Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: 0% ที่ กันยายน 03, 2013, 14:02:12
-
ไม่เข้าใจ ทำไมไม่เอาเข้ามาขายบ้าง อินเดียทำไมถึงได้ใช้ แล้วไทย ไม่ได้ใช้
หรือ การตลาดคิดว่า คนไทยยัง หยี้ กับเสียงเครืองดีเซล
พวก honda city jazz brio crv ดีเซล หรือ yaris diesel
หรือเป็นไปได้ไหมจะได้เห็น diesel ใน eco car เฟส ถัดไป
-
ผมว่า ส่วนนึงที่ค่ายรถยนต์ยังไม่เอาดีเซลเข้ามาขาย คงเป็นเพราะไม่มั่นใจในคุณภาพน้ำมันของบ้านเราน่ะครับ
-
ผมว่า ส่วนนึงที่ค่ายรถยนต์ยังไม่เอาดีเซลเข้ามาขาย คงเป็นเพราะไม่มั่นใจในคุณภาพน้ำมันของบ้านเราน่ะครับ
+1 อีกอย่าง ถ้า รัฐไม่อุ้มเพราะ เป็นหัวใจในด้านขนส่ง และเปิดในราคาเท่าเบนซิล เชื่อว่ามาไม่คุ้มทุนแน่นอนค่ะ
-
อันนี้อยากรู้ ประเทศทางฝั่งยุโรป ก็นิยม ดีเซล ใครมี ดีเซลขายดีกันตลอด
รถแบรนด์ยุโรปก็โชว์ เทคโนโลยี ดีเซล รักโลกกัน แถมแรง แต่ ยี่ปุ่นเมืองไทยกับไม่มี
-
รถเก๋งควันดำ
รถเก๋ง เครื่องไม่เงียบ
รถเก๋งเครื่องเล็ก แต่ราคาแพง
ผมว่าปัจจัยเหล่านี้เป็นผลลบต่อตัวสินค้า...ดีไม่ดี ถ้ามีใครทำก่อนแล้วรุ่ง เกิดรัฐบ้าจี้(เต้นตามขาใหญ่) ขึ้นภาษีรถยนต์นั่งเครื่องดีเซลขึ้นมา... จุกอีกครับ ประเด็นนี้ อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เช่น
-จู่ๆ ขึ้นภาษีสรรพสามิตกับมอไซค์ที่มีขนาดเกิน 500 cc. ก่อนฮอนด้าขายมอไซค์เครื่องต่ำกว่า 500 cc แค่อาทิตย์เดียว
-ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปี ขณะนั้น SUV แบรนด์เมกา เกาหลี อิซุ กำลังโกยยอดขายถล่มทลาย รัฐก็ขึ้นภาษีซะเฉยๆ คนที่ได้ประโยชน์คือ เจ้าตลาด ที่ไม่มีรถประเภทนั้นอยู่ในตลาด
-
โอกาสที่เป็นไปได้มากที่สุดคงต้องรอดู Eco Car เฟส 2 ขยายขนาดความจุกระบอกสูบให้เป็น ไม่เกิน 1500 ซีซี สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ( Eco Car เฟสแรกให้แค่ 1400 ซีซี )
ขนาดเปิดให้มีเครื่องดีเซลได้ เฟสแรกยังไม่มีผู้ผลิตรายไหนใช้สิทธิเลย ถ้าเฟส 2 ยังไม่มีอีก เก๋งเล็ก A - B Segment เครื่องดีเซลคงไม่ได้เกิดไปอีกหลายปีเลย
-
รถเล็กที่ใช้เครื่องดีเซล ไม่ได้ใช้ดีเซลไฮเทคแบบพวกตัวแรงในเมืองไทยกันนะครับ
เป็นดีเซลเพื่อความประหยัด และทนทาน เป็นหลัก
ทีนี้ กับอัตราสิ้นเปลืองระดับ 20 กม./ลิตร กับน้ำมัน E20/E85
ผมไม่แน่ใจว่ามันยังจะจำเป็นหรือเปล่าที่เราจะต้องเอาเครื่องดีเซลมาใส่ขาย
เพราะยังไงเครื่องดีเซลก็ไม่มีทางเดินเรียบและเงียบเท่าเบนซิน
แล้วรถเล็ก ที่ทำมาประหยัดต้นทุน ถ้าโดนเครื่องดีเซลเข้าไป การเก็บเสียงและแรงสะเทือนไม่ต้องพูดถึงกันเลยครับ
-
ที่อินเดีย น้ำมันดีเซล กำหนดค่ามาตราฐานความสะอาดไว้สูงกว่ไทยหรือเปล่าครับ
ถ้าไม่
ผมว่าเป็นเืรื่อราคาต้นทุน เพราะเครื่องดีเซล มันต้นทุนสูงกว่าเบนซิน
-
ไม่เห็นมีเหตุผลอะไรจะต้องมีนะครับ ยังไงมันก็เดินไม่เรียบ และเงียบเท่าเบนซิน ประหยัดกว่าก็คงไม่มาก ยิ่งถ้าลอยตัวราคา สู้ E85 ไม่ได้ด้วยซ้ำ แถมแพงกว่าอีก
-
ดีเซล ในอินเดีย,,, เมื่อก่อน ผมเห็นแต่เกียร์ธรรมดานะคับ, ไม่รู้ ว่าตอนนี้เปลี่ยนไปบ้างแล้วหรือยัง :-\
....โครงสร้างภาษีบ้านเรา,,, ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้เครื่องดีเซล เท่าไหร่, มักจะแพงกว่าเบนซิล
....บ้านเรา รถดีเซล,,, จึงจะเห็นว่า มักจะมากับรุ่นท๊อป
แล้วลองนึกสภาพ,,, รถดีเซล ตัวท๊อป แต่เกียร์ธรรดมา, คงขายดีพิลึก :-\
-
ถ้ามาจริงต้องมากับตัวท็อปและราคาสูงกว่าเบนซิน1แสนเป็นอย่างน้อย แล้วคนซื้อรถกลุ่มนี้ผมว่าความรู้เกี่ยวกับรถน้อยและมีความเชื่อว่าดีเซลคือรถกระบะเสียงดังสั่นแล้วก็แพงจะเอามาทำไมอยากประหยัดติดแก๊สเอาดีกว่า
-
อ้อ อยากใช้รถแบบ อินเดียกันเหรอครับ
มีใครคิดแบบนั้นบ้าง ฮ่า ๆๆๆ
ผมไม่เอาละ ดีเซล ควันดำเนี้ย
-
มาได้แต่ขอเกียร์ AT ด้วยครับ
(http://ipocars.com/imgs/a/g/q/e/m/skoda__fabia_1_9_sdi_salon_polska_2005_10_lgw.jpg)
และต้องประหยัด ทนทานจริงๆ ด้วยครับ
เรื่องอืดผมทนได้ เรื่องเสียงผมทนได้ :D
-
เครื่องดีเซลเมื่อนำมาใส่ในรถเล็ก ความจุไม่ต้องมากก็สร้างแรงบิดได้มากกว่าเบนซิน ผมว่าน่าจะทำราคาได้นะครับ ดูอย่างฟอกัสกับครูสยังทำราคาได้ใครว่าแพงผมว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับรถยุโรปดีเซล แต่ที่คนไม่เล่นผมว่าเป็นเพราะเรื่องอื่นมากกว่าครับ
-
รถ 1 คัน ออพชั่นที่เท่ากัน
เครื่องเบนซิน 1.5 ไม่ต้องมีระบบอัดอากาศ
แต่ถ้าเป็นเครื่องดีเซล 1.5 เป็นแบบ DI คอมมอนเรล ต้องมีเทอร์โบช่วยอัดอากาศ (มั้งครับ)
ทำให้พอราคารถออกมา เครื่องดีเซล แพงกว่า เบนซิน
ถ้าไม่มีมาตรการภาษีที่เหมาะสม รถดีเซลยังไงก็ต้องขายแพงกว่าเครื่องเบนซินเพราะต้นทุนสูงกว่า
เหมือน กระบบ้านเรา ออพชั่นที่พอๆกัยรถเก๋ง แต่ราคาแพงกว่าเรียบร้อยไปแล้ว
-
คนที่วิจารณ์เก๋งเล็กดีเซลว่าไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้ เคยขับเก๋งเล็กดีเซลกันรึปล่าวครับ
ผมคนนึงไม่เคยขับและอยากลองมากๆผมเชื่อว่าเทคโนโลยีดีเซลสมัยนี้ถ้าทำมาดีไม่ควันดำ
สั่น เสียงดังมากมายหรอกดูอย่างครูซ โฟกัส แคปติว่า ก็ไม่เห็นจะควันดำกันเลย
-
ถ้ามีจริงก็ดี เหมือนเบนซ์ A class ตัวแรกเครื่องดีเซล น่าใช้มาก
-
ผมคิดว่า คนไทยยังติดกับวัฒนธรรมเดิมๆ มากกว่า ลองไปพูดกันคนส่วนใหญ่ลองดูสิครับ
ยังมีไม่ต่ำกว่า 70 % นะ ที่ไม่รู้ว่ามีรถเก๋งดีเซล เค้าจะนึกว่ามันคือรถบรรทุก สงสัยอืด อาด ยืดยาด
-
ต่อไปนี้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ใช้ในอินเดียจะทันสมัยขึ้นกว่าเดิมนะครับ
ยกตัวอย่าง เครื่องดีเซล 1.5L Earth dream ใน Jazz , City , Brio , Bro MPV ในโมเดล 2014 เป็นต้นไป
-
ถ้าเป็นเพราะบ้านเราน้ำมันดีเซลยังไม่มีมาตราฐานความสะอาดพอ...
น้ำมันดีเซลบ้านเรามันห่วยกว่าอินเดียอีกหรือครับเนี้ย !! ให้ตายเหอะเพราะเจ้า !!
-
ถ้าเมื่อเป็นสิบปีก่อนผมว่าไม่เหมาะดีเซลเครื่องเสียงดัง ควันดำก็มีมาก เหมาะกับการบรรทุกสถานเดียว แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีดีเซลดีขึ้นมากครับ เงียบ เสียงดังน้อยลง(แต่ไม่เท่ารถเก๋ง) ควันดำแทบไม่เห็นเลย ถ้าใครได้ทดลองขับรับรองติดใจครับ แรงบิดในรอบต่ำสูงทำให้อัตราเร่งดีครับ แถมประหยัดชนิด Eco car มีเคือง ถ้าผลิตเครื่องดีเซลไม่เกิน 1,500cc ติดเทอร์โบด้วย กินน้ำมันแถว 17-20 กิโลลิตร ผมว่าคนคงสนใจไม่น้อย แต่อีกใจก็คิดว่าอย่าเลย!!! เดี๋ยวปรับดีเซลลอยตัวเพราะชดเชยไม่ไหวจะลำบากกันใหญ่ครับ ;D ;D
-
ถ้าเป็นเก๋็งเล็กนะ
ผมขอเครื่องแค่ลิตรเดียว +โบ
ขอแรงม้าแค่สักร้อยตัว ที่ไม่เกิน 3000 รอบ แรงบิดขอแค่ 20 กก.ม ที่ 1400-2400 รอบ
แค่นี้ก็ฟิน
-
ถึงดีเซลจะเหม็นควัน ดัง สั่น แต่จริงๆผมเองก็ชอบรถดีเซลนะ
เครื่องดีเซลเหมาะกับรถที่น้ำหนักมากๆครับ เห็นผลต่างกันชัดเจนเลย
แต่ที่ค่ายรถในไทยไม่ค่อยเอามาให้เป็นตัวเลือก ผมว่าเราลองดูที่ยอดขายซิ
ตั้งแต่E220CDI ตัวแรกๆเทียบกับE220 ตัวธรรมดา
หรือโฟกัสดีเซล หรือครูซดีเซล
เดาว่าคนชอบรถเก๋งดีเซลอาจจะมีเยอะ แต่มีไม่กี่คนที่ควักกระเป๋าซื้อ เพราะรถคันเดียวกันรุ่นดีเซลแพงกว่ากันมากจนคนซื้อลังเล
-
ต้องรออีกนานแค่ไหน
ที่ เกียร์ CVT จะใช้กับเครื่องดีเซลเทอรโบได้ นั่นแหละฝันที่เป็นจริง
ราคาถึงจะทำตลาดได้
-
เครื่องดีเซล cc น้อยส่วนใหญ่ จับคู่กับเกียร์ธรรมดา
น้อยมากที่จะมีรุ่นไหนที่เป็นเกียร์ auto ครับ
ส่วนใหญ่เกียร์ auto ส่วนใหญ่จะมาในเครื่องดีเซลตัวใหญ่ คือ 1800 หรือ 2000cc ขึ้นครับ
-
อยากให้มาจริงๆครับ B seg Diesel จะฟินมากๆ