Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: supak ที่ สิงหาคม 22, 2013, 00:39:04
-
ขอเปรียบเฉพาะ HONDA กะ SUZUKI นะคะ ตั้งแต่มีประวัติศาสตร์รถมา เป็นที่น่าสังเกตุว่าทั้ง 2 ค่ายคือผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์และมาผลิตรถยนต์ทีหลัง แต่ในการทำตลาด suzuki ไม่เคยเทียบ honda ได้เลย ไม่ว่าจะผลิตภัณฑ์ไหน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ ในอดีตรถ honda ทุกรุ่น ไม่เคยแถมประกัน ไม่ง้อลูกค้า ไม่เคยมีโปรประเภท ดาวน์น้อย ผ่อนนาน อะไร คนจะขับคือมีเกรดนิดๆ มือสองก็ยังแพง ส่วน suzuki เหรอ หึหึ จำ SWIFT 1.3 กันได้ไหมคะ อ้อมี ESTEEM อีก ยอดขายเทียบกะ city นี่ น่าจะมี 1 ต่อ 100 คันได้ มอเตอร์ไซค์เหรอ ปัจจุบัน Dream ตูดเป็ด ยังหลักหมืนนะคะ Crystal คงเป็นซากกองอยู่หลังบ้าน พอเจ้านี่มาหละ เป็นครั้งแรก(น่าจะใช่นะคะ เดาเอา) ที่ โชว์รูม Suzuki คึกคักมาก อย่าว่าแต่ประกอบรถไม่ทันเลย ใบจองยังพิมพ์กันไม่ทันเลยมั้ง มีการล่าใบจองกัน ซื้อรถข้ามจังหวัดกันอลหม่าน เจ้าของโชว์รูมคงอยากจะ คาราวะ มันซะวันละ 3 หน ส่วนน้องโอ้ เห็นจอดรอเจ้าของอยู่ข้างๆโชว์รูมเป็นสิบๆคัน ซื้อวันนี้ได้วันนี้ และเป็นที่มาของโปรฯ ประวัติศาสตร์ ผ่อนงวดละ สามพันกว่าๆ ดาวน์ สามหมื่นเก้า ดันยอดกันซะยังกะรถเกาหลีสมัยก่อน ดีใจนะคะที่เห็นวันนี้ คือไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกะทั้งสองบริษัทหรอก เพียงแต่มันเป็นเหตุการณ์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า แบรนด์ ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คนจะหลับหูหลับตาซื้ออีกต่อไป คุณภาพและความจริงใจต่อลูกค้า ความตั้งใจที่จะผลิตรถมากกว่า ที่ลูกค้าต้องการ ละรอเจอกันนะจ้ะ suzuki eco sedan 2014.......
-
ตามนั้นครับ ตอนนี้มวยรองเริ่มแรงขึ้นทุกวัน นิสสัน มิสซู ฟอร์ด มาสด้า
-
ใครก็ได้ที่ทำรถออกมาดี ไม่งกออฟชั่น ราคาสมกับสิ่งที่ได้รับ บริการหลังการขายดี ผมก็สนับสนุนอันนั้นและ
-
ยังไม่เคยมีรถใหญ่ๆ เป็นเรื่องเป็นราวนี่ครับ
ford ก็ product ดี แต่ที่ยี้ๆ กันเป็นเรื่องของศูนย์
ใครก็ได้ไปบอก suzuki ทีว่าช่วงนี้เป็นช่วงสร้างชื่อของศูนย์บริการ เพราะ ตอนนี้ชั่วยังไม่มีดียังไม่ปรากฏ
ต้องพยายามสั่งสมความดีเอาไว้
สักปีหน้า ก็น่าจะรู้ว่า service ของ SUZUKI ที่ต้อง support รถเป็นหมื่นคัน จะไหวใหม
ดี ชั่วหรือไม่
หลังจากนั้นความจริงจะปรากฏ ดูกันยาวๆไปก่อนครับ
-
ทุกวันนี้..คนที่ซื้อรถต้องหาข้อมูลพอสมควรครับ
เปรียบเทียบข้อมูลง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก..ข้อมูล review มีมากมาย, มี club ให้เข้าไปอ่านข้อมูล,ข้อดีและปัญหาจากผู้ใช้จริง มี share เยอะไปหมด
"แบรนด์ ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คนจะหลับหูหลับตาซื้ออีกต่อไป คุณภาพและความจริงใจต่อลูกค้า ความตั้งใจที่จะผลิตรถมากกว่า ที่ลูกค้าต้องการ"
+ให้ จขกท ครับ...อันนี้คือบทพิสูจน์ของจริงครับ
-
ผมว่าประวัติศาสตร์ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยน รถดีย่อมขายออก รถงกออพชั่น คนเลิกสนใจ .. ;D
-
เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้
-
ยังไม่เคยมีรถใหญ่ๆ เป็นเรื่องเป็นราวนี่ครับ
ford ก็ product ดี แต่ที่ยี้ๆ กันเป็นเรื่องของศูนย์
ใครก็ได้ไปบอก suzuki ทีว่าช่วงนี้เป็นช่วงสร้างชื่อของศูนย์บริการ เพราะ ตอนนี้ชั่วยังไม่มีดียังไม่ปรากฏ
ต้องพยายามสั่งสมความดีเอาไว้
สักปีหน้า ก็น่าจะรู้ว่า service ของ SUZUKI ที่ต้อง support รถเป็นหมื่นคัน จะไหวใหม
ดี ชั่วหรือไม่
หลังจากนั้นความจริงจะปรากฏ ดูกันยาวๆไปก่อนครับ
ใช่ครับ ผมเห็นด้วย
การเเย่งแชมป์ กับ การรักษาแชมป์ ยากผิดกันครับ
เรื่องการบริการ มันควบคู่กันระหว่างปรับปรุง และรักษามาตรฐานด้วยกันไป
เอาใจช่วยครับ แข่งขันด้านบริการ เราๆท่านๆ ได้ประโยชน์ครับ
-
เป็นจริงดั่งที่ จขกท ว่าไว้..... ;D
ผู้ผลิตรถที่ต้องเร่งออกแบบรถ ทั้ง model change. ทั้ง minor change ที่ต้องสู้กันหนักขึ้นทุกวัน ส่วนผู้บริโภคต้องมาปวดหัวกับการเปรียบเทียบสเปครถที่ออกมายั่วยวนมากขึ้นทุกทีจนกลัวว่าฟองจะแตกเร็วๆนี้จริงๆ
-
ผมเข็ดแล้วครับสำหรับรถมวยลอง ปกติที่บ้านใช้แต่ Honda กับ Toyota มายุคหลังๆนี้ที่เปลี่ยนไปใช้ Ford Nissan กับ Suzuki พอมาถึงฤดูเปลี่ยนรถของที่บ้านอีกรอบ ก็ต้องหนีกลับมา Honda Toyota ครับ ไม่ใช่ว่าตัวรถไม่ดีนั แต่เพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะศุนย์บริการที่ต้องบอกว่าห่างชั้นกันมากกก ทั้งการบริการและการซ่อม บริษัทมวยลองเหล่านี้ไม่ได้ให้ความมั่นใจกับผมและครอบครัวเลยว่ารถที่ผมซื้อมาแล้วจะได้รับการดูแลอย่างดี ยี่ห้อมวยลองจาก Ford Nissan Suzuki ผมให้ Nissan ผ่านยี่ห้อเดียวครับ ไม่ถึงกับว่าดี แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้
คือยอดตอนนี้อาจจะสูงก็จริงสำหรับมวยลอง แต่ถ้าศูนย์บริการบริการหลังการขายยังไม่ขยับใกล้เจ้าตลาด ผมเชื่อว่ามีลูกค้าท่านอื่นๆแน่นอนที่คิดอย่างผม
-
เพราะอินเตอร์เน็ตกับโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คมั้งครับ
ถ้าไม่มีอินเตอร์เน็ต ก็ต้องใช้วิธีบอกต่อหรือถ้าไม่รู้อะไรเลยก็เดินเข้าไปดูที่ศูนย์ คงไม่ได้อ่านรีวิวก่อนตัดสินใจ
และยี่ห้อที่ศูนย์เยอะกว่าน่าจะได้เปรียบ
-
ตอนเศรษฐกิจดี รถขายดีกันทุกยี่ห้อ
มวยรองก้อได้ลืมตาอ้าปากกับเค้าบ้าง
แต่ถ้าไม่อาศัยจังหวะนี้พัฒนาตัวเอง
ตอนเศรษฐกิจตก สุดท้ายเจ้าตลาดก้อจะขายได้อยู่เหมือนเดิม แต่มวยรองอาจจะง่อยได้นะ
ดูว่ายี่ห้อไหนดีไม่ดี อย่ามองกันแค่ออฟชั่น มองกันยาวๆครับ
-
เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ (ไปดูฮอนด้าแจ๊ส แต่ จองซูซูกิ จากการเอาใจใส่ลูกค้าล้วนๆ)
-
เกาะติดข้อมูลข่าวสารทางอินเตอร์เน็ตบ่อยๆ
รถที่ว่าซ่อมยาก อะไหล่แพง หาอู่นอกไม่ค่อยมี ปัญหานี้หมดไปได้จริงๆครับ
รถอื่นๆ นอกจาก พี่ T กับพี่ H วิ่งในท้องตลาดมากขึ้น
อ๊อปชั่นทุกอย่างดีกว่า ราคาถูกกว่า ของแถมเพียบ สมรรถนะไม่เป็นรอง และยังสวยงามกว่าด้วย
ผมคนนึงละ เมื่อก่อนใช้ Corona ปี 95 ก็เพราะเชื่อคำคนยุยง อะไหล่หาง่าย ซ่อมง่าย ขายต่อราคาดี ฯลฯ
แทนที่จะไปเอา E-Car ที่ถูกกว่ากันเป็นแสน แถมสวยกว่า ผมถูกใจและรัก E-Car มากๆ แต่ต้องตัดใจไปเอา Corona
ใช้ไปได้ 18 ปี ก็ใช้ดีจริง แต่ไม่รัก ไม่ชอบ ก็ขับๆมันไป ตาก็มองไปข้างนอกรถ เห็น E-Car วิ่งให้เกลื่อน
ร้านที่ซ่อมรถให้ บอกว่า E-Car ซ่อมง่าย อะไหล่เยอะพอๆกัน ทำให้รู้สึกว่า เราคิดผิด
เพิ่งขายไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้ 130000 บาท ถามคนที่เค้ารับซื้อ บอกว่า E-Car ได้อยู่ประมาณ 80000 บาท ต่างกันแค่ 50000 บาท แต่ต้องทนใช้มา 18 ปี มันคุ้มกันมั้ยนี่
รถคันต่อไป เอาตามใจตัว เอาตามการใช้งานจริง หาข้อมูลตามสื่อต่างๆ
เลยจัด Proton Exora เข้าให้ ราคา 800000 บาท ใช้ดีมาก นุ่มนวล คันใหญ่ ตอนนี้ใช้มา 4 ปี แสนกว่ากิโล ติดแก๊สตั้งแต่ป้ายแดง ใช้ทน ใช้ดี ไม่เกเร
ทีแรกเกือบไปเอา Innova ราคา 1200000 บาท ที่เป็นรถกระบะ ช่วงล่างแข็งกระด้าง เข้าให้แล้ว
ตอนนี้เปลี่ยนสายพานทาร์มิ่ง เปลี่ยนอะไหล่จากการเกิดอุบัติเหตุ ซ่อมบำรุงตามระยะ ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย ไม่เคยเข้าศูนย์ ทำร้านทั่วไป สั่งอะไหล่ทางเวป ราคาพอๆกับรถยี่ห้ออื่นๆ ใช้อะไหล่บางตัวเทียบยี่ห้ออื่นได้
เดือนที่แล้ว เพิ่งออก Swift มาอีกคัน หลังจากรอมา 7 เดือน ถูกใจมาก รถสวย ใช้ดี นานแค่ไหนก็จะรอ
เหมือนกับว่า เราถูกใจหลงรักผู้หญิงซักคน เรารอให้เค้าเรียนจบก่อนได้ แล้วก็ได้เธอมาเป็นเจ้าของ ถึงเธอจะร่างกายไม่แข็งแรง(หาอะไหล่ซ่อมยาก) แต่ผมก็พร้อมจะดูแลเธอ อยาก(ขับ)ขี่เธอทุกวัน และจะอยู่ด้วยกันนานๆ จนหมดอายุขัยกันไปข้างนึง
ดีกว่าไปเอาคนที่เราไม่รัก ไม่ชอบ ถึงเธอจะเพรียบพร้อม แต่ไม่สวย ไม่ถูกใจ ไม่อยากนอนด้วย ไม่อยากอยู่ด้วย แต่จำต้องอยู่
ว่าไปเรื่อยเลยตรู อิ อิ อิ
-
Innova1200000เลยหรอครับ
-
รถที่ผ่านมาของบ้านผมเป็นรถตลาดทั้งหมด
เมื่อปีที่แล้วเลยอยากที่จะไปลองค่ายรองดูบ้าง..
ก็เลยได้เฟียสต้ามา.. ศึกษาข้อมูลพอสมควรก่อนซื้อคันนี้..
ทราบว่ามันมีปัญหาหลายๆอย่าง แต่พอได้ไปลองขับแล้วมันชอบจริงๆ
แต่ผมเป็นคนเล่นรถอยู่แล้วไม่ค่อยกลัวเรื่องพังเท่าไหร่ หาอะไหล่ได้ รู้จักอู่..
(แต่ผมโชคดีที่รถมันยังไม่เคยงอแงเรื่องงานประกอบ มีแต่ปัญหาที่เกิดจากการใช้งานผมเอง)
จากข่าว http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=6421 (http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=6421)
ก็พอทำให้ผมรู้สึกดีบ้างขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยฟอร์ดก็มีพัฒนาการขึ้นกว่าแต่ก่อน
สำหรับค่าย SUZUKI นั้น เป็นค่ายที่ผมสนใจก่อนที่จะเลือกฟอร์ด แต่ไม่เลือกเพราะบ้านผมไม่มีศูนย์
ถ้าจะเข้าศูนย์ต้องข้ามจังหวัดครับ จังหวัดใกล้เคียงห่างจากบ้านผม 120 กิโล อีกจังหวัด 150 กิโล..
ถ้าเป็นอะไรมามันจะลำบากครับ ก็เลยต้องตัดใจทั้งๆที่อยากได้มากๆ.. :'( :'( :'(
-
Innova1200000เลยหรอครับ
ตัวเก่าหรือเปล่านะครับ
โดยรวมเห็นด้วยกับจขกท ครับ
-
แถวบ้านผมสิแปลก เห็นรถ eco car น้อยมากมีแต่รถตลาด ในรัศมี 10 กม.มีศูนย์โตโยต้าไม่น้อยกว่า 5 ศูนย์ ศูนย์ฮอนด้าไม่ต่ำกว่า 3 คือเวลาเอารถเข้าเช็คไม่เคยง้อศูนย์ไหนเลย ถ้าคิวยาวหน่อย บริการไม่ถูกใจก็ย้ายศูนย์ทันที แต่ละศูนย์เอาใจลูกค้าสุดๆแทบจะอุ้มโทรตามตั้งแต่ครบระยะก่อนเข้าจนเสร็จออกมาแล้วตั้งหลายวันยังโทรมาถามอยู่เลย ถ้ารถมันไม่ห่วยมากก็แทบจะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องลองเสี่ยงไปใช้รถยี่ห้ออื่นเลยล่ะครับ
-
+1 ชอบ Swift มากกว่า บริโอ้นะ บริโอ้ ดูแปลกๆตลกๆไงไม่รู้อ่ะครับ คิดว่าคงเป็นรุ่นสุดท้ายของ H ที่จะกั๊ก Option ละมั้ง5555+
-
ต้องดูกันยาวๆ ผมว่าสาเหตุนึง (ที่มีน้ำหนักมากใรตลาดกลุ่มใหญ่)คือ งานออกแบบ ระดับที่คนมองผ่านแล้วนึกว่า Mini ซึ่งถูกจริตนิสัยผู้บริโภคกลุ่มใหญ่มนไทยมาช้านาน เอาง่ายๆว่าเหมือนของพีเมี่ยมแต่ราคาพื้นบ้าน ส่วนเรื่องสมรรถณะ นั้นอาขจะเป็นเรื่องรองกว่าอีกนะ แล้วตามที่ผมคิดลาดกลุ่ม B/Eco จะมีกลุ่ม ผู้คนที่เลือกซื้อแบบไม่ conservative มากกว่ากลุ่มอื่น //ปล.ถ้าผมจะซื้อ Eco car แล้วผมมีอำนาจตัดสินใจทั้งหมดผมก็ Swift และแน่นอนไม่ใช่เพราะหน้าตามัน
-
มันไม่น่าจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์นะ น่าจะซ้ำรอยเรื่องศูนย์บริการแบบยี่ห้อรองๆ ford,chev,nissan,mitsu,mazda แน่นอน แต่ละเจ้าขั้นเทพทั้งนั้น ;D
-
เห็นด้วยอีก1เสียงครับแต่ก็ยังกังวลเรื่องศูนย์บริการทั้งคุณภาพและปริมาณจะเพียงพอรึเปล่า
-
รถดี แถมแต่งแล้วน่ารักสุดๆๆ
-
suzuki เทียบการเข้าศูนย์แต่ละครั้งในระยะเวลาปีกว่าๆนะครับ วัดจากศูนย์แห่งหนึ่งที่ภาคใต้
ผมว่าบุคลากรมีมากขึ้น รถที่เข้าศูนย์มีมากขึ้น แต่พนักงานใหม่ก็สมเป็นพนักงานใหม่แหละครับ ถามอะไรพอไม่แน่ใจก็ตอบส่งๆ
เคยมีโทรศัพท์จากซูซูกิ มาถามผมเรื่องการเข้ารับบริการ ฟังแล้วดูมีขั้นตอนเยอะแยะมากมาย ซึ่งหมายความว่า จริงๆแล้วตอนรับรถพนักงานควรอธิบายอะไรเยอะแยะกว่านี้มาก แต่เข้าไปเมื่อวานซืนนี่ นิ่งเลยครับ พัฒนาบุคลากรขึ้นอีกนะครับ รถคันที่สองของครอบครัวเกือบเป็น ertiga อยู่แล้ว แต่ต้องขอตรองดูก่อน
-
Swift Sedan ตัวก่อนนี่เขาเอามาขายเองใช่ไหมครับ
เคยเห็นแค่คันเดียว รู้สึกว่าโชคดี
-
รอดู ศูนย์ซ่อม กะ after service มากกว่าตัวรถ
จะว่าไปเห็น swift วิ่งแล้วเริ่มเฉยๆแล้ว มันไม่ได้ขลังเหมือนตอนเครื่อง 1.5 เลย
1.5 สวยกว่า รถมันเริ่มเยอะพอมองไปทางไหนๆ มันก็เหมือนๆ กัน
มันไม่ได้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ แต่มันเปลี่ยนความคิดของแบรนด์ มากกว่า
แทนที่จะเห็นแต่ carry ตอนนี้ก็มี swift เพิ่มมาอีก 1
ถ้าเอาเข้าจริงตอนซ่อม body ผมว่าไม่น่าจะซ่อม 0 ได้ทัน ขนาดเจ้าตลาด 0 เยอะ กว่าหลายเท่า
ฮ้อย เป็น 10 เครื่องยังซ่อม ตู้อบสีเกือบ 10 ตู้ ยังทำส่งลูกค้าไม่ทัน ผมว่าน่าห่วงตรงนี้มากกว่าสำหรับแบรนด์รอง
เห็น ertiga วิ่ง ยังห่วงว่าถ้า มันขายได้น้อย ตอนสั่งอะไหล่ body จะรอนานไหม
ปล. ผมใช้ nissan ซ่อม body ยัง 4 weeks ที่ศูนย์วิภา ยังเซงเลย
-
หลักๆ มันอยู่ที่การออกแบบ แต่ถ้าเทียบกันจริงๆ ก็เป็นมวยคนละรุ่น
เพราะถ้าเทียบตามขนาดและ segment จริงๆ ก็ต้อง
เทียบ Swift กับ Jazz มากกกว่า ถ้าเทียบงานดีไซน์ ผมก็ยังคิดว่าสู้ยังไม่ได้
ความน่าเชื่อถือของแบรน์ต้องดูกันหลายอย่างนะครับ ดีไซน์ ความคงทน สมรรถนะ การใช้ง่ายสะดวก ศูนย์บริการ การสต็อคอะไหล่ ระยะเวลาการเบิกอะไหล่
มันไม่ได้ใช้เวลาแค่ ปี สองปี พิสูจน์ มันต้องดูกันยาวๆๆๆๆ ครับ
-
ผมว่าไม่ใช่ว่าแบรนด์ไม่สำคัญหรอกครับ แต่จริงอยู่ ว่าเดี๋ยวนี้ คนรุ่นใหม่ ไม่ได้ไปโฟกัสอะไรที่แบรนด์แล้ว เพราะแบรนด์รองให้อะไรเยอะกว่ามากมาย (มาสด้าสอง รุ่นถูกสุด ให้อะไรมาครบมาก ยังประทับใจอยู่จนทุกวันนี้เลยครับ)
ส่วนเรื่องบริว่า ผมว่าบริโอ้มันกากกว่าสวิฟท์แบบ เว่อๆ เกินไปซะมากกว่า แถมสวิฟยังใหญ่กว่าด้วย ก็เลยต้องต่างกันแบบขาดลอย
แต่ถ้ามองไปที่กำไรต่อคัน ผมว่าซูซูกิ คงไม่ได้กำไรมากกว่าฮอนด้าเท่าไรนะครับ
-
เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ครับ
-
รถที่ดีไซน์งั้นๆ กั๊กอ๊อฟชั่น ภายในตกเเต่งด้วยพลาสติกราคาถูก
ต่อให้ศูนย์บริการดียังไง ผมก็ไม่ซื้อ
ผมให้ความสำคัญเรื่องตัวรถ มากกว่าครับ
-
หมู่บ้านผมอยู่ปทุม มีซอยอยู่ 30 ซอย
เย็นผมชอบปั่นจยย.เล่นดูรถ ส่วนมากมีรถ หลังละ 2คัน
และที่เห็นแทบจะทุกหลัง จะต้องมี Honda หรือ Toyota ติดบ้านอย่างน้อย 1 คัน
ยกเว้นบ้านผม มีซู 3 คัน (ซูบารุกับซูซูกิ) ;D ;D ;D
-
ซื้อรถผมซื้อตามที่ตัวเองชอบ ไม่ใช่คนอื่นชอบ ต้องทนขับรถที่ตัวเองไม่ชอบนี่โครตเซ็งเลย
-
เดี๋ยวนี้สื่อต่างๆมีผลต่อการตัดสินใจซื้อมากขึ้นครับ ยิ่งสื่อเข้าถึงได้ง่ายได้ทุกเวลา ยิ่งทำให้ผู้บริโภครับรู้ว่ารถคันไหนดีหรือตรงกับความต้องการมากกว่าครับ
-
แอบเห็นด้วยครับ
-
ชอบคันไหน ค่ายไหน ก็เอาเลยครับ....ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล
-
เป็นจุดเปลี่ยนที่สบโอกาสกันหลายๆด้านมากพอดี คนที่มีอำนาจตัดสินใจซื้อรถอายุน้อยลงและเป็นกลุ่มคนที่มีแนวคิดสมัยใหม่ไม่ใช่ต้องหมกมุ่นแต่กับรถตลาดเท่านั้น ยี่ห้อรองๆเลือกเอารถรุ่นใหม่มาขายได้ตรงกับความต้องการคนไทยพอดีนั่นคืออีโคคาร์ที่ราคาถูก กินน้ำมันน้อย แต่ดูหรูหรา และประกอบกับช่วงที่ยี่ห้อตลาดสบประมาทรถอีโคคาร์ว่าขายไม่ได้พอดี กว่าจะมากลับลำขายก็ช้าไปสามปีและส่งสินค้าที่ด้อยกว่ามาขายอีก ทำให้กลุ่มลูกค้าที่กล้าซื้อยี่ห้อรองไปเชื่อมั่นมากขึ้นว่าการตัดสินใจเลือกรถที่ชอบมากกว่าแบรนด์นั้นถูกต้องแล้ว แนวคิดไม่ยึดติดจะยิ่งหนุนไปได้ไกลกว่านี้อีก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีทึ่กลไกการแข่งขันในตลาดจะมีแรงจูงใจกล้าเอารถรุ่นใหม่ๆมาขายเพิ่ม กล้าลงโปรโมชั่นรุนแรงเพราะใครก็สามารถขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้เช่นกัน ลูกค้าได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า :)