Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: supercat ที่ สิงหาคม 19, 2013, 14:38:34
-
รบกวนถามพี่ๆนิดนึงครับ อยากทราบว่า
ตอนนี้ รถปิ๊กอัพส่งของส่วนใหญ่ เค้าใช้ ดีเซล หรือว่า เอารุ่นเบนซินไปติดแก๊ส กันครับ
เพิ่งเห็นว่า ราคาน้ำมันดีเซลมันลิตรละ 29.99 บาท (ปกติดูแต่ราคาเบนซิน)
ผมว่าถ้าใช้ดีเซล มันก้อคงไม่ได้จะประหยัดเงินเถ้าแก่ซักเท่าไหร่
ขอบคุณคร้าบบ ;D ;D ;D
-
ที่โรงงานมีทั้ง 2 แบบ
TRITON 2.4 + LPG 2 คัน เฉลี่ยอยู่ที่ 2.00-2.20 บาท/กม.
TRITON 2.5 Diesel 1 คัน เฉลี่ยอยู่ที่ 2.80-3.30 บาท/กม.
ขนเหล็ก วิ่งวันนึง 200 กม+-
แก๊สประหยัดกว่า แต่จุกจิกกว่า แรงน้อย
ดีเซล เปลีองกว่า แรงกว่า
เทียบกะลักษณะการวิ่งของงานแล้ว
โรงงานในเครือ ถ้าจะเพิ่มรถใหม่ สั่งดีเซล เวิร์คกว่าครับ
-
ที่ร้านผมใช้แต่กระบะดีเซลอะครับ ประหยัดน้อยกว่าหน่อยแต่จุกจิกน้อยกว่าเบนซินติดแก๊สครับ
เห็นป๊าผมเคยบอกว่าพวกพรรคพวกของเค้าหลายๆคนที่ร้านเค้าใช้รถส่งของที่เป็นเบนซินติดแก๊ส ทั้ง Carry, Vigo, Triton, Tata หรือแม้กระทั้งรถจีน
เพราะคิดว่าจะประหยัด แต่ป่าวเลย เข้าอู่เป็นว่นเล่นเพราะเด็กส่งของพวกนี้ส่วนใหญ่ขับแบบไม่ทนุถนอมเลย เหยียบมิดอย่างเดียว ระบบแก้สไม่้คยเช้ค เพราะถือว่าเป็นรถบริษัท เสียก็ซ่อมไม่ใช่รถตัวเอง- -555
สรุป ใช้ดีเซลเถอะครับ ผมว่ามันคุ้มกว่าในระยะยาว ;D
-
ถ้ายังงั้น ในแวดวงรถปิ๊กอัพส่งของ
เบนซินติดแก๊ส ไม่น่าจะมาแทน ดีเซล ได้ง่ายๆ เลยใช่มั้ยครับ (ถ้ารัฐบาลยังอุ้มราคาดีเซลอยู่) ;D ;D ;D
-
ส่วนใหญ่ที่พบที่เจอจะเป็น ดีเซล นะครับ
-
ใช้ L ใช้ N ก็ดีไปอย่างไม่ต้องเครียดน้ำมันหาย ไม่มีใครดูดไปขาย สบายใจดีครับ
- ถ้าขนของไม่มีน้ำหนักแต่ปริมาตรเยอะ L หรือ N ใช้ได้ดีครับ
- ถ้าเป็นพวกน้ำหนักเยอะ ดีเซลจะคุ้มค่ากว่า
-
แถวบ้านผม กระบะเบนซิลติดแก๊ซเริ่มเห็นน้อยลงแล้วครับ...
ไม่น่าจะเกิน 10% ของทั้งหมด..
จากที่แต่ก่อนเห็นประมาณ 20-30%
-
ถ้าวิ่งต่างจังหวัด ดีเซลครับ
จัดเต็มเลย
-ดามแชสซี
-เสริมแหนบ
-เพลาลอย 4ล้อเล็ก
-กระทะระเบิด ยาง 215 XCD
-โช็ค4ต้นใหญ่
-ท่อพัก F16
แบกไปเลย 3-4 ตัน
-
ตอนนี้พวกกันที่ทำกิจการขนส่ง ถ้าวิ่งน้ำมันแล้วพออยู่ได้ไม่ใช้แก๊สกันหรอกครับไม่ว่าจะเป็นรถกระบะหรือรถบรรทุกใหญ่ รถแก๊สถูกตอนเติมแต่ตอนซ่อมอ๊วก
-
ถ้าไม่มีลูกจ้างขับขนของกันแองขับรถเป็นน้ำหนักบรรทุกไม่มากผมมองว่า เบนซินคุ้ม
แต่ถ้ามีลูกจ้างขับยังกะ F1 เปลี่ยนเกียร์รอบที่สูงที่สุด เวลาต่อรอบให้น้อยที่สุด ขนของหนัก ผมว่าดีเซลดีแล้วละครับคุ้ม
-
เสริมนิดนึง
ถ้าจำไม่ผิดนะครับ
กระบะ ป้ายทะเบียนตัวอักษรเขียว
ถ้าใช้ในบริษัทน้ำมันดีเซลเหมือนขอ 7% คืนได้นะครับ
แต่เบนซินไม่ได้ แก๊ซไม่รู้
สุดท้ายผมไม่ค่อยแน่ใจนะครับแฮะๆ
-
ผมว่ามันมีปัจจัยอีกหลายอย่างเลยครับ ทั้งตรีนคนขับ ความเอาใจใส่ แม้กระทั่ง นน. ของที่บรรทุก ขนของเบาๆ(แต่มีราคา) ขับกระบะเบนซินติดแก๊สก็ทุ่นลงไปได้เยอะพอควรครับ ;D
-
โรงงานผม มี vigo ติด Lpg สองคันครับ
ของไม่หนัก ขับไม่โหด วิ่งวันประมาณ 200 โล
ส่วนตัวผมว่าคุ้มครับ
ใช้มา 1 ปีแล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ
ไม่กลัวเรื่องจุกจิก เพราะใช้ผ่อนหมด 6 ปี ก็ขายเลย ซื้อใหม่ รถไม่ต้องตามซ่อม ราคาก็ยังไม่ตก
แต่ถ้าของหนัก เต็มคัน ขับเร็ว ดีเซล จะคุ้มกว่าในระยะยาวครับ
-
ส่วนใหญ่ก็กระบะดีเซลคอมมอลเรลนะครับที่ร้านผมก็ใช้อยู่ แต่อนาคตคงกระบะเบนซิล lpg ครับ ความคิดผมกระบะเบนซินก็ไม่ได้ขี้เหร่ในการบรรทุกแต่อย่างใดครับ
-
ขนไม่มาก งานกระจุกกระจิกเยอะๆ รถติดมากๆไปเบนซิน
ขนงานหนักๆ ขึ้นเขา ลงห้วย ดีเซลเหมาะครับ
-
ที่บ้านกระบะขนของใช้ดีเซลทั้งหมดครับ
เหตุผลเพราะ ด้านปัญหาจุกจิก และค่าบำรุงรักษา
ถ้ารถเกิดมีปัญหา เสีย ต้องซ่อม หรือต้องมาจูนแก๊สบ่อยๆ
เสียรายได้ เสียเวลา เสียโอกาส บางครั้งเสียลูกค้าครับ
แล้วรถใช้ระยะยาว ไม่ได้มีทุนมาเปลี่ยนรถบ่อย ดีเซลทนกว่า
รถส่วนตัวผมก็มีใช้แก๊ส LPG นะ ไม่ได้ Anti
แต่คิดว่า กระบะเบนซิน+GAS ไม่เหมาะแก่การบรรทุกครับ
แรงน้อยกว่าดีเซล และต้องเค้นหนักกว่า พังเร็วกว่า
แต่ถ้าแค่โดยสารหรือบรรทุกน้อยๆ น่าจะคุ้มครับ
-
ที่บ้านผมก็ดีเซลครับ คุณพ่อกับคุณแม่ผมให้เหตุผลกับรถกระบะเบนซินติดแก๊สว่ามันเหมือนนั่งอยู่บนลูกระเบิดตลอดเวลา
ผมก็ไม่รู้จะหาเหตุผลไหนไปอธิบายให้ท่านฟังละครับ ก็ได้แต่ปล่อยท่านคิดแบบนั้นไป
-
แล้วแต่การยอมรับได้ของกิจการนั้นๆนะ อย่างของเพื่อนป๋า 2 เจ้า ก็เปลี่ยนจากวีโก้ดีเซลวิ่งหน่อไม้ 4 ตัน มาเป็น vigo 2.7 เบนซิน ngv กับ ไทรตัน 2.4 ngv เหมือนกัน แต่ทั้งคู่ทำช่วงล่างหลังใหม่เป็นเสื้อเพลา izuzu nkr เฟือง 8 จากวิ่งไปส่งตลาดไท ดีเซลโลละ 2.8-3.2 แล้วแต่คนขับ พอเป็นแกสเหลือ 1.6 บาท แต่ตัวรถวิ่งได้เต็มที่กะ 110 ลากไม่ขึ้นแล้ว ขับกันเฉลี่ย 80-100
ส่วนอีกกิจการนึง ขนเหล็กเหมือนกันใช้แต่รถดีเซลรุ่นเก่าพวก l200 strada tiger ไม่เปลี่ยนเป็นรถแก๊สเพราะลูกน้องขับ มันไม่รักษารถเลยใช้อย่างเดียว ไม่ล้าง ไม่ดูแล น้ำมันเครื่องไม่สน เติมลมอย่างเดียว
-
บริษัทผม รถส่งของเป็น Triton Lpg ขนของเบาๆประมาณ 100Kg แต่วิ่งหลายที่ ประมาณ 150Km ต่อวัน ต่อคัน
วิ่งตกโลละ 1.8บาท/km ถ้าไป ต่างจังหวัด 1.5 บาท/km
ผมให้จับไมล์แล้วดูอัตราสิ้นเปลือง ถ้าเฉลี่ยไม่เกิน 1.8บาท/km ถือว่าอยู่ในข่ายไม่ทารุณรถเกินไป มีทิปให้ ^^
งานส่งได้ตามเป้า แถมแข่งกันประหยัดแก๊สอีก
ถือว่าโอเคมากสำหรับธุรกิจผมครับ
-
คิดในเชิงพาณิชย์นะครับ
ขนเบาๆ ไม่เกิน 1 ตัน LPG ประหยัดกว่ามากกก
ขนหนักๆ ระดับ 2 ตันขึ้นไป ส่วนต่างระหว่างแก๊สกับดีเซลจะลดลง
ขึ้นกับลักษณะธุรกิจ
เคยอ่านมาว่า เอาวีโก้ 2.7 ติด LPG ตีกรง ขนของ หนัก 3 ตัน
รถวิ่งไม่ออก แถมกินแก๊ส โอเคยอมรับว่าบาทต่อกิโลเมตร LPG มันยังคงถูกกว่า (หรือแทบไม่ต่างกัน)
แต่ก็มีเรื่องค่าบำรุงรักษาเพิ่มเข้ามา
บางคนมองว่า รถวิ่งไม่ได้ 1 วัน ต้องเข้าอู่ จูนแก๊ส เป็นค่าเสียหายเท่าไหร่
เทียบกับยอมให้กินน้ำมันกว่านิดหน่อย แต่ดีเซล ทนถึก ออกวิ่งได้บ่อยกว่า ไม่เสียเวลา
จาก 2 ตัวแปรข้างบน คือ เรื่องของลักษณะธุรกิจ(ที่ใช้รถ) + ค่าเชื้อเพลิง + ค่าเสียโอกาศ(เวลา)
เอามาพิจารณา แล้วคุณจะได้คำตอบว่าอะไรคุ้มกว่ากันครับ
-
เอาตรงๆที่เห็นมาแยะและที่ทำงานก็ใช้อยู่ กระบะมีทั้งไทตันและวีโก้เครื่องเบนซินติดแก๊ส lpg ก็ประหยัดและสะดวกแล้ว หรือถ้ามีเครื่องดีเซลก็เอาไปติดระบบก๊าซ cng แต่ค่าติดตั้งจะหลายหมื่นการประหยัดจะสู้ lpg ไม่ได้
-
ที่บริษัทมีวีโก้ CNG อยู่ 7 คัน ไม่ค่อยมีปัญหาครับ ปัญหาจุกจิกนานๆ จะมีทีแต่เป็นปัญหาเล็กๆ ตกกิโลเมตรละ 2.2 บาท
และมีวีโก้ที่เป็นดีเซลอยู่ 3 คัน ปัญหาก็น้อยเช่นกัน ตกกิโลละ 2.8 บาท แต่ที่บริษัทควบคุมความเร็วที่ 90 กิโลเมตร มันเลยจะประหยัดหน่อย
ตอนนี้กำลังจะเพิ่มรถ เห็นว่าจะลองเอาวีโก้เบนซินมาติดแก๊สดูบ้าง ไม่รู้ว่าจะดีกว่าเดิมหรือเปล่า แต่จากที่คุยกับร้านติดแก๊ส ร้านก็บอกว่าไม่มีปัญหาครับ วิ่งได้สบายๆ เหมือนกับตัว CNG นั่นแหละ อันนี้คงต้องลองเอามาวิ่งดูก่อนว่าเหมือนที่อู่บอกไหม
-
ขอบคุณครับ
-
ผมเห็นขนเยอะๆ นี่ดีเซลทั้งนั้นเลยครับ
ถ้าขนน้อย เบนซิน+LPG ก็ประหยัดดี
-
ใครว่า รถ LPG ขนของ ถูกกว่า ลองดูนี่ก่อนครับ
Isuzu DMax บรรทุก 4 ตัน กินน้ำมันดีเซล(@30.38บาท) เฉลี่ย กิโลละ 3 บาท ถ้าบรรทุก 2 ตัน เด็กเหยียบเกิน 100 ครับ ถ้ารถเปล่าตีกลับ เล่นอยู่ 120-140 ครับ
Triton LPG เบนซิน 2.4L บรรทุก 1-2.5ตัน
กิน แก๊ส ตก 1.7-2.2 บาท @แก๊ส 13.90 บาท
และ กินเบนซิน ตกกิโลละ 0.34 บาท
เบนซิน ใช้ตอนสตาร์ท ใช้ตอนรอบเดินเบา ใช้ตอนLPG หมด ประมาณ 3 เดือน เติม 1 ครั้งครับ
ดังนั้น ผมว่า ดีเซล ประหยัดกว่า ระยะยาว ครับ
ดีเซล จะบรรทุก 2-3 ตัน กินไม่แตกต่างครับ แต่ถ้าบรรทุก 1 ตัน ลมยางแข็ง ก็ประหยัดประมาณ 2.5-2.8 บาท ครับ
แล้วนำข้อมูล มารวมกับ ความคิดเห็น คุณYenchar ด้วยครับ (เรื่องที่ผมจะบอกเพิ่ม เขาบอกไว้หมดแล้ว ^_^)
คิดในเชิงพาณิชย์นะครับ
ขนเบาๆ ไม่เกิน 1 ตัน LPG ประหยัดกว่ามากกก
ขนหนักๆ ระดับ 2 ตันขึ้นไป ส่วนต่างระหว่างแก๊สกับดีเซลจะลดลง
ขึ้นกับลักษณะธุรกิจ
เคยอ่านมาว่า เอาวีโก้ 2.7 ติด LPG ตีกรง ขนของ หนัก 3 ตัน
รถวิ่งไม่ออก แถมกินแก๊ส โอเคยอมรับว่าบาทต่อกิโลเมตร LPG มันยังคงถูกกว่า (หรือแทบไม่ต่างกัน)
แต่ก็มีเรื่องค่าบำรุงรักษาเพิ่มเข้ามา
บางคนมองว่า รถวิ่งไม่ได้ 1 วัน ต้องเข้าอู่ จูนแก๊ส เป็นค่าเสียหายเท่าไหร่
เทียบกับยอมให้กินน้ำมันกว่านิดหน่อย แต่ดีเซล ทนถึก ออกวิ่งได้บ่อยกว่า ไม่เสียเวลา
จาก 2 ตัวแปรข้างบน คือ เรื่องของลักษณะธุรกิจ(ที่ใช้รถ) + ค่าเชื้อเพลิง + ค่าเสียโอกาศ(เวลา)
เอามาพิจารณา แล้วคุณจะได้คำตอบว่าอะไรคุ้มกว่ากันครับ
ปล. อีก 2 ปี เดี๋ยวก็มี ISUZU 2.0 ออกมา รอก่อน อิอิอิ
-
ถ้าใช้เองส่วนใหญ่ จะเป็นดีเซลนะครับ แต่ถ้าเป็นพวกบริษัท ให้ลูกน้องขับ ส่วนใหญ่เป็น เบนซินติดแก๊ส เหตุผลเพราะประหยัด ขายหมูก็ไม่ได้ ที่บริษัทผมใช้วีโก้ติดแก๊สอยู่ประหยัดจริงๆ