Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: bossnk ที่ สิงหาคม 20, 2013, 17:05:22
-
สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้วผมได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกBMW e46
แต่ยังไม่มั่นใจเรื่องอัตราเร่งว่า 318i บรอค n42
0-100,80-120 ประมาณกี่วินาทีครับ
ถ้าเทียบกับcamry2.0 acv40ของที่บ้าน คันไหนอัตราเร่งดีกว่า
อัตราบริโภคน้ำมันยังลังเลอยู่ว่าจะเลือก318 , 323 หรือ 325ดีครับ
แล้ว318i ประหยัดน้ำมันกว่าcamry 2.0 acv40 ไหมครับ
เส้นทางที่ใช้ประจำ พระราม4ช่วงสามย่าน +ทางด่วนไปบางนา ลงบางบ่อ
ปัญหาต่างๆเครื่องเครื่องn42 ปัจจุบันยังน่ากังวลอยู่ไหมครับ
ขอบคุณครับ
-
E46 N42 เลี่ยงได้ก็เลี่ยงครับ อัตราเร่งตามคู่มือ 0-100 9.3 วินาที ถ้ารถสมบูรณ์เร่งได้ดีกว่า Camry 2.0
N42 คือเครื่องที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ ๆ (ปรับองศาจุดระเบิด เปิดปิดวาล์วทั้งไอดีไอเสีย ปรับระยะการดูดอากาศตามกำลังเครื่องอัตโนมัติที่เรียกว่า Valvetronic ) แต่ อะไหล่หลายชิ้น และการออกแบบชิ้นส่วนหลายตัว ไ่ม่ทนครับ BMw ผลิตเครื่องรุ่นนี้ขายแค่ 3 ปีแล้วก็รีบออก N46 มาแก้ปัญหา แต่ก็ยังไม่หมด ต้องไปแก้ N46 ใน E90 ถึงจะเรียกว่าคงที่มากขึ้น
ถ้าได้ N42 จับเปลี่ยนอะไหล่ ที่เป็น Revision ใหม่ ทุกชิ้นวางงบไว้ซัก 150,000 รวมค่าแรง แต่ก็จะใช้ได้แค่ราว ๆ 2 แสนโลต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ค่อยๆ ซ่อมกันอีก เป็นวัฎจักรไม่จบไม่สิ้น
อัตราบริโภค 14 Km/l นอกเมือง ดีกว่าพวก 6 สูบครับ
----
ส่วนตัวผมใช้ E46 M43TU ครับ ทนที่สุดแล้ว
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,2001.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,2001.0.html)
-
ถ้า e46 พยายามเล่น 6 สูบครับ m52 m54 ทนมากๆค่าบำรุงรักษายังเบากว่า n42 ด้วยซ้ำ
-
E46 ราคาถูกมากๆ เลยครับ ตอนนี้ นาทีทองจริงๆ
:)
-
ต้องเป็นคนที่สนใจรถ รักรถ ดูแลรถสม่ำเสมอด้วยนะครับ
ถ้ามีสัญญาณอะไรเตือน ด้วยไฟเตือน เสียง หรือ กายภาพ อะไร
ต้องรีบหาสาเหตุให้เจอ และรีบซ่อมแซมโดยเร็ว
มิฉะนั้น ก็จะลามไปเรื่อยๆ จนเบื่อ และขายออกไปในที่สุด
ส่วนคนที่ คิดว่ารถเยอรมัน ราคาแพง ต้องดี ทน อาจจะคิดผิดสำหรับ BMW รุ่นนี้
คนที่รักรถ ชอบแต่งรถ ก็จะบอกว่า สนุก เหมือนเป็นงานอดิเรก
คนที่ใช้งานปรกติ ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถยนต์ ก็จะ บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า "จุกจิก"
-
แนะนำ323เครื่อง6สูบครับ
e39ที่พ่อผมใช้อยู่ 10 กว่าปีแล้วไม่เคยมีปัญหาเครื่องยนต์จุกจิกเลยครับ
แต่จะไปแพงค่าไหล่จุกจิก เพราะพ่อเอาเข้าศูนย์ตลอด
ผมขอดูประวัติย้อนหลังแล้ว ศูนย์จับเปลี่ยนอย่างเดียวไม่มีซ่อมจริงๆครับ
อัตราสิ้นเปลือง แคมรี่ดีกว่าชัดเจนครับโดยเฉพาะถ้าเอามาวิ่งในเมือง
-
E46 6สูบ ทนกว่าเยอะครับ แต่ก็ซดเอาเรี่องเหมือนกัน ผมใช้ 323 ในเมืองมี 5-6 โลลิตร และ 8-9 สำหรับวิ่งทางไกล แต่ขับดี มั่นใจกว่าคัมรี่เยอะ ที่กินขนาดนี้คงเพราะผมเท้าหนักด้วยกระมัง แต่ก็ยังมีความสุขในการใช้มันนะ
-
N42 เค้ามีโรคประจำตัวอยู่ครับ จริงๆผมว่าถ้าเราหมั่นตรวจสอบ ผมว่าโอเคนะ แต่ถ้าเป็นผม ผมไปเล่นบล๊อคM 6สูบ 323i ครับ
ทนกว่า กำลังดีกว่า มือสองราคาก็ไม่ได้ฉีกต่างกันเท่าไหร่เลยครับ 6สูบความนิ่ง สมูท ยังไงก็ดีกว่า4สูบครับ
-
เห็นด้วยตามพี่ๆครับ เชียร์ พวก V6 จะดีกว่า
กลัวเปลืองก็ติดแก๊สไปครับ
-
BMW 6 สูบ เป็น 6 สูบเรียง นะครับ (inline 6) ในทางทฤษณี inline/straight 6 มี dynamic balance ที่ดี เครื่องจะนิ่งและดีกว่า v6
-
318 ไม่ว่าจะเครื่องไหน เลี่ยงได้เลี่ยงคับ ด้วยความปราถนาดี ถ้าช่างคนไหนบอกไม่จุกจิก เตรียมย้ายอู่เลยคับ ... แต่บางคันมันไม่พังก็มีนะ แต่น้อยมาก
-
e46 ต้อง 6สูบเท่านั้น 4สูบไม่ไหวจะเคลีย
เพื่อนผมผมบอกขายรถได้แทบดีใจเลย 555 ตอนนั้นรถก็ยังใหม่ๆ
-
ด้วยราคาตอนนี้ที่แทบไม่ต่างกันระหว่าง 318 กับ 323 เลือก 323 เลยดีกว่าครับ เคยหาข้อมูลมาบ้างนิดหน่อย (ไม่เคยใช้เอง) ก็ได้ความเหมือนข้างบนเรื่องเครื่อง N42 บางคันไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่บางคันซ่อมอย่างหนัก
หรือถ้าพอจะเพิ่มงบได้อีกนิดหน่อย 325 หรือ 330 ก็น่าสนใจนะครับ
-
ด้วยราคาตอนนี้ที่แทบไม่ต่างกันระหว่าง 318 กับ 323 เลือก 323 เลยดีกว่าครับ เคยหาข้อมูลมาบ้างนิดหน่อย (ไม่เคยใช้เอง) ก็ได้ความเหมือนข้างบนเรื่องเครื่อง N42 บางคันไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่บางคันซ่อมอย่างหนัก
หรือถ้าพอจะเพิ่มงบได้อีกนิดหน่อย 325 หรือ 330 ก็น่าสนใจนะครับ
แล้ว M43TU มีปัญหาไหมครับ
-
ขอเอาไอดีแฟนมาตอบนะครับ เอาเท่าที่ผมทราบ ผิดถูกก็ขออภัยด้วย
ถ้ากังวลเรื่องเครื่องจุกจิก (เคยได้ยินมาว่า m43 ค่อนข้างจะเรื่องมากนะ ถ้าวางไม่จบหรือชิ้นส่วนภายในไม่สมบูรณ์)
ผมอยากจะแนะนำเอามาเปลี่ยนเครื่องเอง แล้วลง m44 เลย เห็นว่าตัวนี้เข้าท่ากว่า m42 m43 เยอะ เห็นว่า m44 ทำดี ๆ แรงได้เกือบเท่า m50 ;D
ส่วนเจ้า n42 ปัญหาหลัก ๆ เลยนะ เท่าที่ทราบ ๆ มาจากเพื่อนที่เคยใช้ e46 แล้วก็ยอมขายไปเพราะเจ็บหลักกับปัญหาซ่อมไม่จบ
1. ระบบน้ำ ชัด ๆ ก็หม้อน้ำ ท่อน้ำ วาล์วน้ำ อะไรประมาณนี้
2. ระบบเชื้อเพลิง จุดระเบิด
3. ระบบไฟฟ้า
4. เปลี่ยนอะไหล่ที่อาจมีปัญหา เช่น ชุดรางพลาสติก และ น๊อตสกรูตัวดันโซ่
ขออภัยด้วยนะครับ ถ้าผิดถูกยังไง จำได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะเคยคุยกันมานานล่ะ ;D
-
ขอเอาไอดีแฟนมาตอบนะครับ เอาเท่าที่ผมทราบ ผิดถูกก็ขออภัยด้วย
ถ้ากังวลเรื่องเครื่องจุกจิก (เคยได้ยินมาว่า m43 ค่อนข้างจะเรื่องมากนะ ถ้าวางไม่จบหรือชิ้นส่วนภายในไม่สมบูรณ์)
ผมอยากจะแนะนำเอามาเปลี่ยนเครื่องเอง แล้วลง m44 เลย เห็นว่าตัวนี้เข้าท่ากว่า m42 m43 เยอะ เห็นว่า m44 ทำดี ๆ แรงได้เกือบเท่า m50 ;D
ส่วนเจ้า n42 ปัญหาหลัก ๆ เลยนะ เท่าที่ทราบ ๆ มาจากเพื่อนที่เคยใช้ e46 แล้วก็ยอมขายไปเพราะเจ็บหลักกับปัญหาซ่อมไม่จบ
1. ระบบน้ำ ชัด ๆ ก็หม้อน้ำ ท่อน้ำ วาล์วน้ำ อะไรประมาณนี้
2. ระบบเชื้อเพลิง จุดระเบิด
3. ระบบไฟฟ้า
4. เปลี่ยนอะไหล่ที่อาจมีปัญหา เช่น ชุดรางพลาสติก และ น๊อตสกรูตัวดันโซ่
ขออภัยด้วยนะครับ ถ้าผิดถูกยังไง จำได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะเคยคุยกันมานานล่ะ ;D
M43 กับ M43TU มันต่างกันเยอะครับ ถ้าเอา M44 มาลงคิดว่าน่าจะหมายถึง E36 ครับ เครื่อง M43TU เปลี่ยนจากAFM เป็น MAF เปลี่ยนระบบ DISA แบบใหม่ ท่อไอดีชุดใหม่ เปลี่ยนตัวคุมรอบเดินเบาใหม่ เปลี่ยนชุด Hydraulic lifter ใหม่ ปัญหาที่เคยมี กับ M43 จบที่M43TUครับ
-
ถ้ามีงบ ผมขอ เลือก 325i E46 190 แรงม้า รุ่นสุดท้ายครับ
ได้คันเร่งไฟฟ้า มาแบบนุ่มๆ แล้วก้อปัญหาต่างๆ ได้ถูกแก้ไปเยอะแล้วครับ
ลองหาดู
รักจะเล่น รุ่นนี้ ต้องเอาใจใส่ดูแลรถนิดนึงนะครับ
ถ้ามีปัญหาแล้วไม่แก้แต่เนิ่นๆ ลุกลามแล้วจะลำบากครับ