Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: supercat ที่ สิงหาคม 14, 2013, 16:14:17
-
ช่วงนี้ฝนตกบ่อยครับ ตกนิดเดียวน้ำท่วมถนนแล้ว
อ่านเจอตามเวปต่างๆ จะมี trick ในการขับลุยน้ำท่วมว่า " ให้ปิดแอร์ " (บอกแค่ปิดแอร์อย่างเดียวครับ ไม่ได้พูดถึงพัดลมเลย)
เพราะถ้าเปิดแอร์ขับลุยน้ำท่วมเนี่ย พัดลมจะทำงานๆ ดูดเอาน้ำท่วมเข้ามาในห้องเครื่อง ปั่นป่วนไปหมด
เลยอยากถามพี่ๆว่า
เวลาขับรถลุยน้ำท่วมเนี่ย ปิดแอร์ แล้วเปิดพัดลมได้มั้ยครับ (เพราะอากาศในรถจะร้อนอบอ้าวมาก ๆๆ ) หรือต้องปิดพัดลมด้วย
ผมไม่ทราบว่า พัดลมแอร์ ที่เค้าพูดถึง กับ พัดลมที่เป่าลมเข้าหน้าเรา มันคืออันเดียวกันรึเปล่า
ขอบคุณคร้าบบ ;D ;D ;D
-
จริงๆ ปิดแอร์ นี่ถ้ารถมีปุ่ม A/C ก็ปิด แค่ A/C ก็ได้มั้งครับ เข้าใจว่าที่ให้ปิดแอร์เพื่อป้องกันน้ำที่กระฉอกเข้ารังผึ้งแอร์แล้วพัดลมแอร์ที่ทำงานจะปัดเป่าเอาน้ำขึ้นมาโดนจานจ่ายบ้างสายไฟบ้าง อาจทำให้เครื่องเดินสะดุดและดับกลางน้ำได้ในที่สุด อีกสาเหตุก็น่าจะเป็นเรื่องคอมแอร์ ถ้าจุ่มน้ำแล้วปั่นทำงานงานด้วยก็เกรงว่าจะกลับบ้างเก่าไว รวมถึงกำลังเครื่องที่ลุยน้ำถ้าปิดแอร์ก็จะได้กำลังเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยด้วย สรุป ปิด A/C ก็น่าจะพอ แต่ถ้ารถไม่มีปุ่ม A/C ก็ไม่มีทางเลือกครับ ต้องปิดแอร์อยู่ดีนั่นแหละ ช่วงนี้ฝนตกหนักน้ำท่วม ไม่มากก็น้อยต้องขับลุยน้ำกันแน่ๆ ระมัดระวังด้วยครับ
-
จริงๆ ปิดแอร์ นี่ถ้ารถมีปุ่ม A/C ก็ปิด แค่ A/C ก็ได้มั้งครับ เข้าใจว่าที่ให้ปิดแอร์เพื่อป้องกันน้ำที่กระฉอกเข้ารังผึ้งแอร์แล้วพัดลมแอร์ที่ทำงานจะปัดเป่าเอาน้ำขึ้นมาโดนจานจ่ายบ้างสายไฟบ้าง อาจทำให้เครื่องเดินสะดุดและดับกลางน้ำได้ในที่สุด อีกสาเหตุก็น่าจะเป็นเรื่องคอมแอร์ ถ้าจุ่มน้ำแล้วปั่นทำงานงานด้วยก็เกรงว่าจะกลับบ้างเก่าไว รวมถึงกำลังเครื่องที่ลุยน้ำถ้าปิดแอร์ก็จะได้กำลังเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยด้วย สรุป ปิด A/C ก็น่าจะพอ แต่ถ้ารถไม่มีปุ่ม A/C ก็ไม่มีทางเลือกครับ ต้องปิดแอร์อยู่ดีนั่นแหละ ช่วงนี้ฝนตกหนักน้ำท่วม ไม่มากก็น้อยต้องขับลุยน้ำกันแน่ๆ ระมัดระวังด้วยครับ
รถผม ปุ่ม A/C กับ ลูกบิดพัดลม อยู่แยกกันครับ
อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งไปลุยน้ำท่วมมา ผมกดปิด A/C , แต่บิดพัดลมซะแรงสุดเลย ;D ;D ;D
-
สาเหตุที่ให้ปิดแอร์ เพราะกลัวพัดลมหม้อน้ำมันจะหมุนไปตีกับสิ่งของที่ลอยมากับน้ำ จนทำให้ใบพัดลมแตกหัก แล้วเศษใบพัดลมนั้นๆ จะไปทิ่มแทงหม้อน้ำ ทำให้หม้อน้ำรั่วเสียหาย ปัญหาลามไปถึงเครื่องพังเพราะหม้อน้ำรั่วน่ะครับ
-
สาเหตุที่ให้ปิดแอร์ เพราะกลัวพัดลมหม้อน้ำมันจะหมุนไปตีกับสิ่งของที่ลอยมากับน้ำ จนทำให้ใบพัดลมแตกหัก แล้วเศษใบพัดลมนั้นๆ จะไปทิ่มแทงหม้อน้ำ ทำให้หม้อน้ำรั่วเสียหาย ปัญหาลามไปถึงเครื่องพังเพราะหม้อน้ำรั่วน่ะครับ
ตามนี้เลยครับ จริงๆ แค่ใบพัดตีกับน้ำเฉยๆ ก็มีโอกาสแตกได้ครับ
แต่ก็ใช้ว่าปิด A/C แล้ว พัดลมหม้อน้ำจะไม่ทำงาน แต่ % การทำงานมันจะน้อยลง
ถ้าจังหวะโป๊ะเชะ หม้อน้ำมันอุณหภูมิสูง พัดลมทำงาน เจอน้ำท่วมสูง ใบพัดใช้งานมานาน กรอบระโหยโรยรา ก็ Jack Pot
-
ถ้าฝนตกไม่หนักมาก แง้มกระจกก็พอช่วยได้
-
วันก่อนเจอฝนหนักมากๆ น้ำท่วมขังสูงพอตัว จะปิดแอร์ตลอดก็ไม่ได้เพราะกระจะขึ้นฝ้าทั้งคัน
เลยต้องเปิดๆปิดๆ ใครพอทราบบ้างว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง
-
ปิดa/cไม่ได้ทำให้พัดลมหมอน้ำดับเสมอไป (พอมันร้อนได้ที่มันก็หมุนอยู่ดีครับยิ่งรถยุโรปมันจะหมุนตลอด)ที่เค้าให้ปิดส่วนนึงเวลาขับลุยน้ำลึกๆบางครั้งเครื่องมันจะเกือบดับ(ท่อไอเสียจมน้ำ) การปิดa/c ทำให้ภาระโหลดของเครื่องยนต์ลดลงทำให้เครื่องดับยาก
-
ถ้าขับลุยในระยะไม่ถึงขอบสเกริตหรือกันชนหน้า ไม่จำเป็นต้องปิดก็ได้ครับ แต่ถ้าหากลุยไปในที่เกินตัวรถแล้ว ทางที่ดีคือ ปิดแอร์ดีกว่าครับ เพราะว่าพัดลมมันจะปัดน้ำที่เข้ามาให้ห้องเครื่อง อาจจะทำให้พัดน้ำเข้าห้องและใบพัดแตกอีกด้วย ในตอนที่น้ำกระฉอกมาหน้ารถ
-
สาเหตุที่ให้ปิดแอร์ เพราะกลัวพัดลมหม้อน้ำมันจะหมุนไปตีกับสิ่งของที่ลอยมากับน้ำ จนทำให้ใบพัดลมแตกหัก แล้วเศษใบพัดลมนั้นๆ จะไปทิ่มแทงหม้อน้ำ ทำให้
หม้อน้ำรั่วเสียหาย ปัญหาลามไปถึงเครื่องพังเพราะหม้อน้ำรั่วน่ะครับ
ตามนี้เลยครับ จริงๆ แค่ใบพัดตีกับน้ำเฉยๆ ก็มีโอกาสแตกได้ครับ
แต่ก็ใช้ว่าปิด A/C แล้ว พัดลมหม้อน้ำจะไม่ทำงาน แต่ % การทำงานมันจะน้อยลง
ถ้าจังหวะโป๊ะเชะ หม้อน้ำมันอุณหภูมิสูง พัดลมทำงาน เจอน้ำท่วมสูง ใบพัดใช้งานมานาน กรอบระโหยโรยรา ก็ Jack Pot
ถ้าขับลุยในระยะไม่ถึงขอบสเกริตหรือกันชนหน้า ไม่จำเป็นต้องปิดก็ได้ครับ แต่ถ้าหากลุยไปในที่เกินตัวรถแล้ว ทางที่ดีคือ ปิดแอร์ดีกว่าครับ เพราะว่าพัดลมมันจะปัดน้ำที่เข้ามาให้ห้องเครื่อง อาจจะทำให้พัดน้ำเข้าห้องและใบพัดแตกอีกด้วย ในตอนที่น้ำกระฉอกมาหน้ารถ
สรุปก็คือ ที่เค้าแนะนำให้ปิด A/C เนี่ย เพราะมันจะทำให้ พัดลมหม้อน้ำ ทำงานน้อยลง
ซึ่งพัดลมหม้อน้ำ เนี่ย ไม่เกี่ยวอะไรกับ พัดลมที่เป่าลมเข้าหน้าเราในรถ ใช่มั้ยครับ ;D ;D ;D
-
ไม่รู้นะ ผมปิดแอร์ไปเลยอะครับ ละแง้มกระจกเอา
-
ปิดแอร์ เปิดจก กลัวฝนสาดเอากันสาดคลองถมใส่ จบ
-
ปิดเลยชัวร์สุด อย่าง city พัดลมแอร์อยู่หลังหม้อน้ำ แต่อย่าง astina popup ผม พัดลมแอร์อยู่หน้าแผงแอร์ ถ้าปิด a/c พัดลมจะไม่ทำงานเลย (สงสัยรถโบราณเกิน)
แต่เอาสบายรถก็ปิดแอร์ซะ แต่ถ้าปิดขณะฝนตก นานๆ ก็ระวังฝ้าเกาะที่กระจกจนมองไม่เห็นจะอันตรายขึ้นไปอีกนะครับ เคยแอร์เสียทีนึง ขับขึ้นทางด่วนมองไม่เห็นต้องเปิดกระจกยอมเปียก ไม่งั้นก็ต้องจอดรอจนกว่าฝนจะหยุดตก
-
ถ้าเป็นรถกระบะหรือรถที่ใช้พัดลมแบบหมุนจากเครื่องยนต์โดยตรงไม่ต้องปิดแอร์ก็ได้ เพราะยังไงพัดลมมันก็ทำงานตลอดเวลาตีน้ำกระจุยอยู่ดีไม่มีผลอะไรเลย
-
วันก่อนเจอฝนหนักมากๆ น้ำท่วมขังสูงพอตัว จะปิดแอร์ตลอดก็ไม่ได้เพราะกระจะขึ้นฝ้าทั้งคัน
เลยต้องเปิดๆปิดๆ ใครพอทราบบ้างว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง
ตามความเข้าใจของผมเอง ในช่วงเจอฝนตก
ถ้าฝ้าขึ้นกรจะด้านในรถ เพราะอากาศ ข้างนอกรถ เย็นกว่าในรถมาก
แก้โดย
1 เปิดแอร์ให้เย็นมากขึ้น แต่จะหนาวหน่อย ถ้าเป็นคนขี้หนาว ก็หันช่องแอร์ไม่ให้โดนเรา
2 ปิดความเย็นแอร์ ลดกระจกลง จะทุกบาน หรือไม่ทุกบานก็ได้
ถ้าฝ้าขึ้นกระจก นอกรถ
แก้โดย ลดความเย็นแอร์ในรถ
ผมเคยลองเช่นนี้มาก่อน แล้วได้ผล หลังจากที่ใช้รถใหม่ ๆ ยังไม่รู้ เลยต้องจอดรถ เดินเอาผ้าเช็ดกระจกมาแล้ว อายมาก