Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ichok ที่ ตุลาคม 10, 2013, 21:31:34
-
ตามหัวขัอเลยครับ ขอยกตัวอย่าง แคมรี่กะแอกคอร์ดป้ายแดง ยังมีd segment ยุโรปมือสองรุ่นไหนที่สมรรถนะดีกว่าอยู่หรือไม่ครับ ถ้าดีกว่าคือรุ่นไหนและดีกว่าในด้านใดครับ ตามประสบการณ์ของสมาชิกทุกท่านเลยครับ ขอบคุณครับ
-
ผมเคยลองขับ camry โฉมที่แล้ว เทียบกับ e46 323ตายกที่ผมใช้อยู่สมัยนั้น ขอเรียนตรงๆว่า e46 ขับดีกว่าเยอะ ทั้งๆที่รถเก่ากว่าน่าจะ 6-7 ปีขึ้น
โฉมปัจจุบันผมไม่เคยลอง แต่เทียบกับ e60 ที่ใช้อยู่ กับ e46 คันเก่า ผมก็ว่า e60 ขับดีกว่าเยอะมากๆ
-
งั้นถามด้วยครับ เเคมรี่acv50 HV กับ e60 ช่วงล่างe60 ดีกว่ามากไหมครับ
-
เรื่องการเก็บเสียงการประกอบดีกว่ามากครับ เอาตรงๆคือแทบทุกรุ่นย้อนไปได้ 2-3เจนเนอเรชั่นเลย
ตัวผมเองนอกจากตัว F10 ตัวล่าสุดที่คุณพ่อใช้อยู่ ก็เคยนั่ง E39 กับ W211 ครับ
ยอมรับเลยว่า เงียบ ช่วงล่างดี (ไม่เคยขับ2คันนี้ครับ) การประกอบ วัสดุที่ใช้ดีกว่าชัดเจน
ยังแปลกใจว่า รถก็เก่ากว่าตั้งเป็นสิบๆปี แต่ยังขับดีกว่า(ACV40 2.4)
แต่ที่บ้านผมก็ใช้แครี่มา 3 เจนตั้งแต่ 20 30 40 ครับ
เรื่องพื้นที่โดยสารรถญี่ปุ่นได้ไปเต็มๆเลย
แล้วก็เรื่องวัสดุ ที่ถึงจะดูดีกว่า แต่สมัย E39 ก็เห็นเจ้าของรถบ่นมาว่า
พลาสติกเอย ชอบลอก ชอบหัก จอวิทยุขาด ประมาณนั้นอ่ะครับ
ส่วน E60 กับ ACV50 ยังไม่เคยนั่งทั้งคู่ครับ
ถ้า ACV40 กับ F10 นี่ไม่ต้องสืบครับ :P
-
CAMRY AHV50 vs F10 ยังต่างกันอยู่เยอะมากคับ
ทั้งเก็บเสียง ทั้งคุณภายวัสดุ ทั้งการประกอบ และมองด้วยตา และ สายตาสังคม
-
ขับBenz W123 W124 W210 ซ่อมแบบจบๆอะไรไม่ดีเปลี่ยนใหม่หมด ขับแล้วช่วงล่างดีกว่านั่งสบายกว่า camry hybrid หรือ accord g8 อีก รวมทั้งbenz w212 ด้วย
แต่เรื่องอัตราเร่ง การกินน้ำมัน คงจะสู้ไม่ได้
-
ดีกว่าครับ ถึงจะเป็นมือสอง เพราะสมรรถนะมันก็ยังเป็นมือ 1 อยู่(ถ้ารักษาดีนะ) ราคามือสองก็ยังแพงกว่ามือ 1 ญึ่ปุ่อ่ะ
-
แต่ถ้าเรามาเปรียบเทียบ D segment ที่เป็นระดับพรีเมี่ยมอย่างLexus กับ Benz และ BMW ผมว่าการประกอบภาย วัสดุภายใน น่าจะพอๆกันนะครับ(หรืออาจดีกว่า)
ส่วนตัวที่บ้านใช้ ACV 40 ตัว 3.5 Q การประกอบภายใน เครื่องยนต์(ในกรณีcc เท่ากัน) ช่วงล่าง ยังสู้กับBenz BMW ก็การประกอบยังสู้ไม่ได้แม้จะเป็นมือ 2
(แต่เรื่องความคงทนของวัสดุอันนี้ไม่แน่ใจ) ส่วนถ้า ACV 50 หร์อ G9 ยังไม่เคยใช้ เลยยังไม่กล้าตอบครับ
-
ขับBenz W123 W124 W210 ซ่อมแบบจบๆอะไรไม่ดีเปลี่ยนใหม่หมด ขับแล้วช่วงล่างดีกว่านั่งสบายกว่า camry hybrid หรือ accord g8 อีก รวมทั้งbenz w212 ด้วย
แต่เรื่องอัตราเร่ง การกินน้ำมัน คงจะสู้ไม่ได้
จริงครับ
มี w210 211 นั่งหลัง ใช้แต่ w210 นั่งสบาย นุ่มกว่ามากเลยครับ
-
งั้นถามด้วยครับ เเคมรี่acv50 HV กับ e60 ช่วงล่างe60 ดีกว่ามากไหมครับ
ยังไม่เคยลอง acv50 ครับ เคยแต่ลองกดกะตัว hybrid คับ รู้ว่าแรงดี แต่เอาอยู่ อิๆๆ
-
ส่วนตัวก็เคยขับe39 มาก่อน แต่ก็ยังไม่เคยไปลองขับแคมรี่โฉมปัจจุบันว่าดีกว่าแย่กว่าอย่างไร
-
เทียบรถที่บ้าน MERCEDES-BENZ E-CLASS E200 KOM อายุ 10ปี กับ Honda Accord gen9 2.0EL พึ่งออกใหม่มานะครับ
ราคามือ 2 W211 ตอนนี้ใกล้เคียงกันกับ Accord 2013 มือ1
ถ้าเทียบสมรรถนะ, อัตราเร่ง, การประกอบ วัสดุภายใน แล้ว Benz ชนะครับ ถ้าเทคโนโลยีใหม่ๆ Smart entry ความประหยัด Accord ชนะครับ
หลายๆอย่างใน Benz อายุ 10ปีมีมาให้แต่ Accord ไม่มีก็เช่น เวลากดรีโมทเปิดประตูแล้วรถจะเปิดไฟหรี่หน้าให้อัตโนมัติ มีไฟตรงกระจกส่องพื้น ดึงกุญแจออกแล้วเบาะเลื่อนถอยให้เอง หลายๆอย่างไม่น่าเชื่อว่ามีมา 10ปีแล้วรถญี่ปุ่นพึ่งจะใส่มาให้ ตอนนี้ไม่รู้ว่ารถยุโรปใหม่ๆมาให้บ้าง
-
เทียบรถที่บ้าน MERCEDES-BENZ E-CLASS E200 KOM อายุ 10ปี กับ Honda Accord gen9 2.0EL พึ่งออกใหม่มานะครับ
ราคามือ 2 W211 ตอนนี้ใกล้เคียงกันกับ Accord 2013 มือ1
ถ้าเทียบสมรรถนะ, อัตราเร่ง, การประกอบ วัสดุภายใน แล้ว Benz ชนะครับ ถ้าเทคโนโลยีใหม่ๆ Smart entry ความประหยัด Accord ชนะครับ
หลายๆอย่างใน Benz อายุ 10ปีมีมาให้แต่ Accord ไม่มีก็เช่น เวลากดรีโมทเปิดประตูแล้วรถจะเปิดไฟหรี่หน้าให้อัตโนมัติ มีไฟตรงกระจกส่องพื้น ดึงกุญแจออกแล้วเบาะเลื่อนถอยให้เอง หลายๆอย่างไม่น่าเชื่อว่ามีมา 10ปีแล้วรถญี่ปุ่นพึ่งจะใส่มาให้ ตอนนี้ไม่รู้ว่ารถยุโรปใหม่ๆมาให้บ้าง
จริงครับ ผมเห็นว่าเรื่องออพชั่นยิบย่อย เล็กๆน้อยๆนั้นทางยุโรปจะใส่มามากกว่า ทางญี่ปุ่นจะเน้นเรื่องออพชั่นที่จับต้องได้พวกจอทัชสกรีน นาวิเกชั่น มากกว่า
ที่ผมเห็นยุโรปมีแล้วชอบคือ เวลาปลดล็อค ไฟหรี่จะสว่าง(เดี๋ยวนี้เป็น DRLละ) ดึงกุญแจออกแล้วพวงมาลัยเลื่อนเอง(เบาะเคยได้ยินว่ามีเคสที่มีของวางแล้วเลื่อนมาเบียดด้วย เหอะๆ) เวลาเปิดประตู นอกจากไฟรวมที่จะสว่างแล้ว ไฟอ่านแผนที่ของด้านที่เปิดประตูก็สว่างด้วย แอร์ออโต้แบบปรับความแรงได้
-
W124 อายุ 20กว่าปีกันตั้งหลายคัน ยังขับดีอยู่เลยครับ อัตราเร่ง การกินน้ำมัน สู้ได้บ้างไม่ได้บ้าง น้ำมันนี่สู้ไม่ได้แน่ แต่อัตราเร่งนี่ถ้าเล่นเกียร์เองพอไหวอยู่นา E280 ม้าตั้ง 195 ตัว ตีนต้นไม่ไหว แต่ตีนปลายมีทันนะผมว่า เท่าที่ใช้อยู่ ขับมั่นใจครับ แต่ไม่สนุก เหมือนขับรถถัง คือมันตรงไปดุ่ยๆอย่างงั้นแหละ ทางตรงนี่ผมยังไม่เคยเจอรถคันไหนให้ความมั่นใจได้เท่า W124 เลยนะครับ (ยกเว้นปลาวาฬ 140) แต่ทางโค้งนี่หลบให้พัดลมเค้าละครับ
E60 เคยลองขับของรุ่นน้อง วนสั้นๆ ไม่ได้ขับเร็ว มันนุ่มตูดมากครับ ขับขึ้นลูกระนาดแทบไม่รู้สึก นุ่มแบบ นี่กูนั่งอยู่บนนุ่นรึเปล่าวะ ไม่รู้ว่าน้องใช้ยาง/โช้ค/ช่วงล่างอะไร เปลียนรึเปล่านะครับ แต่มันนุ่มจริง เงียบจริง กับอีกคันคือของเพื่อน แต่คันนี้แต่งมาเต็มที่เลย รภนุ่มพอได้ แต่แอบกระด้างบ้างเล็กน้อย ขากลับวิ่งบนบรม 180 นิ่งเงียบมาก
HV ก็โอเคในระดับนึงนะครับ แต่มันมีความรู้สึกก๊อกแก๊กในช่วงล่าง หนึบจริง พวงมาลัยหนืดใช้ได้ แต่ไม่คมเท่ายุโรป แต่ออพชั่นนี่เยอะกว่ากันเยอะจริงๆครับ 124 ผมมีไอ้ที่พอจะสู้เดี๋ยวนี้ได้แค่ ปรับเบาะกับ memory แค่นั้นเลย
-
D seg premium ของญี่หุ่นเช่น lexusอาจสูสีมั้ง GS
-
ชนะ เหนือกว่า แต่ไม่ได้เหนือกว่าแบบฟ้ากับเหวครับ
คำถามคือ เหนือกว่าแบบไหน และความคาดหวังของคุณมีแค่ไหน
ถ้าขับ E90 มาก่อน หรือขับ E39 มาก่อน แล้วลงมาขับ ACV50 หรือ Accord G9
ทำใจไว้เลยว่า มันไม่ได้เกาะถนน ยัดโค้ง หรือวิ่งทางไกล 180-200 แล้วนิ่งๆแน่นอน
แต่... สิ่งที่คุณต้องการจาก D-Segment มือหนึ่งคืออะไร
1. สดใหม่ ไม่ต้องบำรุงรักษา
2. ไว้วางใจ ไม่ตายกลางทาง ใช้สบายใจไป 4-5 ปี
3. กว้าง อรรถะประโยชน์
แต่ คุณกำลังเอาสมรรถนะไปเปรียบ ซึ่งสู้ไม่ได้อยู่แล้ว มันดีเด่นคนล่ะด้าน
ถ้าต้องการ D-Segment ยี่ปุ่น เพราะ 3 หัวข้อข้างบน และอยากได้สมรรถนะช่วงล่างด้วย
ผมกล้าพูดได้เลยว่า D-Segment ยี่ปุ่น ก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันมาก
ถ้า E90 เดิมๆ ยัดโค้งๆนึงได้ 100 แล้วถึงลิมิตพอดีๆ
ผมเชื่อว่า แคมรี่ แอคคอร์ด ก็ยัดโค้งเดียวกันนี้ได้เกิน 80-85 แน่นอน
ถามว่า สมรรถนะช่วงล่าง ด้อยกว่ากัน 10-20% แต่การซื้อรถใหม่ เราต้องการอะไรมากกว่าช่วงล่าง
วิ่ง 160-200 สู้กัน D-Segment ยี่ปุ่นสู้ไม่ได้
แต่ถ้าขับไม่เกิน 120-140 หรือวิ่งรถติดๆในเมือง คลานๆอยู่แถวชานเมือง D-Segment ก็เพียงพอ
-
ชนะ เหนือกว่า แต่ไม่ได้เหนือกว่าแบบฟ้ากับเหวครับ
คำถามคือ เหนือกว่าแบบไหน และความคาดหวังของคุณมีแค่ไหน
ถ้าขับ E90 มาก่อน หรือขับ E39 มาก่อน แล้วลงมาขับ ACV50 หรือ Accord G9
ทำใจไว้เลยว่า มันไม่ได้เกาะถนน ยัดโค้ง หรือวิ่งทางไกล 180-200 แล้วนิ่งๆแน่นอน
แต่... สิ่งที่คุณต้องการจาก D-Segment มือหนึ่งคืออะไร
1. สดใหม่ ไม่ต้องบำรุงรักษา
2. ไว้วางใจ ไม่ตายกลางทาง ใช้สบายใจไป 4-5 ปี
3. กว้าง อรรถะประโยชน์
แต่ คุณกำลังเอาสมรรถนะไปเปรียบ ซึ่งสู้ไม่ได้อยู่แล้ว มันดีเด่นคนล่ะด้าน
ถ้าต้องการ D-Segment ยี่ปุ่น เพราะ 3 หัวข้อข้างบน และอยากได้สมรรถนะช่วงล่างด้วย
ผมกล้าพูดได้เลยว่า D-Segment ยี่ปุ่น ก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันมาก
ถ้า E90 เดิมๆ ยัดโค้งๆนึงได้ 100 แล้วถึงลิมิตพอดีๆ
ผมเชื่อว่า แคมรี่ แอคคอร์ด ก็ยัดโค้งเดียวกันนี้ได้เกิน 80-85 แน่นอน
ถามว่า สมรรถนะช่วงล่าง ด้อยกว่ากัน 10-20% แต่การซื้อรถใหม่ เราต้องการอะไรมากกว่าช่วงล่าง
วิ่ง 160-200 สู้กัน D-Segment ยี่ปุ่นสู้ไม่ได้
แต่ถ้าขับไม่เกิน 120-140 หรือวิ่งรถติดๆในเมือง คลานๆอยู่แถวชานเมือง D-Segment ก็เพียงพอ
เรื่องรถใหม่ไม่ต้องกลัวจอดตายข้างทาง รถเก่าถ้าดูแลสม่ำเสมอก้อไม่หลับข้างทางเหมือนกันนะครับ
ตรงกันข้ามรถใหม่ถ้าไม่ดูแลก้อหลับกลางทางได้เช่นกันครับ แต่ข้อดีของ toyota กับ honda คือไปเสียอยู่ที่ไหนในประเทศไทย
ช่างท้องถิ่นก้อยังพอจะกู้ชีพได้
-
ภาพลักษณ์ยังไงรถยุโรป หลักๆ ก็ดีกว่าครับ
-
ผมว่าสมรรถนะเครื่องยนต์ รถญี่ปุ่นนี่ไม่ได้ด้อยกว่ายุโรปเลยนะครับ
ยิ่งถ้าเป็นในต่างประเทศที่รถญี่ปุ่นมีเครื่องให้เลือกหลายเครื่องด้วย
อาจจะตามหลังอยู่นิดเดียวนั่นแหละ
แต่ถ้าพูดถึงสมรรถนะช่วงล่างผมว่ายุโรปนำอยู่พอสมควรครับ
ส่วนตัวใช้ w202 ยิ่งเวลาขับทางไกลนี่ผมมั่นใจกว่าพวก camry40 accord g8
และรถญี่ปุ่นที่ราคาถูกกว่าสองรุ่นที่กล่าวมาพอสมควรเลยครับ
แค่ช่วงล่างอย่างเดียวนะ รู้สึกว่ามันนุ่มหนึบและหนักแน่นกว่า
ในขณะที่รถญี่ปุ่นจะรู้สึกเบากว่าและกระด้างกว่านิดหน่อย
ว่ากันที่ความรู้สึกส่วนตัวที่สัมผัสมาล้วนๆเลยนะครับ
-
เอ่อ พี่น้องครับ d segment ยุโรปที่ขายบ้านเรามันแพงกว่า d segment ญี่ปุ่นที่ขายบ้านเรา 2-3 เท่านะครับ
-
เอ่อ พี่น้องครับ d segment ยุโรปที่ขายบ้านเรามันแพงกว่า d segment ญี่ปุ่นที่ขายบ้านเรา 2-3 เท่านะครับ
เพราะเรื่องราคาไม่เท่ากันนั่นแหละครับ ผมจึงเอารถใหม่ญี่ปุ่นไปเทียบกับเก่ายุโรปไงครับ พูดถึงเครื่องยนต์ ช่วงล่าง พวงมาลัย รถญี่ปุ่นปีใหม่ๆเทคโนโลยีใหม่ๆมันไม่ได้ช่วยให้มันดีขึ้นเลยหรือครับ ถ้าพูดถึงเรื่องราคาทำไมฟอร์ดฟอกัสเป็นc segment แท้ๆ หลายๆคนยังบอกว่าช่วงล่างดี พวงมาลัยคมมาก ทั้งที่ราคาก็ไม่ได้แพงมากอะไร ราคาถูกกว่าแคมรี่กับแอคคอร์ดอีก
-
เจ้าของกระทู้ คงอยากให้เปรียบเทียบ ใช่ป่าวครับ
ที่บ้านมีรถคุณแม่ วอลโว่ S70 T5 ปี 2000 อยู่ครับ ไม่รู้ว่าเป็น D segment หรือป่าวนะ มองข้างนอกดูคันเล็กๆ
แต่ข้างในกว้างมาก เท่าที่ผมลองขับดู เทียบกับ Accord กับ Camry รุ่นปีที่ใกล้ๆเคียงกัน มันเทียบกันไม่ได้อ่ะครับ
วอลโว่วิ่ง 220 - 240 นิ่งๆครับ เร่งแป๊บเดียวเอง ;D
ผมเคยได้ยินคำพูดของผู้ใหญ่ท่านนึงว่าไว้ ว่า....อย่าไปลองขับรถยุโรป เพราะจะทำให้นิสัยเสีย
ที่ผมแปลออก คือ ท่านคงหมายความว่า ถ้าได้ขับรถยุโรปแล้ว จะไม่กลับมาขับรถญี่ปุ่นอีกแน่ๆเลย เลยทำให้นิสัยเสีย อะไรประมาณนี้ครับ :D
แต่ผมก็ไม่คิดว่าคงจะเป็นเช่นนั้นตลอดไปนะครับ มันอยู่ที่ตังค์ในกระเป๋าของเราด้วย 5555+ ;)
-
ถ้าเทียบจากที่เคยใช้นะครับ
E39
- แรงต้นคงสู้ ญี่ปุ่นเครื่อง 2.4 2.5 ไม่ได้แน่ๆ แต่แรงปลาย อาจจะพอสู้ได้ (ยกแว้น Camry HV เพราะอันนี้เค้าแรงจริงๆ)
- การเกาะถนน ความมั่นใจ ถึงแม้จะเก่า แ่ต่ผมว่ารุ่นนี้น่าจะกิน D-segment ญี่ปุ่นป้ายแดงขาดทุกรุ่นอยู่ดีครับ
- ขับแล้วรู้สึกว่า แน่น หนัก มากๆ ขับในเมืองลำบาก แต่ขับทางไกล ฟิน สุดๆเลยครับ
- ภาพลักษณ์ ถ้าสภาพเนี้ยบๆหน่อย และ ไส่ล้อที่ใหญ่กว่า 15 นิ้ว สีเนียน ท้ายไม่ห้อย ผมว่าก็ยังดูดีใช้ได้ แล้วแต่คนจะมอง
มันเป็นเส้นบางๆ ระหว่าง "ขับ BMW" กับ "ขับ BMW เก่าๆ"
E60
- อัตราเร่ง ผมว่า พอๆกะ Teana 250XV แรงกกว่า Accord G8 G9 2.4 แต่ด้อยกว่า Camry HV แน่นอน
แต่ได้เกียร์ 6 speed มาช่วย ทำให้ขับสนุก และ รู้สึกเร่งได้ต่อเนื่องกว่าพวก 5 speed กะ CVT
- การเกาะถนน ด้อยกว่า E39 นิดหน่อย แต่คิดว่า ก็คงดีกว่า หรือ ดีเท่า D-segment ป้ายแดงอยู่ดี
- รถยุโรป มันเหนือกว่ารถญี่ปุ่นที่ "ความแน่น" นี่แหละครับ
- ภาพลักษณ์ ถ้าไม่นับพวกที่เอาไปแต่งแว้นๆ ไส่สปอยเลอร์ทรงแปลกๆ ไส่ล้อโครเมียมลายอะไรก็ไม่รู้ ผมว่า ก็ยังดูดีกว่า D-segment ป้ายแดงอยู่ดี
ยิ่งถ้าไส่ ชุดแต่ง M ล้อ Brand name ขนาด 19 นิ้วขึ้นไป ทำเนียบๆ ยิ่งหล่อเลยครับ
-
ยังไงยุโรปก็เหนือกว่าครับ ถึงจะเก่าก็เถอะ
เก่าแต่เก๋า ภาพลักษณ์ก็ดีกว่า
ยิ่งยุโรปที่เป็นมือ 2 แต่ตกรุ่นแค่ 1 รุ่น ก็ยังห่างชั้นมาก
-
คันไหนก็ได้ทีสุขใจ โชคดีครับ
-
เอ่อ พี่น้องครับ d segment ยุโรปที่ขายบ้านเรามันแพงกว่า d segment ญี่ปุ่นที่ขายบ้านเรา 2-3 เท่านะครับ
เพราะเรื่องราคาไม่เท่ากันนั่นแหละครับ ผมจึงเอารถใหม่ญี่ปุ่นไปเทียบกับเก่ายุโรปไงครับ พูดถึงเครื่องยนต์ ช่วงล่าง พวงมาลัย รถญี่ปุ่นปีใหม่ๆเทคโนโลยีใหม่ๆมันไม่ได้ช่วยให้มันดีขึ้นเลยหรือครับ ถ้าพูดถึงเรื่องราคาทำไมฟอร์ดฟอกัสเป็นc segment แท้ๆ หลายๆคนยังบอกว่าช่วงล่างดี พวงมาลัยคมมาก ทั้งที่ราคาก็ไม่ได้แพงมากอะไร ราคาถูกกว่าแคมรี่กับแอคคอร์ดอีก
รถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆพัฒนามาให้ดีขึ้นถ้าเทียบกับยุโรปรุ่นเก่าแล้ว แทบจะดีกว่าทุกด้าน อัตราเร่ง ประหยัดน้ำมัน ออพชั่นเสริม อุปกรณ์ไฟฟ้า วิทยุ
แต่ที่สู้ไม่ได้อย่างเดียวคือช่วงล่าง ต่อให้คุณเซตมาดีแค่ไหน เปลี่ยนโช๊คสปิรง มายังไงแล้ว ก็สู้รถยุโรปพรีเมี่ยมไม่ได้ จะมีพอเทียบได้ก็คือรถใหญ๋แบบ
Toyota Crown มาเทียบกับ E-Class ไรแบบนี้ วิ่งทางตรง Crownกินขาด รถมีความนุ่มนวล นั่งสบาย แต่พอวิ่งด้วยความเร็วสูงแล้วสาดโค้งก็มีเสียวๆเหมือนรถมันโยนๆ
ให้ความมั่นใจแบบE-Classไม่ได้
ส่วนที่ โฟกัส ช่วงล่างดี พวงมาลัยคมมาก ถ้าเรียงตามลำดับยี่ห้อ Benz,BMW,Audi > Volk,Ford,Volvo > Toyota,Honda,Nissan รถfordมันเป็นคู่แข่งกับvolkและvolvoเลย
เพราะฉะนั้นมันเลยไม่แปลกที่Ford focusจะช่วงล่างดูดีสุดในรถระดับ C-segment
ต่างประเทศราคาฟอร์ด,โฟล์ค,วอลโว่,โตโยต้า,ฮอนด้า ราคาใกล้เคียงกัน พอฟอร์ดผลิตในไทยราคามันก็เลยถูกลงมามาก
เอาจริงฟอร์ด โฟกัสนี่คู่แข่งกับ โฟล์ค กอล์ฟ เลย ช่างล่างไม่ต่างกันมาก แต่พอมาในไทยโฟล์คไม่มีผลิตในไทย นำเข้าล้วนๆ ราคาเลยต่างกันเยอะ
แต่คุณภาพไม่ต่างกันมาก โฟล์คเลยต้องเอารุ่นทอปๆอย่างGTI เข้ามาแทนราคาเลยดันไปสูงไปเทียบกับBenz BMW เลยดูเป็นรถพรีเมียมในไทยไปเลย
ประกอบกับรถตู้โฟล์คที่มีภาพลักษณ์และคุณภาพดูดีสุดในตอนนี้ คนก็เลยคิดว่ารถมันระดับเดียวกันกับ Benz
-
ถ้าเทียบกันรถญี่ปุ่นสู้ได้หมด ยกเว้นเรื่องเดียวคือช่วงล่าง อย่างที่บนๆ ว่ารถญี่ปุ่นเน้นอะไรที่จับต้องได้ ตัวเลขเครื่องยน option มีแต่ช่วงล่างนี่แหละ ใครอ่านแต่สเปคในกระดาษไม่เคยขับจริงคงไม่เข้าใจ
-
W210 นั่งสบายจริงๆ สบายกว่า W211 กับ W212 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่กว่าด้วย
ถ้าเทียบกับ Accord จะคนละความรู้สึกเลย W210 จะรู้สึกหนัก ช่วงล่างแน่นๆ วื่งนุ่ม ส่วน
Accord จะรู้สึก เบาๆ บางๆ นั่งหลังจะกระโดดๆหน่อย
-
ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์ครับ ช่วงล่างน่าจะจุดแข็งยุโรปจริงๆ
-
เคยขับ camry โฉมก่อนปัจจุบัน
ผมว่าช่วงล่างยังสู้ W202 อายุ 18 ปีไม่ได้เลยครับ นุ่มหนึบแบบเห็นได้ชัด ;)
-
ต้องลองให้ Toyota เอา Marx-x , Toyota Crown , Nissan Skyline เข้ามาประกอบขาย แล้วค่อยมาลองกันเทียบกัน ครับ ส่วนตัวเชื้่อว่า รถขับหน้ามันเทียบกะรถขับหลังไม่ได้
-
ไม่แปลกที่ช่วงล่างรถยุโรปจะดีกว่าครับ ลองก้มไปดูพวกจุดยึดสิครับ มันมีกี่ลิ้งค์ มากกว่ากันเยอะ
จำนวนบุซมันก็มากตาม มันก็ต้องหนึบแน่นกว่า ไหนจะลิ้งค์ที่เป็นอลูมิเนียมอีก น้ำหนักใต้สปริงน้อย
รวมถึงโช้คอัพอีกที่เป็นวาล์วแบบสองชั้นแล้วหลายๆรุ่น รถญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆยังเป็นวาล์วชั้นเดียวอยู่เลย
ไมารวมพวกรถอย่าง 86 หรือ GTR นะครับ พวกนั้น spec มันแบบเดียวกะรถยุโรป
ต่อให้รถญี่ปุ่นแต่งโช็คเป็น monotube วาล์วสองชั้นมันก็แค่ได้ใกล้เคียง เพราะพื้นฐานของระบบลิ้งค์และอื่นๆ มันยังสู้ไม่ได้อยู่ดี
แต่อย่าลืมนะครับว่าระบบมันเยอะ ลิ้งค์มันเยอะ มันย่อม sensitve กับถนนบ้านเรา ก็จะเสียง่าย
พอเสียก็จะจ่ายแพงกว่า เพราะชิ้นส่วนมันเยอะกว่า ระบบมันซับซ้อนกว่า ราคามันก็เลยต้องแพงกว่าตามไปด้วยครับ
-
มานั่งนึกๆดูอีกที การที่อารมณ์รถญี่ปุ่นกับยุโรปมีความแตกต่างกัน อาจจะมาจากแบบนี้ก็ได้นะครับ
- ประเทศญั่ปุ่น เป็นประเทศอุตสาหกรรมเกิดใหม่ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ช่วงแรกอาจจะต้องกัดก้อนเกลือกิน ประหยัด และด้วยสภาพภูมิประเทศและเมืองของญี่ปุ่นที่เป็นเกาะ ขนาดค่อนข้างเล็ก - การดีไซน์ก็จะออกไปทาง city car ขับในเมือง ง่าย สบาย กว้างขวาง และเนื่องจากในการเดินทางไกลประเทศญี่ปุ่นใช้รถไฟความเร็วสูงเป็นหลัก จึงไม่ค่อยมีรถอารมณ์ touring/grand touring ออกมาเท่าไหร่
- ทวีปยุโรป เป็นทวีปขนาดใหญ่ กว้างขวาง และเก่าแก่ รถหลายๆยี่ห้อมีประวัติอันยาวนาน และลักษณะการใช้รถของชาวยุโรปคือขับข้ามประเทศ ขับข้ามทวีป 'ในอากาศหนาว' ดังนั้น ความแน่น หนึบ ไว้ใจได้ในช่วงล่างและความปลอดภัย จึงมีความสำคัญ และบุคลิกของรถจะมันใจในการขับที่ความเร็วสูง ทั้งความเงียบ และความนิ่ง รวมถึงการไม่เน้นหนักในเรื่อง ตีนต้น แต่พอขึ้นได้ความเร็วในระดับนึง มันจะไหล ยาวววววววววว จนลืมไปว่านี่ขับเร็วมากแล้ว
ส่วนในประเทศไทยผม เรามีนิสัยขับรถกันเร็ว เหมือนการขับข้ามทวีปในยุโรป ทั้งๆที่ถนนเราแออัดเหมือนญี่ปุ่น