Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 08, 2013, 22:45:24

หัวข้อ: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 08, 2013, 22:45:24
ผมสังเกตุมาสักพักละครับเพราะพึ่งจะเริ่มศึกษารถเหตุเพราะว่าจะซื้อรถเป็นของตัวเองสักที

ผมสังเกตุว่ารถราคาแพงๆจากทางญี่ปุ่นทำไมไม่ค่อยใส่ Turbo มากับรถเลยครับ Lexus ราคาตั้งแต่ 2 ล้านกว่าๆ - 10 ล้าน ก็ไม่ใส่ Toyota GT86 เป็น Sport แท้ๆก็ยังไม่ใส่ ราคาตั้ง 2.7 ล้าน Nissan 370z ก็ไม่ใส่ ราคาตั้ง 5 ล้านกว่าๆแล้วเป็นรถ Sport อีกตะหาก แต่ไปใช้เครื่องลูกสูบใหญ่ๆเอา แต่ถ้าเป็นรถยุโรป ถูกสุดก็ Peugeot 408 1.6 Turbo 1.3 ล้าน ก็มี Turbo มาแล้ว แพงขึ้นหน่อยก็ Volvo v40 นั่นก็มี ไม่ต้องพูดถึง BM, Benz, Audi หรือ Volkswagen เขามีแทบจะทุกคันทุกรุ่น

ผมอยากรู้ว่าทำไมคนจาก 2 ทวีปถึงคิดต่างกันขนาดนี้ แล้วมัน ดีกว่า/ด้อยกว่า ต่างกันอย่างไรครับ เท่าที่ผมรู้ เครื่อง Turbo รอบ 1500 - 2000 ม้าก็มาเต็มๆแล้ว กระบอกสูบก็ทำเล็กลงได้(มันก็น่าจะประหยัดกว่า) แต่ถ้าไม่มี Turbo ต้องเรียกรอบไปตั้ง 6000 - 7000 กว่าม้าจะมาเต็มๆ กระบอกสูบก็ใหญ่(ซึ่งก็น่าจะเปลืองกว่า) จะว่าเป็นเรื่องลดต้นทุนก็ไม่น่าจะใช่ เพราะราคาขายก็ไม่ได้ถูกเลย เพลอๆมีหลัก 10 ล้านให้เห็น จะบอกว่าไปเน้นนวัตกรรมด้านความปลอดภัย+ตัวถังแข็งแรง+ช่วงล่างสุดยอด อืม... ก็ไม่น่าจะใช่อีกแหละ

อันนี้ผมไม่เข้าใจจริงๆครับ รบกวนผู้รู้ช่วยให้คำตอบเป็นความรู้ติดตัวหน่อยครับผม
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ ตุลาคม 08, 2013, 22:54:46
GT-R ใส่นะคับ

Vios ก็เคยใส่เอามาขาย ขายไม่ออกหละ :-\
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 08, 2013, 22:57:30
GT-R ใส่นะคับ

Vios ก็เคยใส่เอามาขาย ขายไม่ออกหละ :-\

GT-R อันนั้นรู้ครับ ผมหมายถึงรถส่วนใหญ่นะครับ ผมคำนึงจากราคาที่พอๆกันครับ ในรถปกติที่คนทั่วไปขับน่ะครับ

ส่วน Vios อันนี้ผมเคยไม่รู้เลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: -Anonymous- ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:03:37
Lexusนั้นเค้ารักส่วนตัวของเค้าครับ เคยอ่านบอกเลยจะยังออกเครื่องไม่มีโบอีกซักพัก
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:04:11
ราคาเลยครับ  เพราะถ้าใส่มาราคาก็โดดไปอีก
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:05:17
ราคาเลยครับ  เพราะถ้าใส่มาราคาก็โดดไปอีก

แล้วทำไมยุโรปเขาทำมาราคาพอๆกันได้ครับ บางคันถูกกว่าอีก?
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:06:47
ทุกวันนี้เครื่องแบบ na ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปอยู่แล้วนิครับ พวกเครื่องลดความจุ ซีซีลง แล้วเพิ่ม Turbo คงยังอีกหลายปี

และแนวทางการพัฒนาก็จะเน้นมาทาง  Hybrid มากกว่า
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:08:57
ทุกวันนี้เครื่องแบบ na ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปอยู่แล้วนิครับ พวกเครื่องลดความจุ ซีซีลง แล้วเพิ่ม Turbo คงยังอีกหลายปี

และแนวทางการพัฒนาก็จะเน้นมาทาง  Hybrid มากกว่า

ติด Turbo + Hybrid ก็ได้ เหมือน BMW, Benz, Audi หรือ Porsche นี่ครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Nlight ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:18:22
Vigo , Dmax ก็ญี่ปุ่นนะครับ  ;D

ผมว่าญี่ปุ่นเน้น Hybrid กว่า แล้วเป็น Mass Hybrid ด้วย
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: oryor ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:19:52
ญี่ปุ่นเค้าพัฒนาไปทาง Hybrid
ส่วนยุโรปก็เล่นพวกเครื่องเล็กอัดหอยกันครับ ทั้งดีเซลและเบนซิน
พัฒนากันไปคนละแนว
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:22:20
Vigo , Dmax ก็ญี่ปุ่นนะครับ  ;D

ผมว่าญี่ปุ่นเน้น Hybrid กว่า แล้วเป็น Mass Hybrid ด้วย

Vigo, Dmax เป็นเครื่อง Diesel นี่ครับ ก็สมควรจะติดแหละครับ ซึ่ง Diesel ที่ไหนเขาก็ต้องควรติดกันนี่ครับ

ญี่ปุ่นเค้าพัฒนาไปทาง Hybrid
ส่วนยุโรปก็เล่นพวกเครื่องเล็กอัดหอยกันครับ ทั้งดีเซลและเบนซิน
พัฒนากันไปคนละแนว


แล้วแนวไหนมัน ดีกว่าหรือด้อยกว่ากัน อย่างไร ครับ? เค้ามีเหตุผลอันสมควรเชื่อถือกันไหมครับ?

หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:26:11
ราคาเลยครับ  เพราะถ้าใส่มาราคาก็โดดไปอีก

แล้วทำไมยุโรปเขาทำมาราคาพอๆกันได้ครับ บางคันถูกกว่าอีก?
ตองถามว่ารุ่นไหน ยี่ห้อไหนอ่ะครับ  แล้วเอามาเทียบกัน   แต่ถ้าสมรรถนะเท่ากันผมว่าก็  Win  ทั้ง 2 ฝ่ายแหละครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:28:41
ลองไปดู K-CAR ดูครับ เครื่องยนต์ Turbo ที่ญี่ปุ่นมีมานานมากแล้วครับ

ไหนจะ toyota supra nissan skyline gtr lancer evolution อีกหลายรุ่นเลย ลองๆหาข้อมูลดูครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: rut191 ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:39:19
86เดี๋ยวจะมีโบตามมาหรือป่าว
ก็เห็นโบมีในหลายรุ่นนะแต่ส่วนใหญ่เขามีไว้เพื่อความแรงมากกว่านะและเป็นรุ่ยเพิ่มตังจากตัวปกติ
เช่นjuke k-carต่างๆ suburuหลายๆรุ่น และแต่ละตัวที่ผูกโบเพิ่มจะกินหนักกว่าปกติด้วย
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: S6 ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:40:49
รถญี่ปุ่นถ้ามีเทอร์โบจะเน้นแรงม้ามากๆไปเลย 220-500 แรงม้าขึ้นไป ราคาก็จะโดดจากภาษีแรงม้าไปมากเลย ตัวอย่าง sti รถใส่เทอร์โบราคาที่ 4 ล้าน
ถ้าไม่เน้นแรงม้า ก็ไม่รู้จะใส่เพื่ออะไร
เทอร์โบรอบมาช้านะครับ ไม่ใช่ 1500-2000 รอบ อันนั้นน่าจะเป็น supercharge นอกจากเทอร์โบใบเล็กมากอย่างที่ใช้ในเครื่องดีเซล
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Blackforlife ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:41:51
การตอบสนอง NA ไวกว่าครับไม่ต้องรอรอบกดแล้วมาเลย ลากรอบได้สูงๆ รถซิ่ง NA ญี่ปุ่นชอบลากรอบจัดๆ เครื่อง K20A ของ HONDA เป็นต้นนะครับ ยิ่งถ้าทำให้รถ NA ปริมาตร 1 ลิตร ให้แรงม้าได้ 100+ ม้า ถือว่าเจ๋งมากๆแล้วครับ   

BMW M3 E92 ก็ NA นะครับ  Ferrari ก็ NA

ลากรอบจัดๆได้มันก็เป็นความมันอีกแบบหนึ่งนะครับ แม้ว่าแรงไม่เท่าเทอร์โบก็ตาม
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: S6 ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:43:26
ราคาเลยครับ  เพราะถ้าใส่มาราคาก็โดดไปอีก

แล้วทำไมยุโรปเขาทำมาราคาพอๆกันได้ครับ บางคันถูกกว่าอีก?

ดูที่ตัวเลขแรงม้า ไม่ต้องดูว่าเป็น turbo หรือ supercharge
ราคาที่ต่างกันก็มาจากตัวเลขนี้ มาคิดเป็นกำแพงภาษี
ถ้ารถยุโรปที่มีแรงม้ามากก็จะยิ่งราคาสูงมาก C63
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: taokung ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:46:45
ผมว่าเรื่อง ระบบอัดอากาศ(turbo) รถญี่ปุ่นเขาทำมานานแล้วนะ ลองศึกษาดูครับเขาทำมาก่อนยุโรปด้วยซำ้ไปแต่ก่อนนั้นรถยุโรปหลงทางไปใช้superchrager และเน้นความจุกระบอกสูบ  สมัยนั้นยุโรปอยากแรงก็เพิ่ม cc เอา แต่ญี่ปุ่นไม่ใช่อย่างนั้นเขาเน้นเครื่องccไม่มากแล้วใช้turboช่วย
เช่น subaru mitsu toyota ผมว่าญี่ปุ่นเขาไปไกลกว่ายุโรปนะ เพียงแต่ไม่โก้หรูเท่าๆนั้นเองครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:49:39
ราคาเลยครับ  เพราะถ้าใส่มาราคาก็โดดไปอีก

แล้วทำไมยุโรปเขาทำมาราคาพอๆกันได้ครับ บางคันถูกกว่าอีก?
ตองถามว่ารุ่นไหน ยี่ห้อไหนอ่ะครับ  แล้วเอามาเทียบกัน   แต่ถ้าสมรรถนะเท่ากันผมว่าก็  Win  ทั้ง 2 ฝ่ายแหละครับ

ลองไปดู K-CAR ดูครับ เครื่องยนต์ Turbo ที่ญี่ปุ่นมีมานานมากแล้วครับ

ไหนจะ toyota supra nissan skyline gtr lancer evolution อีกหลายรุ่นเลย ลองๆหาข้อมูลดูครับ

Lexus IS250 F Sport 3,990,000 ฿ IS 300h Hybrid 3,490,000 ฿ หรือ Toyota GT86 2,740,000 ฿ หรือ Nissan 370Z 5,300,000 ฿ และไปจนถึง Lexus LS460 Hybrid 13,580,000 ฿ ก็ยังไม่มีติด

แต่ BMW, Benz, Audi จะเอารุ่นไหนที่ไม่ติดดีกว่า เพราะพี่ท่านเล่นติดมาจะแทบทุกรุ่น ตั้งแต่ราคา 2 ล้านกว่า - 10 ล้าน จะว่าเป็น Hybrid หรือ ดู Series 3,5,7 Active Hybrid ก็เครื่อง Turbo ทั้งนั้น Citroen DS5 ตัวใหม่เป็น Diesel Turbo + Hybrid ด้วยเอ้า ราคาเกือบ 3 ล้าน หรือจะเอาเทพๆเลยก็ Porsche Panamera S E-Hybrid 9,600,000 นั่นก็เครื่อง Diesel Turbo + Hybrid ล่าสุดก็ Benz S Class ขับเองได้นั่นแหละครับ

ที่เห็นจะติด Turbo ก็จะมี ตามที่ท่าน O_o บอกเอาไว้ ซึ่งทุกรุ่นก็เป็oรุ่นในฝันของผมทั้งนั้น(เพราะผมเล่นเกมส์แข่งรถ อิอิ)และมันก็มีประมาณแค่นั้น ผมถึงใช้คำว่า"รถญี่ปุ่นไม่ค่อยใส่ Turbo" ไม่ได้บอกว่าไม่ยอมใส่เลยครับ แต่..... พวกนั้นก็ไม่ใช่รถที่เราๆท่านๆจะหาซื้อได้ในประเทศไทยครับ ดังนั้นผมขอไม่นับรวมครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 08, 2013, 23:53:28
ผมว่าเรื่อง ระบบอัดอากาศ(turbo) รถญี่ปุ่นเขาทำมานานแล้วนะ ลองศึกษาดูครับเขาทำมาก่อนยุโรปด้วยซำ้ไปแต่ก่อนนั้นรถยุโรปหลงทางไปใช้superchrager และเน้นความจุกระบอกสูบ  สมัยนั้นยุโรปอยากแรงก็เพิ่ม cc เอา แต่ญี่ปุ่นไม่ใช่อย่างนั้นเขาเน้นเครื่องccไม่มากแล้วใช้turboช่วย
เช่น subaru mitsu toyota ผมว่าญี่ปุ่นเขาไปไกลกว่ายุโรปนะ เพียงแต่ไม่โก้หรูเท่าๆนั้นเองครับ

เรามาพูดถึงสมัยนี้กันสิครับผม แล้วทำไมสมัยนี้มันถึงกลับด้านกันล่ะครับ หรือว่าต่างละฝั่งจะมองเห็นข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ ถึงได้เปลี่ยนสลับข้างกันแบนี้?

เพราะผมจะซื้อรถสมัยนี้เนอะครับ ไม่ใช่จะย้อนยุคไปซื้อสมัยก่อน
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ ตุลาคม 09, 2013, 00:02:38
ต้องดูว่า ระหว่างติดกับไม่ติดเอามาเทียบกัน  แล้วสมรรถนะเท่ากันมั้ยแคนั้นแหละครับ   ส่วนใหญ่รถ ญี่ปุ่นจะเป็น Hybrid  ครับซึ่งก็แรงพอๆกันกับรถ ยุโรป ผูก โบ  อยู่ครับแต่ด้านความรู้สึกไม่ไม่เท่า  ผวกโบอ่ะนะ   อีกอย่าง  รถ Hybrid  นี้ต้นทุนแพงกว่า  โบนะ(หรือเปล่าไม่แน่ใจ)
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Xtrail ที่ ตุลาคม 09, 2013, 00:18:23
คำตอบเยอะเลย..........สุดท้ายก็ลอกกันไปมา..ทางใครทางมันปนๆกัน.....ไม่แบ่งแยกเอเซียหรือยุโรป....เค้าแลกเปลี่ยนเทคโนกันด้วยซ้ำ
ถ้าตอบจริง..ก็ รถปัจจุบันเน้นประหยัดพลังงานมากขึ้น ฝรั่งคิดติดโบเพื่อประหยัด ญี่ปุ่นแรกๆก็ไม่อยากถูกหาว่าลอกมา  ก็เน้นไฮบริตไปก่อน...เดี๋ยวก็เอามาใช้เชื่อดิ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: taokung ที่ ตุลาคม 09, 2013, 00:19:29
การที่เล่าเรื่องในอดีตก็เพื่อชี้ให้เข้าใจในแนวทางการพัฒนา ในยุโรปและญี่ปุ่นครับ  ยุโรปเห็นข้อดีของturboก็นำมาพัฒนาต่อยอดบวกโน้นนี้นั้นเข้าไป
แต่ญี่ปุ่นเขาทำมาตั้งนานแล้ว เขาจึงไปพัฒนาเรื่องhi brid  ซึ่งจะเห็นว่าญี่ปุ่นมีการนำเอาเครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ซึ่งทำก่อนยุโรปด้วยและก็ได้
แรงบิดและแรงม้าพร้อมความประหยัดอีกด้วย  
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 00:22:51
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 00:26:46
การที่เล่าเรื่องในอดีตก็เพื่อชี้ให้เข้าใจในแนวทางการพัฒนา ในยุโรปและญี่ปุ่นครับ  ยุโรปเห็นข้อดีของturboก็นำมาพัฒนาต่อยอดบวกโน้นนี้นั้นเข้าไป
แต่ญี่ปุ่นเขาทำมาตั้งนานแล้ว เขาจึงไปพัฒนาเรื่องhi brid  ซึ่งจะเห็นว่าญี่ปุ่นมีการนำเอาเครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ซึ่งทำก่อนยุโรปด้วยและก็ได้
แรงบิดและแรงม้าพร้อมความประหยัดอีกด้วย  

ผมก็ยังไม่เข้าใจ ก็แล้วทำไมไม่ใส่มันมาทั้ง 2 อย่าง? ผมเข้าใจว่าทำ Hybrid ก่อน แต่จะดีกว่าจริงหรือไม่ อันนี้ไม่แน่ใจนัก ลองดูความสามารถของมอร์เตอร์ไฟฟ้าและแบตของ BMW Active Hybrid กับ Porsche Panamera S E-Hybrid ดูครับ ผมว่าน่าจะดูเหนือและล้ำกว่า หรือจะเป็นฝั่ง USA คือ Chevy Volt เลยเอ้า อันนั้นมอร์เตอร์แรงสุดติ่งกระดิ่งแมวเลยอ่ะ ถึงจะใช้เครื่อง NA ก็เหอะ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Xtrail ที่ ตุลาคม 09, 2013, 00:37:08
คำตอบกว้างตามคำถามครับ..........คำถามต้องใส่รายละเอียดเยอะๆเจาะจงยี่ห้อรุ่นมาเลยช่วงเวลาด้วย.....แล้วมาตอบกันให้ชัดเจน
นาฬิกาเข็มมีข้อดีเยอะกว่าดิจิตอลมากในการดู(ช่วง)เวลาจริงๆ........นอกนั้นอะไรก็แพ้สมาร์ทโฟน5555
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Nlight ที่ ตุลาคม 09, 2013, 00:41:01
เรื่องวีโก้ผมเล่นมุขครับท่าน เห็นถามหารถยุ่นติดโบเลยจัดให้ ;D

เอาความทรงจำที่เลือนลางของผมนะ Lexus IS250 ไม่ต้องโบ ก็เร็วพอๆ 320D แล้ว Lexus ก็เลยคิดว่า แล้วไอจะต้องลงโบวให้มันยุ่งยากเพิ่มทำไม

ผมพอเข้าใจว่าทัศนคติการทำผลิตภัณฑ์ของญ๊่ปุ่นจะทำในประเทศให้ดีที่สุดก่อน นั่นก็หมายความว่า โบ อาจไม่สำคัญสำหรับการขับขี่ในญี่ปุ่น เลยไปเน้นบริดแทน รถยุ่นเลยไม่ต้องใส่โบมา เพราะเครื่อง na หรือ na hv มันเหมาะกับการใช้งานทั่วไปบนถนนญี่ปุ่นกว่าครับ

ถ้าผิดก็ขออภัยครับผมเสนอมมุมมองของผมละ  ;D
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ ตุลาคม 09, 2013, 00:46:10
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
ออปชั่นที่ว่ามานี้  ถ้าอยากได้จริง ในรถญี่ปุ่น มือ 1 ราคาไม่เกิน 2 ล้านมีให้ใน accord 2.4 tech  ครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 00:49:06
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
ออปชั่นที่ว่ามานี้  ถ้าอยากได้จริง ในรถญี่ปุ่น มือ 1 ราคาไม่เกิน 2 ล้านมีให้ใน accord 2.4 tech  ครับ อิอิ

Volvo V40 T5 S ราคาพอๆกัน น่าจะแพงกว่านิดหน่อย ไม่ถึงแสน มีเยอะกว่าเยอะเลย Turbo ด้วยครับ  ;D
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Mark_UK ที่ ตุลาคม 09, 2013, 00:55:14
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ

ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งครับ
น่าสนใจกับความคิดของเจ้าของกระทู้ครับ ผมก็เคยนั่งคิดเล่นๆ ระหว่างการทำงานของสมองซีกซ้าย(เหตุผล ตรรกะ ตัวเลข การคำนวน สิ่งต่างๆที่เป็นรูปธรรมสัมผัสและวัดได้ ผมให้คำนิยามว่าสายวิทย์) และสมองข้างขวา(อารมณ์ ความรู้สึก การจินตนาการ สิ่งต่างๆที่เป็นนามธรรม สัมผัสและวัดไม่ได้ ผมขอนิยามว่าสายศิลป์)
ผมมีเพื่อนที่มีลักษณะสายวิทย์เยอะมากๆ เขาจะสนใจและใส่ใจกับตัวเลขและตรรกะต่างๆในสมองซีกซ้ายอย่างเดียวเลย และไม่สนใจและไม่เข้าใจสายศิลป์เลย

เรื่องนาฬิกา ผมว่ามันนานาจิตตังครับ ผมก็เคยคิดเหมือนกัน ถ้าจะเจาะลึกกันจริงๆ ถ้ามองแบบสมองซีกซ้ายตรรกะอย่างเดียว งั้นสมัยนี้เราก็ไม่ต้องใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารในการปลูกข้าวโพด แล้วเอาข้าวโพดมาเลี้ยงวัว แล้วเอาวัวมาทำอาหารเป็นสเต็กกิน หรือยิ่งไปกว่านั้น ไปรีดนมจากวัว แล้วเอานมวัวมาทำชีส แล้วค่อยเอาชีสไปทำอาหารกันหรอกครับ ทำไมเราไม่กินธาตุอาหารในปุ๋ยที่ใส่ไปในการปลูกข้าวโพดเพียวๆเลยล่ะ  ถ้าจะพัฒนากันจริงจัง มันทำให้เรากินธาตุอาหารพวกนั้นตรงๆได้เหมือนกัน หรือไม่ ง่ายๆก็ทำไมไม่กินข้าวโพดและอาหารพื้นฐานที่มีสารอาหารครบๆกันล่ะครับ ก็อิ่มและมีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนกัน ก็เพราะคนเราต้องการรสชาติ ต้องการความสุขที่เกิดจากการสัมผัสทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจในที่สุด
ถ้าจะพูดไปอีกก็ ทำไมเราต้องจ่ายแพงๆเพื่อเข้าร้านอาหารหรูๆ ทั้งๆที่ร้านทั่วๆไปก็กินอิ่มเหมือนกัน (กรณีที่ว่าร้านทั่วๆไปก็บริการดี บรรยากาศดี แต่ไม่หรูหราเท่า)
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาตอบสนองความต้องการของสมองซีกขวาเราทั้งนั้นแหละครับ

อธิบายมาซะยาว ฉันใดก็ฉันนั้น การเลือกซื้อสิ่งของรวมทั้งรถยนต์ คนเราจึงมีเหตุผลไม่เหมือนกัน และมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนที่มีเหตุผลต่างกันจะไม่เข้าใจเหตุผลของกันและกัน
บางคนอาจมองแค่ตัวรถและความคุ้มค่าในตัวรถอย่างเดียว อย่างที่เจ้าของกระทู้มอง
บางคนอาจมองแค่ความสวยอย่างเดียว
บางคนอาจมองแค่เรื่องแบรนด์ ศูนย์บริการ ราคาขายต่อ
บางคนอาจมองรวมๆทุกอย่าง

อย่าลืมว่าซื้อรถ ไม่ใช่โต๊ะเก้าอี้นะครับ ซื้อมาแล้ว ต้องซ่อม ต้องมีการบำรุงรักษา และต้องอาศัยการบริการจากผู้ขาย และต้องติดต่อกันเป็นระยะเวลานานพอสมควร หลายๆคนจึงให้นำหนักความสำคัญตรงนี้เยอะพอสมควร ก็เป็นอีกเหตุผลที่ตอบคำถามเจ้าของกระทู้ได้ว่า ทำไมคนถึงซื้อรถญี่ปุ่นที่ออฟชั่นน้อยๆแต่บริการหลังการขายและชื่อชั้นแบรนด์ดี แทนที่จะซื้ออย่างอื่นที่มีออฟชันครบๆ รถดีเป็นเลิศแต่บริการหลังการขายไม่ดี ชื่อเสียเยอะ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ ตุลาคม 09, 2013, 00:57:10
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
ออปชั่นที่ว่ามานี้  ถ้าอยากได้จริง ในรถญี่ปุ่น มือ 1 ราคาไม่เกิน 2 ล้านมีให้ใน accord 2.4 tech  ครับ อิอิ

Volvo V40 T5 S ราคาพอๆกัน น่าจะแพงกว่านิดหน่อย ไม่ถึงแสน มีเยอะกว่าเยอะเลย Turbo ด้วยครับ  ;D
แหมคุณจขกทค่ะ รถก็คนละขนาดอะนะค่ะ  ได้อย่างเสียอย่างค่ะ   แต่รู้สึกv40  จะไม่มี sunroof  ใข่มั้ย5555
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ ตุลาคม 09, 2013, 01:04:16
สมัยยุคปี 80-90 น่ะฮิตมากครับ เช่น City Turbo, Starlet Turbo รถเก๋งตัวท็อปแทบทุกยี่ห้อ ติดโบหมด (ยกเว้น Corolla ที่แหวกแนวไปหา Supercharged ใน 4A-GZE) แต่ส่วนมากไม่เข้าไทยนะครับ มีเข้ามาไม่กี่รุ่น ที่พอจำได้ก็ 200SX

แต่สมัยนั้นเทคโนโลยี turbo ของญี่ปุ่น เน้นความแรงเป็นหลัก พอถึงช่วงยุค 2002 ซึ่งมีกฎระเบียบไอเสียออกมาใหม่ รถ turbo ที่ขายตอนนั้นสอบไม่ผ่านต้องเลิกขายเยอะ เช่น Silvia, RX-7 เป็นต้น (รวมไปถึงกระบะ 1 ตันด้วย เช่น Hilux) ประกอบกับคนญี่ปุ่นหลังยุคเศรษฐกิจฟองสบู่มองรถยนต์เป็นเรื่องการเดินทางมากขึ้น ไม่เน้นความสนุก ทำให้รถ turbo เหลือแต่พวกรถเฉพาะทางอย่าง Im, Evo ส่วนกระแสหลักก็เป็นพวกเครื่อง hybrid กับรถทรงกล่องไป
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 01:07:40

ขอนอกเรื่องนิดหนึ่งครับ
น่าสนใจกับความคิดของเจ้าของกระทู้ครับ ผมก็เคยนั่งคิดเล่นๆ ระหว่างการทำงานของสมองซีกซ้าย(เหตุผล ตรรกะ ตัวเลข การคำนวน สิ่งต่างๆที่เป็นรูปธรรมสัมผัสและวัดได้ ผมให้คำนิยามว่าสายวิทย์) และสมองข้างขวา(อารมณ์ ความรู้สึก การจินตนาการ สิ่งต่างๆที่เป็นนามธรรม สัมผัสและวัดไม่ได้ ผมขอนิยามว่าสายศิลป์)
ผมมีเพื่อนที่มีลักษณะสายวิทย์เยอะมากๆ เขาจะสนใจและใส่ใจกับตัวเลขและตรรกะต่างๆในสมองซีกซ้ายอย่างเดียวเลย และไม่สนใจและไม่เข้าใจสายศิลป์เลย

เรื่องนาฬิกา ผมว่ามันนานาจิตตังครับ ผมก็เคยคิดเหมือนกัน ถ้าจะเจาะลึกกันจริงๆ ถ้ามองแบบสมองซีกซ้ายตรรกะอย่างเดียว งั้นสมัยนี้เราก็ไม่ต้องใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารในการปลูกข้าวโพด แล้วเอาข้าวโพดมาเลี้ยงวัว แล้วเอาวัวมาทำอาหารเป็นสเต็กกิน หรือยิ่งไปกว่านั้น ไปรีดนมจากวัว แล้วเอานมวัวมาทำชีส แล้วค่อยเอาชีสไปทำอาหารกันหรอกครับ ทำไมเราไม่กินธาตุอาหารในปุ๋ยที่ใส่ไปในการปลูกข้าวโพดเพียวๆเลยล่ะ  ถ้าจะพัฒนากันจริงจัง มันทำให้เรากินธาตุอาหารพวกนั้นตรงๆได้เหมือนกัน หรือไม่ ง่ายๆก็ทำไมไม่กินข้าวโพดและอาหารพื้นฐานที่มีสารอาหารครบๆกันล่ะครับ ก็อิ่มและมีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนกัน ก็เพราะคนเราต้องการรสชาติ ต้องการความสุขที่เกิดจากการสัมผัสทั้ง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจในที่สุด
ถ้าจะพูดไปอีกก็ ทำไมเราต้องจ่ายแพงๆเพื่อเข้าร้านอาหารหรูๆ ทั้งๆที่ร้านทั่วๆไปก็กินอิ่มเหมือนกัน (กรณีที่ว่าร้านทั่วๆไปก็บริการดี บรรยากาศดี แต่ไม่หรูหราเท่า)
สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาตอบสนองความต้องการของสมองซีกขวาเราทั้งนั้นแหละครับ

อธิบายมาซะยาว ฉันใดก็ฉันนั้น การเลือกซื้อสิ่งของรวมทั้งรถยนต์ คนเราจึงมีเหตุผลไม่เหมือนกัน และมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนที่มีเหตุผลต่างกันจะไม่เข้าใจเหตุผลของกันและกัน
บางคนอาจมองแค่ตัวรถและความคุ้มค่าในตัวรถอย่างเดียว อย่างที่เจ้าของกระทู้มอง
บางคนอาจมองแค่ความสวยอย่างเดียว
บางคนอาจมองแค่เรื่องแบรนด์ ศูนย์บริการ ราคาขายต่อ
บางคนอาจมองรวมๆทุกอย่าง

อย่าลืมว่าซื้อรถ ไม่ใช่โต๊ะเก้าอี้นะครับ ซื้อมาแล้ว ต้องซ่อม ต้องมีการบำรุงรักษา และต้องอาศัยการบริการจากผู้ขาย และต้องติดต่อกันเป็นระยะเวลานานพอสมควร หลายๆคนจึงให้นำหนักความสำคัญตรงนี้เยอะพอสมควร ก็เป็นอีกเหตุผลที่ตอบคำถามเจ้าของกระทู้ได้ว่า ทำไมคนถึงซื้อรถญี่ปุ่นที่ออฟชั่นน้อยๆแต่บริการหลังการขายและชื่อชั้นแบรนด์ดี แทนที่จะซื้ออย่างอื่นที่มีออฟชันครบๆ รถดีเป็นเลิศแต่บริการหลังการขายไม่ดี ชื่อเสียเยอะ

ปุ่มกด Like อยู่ไหนเนี่ยยยยย Like เลย ชอบคำตอบนี้ มันเป็นคำตอบที่พอจะเข้าใจได้เรื่องความเป็บมนุษย์ครับ คิดอีกด้าน พวกสายศิลป์นี่ ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ค่อยยน่าคบเนอะ ท่าจะเปลือง อิอิ ล้อเล่นนะครับ  :P
ส่วนเรื่องอาหารที่ท่านว่ามา เป็นความคิดที่ดีนะครับ ผมว่าถ้าทำมาจริงก็น่าจะขายดีนะ ผมคนนึงล่ะที่ซื้อ แต่...ก็ต้องทำมาให้อร่อยนะครับ อิอิ

สมัยยุคปี 80-90 น่ะฮิตมากครับ เช่น City Turbo, Starlet Turbo รถเก๋งตัวท็อปแทบทุกยี่ห้อ ติดโบหมด (ยกเว้น Corolla ที่แหวกแนวไปหา Supercharged ใน 4A-GZE) แต่ส่วนมากไม่เข้าไทยนะครับ มีเข้ามาไม่กี่รุ่น ที่พอจำได้ก็ 200SX

แต่สมัยนั้นเทคโนโลยี turbo ของญี่ปุ่น เน้นความแรงเป็นหลัก พอถึงช่วงยุค 2002 ซึ่งมีกฎระเบียบไอเสียออกมาใหม่ รถ turbo ที่ขายตอนนั้นสอบไม่ผ่านต้องเลิกขายเยอะ เช่น Silvia, RX-7 เป็นต้น (รวมไปถึงกระบะ 1 ตันด้วย เช่น Hilux) ประกอบกับคนญี่ปุ่นหลังยุคเศรษฐกิจฟองสบู่มองรถยนต์เป็นเรื่องการเดินทางมากขึ้น ไม่เน้นความสนุก ทำให้รถ turbo เหลือแต่พวกรถเฉพาะทางอย่าง Im, Evo ส่วนกระแสหลักก็เป็นพวกเครื่อง hybrid กับรถทรงกล่องไป

นี่สิคำตอบของคำถามของจริง ขอบคุณมากๆครับ เข้าใจละครับ กดไลค์เบยยยยย อิอิ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ ตุลาคม 09, 2013, 01:07:56
ค่ายยุโรปที่บอกเค้าเป็นตลาด พรีเมี่ยมอะครับ เทคโนโลยีมีอะไรใส่มาก่อนเพราะต้นทุนสูงกว่า ส่วนตลาด Mass ก็คงต้องรอก่อน

ซึ่งก็ไม่นานแล้วเพราะ FordEcoboost ก็กำลังจะมาแล้วครับ 7 แสนกว่าๆ 1.0 ติด Turbo ก็จะมาดูกันว่าจะขายได้ไหม

ถ้าขายดีเหมือน Ford เมืองนอก ค่ายญี่ปุ่นก็คงจะทำบ้างแหละ แต่ผมว่ายาก เพราะ คนไทยยังใช้ CC มาจำกัดประเภทรถอยู่เลย :-\

คงต้องทำให้ความเชื่อเรื่อง CC หมดไปก่อนครับ

"เฟียสต้าอะไรเครื่อง 1.0 จะวิ่งออกไหมเนี่ย" "1.0 ทำไมแพงกว่า1.6อีก ขายได้ไง บ้าเปล่า" "เทอโบอะไรทำไรได้ เอามาทำไม" คำถามประมาณนี้เซลคงจะต้องเป็นผู้ตอบคำถามต่อไป
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 01:11:38
ค่ายยุโรปที่บอกเค้าเป็นตลาด พรีเมี่ยมอะครับ เทคโนโลยีมีอะไรใส่มาก่อนเพราะต้นทุนสูงกว่า ส่วนตลาด Mass ก็คงต้องรอก่อน

ซึ่งก็ไม่นานแล้วเพราะ FordEcoboost ก็กำลังจะมาแล้วครับ 7 แสนกว่าๆ 1.0 ติด Turbo ก็จะมาดูกันว่าจะขายได้ไหม

ถ้าขายดีเหมือน Ford เมืองนอก ค่ายญี่ปุ่นก็คงจะทำบ้างแหละ แต่ผมว่ายาก เพราะ คนไทยยังใช้ CC มาจำกัดประเภทรถอยู่เลย :-\

คงต้องทำให้ความเชื่อเรื่อง CC หมดไปก่อนครับ

"เฟียสต้าอะไรเครื่อง 1.0 จะวิ่งออกไหมเนี่ย" "1.0 ทำไมแพงกว่า1.6อีก ขายได้ไง บ้าเปล่า" "เทอโบอะไรทำไรได้ เอามาทำไม" คำถามประมาณนี้เซลคงจะต้องเป็นผู้ตอบคำถามต่อไป

ถ้าไม่ติดเรื่องผมจะต้องมีรถได้คันเดียวนะ(ก็มีโอกาสจะซื้อได้ไม่บ่อยนัก เอาทั้งทีต้องเอาให้ดีจริง) ผมคงจะรอสอยเฟียส์ต้าคันนี้แหละครับ ติดแต่คันมันเล็กไปนิสนึง
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: NoomTG ที่ ตุลาคม 09, 2013, 01:14:20
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
ออปชั่นที่ว่ามานี้  ถ้าอยากได้จริง ในรถญี่ปุ่น มือ 1 ราคาไม่เกิน 2 ล้านมีให้ใน accord 2.4 tech  ครับ อิอิ

Volvo V40 T5 S ราคาพอๆกัน น่าจะแพงกว่านิดหน่อย ไม่ถึงแสน มีเยอะกว่าเยอะเลย Turbo ด้วยครับ  ;D
แหมคุณจขกทค่ะ รถก็คนละขนาดอะนะค่ะ  ได้อย่างเสียอย่างค่ะ   แต่รู้สึกv40  จะไม่มี sunroof  ใข่มั้ย5555

ขอเสริมอีกอย่างครับ ราคาขายต่อ ตกอวบจนแทบอยากจะร้องครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ ตุลาคม 09, 2013, 01:17:25
ที่ผมถามๆท่านทั้งหลายมานี้ เหตุผลเดียวก็คือผมอยากจะซื้อรถที่คุ้มค่ากับเงินตราของผมที่เสียไปให้มากที่สุดน่ะครับ

ผมเป็นคนที่ไม่แคร์นะว่าของจะราคาเท่าไหร่(ถ้าอยู่ในงบประมาณ) แต่แคร์ว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม ซึ่งปัจจุยก็คือ

1. ปริมาณของที่ให้มา นับว่ากันเป็นจำนวนอย่างเลยเอามาเทียบกันเลย
2. คุณภาพของของที่ให้มา ไม่ใช่ให้เยอะแต่ของแย่ๆทั้งนั้น อันนี้ไม่เอา
3. ความสามารถของของที่ให้มา ว่ามันทำอะไรได้บ้าง

สังเกตุว่าผมไม่เอาปัจจัยเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ความสวยมาคิดเลย(ความสวยนี้มาสุดท้าย แต่อาจจะแอบมีคิดบ้าง) เพราะผมเป็นประเภท Logic คอมพิวเตอร์ อิอิ ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่เคยซื้อนาฬิกาข้อมือแบบเข็มเลย เพราะผมไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร หรือทำอะไรได้บ้าง ตรงกันข้าม นาฬิกาดิจิตอลทำได้แทบจะทุกอย่าง (ความสวย ความหรูไม่ใช่ประโยชน์ อาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ) เป็นตัน

ที่ผมเพราะผมอยากรู้ว่าในรถที่ราคาเท่าๆกัน(ย้ำว่าเท่าๆกัน) ทำไมคนๆนึงถึงไปซื้อรถญี่ปุ่นที่ไม่มี Turbo ไม่มี Lane assist ไม่มี BLIS ไม่มี Active Parking Assist ไม่มี Adaptive Cruse Control และอีกหลายๆอย่างที่เขาเรียกกันว่า "เครื่องอำนวยความสะดวก(หรือขี้เกียจนั่นเอง อิอิ)" เอาไว้อำนวยความสะดวก (ไม่ใช่พวกระบบควบคุมสเถียรภาพทั้งหลายนะครับ อันนั้นเขามีกันทุกรุ่น) แน่นอนว่าหลายๆคนอาจจะบอกว่า"ก็มันค่อยไม่ได้ใช้" แต่ผมมองว่าเขาตัดมันออกไปก็แปลว่าต้นทุนมันต้องน้อยลง แล้วมาขายในราคาที่เท่ากันได้ยังไง? มันจะคุ้มค่าเหรอ? ถ้าตัดออก แล้วลดราคา อันนี้เข้าใจได แต่... ราคาใกล้กันเลย อันนี้ไม่เข้าใจครับ
ออปชั่นที่ว่ามานี้  ถ้าอยากได้จริง ในรถญี่ปุ่น มือ 1 ราคาไม่เกิน 2 ล้านมีให้ใน accord 2.4 tech  ครับ อิอิ

Volvo V40 T5 S ราคาพอๆกัน น่าจะแพงกว่านิดหน่อย ไม่ถึงแสน มีเยอะกว่าเยอะเลย Turbo ด้วยครับ  ;D
แหมคุณจขกทค่ะ รถก็คนละขนาดอะนะค่ะ  ได้อย่างเสียอย่างค่ะ   แต่รู้สึกv40  จะไม่มี sunroof  ใข่มั้ย5555

ขอเสริมอีกอย่างครับ ราคาขายต่อ ตกอวบจนแทบอยากจะร้องครับ
อ่วมพอกันอะคับ บอกเลย แต่ Volvo อ่วมกว่าหน่อยนึง :-\
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Stroke8 ที่ ตุลาคม 09, 2013, 01:20:24
ทำไม Mercedes Benz E63 AMG (ปี 2009) ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม Volkswagen Golf R32 ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม BMW 330i E90 ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม Volvo XC90 3.2 ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม Peugeot 208 VTi ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม Volkswagen up! ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ?
ทำไม Audi S4 ถึงไม่มีเทอร์โบมาให้ครับ? อ๋อ ใช่ มันมีซุปเปอร์ชาจเจอร์มาให้ ของที่ทำให้รถเปลืองน้ำมันกว่าปกติ เล่นๆ
W114 ของผมก็ไม่มีเทอร์โบเหมือนกัน อืดชิบหาย

รถยุโรปพวกนี้ไม่มีเทอร์โบมาให้ซักคันครับ แต่ทุกคันก็ยังเป็นรถที่ดีอยู่นะครับ

ปัญหาหนึ่งของรถเทอร์โบคือ สุดท้ายแล้ว พอคุณเหยียบใช้แรงม้าที่มีให้เมื่อไหร่ มันก็ไม่ได้ประหยัดเสียเท่าไหร่เลยครับ เปลืองกว่ารถเครื่องใหญ่ในบางกรณี และส่วนมากจะเปลืองกว่าค่าที่บริษัทรถแต่ละแห่งอ้างไว้ สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ ... เทอร์โบไม่ใช่สิ่งที่จะเอามานับว่ารถคันไหนมันจะดีกว่ารถคันไหนครับ เทอร์โบมันก็แค่อุปกรณ์อย่างหนึ่งซึ่งบริษัทรถเอามาเสริมกลบบางสิ่งบางอย่างที่ตนไม่มีไว้ อย่าไปยึดติดกับมันมาก ไฮบริดก็เหมือนกันครับ จุดประสงค์เดียวกัน แต่ว่าเจ๋งไม่เท่ากับเทอร์โบ เท่านั้นเอง ;D
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ ตุลาคม 09, 2013, 02:16:54
งั้นขอถามก่อนว่า Turboดียังไง
และรถไม่มีTurboไม่ดียังไง

เคยขับรถ167ม้า 2300ccเทียบกับ170ม้า1800ccมีเทอโบมั้ย
และเคยขับ150ม้าเครื่อง1800บนตัวถัง1200กิโลมั้ย

เข้าใจเรื่องกราฟแรงม้าแรงบิดรูปพาวเวอแบนและเข้าใจว่ามันส่งผลอย่างไรกับการตอบสนองการขับขี่

ลองหาประวัติของรถยุคต่างๆของญี่ปุ่นและยุโรปเทียบกับราคาค่าน้ำมันและกฏหมายมลภาวะกันดู
และสุดท้ายลองไปหารถแบบต่างๆขับดูก่อนที่จะตัดสินจากค่าในกระดาษ

โดยส่วนตัวผมขอเครื่องใหญ่ ดีกว่าเทอโบครับ
และพบว่าเส้นทางและนิสัยการขับของผมขับเทอโบไม่ประหยัดกว่า
เครื่องnaดูแลง่ายกว่าสึกหรอน้อยกว่าในระยะยาวด้วย

ลองหาอ่านดูดีๆนะครับว่าสรุปแล้วเครืีองเล็กอัดเทอโบนี่ประหยัดกว่าจริงหรือช่วยแค่มลภาวะ?
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 02:20:40
งั้นขอถามก่อนว่า Turboดียังไง
และรถไม่มีTurboไม่ดียังไง

เคยขับรถ167ม้า 2300ccเทียบกับ170ม้า1800ccมีเทอโบมั้ย
และเคยขับ150ม้าเครื่อง1800บนตัวถัง1200กิโลมั้ย

เข้าใจเรื่องกราฟแรงม้าแรงบิดรูปพาวเวอแบนและเข้าใจว่ามันส่งผลอย่างไรกับการตอบสนองการขับขี่

ลองหาประวัติของรถยุคต่างๆของญี่ปุ่นและยุโรปเทียบกับราคาค่าน้ำมันและกฏหมายมลภาวะกันดู
และสุดท้ายลองไปหารถแบบต่างๆขับดูก่อนที่จะตัดสินจากค่าในกระดาษ

โดยส่วนตัวผมขอเครื่องใหญ่ ดีกว่าเทอโบครับ
และพบว่าเส้นทางและนิสัยการขับของผมขับเทอโบไม่ประหยัดกว่า
เครื่องnaดูแลง่ายกว่าสึกหรอน้อยกว่าในระยะยาวด้วย

ลองหาอ่านดูดีๆนะครับว่าสรุปแล้วเครืีองเล็กอัดเทอโบนี่ประหยัดกว่าจริงหรือช่วยแค่มลภาวะ?


ก็ไม่เคยไงครับถึงได้ถาม ถ้าเคยแล้วจะถามทำไมครับ หาทางเน็ทกับอ่านในกระดาษมันก็ไม่เคยเหมือนกันครับผม ดังนั้นถ้าคุณรู้ก็โปรดช่วยชี้แนะด้วยครับ ไม่น่าจะมาถามย้อนกันนะครับ  ;) ;D
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ ตุลาคม 09, 2013, 02:43:27
ถ้าคุณอยากได้คำตอบตรงๆของคำถามว่าทำไมรุญี่ปุ่นไม่ใส่turbo

คำตอบคือ เพราะไม่จำเป็น

แต่ถ้าอยากรู้ว่าทำไมมันถึงไม่จำเป็น

ก็ลองหาข้อมูลด้านที่ผมบอกไปครับว่า
ข้อดีข้อเสียของรถna/turbo/hybrid/supercharge/rotaryต่างกันอย่างไร

แล้วถ้าอยากหาว่าอะไรเหมาะกับคุณ
คงต้องไปลองเองเพราะไม่มีใครรู้หรือตอบได้ว่าคุณจะชอบแบบไหน

ข้อมูลรีวิวของเวปนี้ก็มีให้เทียบเยอะแล้วครับ
รถบางรุ่นมีทดสอบหลายเครื่องบนตัวถังเดียวกันเปรียบเทียบให้ดู
มีเทียบในรถขนาดเท่าๆกันรุ่นอื่นๆด้วตัวเลขบางอันแย้งกับความเชื่อก็มี
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Mongrun ที่ ตุลาคม 09, 2013, 03:54:51
ท่าน Ty ESC ตอบถูกใจผมนะ
เพราะเรื่องอย่างงี้มันเปนเรื่องของอารมณ์การขับขี่ด้วย
บางคนว่าturboมันกว่า บางคนก้อชอบna
เพราะฉะนั้นมันต้องมีสินค้ามารองรับกลุ่มลูกค้านั้นๆ
จขกท อาจอยู่ในกลุ่มชอบ turbo ก้อไปตามนั้นเลยครับ

แนวทางพัฒนารถแต่ละบริษัทมันไม่เหมือนกัน
โบกับไม่โบมันมีข้อดีข้อเสียของมัน อยากรู้ก้อศึกษาจริงจังเลยครับ
ฟังแต่คนอื่นพูดเราก้อไม่รู้ว่าเค้ามั่วรึป่าว
ไม่ลองไม่รู้  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Mongrun ที่ ตุลาคม 09, 2013, 04:01:21
อ้ออีกอย่าง การพัฒนาเครื่องยนต์ na ให้มีสมรรถนะเทียบเท่า turbo
ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลพอๆกับturbo อะแหละ
เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าใช้รถ na มันจะไม่คุ้ม หรือว่าขาดทุนนะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 04:03:48
ท่าน Ty ESC ตอบถูกใจผมนะ
เพราะเรื่องอย่างงี้มันเปนเรื่องของอารมณ์การขับขี่ด้วย
บางคนว่าturboมันกว่า บางคนก้อชอบna
เพราะฉะนั้นมันต้องมีสินค้ามารองรับกลุ่มลูกค้านั้นๆ
จขกท อาจอยู่ในกลุ่มชอบ turbo ก้อไปตามนั้นเลยครับ

แนวทางพัฒนารถแต่ละบริษัทมันไม่เหมือนกัน
โบกับไม่โบมันมีข้อดีข้อเสียของมัน อยากรู้ก้อศึกษาจริงจังเลยครับ
ฟังแต่คนอื่นพูดเราก้อไม่รู้ว่าเค้ามั่วรึป่าว
ไม่ลองไม่รู้  ;D ;D ;D


คือ...ผมไม่ได้บอกว่าชอบ Turbo ครับ เพราะผมไม่เคยขับครับ แต่ผมพูดถึงเรื่องของความคุ้มค่าครับ ขอให้เข้าใจในประเด็ดนี้นะครับผม

ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันนั้น 320d E90 16.44 km/l 320d F30 20.68 km/l ไม่ใช่ Hybrid อืม.... ตัวเลขนี้ไม่ประหยัดเหรอครับ ผมยังไม่เห็นรถ NA ที่แรงพอกันที่ไม่ใช่ Hybrid คันไหนประหยัดเท่านี้เลยครับผม หรือมีแล้วผมไม่รู้ ช่วยบอกหน่อยครับผม
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Mongrun ที่ ตุลาคม 09, 2013, 04:59:45
"ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?" นี่คือคำตอบที่ผมตอบคำถาม จขกท ผมก้อบอกอยู่ว่า

เพราะเรื่องอย่างงี้มันเปนเรื่องของอารมณ์การขับขี่ด้วย
บางคนว่าturboมันกว่า บางคนก้อชอบna
เพราะฉะนั้นมันต้องมีสินค้ามารองรับกลุ่มลูกค้านั้นๆ

แล้วก้อ

อ้ออีกอย่าง การพัฒนาเครื่องยนต์ na ให้มีสมรรถนะเทียบเท่า turbo
ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลพอๆกับturbo อะแหละ
เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าใช้รถ na มันจะไม่คุ้ม หรือว่าขาดทุนนะครับ

เพราะงั้นจึงขอถามความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน จขกท ว่า ทำไมถึงคิดว่ารถไม่มี turbo ไม่คุ้มละครับ
อันนี้เปล่าถามย้อนนะครับ ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นความรู้ เผื่อผมพลาดอะไรไป
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 05:06:41
"ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?" นี่คือคำตอบที่ผมตอบคำถาม จขกท ผมก้อบอกอยู่ว่า

เพราะเรื่องอย่างงี้มันเปนเรื่องของอารมณ์การขับขี่ด้วย
บางคนว่าturboมันกว่า บางคนก้อชอบna
เพราะฉะนั้นมันต้องมีสินค้ามารองรับกลุ่มลูกค้านั้นๆ

แล้วก้อ

อ้ออีกอย่าง การพัฒนาเครื่องยนต์ na ให้มีสมรรถนะเทียบเท่า turbo
ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลพอๆกับturbo อะแหละ
เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าใช้รถ na มันจะไม่คุ้ม หรือว่าขาดทุนนะครับ

เพราะงั้นจึงขอถามความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน จขกท ว่า ทำไมถึงคิดว่ารถไม่มี turbo ไม่คุ้มละครับ
อันนี้เปล่าถามย้อนนะครับ ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นความรู้ เผื่อผมพลาดอะไรไป

ก็ 1 อย่าง 10 บาท กับ 2 อย่าง 10 บาท อันไหนมันน่าจะดูคุ้มกว่ากันล่ะครับ เราจะไม่ถกกันละว่า 1 อย่างวัสดุมันอาจจะดีกว่าก็ได้ เพราะ ณ ที่นี้มันไม่ใช่แน่ๆ
แล้วก็ผมเห็น Solution ของทางฝั่งยุโรปหรือเมกาที่จะประหยัดน้ำมันก็จะใช้วิธีลดความใหญ่ของกระบอกสูบแล้วใส่ Turbo หรือแม้แต่จะเป็น Turbo + Hybrid เข้าไปทั้งนั้น แล้วผลมันก็ออกมาน่าพอใจทีเดียว

ผมว่าผมคิดง่ายๆพื้นๆนะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: jumpon77 ที่ ตุลาคม 09, 2013, 07:34:03
ตอบเลยครับมันมีครับเครีองเทอร์โบมาปลายยุค70เท่าทีผมรู้มาก็มีมิชูบิชิ กาแลนท์ ชิกม่าเครีอง2.0เทอร์โบครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: nudragon ที่ ตุลาคม 09, 2013, 07:40:20
ทำรถออกมากลางๆ ขายคนกลางๆ ที่ตลาดกลางๆ  ;D
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ตุลาคม 09, 2013, 07:49:34
อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

ย้อนไป 40 กว่าปีก่อนน่าจะได้มั้ง
เข้าใจว่า รถที่ญี่ปุ่น แต่ก่อน ก็โบกันกระจายครับ สำหรับ รถแนว รถแข่ง พวก Subaru EVO รถใหญ่
Turbo ลูกควายๆ ที่ถูกใส่เข้าไป ก็เพื่อเพิ่ม แรงม้า และ ความแรงในตัวรถครับ ถูกติดตั้งในรถ แนวรถแข่ง
ใครก็รู้ รถ tirbo ควาย แดกน้ำมันแค่ไหน แล้ว น้ำมันญี่ปุ่นแพง ๆ ทั้งนั้น
แต่มันมีจุดเปลี่ยน ตรงที่ ญี่ปุ่น เริ่มควบคุม แรงม้า และ อัตราความประหยัด คนแทบไม่ใช้รถใหญ่ ๆ แรงๆ กัน
คนญี่ปุ่น ยุคใหม่ ไม่จำเป็นต้องใช้รถใหญ่ ๆ ควายๆ รถขายดีแค่รถเล็ก ๆ  NA มันตอบโจทน์ได้ เพียงพอ
ซึ่ง Turbo มันไม่จำเป็นสำหรับ คนญี่ปุ่นเลย
ค่ายรถ ญี่ปุ่น ทำตลาด เพื่อทำกำไรครับ NA มันก็ขายได้ มันจะใส่ไปทำไม
เหมือน Toyota นั่นหลาะ
แข่งกันติด Turbo ในกะบะ เพราะ เมิงก็ติด กูก็ติด ติดแล้วเครื่องเล็กลงประหยัดได้
แต่ เก๋ง ตลาด ทั่วไป ไม่ได้ใส่มา เมิงไม่ใส่กูก็ไม่ใส่

แต่ Turbo เพื่อความประหยัด มันมาเริ่มแถวๆ รถ กะบะ บ้านเรานี่เหลาะครับ
ลูกเล็ก ๆ ต้นมาไว ช่วยเรื่องแรงบิดโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องใหญ่ๆ

แต่ ฝรั่ง เปลี่ยนความคิดจาก Turbo เพือแรงอย่างเดียว เป็นเริ่มมาเป็นประหยัดและเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มเทคโนโลยี
ญี่ปุ่น บอกกูไม่สน รถคนละตลาด กูแข่งกันแค่พวกกู  เก๋งญี่ปุ่นไม่ติด กูก็ไม่ติด ทำไฮบริดประหยัดกว่าอีก ทำไฮบริดดีกว่า

ไปลอง เหยียบ ดีเซล Turbo เต็มๆ โครตแดกน้ำมัน เลยครับ คนละเรื่องกับขับ 80-100 เลย
 
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: onbit40 ที่ ตุลาคม 09, 2013, 08:13:26
การตลาดน่ะผมว่า บ้านเรามีภาษี 220 ม้า ถ้าเครื่อง 2.0 อัดโบเข้าไปก็แรงเกินพิกัดอีก

 บ ญี่ปุ่นก็มองออกแล้วว่า จะต้องหารถมาขายยังไง

ในเมื่อในไทย ตลาด mass production เน้นอยู่ที่รถญี่ปุ่น ซ่อมถูก ซ่อมง่าย ไม่จุกจิก ตรงนี้ ทางฝั่งญี่ปุ่นคงไม่อยากเปลียนอะไรแล้ว และคงทำอย่างนี้ต่อไปจนกว่า ส่วนแบ่งการตลาดจะตกไปอยู่ฝาก ยุโรป

พวกยุโรปมาขายรถในบ้านเรา ถ้าจะขายได้ก็ต้องงัดไม้ตายมาใช้  ;D
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: keamglad ที่ ตุลาคม 09, 2013, 08:17:10
คหสต นะครับ
ผมว่าที่รถญี่ปุ่นใช้ n/a กันเพราะเรื่องราคาและความจุกจิกครับ คือถ้าใส่หอยเข้าไปราคามันจะโดดไปเทียบชั้นรถสปอรต์ หรูๆ ของยุโรป ซึ่งคนส่วนใหญ่ถ้ารถระดับเดียวกัน อาจจะมองภาษีรถยุโรปดีกว่า


ส่วนความชอบ ผมชอบเทอโบ นะ ส่วนตัวจริงๆไม่ค่อยชอบรถ N/a ไม่ค่อยชอบลากรอบ มันเหนื่อย บางทีงเสียงเครื่องมันลากรอบแล้วเราเหนื่อยไปกะมัน
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: gresailda ที่ ตุลาคม 09, 2013, 09:23:01
"ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?" นี่คือคำตอบที่ผมตอบคำถาม จขกท ผมก้อบอกอยู่ว่า

เพราะเรื่องอย่างงี้มันเปนเรื่องของอารมณ์การขับขี่ด้วย
บางคนว่าturboมันกว่า บางคนก้อชอบna
เพราะฉะนั้นมันต้องมีสินค้ามารองรับกลุ่มลูกค้านั้นๆ

แล้วก้อ

อ้ออีกอย่าง การพัฒนาเครื่องยนต์ na ให้มีสมรรถนะเทียบเท่า turbo
ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลพอๆกับturbo อะแหละ
เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าใช้รถ na มันจะไม่คุ้ม หรือว่าขาดทุนนะครับ

เพราะงั้นจึงขอถามความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน จขกท ว่า ทำไมถึงคิดว่ารถไม่มี turbo ไม่คุ้มละครับ
อันนี้เปล่าถามย้อนนะครับ ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นความรู้ เผื่อผมพลาดอะไรไป

ก็ 1 อย่าง 10 บาท กับ 2 อย่าง 10 บาท อันไหนมันน่าจะดูคุ้มกว่ากันล่ะครับ เราจะไม่ถกกันละว่า 1 อย่างวัสดุมันอาจจะดีกว่าก็ได้ เพราะ ณ ที่นี้มันไม่ใช่แน่ๆ
แล้วก็ผมเห็น Solution ของทางฝั่งยุโรปหรือเมกาที่จะประหยัดน้ำมันก็จะใช้วิธีลดความใหญ่ของกระบอกสูบแล้วใส่ Turbo หรือแม้แต่จะเป็น Turbo + Hybrid เข้าไปทั้งนั้น แล้วผลมันก็ออกมาน่าพอใจทีเดียว

ผมว่าผมคิดง่ายๆพื้นๆนะครับ

การที่คุณคิดว่า 1 อย่าง 10 บาท กับ 2 อย่าง 10 บาท อันไหนมันดูคุ้มกว่านั้น
ผมอยากให้ลองมองว่ามันเป็นขนมถุึง ซึ่ง 1 อย่าง 10 บาท คุณจะได้รถที่ CC ใหญ่กว่า (ขนมห่อใหญ่)
ส่วน 2 อย่าง 10 บาท นั้นคุณจะได้รถที่ CC เล็กกว่าแต่มี เทอร์โบ (ขนมห่อเล็ก+ของเล่น)
ซึ่งทั้ง 2 กรณีนั้น มีจุดประสงค์การซื้อที่ไม่เหมือนกันครับ

แล้วอีกอย่างการที่จะทำให้เครื่องNA มีแรงม้าที่สูงหรือมีความประหยัดน้ำมันดีนั้นต้องใช้เทคโนโลยีหรือกรรมวิธีการผลิตที่ถูกคิดค้นขึ้นมามากเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ว่าบริษัทจงใจที่จะขายแต่ของเดิมๆ ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบชิ้นส่วนต่างๆ
การลดการฝืดเคืองในระบบ การลดภาระ(โหลด)ต่างๆที่กระทำต่อเครื่องยนต์ เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดว่าคุณภาพจะเหมือนกันเชียว และในทางกลับกันการลดขนาดเครื่องและใส่เทอร์โบนั้นก็มีค่าต้นทุนของการใส่เทอร์โบและเทคโนโลยีอื่นๆเข้าไปเหมือนกันครับ

ส่วนเรื่องความแรงนั้นถ้าคุณเทียบรถที่แรงม้าเท่ากัน คุณจะเห็นว่าเครื่องNAจะมีขนาดใหญ่กว่าเครื่องเทอร์โบ อย่างที่ผมยกตัวอย่างขั้นต้น แล้วถ้าถามว่าเครื่องNAที่มีขนาดใหญ่กว่าต้องกินน้ำมันกว่าเครื่องเล็ก+เทอร์โบเสมอไปหรือไม่นั้นผมอขอยกตัวอย่างในอเมริกาจาก EPA(Enviroment Protection Agency)
- Ford Fusion 1.6L Ecoboost 178bhp 249Nm (ขนมห่อเล็ก+ของเล่น) มีตัวเลขการกินน้ำมัน ในเมือง 10.2 ก.ม./ลิตร, นอกเมือง 15.7 ก.ม./ลิตร, เฉลี่ยรวม 11.9 ก.ม./ลิตร
- Mazda 6 2.5L Skyactiv 185bhp 250Nm (ขนมห่อใหญ่) มีตัวเลขการกินน้ำมัน ในเมือง 11.0 ก.ม./ลิตร, นอกเมือง 16.1 ก.ม./ลิตร, เฉลี่ยรวม 12.7 ก.ม./ลิตร
ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าเครื่องใหญ่ ไม่จำเป็นต้องเปลืองกว่าเสมอไปครับ และอีกอย่างคือเครื่อง NA มักให้ค่าความประหยัดน้ำมันต่างจากผลที่ทดสอบแบบนี้น้อยกว่าเครื่องเทอร์โบด้วยครับ

ส่วนเครื่องดีเซลในหัวข้อนี้ต้องยกประโยชน์ให้ เพราะยังไงเครื่องดีเซลทุกเครื่องที่ออกจากโรงงานตอนนี้ต้องติดเทอร์โบด้วยเหตุผลด้านการปล่อยมลพิษครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ ตุลาคม 09, 2013, 09:51:48
เริ่มจากอดีตก่อนนะครับ 40กว่าปีที่แล้ว ยุโรปและญี่ปุ่นผลิตรถเทอโบมาขายแล้ว แต่สมัยก่อนใส่turboเพื่อความแรง พอยุค70น้ำมันราคาขึ้นคนเลยเอาturboออกเพื่อ

เน้นประหยัดน้ำมัน พี่jumpon77 เสนอgalant ซิกม่า เทอโบไปแล้ว ฝั่งยุโรปก็มี bmw รุ่น 2002 turbo เหมือนกันนะ แอบแรงด้วยอยู่ในยุคเดียวกัน

พอมายุคนี้ บ้านเรามีกำแพงภาษีรถน้ำเข้าคิดจาก CC.ของเครื่องและแรงม้า บ้านเราเลยเอารถยุโรปเครื่องเล็ก+เทอโบ มาเพื่อลดภาษีการน้ำเข้า แต่รถญี่ปุ่นส่วนใหญ่

ประกอบในประเทศ หรือนำเข้าจากเพื่อนบ้าน หรือเอามาจากญี่ปุ่นแต่ลดภาษีในช่วงน้ำท่วม ภา๊ษีที่คิดมันถูกกว่าการนำเข้าจากยุโรป

เลยไม่่จำเป็นต้องเอารถเทอโบมาขายเพื่อลดราคาภาษี แล้วส่วนที่ จขกท. เอารถV40 ไปเทียบกับ D-Segmentญี่ปุ่นว่าราคามันใกล้กันแต่ออพชั่นมันต่างกัน

ก็เพราะ D-Segment รถมันใหญ่กว่า และ Volvoยอดขายไม่ได้ดีเหมือนรถญี่ปุ่น

ถ้าทำตลาดแบบออพชั่นเท่ากันใครจะซื้อVolvoหละครับ มันก็เหมือนที่ Ford Fiestaอัดออพชั่นเยอะเพื่อกระตุ้นยอดขายแข่งกันรถญี่ปุ่นนั่นแหละครับ

แล้วค่าบำรุงรักษารถTurbo กับ N/A พอถึงเวลาซ่อมใหญ่ ราคาค่าซ่อมรถเทอโบมันแพงกว่ารถN/A ลองเทอโบเสียโดนไปเป็นหมื่น

เหตุผลของคนที่ซื้อรถญี่ปุ่นทั่วไปคือมาใช้แล้วประหยัด+ซ่อมง่าย ประมาณ5-7ปีที่แล้วหละมั้ง (ตัวเลขไม่ชัว) วีออสมีรุ่นเทอโบด้วย แต่ก็ไม่เห็นคนจะสนใจกันเท่าไหร่

มีแต่วัยรุ่นที่ซื้อไปใช้ัขับเล่นเพื่อความสนุก ผู้หญิงหรือคนมีอายุหน่อยเค้าไม่ได้อยากรถประเภทนี้หรอกนะครับ ไปถามบางคนยังไม่รู้จักเทอโบเลย

เพราะฉะนั้นคนที่จะเล่นรถเทอโบก็ต้องมีความรู้เรื่องรถพอสมควร หรือไม่ก็ พวกมีเงินซื้อรถหรู แต่บางคนไม่ได้อยากได้รถออพชั่นเยอะเพราะมันไม่ได้ใช้ในชีวิตจริง

ส่วนที่ว่าทำไมรถญี่ปุ่นทำรถhybrid แทนที่จะเทอโบ

1.รักโลก 2.ภาษีรถhybrid ของไทยและทั่วโลกมันถูก

ดูSeries 3 activehybrid 300กว่าม้า เครื่องใหญ่เบอเร่อ แต่พอมี hybridเท่านั้นหละ ราคาถูกเลย

แล้วรถสองคัน คันนึงมีhybrid+turbo กับ อีกคนเป็นรถ N/A ถ้าคุณภาพเท่ากันแรงม้าเท่ากันประหยัดน้ำมันพอกัน คุณจะเลือกรถhybrid+turbo อยู่หรื็อเปล่า

ผมว่าหลายคนคงไม่เลือกhybrid+turboแน่ๆ โดนค่าซ่อมทีไปไม่เป็น แสดงว่าตรรกะที่ว่า 1 อย่าง 10 บาท กับ 2 อย่าง 10 บาท มันใช้ไม่ได้

สมมุติว่า ผมไม่ชอบกินซอสมะเขือเทศ แต่พอผมไปซื้อฮอตดอก เค้าดันบีบซอสมาให้ ผมก็รู้สึกไม่ชอบ ไม่อยากกินแล้ว แสดงว่าคุณต้องดูที่คุณภาพของสินค้าด้วย

บางอย่างให้มาแต่คนซื้อไม่อยากได้ก็มี




 





หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ ตุลาคม 09, 2013, 09:54:23
เรื่องความคุ้มค่า  มันแล้วแต่จะคิดนะครับ  เช่น  มีรถ 2 คัน  ราคาเท่ากันอัตราเร่งอะไรต่างๆ เท่ากัน  แต่คันแรก เป็น2.5ไม่มีโบ   ส่วนคันที่สอง  2.0มีโบ    บางคนก็อาจจะเลือกคันที่มีโบเพราะอยากได้อะไรที่มากกว่า   แต่บางคนก็เลือกคันที่ไม่มีโบเพราะสมรรถนะ  ก็เท่ากัน   แล้วเครื่องธรรมดาก็จุกจจิกน้อยกว่าด้วยเพราะชิ้นส่วนน้อยกว่า
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: rocky55555 ที่ ตุลาคม 09, 2013, 10:20:50
ต้องแยกก่อนระหว่าง เครื่องฉีดตรงกับเครื่องที่ฉีดเข้าท่อร่วมไอดีซึ่งมันแตกต่างกันมากๆ
รถญี่ปุ่นสมัยก่อนไม่ได้เป็นเครื่องฉีดตรงพอติดturboปัญหาที่ตามมาคือควบคุมการจ่ายน้ำมันไม่ได้เลยทำให้แรงบิดมาในรอบสูง+กับเป้าหมายคือการทำให้รถแรงอย่างเดียวไม่สนใจความประหยัด
ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันซึ่งเทคโนโลยีต่างๆเปลี่ยนไปเยอะเป้าหมายคือการประหยัดน้ำมัน
ผมเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ เครื่องยนต์ฉีดตรงติดหอยดีกว่าเยอะมากๆๆในการใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นเครื่อง2.0  tfsi ขับชิวๆกินน้ำมันเท่าเครื่อง2.0อัดหนักๆแรงเท่าเครื่อง3.5 ตรงนี้ที่ได้ใจหลายๆคน เพราะถ้าเป็นเครื่องna 3.5 ขับชิวๆยังไงมันก็กินแบบเครื่อง3.5

แต่ถ้าเน้นขับมันส์กินน้ำมันช่างมัน ก็เล่นเครื่องnaครับคนละอารมกันพวกเครื่อง 4.0ขึ้น

ส่วนเครื่องไฮบริทผมว่ามันยังไม่คุ้มในแง่วิศวกรรม ที่ต้องมาดูแลระบบไฟฟ้าเพิ่มแล้วต้องมาคอยเปลี่ยนแบตอีกรถไม่ใช่มือถือ
แบตแพงมากที่ประหยัดมา5ปีเปลี่ยนแบตทีเท่าทุนเลย(ในเมืองไทยคุ้มเรื่องภาษีรถยนต์แค่นั้นจริงๆ)
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ ตุลาคม 09, 2013, 10:22:31
ผมคิดว่าตลาดลูกค้ารถญี่ปุ่น อาจจะยังไม่ต้องการเทอร์โบ เขาจึงไม่ใส่มาให้เปลืองต้นทุน
คำถามง่ายๆที่สามารถเป็นคำตอบได้ดีที่สุดก็คือ

ถ้ารถญี่ปุ่นราคา1.5ล้าน มีเครื่องให้เลือก2แบบ
คือ 2500cc กับ 1800cc+เทอโบ คิดว่าคนส่วนมากจะเลือกอะไร
ผมเชื่อว่าคนส่วนมากเลือก cc มากกว่า ถ้าเขาจ่ายเท่ากัน
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: <Sportivo> ที่ ตุลาคม 09, 2013, 10:45:13
ไม่ต้องคิดมากครับ รถกระบะดีเซลเมืองไทยยังมีเทอร์โบทุกรุ่น ไฮเทคกว่าด้วยปรับครีบแปรผันด้วยไฟฟ้า  ทำไมรถเก๋งจะติดมาให้ไม่ได้ เป็นเพราะไม่ยอมติดมาให้มากกว่า เนื่องจากตอนนี้ไม่จำเป็นเพราะคู่แข่งไม่ใส่เขาก็ไม่ใส่ก็ยังขายได้เป็นแสนๆคัน

ลองถ้าแนวโน้มตลาดเปลี่ยนสิครับ ถ้ารถจากยุโรปอเมริกาหันไปใช้เครื่องยนต์เล็กๆแล้วใส่เทอร์โบมาแทน แล้วเกิดเป็นที่นิยมขายดีขึ้นมา  รับรองว่ารถญี่ปุ่นก็จะทำตามแบบเดียวกัน
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ ตุลาคม 09, 2013, 10:59:47
เรื่องเก่าๆผมไม่มีความรู้เลยครับ

แต่ผมคิดว่า การที่ทำสิ่งที่มันสวนทางกันแล้วมันสามารถเข้ากันได้

ผมว่ามันได้ใจ(คนส่วนใหญ่) แล้วได้ภาษีถูกลงไปอีก มันฟินสำหรับคนซื้อครับ

ได้รถแรงพอๆกับรุ่นเดิม เผลอๆแรงกว่า แต่ประหยัดน้ำมันมากกว่า ราคาพอๆกันหรือถูกกว่า

-------

ส่วนรถยุ่น ถ้ามองในตลาด Mass รถทั่วๆไป เค้าไม่จำเป็นต้องใส่มาให้เปลืองต้นทุน

เพราะคนตลาดนี้ส่วนใหญ่ ต้องการซื้อง่าย ขายคล่อง เทคโนโลยีไม่เยอะจนเกินไป ใช้ยาว

ดูอย่างรถบ้านๆเช่น Vios turbo ราคาแรงมาก คนทั่วไปไม่สนใจเลยครับ ราคาแบบนี้ถอย Altis ดีกว่าเยอะ

ส่วนตัวชอบรถ NA มากกว่าครับชอบฟิลลิ่งของมันมาก แต่ถ้าให้เลือกซื้อก็คงเลือกเครื่องเล็กเทอร์โบ

เพราะใช้แต่ใน กทม. จะเอา NA เครื่องใหญ่ก็ไม่ตอบโจทย์







หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: sr30dett ที่ ตุลาคม 09, 2013, 11:01:14
หลายเหตุผล ครับ อย่างข้างบนบอก ดูกระบะสิ การแข่งขันมันมีแรงมาเกี่ยวด้วย เมื่อก่อนไม่มี inter เดี้ยวนี้มีกันทุกรุ่น

ส่วน รถเก๋ง ผมไม่แน่ใจว่า ภาษี หรือ ด้วยมลภาวะ รึเปล่า แต่ ถ้าติดเทอร์โบต้นทุนมันเพิ่มแน่ๆ ครับ อีกอย่าง ตอนนี้มีแต่คนสนความประหยัด รถต้องใหญ่
ดูอย่าง camry 3.0 ปัจจุบัน ไม่มีขาย เพราะมันแพง

ตอนนี้ผมเห็นแค่ ford ครับ ถ้าเอา turbo มา อาจจะเปลี่ยนแปลงอนาคต ได้บ้างครับ

แต่พอมองยอดขายรถแล้ว คนส่วนใหญ่ เกียร์ ออโต้ + ประหยัด แถมรถไหลๆ ช้าๆ เทอร์โบเองอาจไม่ใช่ทางออกทีดีครับ
ส่วนที่จีน nissan pulsar มี 6mt เทอร์โบ แต่ถ้า มาเมืองไทยแพงขึ้นไปอีกแสน แค่นี้ก็ขายไม่ออกแล้วครับต่อให้มีเทอร์โบก็เถอะ

เทคโนโลยี เทอร์โบ ดีครับ แต่มันมีเหตุผล หลายอย่างที่เมืองไทยไม่ขอเลือก เข้ามาครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Bier ที่ ตุลาคม 09, 2013, 11:10:28
ขอตอบคำถาม ว่า ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?

1.ชิ้นส่วนอุปกรณ์เยอะ น้ำหนักเพิ่ม
2.ค่าใช้จ่ายสูงและยากต่อการบำรุงรักษา
3.ค่านิยม
4.ลักษณะการใช้งาน
5.ตลาด
 
ประมาณนี้ครับ  ;)
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: golf32 ที่ ตุลาคม 09, 2013, 12:08:54
ผมว่าเรื่อง ระบบอัดอากาศ(turbo) รถญี่ปุ่นเขาทำมานานแล้วนะ ลองศึกษาดูครับเขาทำมาก่อนยุโรปด้วยซำ้ไปแต่ก่อนนั้นรถยุโรปหลงทางไปใช้superchrager และเน้นความจุกระบอกสูบ  สมัยนั้นยุโรปอยากแรงก็เพิ่ม cc เอา แต่ญี่ปุ่นไม่ใช่อย่างนั้นเขาเน้นเครื่องccไม่มากแล้วใช้turboช่วย
เช่น subaru mitsu toyota ผมว่าญี่ปุ่นเขาไปไกลกว่ายุโรปนะ เพียงแต่ไม่โก้หรูเท่าๆนั้นเองครับ

เอ่อ รถยี่ห้อแรกที่ทำเครื่องเทอร์โบถ้าจำไม่ผิด ไม่ Saab ก็ BMW นะครับ ;) ส่วนประเทศที่ชอบเล่นซุปเปอร์ชาร์จคือ อเมริกาครับ ;)
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: KAKASHII ที่ ตุลาคม 09, 2013, 12:14:58
หลายคนหลงประเด็นคำถาม จนทนะครับ 

เขาหมายความว่าในปัจจุบันทำไม รถญี่ปุ่นไม่ติด turbo มาในรถบ้าน หรือ รถ premium ไม่ใช่ถามว่าใครมี turbo ก่อนกัน

เล่าย้อนหลังยุคไดโนเสาร์กันเลยทีเดียว

ผมก็อยากได้ความรู้เหมือนกันทำไมรถญี่ปุ่นไม่ติด turbo แต่เห็นมีรถบ้านขายในจีน พี่ยุ่นเราติด turbo ให้ด้วยนะ ในพวกตัวถังยาวพิเศษ


หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: theunz ที่ ตุลาคม 09, 2013, 12:38:51
ตอบแบบง่ายๆนะครับ
การตลาดครับ
จากประวัติการและแผ่นการทำงานเป็นมาของแต่ละค่ายแต่ละประเทศ (ที่เกิดจากปัจจัยทุกๆอย่าง ทั้งบุคลิกคน ฐานะ อื่นๆอีกมากมาย)
ถ้าค่ายพี่ยุ่นทำ research มาแล้วว่ารถมี turbo นะตอนนี้ทำแล้วขายได้นะ เข้าทำไปแล้วครับ ผมว่ามันมาจาก business model ของแต่ละที่กัน ค่ายรถใหญ่ๆเข้ามีข้อมูลที่แน่นกว่าพวกเราเยอะครับ

ส่วนอันไหนคุ้มโดยแค่แยกว่ามี turbo กับไม่มีมันตลกดีครับ ลองไปขับดูก่อนก็ดีครับ
เหมือนถาม50บาทซื้อผลไม้อะไรดี ซื้อกล้วยได้ทั้งหวี ส้มได้2-3ลูก จะบอกว่าทำไมคนไม่ซื้อกล้วยกัน? ก็อยากกินส้มอะ

ส่วนตัวถ้าไม่มี turbo ได้จะดีมาก ถ้าแรงมาเท่ากันทั้งสองเครื่องยังๆงขอไม่มีturboดีกว่า
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 12:54:23
หลายคนหลงประเด็นคำถาม จนทนะครับ 

เขาหมายความว่าในปัจจุบันทำไม รถญี่ปุ่นไม่ติด turbo มาในรถบ้าน หรือ รถ premium ไม่ใช่ถามว่าใครมี turbo ก่อนกัน

เล่าย้อนหลังยุคไดโนเสาร์กันเลยทีเดียว

ผมก็อยากได้ความรู้เหมือนกันทำไมรถญี่ปุ่นไม่ติด turbo แต่เห็นมีรถบ้านขายในจีน พี่ยุ่นเราติด turbo ให้ด้วยนะ ในพวกตัวถังยาวพิเศษ




เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เห็นหลงประเด็ดไปเยอะทีเดียว ในคำถามของผมคือ ราคาเท่ากัน และ ขนาดเดียวกัน คือถ้าติดแล้วมันแพงขึ้นอันนี้ก็พอจะเข้าใจได้เรื่องตันทุน หรือ... ไปเอา Camry มาเทียบกับ BMW อันนี้ผมก็คงไม่เอาเทียบเพราะคนละราคาครับ
เหมือนว่าเรากำลังพูดถึงสิ่งของที่เทียบเท่ากันทุกอย่างทั้งด้าน มิติและราคา นะครับ

ยกตัวอย่างเอาชัดๆก็ได้ครับ เอาเป็นว่า....

1. Lexus IS 250 F Sport 2.5 N/A 3,990,000 กับ BMW Series 3 Active Hybrid 3.0 Turbo+Hybrid 4,190,000 ; BMW แพงไป 200,000 ค่า Hybrid ละกัน เนอะ
2. Lexus LS460 F Sprot 4,608 cc N/A 9,990,000 กับ Porsche Panamera S E-Hybrid 3.0 cc Supercharge+Hybrid 9,600,000 ; อันนี้ Lexus แพงกว่า

คำถามของผมก็เหมือนเดิม Lexus มันไปแพงกับอะไร? แล้วทำไมคนยังซื้อ?

หรือถ้าจะเอาให้สุดขั้วนะครับ ก็จิตนาการว่าถ้า Lexus ทำรถออกมา 2 คัน ราคาเท่ากัน โดยทั้ง 2 คันให้ม้าเท่ากันที่ 300 แรงม้า

1. 3.0 N/A แรงบิดสูงสุด 350 ที่ 6,500 รอบ
2. 2.5 Turbo แรงบิดสูงสุดที่ 350 ที่ 2,000 - 5,000 รอบ

จะเลือกคันไหน ทำไม เพราะอะไร ครับผม และคันไหนมันน่าจะคุ้มกว่าและประหยัดน้ำมันได้มากกว่าครับ???
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: อีกนิดก็แรง ที่ ตุลาคม 09, 2013, 13:07:26
เหมือนว่า ญี่ปุ่นยังทำให้ turbo ประหยัดน้ำมันไม่ได้เลยไม่ใส่มาให้มั้งครับ

เห็นรถญี่ปุ่นยัดโบทีไร ชูแต่เรื่องความแรง พอจะประหยัดก็ไป hybrid

ผมมองว่า ญี่ปุ่นเลือกเดินทาง hybrid เพื่อจะให้ประหยัดน้ำมัน แต่ทางยุโรป

เน้น เทอโบ กับเครื่องดีเซล แล้วทีนี้พอเทคโนโลยีเทอโบทางฝรั่งยุโรปเริ่มตัน

ก็หันมาพัฒนา hybrid กับรถไฟฟ้าอย่างจริงจัง  แต่ทางฝั่งญี่ปุ่นยังงุ่นอยู่กับ

การพัฒนาระบบ hybrid อยู่เลย แต่ระบบ hybrid ของ ทางฝั่งยุโรปก็ไม่ได้ดีเด่อะไร

เช่น คาเยน  hybrid ก็ไม่ได้ประหยัดขนาดน่าตกใจ e300 hybrid  ผมก็มองว่ามันน่าจะประหยัด

ได้มากกว่านี้ เพราะเครื่องดีเซลเทอโบเพียวๆ ก็ได้เกือบเท่า ระบ hybrid

หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: gttle ที่ ตุลาคม 09, 2013, 13:11:26
ถ้าราคาเท่ากันขนาดเดียวกัน ก็เป็นเรื่องการตลาดล่ะครับรถญี่ป่นบ้านเราภาพมันคือราคาไม่แพงซ่อมไม่จุกจิกราคาไม่สูงไม่ต้องดูแลมาก...ไอ้พวกของเล่นอย่างรถยุโรปหรือพวก turbo น่ะค่าดูแลมันก็ต้องเพิ่มขึ้นบางคนเค้าคิดว่าเป็นภาระที่ต้องมาเสียกับเรื่องพวกนี้นะครับบางทีมันไม่ได้จำเป็นต้องใช้เลยแล้วตลาดบ้านเราคนใช้รถแบบนี้ก็มีเยอะด้วยถ้าตลาดต้องการแบบนี้เยอะกว่าจะยัดของพวกนั้นมาทำไมล่ะครับดีไม่ดีจะกลายเป็นขายไม่ได้อีก
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ ตุลาคม 09, 2013, 13:18:02
เครื่องเทอร์โบ ขายได้กับลูกค้าที่ตีนหนัก หรือมีความเข้าใจในเทคโนโลยี
แต่รถ NA ขายได้กับคนทั้งโลก โดยเฉพาะกับตลาดกลุ่มที่ไม่เล่นไม่สนเรื่องรถ
มันเป็นเรื่องของพฤติกรรมการบริโภคส่วนหนึ่ง

กับเรื่องการแชร์เครื่องยนต์ใช้ระหว่างอนุกรมอีกส่วนหนึ่ง เมื่อตลาดส่วนมากไม่ได้สนเรื่องเทอร์โบ
ก็ต้องพัฒนาเครื่อง NA และพอพัฒนา NA ก็ต้องเอาไปใช้ให้คุ้มกับรถส่วนใหญ่ของค่าย
เช่นเครื่อง GR ของ Toyota และ VQ ของ Nissan ซึ่งถูกนำไปใช้กับทั้งรถบ้านและรถพรีเมียมของค่าย

ทั้ง GR และ VQ เป็นตัวอย่างของสิ่งที่ถูกคิดค้นมานาน และมีความพยายามที่จะประยุกต์ใช้ต่อไป
เพื่อเซฟต้นทุน แต่ในระยะยาว การใช้เครื่องความจุโตมีข้อเสียในเชิงเชื้อเพลิงและมลภาวะ
ยุโรปมองว่าเทอร์โบเป็นทางออก เอาต้นทุนไปเทกับวัสดุเครื่อง ในขณะที่ญี่ปุ่นมองว่าไฮบริดคือทางออก
เอางบประมาณไปเทกับมอเตอร์และระบบไฟฟ้า นี่คือสิ่งที่เราเห็นจากยุคต้นศตววรษนี้เป็นต้นมา

เรามาคิดมาขบอะไรกันเยอะแยะมากมาย แท้จริงอาจจะไม่ใช่อะไรมากไปกว่าการที่ยุโรปเลือกทางเดินแบบนั้น
และญี่ปุ่นเลือกที่จะทำเครื่องแบบนั้น แค่นั้นแหละครับ ทั้งสองฝั่งก็ลงทุนลงแรงวิจัยไปกับทางเลือกที่ตัวเอง
เลือก จนตอนนี้คิดจะถอยกลับก็ยาก รถฟากญี่ปุ่นส่วนมากจะระแวดระวังเรื่องการใช้เงิน มีความกลัวในการตัดสินใจ
ลงทุนตามสไตล์ญี่ปุ่น เขาจึงไม่ทำเครื่องเทอร์โบ ใส่ในตลาดเทอร์โบที่เขาคิดว่ามันจะมีลูกค้าน้อย

ส่วนยุโรป ใครเป็นตัวนำเรื่องเทอร์โบล่ะ ไม่ต้องพูดเรื่อง Saab ที่เป็นผีแล้วฟื้นแล้วตาย แต่มองไปที่
ยักษ์ใหญ่อย่างกลุ่ม VW Group ซึ่งใช้ระบบอัดอากาศมากขึ้นเรื่อยๆในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำไมเขากล้าทำ?
ก็เพราะเขามองเห็นลู่ทางในการลดต้นทุน จากเดิมต้องมีเครื่อง 1.1,1.2,1.4,1.6,1.8,2.0,2.3.2.5,2.8,3.6ลิตร
ก็ยุบมันซะ เหลือ 1.2,1.4,2.0,3.0 (ไม่ต้องนับพวก V8นะ) แล้วรุ่นไหนจะแรงเท่าไร ก็มาเล่นที่การเซ็ต
แรงดันซูเปอร์ชาร์จหรือเทอร์โบ และไส้ในก็พอ อย่างอื่นหล่อร่วมกันได้ เซฟต้นทุนเห็นๆ

BMW ล่ะ? ก็ทำนองเดียวกัน จากเดิมมี 1.8,2.0,2.5,3.0 ก็รวบเหลือ 1.6,2.0,3.0 และในอนาคต
เครื่องใหม่ที่กำลังมานี่ เทอร์โบทั้งนั้น ออกแบบทุกอย่างร่วมกันหมด 3 สูบ 1.5 ลิตร 4 สูบ 2.0 ลิตร
6 สูบ 3.0 ลิตร มีแค่สามรุ่นนี้กับการจูนกำลังที่ต่างกันก็กระจายเป็นรถได้หลายรุ่นแล้ว


ญี่ปุ่น..วันนี้จะเซฟอะไรได้เขาก็เซฟ
ยุโรป มองวันหน้าว่าจะเซฟยังไงให้ได้มากที่สุด แม้วันนี้จะต้องลงทุนก้อนใหญ่ แต่วันหน้าเขาเอาคืนคุ้มแน่


นั่นคือเรื่องทัศนคติที่มีต่อระบบขับเคลื่อน

ส่วนในภาพของรถทั้งคัน คุณสงสัยว่าทำไมรถทั้งคันราคาเท่ากัน ญี่ปุ่นแพงกว่าด้วยซ้ำ
แต่ทำไมเครื่องยุโรปดีกว่า...ใช่ครับ เครื่องยุโรป ดีกว่า แต่เครื่องยนต์ไม่ใช่ตัวแปรสำคัญของต้นทุนรถแต่ละคัน
เพียงอย่างเดียว แม้แต่คุณภาพเหล็ก โฟมคอนโซล ยางหุ้ม ยางช่วงล่าง ทุกอย่างนับเป็นต้นทุนหมด
ญี่ปุ่น เลือกที่จะทำรถแพงเท่ากัน  ลงทุนกับเครื่องยนต์น้อย แต่ลงทุนกับสิ่งอื่นมากกว่า

ไอ้สิ่งอื่นของผม คืออะไร ผมไม่ตอบวันนี้นะครับ แต่แนะนำว่าคุณลองไปถามคนที่มีทั้ง Lexus
และ BMW และ Mercedes ที่มีอายุ 7-10 ปีขึ้นไป แล้วขอเขาดูบิลค่าซ่อมดูแล้วกันครับ





หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: localgame ที่ ตุลาคม 09, 2013, 13:25:51
หลายคนหลงประเด็นคำถาม จนทนะครับ 

เขาหมายความว่าในปัจจุบันทำไม รถญี่ปุ่นไม่ติด turbo มาในรถบ้าน หรือ รถ premium ไม่ใช่ถามว่าใครมี turbo ก่อนกัน

เล่าย้อนหลังยุคไดโนเสาร์กันเลยทีเดียว

ผมก็อยากได้ความรู้เหมือนกันทำไมรถญี่ปุ่นไม่ติด turbo แต่เห็นมีรถบ้านขายในจีน พี่ยุ่นเราติด turbo ให้ด้วยนะ ในพวกตัวถังยาวพิเศษ




เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เห็นหลงประเด็ดไปเยอะทีเดียว ในคำถามของผมคือ ราคาเท่ากัน และ ขนาดเดียวกัน คือถ้าติดแล้วมันแพงขึ้นอันนี้ก็พอจะเข้าใจได้เรื่องตันทุน หรือ... ไปเอา Camry มาเทียบกับ BMW อันนี้ผมก็คงไม่เอาเทียบเพราะคนละราคาครับ
เหมือนว่าเรากำลังพูดถึงสิ่งของที่เทียบเท่ากันทุกอย่างทั้งด้าน มิติและราคา นะครับ

ยกตัวอย่างเอาชัดๆก็ได้ครับ เอาเป็นว่า....

1. Lexus IS 250 F Sport 2.5 N/A 3,990,000 กับ BMW Series 3 Active Hybrid 3.0 Turbo+Hybrid 4,190,000 ; BMW แพงไป 200,000 ค่า Hybrid ละกัน เนอะ
2. Lexus LS460 F Sprot 4,608 cc N/A 9,990,000 กับ Porsche Panamera S E-Hybrid 3.0 cc Supercharge+Hybrid 9,600,000 ; อันนี้ Lexus แพงกว่า

คำถามของผมก็เหมือนเดิม Lexus มันไปแพงกับอะไร? แล้วทำไมคนยังซื้อ?

หรือถ้าจะเอาให้สุดขั้วนะครับ ก็จิตนาการว่าถ้า Lexus ทำรถออกมา 2 คัน ราคาเท่ากัน โดยทั้ง 2 คันให้ม้าเท่ากันที่ 300 แรงม้า

1. 3.0 N/A แรงบิดสูงสุด 350 ที่ 6,500 รอบ
2. 2.5 Turbo แรงบิดสูงสุดที่ 350 ที่ 2,000 - 5,000 รอบ

จะเลือกคันไหน ทำไม เพราะอะไร ครับผม และคันไหนมันน่าจะคุ้มกว่าและประหยัดน้ำมันได้มากกว่าครับ???

ภาษีนำเข้ารถไฮบริดถูกกว่า ราคาเลยเป็นตามที่เห็น

ส่วนข้อล่างเลือก2.5turboเพราะแรงบิดมาไวกว่า
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Spec C Wannabe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 13:31:18
ใครว่าไม่ทำ ทำ กำลังพัฒนาอยู่ ช้าหน่อย
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: น้องน้ำหวาน ที่ ตุลาคม 09, 2013, 14:05:38
GT-R ใส่นะคับ

Vios ก็เคยใส่เอามาขาย ขายไม่ออกหละ :-\


วีออสจำกัดการขายค่ะ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Emission ที่ ตุลาคม 09, 2013, 14:09:55
ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงาน ??

- ผมคิดว่า เพราะต้นทุนต้องสูงขึ้น

ผมขอตอบ ต่างมุมนะครับ
เพราะ ในปัจจุบัน และอนาคต "มาตรฐานไอเสีย" มีแต่จะเข้มงวดขึ้น

- แนวโน้มรถเครื่องใหญ่ CC สูงๆ จะปล่อยไอเสียมากกว่าเครื่องเล็กติดเทอร์โบแน่นอน

- กลุ่มประเทศยุโรป เป็นกลุ่มแรกที่มีมาตรฐานไอเสีย มาควบคุมก่อน -->> ผู้ผลิตรถยนต์ก็ต้องเตรียมรถ ให้ผ่านมาตรฐานด้วย

- รถญี่ปุ่นในอนาคต จะทำตลาดในยุโรปได้ ผู้ผลิตญี่ปุ่นก็ต้องปรับตัวด้วยเหมือนกันครับ

- ตัวอย่าง Honda Civic Type R ที่จะขายในปี 2015 เครื่อง 2.0L ยังติดเทอร์โบ เลยครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ ตุลาคม 09, 2013, 14:14:50
แพนตอบได้เคลียร์แล้ว หวังว่าเจ้าของกระทู้จะเกทไอเดียเพื่อนผมนะครับ

ส่วนผมผมมองว่า ญี่ปุ่นยังสนุกกับแคมกระดิกและไฮบริดอยู่น่ะแหละ อีกอย่างระบบเกียร์ด้วย...อย่าลืม
มันไม่ใช่แค่เครื่องยนต์ เกียร์ก็มีส่วนช่วยให้รถวิ่งดีหรือแย่ ประหยัดหรือกินน้ำมันด้วย

ส่วนอะไรดีกว่าอะไร เอาว่าคุณอยากซื้ออะไรก็ซื้อไปเหอะครับ เงินคุณ....
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 14:28:28
แพนตอบได้เคลียร์แล้ว หวังว่าเจ้าของกระทู้จะเกทไอเดียเพื่อนผมนะครับ

ส่วนผมผมมองว่า ญี่ปุ่นยังสนุกกับแคมกระดิกและไฮบริดอยู่น่ะแหละ อีกอย่างระบบเกียร์ด้วย...อย่าลืม
มันไม่ใช่แค่เครื่องยนต์ เกียร์ก็มีส่วนช่วยให้รถวิ่งดีหรือแย่ ประหยัดหรือกินน้ำมันด้วย

ส่วนอะไรดีกว่าอะไร เอาว่าคุณอยากซื้ออะไรก็ซื้อไปเหอะครับ เงินคุณ....

Get เลยครับ โดยเฉพาะคำส่งท้ายของพี่แพนนั้นทำให้ Get ขึ้นมามากทีเดียว

ถ้าสรุปตามเนื้อความน่าจะได้ประมาณว่า

1. ถ้ารถมือ 1 ราคาเท่าๆกัน ยังไงก็ไปยุโรป เพราะคุ้มกว่า ทั้งของเรื่องเครื่องยนต์ วัสดุประกอบภายในและภายนอก รวมไปถึง Options ที่มามากกว่า
2. ถ้ารถมือ 2 ราคาเท่าๆกัน ญี่ปุ่น(Lexus) น่าจะคุ้มกว่า เพราะน่าจะโดนเอามาซ่อมแน่ๆ แล้วเหมือนพี่แพนจะพยายามบอกว่าค่าซ่อม Lexus มันถูกกว่า BMW หรือ Benz อย่ามีนัยสำคัญ(รึเปล่า?) ;D

ปล. คนญี่ปุ่นนี่เขามี Concept ทำสินค้าได้เหมือนกันไปหมดจริงๆ ทั้ง คอมฯ, กล้อง, มือถือ มาจนถึงรถยนต์ คือราคาเท่าชาวบ้าน แต่ Spec ต่ำกว่าเสมอๆ...... เขามั่นใจในตัวเองจริงๆ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: PengZZ ที่ ตุลาคม 09, 2013, 15:24:18
พวก K car ไง ใส่เพียบเลย แต่เราไม่มีโอกาสได้ขับ :'(
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ ตุลาคม 09, 2013, 15:29:34
แพนตอบได้เคลียร์แล้ว หวังว่าเจ้าของกระทู้จะเกทไอเดียเพื่อนผมนะครับ

ส่วนผมผมมองว่า ญี่ปุ่นยังสนุกกับแคมกระดิกและไฮบริดอยู่น่ะแหละ อีกอย่างระบบเกียร์ด้วย...อย่าลืม
มันไม่ใช่แค่เครื่องยนต์ เกียร์ก็มีส่วนช่วยให้รถวิ่งดีหรือแย่ ประหยัดหรือกินน้ำมันด้วย

ส่วนอะไรดีกว่าอะไร เอาว่าคุณอยากซื้ออะไรก็ซื้อไปเหอะครับ เงินคุณ....

Get เลยครับ โดยเฉพาะคำส่งท้ายของพี่แพนนั้นทำให้ Get ขึ้นมามากทีเดียว

ถ้าสรุปตามเนื้อความน่าจะได้ประมาณว่า

1. ถ้ารถมือ 1 ราคาเท่าๆกัน ยังไงก็ไปยุโรป เพราะคุ้มกว่า ทั้งของเรื่องเครื่องยนต์ วัสดุประกอบภายในและภายนอก รวมไปถึง Options ที่มามากกว่า
2. ถ้ารถมือ 2 ราคาเท่าๆกัน ญี่ปุ่น(Lexus) น่าจะคุ้มกว่า เพราะน่าจะโดนเอามาซ่อมแน่ๆ แล้วเหมือนพี่แพนจะพยายามบอกว่าค่าซ่อม Lexus มันถูกกว่า BMW หรือ Benz อย่ามีนัยสำคัญ(รึเปล่า?) ;D

ปล. คนญี่ปุ่นนี่เขามี Concept ทำสินค้าได้เหมือนกันไปหมดจริงๆ ทั้ง คอมฯ, กล้อง, มือถือ มาจนถึงรถยนต์ คือราคาเท่าชาวบ้าน แต่ Spec ต่ำกว่าเสมอๆ...... เขามั่นใจในตัวเองจริงๆ
ผมว่ารวมทุกอย่างก็ไม่นะ  บางอย่างญี่ปุ่นก็ให้มากกว่าครับ  เหมือน Benz กับ BMW    และ  Lexus    lexusวัสดุภายในดีกว่าทั้งสองค่านะครับ  ไม่ใช่ว่าเป็นรถญี่ปุ่นแล้วจะต้องด้อย  กว่ายุโรปเสมอไป
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ ตุลาคม 09, 2013, 15:49:20
ขอถาม จขกท ข้อเดียวเลยครับ

เห็นเขียยนว่าไม่เคยขับรถมีเทอโบ

แล้วรู้ได้อย่างไรครับว่ามีเทอร์โบมันดี หรือการมีเทอโบมันคุ้มค่าให้อะไรได้มากกว่าจนจำเป็นต้องใส่ในรถทุกคันถึงจะเป็นรถที่ดีคุ้มค่า ประหยัด หรือมันมีอะไรมากกว่าจนต้องตัดรถที่ไม่มีเทอโบออก

ผมขอแชร์โดยส่วนตัวของผม
ผมไม่ชอบ รถเทอโบ เพราะไม่ชอบอาการเทอโบแลค เช่นใน W204 / F30 2.0i, 2.0d  ต่อให้ใช้เกียร์รุ่นใหม่ๆแล้ว 7/8 สปีด ก็ยังมีอากากรแลคไม่ชอบการดึงแบบสั้นๆแล้วจบ ไม่ชอบการที่ต้องมีเกียรเยอะแยะเพื่อให้รอบตัดต่อกำลังต่อเนื่อง

และการแลคไม่ได้มีผลมาจากแค่ตัวเครื่องบูสเทอโบแต่อาจมาร่วมกับการตอบสนองคันเร่งที่ช้า ยิ่งทำให้เกิดช่วงเวลาสูญญากาศ ของจังหวะกำลัง
ยิ่งเครื่องดีเซลยิ่งเห็นได้ชัดในจังหวะที่ขับมาเร็วๆแล้วยกเท้า ถอนเพื่อรอดูจังหวะ แล้วกดคันเร่งออกไปเมื่อแน่ใจว่าจะเร่งต่อไปได้ ในบางจังหวะมันมีอาการกระตุกหรือคิดช้าอยู่ ถึงจะแต่วิเดียวแต่สัมผัสได้ชัดเจน ซึ่งอาการนี้อาจไม่เกิดกับใครเลยก็ได้ถ้าไม่มีนิสัยการกดคันเร่งแบบที่ผมทำ

หรือจากการที่ภรรยาผมที่ใช้ civic 2.0 ประจำมายืมรถ c200 ขับแล้วบอกว่ารถช้ามากเร่งไม่ไป ต้องกดลึกมากรอช้า
เพราะเค้าเคยชินกับการตอบสนองที่ไวกว่าของจังหวะกำลัง คือจังหวะกดนิดเดียวแล้วมาในทันทีเค้าชินแบบนั้นคันเร่งเบาๆ พอมาขับรถเทอโบกลายเป็นกดแล้วไม่มาก็เลยกดหนักขึ้นพอรอบมาก็เป็นว่ามันกระชากไป ต้องถอนๆเร่งๆ นี่เป็นเรื่องการปรับตัว แต่สัมผัสได้มั้ย ได้ครับ

ยังไม่รวมอาการท้ายดิ้นถ้าไปเผลอกดในโค้ง หรือหักแรงๆต่อให้มีอีเลคโทรนิคช่วย แต่ผมก็คิดว่ามันไม่จำเป็นต้องมีถ้าเราคุมจังหวะกำลังได้แม่นยำกว่านี้ แต่ทำได้ยากกว่าเพราะเป็นเครื่องเทอโบ

และผลจากนิสัยที่ผมใช้แต่ระเครื่อง2300 ขึ้นไปมาตลอด สิบหกปี พอเริ่มมาใช้รถเครื่องเล็ก อัดเทอโบ ผมกำลังเสียวว่าเทอโบผมอาจอยู่ไม่ยืน ยังดีที่มีประกัน 5 ปี เพราะตอนนี้เสียงหวีดเทอโบเรื่มดังขึ้น ช่วงเทอโบแลคนานขึ้น จนต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเร็วขึ้นจากเมื่อก่อน รถดีเซลเทอโบอีกคันผมขับ สามปี เทอโบหวีดเช่นกัน เริ่มมีอาการควันขาวให้เห็นนิดๆ คาดว่าไปแล้วแน่ๆ เพราะโดนคนงานเอาไปใช้ขับรับส่งคนอยู่สองปี


สิ่งเหล่านี้มีผลคอขาดบาดตายมั้ย ไม่มีครับ ผมแค่ไม่ชอบ

แต่ไม่ชอบขนาดไม่ซื้อรถเทอโบมั้ย ก็คงไม่เพราะ สี่คันล่าสุดที่ซื้อมีเทอโบหมดละ
แต่ทุกครั้งที่กลับไปขับรถเครื่องใหญ่ๆคันเก่าเกียร์ 5 จังหวะ ผมมีความสุขดีและไม่รู้สึกว่ามันไม่แรงหรือไม่ประหยัดอะไร
และไม่คิดถึงแรงดึงที่มาวูบเดียวของเทอโบเลย ผมชอบดึงนิ่มๆเรื่อยๆแต่นานๆดีกว่า

สุดท้าย ขออธิบายว่าทำไมถึงมีหลายๆคนพยายามพูดถึงอดีต
เพราะเป็นคำตอบของคำถามคุณไงครับว่าทำไมเค้าไม่ทำ
เพราะการจำทำอะไรในสินค้าที่ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีมันต้องอาศัยช่วงเวลาวิจัย
ถ้าเค้าไม่เคยทำหรือทำแล้วขายไม่ได้เค้าก็ไม่ทำมาขายในอดีต ในวันนี้มันเลยไม่มีไงครับ
มันไม่สามารถที่จะจู่ๆเห็นรถอีกค่ายใช้ก็เอามายัดได้เลย มันต้องมีส่วนประกอบอื่นๆด้วย
มันต้องทดสอบวิจัย ปรับจูน พัฒนา แก้ไขก่อนจะเอามาขายได้ ถ้าเกิดเลือกเทคโนโลยีผิด หรือผิดจังหวะเวลาก็ต้องใช้งบมหาศาล และเวลา ในการตั้งลำใหม่ ตัวอย่างของSaab ที่ใช้เทอโบก่อนชาวบ้าน รถก็ดีแรงขับดี แต่ดันดีเกินไปผิดที่ผิดเวลาตลาดไม่ได้เห็นข้อดีของเทอโบตอนนั้น ผลคือเจ๊ง

ฉะนั้นอดีต มันเป็นคำตอบของคำถามของคุณครับ ถ้าอยากรู้ว่าทำไมก็ต้องหาเหตุและผลจากที่มาที่ไป

และถ้าคุณลองไปคันอดีต คุณจะได้ข้อมูลประกอบอื่นๆที่จะทำให้เข้าใจว่าทำไมรถยนต์ถึงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ต่อให้ต้องเดาบ้างผิดมั่งถูกมั่ง มั่วมั่งมันก็มี ข้อมูลดิบให้ขบคิดมากกว่า ยิ่งถ้าได้อ่านแล้วไปลองขับจริง อาจจะพบสัจจะธรรมว่า รถที่ดีของเราอาจจะไม่ใช่รถที่ดีของทุกคนก็ได้ แค่เราชอบมัน

หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ ตุลาคม 09, 2013, 17:00:20
จริงๆอะไหล่ Lexus ผมว่าก็ไม่ได้ถูกนะครับ แต่มีุจุดที่ต้องเสียต้องเปลี่ยนมากแค่ไหน และความทนทานของวัสดุในจุดต่างๆ
หรือแม้แต่ลักษณะการเก็บสายไฟ ปลั๊กสายไฟ คุณภาพของสายไฟ คุณภาพของปลั๊ก ยันไปถึงตัวน็อตและคุณภาพของน็อต
แต่ถ้าพูดเรื่องนี้..เราจะออกทะเลไปนอก Topic เรื่องเครื่องยนต์แต่ที่ต้องพูดถึงเพราะการตัดสินใจในรูปแบบเครื่องยนต์นั้น
มันต้องมีความสัมพันธ์กับต้นทุนของรถทั้งคัน และวิธีการเลือกบริหารจัดการต้นทุนนั่นเองที่ทำให้รถญี่ปุ่น และรถยุโรปมีดีกันคนละด้าน

เรื่องเครื่องผมจบแค่นั้น แต่ย่อหน้าที่ไปนี้คือจะพล่ามให้ฟังเฉยๆ สามารถข้ามไปได้

ผมมีความเชื่อเสมอว่าในยุคนี้สมัยนี้..บริษัทรถยนต์ที่จะไม่พยายามควบคุมต้นทุนนั้นเหลือน้อยมาก (อย่าไปนับพวกซูเปอร์คาร์
หรือรถ Niche) ถ้าคุณพูดถึงแบรนด์หลัก Toyota, GM, Volkswagen, Mercedes-Benz, BMW มีความพยายามในการคุมต้นทุน
ของรถต่อคันให้เท่าเทียมหรือได้เปรียบคู่แข่งกันทั้งนั้น (เมื่อเทียบแบบตรง Segment) ดังนั้นความแตกต่างของรถแต่ละคัน
จึงอยู่ที่ว่า...จะเอาต้นทุน 1 ก้อนของรถแต่ละคัน ไปลงด้านไหนกันล่ะ..?

ตลอดชีวิตที่จับรถมาหลายคัน รถยุค 80-90-2000ตอนต้นและ2013 ..และประสบการณ์ที่ได้ถลุงรถ
ใน headlightmag 4 ปีที่ผ่านมา ..ผมพอจับเทรนด์ได้ว่าในยุคหลังนี้ รถยุโรปเอาต้นทุนไปลงกับเครื่องยนต์และ
ระบบส่งกำลังมากอย่างไม่น่าเชื่อ และประสิทธิภาพของพวกมันนั้นทำเอาผมขนลุกเลยเหมือนกัน คุณเชื่อไหมว่า
เกียร์ของรถยุโรปในยุค "Turbo และ DI มาแรง" หลังๆมานี้พัฒนาต่างจากยุค 2000 ตอนต้นแบบคนละเรื่อง
เอา Golf GTi สภาพเดิมสนิทไป Dyno ม้าลงพื้นออกมา 200 ตัว ..ม้าที่เครื่อง 210  เอา C200CGI ไป Dyno
ม้าที่เครื่อง 184..ม้าลงพื้น 173 ...ลองเล่นโหลดไดโน่ดูการจับและล็อคของกลไกในเกียร์ ..เพื่อนผมบอกว่าอึ้ง
ช่วงหลังๆนี้มันไดโน่รถยุโรปตั้งแต่รุ่นยุค 80-90-2000 ยันรถใหม่ล่าสุด วิวัฒนาการของเกียร์ก้าวไปไกลมากในขณะที่
เกียร์อัตโนมัติของญี่ปุ่นยุค 90 เสียกำลัง 25% ยุค 2000 เสียกำลัง 20-25% และช่วงหลังมานี้ ก็ยังเกิน 18% อยู่ดี

เครื่องยนต์รถยุโรป..ยิ่งไม่ต้องพูดถึง..เครื่องยุโรปเทอร์โบยุคหลังๆล้วนสร้างตัวเลขมหัศจรรย์ แรงเหมือนหกสูบ
กินเหมือนรถสี่สูบพันหก..กดคันเร่งรอบ 2000 บูสท์มาเต็มกราฟพุ่งปรี๊ดและลากยาวไปจนยัน 5,500 รอบ..

แต่สังเกตไหมว่า...ถ้าไม่นับพวก Performance model แล้ว ไม่ว่าจะเป็น 3-Series, C-Class หรือ Volvo
หรือ Volkswagen อะไรก็ตามแต่..ช่วงล่างไม่ได้ดีขึ้น และบางรุ่นกลับให้ความมั่นใจน้อยลงด้วยซ้ำ
..ยกเว้น 5-Series F10 เอาไว้ละกันที่ดีขึ้นจริงๆ

บางคนอาจจะบอกว่า ก็รถยุโรปสมัยนี้จับตลาดลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ขับเร็ว..งั้นถามเลยก็ได้ว่า..
ก็แล้วทำไมรถรุ่นก่อนๆมันได้ทั้งนุ่ม ทั้งเกาะ แต่พอมาสมัยนี้ ถ้านุ่มคือไม่มั่น และถ้าจะเอาทั้งมั่นทั้งนุ่ม
ต้องเล่นรถที่มีช่วงล่างไฮเทค หรือเป็นรุ่นสปอร์ต?

นี่แค่ยกตัวอย่าง....ส่วนเรื่องว่าแล้วรถยุโรปใหม่ๆลดต้นทุนตรงไหนอีก..วันนี้ยังตอบไม่ได้แต่อีก 7 ปี เราจะรู้


ผมฝากไว้ให้คิดว่าแม้แต่ยอดยนตรกรรมอย่าง Porsche ก็เล่นกับเรื่องต้นทุน

ยุค 90 บวกลบ.. Porsche มีหนี้สิ้นล้นพ้น และมีรถขายอยู่รุ่นเดียวคือ 911 (หลัง 968 และ 928 ถูกฆาตกรรม)
ปี 1997-98 Porsche เปิดตัวรุ่น 996 มาแทน 993 และก็มี Boxster ขาย ..คือขายกันอยู่แค่สองรุ่นนั่นแหละ
พอปี 2004..เมื่อ 996 ตกรุ่นไป Porsche กลายร่างจากบริษัทที่ใกล้ล้มละลาย เป็นบริษัทรถยนต์ที่
ทำกำไรสุทธิต่อรถหนึ่งคันได้ดีเป็นอันดับหนึ่งของโลก

Boxster ขับดีกว่า 968 Roadster เร่งเร็วกว่า ประหยัดน้ำมันกว่า สวยกว่า คมกว่า หรูกว่า..Yes
996 บังคับควบคุมดีกว่า 993 ประหยัดน้ำมันกว่า เร็วกว่า ควบคุมง่ายกว่า นั่งสบายกว่า..Yes
แล้วทำทั้งหมดนี่โดยพลิกสถานภาพจากอัศวินขาแพลงเป็นเศรษฐีที่ใหญ่โตจนต่อมาคิดจะงาบ VW ได้อย่างไร

คุณลองไปคิดดู เนี่ยล่ะพิษสงของคำว่าการบริหารจัดการต้นทุนขององค์กร

ปล. อย่าบอกว่า Porsche รวยได้เพราะทำ Cayenne ขาย..Cayenne เพิ่งขายเมื่อปี 2003
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Ty ESC ที่ ตุลาคม 09, 2013, 17:49:47
เรื่องลดต้นทุน

เบนส์  วิทยุ C class  / E class/ ML class/ SLK/ CLS/ SLS หน้าตาเดียวกัน เปลี่ยนแค่ขนาดคอนโซล
 กระจกข้างใช้ร่วมกัน เสาอากาศครีบฉลามเหมือนกัน และคงอีกมากมายหลายชิ้น
พวงมาลัย สามก้าน นี่ถอดใส่ข้ามรุ่นกันได้เลย

ปรากฎว่า บรรยากาศภายในเบนส์ยุคนี้ คล้ายๆกันหมด ต่างแค่ ขนาดคอนโซล กับ รายละเอียดเย็บหนัง ซ่อนไฟ

ถามว่าดีมั้ยมันคงช่วยลดต้นทุนและหวังว่าไปเพิ่มคุณภาพวัสดุให้ดีให้ทนขึ้น แต่แอบเบื่อ ขึ้นไปรถรุ่นไหนหน้าตาภายในเหมือนกันหมด

ช่วงล่างเบนส์ บีเอ็ม ยุคใหม่ เปราะมากๆ C200 std ผม หกเดือน เคลมโช้คไปสองข้าง นี่ข้างหลังร้องเอี๊ยดอ๊าดไม่จบ ปลาวาฬใช้จะ20 ปี ใช้โช้คไปสองชุดตอนโช้คตายยังนุ่มแน่นอยู่เลย แต่ตั้งแต่รุ่นตาหวานมาจนตาเหยี่ยว โช้คแตกกันทุกสามปี แตกทีน้ำตาไหลพรากๆ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: redsun ที่ ตุลาคม 09, 2013, 17:50:55
อ่านของคุณแพน แล้วนึกภาพตาม สนุกมากครับ
ข้อมูลและความรู้เพียบๆเลย ขอบคุณมากๆเลยครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: taokung ที่ ตุลาคม 09, 2013, 17:54:36
ขอถาม จขกท ข้อเดียวเลยครับ

เห็นเขียยนว่าไม่เคยขับรถมีเทอโบ

แล้วรู้ได้อย่างไรครับว่ามีเทอร์โบมันดี หรือการมีเทอโบมันคุ้มค่าให้อะไรได้มากกว่าจนจำเป็นต้องใส่ในรถทุกคันถึงจะเป็นรถที่ดีคุ้มค่า ประหยัด หรือมันมีอะไรมากกว่าจนต้องตัดรถที่ไม่มีเทอโบออก

ผมขอแชร์โดยส่วนตัวของผม
ผมไม่ชอบ รถเทอโบ เพราะไม่ชอบอาการเทอโบแลค เช่นใน W204 / F30 2.0i, 2.0d  ต่อให้ใช้เกียร์รุ่นใหม่ๆแล้ว 7/8 สปีด ก็ยังมีอากากรแลคไม่ชอบการดึงแบบสั้นๆแล้วจบ ไม่ชอบการที่ต้องมีเกียรเยอะแยะเพื่อให้รอบตัดต่อกำลังต่อเนื่อง

และการแลคไม่ได้มีผลมาจากแค่ตัวเครื่องบูสเทอโบแต่อาจมาร่วมกับการตอบสนองคันเร่งที่ช้า ยิ่งทำให้เกิดช่วงเวลาสูญญากาศ ของจังหวะกำลัง
ยิ่งเครื่องดีเซลยิ่งเห็นได้ชัดในจังหวะที่ขับมาเร็วๆแล้วยกเท้า ถอนเพื่อรอดูจังหวะ แล้วกดคันเร่งออกไปเมื่อแน่ใจว่าจะเร่งต่อไปได้ ในบางจังหวะมันมีอาการกระตุกหรือคิดช้าอยู่ ถึงจะแต่วิเดียวแต่สัมผัสได้ชัดเจน ซึ่งอาการนี้อาจไม่เกิดกับใครเลยก็ได้ถ้าไม่มีนิสัยการกดคันเร่งแบบที่ผมทำ

หรือจากการที่ภรรยาผมที่ใช้ civic 2.0 ประจำมายืมรถ c200 ขับแล้วบอกว่ารถช้ามากเร่งไม่ไป ต้องกดลึกมากรอช้า
เพราะเค้าเคยชินกับการตอบสนองที่ไวกว่าของจังหวะกำลัง คือจังหวะกดนิดเดียวแล้วมาในทันทีเค้าชินแบบนั้นคันเร่งเบาๆ พอมาขับรถเทอโบกลายเป็นกดแล้วไม่มาก็เลยกดหนักขึ้นพอรอบมาก็เป็นว่ามันกระชากไป ต้องถอนๆเร่งๆ นี่เป็นเรื่องการปรับตัว แต่สัมผัสได้มั้ย ได้ครับ

ยังไม่รวมอาการท้ายดิ้นถ้าไปเผลอกดในโค้ง หรือหักแรงๆต่อให้มีอีเลคโทรนิคช่วย แต่ผมก็คิดว่ามันไม่จำเป็นต้องมีถ้าเราคุมจังหวะกำลังได้แม่นยำกว่านี้ แต่ทำได้ยากกว่าเพราะเป็นเครื่องเทอโบ

และผลจากนิสัยที่ผมใช้แต่ระเครื่อง2300 ขึ้นไปมาตลอด สิบหกปี พอเริ่มมาใช้รถเครื่องเล็ก อัดเทอโบ ผมกำลังเสียวว่าเทอโบผมอาจอยู่ไม่ยืน ยังดีที่มีประกัน 5 ปี เพราะตอนนี้เสียงหวีดเทอโบเรื่มดังขึ้น ช่วงเทอโบแลคนานขึ้น จนต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเร็วขึ้นจากเมื่อก่อน รถดีเซลเทอโบอีกคันผมขับ สามปี เทอโบหวีดเช่นกัน เริ่มมีอาการควันขาวให้เห็นนิดๆ คาดว่าไปแล้วแน่ๆ เพราะโดนคนงานเอาไปใช้ขับรับส่งคนอยู่สองปี


สิ่งเหล่านี้มีผลคอขาดบาดตายมั้ย ไม่มีครับ ผมแค่ไม่ชอบ

แต่ไม่ชอบขนาดไม่ซื้อรถเทอโบมั้ย ก็คงไม่เพราะ สี่คันล่าสุดที่ซื้อมีเทอโบหมดละ
แต่ทุกครั้งที่กลับไปขับรถเครื่องใหญ่ๆคันเก่าเกียร์ 5 จังหวะ ผมมีความสุขดีและไม่รู้สึกว่ามันไม่แรงหรือไม่ประหยัดอะไร
และไม่คิดถึงแรงดึงที่มาวูบเดียวของเทอโบเลย ผมชอบดึงนิ่มๆเรื่อยๆแต่นานๆดีกว่า

สุดท้าย ขออธิบายว่าทำไมถึงมีหลายๆคนพยายามพูดถึงอดีต
เพราะเป็นคำตอบของคำถามคุณไงครับว่าทำไมเค้าไม่ทำ
เพราะการจำทำอะไรในสินค้าที่ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีมันต้องอาศัยช่วงเวลาวิจัย
ถ้าเค้าไม่เคยทำหรือทำแล้วขายไม่ได้เค้าก็ไม่ทำมาขายในอดีต ในวันนี้มันเลยไม่มีไงครับ
มันไม่สามารถที่จะจู่ๆเห็นรถอีกค่ายใช้ก็เอามายัดได้เลย มันต้องมีส่วนประกอบอื่นๆด้วย
มันต้องทดสอบวิจัย ปรับจูน พัฒนา แก้ไขก่อนจะเอามาขายได้ ถ้าเกิดเลือกเทคโนโลยีผิด หรือผิดจังหวะเวลาก็ต้องใช้งบมหาศาล และเวลา ในการตั้งลำใหม่ ตัวอย่างของSaab ที่ใช้เทอโบก่อนชาวบ้าน รถก็ดีแรงขับดี แต่ดันดีเกินไปผิดที่ผิดเวลาตลาดไม่ได้เห็นข้อดีของเทอโบตอนนั้น ผลคือเจ๊ง

ฉะนั้นอดีต มันเป็นคำตอบของคำถามของคุณครับ ถ้าอยากรู้ว่าทำไมก็ต้องหาเหตุและผลจากที่มาที่ไป

และถ้าคุณลองไปคันอดีต คุณจะได้ข้อมูลประกอบอื่นๆที่จะทำให้เข้าใจว่าทำไมรถยนต์ถึงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ต่อให้ต้องเดาบ้างผิดมั่งถูกมั่ง มั่วมั่งมันก็มี ข้อมูลดิบให้ขบคิดมากกว่า ยิ่งถ้าได้อ่านแล้วไปลองขับจริง อาจจะพบสัจจะธรรมว่า รถที่ดีของเราอาจจะไม่ใช่รถที่ดีของทุกคนก็ได้ แค่เราชอบมัน


ขอบคุณที่ช่วยขมวดปมให้ครับ ถูกต้องแล้วครับถ้าอยากรู้อะไรก็ต้องศึกษาจากอดีต แต่ละท่านที่เข้ามาตอบและให้ข้อมูลนั้นล้วนมีความรู้และประสบการณ์ทั้งนั้น ฉนั้นคำตอบนั้นผู้ถามตัดสินใจเองแล้วกันว่าได้รับข้อมูลแล้วตัวเองเข้าใจมากน้อยขนาดไหน คราวนี้ต้องถามตัวเองแล้วนะครับ
ว่าต้องการอะไร
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ ตุลาคม 09, 2013, 17:55:33
ถ้าเลือกได้ไม่เอาทั้ง turbo และ HB ครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ ตุลาคม 09, 2013, 18:34:26
เรื่องลดต้นทุน

เบนส์  วิทยุ C class  / E class/ ML class/ SLK/ CLS/ SLS หน้าตาเดียวกัน เปลี่ยนแค่ขนาดคอนโซล
 กระจกข้างใช้ร่วมกัน เสาอากาศครีบฉลามเหมือนกัน และคงอีกมากมายหลายชิ้น
พวงมาลัย สามก้าน นี่ถอดใส่ข้ามรุ่นกันได้เลย

ปรากฎว่า บรรยากาศภายในเบนส์ยุคนี้ คล้ายๆกันหมด ต่างแค่ ขนาดคอนโซล กับ รายละเอียดเย็บหนัง ซ่อนไฟ

ถามว่าดีมั้ยมันคงช่วยลดต้นทุนและหวังว่าไปเพิ่มคุณภาพวัสดุให้ดีให้ทนขึ้น แต่แอบเบื่อ ขึ้นไปรถรุ่นไหนหน้าตาภายในเหมือนกันหมด

ช่วงล่างเบนส์ บีเอ็ม ยุคใหม่ เปราะมากๆ C200 std ผม หกเดือน เคลมโช้คไปสองข้าง นี่ข้างหลังร้องเอี๊ยดอ๊าดไม่จบ ปลาวาฬใช้จะ20 ปี ใช้โช้คไปสองชุดตอนโช้คตายยังนุ่มแน่นอยู่เลย แต่ตั้งแต่รุ่นตาหวานมาจนตาเหยี่ยว โช้คแตกกันทุกสามปี แตกทีน้ำตาไหลพรากๆ


ข่าวดีคือต้นทุนไปอยู่กับเครื่องและเกียร์จริงๆครับสำหรับรถรุ่นนี้
ข่าวร้ายคือไม่ได้ไปอยู่กับเรื่องวัสดุอย่างที่คุณต้องการครับ

เช็ครอยต่อที่ฝาครอบวาล์ว ฝาสูบด้วยน้ำครับ ตรงซีลต่างๆ..ลูกค้าเพื่อนผมเอารถ 10,000 โลมาจูน..น้ำมันซึมขนาด..
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 20:51:33
ขอถาม จขกท ข้อเดียวเลยครับ

เห็นเขียยนว่าไม่เคยขับรถมีเทอโบ

แล้วรู้ได้อย่างไรครับว่ามีเทอร์โบมันดี หรือการมีเทอโบมันคุ้มค่าให้อะไรได้มากกว่าจนจำเป็นต้องใส่ในรถทุกคันถึงจะเป็นรถที่ดีคุ้มค่า ประหยัด หรือมันมีอะไรมากกว่าจนต้องตัดรถที่ไม่มีเทอโบออก


ถามมาตอบไปนะครับ

คำตอบน่ะง่ายนิดเดียวครับ ก็ผมไม่รู้ไงครับ ก็เลยคิดว่ามันจะดีกว่า

เอางี้ดีกว่าครับ ผมน่ะเป็นคนนอกวงการรถ มีอาชีพเป็นโค้ชกีฬาระดับชาติ เป็นคนที่มีหน้าที่ต้องคัดกรองนักกีฬาเพื่อเป็นตัวแทนของสถาบันต่างๆเพื่อไปลงแข่ง แน่นอนว่าผมก็จะมีนักกีฬาที่ชอบ ที่เห็นว่ารูปร่างดี ขยันซ้อม แต่.... โค้ชทุกคนสุดท้ายก็ต้องเลือกคนที่ดีที่สุด และคนๆนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่ขยันสุดหรือคนที่เราชอบเขาที่สุด
และนิสัยแบบนี้ก็เลยติดผมมาตลอดที่จะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่จากที่เราชอบ แต่ต้องมีเหตุผลที่วัดค่าได้เพียงพอ ไม่ใช่แค่ความรู้สึกครับ
ยิ่งเป็นเรื่องรถแล้ว ผมเหมือนเป็นคนอกวงการ พี่ๆเป็นคนในวงการ พี่ๆจะมีประสพการณ์มากในการสัมผัสรถจริงๆหลายๆรุ่น แต่ผมไม่มี ข้อมูลผมทั้งหมดที่มีก็คือรถที่ผมเคยขับมา เอาจริงๆก็  Jazz 2009 ของผมเอง และ Camry Hybrid แค่ไม่กี่ครั้งของพี่ชาย นอกนั้นความรู้ในหัวผมก็มาจากพวกพี่ๆที่ทำรีวิวกัน ถกและเถียงกันในเวปบอร์ดครับ

ยกตัวอย่าง ผมก็เหมือนคนๆนึงที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร รู้แต่สิ่งที่อ่านมา แล้วกำเงิน 1,500,000 เดินเข้าไปงาน Motor Show พร้อมกับมีใบโบรชัวร์รถมากมายหลายใบอยู่ในมือ แล้วทีนี้จะเลือกอะไรล่ะ

- เลือกที่ชอบที่สวย ก็กลัวจะไม่ดี
- เลือกเจ้าตลาด เจ้าตลาดก็ไม่จำเป็นว่ามันจะดีที่สุด
- เลือกที่ Spec ดีๆ จะดีแต่ Spec ในกระดาษหรือเปล่าก็ไม่รู้?
- เลือกที่ Options เยอะๆ จะอัดมาแค่ปริมาณแต่ไม่มีคุณภาพหรือเปล่าหว่า?

เห็นไหนครับ มันไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่ไม่รู้อะไร และผมก็ไม่อยากเป็นเหมือนหลายๆคนที่มาบ่นเรื่องรถตัวเองในกระทู้หลายๆกระทู้ ว่าแย่อย่างนั้น ห่วยอย่างนี้ เฮ้!!! นี่เงินล้านนะไม่ใช่ซื้อหวยใบละ 120 บาท จะได้ซื้อๆไป พอไม่ดีก็มาบอกว่า "ว้า....แย่จัง ซื้อมาไม่ดีเลย เดี๋ยวค่อยไปซื้อใหม่เนาะ" หือ...!!!! เงินล้านนะครับพี่...
แล้วเห็นหลายๆท่านที่แบบว่า มาบ่นรถเก่าตัวเอง ซื้อมาแย่ ห่วย ไม่ดีหลายอย่าง เลยขายไปละ หือ!!! พ้นตัวครับ แต่คนซื้อต่อล่ะ?? ผมไม่อยากทำอย่างนั้นแน่นอน ไม่อยากทั้งเป็นคนที่ไปขายของย้อมแมวให้คนอื่น และไม่อยากเป็นทั้งคนที่ซื้อต่อด้วยครับ

ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาครับ ผมไม่รู้ผมถึงถาม และผมไม่รู้ก็คือไม่รู้จริงๆ ไม่ได้แกล้งหรือมาลองภูมิใครครับ

แต่ด้วยความที่ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ ตรรกะทุกตรรกะที่มีการถกเถียงกันในวงกว้าง จะต้องมีตรรกะนึงที่ดีที่สุดเสมอในทุกๆเหตุผล มันก็เหมือนกับรถ ถ้าเรามีตัวแปรเรื่องของราคามาเป็นตัวตั้งแล้ว ยังไงมันก็จะมีคันๆนึงที่ดีที่สุดในราคาดังกล่าวเสมอแน่ๆ เมื่อทำการชั่ง ตวง วัด ด้วยเหตุผลทุกเหตุผลที่มี จริงไหมครับ

ถ้าจะบอกว่า ก็ไปลองสิ อืม... เขาสามารถให้ผมลองเหมือนที่เวปนี้ทำรีวิวรถได้ไหมล่ะครับ? ถ้าทำได้มันก็น่าลอง แต่ถ้าแค่ขับในโชว์รูม ผมว่ามันเสียเวลาครับ ผมเคยแล้ว
ดังนั้นจะเห็นว่าการไล่ให้ผมไปลองนั้นมันไม่น่าจะใช่การพูดจาที่สมเหตุสมผมเอาซะเลยครับ และมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง

ขอบคุณมากๆครับผม
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: pixie145 ที่ ตุลาคม 09, 2013, 21:18:21
แพนตอบได้เคลียร์แล้ว หวังว่าเจ้าของกระทู้จะเกทไอเดียเพื่อนผมนะครับ

ส่วนผมผมมองว่า ญี่ปุ่นยังสนุกกับแคมกระดิกและไฮบริดอยู่น่ะแหละ อีกอย่างระบบเกียร์ด้วย...อย่าลืม
มันไม่ใช่แค่เครื่องยนต์ เกียร์ก็มีส่วนช่วยให้รถวิ่งดีหรือแย่ ประหยัดหรือกินน้ำมันด้วย

ส่วนอะไรดีกว่าอะไร เอาว่าคุณอยากซื้ออะไรก็ซื้อไปเหอะครับ เงินคุณ....

Get เลยครับ โดยเฉพาะคำส่งท้ายของพี่แพนนั้นทำให้ Get ขึ้นมามากทีเดียว

ถ้าสรุปตามเนื้อความน่าจะได้ประมาณว่า

1. ถ้ารถมือ 1 ราคาเท่าๆกัน ยังไงก็ไปยุโรป เพราะคุ้มกว่า ทั้งของเรื่องเครื่องยนต์ วัสดุประกอบภายในและภายนอก รวมไปถึง Options ที่มามากกว่า
2. ถ้ารถมือ 2 ราคาเท่าๆกัน ญี่ปุ่น(Lexus) น่าจะคุ้มกว่า เพราะน่าจะโดนเอามาซ่อมแน่ๆ แล้วเหมือนพี่แพนจะพยายามบอกว่าค่าซ่อม Lexus มันถูกกว่า BMW หรือ Benz อย่ามีนัยสำคัญ(รึเปล่า?) ;D

ปล. คนญี่ปุ่นนี่เขามี Concept ทำสินค้าได้เหมือนกันไปหมดจริงๆ ทั้ง คอมฯ, กล้อง, มือถือ มาจนถึงรถยนต์ คือราคาเท่าชาวบ้าน แต่ Spec ต่ำกว่าเสมอๆ...... เขามั่นใจในตัวเองจริงๆ

ถ้างั้นก็อย่ามาซื้อรถญี่ปุ่นเลยครับ  และเกมแข่งรถที่เล่นอยู่ก็คงเป็นของญี่ปุ่นสินะ
อีกอย่าง Attitude แบบนี้ไม่ต้องซื้อรถเหมือนเดิมแหละดีแล้ว
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 21:20:41

ถ้างั้นก็อย่ามาซื้อรถญี่ปุ่นเลยครับ  และเกมแข่งรถที่เล่นอยู่ก็คงเป็นของญี่ปุ่นสินะ
อีกอย่าง Attitude แบบนี้ไม่ต้องซื้อรถเหมือนเดิมแหละดีแล้ว

แบบนี้เขาเรียก มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ!!!

ถามดีๆตอบดีๆ มีการศึกษาหน่อยครับ ผมไม่ได้มากวนเท้าใคร มาหาข้อมูล และก็ตอบอะไรไปตามจริงตามที่เห็น ส่วนเรื่องคอม เรื่องกล้อง ผมจบวิทย์คอม เล่นคอม เล่นกล้อง ผมดีรู้ว่า Sony Vaio หรือ กล้อง Sony Alfa มัน Specs เป็นอย่างไร ราคาเท่าไหร่ ผมก็เลยพูดไปตามความจริง ซึ่งความมั่นใจนี้ของคนญี่ปุ่นในหลายๆเรื่องผมก็ชอบ ดังนั้นอย่ามาตอบอะไรแบบไร้สาระแบบนี้ครับ เสียสายตา!!!
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ตุลาคม 09, 2013, 21:42:34
ใจเย็น ๆ ครับ พี่น้อง

ญี่ปุ่นมันก้ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นหรอกครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ ตุลาคม 09, 2013, 22:15:16
อย่าว่างั้นว่างี่  เลยนะครับ  ผมสังเกตุว่า จขกท.อคติกับรถญี่ปุ่นมากไปหรือเปล่าครับ  ทั้งญี่ปุ่นและยุโรปต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปครับ   อันนี้พูดตรงๆอย่าโกรธกันนะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 22:22:53
อย่าว่างั้นว่างี่  เลยนะครับ  ผมสังเกตุว่า จขกท.อคติกับรถญี่ปุ่นมากไปหรือเปล่าครับ  ทั้งญี่ปุ่นและยุโรปต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปครับ   อันนี้พูดตรงๆอย่าโกรธกันนะครับ

ไม่ได้อคติครับ ถ้าราคาต่ำกว่า 2 ล้าน พูดง่ายๆ B-C-D Segment บ้านๆที่เราเห็นกันเกลื่อนเมือง ผมไม่เกี่ยงเลยที่จะควักเงินซื้อรถญี่ปุ่นหรือ USA ครับ เพราะมันก็เหมือนๆกัน ต่างกันก็แค่ Options และรูปร่างที่ให้มา

ผมถามในตัวที่ราคาสูงทั้งนั้นครับผม เพราะว่ามันมีตัวเทียบที่แตกต่างในด้านเครื่องยนต์ชัดเจนของสองฝั่งความคิดจากสองทวีป เรียกว่าคนละขั้วกันเลยครับ ผมเลยอยากรู้ว่ามันดีหรือเสียต่างกันอย่างไร และก็เติมทัศนคติของผมลงไปตามประสาคนไม่รู้ ว่าทางไหนมัน่าจะดูดีคุ่มค่ากว่าก็เท่านั้น แต่ถ้าผมไม่ถูก ก็แค่อยากจะรู้ว่าไม่ถูก อย่างไร เหตุผลอะไร ก็เท่านั้น ก็จะได้เปลี่ยนความคิดครับ

เข้าใจกันทั่วหน้านะครับผม
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: unconsent ที่ ตุลาคม 09, 2013, 22:29:07
มองในแง่เศรษฐศาสตร์ รถญี่ปุ่นคุ้มกว่าพันล้านเปอร์เซ็นต์

แต่ถ้าคุณเงินเหลือ จ่ายมากกว่าย่อมได้ของดีกว่า แค่อัตราส่วนของราคาที่เพิ่มกับสิ่งที่ได้จะคุ้มหรือไม่นั่นอีกเรื่อง แต่ยังไงๆ รถญี่ปุ่นก็สู้รถระดับที่ว่ามาไม่ได้หรอกครับ มันเป็นนโยบายเลย ส่วนที่มาอวยกันเองนั่นก็อีกเรื่อง

อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้ว ฐานะต่างกัน วิธีการคิดก็ย่อมต่างกัน ส่วนจะคุ้มสำหรับใครอันนั้นก็สุดแล้วแต่เจ้าของเงินแล้วล่ะครับ

ไม่งั้น rolls-royce คงไม่ได้มาตั้งโชวน์รูมที่พารากอนหรอกครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Mongrun ที่ ตุลาคม 09, 2013, 22:30:53
ขอผมนอกประเด็นนิดนึงนะครับ เพราะผมว่าคำตอบในนี้คงเพียงพอแล้วละ

รถยนต์นี้มันเป็นเรื่องแปลกนะครับ มันเป็นทั้งวิทยาศาสตร์ และศิลปร่วมกัน
ถ้าคุณได้ลองติดตามรายการ top gear ของอังกฤษนะครับ รายการนี้เทสรถตั้งแต่รถบ้าน รถตลาด ยันรถระดับไฮเปอร์คาร์
คุณพิธีกร Jeremy Clarkson ซึ่งเทสรถเองด้วย เค้าจะมีอคติกับรถเยอรมันมากครับ ผมสังเกต
เค้าว่ามันดีทุกอย่างเลยครับ มีความคุ้มค่า แต่ทำให้เค้ารู้สึกเบื่อ แต่เค้ากลับชอบรถอิตาลี และอังกฤษ
เพราะเค้าว่ามันขับสนุกและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ตอนรีวิวนี่เหน็บแนมยับเลยครับ ว่าข้อเสียมีเยอะ แต่สุดท้ายก้อตบว่าชอบ

เช่นเดียวกันครับ ในเชิงของวิทยาศาสตร์แล้ว ตรรกะที่ดีที่สุดมีเพียงหนึ่งเดียว
แต่ตัวแปรสำคัญของคำตอบอยู่ที่อารมณ์ และความคิดเห็นส่วนตัวของแต่ละคนครับ
สิ่งที่ดีที่สุดของคนส่วนใหญ่อาจจะไม่ใช่สิ่งดีที่สุดของผมก็ได้

ถ้ามีรถคันนึงที่ดีสุดๆ ตามตรรกะแล้ว แต่หน้าตามันขี้เหร่ในสายตาผม ผมคงไม่ซื้อ
ถึงซื้อมาไม่นานก็ขาย ถึงไม่ขายก็หาเรื่องบ่นมันได้ทุกวันแหละน่า

ผมอ่านรีวิวพี่จิมมี่แต่ไม่เคยปักใจเชื่อ100% เชื่อถือในเรื่องข้อเท็จจริงเท่านั้น และเชื่อว่าพี่จิมมี่และพี่แพนก็อยากให้ผู้อ่านคิดแบบนี้
เพราะฉะนั้นเรื่องแบบนี้มันแล้วแต่คนชอบครับ ไม่มีผิดถูกจริงๆ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: taokung ที่ ตุลาคม 09, 2013, 22:56:17
ผมว่านะ โคช ได้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดและแนวทางการออกแบบเครื่องยนต์ไปพอสมควรแล้วล่ะครับ
คราวนี้โคชควรจะไปทดสอบเครื่องยนต์แต่ละประเภทด้วยตนเองครับ ทดสอบให้ครบถ้วนเลือกทดสอบ
เครื่อง na ก่อนแล้วค่อยขยับไป ชนิดที่มีระบบอัดอากาศ  คราวนี้หละจะได้รู้ด้วยตัวเองว่ารถแต่ละคันมี
feelingอย่างไร พอได้feelการขับขี่แล้วค่อยดูหน้าตา option และเรื่องการบริการหลังการขาย ส่วน
เรื่องศูนย์บริการแต่ละbrand ก็ลองหาในgoogleหรือในwebนี้ก็มีเยอะครับ ทั้งนี้ผมทราบดีว่าโคช มี
ความตั้งใจและเลือกสรร รถที่จะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ยังไงๆโคชก็ต้องทดสอบและเป็นผู้
ตัดสินใจด้วยตัวเองอยู่ดีครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ตุลาคม 09, 2013, 23:09:07
แล้ว จขกท ต้องการอะไรละ

รถแรง หรือ รถประหยัด ในสมรรถนะ และ ราคาใกล้เคียงกัน
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 09, 2013, 23:42:02
แล้ว จขกท ต้องการอะไรละ

รถแรง หรือ รถประหยัด ในสมรรถนะ และ ราคาใกล้เคียงกัน


ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นเลยครับ ผมก็แค่อยากรู้ว่าเครื่องแบบไหนมันดีกว่ากันระหว่าง ตัวเล็ก+โบ หรือตัวใหญ่ NA ดีกว่าด้อยกว่ากันอย่างไร? อย่างไหนอนาคตดีกว่ากัน?

และจริงๆผมก็ถามเฉพาะเรื่องตัวเครื่องยนต์เท่านั้นนะครับ

แต่ไม่เป็นไรครับ พี่แพนตอบมาให้เคลียร์หมดแล้วครับผม ขอบคุณมากๆครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Pasakorndvm ที่ ตุลาคม 09, 2013, 23:54:58
แม้ว่าเครืีองยนต์ฝั่งยุโรปจะออกแบบมาได้ดี
สำหรับผมมองว่า ไม่ว่าเครื่องผลิตมาจากไทเทเนี่ยม พลาสติก
ผูกโบ ไฟฟ้า lpg ngvในคันเดียวกัน หรือ แยกกัน ถ้ามันให้ความรู้สึก
ตอบสนองการขับขี่ได้ ก็ชอบมันครับ

แต่อยากฝากไว้อย่างนึง ความเรียบร้อยในการผลิต ความทนทาน
ของเครื่องยนต์ กลับเป็น honda เป็นเบอร์1ของโลก และไม่ได้สะท้อนภาพ ยอดขาย

แมวสีไหนถ้าจับหนูได้ ก็ใช้มันครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: gttle ที่ ตุลาคม 10, 2013, 00:45:09
ผมว่าท่าน จขกท. คงต้องไปลองดูเองดีที่สุดล่ะครับ..คือตามที่ดูวัดความคุ้มต่อราคาในเรื่อง +turbo +option เหมือนเครื่องเล็กผูกโบของยุโรปจะประหยัดกว่าแต่จริงๆมันต้องพิจารณาด้วยว่าของที่ให้มาได้ใช้คุ้มไหมพอหมดอายุเปลี่ยนค่าใช้จ่ายสูงแค่ไหน..เยอะนะครับบางทีไอ้ความคุ้มเรื่อง option ความประหยัดอะไรที่ว่าดีกว่าพอเจอเรื่องค่าซ่อมตอนหมดอายุไปจบเลยหมดไปกับค่าซ่อมคิดดูว่าถ้า BMW รุ่นนี้มันถึงตอนซ๋อม turbo นี่จะหมดเท่าไหร่คุ้มกับค่าน้ำมันที่ประหยัดมารึเปล่า..นี่วัดที่เรื่องเครื่อง  ส่วนถ้าเรื่องวัสดุภายในการตกแต่งผมว่า BMW BENZ ยังสู้ LEXUS รถญี่ปุ่นไม่ได้เลยครับ..เพราะงั้นจะว่าซื้อรถยุโรปคุ้มกว่านี่ผมว่าต้องดูว่าคำว่าคุ้มกว่าคืออะไร?? วัดโดยรวมหรือเฉพาะเรื่อง วัดเรื่องสมรรถนะเครื่อง + เกี่ยร์ ok ครับ แต่ถ้าวัดรวมถึงเรื่องค่าใช้จ่ายในอนาคต เรื่องวัสดุตกแต่ง ความคุ้มค่าระยะยาว..ไม่เสมอไปครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: LaTeX ที่ ตุลาคม 10, 2013, 00:58:36
แม้ว่าเครืีองยนต์ฝั่งยุโรปจะออกแบบมาได้ดี
สำหรับผมมองว่า ไม่ว่าเครื่องผลิตมาจากไทเทเนี่ยม พลาสติก
ผูกโบ ไฟฟ้า lpg ngvในคันเดียวกัน หรือ แยกกัน ถ้ามันให้ความรู้สึก
ตอบสนองการขับขี่ได้ ก็ชอบมันครับ

แต่อยากฝากไว้อย่างนึง ความเรียบร้อยในการผลิต ความทนทาน
ของเครื่องยนต์ กลับเป็น honda เป็นเบอร์1ของโลก และไม่ได้สะท้อนภาพ ยอดขาย

แมวสีไหนถ้าจับหนูได้ ก็ใช้มันครับ
ขอแทรกนิดนะครับ ที่ว่าhondaนี่ทนเฉพาะเครื่องไม่นับยางรองแท่นเครื่องที่เสียกันบ่อยๆในcivic fdใช่มั้ยครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: AMG GT ที่ ตุลาคม 10, 2013, 09:55:18
แม้ว่าเครืีองยนต์ฝั่งยุโรปจะออกแบบมาได้ดี
สำหรับผมมองว่า ไม่ว่าเครื่องผลิตมาจากไทเทเนี่ยม พลาสติก
ผูกโบ ไฟฟ้า lpg ngvในคันเดียวกัน หรือ แยกกัน ถ้ามันให้ความรู้สึก
ตอบสนองการขับขี่ได้ ก็ชอบมันครับ

แต่อยากฝากไว้อย่างนึง ความเรียบร้อยในการผลิต ความทนทาน
ของเครื่องยนต์ กลับเป็น honda เป็นเบอร์1ของโลก และไม่ได้สะท้อนภาพ ยอดขาย

แมวสีไหนถ้าจับหนูได้ ก็ใช้มันครับ
ขอแทรกนิดนะครับ ที่ว่าhondaนี่ทนเฉพาะเครื่องไม่นับยางรองแท่นเครื่องที่เสียกันบ่อยๆในcivic fdใช่มั้ยครับ
คิดคงงั้นอ่ะครับ  5555 แจ่ดมืองนอกเค้าไม่มีปัญหานี้นะ  อาจจะเพระาซัพพาย  บ้านเราไม่ดีด้วยแหละครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ ตุลาคม 10, 2013, 10:24:45
กระทู้นี้น่าสนใจดี ผมขออนุญาตเจ้าของกระทู้เอาไปเขียน blog นะครับ

บางทีในหัวน่ะรู้ แต่ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเขียนเรื่องอะไร ประเด็นเรื่องการพัฒนาเครื่องนี่ที่จริงรู้
แต่ไม่เคยคิดจะเขียน เพราะไม่มีใครถาม 555

ส่วนตัวผมเมื่อเทียบปรัชญาญี่ปุ่น กับปรัชญายุโรป..(พูดถึงเรื่องเครื่องและเกียร์)
ผมชอบยุโรปมากกว่าครับ มากกว่าแนวคิดมอเตอร์+CVT ของญี่ปุ่นเยอะ แต่ปัญหามันคือ
รถญี่ปุ่นที่เครื่องและเกียร์เป็นแบบที่ผมต้องการ ก็มีแต่รถเก่าหน่อย...ส่วนรถยุโรปที่ได้เครื่อง
และเกียร์แบบที่ผมต้องการ ราคามันก็เกินเอื้อมไปไกลมาก ผมก็เลยต้องอยู่กับรถญี่ปุ่นและเครื่องญี่ปุ่นไป
และเอ็นจอยกับความใช้ง่ายใช้สบายของมัน แต่นั่นก็ไม่ได้ลบความจริงว่าสไตล์การทำเครื่องและเกียร์ของยุโรป
มันเข้าทางผมมากกว่า

หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ตุลาคม 10, 2013, 12:01:15
แม้ว่าเครืีองยนต์ฝั่งยุโรปจะออกแบบมาได้ดี
สำหรับผมมองว่า ไม่ว่าเครื่องผลิตมาจากไทเทเนี่ยม พลาสติก
ผูกโบ ไฟฟ้า lpg ngvในคันเดียวกัน หรือ แยกกัน ถ้ามันให้ความรู้สึก
ตอบสนองการขับขี่ได้ ก็ชอบมันครับ

แต่อยากฝากไว้อย่างนึง ความเรียบร้อยในการผลิต ความทนทาน
ของเครื่องยนต์ กลับเป็น honda เป็นเบอร์1ของโลก และไม่ได้สะท้อนภาพ ยอดขาย

แมวสีไหนถ้าจับหนูได้ ก็ใช้มันครับ
ขอแทรกนิดนะครับ ที่ว่าhondaนี่ทนเฉพาะเครื่องไม่นับยางรองแท่นเครื่องที่เสียกันบ่อยๆในcivic fdใช่มั้ยครับ

ถามว่า Honda เครื่อง ทนไหม
ทนครับ แต่ในความคิดผมไม่ได้ ทนจนกระโดดหนี Toyota
แต่ Honda เรื่อง เสียง BSR นี่ผมรับบ่ได๋ จริง ๆ นะครับ
ไล่ตั้งแต่
Jazz FD CR-V Gen 1 นี่ ไปลองขับดู ขอบอก ระรัวและอนาจ
แล้วลองเอา สามคันนี้มา เทียบ เสียง BSR หรือเสียงที่ก่อให้เกิดความรำคาญ
เทียบกับ Vigo และ Altis ดูนะครับ จะเห็นความต่าง
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 10, 2013, 14:56:45
กระทู้นี้น่าสนใจดี ผมขออนุญาตเจ้าของกระทู้เอาไปเขียน blog นะครับ

บางทีในหัวน่ะรู้ แต่ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเขียนเรื่องอะไร ประเด็นเรื่องการพัฒนาเครื่องนี่ที่จริงรู้
แต่ไม่เคยคิดจะเขียน เพราะไม่มีใครถาม 555

ส่วนตัวผมเมื่อเทียบปรัชญาญี่ปุ่น กับปรัชญายุโรป..(พูดถึงเรื่องเครื่องและเกียร์)
ผมชอบยุโรปมากกว่าครับ มากกว่าแนวคิดมอเตอร์+CVT ของญี่ปุ่นเยอะ แต่ปัญหามันคือ
รถญี่ปุ่นที่เครื่องและเกียร์เป็นแบบที่ผมต้องการ ก็มีแต่รถเก่าหน่อย...ส่วนรถยุโรปที่ได้เครื่อง
และเกียร์แบบที่ผมต้องการ ราคามันก็เกินเอื้อมไปไกลมาก ผมก็เลยต้องอยู่กับรถญี่ปุ่นและเครื่องญี่ปุ่นไป
และเอ็นจอยกับความใช้ง่ายใช้สบายของมัน แต่นั่นก็ไม่ได้ลบความจริงว่าสไตล์การทำเครื่องและเกียร์ของยุโรป
มันเข้าทางผมมากกว่า



ขอบคุณมากๆครับพี่แพน ผมถือว่าเป็นเกียรติมากๆครับ  :)
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Nlight ที่ ตุลาคม 10, 2013, 17:08:26
กระทู้นี้น่าสนใจดี ผมขออนุญาตเจ้าของกระทู้เอาไปเขียน blog นะครับ

บางทีในหัวน่ะรู้ แต่ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเขียนเรื่องอะไร ประเด็นเรื่องการพัฒนาเครื่องนี่ที่จริงรู้
แต่ไม่เคยคิดจะเขียน เพราะไม่มีใครถาม 555

ส่วนตัวผมเมื่อเทียบปรัชญาญี่ปุ่น กับปรัชญายุโรป..(พูดถึงเรื่องเครื่องและเกียร์)
ผมชอบยุโรปมากกว่าครับ มากกว่าแนวคิดมอเตอร์+CVT ของญี่ปุ่นเยอะ แต่ปัญหามันคือ
รถญี่ปุ่นที่เครื่องและเกียร์เป็นแบบที่ผมต้องการ ก็มีแต่รถเก่าหน่อย...ส่วนรถยุโรปที่ได้เครื่อง
และเกียร์แบบที่ผมต้องการ ราคามันก็เกินเอื้อมไปไกลมาก ผมก็เลยต้องอยู่กับรถญี่ปุ่นและเครื่องญี่ปุ่นไป
และเอ็นจอยกับความใช้ง่ายใช้สบายของมัน แต่นั่นก็ไม่ได้ลบความจริงว่าสไตล์การทำเครื่องและเกียร์ของยุโรป
มันเข้าทางผมมากกว่า



รอติดตามอ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: kwancanoe ที่ ตุลาคม 10, 2013, 19:50:22
กระทู้นี้น่าสนใจดี ผมขออนุญาตเจ้าของกระทู้เอาไปเขียน blog นะครับ

บางทีในหัวน่ะรู้ แต่ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเขียนเรื่องอะไร ประเด็นเรื่องการพัฒนาเครื่องนี่ที่จริงรู้
แต่ไม่เคยคิดจะเขียน เพราะไม่มีใครถาม 555

ส่วนตัวผมเมื่อเทียบปรัชญาญี่ปุ่น กับปรัชญายุโรป..(พูดถึงเรื่องเครื่องและเกียร์)
ผมชอบยุโรปมากกว่าครับ มากกว่าแนวคิดมอเตอร์+CVT ของญี่ปุ่นเยอะ แต่ปัญหามันคือ
รถญี่ปุ่นที่เครื่องและเกียร์เป็นแบบที่ผมต้องการ ก็มีแต่รถเก่าหน่อย...ส่วนรถยุโรปที่ได้เครื่อง
และเกียร์แบบที่ผมต้องการ ราคามันก็เกินเอื้อมไปไกลมาก ผมก็เลยต้องอยู่กับรถญี่ปุ่นและเครื่องญี่ปุ่นไป
และเอ็นจอยกับความใช้ง่ายใช้สบายของมัน แต่นั่นก็ไม่ได้ลบความจริงว่าสไตล์การทำเครื่องและเกียร์ของยุโรป
มันเข้าทางผมมากกว่า


เรียนถามพี่แพนครับ ผมติดใจประโยคนึงของพี่แพนครับ ที่ว่า "ส่วนรถยุโรปที่ได้เครื่องและเกียร์แบบที่ผมต้องการ ราคามันก็เกินเอื้อมไปไกลมาก"
ผมอยากรู้ว่าที่ว่าแพงนี่ มันแพงจริงๆ หรือว่าแพงเพราะภาษีบ้านเราครับผม ซึ่ง ถ้าหากว่ามันแพงเพราะกำแพงภาษีบ้านเรา ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ว่ารถยุโรปที่มาทำโรงงานผลิตอยู่แถวๆบ้านเรานั้นจะทำให้เราได้ใช้รถที่ดีแต่ราคาถูกหรือไม่ครับผม อย่างเช่น Volvo และ Peugeot ที่มาทำโรงงานอยู่ที่มาเลเซียครับ แล้วรถของพวกเขาก็ราคาถูกลงมามากๆจริงๆ แต่...ดีหรือป่าวหนอ???
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ ตุลาคม 11, 2013, 00:10:30
มันต้องพูดกันเป็นคันๆไป แต่ถ้าให้พูดกันแบบง่ายๆกันเองๆก็คือผมไม่มีเงินล้านบาทไว้ซื้อรถ
ยุโรปป้ายแดงเล่นเหมือนกับอีกหลายๆคนครับ ผมถึงบอกว่ามันแพงเกินเอื้อม
ปัญญาระดับผมเล่นได้คือหลักแสน ซึ่งไม่มีรถยุโรปป้ายแดงหลักแสนที่มีเทอร์โบ
และเกียร์อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ CVT(และไม่ต้องเล่นมุกรถกระบะมีโบนะเบื่อแล้ว 55)

เรื่องภาษี? มีส่วน รถนำเข้าภาษีแพงกว่ารถประกอบในอยู่แล้ว..แต่รถนำเข้า
จากประเทศที่มีข้อยกเว้นพิเศษ จะได้ภาษีถูกกว่า เช่นรถมาเลย์ รถอินโด
และรถจากออสเตรเลีย จะได้ภาษีถูกกว่ารถนำเข้าจากอิตาลี อังกฤษ ยุโรปต่างๆ

ภาษีมีส่วนทำให้รถแพงขึ้น แต่บริษัทรถยนต์ก็สามารถหาวิธีสู้ได้ ถ้าคิดจะทำ
สมัยก่อนที่ Volvo เปลี่ยนมือมาอยู่ใต้การดูแลของคุณตุ้ม ฉันทนา มีอยู่ช่วงนึงที่
เราได้ใช้ S60 2.0 ในราคาที่ไม่แพงมากนัก เพราะถึงโดนภาษีแพง คุณตุ้มก็มาตัดมาทอน
เอากับค่าใช้จ่ายภายในองค์กร รถทุกคันมีราคาที่กำเนิดมาจากต้นทุน บวกกำไรและภาษี
เมื่อภาษีแพงมาก แต่อยากขายถูก ก็ต้องลดต้นทุน หรือยอมเฉือนกำไร ต้นทุนที่ว่านี่
มีทุกอย่าง รวมแม้กระทั่งเงินเดือนพนักงาน

แต่ยอด Volvo ในไทยก็ไม่เดิน ไม่มีทางกลับไปเหมือนยุค 940 ได้ในช่วงนี้ ท้ายสุด
ก็ต้องย้ายสายการผลิตในประเทศไปมาเลย์ แล้วนำเข้าจากมาเลย์ ซึ่งก็เสียภาษีไม่แพงเท่า
นำเข้าจากเบลเยียมหรือฮังการี

นอกจากเรื่องภาษีนำเข้า vs ประกอบใน vs นำเข้าแบบมีสิทธิพิเศษระหว่างประเทศแล้ว
ส่วนนึงมันคือเรื่องกลยุทธ์การตั้งราคาของแต่ละค่าย (ซึ่งตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความเลิศเลอ
ทางวิศวกรรมของตัวรถ เราพูดกันถึงตัวรถที่ถูกส่งมาเป็นตัวๆแล้ว แล้วก็มีคนกลุ่มหนึ่งคิด
ราคาว่าจะขายกันเท่าไหร่)

ทั้งหมดนี้รวมกัน ทำให้ระบบราคาของประเทศไทย ยากที่จะมานั่งบอกว่าตกลง
ใครทำรถแพงเพราะดี ใครทำรถแพงเพราะ..แค่อยากขายแพง

ที่ออสเตรเลีย 86 ตัวท้อป ราคาเท่ากับ Honda CR-Z แล้วเมืองไทยล่ะ?
Mini Cooper แพงกว่าทั้ง 86และ CR-Z แต่ก็เท่ากันกับ Golf GTi 5 ประตู?
ความต่างของราคาระหว่าง CR-Z ในไทยกับ Mini Cooper ในไทยนั้น มากพอ
ให้ซื้อรถ Ford Fiesta ได้หนึ่งคัน แต่ที่ออสเตรเลีย สองคันนี้ราคาต่างกัน
แค่ 5,000 ดอลลาร์..ซื้อรถ Fiesta ที่นั่นได้ไม่ถึงครึ่งคัน

แต่ที่เมืองไทย..86 ตัวท้อปกลับแพงพอๆกันหรือแพงกว่า Mini Cooper
และสูสีกับ Golf GTi..หุหุ.(อย่าไปนับตอนGTiมันโปรลดราคาโละสต็อคล่ะ)

เห็นจากทั้งหมดนี้ เราควรสรุปว่าไง? 86 ตั้งราคาแพงเกินสิ่งที่มันให้?
Mini เมืองไทยตั้งราคาแพงเกินไป? CR-Z ห่วยหรือไม่ได้ห่วยแต่เน้นการกดราคา?

ถ้าเริ่มงง ไม่เป็นไร ผมเขียนเองก็งงๆง่วงๆเหมือนกัน แต่แนะว่าเคสแบบนี้
ยกรถมาเล่นกันทีละยี่ห้อ หรือทีละรุ่นจะเปรียบได้มันส์กว่า เพราะยุโรปสมัยนี้
บางทีก็ตั้งราคาซะเวอร์ แต่บางค่ายก็ตั้งราคามาแสบมาก
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ตุลาคม 11, 2013, 09:41:20

 ;D

ถ้าใครอ่านที่คุณ คุณ แพน พูดมา แล้วงง อยู่
แล้วอยากรู้ว่า ซื้อรถคันหนึ่ง ว่า ราคามันเหมาะสมไหม ต้นทุน จริงๆ มันเท่าไหร่

ลองไปดู ราคา มองนอก อเมริกา ออสเตรเลีย เทียบกัน รุ่นต่อรุ่น ดู

แล้วลองมาเทียบกับบ้านเรา
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ ตุลาคม 11, 2013, 11:37:00
แต่ถ้าเช็คราคาเมืองนอก อย่าลืมดูวิธีการคิดภาษีของเมืองนอกด้วยแล้วกันว่าเขาชาร์จ%และแบ่งระดับเหมือนบ้านเราหรือเปล่า
เพราะราคาที่เห็นที่ค้นกัน มีภาษีอยู่ในนั้น
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ ตุลาคม 11, 2013, 11:46:56
แต่ถ้าเช็คราคาเมืองนอก อย่าลืมดูวิธีการคิดภาษีของเมืองนอกด้วยแล้วกันว่าเขาชาร์จ%และแบ่งระดับเหมือนบ้านเราหรือเปล่า
เพราะราคาที่เห็นที่ค้นกัน มีภาษีอยู่ในนั้น
เขาคิดแต่ Vat หรือเปล่านะพี่ หรือไม่มี Vat แต่มีภาษีเพียวๆ อาจจะน้องเช่น 3 5 10%

บ้านเราขั้นต่ำรถเก๋งก็ 17% แล้วครับ รวม Vat อีก 7% เป็นเกือบๆ 25% แล้ว
หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: SignifeR ที่ ตุลาคม 12, 2013, 17:57:03
แล้ว จขกท ต้องการอะไรละ

รถแรง หรือ รถประหยัด ในสมรรถนะ และ ราคาใกล้เคียงกัน


ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นเลยครับ ผมก็แค่อยากรู้ว่าเครื่องแบบไหนมันดีกว่ากันระหว่าง ตัวเล็ก+โบ หรือตัวใหญ่ NA ดีกว่าด้อยกว่ากันอย่างไร? อย่างไหนอนาคตดีกว่ากัน?

และจริงๆผมก็ถามเฉพาะเรื่องตัวเครื่องยนต์เท่านั้นนะครับ
แต่ไม่เป็นไรครับ พี่แพนตอบมาให้เคลียร์หมดแล้วครับผม ขอบคุณมากๆครับ

ผมมองว่า แค่คุณซื้อรถคันนั้นมาใช้....มันก็หมดอนาคตแล้วครับ...เพราะมันคือปัจจุบันของคุณแล้วนั่นเอง
เกทป่ะ

และสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคำตอบคือ "เงิน" ที่คุณอยากลงทุนกับ "หนี้สิน" ก้อนนี้ + รสนิยมของคุณ = คำตอบที่คุณต้องเลือกด้วยตัวคุณเอง
เพราะวิชาการไม่สามารถให้คำตอบได้ดีเท่า ประสบการณ์นะ คนเราเรียนรู้ถูกผิดจากรประสบการณ์ ดังนั้น ในแง่คำถาม ผมเชื่อว่าคุณ
ได้ความรู้จากวิชาการ ในการเลือกแล้ว ต่อไปคือ คุณ ต้องหาประสบการณ์เอาเอง ไม่มีใครให้คุณได้หรอก

ดังนั้น คุณหวังอะไร? ต้องย้อนกลับไปถามตัวเองเช่นกันว่า คุณหวังอัตราเร่งของเทอร์โบ และยอมแรกกับเทคโนโลยีนี้หรือไม่ (ในราคาที่สูงกว่ารถตลาด) เพราะส่วนมากเครื่องเล็กเซ็ทโบ จากโรงงานคือรถยุโรป หรือ คุณยอมถอยมาดูเทคโนโลยีแคมกระดิก หรือ ไฮบริด ด้วยราคาค่าตัวที่ย่อมเยาว์กว่า

คำถามต่อไปคือ แคร์เครื่องยนต์มากระดับไหน? จุดประสงค์ที่ต้องแคร์กับมันมากๆ เพราะอะไร ? นั่นคือสิ่งที่ผมถามเพื่อให้คุณไปคิดต่อว่า
รถที่คุณต้องการ คุณวัดที่เครื่องเล็กแรงบิดสูงประหยัดน้ำมัน เครื่องใหญ่เกียร์ฉลาดประหยัดน้ำมัน
หรือ....เครื่องใหญ่แรงบิดสูงมากและกินน้ำมันชิบหาย(รถผม..)

หรือแคร์เรื่องการบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน หรือ ต้องกว้างขวางนั่งสบาย ฯลฯ เห็นมั๊ยว่าปัจจัยในการเลือกรถมันไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องยนต์
สุดท้าย ปัจจัยอื่นๆ ก็จะเข้ามามีน้ำหนักมากกว่าเครื่องยนต์ก็เป็นได้

นั่นอยู่ที่ตัวคุณ ณ ปัจจุบัน ไม่ใช่อนาคตเลยครับ

เพราะไม่งั้น คุณก็จะพูดแค่ว่า โห กรูไม่น่าถามแม่มเลย ถ้ารู้ว่า อนาคตมันซ่อมแพงขนาดนี้ จริงหรือเปล่า???
หรือ โหยยยย กรูไม่น่าเชื่อมันเล๊ยยยยย แดรกน้ำมันชิบหาย รู้งี้ กรูไปขับรถเครื่องสองพันเกียร์ CVT ดีกว่า...

อะไรคือคำตอบที่ถูกต้อง คือ..."ไม่มีครับ"
เพราะอะไร ?  เพราะรถ คือ เทคโนโลยี + ความชอบส่วนตัว

หลายคนถามผมว่า มรึงจะไปซื้อมาทำไมฟะ รถห่..ไร เครื่องก็ใหญ่ กินน้ำมันมาก รถก็เฉพาะกลุ่ม ซ่อมที่ไหน แพงก็แพง
ผมตอบ เพื่อนผมกลับไปง่ายๆว่า อ้าว ตังค์กรูอ่ะ...จบมั๊ย


ดังนั้น เราจะเจอแต่คนที่อยากได้รถดังข้างล่างนี้...

ฉันอยากได้รถเทพที่ เครื่องเทพ เล็ก แรง ประหยัดน้ำมันโคตรๆ เครื่องเสียงดีๆ เบาะนุ่มนั่งสบาย
วัสดุดีโคตรๆ ขับขี่ดีโคตรๆ ซ่อมถูกโคตรๆ ราคาป้ายแดงก็ถูกโคตรๆ  ราคาขายต่อก็ดีโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หาได้ป่ะหล่ะ...





หัวข้อ: Re: ทำไมรถญี่ปุ่นไม่ชอบติด Turbo มาจากโรงงานครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ตุลาคม 12, 2013, 19:35:55


ผมคนนึงละที่เอาความชอบมาก่อน
ดีกว่ายอมขับรถที่ไม่ชอบ 5555