Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: FlyMe ที่ กันยายน 23, 2013, 17:40:04
-
ผู้ซื้อรถเมืองไทยควรพิจารณาความปลอดภัยของตัวรถ เป็นประเด็นสำคัญ (key decision factor) เราน่าจะมีมาตราฐานทางด้านนี้ ผมเห็นแต่การสนับสนุน eco car เครื่องเล็ก รถเล็ก รถประหยัดน้ำมัน แต่ยังไม่มีการสนับสนุน เข้มงวด ด้านความปลอดภัย เช่น รถที่ขายต้องมี air bags ทั้ง ผู้ขับและนั่งหน้า อาจต้องมี side air bags ต้องมี ESC (Electronic Stability Control) หรือ ESP/DSC/VSA/VSC (แล้วแต่จะเรียก) ต้องผ่านการทดสอบ เทียบเท่า NCAP (New Car Assessment Program) ที่ใช้ใน US, EU, AU, etc. ระดับ 4-5 ดาว
อยากจะฝากให้ พวกเราช่วยกันผลักดัน เรื่องความปลอดภัย เรายอมใช้รถ ซึ่งแพงกว่าเมืองนอก แต่มี spec ด้่นความปลอดภัยต่ำกว่ามานานมากแล้ว เห็นรถที่ออกจากโรงงานที่เมืองไทย ส่งขายเมืองนอกมีอุปกรณืปลอดภัยครบ แต่รุ่นเดียวกันที่ขายในประเทศ กลับขาดอุปกรณ์เหล่านี้ ไม่น่าจะถูกด้อง
-
ยากครับ คนส่วนใหญ่ของประเทศจัดอยู่ในระดับล่างถึงกลาง ระดับที่มีรายได้ค่อนไปทางสูงมีสัดส่วนน้อยดังนั้นค่านิยมคนไทยจะเน้นไปในเรืีองของควาสประหยัดเงินมากกว่าความปลอดภัย ราคาขายต่ออะไหล่ราคาถูกเรืี่องพวกนี้จะเน้นหนักและคงอยู่ไปเรื่อยๆอีกนาน :P
-
คนที่มีอำนาจในบ้านเมือง ยังไม่เห็นหัวคนไทยด้วยกัน
ต่างชาติที่มาทำตลาดจะมาเหลียวแลทำไม
คิดแล้วเศร้า :'(
-
ยากครับ คนส่วนใหญ่ของประเทศจัดอยู่ในระดับล่างถึงกลาง ระดับที่มีรายได้ค่อนไปทางสูงมีสัดส่วนน้อยดังนั้นค่านิยมคนไทยจะเน้นไปในเรืีองของควาสประหยัดเงินมากกว่าความปลอดภัย ราคาขายต่ออะไหล่ราคาถูกเรืี่องพวกนี้จะเน้นหนักและคงอยู่ไปเรื่อยๆอีกนาน :P
ถุงลม ABS ESP เอามาคนก็กลัวเสียครับ
ทั้งที่จริงมันอาจจะไม่พังก็ได้
เคยใช้ altis 10 ปี ไม่เสียเลย
ต้องรอต่อไปครับ รายได้บ้านเรายังเด็กๆ มาก เทียบกับค่าครองชีพครับ
-
ผมอยากให้มี DUAL AIRBAG ABS EBD BA VSC (ESP) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานครับ สนับสนุนมากๆ รุ่นแพงขึ้นไปค่อยใส่ side airbag
ถึงราคารถจะขยับขึ้นในรุ่นต่ำสุดเช่น อย่างของโตต้า เกรด J ก็ใส่มาเลย เพราะยังไง มันไม่มี ราคารถที่ต่ำไปกว่านี้ ยังไงก็ต้องซื้อครับ สำหรับผุ้บริโภค รุ่ที่แพงกว่าค่อยใส่อย่างอื่นเพิ่ม เช่น เกรด E G ค่อยใส่ของหรูๆแพงๆ ขยับราคารถขึ้นไปเอา (ความเห็นส่วนตัวนะครับ
-
เห็นด้วยกับจขกท.และทุกความเห็นครับ
อุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งหลายที่มนุษย์คิดค้นมาควรได้ติดตั้งบนรถทุกคันเป็นstandard เพราะราคาชีวิตคนแพงกว่ารถยนต์มากมาย
-
ยากครับ ถ้าเรายังเห็นราคาขายต่อมีค่ามากกว่าความปลอดภัยและชีวิตเหมือนในปัจจุบัน :P
-
ผมว่ายากครับ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นความสำคัญกับระบบความปลอดภัยเลย ขนาดแค่เข็มขัดนิรภัยก็ยังไม่คาดกัน :P(ผมเชื่อว่ามีแค่ประมาณ 40-50% เท่านั้นที่คาดขณะขับขี่ และ 20-30% เท่านั้นที่คาดระหว่างโดยสาร)
แต่ผมว่าหลังๆมานี้ค่ายรถหลายๆค่ายก็เริ่มจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้แล้วนะครับ เช่นเจ้าตลาดอย่าง
- Honda ที่ขายในไทยตอนนี้ทุกรุ่นก็มี ABS+Airbag คู่หน้าทุกรุ่น
- Toyota แทบทุกรุ่นที่ขายในไทย(ยกเว้น Innova กับ Hiace&Commuter)ก็มี Airbag คู่หน้ามาให้ทุกรุ่น Hilux Vigo CHAMP รุ่น 2013 ก็มีตั้งแต่ตอนเดียวไม่มีพวงมาลัยเพาเวอร์ยันรุ่นท็อป (หวังว่าค่ายอื่นจะทำตามนะ :D)
และเห็นว่า Eco Car เฟส 2 ก็มีข้อบังคับให้ติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว(ESP)ด้วยครับ ;)
ปล. ส่วนหนึ่งที่หลายเจ้าเริ่มใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยมาให้ น่าจะเพราะต้องการให้ผ่านมาตรฐาน ASEAN NCAP ด้วยครับ :)
http://www.motortrivia.com/section-safety-zone/048-asean-ncap-phase-1-2013/asean-ncap-phase-1-2013.html (http://www.motortrivia.com/section-safety-zone/048-asean-ncap-phase-1-2013/asean-ncap-phase-1-2013.html)
http://www.motortrivia.com/2013/safety-001/052/asean-ncap-phase-2-2013.html (http://www.motortrivia.com/2013/safety-001/052/asean-ncap-phase-2-2013.html)
-
ตอนนี้ สิ่งที่ควรมี airbagคู่+abs ทุกรุ่นก็พอแล้วครับ
-
อนาคตมีแน่ แต่จะเร็วหรือช้าเท่านั้นเอง
-
ผมงงว่าข้อมูลของเจ้าของกระทู้แน่นพอที่จะเอามาวิจารย์จริงหรือป่าว เพราะเท่าที่ผมติดตามรายละเอียดของโครงการ eco car อยู่เรื่อยๆ ประเด็นความปลอดภัยของแต่ละโครงการที่ผมพอจำรายละเอียดมาได้มีดังนี้ครับ
โครงการแรกเขามีกำหนดตามความปลอดภัยของ NCAP อยู่เหมือนกันนะครับ
โครงการสองนี้ก็มีบังคับใส่ถุงลม ระบบเบรคแบบป้องกันล้อล็อค (ABS) และระบบควบคุมการทรงตัว (ESP) เพิ่มเข้ามาด้วย (ไม่แน่ใจว่ายังอยู่ในขั้นการพิจราณาอยู่หรือป่าว)
-
เห็นด้วย กับ จขกท
รัฐบาลเก็บภาษีแพง ๆ แต่กลับไม่สนับสนุนเรื่องความปลอดภัย
มาตราฐานต่างประเทศ เข้มงวดมาก เช่น EURO NCAP
ปัญหา คือ พอ รัฐบาล ไม่มีกฎหมายบังคับ
พวก OEM ก็ประหยัดงบ โดยตัด Airbag ออกไป เพื่อลดต้นทุน
ผมเคย นั่งยัน นอนยัน เท้ายัน ว่า
Airbag ต้นทุนต่อหนึ่งลูกนะมันไม่ได้แพง
มเืองนอกเค้ามาตราฐาน 4 ลุกครับ
รถ มันไม่ได้แพง แต่ ภาษีต่างหากที่แพง
เมื่องไทย 2 ลุกเพราะค่ายรถออกแข่งกันเอง รัฐบาลไม่ได้บังคับ บางรุ่นยังไม่มีเลย
การหาราคา รถที่แท้จริงครับ
ยกตัวอย่าง C segemnt
เช่น รถราคา 800000
ให้ หารด้วย Vat 7 %
800000 / 1.07 = 747633
จากนั้น หารด้วย Tax 30 %
747633/1.35 = 575125 ( ราคา นี้คือออกจากผู้ผลิต )
แล้วผมกล้าพูดเลยครับ ราคารถ 570000 นี้ ทมี่เมืองนอก option เต็มครับ Airbag 6 ลูก
-
หลักๆ เลยพวกเราไม่ค่อยจะเรียกร้องสิทธิ (ร้องไปก็ไม่รุ้ว่าจะได้รึป่าวเราก็รุ้ๆกันอยู่)
สำหรับค่ายรถตลาด จะปรับปรุงทำไมเมื่อทุกวันนี้ก็ขายได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่มี ABS ก็ยังขายได้เเถมยอดก็ครองตลาด
มีเพียงช่วงหลังๆที่คนเรียกหาระบบความปลอดภัยถึงจะใส่มาให้ตามกลไกของตลาดเพื่อให้ทันคุ่เเข่ง เเต่รุ่นราคาเเพงๆหน่อยก็จะมีให้ครบ
อุปกรณ์ความปลอดภัยราคามันก็ไม่เเพงเเต่ถ้าติดครบชุดตามมารตราฐานก็หลายบาทอยู่ อย่างน้อยๆก็ร่าวๆ 50000-70000
มาตราฐานการผลิต ที่เราเรียกติดปากว่า 3 ดาว 4 ดาว 5 ดาว มันต้องคิดจากรถทั้งคันไม่ใช่ส่วนไดส่วนหนึง มาตราฐานการผลิต คุณภาพ ความปลอดภัย
สำหรับประเทศเรา 3 ดาว ก็ผ่านเเล้ว เเละถูกต้องตามกฏหมาย สำหรับรถส่งออกต้อง 4-5 ดาวเท่านั้น
3 ดาว มันคือรถไม่ดีรึป่าว ไม่ใช่นะเเต่มันครบถ้วนตามกฏเกณท์ที่ประเทศเรากำหนดไว้ เพราะบริษัทผู้ผลิตไม่ได้ใช้เครื่อง เกียร์ อุปกรณ์ต่างๆ มาจากสายการผลิดเดียว อาจจะมีการดึงบางส่วนจากชัพพลายอื่น มาตราฐานอาจตกลงหรือดึขึ้น เเต่ถือว่าผ่านเกณท์
สำหรับเรื่องความปลอดภัย ถ้ากฏหมายบังคับยังไงผู้ผลิตต้องปฏิบัติตาม เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก เราจะเเบกรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้มากน้อยเเค่ไหน
สำหรับผมนะอยากให้มี มันช่วยได้เยอะจริงๆ
-
หลักๆ เลยพวกเราไม่ค่อยจะเรียกร้องสิทธิ (ร้องไปก็ไม่รุ้ว่าจะได้รึป่าวเราก็รุ้ๆกันอยู่)
สำหรับค่ายรถตลาด จะปรับปรุงทำไมเมื่อทุกวันนี้ก็ขายได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่มี ABS ก็ยังขายได้เเถมยอดก็ครองตลาด
มีเพียงช่วงหลังๆที่คนเรียกหาระบบความปลอดภัยถึงจะใส่มาให้ตามกลไกของตลาดเพื่อให้ทันคุ่เเข่ง เเต่รุ่นราคาเเพงๆหน่อยก็จะมีให้ครบ
อุปกรณ์ความปลอดภัยราคามันก็ไม่เเพงเเต่ถ้าติดครบชุดตามมารตราฐานก็หลายบาทอยู่ อย่างน้อยๆก็ร่าวๆ 50000-70000
มาตราฐานการผลิต ที่เราเรียกติดปากว่า 3 ดาว 4 ดาว 5 ดาว มันต้องคิดจากรถทั้งคันไม่ใช่ส่วนไดส่วนหนึง มาตราฐานการผลิต คุณภาพ ความปลอดภัย
สำหรับประเทศเรา 3 ดาว ก็ผ่านเเล้ว เเละถูกต้องตามกฏหมาย สำหรับรถส่งออกต้อง 4-5 ดาวเท่านั้น
3 ดาว มันคือรถไม่ดีรึป่าว ไม่ใช่นะเเต่มันครบถ้วนตามกฏเกณท์ที่ประเทศเรากำหนดไว้ เพราะบริษัทผู้ผลิตไม่ได้ใช้เครื่อง เกียร์ อุปกรณ์ต่างๆ มาจากสายการผลิดเดียว อาจจะมีการดึงบางส่วนจากชัพพลายอื่น มาตราฐานอาจตกลงหรือดึขึ้น เเต่ถือว่าผ่านเกณท์
สำหรับเรื่องความปลอดภัย ถ้ากฏหมายบังคับยังไงผู้ผลิตต้องปฏิบัติตาม เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ราคาก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก เราจะเเบกรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้มากน้อยเเค่ไหน
สำหรับผมนะอยากให้มี มันช่วยได้เยอะจริงๆ
Airbag ไม่ได้แพงอย่างที่คิดครับ
ต้นทุน mass production ไม่ได้แพงเลยครับ มาเต็ม ไม่ถึง 10000 ครับ
SRS และ SAB หลัก 100 ครับ
ผู้ผลิต Airbag ให้กับทุกค่ายรถในบ้าน คือ Autoliv ครับ
รถนออกส่งออกไปขาย ราคาทุนไม่ต่างครับ
OEM ตัด Airbag ออกไม่ได้ลดราคารถให้เราลงนะครับ แต่เป็นกำไรของเค้าที่มากขึ้น
-
ผมขอพูดอีกประเด็นนะครับ อย่างหาว่าผมว่าเลยนะ
เราเองก็มีส่วน บ้านเรานะ จะเอากระจกไฟฟ้า จะเอากระจกมองข้างพับไฟฟ้า จะเอา Skirt เอา DVD
ที่สำคัญ คือ ล้อ MAX ไม่มีนี่แทบบ้านแตกเลยทีเดียว(ผมเคยเจอบางคนไม่เอารถที่ไม่มี max แต่ไม่มี ABS ได้ งง)
แต่เวลาซื้อรถ ก็เห็น civic FD ไม่มี Airbag ABS ก็ขายได้
เราเองก็ไม่สนใจด้วยละครับ
ทำให้ผู้ผลิตก็ไม่สนใจ ตัดออกไปเลย จะได้ทำราคาได้
เราก็สร้างว่า เราชอบความสวยงามมากกว่าความปลอดภัยอยู่แล้ว
อย่าง altis CNG ราคาแพงมาก ถุงลมยังไม่มีเลย(ก่อนปรับนะครับ) โอโห เมืองไทย ;D
-
ผู้ผลิตไม่เหลียวแล ก็ต้องให้ผู้ซื้อดูแลตัวเอง
แต่คนที่รู้เรื่อง ต่อคนที่ซื้อจริง มีกระจิ๊ดเดียว ไม่เหมือนเมืองนอกที่เขาพิจารณาจากหลายปัจจัยมากๆ ทุกคนครับ
-
ผมว่า eco car ณ. วันนี้ ก็มีถุงลม ABS มาให้ในหลายรุ่นย่อย หลายค่าย พอสมควรแล้วนา อาจจะไม่ครบทุกรุ่นย่อย แต่ก็มากกว่าแต่ก่อนเยอะครับ :-*
-
ตอนนี้ผมว่าถุงลมคู่หน้า ABD EBD ควรจะใส่มาให้ทุกรุ่นย่อยของรถในประเทศไทยแล้วนะ หรูขึ้นไปก็ TSC BA ถุงลมด้านข้างเพิ่มเข้าไป
ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้ความจริงแล้วละ แต่บางรุ่นยี่ห้อก็ดันให้ถุงลมมาแค่ข้างเดียวซะงั้น เหอๆ กะแค่ถุงลมอีกข้างมันจะเป็นจะตายกันมากหรือไงก็ไม่รู้
-
กึ่งบังคับไปเลย รุ่นไหนที่มีครบๆได้ส่วนลดภาษีไปเลย จะทำให้ค่ายรถเอาราคาไปโปะที่ภาษีหายไปส่วนนั้น ส่วนรุ่นไหนไม่สนใจก็เก็บภาษีแพงขึ้นตามสัดส่วน
-
อนาคตมีแน่ แต่จะเร็วหรือช้าเท่านั้นเอง
อย่างเร็ว ชาตินี้
อย่างช้า ชาติหน้า
เฮ้อ...ประเทศไทย
-
ผมว่าคงไม่มีครับ ดูอย่าง Camry Hybrid ตัวtop มีเบาะปรับไฟฟ้ามาแต่ไม่มี Airbag หลัง
-
มาตราฐาน
ยุโรษ ออสเตเรีย
อย่างต่ำเค้า ยัดใส่กัน 4 ลูกครับ
คู่หน้า สอง
เบาะ อีก สอง เป็น สี่
ยิ่ง C-segment นี่ 6 ลูกครับ แถมม่านมาด้วย
ไอ้ที่บอก นี่ รถ รุ่นเดียวกันกับที่บ้านเรานี่เหลาะครับ แต่บ้านเรา จาก 4 เหลือ 2
จาก 6 ก็เหลือ 2
-
มันจะวกกลับไปที่ ความรู้ครับ
ลูกค้าที่เน้นออพชั่นความปลอดภัย ส่วนใหญ่ เป็นพนักงานออฟฟิศครับ
เพราะการศึกษาสูง และรู้จักค้นคว้าด้วยตนเอง แต่อย่าลืมครับ พนักงาน
ออฟฟิศ กินเงินเดือนตายตัว ลำพังค่าเดินทาง ค่าที่พักก็ไม่พอละครับ
จะผ่อนรถคันนึง ก็ลำบาก ไหนจะมีรถไฟฟ้า ให้เดินทางสะดวกอีก
ฉะนั้น กำลังซื้อตรงนี้ อาจจะยังน้อย หรือชะลอไปเรื่อยๆ
ส่วนลูกค้าทั่วไป พ่อค้า แม่ขาย เกษตรกร ที่มีกำลังซื้อ และจำเป็นต้องใช้ ส่วนใหญ่
เน้นที่ความทนทาน ศูนย์บริการไว้ใจได้ สะดวกสบาย ประหยัด สวยงาม และดูมีหน้าตา มากกว่า
ความปลอดภัย เขาจะมอง ก็ต่อเมื่อ พนักงานขาย เสนอและทำให้เขาเลือกสิ่งที่ดีกว่า
หรือมีลูกหลาน เพื่อนฝูง ที่สนใจในเรื่องรถยนต์ เป็นผู้คอยอธิบายให้เขาสนใจในระบบความปลอดภัย
-
เห็นด้วยกับขั้นต่ำ AirBag คู่
แต่ต้องระวังเรื่องเอาเด็กเล็กนั่งหน้า ไม่คาดเข็มขัดด้วย
เพราะที่เจอบ่อย คือ ผู้โดยสารหน้าคาดเข็ดขัดแล้วเอาเด็กนั่งตัก
ที่จริงควรจะบังคับให้เด็กเล็กนั่งคาร์ซีทที่เบาะหลังด้วย
-
เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับผู้ซื้อเพียงอย่างเดียวครับ
มันเรื่อง กฎหมาย ผู้หลักผู้ใหญ่ หน่วยงาน ต่างๆ ต้อง เป็นผู้นำ
-
เห็นด้วยครับ ว่ามันเกี่ยวเนื่องกันหลายฝ่ายมากๆ
-
ผู้ซื้อก็เลือกซื้อรุ่นย่อย ที่มีถุงลงนิรภัยคู่หน้า ได้นี่ครับ แต่ต้องจ่ายเพิ่มจากรุ่นล่าง
ส่วนคนที่ซื้อรุ่นล่าง ๆ บางคนก็ต้องการประหยัดเงิน เลยยอมไม่เอาระบบความปลอดภัย
ถ้าต้องเลือก รุ่นบน ๆ ที่มีระบบครบ กับ รุ่นล่าง ๆ ที่มีระบบบ้าง ไม่มีบ้าง
พอหารเป็นค่าผ่อนต่อเดือน แม้จะต่างกัน 400 - 500 บาท ก็มีค่าครับ
-
ผู้ซื้อก็เลือกซื้อรุ่นย่อย ที่มีถุงลงนิรภัยคู่หน้า ได้นี่ครับ แต่ต้องจ่ายเพิ่มจากรุ่นล่าง
ส่วนคนที่ซื้อรุ่นล่าง ๆ บางคนก็ต้องการประหยัดเงิน เลยยอมไม่เอาระบบความปลอดภัย
ถ้าต้องเลือก รุ่นบน ๆ ที่มีระบบครบ กับ รุ่นล่าง ๆ ที่มีระบบบ้าง ไม่มีบ้าง
พอหารเป็นค่าผ่อนต่อเดือน แม้จะต่างกัน 400 - 500 บาท ก็มีค่าครับ
กขกท ต้องการสื่อ ว่า
ความปลอดภัยเป็นเรื่อง พื้นฐาน รถควรมีทุกคัน
แต่บ้านเรา รุ่น มี Airbag อยู่ในรุ่น Top
ซึ่ง มันไม่ได้มาแต่ Airbag มันมี Option อื่นๆ เช่น เครื่องเสียง ล้อ MAx จิปาถะ
ทำให้ราคามันสูงขึ้น
โดยที่สูง ไม่ใช่ ราคา Airbag เป็น Option อื่นๆ ด้วย
-
ผู้ซื้อก็เลือกซื้อรุ่นย่อย ที่มีถุงลงนิรภัยคู่หน้า ได้นี่ครับ แต่ต้องจ่ายเพิ่มจากรุ่นล่าง
ส่วนคนที่ซื้อรุ่นล่าง ๆ บางคนก็ต้องการประหยัดเงิน เลยยอมไม่เอาระบบความปลอดภัย
ถ้าต้องเลือก รุ่นบน ๆ ที่มีระบบครบ กับ รุ่นล่าง ๆ ที่มีระบบบ้าง ไม่มีบ้าง
พอหารเป็นค่าผ่อนต่อเดือน แม้จะต่างกัน 400 - 500 บาท ก็มีค่าครับ
กขกท ต้องการสื่อ ว่า
ความปลอดภัยเป็นเรื่อง พื้นฐาน รถควรมีทุกคัน
แต่บ้านเรา รุ่น มี Airbag อยู่ในรุ่น Top
ซึ่ง มันไม่ได้มาแต่ Airbag มันมี Option อื่นๆ เช่น เครื่องเสียง ล้อ MAx จิปาถะ
ทำให้ราคามันสูงขึ้น
โดยที่สูง ไม่ใช่ ราคา Airbag เป็น Option อื่นๆ ด้วย
บางคนบอกว่ายอมตายโดยไม่มี AIRBAG AIRBAG ดีกว่าขับรถไม่มีล้อ MAX กระจกไฟฟ้า
-
ใช่ครับ ควรเป็นมาตรฐานได้แล้ว ตรงนี้ผมก็เห็นด้วย
แต่...ในเมื่อ ยังมีคนยินดีซื้อ รุ่นล่าง ที่ประหยัดเงินกว่า
และรัฐไม่บังคับ ก็จะมีกระทู้เรื่องอีกนี้ไปอีกนานแสนนาน
และพวกที่คิดว่า สกิวการขับ ของตัวเองเทพ ก็มี
ถ้าสมมุตว่า คนไทย ไม่มีใครซื้อซื้อรุ่นล่าง ๆ ที่ไม่มีระบบความปลอดภัยเลย
ซื้อแต่ รุ่นที่มีระบบความปลอดภัยครบ ถึงตอนนนั้น แม้ไม่มีใครบังคับ
บรษัท รถก็คงปรับตัวเองครับ