Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ ตุลาคม 15, 2013, 23:16:24
-
ผมสงสัยมานานมากครับ ในอเมริกาและยุโรป แบรนด์ฟอร์ดนี่ถือว่ามีความแข็งแกร่งและน่าเชื่อถือมากๆ
อย่างฟอร์ดโฟกัส เป็นรถที่ขายดีที่สุดในโลกของปี 2012
ทุกวันนี้ยอดขายฟอร์ดในอเมริกา ก็ถือว่าสุดยอด ฟอร์ด F-serie คือรถที่ขายดีที่สุดในอเมริกา ส่วนโฟกัสก็ติดท็อป10รถขายดี
ในยุโรปยิ่งแล้วใหญ่ รถญี่ปุ่นขายไม่ได้เลย คนยุโรปไม่ค่อยซื้อ เขาซื้อรถยุโรปบ้านเขาเท่านั้น แต่ก็มีฟอร์ดนี่แหละที่แทรกเข้าไปได้ ทั้งๆที่ไม่ใช่รถสัญชาติเยอรมัน
สิ่งเหล่านี้ มันทำให้ผมเข้าใจว่า รถของฟอร์ดต้องมีคุณภาพเหนือชั้นจริงๆ มิฉะนั้นมันจะขายดีได้ไง คนอเมริกันวางใจฟอร์ด ส่วนคนยุโรปก็ยังเชื่อถือฟอร์ดมากกว่าโตโยต้า
แต่...ทำไมฟอร์ดที่ขายในไทย มันกลับกลายเป็นรถที่มีปัญหาเยอะมาก ทั้งเฟียสต้า และ โฟกัส
ผมเข้าไปอ่านบอร์ดโฟกัสยังช็อกเลย
อยากรู้ว่ามันเป็นแบบนี้ได้ไง แล้วรถฟอร์ดที่ขายเมืองนอกมีปัญหาแบบนี้ไหม ถ้ามันมีแบบนี้ ทำไมถึงไม่เจ๊งไปแล้วล่ะ
หรือว่า ตัวรถมันไม่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนๆแบบบ้านเรา อะไรต่อมิอะไรมันถึงได้มีปัญหาเยอะจัง
ไม่น่าเชื่อว่า ภาพลักษณ์ฟอร์ดในไทยมันจะเน่าขนาดนี้ บริษัทแม่เขาไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเรอะ
ปัญหาที่เกิดกับรถที่ขายในไทย มันเกิดจากอะไรกันแน่ครับ
-
เฟียสต้าปัญหาเยอะ แต่ผมว่าโฟกัสปัญหาไม่เยอะนะครับ
แต่สำคัญคือพอเจอปัญหาแล้วช่างแก้ไม่ได้มากกว่า อันนี้ปัญหาหลักของฟอร์ดเลย
-
ปัญหาทุกปัญหาแก้ได้ ยกเว้นคนที่เป็นปัญหา
-
แอบอยากรู้เหมือนกันว่าปัญหาเมืองนอกจะมีเหมือนกันไหม อย่างเคสหนักๆสำหรับผมยังไม่เจอนะครับ มีจุกจิกทั่วๆไปครับ ที่ไม่ปลื้มอย่างเดียวคือศูนย์บริการครับ มันดูบ้านๆไปหน่อย
-
อาจจะเป็นที่การทดสอบรถก็ได้ครับ คือในทางยุโรปอาการค่อนข้างเย็นตลอดเวลา หรืออเมริกาก็อยู่ในระดับที่เย็นกว่าบ้านเรา ยกเว้นบางรัฐ+กับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน บ้านเราติดมาก ความร้อนสะสมในเกียร์มาก อย่างครูสที่เคยอ่านเจอนี่ระดับ 110-120 องศา
ทั้งที่รถโดยทั่วไปเฉลี่ยที่ 85-100 ไม่เกินจากนี้เท่าไหร่ พอทดสอบในยุโรปเสร็จ เทสแล้วว่าผ่าน ลองมาเทสในบ้านเราแต่ระยะที่ทดสอบไม่มากพอทำให้เกิดปัญหาต่อมาอีก หรืออาจจะเป็นที่การออกแบบไม่เหมาะสมกับบ้านเราครับ อย่างในกรณีเคสนิสสันเทียน่า j32 ที่ตัวก่อนไมเนอร์ไม่มีออยเกียร์แต่ในตัวไมเนอร์มีออยเกียร์ อันนี้ผมเจอจากในศูนย์เลยเพราะมาซ่อมพร้อมกัน ถอดกันชนหน้าแล้วมันไม่เหมือนกัน
-
รถก่อนข่ายจริงต้องวิ่งทดสอบบ้านเราตามระยะทาง
แต่หาก OEM รู้ว่ามีปัญหา แต่ปัญหานั้น ไม่ได้หนักหนา สาหัส และ ปล่อยผ่านเพื่อขายละ
น่าคิดนะ
เรารู้ว่า เกียร์เฟียสต้ามีปัญหา เยอะ แต่ มันมีตอนไหนละ วิ่งไปซักกี่ปี
OEM รู้ก่อนออกมาขายหรืิอไม่ ?
-
หลักๆก็คือ 0 บริการเลยครับ คือรถทุกยี่ห้อทุกรุ่นมีปัณหาหมดอยู่ที่ว่าตะแก้ไขและเอาใจใส่ได้ดีขนาดไหน ยกตัวอย่าง Honda นี้ก็ปัณหาจุกจิก นิดๆ แต่ 0 ก็บริการเต็มที่สามารถแก้ปัณหาได้
อีกอย่างอาจจะเป็นเพราะ ชิ้นส่วนบางอย่างไม่เหมาะกับบ้านเรา
-
Model เดียวกัน แต่ supplier คนละเจ้า quality อาจไม่เท่ากัน
After service เป็น local ตามแต่ละที่ที่ขาย skill ไม่เท่ากัน
:D
-
ผมก้อใช้ ford focus. มาได้ 10 เดือนล้ะคับ สำหรับผม ตัวรถ ม่ายเจอปัญหาอารายเรยคับ แถมยังชอบช่วงล่างมากกว่ารุ่นอื่นเสียอีก ขับสนุกคับ แต่เรื่องศูนย์บริการต้องยอมรับว่าสู้แบรนด์อื่นม่ายได้เรยคับ กรณีของผม โดนหินดีดใส่ กระจกแตก นำรถเข้า 0 พนักงานบอกว่า ต้องไปทำเรื่องเคลมมาก่อนว่าให้ซ่อมอู่ไหน เข้า 0 เรยไม่ได้ ผมงงคับ เพราะเคยเจอ กรณีเดียวกันกับ รถอีกแบรนด์นึง กลับเรียกประกัน ถ่ายรูป เคลม เส็ดในขั้นตอนเดียว >__<
-
ไฮเทคเกิน ออพชั่นเยอะ ก็เลยมีโอกาสผิดพลาดสูงตามล่ะมั้งครับ ประเด็นคือ ไม่ใส่ใจจะแก้ไขข้อผิดพลาด -*-
-
คือไม่ใช่รถไม่ดีหรอกครับ รถที่ไหนก็มีปัญหา แต่ช่างแก้ไม่จบมากกว่า
-
ผมว่าเป็นปัญหาเรื่องศูนย์มากกว่าที่ภาพลักษณ์ไม่ดี ซึ่งก็ยังคงไม่ดีจริงๆ ในเรื่องของความรู้ความสามารถช่าง บางครั้งเรารู้มากกว่าช่างที่ศูนย์ก็มี
แต่ในเรื่องของรถ ผมว่าก็สู้แบรนด์อื่นได้มากเลยที่เดียว ระบบต่างๆนั้น ไม่ต่างจากรถยุโรปที่ราคาแพงในบ้านเราอย่าง เบนซ์ บีเอ็ม วอลโว่เลย
โดยส่วนตัวใช้โฟกัสมาประมาณ 7 เดือนก็ยังไม่พบปัญหาร้ายแรงอะไรนะครับ ^^
-
ส่วนตัวที่เคยใช้มา รถ Ford ไม่ค่อยมีปัญหานะครับ และวัสดุอุปกรณ์ก็ดีระดับรถแบรนด์หรูบางยี่ห้อด้วยซ้ำ ปัญหาอยู่ที่ช่างในศูนย์ตามเทคโนโลยีไม่ทัน และศูนย์บริการใจแคบเกินไปครับ
-
ถ้าได้ใช้รถพวกนี้จะรู้ว่าระบบต่างๆของรถมันจะดึงเข้าecuหมดต่างกับรถญี่ปุ่นที่ของใครของมันทำงานต่างคนต่างทำไม่ยุ่งเกี่ยวกัน มันมีทั้งขอดีข้อเสียทั้ง2แบบ
ผมว่ารถทุกรุ่นมีปัญหา อยู่ที่เจ้าของโวยวายหรือเปล่ากับ0ตอบคำถามกับเจ้าของได้ดีแค่ไหน
ส่วนมากรถ HกับT พนักงานจะมีการอบรมมาดีมากตอบออกมาไม่กวนตีน
แต่ของF เหมือนไม่ได้อบรมมาจะตอบกวนๆหน่อย แต่หลังๆมานี่ผมว่า f ดีขึ้นเยอะมากเมื่อเทียบกับตอน5ปีที่แล้ว
ยกตัวอย่างวันก่อนเอารถFแฟนเข้า0มีคุณลุงคนนึงโวยวายว่าแค่ตั้ง0ทำไมต้องคิดเงินไม่เหมือนHยังไม่คิดเลย
ผมคิดในใจรถHตูโดนหลอกให้สลับยางนึก ว่าฟรีที่ไหนได้คิดเงินนะครับ
-
1. มีปัญหาเข้าศูนย์ แก้ไขได้ ปัญหาจบ งานเสร็จเร็ว : ลูกค้าไม่โวย
2. มีปัญหาเข้าศูนย์ แก้ไขได้บ้างไม่ได้บ้าง ปัญหาจบจบบ้างไม่จบบ้าง รอซ่อมนาน : ลูกค้าโวยแน่ และอาจจะมีปากต่อปาก
..ผมว่าปัญหาของฟอร์ดคือข้อ 2. ขนาดบางคนไม่เคยใช้หรือแทบจะไม่เคยนั่งฟอร์ดเลย เวลามีคนถามว่าฟอร์ดดีมั้ยกลับพูดได้เต็มปากว่า รถห่วย ศูนย์แย่ บลาๆๆๆ แต่ไม่บอกว่า..เค้าว่ากันว่า
..เคยนั่ง Fiesta กับ Cruze เมื่อเทียบกันกับ Jazz และ Civic FD ผมว่าผมประทับใจนะ แต่ตอนนี้ซื้อ CR-V ไม่ใช่ไม่ชอบ Captiva แต่ผมกลัวศูนย์บริการมากกว่า ถ้าฟอร์ดปรับปรุงเรื่องศูนย์บริการ(อาจจะไม่ใช่ทุกศูนย์ที่มีปัญหา) มีปัญหาแล้วช่างสามารถแก้ไขได้ ไม่ต้องรอนาน ไม่มีปัญหาซ้ำซาก ยอดขายคงไปได้อีกไกลแน่ๆครับ
-
ผมอยู่อเมริกาเกือบ ๆ 5 ปี ไม่มีปีไหนที่คนอเมริกันจะบอกว่า Ford เป็นรถที่ดี ที่อื่นผมไม่ทราบครับ
FORD F150 ที่ขายดี เพราะกลุ่มคนใช้กระบะ เขาเป็นตลาดพิเศษ เอาไปขายที่อื่นในโลก มันก็ไม่ไหว
-
ใช้ โฟกัส TDCI อยู่ครับ
รถดีมาก แต่ศูนย์บริการไม่ดีเหมือนยี่ห้ออื่นครับ
-
เคยอยู่อเมริกามากว่า 5 ปี เช่นกัน
Ford เป็นรถกลางๆครับ ขับใช้ได้
แต่พอเริ่มเก่าปัญหาชักเยอะ ความนิยมเเละราคาขายต่อเลยด้อยกว่ารถยุ่น
ปัญหาน่าเกิดจากพยายามทำรถให้ดีที่สุดในราคาที่ต่ำครับ บางอย่างเลยต้องลดๆไป
-
น่าสงสัยนะครับ
ฟอร์ด เชฟ ไม่คิดจะแกปัญหาเรื่อง after sale เลยหรือไร..... มีแต่คนบ่น รถดี ศูนย์แย่
-
ที่เค้าเจอปัญหากันนี่คือปัญหาอะไรครับ ปัญหาที่ตัวรถ หรือ ปัญหาที่0บริการ
เท่าที่ผมได้ยินมานี่ทั้ง2อย่างเลยนะครับ รถมีปัญหาแล้ว0บริการแก้ไม่จบ คือ2เด้งเลย
แม่ผมอยากได้Focusมาก แบบว่าตัวถังมันแน่นหนา ดูแข็งแรงมากกว่ารถญี่ปุ่นSegเดียวกันทุกคัน ผมเสียดายมากที่มันเป็นยี่ห้อFord คือไม่พร้อมจให้คุณแม่ไปเสี่ยงกับยี่ห้อนี้จริงๆ
เรื่องคุณภาพตัวรถผมไม่รู้ว่าFocus หรือ Fiestaที่ขายกันประเทศอื่นเค้ามีปัญหาแบบบ้านเรารึเปล่า อาจจะมีปัญหาแต่0แก้จบ หรือาจจะไม่มีปัญหาเลย ตามที่ผมเข้าใจคือรถคันนึงก่อนจะประกอบขายทั่วโลกเค้าจะมีการวิ่งทดสอบกันในทุกๆสภาพอากาศ ตั้งแต่ร้อนนรกแตก หนาวขั้วโลก หรือฝนตกชื้นสุดยอด ดังนั้นไอที่ว่าวัสดุในการประกอบไม่เหมาะสมกับสภาพอากาศในบ้านเรามันฟังไม่ขึ้นเลยครับ มันต้องผ่านการทดสอบมาจนแน่ใจแล้วว่ารถชั้นวิ่งได้ทุกสภาพอากาศบนโลกใบนี้โดยไม่มีปัญหา รวมทั้งประเทศไทยด้วย
สรุปว่ารถสัญชาติอเมริกกันในบ้านเราทั้ง2ค่าย ติดอันดับรถที่มีปัญหามากที่สุด อันดับ1-2นี่เอาไปครองใสๆเลย เสียดายครับ ;D
-
ทำไมเรารู้ว่าปัญหามันคืออะไร แต่ ford ไม่รู้เรื่องเลยหรือ หรือรู้แต่ไม่แก้ หรือแก้แล้วแต่เราไม่รู้
-
ถ้าวีโก้ ออกแบบหน้าตาแบบเรนเจอร์นะ ผมว่าขายไม่ทันเลยแหละ
ชอบแรนเจอร์มากแต่กลัว ศูนย์กับอะไหล่เหมือนกันครับ
-
ผมว่ารถทุกยี่ห้อมีโอกาสเจอปัญหาหมดแหละ
แต่
ของฟร์อดเค้าน่าจะเป็นที่ทีมช่างไม่ชำนาญงานพอเรื่องนี้เคยคุยกับเจ้าของศูนย์รถมาเหมือนกัน
ปัญหาคือ ส่งช่างเข้าฝึกงานเพื่อเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆแล้ว พอฝึกเสร็จช่างบางคนมันก็ลาออก
ซึ่งเอาคนเก่าไปฝึกจนเก่งมันฝึกเสร็จก็ออก เอาคนใหม่ไปบ้างก็ออก ปัญหาเรื่องช่างเนียเป็นหลายที่ เพระใครๆก็
อยากได้ช่างเก่ง ๆ ดึงใครมาได้ก็ดึง เพราะศูนย์ไหนช่างเก่ง ลูกค้าก็อยากเข้ารับบริการ
ปัญหานี้ผมว่า สำนักงานใหญ่น่าจะเป็นฝ่ายจัดหาฝึกช่างให้ชำนาญเซ็นสัญญาไปเลยกี่ปีแล้วส่งไปฝึกสอนงานยัง
ดีลเลอร์ตามที่ต่างๆรึส่งไปประจำศูนย์ต่างๆเลยน่าจะดีกว่า
เลยเป็นปัญหา เอาเด็กฝึกงานมาฝึกลูกค้าที่เจอเด็กฝึกงานทำงานไม่ดีเข้าก็เลยอคติ เหมารวมว่าช่างไม่เก่ง
ฝ่ายตรวจสอบงานก่อนส่งมอบรถลูกค้าเวลามาเช็คระยะ จุดนี้สำคัญ ทำงานพลาดบ่อย ติ้กว่าเรียบร้อยอย่างเดียว
โดยไม่ได้เข้าไปตรวจสอบในรถจริงๆว่าเรียบร้อยจริงไหม ฝากฟร์อดรึค่ายอื่นๆเน้นจุดนี้ด้วย
ฝ่ายรับรถพนักงานต้อนรับ ต้องแจ้งลูกค้าด้วยเวลาส่งมอบรถคืนว่า รถเป็นไง ซ่อมอะไรบ้าง
ไม่ใช่แค่ยื่นกุญแจรถให้ลูกค้าแล้วบอกว่ารถจอดอยู่นู่น
-
เท่าที่ผมตามข่าวและพอจำได้ (ตามประสาคนอ่านผ่านๆ)
- Ford เครมว่า Focus ขายดีสุดในโลก เฮียโตโผล่มาบอกว่า อั๊วยังไม่ได้นับ Altis ที่ถือว่าเป็น Corolla เหมือนกันนะ ซึ่งถ้านับ Corolla ก็ยังนำ Focus อีกพอควร
- รถที่ได้รับความน่าเชื่อถือด้านความไม่จุกจิกในยุโรปสูงๆจากหลายๆสำนักจะบอกพูดตรงกันว่าส่วนใหญ่จะเป้น รถญี่ปุ่นได้อันดับดี แต่มี Hyundai ที่เข้ามาแซก(ระวังไว้นะพี่ยุ่น)
- รถ D-Seg Camry , Accord , Teana ยังคงเป็นตลาดหลัก ส่วน Fusion เป็นรถทางเลือก (แต่ดูมีอณาคต ขณะที่ Camry กำไลค่อยๆหายไป แต่ Fusion เพิม่ขึ้น)
ส่วนการใช้งานที่เมืองนอกจะมีปัญหามั๊ยผมก็ไม่ทราบ แต่เท่าที่ผมเข้าใจ Brand Position ของ Ford ไม่ได้สูงกว่า รถญี่ปุ่นเลย (ในช่วงก่อนหน้านี้ ผมว่าต่ำกว่านิดๆด้วย
เพราะเมื่อก่อนผมห็นฝรั่งเล่นมุข Fix Or Repair Daily แปลว่ามันอาจสื่อได้ว่า มันเป้นรถที่จุกจิกในสายตาเขาเหมือนกัน)
แล้วถ้าวันนึง Ford แก้ปัญหาศูนย์ได้ผมจะชอบ Ford มั๊ย
ผมตอบเลยว่าผมชอบตั้งแต่ก่อนเคยสัมผัสซะอีก เพราะสมัยเด็กน้อยผมว่า เฮนรี่ ฟอร์ด เป้นคนที่เทห์ดี
แต่ถ้าจะให้ซื้ออาจติดตรงปัญหาการจัดการพื้นที่ห้องโดยสารที่ผมมองว่ายังตามรถญี่ปุ่นอยู่
-
อันนี้เล่าให้ฟังเฉยๆ
เคยรื้อรถเพื่อนทำเครื่องเสียง Jazz ตัวล่าสุด กับFiesta พร้อมๆกันทั้ง2คัน
แผงประตู/คอนโซล/กาบข้างต่างๆ ของJazzผมรื้อแป๊บเดียวก็ได้ทำ
ของFiestaนี่ต้องงมอยู่พักนึง เล็งอยู่นานว่าแกะอะไรยังไงบ้าง กว่าจะรื้อเสร็จ
วิธีประกอบ-รูปแบบการประกอบรู้สึกได้ว่าเหมือนรถที่ระดับเหนือไปกว่าJazz เนื้องานดูดีแน่นหนามั่นคง
เนื้อพลาสติคดูแล้วน่าจะเหมือนๆกัน แต่ทำรูปแบบ/ผิวสัมผัสมาได้รู้สึกว่าดีกว่า-เหนือกว่า
แต่่ให้ความรู้สึกว่า ถ้ารื้อบ่อยจะเยินกว่ารถญี่ปุ่นทั่วๆไป
ที่รื้อ/ประกอบได้มากครั้งกว่า โดยที่ยังคงสภาพไว้ได้
แค่เรื่องเล็กๆเรื่องนึงที่เคยสัมผัส เปรียบเทียบมา
-
อินดี้ไง ทำรถเน้นขับ ไม่เน้น0 อิอิ ...
-
ศูนย์บริการไม่ดี
-
ผมอยู่อเมริกาเกือบ ๆ 5 ปี ไม่มีปีไหนที่คนอเมริกันจะบอกว่า Ford เป็นรถที่ดี ที่อื่นผมไม่ทราบครับ
FORD F150 ที่ขายดี เพราะกลุ่มคนใช้กระบะ เขาเป็นตลาดพิเศษ เอาไปขายที่อื่นในโลก มันก็ไม่ไหว
กำลังจะบอกเหมือนกันว่า คนเมกา เห็น toyota honda ดีกว่า ford เยอะ
ford ไม่ทนเท่ารถญี่ปุ่น เก่าๆหน่อยไปหมดแล้ว
-
ที่เมกา ฟอร์ด เรื่องความจุกจิก สู้ โตโยต้า ฮอนด้า ไม่ได้เลยครับ
ตัวรถ มันมีแนวโน้ม จุกจิกกว่า อยู่แล้ว
มาไทย เจอศูนย์บริการ ซ้ำอีกดอกนึง
-
ตามประสบการณ์ที่ผ่านมา มันน่าจะเป็นลักษณะนิสัยการทำธุรกิจของบริษัทอเมริกันครับ พวกนี้จะไม่เก่งในเรื่องบริการ อีกสาเหตุคือบุคคลากรยังเรียนรู้ไม่ทันกับเทคโนโลยีครับ
-
จริงรถที่ขายๆกันอยู่นี้ วิ่งที่เมืองนอกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี++
Ford ก็เจอปัญหาเดียวๆกันกับประเทศอื่นๆที่มี โรงงานอยู่หลายๆประเทศ
คือ Knowledge sharing ไม่มี คนที่รู้ไม่ได้แชร์การแก้ไข
ลองอ่านๆดูคับ แม้แต่ส่ง Ford Territory มาทำตลาดในไทย (นี้แค่นำเข้าน่ะ ยังไม่ได้เอามาประกอบ)
ตามบอรด์ AU ด่ากันให้แซด ว่าขายชาติ Ford ส่งงานออกไปประกอบนอกบ้าง เอางานออกจาก AU บ้าง ;D
ก่อนจะมาทำงานอยู่อุตสหากรรมรถยนต์ ผมเคยอยู่เคมีมาก่อน เป็นโรงงานทำ Mess product ,
ทางบริษัทแม่ มีคำสั่งให้ ส่งเครื่อง reactor ที่ ญี่ปุ่น มาผลิตต่อในไทย
คุณเชื่อไหม ญ๊่ปุ่น กั๊กคับ ไม่ให้แม้แต่ WI เราต้องมาทำเองหมด ขำไม่ออก
มันคือการดึงงานออกจากมือบ้านเขา ใครก็รักบ้านตัวเอง ไม่แปลกคับ ที่เขาจะให้แค่ของมา แต่ความรู้น่ะ ต้องอยู่ที่ Local จะจัดการยังไง ลองผิดลองถูก จนกว่าจะได้ผลที่ดี
ความซับซ้อนของเทคโนโลยี่ยิ่งมากแค่ไหน เรายิ่งใช้เวลานานเท่านั้่นกว่าจะวิเคราะห์ปัญหาได้ ทำไมน่ะเหรอ?เพราะเราไม่ได้คิดมันขึ้นมาไง...
-
คนที่บอกว่า Ford ไม่ดี นี่เคยใช้ Ford หรือเปล่าครับ
หรือเคยขับแค่ รถที่คุณบอกว่าดี หรือแค่ว่า เค้าว่ากันว่า.... , หรือรับข้อมูลข่าวสารมาจากนักเลงคีย์บอร์ด โดยปราศจาก การไตร่ตรอง และพิจารณาข้อเท็จจริง
ผมใช้มา หลากหลาย ดังลายเซนต์ ข้างล่าง เข้าใจ และรู้จัก รถทุกคันที่ใช้ดี
ผมว่า Ford มันเป็นรถที่ขับดีเลยแหละ
แต่ยอมรับ ศูนย์บริการ และความจริงใจ ในการแก้ปัญหา เทียบกับ Toyota , Honda ไม่ได้จริงๆ
พนักงาน ไม่ได้ขี้เกียจ หรืออู้ แต่เค้าปฏิบัติงาน ตามนโยบาย ตามสื่ง ที่ได้รับการอบรม ซึ่งอาจจะมีเพียงเท่านี้
สุดท้ายนี้ ผมไม่ได้เชียร์ , เข้าข้าง , โจมตี แบรนด์อื่นๆ แต่ผมพูด จากประสบการณ์ ที่สัมผัสมา
-
คนที่บอกว่า Ford ไม่ดี นี่เคยใช้ Ford หรือเปล่าครับ
หรือเคยขับแค่ รถที่คุณบอกว่าดี หรือแค่ว่า เค้าว่ากันว่า.... , หรือรับข้อมูลข่าวสารมาจากนักเลงคีย์บอร์ด โดยปราศจาก การไตร่ตรอง และพิจารณาข้อเท็จจริง
ผมใช้มา หลากหลาย ดังลายเซนต์ ข้างล่าง เข้าใจ และรู้จัก รถทุกคันที่ใช้ดี
ผมว่า Ford มันเป็นรถที่ขับดีเลยแหละ
แต่ยอมรับ ศูนย์บริการ และความจริงใจ ในการแก้ปัญหา เทียบกับ Toyota , Honda ไม่ได้จริงๆ
พนักงาน ไม่ได้ขี้เกียจ หรืออู้ แต่เค้าปฏิบัติงาน ตามนโยบาย ตามสื่ง ที่ได้รับการอบรม ซึ่งอาจจะมีเพียงเท่านี้
สุดท้ายนี้ ผมไม่ได้เชียร์ , เข้าข้าง , โจมตี แบรนด์อื่นๆ แต่ผมพูด จากประสบการณ์ ที่สัมผัสมา
ก็ว่างั้นเหมือนกันครับ คนที่ด่าไม่ได้ใช้ คนที่ใช้ไม่ได้ด่า (แต่ก็มีนั่นแหละถ้าเจอ Defect) :) :) :) ฟอร์ดขออย่างเดียวอย่าเจอ Defect พอจบ
-
ที่บ้านผมว่ากัน Ford เช่น Focus แทบจะดีที่สุดใน segment ก็ได้ครับ เก็บเสียง ช่วงล่าง การขับขี่ option แต่คือเสียที่ 0 แล้วดีอย่าง คือบุคลิกของรถทำมาไม่เหมาะกับนิสัยคนไทย และเรื่องของ defect ที่ส่วนมากจะเป็นอะไรใหญ่ๆ ที่มากกว่ายี่ห้ออื่นอยู่นิดๆ
-
เท่าที่รู้...ระบบการผลิตของบริษัทรถยนต์ถ้า Defect เกินจากที่บริษัทกำหนดมันมีผลต่อการจ่ายโบนัส กับการได้โอกาสในการผลิตรถรุ่นอื่นๆนะ
ตามที่เคยทำงานเป็นSuplier เรื่องการควบคุมคุณภาพของชิ้นงานที่Suplier ส่งให้เขี้ยวไม่เป็นรองใครนะ..ฟอร์ด
-
ผมมองว่าสุดท้ายก็คือคนใช้ไม่ได้พูดคนพูดไม่ได้ใช้เหมือนเดิม ถ้าว่าถึงเรื่องของความทนทานแล้วสินค้าในเครือฟอร์ดมีหลายตับมากที่ใช้ร่วมกับมาสด้าซึ่งเป็นรถญี่ปุ่นแท้ๆ ยิ่งในโฟกัสรุ่นที่แล้วเครื่องกับเกียร์ตัวเดียวกันเลย ชิ้นส่วนช่วงล่างก็ใช้ กระปุกหม้อคนใช้มาสด้าซื้อของโฟกัสมาใส่ถูกกว่าของศูนมาสด้รอีกต่างหาก ผมเลยสงสัยว่าที่บอกมันพังง่ายจุกจิกอะไหล่คุณาพต่ำเพราะเป็นยี่ห้ออเมริกันเอาจากไหนมาพูดกัน? ก็ในเมื่อใข้ร่วมกับมาสด้ามากมาย เพิ่งจะมีรุ่นใหม่นี่เองที่เครื่องกับเกียร์แยกใช้ของตัวเองชัดเจน ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วสมัยเลเซอร์เทียร่าคนชอบบอกฟอร์ดคุณภาพอะไหล่ของอเมริกันห่วยอะไหล่หายาก แต่มันใช้ร่วมกับโปรทีเจ่เยอะแยะเหมือนสมัยมาสด้า3กับโฟกัสนี่แหละ ทุกวันนีัก็ยังมีแล่นบนถนนเกลื่อนกลาด จะเอาเก่าสมัยยนตรกิจขายอย่างaspireก็จังมีแล่นจนทุกวันนี้
รถฟอร์ดอเมริกันซ่อมยากไม่เหมือนรถญี่ปุ่นที่ดูแลง่าย? กลับไปที่ย่อหน้าแรกที่เพิ่งมีรุ่นใหม่ที่แยกเทคโนโลยีของตัวเองอึกทีครับ ช่างฟอร์ดไม่เก่งชำนาญงานใช่ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีของตัวรถ ยี่ห้อฟอร์ดไม่ได้ใส่อะไรล้ำยุคเกินหน้าใครเลย มันก็รถบ้านๆในราคาระดับเดียวกันเท่านั้นเอง ที่ช่างไม่ชำนาญงานเป็นเพราะว่าตอนเรียนตอนฝึกงานคุ้นเคยมาแต่โตโยต้าฮอนด้าตลอด ตามนิสัยคนไทยมักจะเลือกจับแต่อะไรที่ตัวเองคุ้นเคยมาตลอดพอมาอะไรที่ผิดแผกไปนิดเดียวก็จะไม่คุ้นเคยแล้ว ผมยังเห็นคนใช้รถโตโยต้าเนี่ยช่างศูนย์เองยังพูดเองเลยเครื่องdual vvtiซ่อมยากทำไม่เป็นไม่ง่ายเหมือนตัวเก่า มันเป็นเรื่องของความสามารถในการเรียนรู้ของช่างว่าจะทำความคุ้นเคยได้เร็วแค่ไหนดีเท่าไหร่ไม่ใช่ที่ตัวรถครับ ผมเคยโดนหนูกัดสายไฟกระจุยทีนึงให้ช่างในอู่ทึ่ทำรถเบนซ์กับbmwโดยเฉพาะเค้าบอกทำไม่ได้ไล่สายไฟไม่ถูก ทั้งที่ในรถยุโรประบบไฟฟ้าซับซ้อนกว่ารถบ้านๆเนึ่ยนะ? เอาไปศูนย์ช่างทำสองชั่วโมงเสร็จ โดนกัดอีกทีไปอู่มาสด้าสบายไม่เกินครึ่งวันระบบไฟเหมือนเดิมแล้ว
รถยึีห้อฟอร์ด defect เยอะไม่น่าใช้? เราคงลืมไปแล้วว่าวีโก้/ฟอร์จูนเนอร์เบรคทื่อเป็นยังไง ซีวิคเครื่องเสียงสับหมูเป็นร้อยๆคันล่ะ อัลติส ี่มีปัญหาคันเร่งค้างมีนะ เอ้าซิตี้เกียร์หอนที่เรียกว่าเป็นอาการปกติในรถรุ่นนี้ไปแล้วล่ะ? defect มีกันหมดทุกยี่ห้อแล้วลูกค้าก็ต้องสรรหาว่าศูนย์ไหนที่จะยินยอมให้เคลมปัญหาที่เกิดขึ้น ซิตี้เพื่อนผมทึ่อยู่ในกลุ่มสปริงรองวาล์วมีปัญหาต้องเทียวไปหลายแห่งกว่าจะได้เคลมครับ ไม่มีจดหมายส่งมาแจ้งด้วยนะผมบอกเองแหละว่ามีเสียงให้ดูเรื่องนี้ดีๆนะ พอเทียบเลขตัวถังก็อยู่ในล็อตมีปัญหาพอดีเลย มันอยู่ที่บอกปากต่อปากนี่แหละว่าใครจะเพ่งเล็งยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ ลักษณะแนวคิดของคนไทยที่จะทำอะไรชอบอิงเสียงข้างมากเป็นหลักยิ่งทำให้จดจ่อว่ารถทึ่ไม่ใช่ขายดีทึ่สุดคือของไม่ดี ทั้งๆที่ในความจริงพิจารณาดูแล้วคุณภาพรถคุณภาพช่างลูกค้าต้องพยายามเหมือนกันหมด
-
ผมมองว่าสุดท้ายก็คือคนใช้ไม่ได้พูดคนพูดไม่ได้ใช้เหมือนเดิม ถ้าว่าถึงเรื่องของความทนทานแล้วสินค้าในเครือฟอร์ดมีหลายตับมากที่ใช้ร่วมกับมาสด้าซึ่งเป็นรถญี่ปุ่นแท้ๆ ยิ่งในโฟกัสรุ่นที่แล้วเครื่องกับเกียร์ตัวเดียวกันเลย ชิ้นส่วนช่วงล่างก็ใช้ กระปุกหม้อคนใช้มาสด้าซื้อของโฟกัสมาใส่ถูกกว่าของศูนมาสด้รอีกต่างหาก ผมเลยสงสัยว่าที่บอกมันพังง่ายจุกจิกอะไหล่คุณาพต่ำเพราะเป็นยี่ห้ออเมริกันเอาจากไหนมาพูดกัน? ก็ในเมื่อใข้ร่วมกับมาสด้ามากมาย เพิ่งจะมีรุ่นใหม่นี่เองที่เครื่องกับเกียร์แยกใช้ของตัวเองชัดเจน ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วสมัยเลเซอร์เทียร่าคนชอบบอกฟอร์ดคุณภาพอะไหล่ของอเมริกันห่วยอะไหล่หายาก แต่มันใช้ร่วมกับโปรทีเจ่เยอะแยะเหมือนสมัยมาสด้า3กับโฟกัสนี่แหละ ทุกวันนีัก็ยังมีแล่นบนถนนเกลื่อนกลาด จะเอาเก่าสมัยยนตรกิจขายอย่างaspireก็จังมีแล่นจนทุกวันนี้
รถฟอร์ดอเมริกันซ่อมยากไม่เหมือนรถญี่ปุ่นที่ดูแลง่าย? กลับไปที่ย่อหน้าแรกที่เพิ่งมีรุ่นใหม่ที่แยกเทคโนโลยีของตัวเองอึกทีครับ ช่างฟอร์ดไม่เก่งชำนาญงานใช่ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีของตัวรถ ยี่ห้อฟอร์ดไม่ได้ใส่อะไรล้ำยุคเกินหน้าใครเลย มันก็รถบ้านๆในราคาระดับเดียวกันเท่านั้นเอง ที่ช่างไม่ชำนาญงานเป็นเพราะว่าตอนเรียนตอนฝึกงานคุ้นเคยมาแต่โตโยต้าฮอนด้าตลอด ตามนิสัยคนไทยมักจะเลือกจับแต่อะไรที่ตัวเองคุ้นเคยมาตลอดพอมาอะไรที่ผิดแผกไปนิดเดียวก็จะไม่คุ้นเคยแล้ว ผมยังเห็นคนใช้รถโตโยต้าเนี่ยช่างศูนย์เองยังพูดเองเลยเครื่องdual vvtiซ่อมยากทำไม่เป็นไม่ง่ายเหมือนตัวเก่า มันเป็นเรื่องของความสามารถในการเรียนรู้ของช่างว่าจะทำความคุ้นเคยได้เร็วแค่ไหนดีเท่าไหร่ไม่ใช่ที่ตัวรถครับ ผมเคยโดนหนูกัดสายไฟกระจุยทีนึงให้ช่างในอู่ทึ่ทำรถเบนซ์กับbmwโดยเฉพาะเค้าบอกทำไม่ได้ไล่สายไฟไม่ถูก ทั้งที่ในรถยุโรประบบไฟฟ้าซับซ้อนกว่ารถบ้านๆเนึ่ยนะ? เอาไปศูนย์ช่างทำสองชั่วโมงเสร็จ โดนกัดอีกทีไปอู่มาสด้าสบายไม่เกินครึ่งวันระบบไฟเหมือนเดิมแล้ว
รถยึีห้อฟอร์ด defect เยอะไม่น่าใช้? เราคงลืมไปแล้วว่าวีโก้/ฟอร์จูนเนอร์เบรคทื่อเป็นยังไง ซีวิคเครื่องเสียงสับหมูเป็นร้อยๆคันล่ะ อัลติส ี่มีปัญหาคันเร่งค้างมีนะ เอ้าซิตี้เกียร์หอนที่เรียกว่าเป็นอาการปกติในรถรุ่นนี้ไปแล้วล่ะ? defect มีกันหมดทุกยี่ห้อแล้วลูกค้าก็ต้องสรรหาว่าศูนย์ไหนที่จะยินยอมให้เคลมปัญหาที่เกิดขึ้น ซิตี้เพื่อนผมทึ่อยู่ในกลุ่มสปริงรองวาล์วมีปัญหาต้องเทียวไปหลายแห่งกว่าจะได้เคลมครับ ไม่มีจดหมายส่งมาแจ้งด้วยนะผมบอกเองแหละว่ามีเสียงให้ดูเรื่องนี้ดีๆนะ พอเทียบเลขตัวถังก็อยู่ในล็อตมีปัญหาพอดีเลย มันอยู่ที่บอกปากต่อปากนี่แหละว่าใครจะเพ่งเล็งยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ ลักษณะแนวคิดของคนไทยที่จะทำอะไรชอบอิงเสียงข้างมากเป็นหลักยิ่งทำให้จดจ่อว่ารถทึ่ไม่ใช่ขายดีทึ่สุดคือของไม่ดี ทั้งๆที่ในความจริงพิจารณาดูแล้วคุณภาพรถคุณภาพช่างลูกค้าต้องพยายามเหมือนกันหมด
โดนอะ
ผมว่าคนใช้ Ford เอาไปเปรียบกับ T เกินไป
-
ขอแสดงความเห็นในฐานะตัวเองใช้ฟอร์ด เทียร่า แล้วก็มีโอกาสได้ดูแลรถของผู้ใหญ่ที่นับถือคือ เชฟ ออพตร้า เอสเตท นะครับ เปรียบเทียบให้เห็นกันไปเลย 2 แบรนด์
ถือว่าเป็นการเล่าประวัติศาสตร์แล้วกันนะครับ ;D
ย้อนไป 10 ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน ใช้บริการศูนย์ต่างจังหวัด สิ่งที่สัมผัสได้ มีดังนี้ครับ
1. เดี๋ยวนี้ฟอร์ดและเชฟสต๊อกอะไหล่มากขึ้นครับ (จ.ผม มี 2 ศูนย์ ทั้ง 2 ยี่ห้อ) คุณภาพการบริการไม่ต่างกันครับ
2. การเข้ารับการบริการ ฟอร์ดล้างรถให้ (เช่นเดียวกับโตโยต้า) แม้จะล้างบางครั้งก็ตาม ส่วนเชฟ ไม่ล้างให้ ครับ
3. ค่าแรงบริการ ไม่ต่างกัน แต่หลายครั้งที่ฟอร์ดบริการให้ผม ฟรี ในงานเล็กๆครับ ส่วนเชฟ ยังไม่เคยมีงานเล็กๆไปแก้ เลยเทียบไม่ได้
4. ฟอร์ดมีรถสำรองขณะซ่อมให้ใช้ ส่วนเชฟ รู้สึกจะมีเหมือนกัน แต่ผมไม่เคยใช้บริการครับ
5. อะไรนิดๆหน่อยๆ เชฟจะแจ้งให้ทราบ โดยมักชี้แนะให้เปลี่ยน ส่วนฟอร์ดมักจะตอบว่า มันยังใช้ได้อยู่ครับพี่
6. ฟอร์ดผมเคยชนหนักมา Body Part เบิกห้าง ราคาแพงมากทุกชิ้นครับ ฝากระโปรงเป็นหมื่น ไฟหน้าก็หลายพัน
แล้วเรื่องอะไหล่ตามท้องตลาดล่ะ ? ทั้งสองยี่ห้อ ของเทียบไม่ค่อยมีครับ ต่างกับเจ้าตลาด ของเทียบ ของมือสอง เพียบครับ
สรุป ทั้ง 2 ค่าย การบริการไม่ได้แย่อะไรเลย อะไหล่ถ้าไม่ใช่ Body Part ก็ไม่ได้แพง
แล้วถ้าสมมติผมเดินไปดูรถใหม่ล่ะครับ ?
1. เซลล์ฟอร์ด นิ่งมากครับ ไม่ค่อยมีเดินมาแนะนำ ต่างจากเชฟ ที่เซลล์พอสมควร อันนี้ไม่เป็นไรครับ ขึ้นอยู่กับคนมากกว่า
แล้วคุณภาพตัวรถล่ะ ?
ในสมัยนั้น อายุไล่เลี่ยกัน คือ Tierra 1.6 VXi AT 2003 กับ Estate 1.6 MT ปี 2005
1. ฟอร์ดประกอบฟิลิปินส์ คิ้วประตูไม่ตรงกัน ยางขอบประตูบาง ประตูหลังเบาแม้จะมีคานด้านใน ส่วนเชฟ รู้สึก ประกอบดีกว่าและ หนักแน่นกว่าเยอะมาก
2. วัสดุภายใน เช่น คอนโซล วัสดุฟอร์ดจะดูดี สีสวยกว่า สัมผัสนุ่มกว่าเชฟครับ ส่วนเครื่องหนัง ฟอร์ดจะดีกว่า เพราะเท่าที่สังเกตุ เชฟเริ่มเปื่อยยุ่ยบ้างแล้ว
3. แอร์เชฟ เคยมีปัญหาเรื่องวาล์วคอนโทรลในคอมเพรสเซอร์ เบิกอะไหล่ห้างมาแก้ข้างนอก จบที่ราคาไม่เกิน 1800 บาท (ถูกกว่าศูนย์เยอะมากครับ)
4. แอร์ฟอร์ด เซ็นเซอร์เทอร์โมสตรัทเคยเสีย เคลมไปครั้งเดียว จบ
5. รอบเดินเบา เชฟนิ่งกว่าเยอะครับ ฟอร์ดจะสั่นๆนิดๆ
6. อัตราเร่ง แม้จะเป็นเกียร์ออโต้ ฟอร์ดก็ทำได้ดีกว่าครับ (คงเป็นเพราะเชฟตัวถังน่าจะหนักกว่า)
7. สายพาน เชฟเปลี่ยนที่ หกหมื่น ฟอร์ดเปลี่ยนที่ แสนนึง
8. ช่วงล่าง และการควบคุม ฟอร์ดเทียร่า ชนะขาดครับ (เชฟออกไปทางนิ่ม ฟอร์ด แน่นหนึบมากๆ 195/55 R15 ยาง PS3 ทั้ง 2 คัน)
9. การเก็บเสียง ความเร็วต่ำ เชฟทำได้ดีกว่าครับ ส่วนความเร็วสูง ไม่ต่างกัน
10. มือเปิดประตูฟอร์ดค่อนข้างบางมากครับ หักบ่อยจัง ทั้งนอกและใน เชฟ แข็งปึ๊ก
11. โครงสร้างรถ (ฟังจากปากช่างทำสี) ฟอร์ดแข็งแรงกว่าครับ
12. ยางหุ้มเพลา เชฟอายุสั้นไปหน่อยครับ ฟอร์ดยังไม่แสดงอาการใดๆ
13. ฟอร์ดเคยเปลี่ยนโช๊คคู่หลัง เพราะนั่งแล้วได้ยินเสียงกุกๆจากด้านหลัง เนื่องจากมันรั่วครับ (กุกๆตั้งแต่วันถอยรถเลยนะครับ)
จะว่าไป ล๊อตที่มาจากฟิลิปินส์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มี Defect จริงๆครับ น้อยกว่า Chevrolet แน่ๆ
หลังจากย้ายมาผลิตที่ไทย ผมได้มีโอกาสขับ Focus 2.0GDi พบว่า ทุกอย่างที่ว่ามา เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือจริงๆ
ปัจจุบัน ผมเซอร์วิสรถเองครับ (หมายถึง เบิกอะไหล่ห้างไปทำกับอู่ที่สนิทๆกัน) และเพราะ ข้อ 8. เป็นอะไรที่ทำให้...คันต่อไป ยังไงก็ฟอร์ดครับ :D :D :D
-
ผมว่าหลักๆเลยคือไม่ให้ความสนใจกับปัญหาต่างๆมากกว่า
-
ฟอร์ดไม่ดูแลบริการหลังการขายให้ดีพอ