่เพราะติดแล้วมันไม่เห็นผลต่างหากครับ
-
ติดกับ vios gen1 ลดได้ประมาณ 10% รถเก่าแล้วครับ
แต่พอเอามาติด prius ไม่ได้ดีขึ้นเลย
-
เนื่องด้วยจากที่มันไม่ได้ทำขึ้นมาเฉพาะรุ่น
เลยไม่ค่อยเห็นประสิทธิผลเท่าไหร่
-
ติดกับ Prius อยู่ครับ จอดอยู่เงียบขึ้น แต่พอขับ เหมือนเดิมครับ ไม่ได้ต่างจนเห็นได้ชัด ไม่ค่อยคุ้มเท่าไร แต่คิดซะว่าให้เสียงปิดประตูมันแน่นขึ้นก็พอใจครับ :)
-
อีกเสียงว่าเห็นผลน้อยมากๆ สำหรับท่านที่ดูๆอยู่แนะนำ ผ่านเลยครับ ;D
-
ผลที่ได้น้อยเกินคับ เป็นการแก้ที่ผิดวิธี ส่วนใหญ่บ่นกันทั้งนั้น ยิ่งติดที่ขอบด้านใน ปิดประตูโครตยาก เปิดทีกลอนแทบจะกระเด็น อยากเงียบมันมีวิธีคับ ดูพวกรถแพงๆเงียบไว้ต้องทำแบบนั้นล่ะคับ ;)
-
ผมซื้อมาลองสองชุด ได้ผลทางใจเท่านั้นครับ แต่จะให้ลดเสียง ผมลองใช้ app วัด ติดกับไม่ติด ผลคือไม่ต่าง
ข้อดีอย่างนึง ที่ทำให้ไม่โยนทิ้งคือ ลดฝุ่น ที่เข้าทางขอบประตูนั่นแหละ ผมว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อ จากยางลดเสียง เป็นยางลดฝุ่น มากกว่า
-
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ ผมกำลังตัดสินใจอยู่ดลย แต่กลัวไม่คุ้มกับที่เสีย ขอคุณที่ร่วมแบ่งบันประสพการนะครับผม ;D
-
ลองติดใน Hyundai h1 ครับ ทั้งขอบประตูและรอบประตู ผลคือ
ข้อดี
ผมว่าด้านหน้ารถเงียบขึ้น เสียงรบกวนเวลาจอดติดไฟแดงดีขึ้น ความเร็วไม่เกิน120ดีขึ้น ประตูแน่นขึ้นทำให้เสียงที่เกิดจากการบิดตัวของรถหายไปเกือบ100%ซึ่งรถที่ไม่เจอเสียงประตูขยับเวลารถบิดตัวจะไม่มีผลเลย สำหรับ h1 ผมว่าคุ้มตรงไม่มีเสียงบิดตัวที่ประตูครับ
ข้อเสีย
ปิดประตูยากขึ้นกว่าเดิม ยางขอบประตูแบนลงซึ่งน่าจะถาวร ราคาผมว่าเกินความเป็นจริงไปหน่อย