Headlight Magazine : community
General => Relax & Photoshop Room => ข้อความที่เริ่มโดย: mick ที่ ตุลาคม 06, 2013, 16:13:32
-
มีแพลนจะแต่งปีหน้าครับ ฝ่ายชายเรา ต้องจ่ายหมดทุกอย่างเลย
ว่าจะสร้างบนที่ดินที่มีอยู่แล้วครับ
ตอนนี่มีเงินเล่นหุ้นอยู่จำนวนหนึ่ง
ทำไงดีครับ ของพี่ๆ ทำยังไงกันบ้างครับ
-
ขายรถครับ เอ๊ย ล้อเล่นนน ;D
ท่องไว้อย่าง อย่ากู้ครับ เชื่อผม
สินสอด ลองคุยกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงดูดีๆ ถ้ารอให้พร้อมไม่ต้องแต่งหรอก ขึ้นคานแบบผมแน่ ;D
ส่วนใหญ่ได้คืนหมด
ที่จัดงาน ไม่ต้องใหญ่โต
ได้จากซองพอถูไถ
แต่งแล้วชีวิตต้องดีขึ้นครับ ไม่ใช่แย่ลง
-
เห็นด้วยครับ จะแต่งงานไม่ควรมีอะไรต้องกลุ้ม ถ้าจะกลัดกลุ้ม ก็ยังไม่ต้องแต่ง
-
การแต่งงานเป็นเรื่องของสองคน ต้องแชร์กันครับ
-
ผมไม่รู้จะแนะนำยังไง (ไม่เคยแต่งงานแต่มีกิ๊ก)
แต่ถ้าไม่พร้อม จริงๆ ก็ต้องคุยกันละครับ
อาจจะหารกัน หรือขอยืมเงินกัน
หรือจัดงานเล็กๆ พอเป็นพิธี ;)
-
ถ้าไม่มีตังค์
จัดเล็กๆ ครับ
-
ผมแชร์ส่วนของผมแล้วกันนะครับ
ก่อนแต่งผมกำเงินมาก้อนกะว่าจะสร้างคอรบครับ เป็นเงินที่ช่วยกันเก็บกับแฟนนี่แหละ
ก่อนแต่งผมก็ซื้อบ้าน แต่ดาวน์ต่ำ ดอกถูก เพราะเป็นพนักงานงบแผ่นดิน เลยได้โปรเหมือนข้าราชการ
ค่าสินสอน บวกทอง ค่าจัดงาน เยอะเอาการ ตังค์ไม่พอครับ
แต่พอดีแฟนผมเขามีพี่สาว 3 คนแต่งานหมด เราจึงอาศัยการยืมทองพี่ๆมาใส่ขันหมาก (เป็นความลับระดับชาติเลยนะครับ)
กลางวันจัดที่บ้านแฟน กลางคืนจัดห้องประชุมใหญ่โรงเรีนคริสต์ ติดแอร์ (สวยพอๆโรงแรมแต่ถูกกว่า)
ผมลดค่าใช้จ่ายส่วน pre-wedding เพราะเพื่อนเป็นคนถ่ายรูปไห้ ผมจัดเพลทอัลบั้มเอง ทำรูปใหญ่เอง ทำVDO presentation. เอง ร้านแค่ให้ผมเช่าชุดกับพิมให้ผมเท่านั้น
ป้ายทั้งหมดลูกศิษย์ผมทำให้ (ประหยัดไปเป็นหมื่นเลยนะครับ) ของชำร่วยผมหาซื้อเอง แล้วพิมพ์สติ๊กเกอร์เอง ให้ลูกศิษย์มาช่วยห่อ
ออร์แกไนเซอร์และพิธีกรก็เป็นพี่ๆและลูกศิษย์ รวมๆกันเกือบ 30 คน ลูกศิษย์ผมเขาหา Walky talky มาด้วย เลยเป็นชุดออกาไนซ์ที่เวิร์คและเร็วมาก
ส่งตัวเสร็จ...."..........นอนครับ 555+
ตื่นมาฉีกซอง นับรายรับ หักรายจ่าย สรุปจ่ายไป 3 แสน ปลื้มมากครับ นึกว่าจะหมดตัว 5555+
-
ผมแชร์ส่วนของผมแล้วกันนะครับ
ก่อนแต่งผมกำเงินมาก้อนกะว่าจะสร้างคอรบครับ เป็นเงินที่ช่วยกันเก็บกับแฟนนี่แหละ
ก่อนแต่งผมก็ซื้อบ้าน แต่ดาวน์ต่ำ ดอกถูก เพราะเป็นพนักงานงบแผ่นดิน เลยได้โปรเหมือนข้าราชการ
ค่าสินสอน บวกทอง ค่าจัดงาน เยอะเอาการ ตังค์ไม่พอครับ
แต่พอดีแฟนผมเขามีพี่สาว 3 คนแต่งานหมด เราจึงอาศัยการยืมทองพี่ๆมาใส่ขันหมาก (เป็นความลับระดับชาติเลยนะครับ)
กลางวันจัดที่บ้านแฟน กลางคืนจัดห้องประชุมใหญ่โรงเรีนคริสต์ ติดแอร์ (สวยพอๆโรงแรมแต่ถูกกว่า)
ผมลดค่าใช้จ่ายส่วน pre-wedding เพราะเพื่อนเป็นคนถ่ายรูปไห้ ผมจัดเพลทอัลบั้มเอง ทำรูปใหญ่เอง ทำVDO presentation. เอง ร้านแค่ให้ผมเช่าชุดกับพิมให้ผมเท่านั้น
ป้ายทั้งหมดลูกศิษย์ผมทำให้ (ประหยัดไปเป็นหมื่นเลยนะครับ) ของชำร่วยผมหาซื้อเอง แล้วพิมพ์สติ๊กเกอร์เอง ให้ลูกศิษย์มาช่วยห่อ
ออร์แกไนเซอร์และพิธีกรก็เป็นพี่ๆและลูกศิษย์ รวมๆกันเกือบ 30 คน ลูกศิษย์ผมเขาหา Walky talky มาด้วย เลยเป็นชุดออกาไนซ์ที่เวิร์คและเร็วมาก
ส่งตัวเสร็จ...."..........นอนครับ 555+
ตื่นมาฉีกซอง นับรายรับ หักรายจ่าย สรุปจ่ายไป 3 แสน ปลื้มมากครับ นึกว่าจะหมดตัว 5555+
ฮาตรงประโยคสุดท้าย อิอิ
-
ลองคุยเปิดใจกับแฟนและที่บ้านแฟนดูซิคะ ว่าเราไหวขนาดไหน ค่อยๆคุยน่าจะมีทางออก
-
ตามนี้เลยครับ "เมียซื้อเงินสด รถซื้อเงินผ่อน" ตามประสบการณืพ่อลูกหนึ่งนะครับ อย่าคิดว่าการจัดงานอลังการงานสร้าง คนอื่นจะยิดีไปกับเรานะครับ พองานเลิกเขากลับบ้านครับไม่มีอะไรกับเรา ใส่ซองแค่ สองร้อย กิน นี่สองพันเลย ที่สำคัญ หน้าตา ไม่ช่วยให้หนี้ที่ลงทุนไปดีขึ้นครับ สวนทางกันครับ ปรึกษากับฝ่ายเจ้าสาวให้ดีครับ ว่าอย่ามีหนี้ก่อนแต่งครับจะปวดหัวแบบผมฮ่าๆๆๆๆ
-
ผมยังไม่แต่งครับ แต่มีโครงการแล้ว
การหาเงิน ผมหาเพิ่มไม่ได้ ทำได้แต่ลดรายจ่าย เพื่อให้มีเงินเก็บเยอะขึ้น
อยากประหยัด อะไรที่หาเองได้ ทำเองได้ ทำเองครับ เช่นของชำร่วย
และถ้าเป็นไปได้กินเลี้ยงกลางวันครับ งานกลางคืนหมดเยอะ
ส่วนอะไรที่เลียงไม่ได้ ให้เทียบราคาละคุณภาพดูดีๆ จะได้ไม่จ่ายแพงโดยใช่เหตุ
เช่น ช่างภาพผมหาได้ในราคา 6.5 พัน ฝีมือระดับถ่ายปก เพื่อนผมหาแถวบ้านโดนไปหมื่นกลางๆ ภาพออกมาเห็นแล้วเสียดายตัง
-
ไม่มีเลื่อนแผนไปก่อนได้ไหม? ผมไม่อยากให้เริ่มด้วยเป็นหนี้..อยากให้หาทางที่ปลอดภัย มีความเสี่ยงน้อย และประหยัดให้มาก ครับ
ยกตัวอย่างผมก็แล้วกัน.....ผมมีพี่น้องทั้งหมด 10 คน(ยังอยู่ครบ) ใครจะแต่งงานต้องคุยกันกับคนที่จะแต่งและหาเงินเอง... พ่อจะไม่ช่วยเงิน ช่วยแค่เจรจาสู่ขอให้ รายได้จากการแต่งหรือการจัดงานท่านไม่ยุ่งด้วยได้เท่าไรเป็นของคู่นั้น ...หากทำไม่ได้ ยังไม่ควรมีครอบครัว...แต่ละคู่ก็หาทางกันไป..ผมเป็นคู่ที่ หก มีบางคู่(น้อง ไม่แต่ง แต่ไปอยู่ด้วยกันเฉย ๆ เรียกว่าหนีตามกันก็มี)
ส่วนผม เจอแฟน ตอนบรรจุเป็นครูประถม กฎของพ่อก็มี ....ไปดูบ้านแฟนก็มีฐานะ... จะทำอย่างไรดี?..เป็นครูได้ปีกว่า ๆ อีกสิบปี คงไม่ได้แต่งแน่ แฟนก็คงไม่รอ .เอาอย่างไรดี ......ตัดสินใจลาออกไปเจาะน้ำมันที่ซาอุฯ บน rig กลางทะเล ค่าแรงได้ 10 เท่าของเงินเดือนครู ทำสองปี กลับมาแต่งงานได้แล้ว...จากนั้นก็กลับมาเป็นครูอีกครั้ง ...
หวังว่าเป็นสิ่งที่ช่วยจุดประกายให้อดทนและพยายามมากขึ้นครับ..
-
อยากบอก จขกท ว่า
คนรู้ใจผมบอกว่าอยากจดทะเบียนครับ :D
ตรงข้ามกับ จขกท เลย ไม่ต้องแต่ง :D ครับ
แต่ผมคงไม่ละครับ ถึงเขาเป็นคนดี แต่ผมยังด้อยกว่าเขาเยอะ
-
ในละครแต่งงานคือตอนจบแต่ในชีวิตจริงการแต่งการคือการเริ่มต้นชีวิตคู่ ดังนั้นอย่าเริ่มต้นด้วยการติดลบด้วยการไปกู้หนี้ยืมสินมาแต่งงานผมเห็นมาหลายคู่ละ ฉิบหายไม่ว่าเอาหน้าไว้ก่อน พวกนี้หลังแต่งต้องมาใช้หนี้กันหัวบานไม่ก็ลำบากทางบ้าน บางคนเพิ่งเรียนจบอยากมีเมียละงานการยังไม่ทำเลยเดือดร้อนทางบ้านอีกอยากมีครอบครัวแต่ต้องคอยพึ่งคนอื่นตลอด
ในส่วนของผมตอนแต่งผมแทบไม่มีตังเลยผ่อนบ้าน 1 หลัง รถสามห่วงเก่าๆ 1 คัน กับช่วยทางบ้านส่งน้องเรียนโทอีก 2 คนเรียกได้ว่าเดือนชนเดือนต้องรอเงินโบนัสเท่านั้นได้มา 1.2 แสน ทองก็มีแค่ 2 บาทที่เหลือก็หยิบยืมไปก่อน ผมประกาศไว้ตอนแรกว่าผมมีปัญญาผูกแขนเท่านั้นจะไม่มีการกู้ยืมหรือเป็นหนี้อะไรเด็ดขาดใครอยากจัดงานก็ออกตังกันมา ;D ;D ;D ญาติๆก็ลงขันกันหล่ะครับเพราะผมเป็นหลานคนโตของทั้งฝั่งพ่อแม่และไม่มีงานใหญ่ๆที่เป็นมงคลมานานแล้วได้เป็นโต๊ะจีน 80 โต๊ะซะงั้น :D :D :D แม่ยายคืนตังเอามาให้ตั้งตัว 2.5 หมื่นพ่อผมให้มาอีก 2.5 หมื่นเอาไปโป๊ะรถซะเลยจบไปหนึ่งภาระ
เรื่องสินสอดเป็นอะไรที่ต้องคุยกันดีๆนะครับ บางคนคบกันมาตั้งหลายปีมาเลิกกันตอนนี้แหละเรื่องสินสอดเรื่องการจัดงานเรื่องซอง อู๊ยมีเรื่องให้ทะเลากเยอะ พื้นฐานทางบ้านแต่ละบ้านไม่เหมือนกันบางบ้านแทบเรียกได้ว่าขายลูกสาวกิน
เคยคุยกับรุ่นน้องขำๆอยู่เรื่องแบบนี้แหละเค้าบอกว่าเป็นค่าน้ำนมลูกเต้าเค้าเลี้ยงมา (แล้วตูเกิดจากกระบอกไม้ใผ่??? พ่อแม่ตรูก็เลี้ยงมาเหมือนกัน) เอาลูกสาวเค้ามาแล้วต้องเลี้ยงให้ดี (อ้าว จ่ายเงินค่าเงินค่าสินสอดแล้วยังต้องเลี้ยงอีกเหรอ ยิ่งกว่าซื้อรถอีกดาวน์แล้วผ่อนตลอดชีพ) อย่าตีราคาผู้หญิงเป็นสิ่งของสิ (อ้าว แล้วที่เมิงบอกเอาสินสอดเอานู้นนี่นั่นหล่ะไม่ใช่ราคาเหรอ) มันเป็นประเพณี (เค้าดูความตั้งใจของฝ่ายชายให้ว่าจะสามารถประคับประคองครอบครัวให้อยู่รอดได้แล้วเค้าก็คืนบางส่วนหรือทั้งหมดหรือทบเข้าไปให้ไปตั้งตัวไม่ใช่เอาหมด) นี่น้องนะพี่จะมาเถียงหนูทำไมไม่ได้มาแต่งกับหนูซะหน่อย (จบ ยอม เถียงแพ้อีกล่ะ)
-
เกิดเป็นผู้ชาย เซงจุงเบย
-
ไม่ทราบว่าฝ่ายเจ้าสาวว่าอย่างไร ซองที่ได้มาลดค่าใช้จ่ายในการจัดงานได้มากครับ ตอนจัดไม่ได้จัดใหญ่ แต่จัดดี คือเราคุยกันเรื่องงานแต่ง ว่าเราจะเชิญแต่เพื่อนสนิท ญาติสนิท ลูกน้องพ่อลูกน้องแม่เพื่อนคนนั้นเพื่อนคนนี้ไม่เชิญ ไม่ได้จัดหากำไร คราวนั้นจองห้องจัดเลี้ยงในภัตตาคารจีนที่มีชื่อ แล้วสั่งโต๊ะจีนแพงที่สุด มาเลี้ยงกัน เดินถ่ายรูปตามโต๊ะเรารู้จักทุกโต๊ะ (เราไม่อยากเดินถ่ายรูปในงานเรา แต่เราไม่รู้จักว่าที่เราถ่ายรูปด้วยมันน่ะใคร) มีความสุขสนุกมาก ของชำร่วยและการ์ดสั่งที่จตุจักรมีร้านหลายร้านมีแบบให้เลือกมาก ทั้งการ์ดทั้งของชำร่วย พากันดูหลายๆ ร้านค่อยตัดสินใจ สินสอดแม่ยายคืนหมดแถมทองให้มาอีกยี่สิบบาท ให้เป็นทุน นี่ก็ผ่านมานานหลายปีมากๆ แล้ว 555555
-
ผมมีเรีองเล่าให้ฟังครับพอดีว่าเพีอนสนิทผมแต่งงานเดีอนหน้าครับเอาง่ายๆครับเพีอนผมโดนไปน่าจะ2ล้านแน่ๆครับแถมแต่งทีโรงแรมอีกครับผมว่าการแต่งงานมันเปนพิธิเท่านันครับหรีอถ้าเอาแบบง่ายๆลองจัดเปนพิธิเล็กๆในครอบครัวดีกว่าครับแล้วช่วนเพีอนแค่ไม่กีคนมันจะเชพเงินเราครับ
ปล.เพีอนผมทีแต่งเดีอนหน้าเจ้าสาวสวยมากๆครับ555555