Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: mongolias ที่ กันยายน 11, 2013, 13:22:47

หัวข้อ: เรื่องเล่า เมื่อ Jazz GD ไฟเกียร์ D กระพริบ
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ กันยายน 11, 2013, 13:22:47
สวัสดีครับ
วันนี้มีเรื่องจะมาเล่า เพื่อเป็นประสบการณ์กัน เหตุการณ์เกิดขึ้นสดๆร้อนๆ เมื่อเช้านี่เอง
ผมสตาร์ทรถ เตรียมจะขับรถไปทำงานเป็นประจำทุกเช้า
แต่วันนี้มีสิ่งหนึ่งที่แปลกตาเกิดขึ้นคือ ไฟเกียร์ D ของเจ้า Jazz GD ของผมมันกระพริบ แว้บๆ
แว้บแรกที่เข้ามาในหัวคือ งานงอกแล้ว เกียร์มีปัญหาแน่ๆ
ว่าแล้วก็เอาวะ เอารถออกจากบ้าน สังเกตอาการก่อนละกัน สิ่งที่พบคือ
- รถไม่เปลี่ยนเกียร์ วิ่งได้เกียร์เดียว เวลาถอยหลัง มีอาการสำลัก เกือบจะดับ ต้องเลี้ยงคันเร่งประคอง เช่นเดียวกับตอนเดินหน้า ถ้าเจอรถติด มีลุ้นว่ามันจะดับไหม
- วิ่งได้แถวๆ 60 ก.ม./ช.ม. เกินกว่านี้รอบขึ้นแต่เหมือนว่าความเร็วจะขึ้นช้า ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็น Safe mode ของรถ

สุดท้ายก็ประคองตัวมาถึงศูนย์ฮอนด้าจนได้ แต่เนื่องจากว่ามาถึงตั้งแต่ 7 โมงนิดๆ เลยต้องรอเจ้าหน้าที่ ช่วงเวลารอ จนท. ก็เลยหาข้อมูลไปพลางๆ เจอสาเหตุหลายตัวอยู่
1. โซลินอยด์เกียร์ ถ้าเบิกใหม่ ก็หมื่นกว่าบาท
2. ฟลายวีลล์ เบิกใหม่ เกือบหมื่น หลักพันปลายๆ
3. ยกเกียร์ทั้งลูก โอเวอร์ฮอล ราคาอู่นอกแถวๆ 30000 บาท
มันก็มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งหมด เพราะรถผมวิ่งเยอะ 2.71 แสนก.ม. ละ ตอนนั้นก็ทำใจ เตรียมเสียเงิน

ยิ่งหาข้อมูลยิ่งเครียด รอช่างมาดีกว่า แล้วค่อยว่ากัน ว่าแล้ว ก็โทรฯไปแจ้ง ผบทบ. ก่อนว่า ถ้าเกิดต้องซ่อมเกียร์ เปลี่ยนรถใหม่จะดีกว่าไหม(หาเรื่องเปลี่ยนรถว่างั้น)

พอช่างมา ก้มๆ มุดๆ แป๊บเดียว ได้สาเหตุ มาว่า หนูแทะสายไฟขาดไปเส้นนึง(ผมดันปากหนัก ลืมถามว่าสายไฟเส้นนั้น มันเป็นสายไฟของอะไร)
ช่างเสนอทางเลือก ว่าจะต่อสายให้ เพียงแต่เปิดบิลไม่ได้ เพราะปกติศูนย์จะไม่ทำส่วนนี้ให้ ถือว่าเป็นการช่วยเหลือลูกค้าประจำ
ผมก็บอก ทำไปเลย เท่าไหร่ว่ามา

สรุป เสียไป 300 บาท โล่งอกเสียเงินนิดเดียว แต่ก็เสียดายอดได้รถใหม่เลย 5555

เคสนี้ ผมได้ข้อคิดหลายข้อ
1. อย่าตีตนไปก่อนไข้ รอให้หมอ(ช่าง) ตรวจอาการรถก่อน ค่อยตัดสินใจ ข้อมูลในเนตเชื่อได้ระดับหนึ่ง อย่าฟันธง จนกว่าจะได้เช็ค
2. ศูนย์บริการดีๆก็มี เพียงแต่ว่า คุณจะเจอหรือเปล่า ยิ่งถ้าเจอศูนย์ที่สนิทด้วยแล้ว ผูกมิตรกับช่างไว้เถอะ สักวันคงได้ใช้บริการ เช่นผม
3. หนูนี่ร้ายไม่ใช่เล่น ต้องหาวิธีไล่หนู หรือกำจัดให้ได้ ยิ่งหน้าฝน มันยิ่งหาที่อบอุ่นอยู่ ดังนั้นฝากระโปรงรถนี่เหมือนบ้านหลังย่อมๆนี่เอง อ่านในเวป เค้าบอกให้เปิดฝากระโปรงทิ้งไว้เลย คงต้องลองสักหน่อย
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่า เมื่อ Jazz GD ไฟเกียร์ D กระพริบ
เริ่มหัวข้อโดย: VTEU ที่ กันยายน 11, 2013, 15:44:28
ผมก็เคยเป็นครับ เข้าเกียร์ไม่ได้ คิดว่างานเข้าแน่ๆ
สุดท้ายแค่ฟิวส์ขาด  ::)
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่า เมื่อ Jazz GD ไฟเกียร์ D กระพริบ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ กันยายน 11, 2013, 15:45:55
เสียใจด้วยนะครับที่ไม่ได้รถใหม่

 :D :D :D
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่า เมื่อ Jazz GD ไฟเกียร์ D กระพริบ
เริ่มหัวข้อโดย: PengZZ ที่ กันยายน 11, 2013, 16:19:47
จขกท อดเปลี่ยนรถเลย ;) แต่ได้ช่างดี ไม่เสียเงินนี่นับว่าโชคดีมากครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่า เมื่อ Jazz GD ไฟเกียร์ D กระพริบ
เริ่มหัวข้อโดย: decptt ที่ กันยายน 11, 2013, 16:33:45
เสียใจด้วยครับ อดรถใหม่
ดีใจด้วยครับ ไม่เสียเงินเพิ่ม  ;D ;D ;D

ขายผมก็ได้นะครับ ผมให้เต็มที่ สองหมื่นบาทถ้วน อิอิอิ เห็นราคามือสองตกเยอะ

รถผมยังทำใจเปลี่ยนไม่ได้เลยอ่ะ ตกเกินกว่าจะทำใจเปลี่ยน ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่า เมื่อ Jazz GD ไฟเกียร์ D กระพริบ
เริ่มหัวข้อโดย: honest ที่ กันยายน 11, 2013, 17:08:35
วิ่ง สองแสนเจ็ด  :o  เกียร์ทนมาก
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่า เมื่อ Jazz GD ไฟเกียร์ D กระพริบ
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ กันยายน 11, 2013, 19:19:23
CVT ที่ว่าเปราะๆ ถ้ารู้จักวิธีใช้ ถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆ ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวครับ
ความคิดอยากได้รถใหม่ของผมลดลง หลังจากจ่ายเงิน 300 บาทครับ
อาจจะเสียดายนิดหน่อย แต่ก็ดีใจที่เอาชนะความอยากได้ครับ
ตอนรอช่างนี่ ว่าจะคุยกับเซลส์อยู่แล้วเชียวว่าถ้าจะเทิร์นจะได้เท่าไหร่ แต่ใจบอกให้รู้ค่าซ่อมก่อนดีกว่า

หัวข้อ: Re: เรื่องเล่า เมื่อ Jazz GD ไฟเกียร์ D กระพริบ
เริ่มหัวข้อโดย: JIRATH ที่ กันยายน 12, 2013, 04:27:46
งานนี้ช่างที่ศูนย์เอาไป 1 กะโหลกเลยครับ เจ๋งมาก