Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: julesinbliss ที่ สิงหาคม 20, 2013, 01:20:41
-
สวัสดีพี่ๆชาว HeadlightMag ทุกท่าน
ผมเองเป็นแฟนคลับของแทบทุกรีวิวและดูวิดีโอรีวิวย้อนหลังของพี่ J!MMY กับพี่แพน (Commander Cheng) มาได้สักเกือบสองปีแล้วครับ
กระทู้นี้ผมมาขอความรู้จากพี่ J!MMY พี่แพน และจากพี่ๆคนอื่นๆด้วยครับ (ที่เรียกทุกท่านว่าพี่ ขอออกตัวก่อนเลยว่าผมอายุ 19 ปี)
หลังจากได้ตามดูรีวิวแทบทุกจะรีวิวของพี่แพนและพี่จิมมี่แล้ว ทำให้ผมได้ค้นพบรสนิยมของรถที่ตัวผมเองชื่นชอบ
เนื่องจากว่าผมเองก็เป็นนิสิตที่อายุแค่ 19 ปี มีงานนอกเวลา พอมีรายได้มาจากการแข่งขันและกิจการทางวิชาการบ้าง จึงเริ่มคิดที่จะเปลี่ยนรถที่ใช้ของที่บ้านอยู่ (์Nissan March) มาเป็นรถที่ใหญ่กว่านี้ เผื่อเวลาไปไหนมาไหนกับครอบครัว กับเพื่อนๆ
โดยปรกติแล้ว ผมเป็นคนที่ชอบใช้ทางด่วนสัญจร (ใช้ไปเรียนทุกวัน) เนื่องจากผมเป็นคนที่ไม่ชอบขับรถติด(แบบขยับทีละนิดๆทุกๆ 20 วินาที) ขอแบบขึ้นทางด่วนแล้วไปโดนจราจรกักไว้ 10 นาที แล้ววิ่งยาวๆถึงไม่ใช้ความเร็วมาก แต่ก็วิ่งได้สัก 60-90 กม./ชม. อย่างเรื่อยๆดีกว่า
รถที่ผมมองไว้ตั้งแต่สองปีก่อน : Toyota Camry Hybrid, Toyota Prius และ E60 520d (มือสอง)
เหตุผล : เพราะผมเป็นคนต่างจังหวัดปรกติจะใช้ขับกลับต่างจังหวัดบ่อยครับ (หนองคาย-615กม.) โดยมากจากบินเอา แต่ถ้าไปกันหลายคนหรือต้องไปทำงานรวมถึงวิจัยที่ต่างจังหวัดกันหลายคน ไปรถก็ถูกกว่าครับ มีรถใช้ที่ต่างจังหวัดด้วย ใช้รับ-ส่ง คุณยายกับคุณแม่และน้องสาวด้วยครับ
ในปัจจุบันนั้น Camry Hybrid ตัวที่ผมชอบก็ตกรุ่นไปเสียแล้ว Prius ก็น่าจะเปลี่ยนโฉมภายในไม่เกินปีสองปีนี้ ส่วน E60 ก็ดูแล้วว่าของเขาดีจริง ประหยัดจริง แต่ค่าอะไหล่ดูแล้วน่าจะหาแบบถูกๆยาก พยายามหาจากเว็บ spare parts จากทั้ง Germany และ US แล้วครับ
ในที่สุด ด้วยงบประมาณ 1 ล้านบาทที่ครอบครัวตัดสินใจจะขาย Nissan March แล้วซื้อให้เป็นของขวัญติดมหาวิทยาลัยและเป็นรถคันแรกของผมนั้น
เนื่องจากผมเป็นคนที่ไม่ได้มีประเด็นกับรถมือหนึ่งหรือมือสอง ถ้าสภาพดี ขับได้หมดครับ ^^
ตอนนี้เลยเหลืออยู่ 1 ตัวเดียวในดวงใจ ที่ราคาเปิดตัว 2ล้านปลายๆเกือบ3ล้าน พอรุ่นใหม่ออกราคาก็เหลือไม่ถึง 1 ล้านบาททันที นั่นก็คือ...
Toyota CAMRY 3.5Q - โฉมก่อนรุ่นปัจจุบัน
(http://www.usedcar2u.com/news_picture/camry35_1.jpg)
ถ้าถามว่าทำไมต้องเอา 3.5Q เพราะ...
1. ผมมองว่ามีฟังก์ชั่นดูแลคนนั่งข้างหลังได้ดี
2. เครื่องยนต์แรงถ้านั่งกันเยอะๆไปไกลๆขับไม่ได้เร็วมาก เร็วสุดก็ 140 น่าจะเสถียรใช้ได้
3. ชอบจริงๆครับ
ผมเองเป็นเด็กใหม่ด้อยประสบการณ์ เลยต้องขอคำแนะนำจากพี่ๆดังนี้ครับ
1 - ผมตั้งใจจะซื้อคันนี้จริงๆ แต่ด้วยราคาน้ำมันที่แพงแสนแพง และเจ้า 3.5Q คันนี้ก็มีแนวโน้มที่จะกินน้ำมันมากทีเดียว ผมเลยมีแผนที่จะนำไปติดตั้งแก๊ส LPG ระบบ Advanced-OBD ที่ดูไว้กับ Energy Reform.. พี่ๆเห็นด้วยไหมครับกับการติดแก๊ส? หรือถ้ายังไม่เหมาะสม ควรจะนำไปติดตัวไหนดี ถึงจะรองรับพละกำลังของเครื่องนี้ได้
2 - รถคันนี้ถ้านำไปติด LPG ตั้งใจบำรุงรักษา เช็คน้ำและน้ำมันต่างๆหลายครั้งต่อเดือน (ปรกติใช้รถปีละประมาณ 15,000 กม.) จะมีปัญหาอะไรต่อเครื่องยนต์ระยะยาวไหครับ?
3 - ผมเชื่อใจในตลาดอะไหล่ของ Toyota อยุ่แล้ว แต่ก็อยากถามพี่ๆให้แน่ใจอีกทีว่ารถรุ่นนี้หาอะไหล่ยากไหมครับ? จะแพงกว่าพวกรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 หรือ 2.4 เยอะมากไหมครับ? ดูๆแล้วปีนึงค่าบำรุงรักษาจะถึง 3 หมื่นบาทไหมครับ
ผมอ่านรีวิวพี่ J!MMY รวมถึงกระทู้ในเว็บไซต์ต่างๆรวมถึงเว็บไซต์นี้มาได้สักหลายเดือนแล้ว ที่ทราบดีว่าเป็นปัญหาที่มีร่วมกันทุกคน คือ เรื่องช่วงล่าง - เนื่องจากผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ผมเลยพยายามโทรปรึกษาร้านต่างๆ บ้างก็รับสาย บ้างก็ไม่รับ...จนเมื่อค่ำวันนี้ก็มีพี่คนนึงโทรกลับมา ปรากฏว่าเป็นพี่ George GetTuned (ตอนนั้นเหมือนได้รับสายเคน ธีรเดช ผมตามดูรีวิวพี่เขามาหลายรีวิว ที่ดูซ้ำบ่อยมากคือวิดีโอรีวิว Camry Hybrid ของพี่ J!MMY และพี่แพน) พี่จอร์จบอกว่าพี่เขาไม่ถนัดด้านช่วงล่าง ถ้าทางจูน ECU หล่ะสายพี่เขาเลย และได้แนะนำเอาไว้ว่า "ถ้าเป็นผมนะ ผมจะซื้อโช็คมาใส่ตามรุ่นเลย ไม่เอาไปให้ตามร้านอัดน้ำมันถูกบ้างผิดบ้างหรอกครับ"
เนื่องจากผมไม่มีความรู้เรื่องช่วงล่างจริงๆ ที่อยากถามพี่ๆคือ
4 - สำหรับรถรุ่นนี้นั้น ถ้าจะทำให้ 3.5Q คันนี้วิ่งเกาะถนน ช่วงล่างหนึบ ยึดเกาะถนนเท่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ล้อไม่หมุนฟรีมากตอนเร่ง และก็ไม่บินหรือปลิวๆ(ในความรู้สึก) จะต้องปรับเปลี่ยน โช็ค สปริง หรือล้อ อะไรบ้างครับ? มียี่ห้อและรุ่นแนะนำโดยเฉพาะเลยไหมครับ? ยางควรจะเปลี่ยนเป็นอย่างไรดี (ยังไม่ได้ซื้อรถ) - มีงบประมาณไม่เกิน 50,000 ครับผม
5 - พี่ๆมีร้านไหนแนะนำสำหรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อทำให้ช่วงล่างหนึบ ยึดเกาะถนนเท่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มีร้านแนะนำเป็นร้านไหนเป็นพิเศษไหมครับ (ถ้ามีรบกวนPMบอกด้วยครับ)
6 - ปรกติรถคันนี้มีเทอร์โบไหมครับ ถ้าไม่มีควรจะจูน ECU เพิ่มไหมครับ ค่าใช้จ่ายจะอยู่ในเลขประมาณเท่าไหร่ครับผม
7 - รถคันนี้ผมไม่ได้กะจะซื้อมาขายหรือยกให้ใคร กะจะใช้ติดมือไปอีกสัก 10 ปีเป็นอย่างต่ำ พี่ๆว่าภายในระยะเวลา 10-15 ปี ประเทศไทย ทั้งโตโยต้าทั้งผู้ผลิตและนำเข้าเอกชน น่าจะยังมี stock หรือพอจะหาอะไหร่พวกนี้ได้ไหมครับ
8 - ผมสูง 192 ปรกติขับ March เห็นชัดมากๆ ไม่มีปัญหาอะไรเลย (เป็นรถที่ชอบมาก แต่เล็กเกินไปสำหรับผมจริงๆ) ถ้ากับคันนี้จะมีปัญหาเรื่องการมองหรืออะไรไหมครับ ผมไม่คุ้นกับรถ Sedan เลยจริงๆ
9 - ตอนจะซื้อ ตอนนี้ผมดูผ่านเว็บ one2car เอาไว้ แต่ก็กำลังคิดอยู่ว่าก็มีโอกาสที่อาจเจอรถจมน้ำ ย้อมแมวได้บ้าง เลยกำลังจะลองหาคนที่ครอบครัวผมรู้จัก ที่น่าจะเป็น expert ช่วยดูรถพวกนี้ได้บ้างครับ พี่ๆว่า ของพวกนี้ ถ้าเอามืออาชีพเช่นช่างที่สนิทไปช่วยดูจริงๆ จะดูได้ชัดมากน้อยเพียงใดครับ
ขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำ รวมไปถึงรีวิวและกระทู้ของพี่ๆทุกคนที่ได้ให้ความรู้ผมครับ
ฌูล ;)
-
3.5 รถ Fleet รถเช่า แทบจะทั้งนั้น
ตอนปลายปีที่แล้วผมเคยจะหาอยู่คับ สุดท้ายไปจบที่ E60 525iSE
ราคาน่าสนคับ ออพชั่นน่าสนมากกกๆ มูนรูฟ เรดาร์ครูสคอนโทรล เบาะเป่าลม เนวีเกเตอร์ เบาะหลังเอนได้ บลาๆๆ แต่เจอสภาพแต่ละคัน ผมถอยทัพดีกว่า :'( ส่วนมากกรอบป้ายทะเบียน ORIX Auto ทั้งนั้น
และรุ่นนี้ปัญหายอยพวงมาลัยดัง คอนโซลหน้าเหนียว เห็นแล้วเพลียย Toyota ก็ไม่รับผิดชอบ สภาพคอนโซลแต่ล่ะคันที่ไปดู เละสุดๆ เลยถอนทัพไปคบกับรถที่ตัวเองคุ้นนเคยดีกว่า
และเมื่อ2อาทิตย์ที่แล้วผมเพิ่งได้ ตัว 2.4V โฉมนี้ล่ะคับ ขับดีใช้ได้เลย แต่เอามาก็โดนช่วงล่างไปชุดใหญ่เลย ขับดีขึ้นมาก เงียบดีคับ ใช้ทางไกลคุ้ม ประหยัดใช้ได้ ค่าอะไหล่ไม่แพงมาก แต่ดูพวกคอนโซลไว้ด้วยคับ เกือบ 2.5หมื่น ถ้าโตโยต้าไม่รับเคลม >:(
หา 2.4 สภาพเทพๆดีกว่าคับ
-
จากที่อ่าน จขกท น่าจะเป็นคนขับรถเร็ว รถคันนี้พกม้ามาเกือบจะ 300 ตัวแล้ว ถ้าจูน ECU ก็คงได้ไม่เกิน 10-20 ตัวเพิ่ม ด้วยความแรงขนาดนี้ก็สวนรถบ้านธรรมดาสบายๆ ส่วนเรื่องช่วงล่างก็ tein ss เลยครับ ไม่นิ่มไม่แข็งเกินไป แต่ถ้าขับไม่เร็ว ช่วงล่าง camry ก็ไม่ได้ขี้เหร่มาก ขับ 140-160 ก็โอเคอยู่ แต่พวงมาลัยมันเบาเกินไปที่ความเร็ว เลยทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ส่วนเรื่องออกตัวล้อฟรีหรือไม่ฟรีนั้น ช่วงล่างแทบไม่มีผล อีกอย่าง VSC ก็เข้ามาจัดการให้เรียบร้อยแล้ว
-
ดู profile แล้ว ความคิดนี้แวบขึ้นมาเลย
accord 2.0 มือ 1 แหอะ เติม e85 เอา
-
น้องอายุ 19 และเพิ่งเคยขับ Nissan March
บอกตรงๆว่า พี่เป็นห่วงมาก และกรณีนี้ ไม่ขอแนะนำ Camry 3.5 Q ให้กับน้อง "โดยเด็ดขาด"!!!!
1. ช่วงล่างเดิม นิ่มเกินกว่าที่จะรองรับความแรงจนหลอนของเครื่องยนต์ได้!!
เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ พี่ทำ Top Speed แล้ว เครียดที่สุด เท่าที่เคยเจอมา!!
ลองนึกดูว่า ในช่วงความเร็ว เกินกว่า 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง หน้ารถเริ่มลอย
และยิ่งพอถึงระดับ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง หน้ารถลอยมาก จนล้อแทบจะ
แตะกับพื้นถนนแผ่วบาง และ ณ Top Speed 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง
หน้ายางกับพื้นถนน มันไม่แตะกับพื้นถนนแล้ว!!! ถ้ามีปีก พี่คงจะบิน
ลอยตกลงมาจากทางด่วนแน่ๆ!!! ขอย้ำว่า ทำตัวเลขนี่ นังแค่ 2 คนนะ
ไม่ได้นั่งเต็มด้วย!
ยิ่งถ้าไปติด ถังก๊าซ จะ LPG หรือ CNG ก็ตาม ต่อให้เสริม Spacer ด้านท้าย
แต่หน้ารถก็จะยิ่งลอยหนักกว่าเดิม วิ่งเร็วๆ ถ้าช่วงล่างเดิมๆ คงไม่ต้องพูดถึง
2. เกียร์ ลุกนี้ ราคาเช็คครั้งสุดท้าย เมือ 2 ปีก่อน อยู่ที่ 250,000 บาท ครับ
จริงอยุ้่ว่า มันทน ไม่พังง่ายๆ แต่ถ้าไม่ถนอม ขับไม่บันยะบันยัง พังขึ้นมา
หนักหนาแน่ๆครับ
3. พวงมาลัย เบาเกินไป สำหรับการควบคุมพละกำลังระดับนี้
4. หารุ่น 2.4 ลิตร มือ 2 เหลือเฟือ แล้วครับ ไม่ต้องเล่น 3.5 ลิตรหรอก
น่าจะหารถสภาพดีๆ ได้เยอะกว่าด้วยซ้ำ
-
3.5 รถ Fleet รถเช่า แทบจะทั้งนั้น
ตอนปลายปีที่แล้วผมเคยจะหาอยู่คับ สุดท้ายไปจบที่ E60 525iSE
ราคาน่าสนคับ ออพชั่นน่าสนมากกกๆ มูนรูฟ เรดาร์ครูสคอนโทรล เบาะเป่าลม เนวีเกเตอร์ เบาะหลังเอนได้ บลาๆๆ แต่เจอสภาพแต่ละคัน ผมถอยทัพดีกว่า :'( ส่วนมากกรอบป้ายทะเบียน ORIX Auto ทั้งนั้น
และรุ่นนี้ปัญหายอยพวงมาลัยดัง คอนโซลหน้าเหนียว เห็นแล้วเพลียย Toyota ก็ไม่รับผิดชอบ สภาพคอนโซลแต่ล่ะคันที่ไปดู เละสุดๆ เลยถอนทัพไปคบกับรถที่ตัวเองคุ้นนเคยดีกว่า
และเมื่อ2อาทิตย์ที่แล้วผมเพิ่งได้ ตัว 2.4V โฉมนี้ล่ะคับ ขับดีใช้ได้เลย แต่เอามาก็โดนช่วงล่างไปชุดใหญ่เลย ขับดีขึ้นมาก เงียบดีคับ ใช้ทางไกลคุ้ม ประหยัดใช้ได้ ค่าอะไหล่ไม่แพงมาก แต่ดูพวกคอนโซลไว้ด้วยคับ เกือบ 2.5หมื่น ถ้าโตโยต้าไม่รับเคลม >:(
หา 2.4 สภาพเทพๆดีกว่าคับ
ขอบคุณมากครับ ตอนนี้กำลังหา 2.4 ดูอย่างที่พี่บอกละ - แต่ถ้าหาตัวที่คอนโซลดีๆได้ ถือว่าคุ้มใช่ไหมครับ
ว่าแต่ 525iSE เป็นไงบ้างครับ กินมากไหม อะไหร่เป็นอย่างไร แพงกว่าโตโยต้าเยอะไหม หานอกศูนย์ได้บ้างไหมครับ
ถ้าพอได้ ผมก็เล็งตัว E60 520d เกียร์ Joystick อยู่เหมือนกันครับผม
ปล. ยอยพวงมาลัยคืออะไร ขอโทษด้วยผมไม่ชินกับศัพท์เทคนิคครับพี่ ^^
จากที่อ่าน จขกท น่าจะเป็นคนขับรถเร็ว รถคันนี้พกม้ามาเกือบจะ 300 ตัวแล้ว ถ้าจูน ECU ก็คงได้ไม่เกิน 10-20 ตัวเพิ่ม ด้วยความแรงขนาดนี้ก็สวนรถบ้านธรรมดาสบายๆ ส่วนเรื่องช่วงล่างก็ tein ss เลยครับ ไม่นิ่มไม่แข็งเกินไป แต่ถ้าขับไม่เร็ว ช่วงล่าง camry ก็ไม่ได้ขี้เหร่มาก ขับ 140-160 ก็โอเคอยู่ แต่พวงมาลัยมันเบาเกินไปที่ความเร็ว เลยทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ส่วนเรื่องออกตัวล้อฟรีหรือไม่ฟรีนั้น ช่วงล่างแทบไม่มีผล อีกอย่าง VSC ก็เข้ามาจัดการให้เรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณมากครับผม ขอโทษด้วยตอนแรกผมไม่เข้าใจจริงๆว่าจูน ECU เพื่ออะไรแล้วจะช่วยอะไรได้ ตอนนี้เข้าใจละครับ ส่วนช่วงล่างนี่ค่าใช้จ่ายจะเกินของ tein จะสักเท่าไหร่ครับ เปลี่ยนเองได้ไหม รบกวนด้วยครับผม
ช่วงล่างผมไม่ได้เอาอะไรสุดยอดมาก ปรกติขับ March ก็ประทับใจอยู่ (มือใหม่หัดขับเลยขับแต่คันเล็กๆก่อน) เพราะ 120-140 March ยังรักษาการเกาะไว้ได้ดีอยู่นะครับในความรู้สึกผม เพราะฉะนั้นตัวนี้อยากได้หนึบที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ จะต้องลงตัวไหนดีครับผม
ดู profile แล้ว ความคิดนี้แวบขึ้นมาเลย
accord 2.0 มือ 1 แหอะ เติม e85 เอา
ขอบคุณครับพี่ ผมไปลองขับมาแล้ว รถข้างในดีมาก ขับมาไฟ LED เห็นกลางทางด่วนแม้จะกลางวัน (มันเปิดเองหรือคนขับตั้งใจเปิดหว่า) เป็นเส้นมาเชียว ผมไม่ชอบอย่างเดียวคือเรื่องเกียร์ครับ เกียร์ 3 นี่พลาดจริงๆฮอนด้าโฉมนี้ เกียร์ 3 โตโยต้านี่แกร่งมาก แต่ถ้าถามถึงเรื่องเกียร์จริงๆคงชอบเกียร์หนังสติ๊กของ Nissan มากที่สุดละครับ ;))
ผมเล็งไว้เป็น LPG แล้วอ่ะครับ ตอนนี้ลังเลจะหันกลับไป E60 ดีไหม ไม่ตัวนี้ 3.5Q ก็ Teana 2.5 (Sunroof รอรุ่นใหม่ออกรุ่นนี้ตกก่อน)
ขอบคุณครับผม
น้องอายุ 19 และเพิ่งเคยขับ Nissan March
บอกตรงๆว่า พี่เป็นห่วงมาก และกรณีนี้ ไม่ขอแนะนำ Camry 3.5 Q ให้กับน้อง "โดยเด็ดขาด"!!!!
1. ช่วงล่างเดิม นิ่มเกินกว่าที่จะรองรับความแรงจนหลอนของเครื่องยนต์ได้!!
เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ พี่ทำ Top Speed แล้ว เครียดที่สุด เท่าที่เคยเจอมา!!
ลองนึกดูว่า ในช่วงความเร็ว เกินกว่า 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง หน้ารถเริ่มลอย
และยิ่งพอถึงระดับ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง หน้ารถลอยมาก จนล้อแทบจะ
แตะกับพื้นถนนแผ่วบาง และ ณ Top Speed 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง
หน้ายางกับพื้นถนน มันไม่แตะกับพื้นถนนแล้ว!!! ถ้ามีปีก พี่คงจะบิน
ลอยตกลงมาจากทางด่วนแน่ๆ!!! ขอย้ำว่า ทำตัวเลขนี่ นังแค่ 2 คนนะ
ไม่ได้นั่งเต็มด้วย!
ยิ่งถ้าไปติด ถังก๊าซ จะ LPG หรือ CNG ก็ตาม ต่อให้เสริม Spacer ด้านท้าย
แต่หน้ารถก็จะยิ่งลอยหนักกว่าเดิม วิ่งเร็วๆ ถ้าช่วงล่างเดิมๆ คงไม่ต้องพูดถึง
2. เกียร์ ลุกนี้ ราคาเช็คครั้งสุดท้าย เมือ 2 ปีก่อน อยู่ที่ 250,000 บาท ครับ
จริงอยุ้่ว่า มันทน ไม่พังง่ายๆ แต่ถ้าไม่ถนอม ขับไม่บันยะบันยัง พังขึ้นมา
หนักหนาแน่ๆครับ
3. พวงมาลัย เบาเกินไป สำหรับการควบคุมพละกำลังระดับนี้
4. หารุ่น 2.4 ลิตร มือ 2 เหลือเฟือ แล้วครับ ไม่ต้องเล่น 3.5 ลิตรหรอก
น่าจะหารถสภาพดีๆ ได้เยอะกว่าด้วยซ้ำ
คุณพระมาโปรด คุณพี่ยังไม่นอน ดีใจมากได้เจอพี่ในบอร์ดตัวเป็นๆ ยังกะเจอดารา
ขอบคุณมากครับพี่ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ถูกของพี่จริงๆ ตอนที่ผมคุยกับแม่บอกว่า 0-100 ไวมากนะ เห็นคนรัสเซียในยูทูปทำกับ 5-6 วินาทีเอง แม่ก็บอกว่า "แกจะแรงไปตายรึไง" #เงิบ
งั้นจะขออนุญาตปรึกษาพี่ถึงความเหมาะสมทางด้าน : การบำรุงรักษา การหาอะไหล่ ราคาค่าใช้จ่ายบำรุงรักษา ประสิทธิภาพ และอันไหนเหมาะกับผมมมากกว่ากันจาก
1 - BMW E60 520d - พยายามหาตัวเกียร์ Joystick อยู่ครับ คาดว่าจะได้ประมาณล้านกลางๆ แต่กลัวเรื่องค่า maintenance กับค่าอะไหล่จังครับพี่
2 - Toyota Camry 2.0 (โฉมก่อนหน้านี้) เอาไปติด LPG - แต่ก็กังวลเพราะเครื่องไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับน้ำหนักรถ
3 - BMW E90 320d - เท่าที่ผมทราบมาคือ ตัวนี้เครื่องเดียวกันกับ E60 520d เลย แต่แรงกว่า เพราะบอดี้เล็กกว่า ใช่ไหมครับ ปัญหาเรื่องอะไหล่อีกสินะ
4 - Toyota Camry 2.4 (โฉมก่อนหน้านี้) เอาไปติด LPG - แล้วอาจจะไปทำช่วงล่างอีกนิดครับ
5 - Nissan Teana 2.5 (โฉมนี้แหละ แต่รอตกรุ่นก่อน) เอาไปติด LPG เช่นกันครับ ในเกียร์พวกนี้ ผมชอบเกียร์หนักกระติ๊ก CVT มากที่สุดแล้วครับ แต่ได้ข่าวว่าเปลี่ยนทีลูกเกือบ 3 แสน เริ่มกลัว
ขอคาราวะศิษย์พี่ด้วยครับ ;))
#J!MMY the Legend
-
1. รูป ลายเซ็น ไม่ต้องใหญ่ก้ได้ครับ ช่วยลดขนาดลงมานิดนึงเถอะ หมายถึงรูป อองซานซูจี หนะครับ
ลดลงมาเท่าๆกับคนอื่นเขาก็ดีเน่อะ เวลาคนอื่นโหลดกระทู้ ด้วยเน็ตไม่แรง จะได้ไม่หนักมาก
2. ตัวรถ
คันไหนๆ ก็ติดตั้งได้ละครับ อยู่ที่ฝีมือช่าง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว รถเหล่านี้ ไมไ่ด้ออกแบบมาเผื่อรองรับการติดตั้งก๊าซใดๆทั้งสิ้น
มันจะมีผลต่อเนื่องไปยังคอมพิวเตอร์สมองกล พวกที่คำนวนเรื่องการเปลี่ยนเกียร์
หรืออะไรต่อมิอะไรต่างๆด้วย
เหมือนเช่นกรณีที่เกิดขึ้นกับ Cruze ที่เป็นข่าวกันตอนนี้
และในประเทศไทย มีรถอยู่ไมกี่รุ่นเท่านั้น ที่มีการออกแบบมาเผื่อ รองรับการติดก๊าซไว้
ตั้งแต่ช่วงแรกๆของการพัฒนา และส่วนใหญ่ จะเปฺ็น Toyota
3. ถ้า อยากติด LPG ... ซื้อ Toyota จะโอเคสุด
เพราะช่างไทย ส่วนใหญ่ คุ้นมือกับการติดตั้งระบบ ในรถยี่ห้อนี้ที่สุดแล้ว
-
คิดว่า ไม่ต้องไปถึง 3.5 หรอกครับ
เอาตัว 2.4 ซักราวๆปี 08-09 อัตราเร่งก็ดีไม่แพ้กันครับ
ยิ่งรู้ว่าขับมาร์ชเป็นรถประจำ ถ้าน้องกระโดดมาขับแคมรี่ 2.4
พี่ว่าน้องก็ได้อารมณ์ฟินแล้วล่ะครับ
- ประเด็นเรื่อง LPG ยิ่งง่าย ยิ่งสบายเลย
แคมรี่ 2.4 เครื่อง AZ อยู่ในตลาดมาเกือบ 10 ปี ผ่านมือช่างมาไม่รู้เท่าไหร่
สบายๆครับ
- เรื่องช่วงล่าง
ถ้าล้อเป็นล้อ 17 อยู่แล้ว ไม่ต้องไปเสียตังอัพไซต์ล้อเพิ่มครับ แนะนำว่าแค่หายางดีๆมาใส่ พอเลย
โช๊คอัพ สปริง ผมคิดว่า ถ้าไม่ได้เปรี้ยวลงสนาม แค่ช่วงล่างเดิมๆก็เอาอยู่แล้วนะ
แต่ถ้าไม่ชัวร์ ไม่มั่นใจจริงๆ อยากให้ลองเปลี่ยนแค่โช๊คอัพแต่งก็คงพอครับ
เห็นน้องบอกว่า งบช่วงล่าง 5 หมื่นบาท เป็นพี่ พี่จะเปลี่ยนแค่ยางดีๆก่อนครับ
ยางดีๆ ล้อ 16-17 น่าจะไม่เกิน 2 หมื่น
หลังจากนั้น ถ้าไม่พอใจ กำเงินไว้ 2 หมื่นนิดๆ คว้า KYB New SR มาเปลี่ยน ผมว่าก็จบแล้วนะครับ
อาจจะมีตังเหลือ 4-5 พันบาท เผื่อเปลี่ยนแบต ถ่ายของเหลว บำรุงรักษาเบื้องต้น
- เรื่องอัตราเร่ง สมรรถนะ
ถ้าเทียบกับ 3.5 คงยาก แต่ถ้าถามว่าแคมรี่ 2.4 บนถนนประเทศไทย มีรถคันไหนแซงมันได้บ้าง
คำตอบคือ มี แต่ผมเชื่อว่าแคมรี่ 2.4 แรงกว่ารถ 90% บนถนนบ้านเราแน่นอน
ถ้าน้องไม่พอใจ หรือคิดเทียบกับรุ่น 3.5 พี่แนะนำให้ลองปรับแต่งเบื้องต้นก่อน
เช่น เปลี่ยนกรอง หัวเทียน ท่อสูตร จูนกล่อง อาจจะได้ม้าเพิ่มมาราวๆ 15-20 ตัว (แต่งบอาจจะไหลไปถึง 5-6 หมื่นบาท)
ถ้าไม่ชัวร์ งบไม่พอ จูนกล่องอย่างเดียวก็ได้ครับ อาจจะได้ม้าราวๆ 7-8 ตัว ซึ่งพี่คิดว่า จบ แล้วล่ะครับ
แต่ถ้าน้องคิดจะใช้ 10 ปี พี่แนะนำว่า "เดิมๆ" ดีที่สุด และจบที่สุดครับ
โดยไม่ต้องยุ่งกับช่วงล่างและเครื่องเลย เปลี่ยนแค่ยาง แค่แบต เข้าอู่เข้าศูนย์เช็คระยะก็พอแล้ว
-
แนะนำท่านน้อง จขกท ว่า 2.4 ก็น่าจะเพียงพอ ติดเเก๊สสบาย จากที่ผมอยุ่กับมันมา4ปี6เดือนก่อนมาใช้ACV50 อยากจะบอกดังนี้ครับ
1.เครื่องยนต์ตัวนี้ติดเเก๊สสบาย จับเวลาให้ตายก้ไม่เคยเกิน10วิ ขนานติดเเก๊สเเล้วนะ จูนดีๆละกัน ส่วนเรื่องร้านเเนะนำ เอ้นเน่จี ก้น่าโอเคครับ มีประกันด้วยรึป่าวม่ายเเน่ใจ
2.ช่วงล่างออกเเนวนุ่ม เเต่ไม่ค่อยเกาะ ถ้าอยากให้เกาะ ก็ต้องเปลี่ยนโช้คละกันครับ เปลี่ยนยางให้ฟน้ายางกว้างขึ้น เเต่ช่วงล่างก้ไม่ได้ห่วยนะครับ ใช้ในชีวิตประจำวันได้โอเค เพียงเเต่สุ้ g8 ไม่ได้ เเต่กลับกันพอมารุ่นปัจจุบันกับดีกว่า g9
3.ออฟชั่นต่างๆของ2.4ก้ต่างกับ3.5เยอะพอสมควร เเต่ทว่า ท่านน้อง จขกท ใช้ยาวถึง10ปี ผมว่ายังไง 2.4 ก้เพียงพอเเล้วครับ เอาไว้เพื่อเวลาซ่อมนะครับ คิดถึงเวลา ออฟชั่นไอตัวที่เซนเซอกะหน้ารถของ3.5 เเล้วซันรุฟขอบยาง เเล้วอะไรอีกมากมาย เวลาซ่อม 2.4ยังไงก้คงถูกกว่า เพราะจากที่ใช้มาเกือบ5ปี ก้เปลี่ยนเเค่น้ำมันเครื่อง ผ้าเบรค ออ เเต่มีโช้คหลังรั่วครั้งเดียวนอกนั้นก้เช้คระยะปกติ
4.ถ้ายังคิดว่าช่วงล่างม่ายดีอีก ไปลองg8ก้ได้นะครับช่วงล่างเเข้งเเต่เกาะ ตามสไตร์ฮอนด้า ราคาพอกันอยุ่เเล้วครับ
ปล.สุดท้ายขอให้น้องท่าน จขกท ได้รถที่ตัวเองชอบครับจะได้อยุ่กับมันอย่างมีความสุข
-
camry 2.4 อีกเสียงครับ พอเพียง ;D
-
สำหรับผมช่วงล่างผมมว่าดีกว่า ACV30 เยอะมากนะคับ
ขับแล้วค่อนข้างชอบ แต่ไม่รู้โช๊คที่ร้านช่วงล่างไปหามา(เปลี่ยนให้ฟรี)นี่มันคืออะไร ค่อนข้างแข็งเลย แต่เปลี่ยนคู่หลังคู่เดียว คู่หน้าของเดิมเพิ่งเปลี่ยนจากศูนย์ก็ยังรู้สึกว่าแข็ง แต่เกาะถนนดี มาถึงพวงมาลัย ไม่ชอบเลยคับ ทื่อๆ ไร้ชีวิตชีวามากๆ อารมแบบ โยกก็ไป ไปน้อยไปมากไม่รู้ -*- พวงมาลัยไม่คมเลย นอกนั้นผม happy ดีคับ
หาตัว 2.4 ดีกว่าคับ ยืนยันคำเดิม หาสภาพดีๆจับดมแกส เพราะอัตราเร่ง 2.4 ไม่แย่แล้วคับ ดึงใช้ได้เลย ยกเว้นในเมืองคันเร่งมันโง่ๆไปนิด >:(
ส่วน E60 เลี่ยงได้อย่ามายุ่งเลยคับ ดูจากเวลาชีวิตน้องแล้ว ผ่านรถยี่ห้อนี้เถิดคับ เล่นได้ก็พวก E90 LCI แล้วนะคับ แต่ก็อีหรอบเดิม bmw ดีเซลที่ขายๆกันออกมาตอนนี้หาไมล์น้อยๆยากกกกโคตรรรร , E60 หรือ bmw โฉมที่มี6เกียร์ ระวังไว้คับ มีปัญหาค่อนข้างเยอะ
TEANA ก็น่าจะอืดไป และกินจุไปนิด แต่ถ้าได้ตัวออพชั่นเต็มก็น่าสน
Camry 2.0 น่าตัดทิ้งกว่า E60 อีกคับ อืด กินน้ำมัน เครื่องเก่า ขับไม่สนุกแน่ๆ ถ้าจำไม่ผิดพี่จิมมี่เคยเทสได้แค่ 11.xx km/L แต่ตัว 2.4 14.9x lm/L นะ
***ส่วนเรื่องคอนโซลไม่ใช่จะให้เอามาเป็นข้อเลือกรถ ถ้าคันไหนไม่เคยเปลี่ยนมามันเน่าทุกคัน ที่จะสื่อคือ ให้เตรียมตังไว้คับ
และ Camry 2.4V 2008 สีเทาๆ ที่ผมเพิ่งซื้่อมา ผมซื้อมาแค่ 5.2 แสนนะคับ ไม่มีชนหนัก ไม่จมน้ำ ไม่เคยแม๊แต่ทำสี ราคารุ่นนี้ถ้าเกิน7นำหน้าแพงไปแล้วคับ
-
camry 2.4 มีทั้งตัวที่มี VSC และไม่มีนะครับ
ตัวที่มี จะเป็นรุ่นเก่ากว่าครับ
ตัวปีใหม่ๆ เค้าตัดออก เพราะเค้าจะให้คนขยับขึ้นไปเล่น HV ครับ
-
March 0-100 ราว 15-16วิ
Camry 2.4 ราว 10-11 วิ
ไวขึ้นตั้งขนาดนี้ผมว่าพอแล้วล่ะครับ
ผมไม่ได้สนว่าคุณเด็กไม่เด็ก แก่ไม่แก่ รวยหรือจน แต่วัดแค่จากมาตรฐาน
ของรถส่วนใหญ่ที่วิ่งบนท้องถนน เรี่ยวแรงขนาดนี้มันพอเพียงแล้วครับ
และผมไม่อยากให้คุณไปโมดิฟายไปอะไรมันมากนัก ขอแค่ติดแก๊สหัวฉีด
และบำรุงรักษาเครื่องให้ดี เปลี่ยนถ่ายทุกอย่างตามกำหนด คุณจับรถปี 2010-11มา
มันก็พร้อมจะอยู่กับคุณไปจนถึงปี 2020 ได้โดยมีการซ่อมโน่นนี่บ้าง
-
เห็นด้วยครับว่า 2.4V เพียงพอแล้วนะ
-
ผมว่าน้องโชคดีมาก ที่มีพี่ๆ หลายๆท่านมาตอบ
ได้คำตอบดีๆมากมาย ได้รถที่ใกล้เคียงความต้องการมากๆ
แถมค่าบำรุงรักษาน้อยๆ สะดวกในการซ่อมบำรุง
และได้รถยนต์ที่ขับขี่ปลอดภัยครับ
-
ถ้าจะใช้ E60 นะครับผมแนะนำว่าควรมีดังต่อไปนี้
1. ความรู้เกี่ยวกับรถรุ่นนี้บ้าง
2. มีเวลาหาข้อมูลจากเว็ปต่างประเทศ และรวมถึงเวลาในการพารถเข้าอู่ และอาจต้องนั่งเฝ้าด้วย
3. มีทุนทรัพย์สำหรับซ่อมครับ
เอาจากตัวผมเองนะครับ E60 525iSe ปี 2004 กับ 2005
คันแรกปี 2004 วิ่ง 206,000 km
นับจากระยะ 89,000 - 206,000 km ค่าซ่อมทั้งหมดตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 500,000 บาทครับ ราคาอู่นอก
ค่าซ่อม 500,000 สำหรับ 1 แสนกิโลเมตรนับจาก 89,000 นั้น เฉลี่ยค่าซ่อมกิโลเมตรละ 5 บาทครับ
(ราคานี้รวมซ่อมเกียร์ 120,000 บาทที่กำลังจอดซ่อมอยู่ด้วย ผมขับถลอมมาก เปลี่ยนนมก.ตอนแสนโลแต่ก็ยังพัง)
รายการนอกนั้นประมาณ 3 แสนกว่าบาทก็คือค่าซ่อมจุกจิก แต่ดีที่ว่าผมติดแก๊สมาแสนกิโล ประหยัดไป 3 แสนบาท
มันก็ถัวเฉลี่ยพอดี
คันที่สองปี 2005 วิ่ง 161,000 km
คันนี้ซ่อมน้อยกว่าหน่อย นับจาก 1 แสนกิโล มาถึง ปจบ. เสียค่าซ่อมไปประมาณเกือบแสน แต่ก็ติดแก๊สเช่นกัน
เท่ากับว่าประหยัดไปได้ 61,000 x 3 บาท = ประมาณ 180,000 เพราะฉะนั้นก็ยังพอคุ้มอยู่ แต่ตอนนี้เกียร์ก็ีเริ่มมี
อาการแล้วเช่นกัน
** ค่าซ่อมไม่ีรวมเปลี่่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะทุกหมื่นกิโลนะครับ
ยังไงลองชั่งใจดูครับ ตัว 520d ปัญหาตัวเครื่องคงไม่เยอะนอกจากเสียงดัง แต่รถผม M54 ปัญหาก็ไม่เยอะที่เครื่อง
แต่ปัญหาเยอะพวกอิเลคทรอนิกส์จุกจิก เช่น ตัวควบคุมแอร์ 34,000 บาท -_- ตกใจราคามาก ๆ แถมรอของ 2 เืดือน
และที่บอกว่าต้องมีเวลาไปนั่งอู่ เพราะอู่บางครั้งเค้าหาอาการไม่เจอหรอกครับ ถ้าเราไม่ไปนั่งหากับเค้า
ผมเข้ามาแล้ว 3 อู่ดัง ๆ แต่ละอู่ความสามารถต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคือ บางครั้งหาอาการรถเราไม่เจอครับ
ล่าสุดรถผมคันที่วิ่ง 156,000 มีเสียงดังเวลาเลี้ยวพวงมาลัย ผมคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นพวกอะไรตรงแร็คฝืด
แต่พอนำไปเช็คที่อู่แกบอกมั่นใจมากว่า ลูกหมากคันชักคันส่งไรเนี้ย ทั้งที่พึ่งเปลี่ยนมา สุดท้ายเสียเงินฟรี
เอารถออกจากอู่มีเสียงทันทีต้องวิ่งกลับไปให้ใส่จารบีแล้วก็หายสนิท เสียฟรี 5 พัน
ผมเลยอยากแนะนำว่าถ้าจะเล่นรุ่นนี้ควรมีทุนสำหรับบำรุงและซ่อมประมาณ 200,000 บาทอย่างต่ำนะครับ
-
สำหรับผมช่วงล่างผมมว่าดีกว่า ACV30 เยอะมากนะคับ
ขับแล้วค่อนข้างชอบ แต่ไม่รู้โช๊คที่ร้านช่วงล่างไปหามา(เปลี่ยนให้ฟรี)นี่มันคืออะไร ค่อนข้างแข็งเลย แต่เปลี่ยนคู่หลังคู่เดียว คู่หน้าของเดิมเพิ่งเปลี่ยนจากศูนย์ก็ยังรู้สึกว่าแข็ง แต่เกาะถนนดี มาถึงพวงมาลัย ไม่ชอบเลยคับ ทื่อๆ ไร้ชีวิตชีวามากๆ อารมแบบ โยกก็ไป ไปน้อยไปมากไม่รู้ -*- พวงมาลัยไม่คมเลย นอกนั้นผม happy ดีคับ
หาตัว 2.4 ดีกว่าคับ ยืนยันคำเดิม หาสภาพดีๆจับดมแกส เพราะอัตราเร่ง 2.4 ไม่แย่แล้วคับ ดึงใช้ได้เลย ยกเว้นในเมืองคันเร่งมันโง่ๆไปนิด >:(
ส่วน E60 เลี่ยงได้อย่ามายุ่งเลยคับ ดูจากเวลาชีวิตน้องแล้ว ผ่านรถยี่ห้อนี้เถิดคับ เล่นได้ก็พวก E90 LCI แล้วนะคับ แต่ก็อีหรอบเดิม bmw ดีเซลที่ขายๆกันออกมาตอนนี้หาไมล์น้อยๆยากกกกโคตรรรร , E60 หรือ bmw โฉมที่มี6เกียร์ ระวังไว้คับ มีปัญหาค่อนข้างเยอะ
TEANA ก็น่าจะอืดไป และกินจุไปนิด แต่ถ้าได้ตัวออพชั่นเต็มก็น่าสน
Camry 2.0 น่าตัดทิ้งกว่า E60 อีกคับ อืด กินน้ำมัน เครื่องเก่า ขับไม่สนุกแน่ๆ ถ้าจำไม่ผิดพี่จิมมี่เคยเทสได้แค่ 11.xx km/L แต่ตัว 2.4 14.9x lm/L นะ
***ส่วนเรื่องคอนโซลไม่ใช่จะให้เอามาเป็นข้อเลือกรถ ถ้าคันไหนไม่เคยเปลี่ยนมามันเน่าทุกคัน ที่จะสื่อคือ ให้เตรียมตังไว้คับ
และ Camry 2.4V 2008 สีเทาๆ ที่ผมเพิ่งซื้่อมา ผมซื้อมาแค่ 5.2 แสนนะคับ ไม่มีชนหนัก ไม่จมน้ำ ไม่เคยแม๊แต่ทำสี ราคารุ่นนี้ถ้าเกิน7นำหน้าแพงไปแล้วคับ
Camry 2.0 acv 41 สำหรับผมถือว่า่ไม่อืดนะครับพี่ ตอนนั้นใส่ล้อ 19 นิ้วด้วย อิอิ แต่กินจริงครับประมาณ 8 - 10 กิโลเมตรต่อลิตร ^^
แต่จะซื้อระวังไมล์ไว้ด้วยนะ ของผมเต้นท์ซื้อไปกรอไมล์แล้วประกาศว่าไมล์แท้ กรอไป 50% แหนะ
ทุกวันนี้ยังขับเจอรถตัวเองอยู่เลย แต่แปลงสภาพไปใส่ล้อ 18 นิ้วละ อิอิ
-
ลงยอดค่่าซ่อมผิดนะจ๊ะ ตะกี้ไปบวกใหม่มา คันที่สอง วิ่งเกินแสนโลมา 56000 โล จ่ายไป 218,000 กว่าบาท :'(
-
March 0-100 ราว 15-16วิ
Camry 2.4 ราว 10-11 วิ
ไวขึ้นตั้งขนาดนี้ผมว่าพอแล้วล่ะครับ
ผมไม่ได้สนว่าคุณเด็กไม่เด็ก แก่ไม่แก่ รวยหรือจน แต่วัดแค่จากมาตรฐาน
ของรถส่วนใหญ่ที่วิ่งบนท้องถนน เรี่ยวแรงขนาดนี้มันพอเพียงแล้วครับ
และผมไม่อยากให้คุณไปโมดิฟายไปอะไรมันมากนัก ขอแค่ติดแก๊สหัวฉีด
และบำรุงรักษาเครื่องให้ดี เปลี่ยนถ่ายทุกอย่างตามกำหนด คุณจับรถปี 2010-11มา
มันก็พร้อมจะอยู่กับคุณไปจนถึงปี 2020 ได้โดยมีการซ่อมโน่นนี่บ้าง
คมมากครับพี่ ขอลายเซ็นหน่อย #ฟินมาก #พี่แพนกับพี่จิมมี่มาเจิมกระทู้ผม