Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sixmund35 ที่ ตุลาคม 23, 2013, 14:13:52
-
พอดีมีญาติที่รู้จักจะขาย เป็นตัวท๊อป 1.6 ปี 2003(รุ่นสุดท้าย) วิ่งน้อยมาก ประมาณ 40000 โล
คำถามคือ
1. อัตราการกินน้ำมัน เปลืองมั้ย ประมาณรุ่นไหนครับ
2. ปัญหาที่พบสำหรับรุ่นนี้
3. ค่าดูแล ซ่อมบำรุง
4. เรื่องอื่นๆ แนะนำได้ครับ
ขอบคุณครับ :D
-
เพื่อนผมคนนึงเคยใช้บอกว่าจุกจิกมากครับ
แต่รถขับสนุกเกาะถนนมากครับ
-
ผมเคยขับแต่ 1.8 ขอตอบแบบเครื่อง 1.8 นะครับ
1. อัตราการกินน้ำมัน เปลืองมั้ย ประมาณรุ่นไหนครับ
- กินน้ำมันพอสมควร ดีกว่า Cefiro A33 แค่นิดเดียว ถ้าวิ่งน้ำมัน ในเมืองมี 7-8 โลลิตร (พระราม4 รถติดมาก) , นอกเมืองส่วนมาก 11 เคยทำได้ดีที่สุด 12.xx โลลิตร
ผมเติม Sohol 95 ครับ แต่หลังๆ ดม LPG เพราะสู้ค่าน้ำมันไม่ไหว
2. ปัญหาที่พบสำหรับรุ่นนี้
- ที่ผมเจอด้วยตัวเองคือ โช๊คอัพค่อนข้างอ่อนแอ , คาลิปเปอร์เบรครั่ว, ลูกหมากแตก อาจจะเพราะผมใช้งานค่อนข้างโหด
เป็นรถคันแรกที่ขับเป็น เลยไม่ค่อยสนใจหลุมบ่อ ซักเท่าไหร่
3. ค่าดูแล ซ่อมบำรุง
- ตัวนี้อะไหล่หลายๆชิ้น ใช้ร่วมกับ Mazda 323 ได้ครับ ถ้าหาช่างนอกเก่งๆได้จะดีมาก
ถ้าจะเข้าศูนย์ฟอร์ดและใช้อะไหล่แท้ อ่วมแน่ครับ ค่าแรงมหาโหด และต้องรออะไหล่หลายสัปดาห์ ถ้าเป็นชิ้นใหญ่จริงๆ
4. เรื่องอื่นๆ แนะนำได้ครับ
- สรุป ผมว่าน่าใช้นะครับ ถ้าราคาสมเหตุสมผล
เพราะแค่ 40,000 โลเอง แล้วซื้อคนรู้จัก ทำให้รู้ประวัติรถด้วย ซื้อมาถ่ายของเหลวให้หมด เปลี่ยนยาง น่าจะใช้งานได้ดีไปอีกนาน
รถรุ่นนี้ขับดีครับ
ปล. ศูนย
-
ถ้าราคาไม่แรงก็น่าสนใจนะครับ ถ้าไม่เกินสองแสนยิ่งดี อะไหล่หาไม่ยากครับ โกดังพี่สุดแถวรามอินทรา 42 วัสดุร่วมกันกับโปรเตเจ้ แต่สีภายในจะโทนสีต่างกันนิดหน่อย ถายในดูวัสดุดูดีทีเดียว ออฟชั่นน่าจะมีให้พอสมควรเลยมั้ง
เครื่อง 1.6 หากรู้สึกว่ายังไม่พอใจสามารถหาเครื่องที่สดใหม่อย่าง FS-ZE 170 ม้ามาวางได้เห็นพี่ท่านนึงแถวนนท์ก็วางแบบร้อยน๊อตได้เลย ติดแก็ซได้สบายใจกว่าเครื่องเดิม แค่หาอู่ที่ถนัดเฉพาะทาง(พอดีพี่แกพาไปหาเครื่องด้วยกัน)
ช่วงล้่างจะกระด้างนิดหน่อยสำหรับคนมีอายุ แต่เหนียวหนึบสำหรับวัยรุ่น รถคันไม่ใหญ่คล่องตัวทีเดียวครับ
ปัญหาเครื่องรุ่นนี้ไม่เหมาะกับติดแก็ซมั้งครับ และปัญหาอื่นๆตามอายุรถบ้าง และคงรับประทานนํ้ามันเยอะกว่ารุ่นอื่นๆที่ออกมายุคนั้น
และเรื่องซ่อมบำรุงควรจะเข้าอู่ที่ชำนาญข้างนอกจะดีกว่าครับ เข้าหาข้อมุลตามคลับได้เลย (เคยเซ็นเซอร์แอร์โฟร์เสียถามศูนย์ฟอร์ด 8000 หาข้างนอก 1500 )
-
ผมเคยขับแต่ 1.8 ขอตอบแบบเครื่อง 1.8 นะครับ
1. อัตราการกินน้ำมัน เปลืองมั้ย ประมาณรุ่นไหนครับ
- กินน้ำมันพอสมควร ดีกว่า Cefiro A33 แค่นิดเดียว ถ้าวิ่งน้ำมัน ในเมืองมี 7-8 โลลิตร (พระราม4 รถติดมาก) , นอกเมืองส่วนมาก 11 เคยทำได้ดีที่สุด 12.xx โลลิตร
ผมเติม Sohol 95 ครับ แต่หลังๆ ดม LPG เพราะสู้ค่าน้ำมันไม่ไหว
2. ปัญหาที่พบสำหรับรุ่นนี้
- ที่ผมเจอด้วยตัวเองคือ โช๊คอัพค่อนข้างอ่อนแอ , คาลิปเปอร์เบรครั่ว, ลูกหมากแตก อาจจะเพราะผมใช้งานค่อนข้างโหด
เป็นรถคันแรกที่ขับเป็น เลยไม่ค่อยสนใจหลุมบ่อ ซักเท่าไหร่
3. ค่าดูแล ซ่อมบำรุง
- ตัวนี้อะไหล่หลายๆชิ้น ใช้ร่วมกับ Mazda 323 ได้ครับ ถ้าหาช่างนอกเก่งๆได้จะดีมาก
ถ้าจะเข้าศูนย์ฟอร์ดและใช้อะไหล่แท้ อ่วมแน่ครับ ค่าแรงมหาโหด และต้องรออะไหล่หลายสัปดาห์ ถ้าเป็นชิ้นใหญ่จริงๆ
4. เรื่องอื่นๆ แนะนำได้ครับ
- สรุป ผมว่าน่าใช้นะครับ ถ้าราคาสมเหตุสมผล
เพราะแค่ 40,000 โลเอง แล้วซื้อคนรู้จัก ทำให้รู้ประวัติรถด้วย ซื้อมาถ่ายของเหลวให้หมด เปลี่ยนยาง น่าจะใช้งานได้ดีไปอีกนาน
รถรุ่นนี้ขับดีครับ
ปล. ศูนย
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ ^^
ว่าแต่ตัวนี้เติมโซฮอ 91 ได้มั้ยครับ
-
ถ้าราคาไม่แรงก็น่าสนใจนะครับ ถ้าไม่เกินสองแสนยิ่งดี อะไหล่หาไม่ยากครับ โกดังพี่สุดแถวรามอินทรา 42 วัสดุร่วมกันกับโปรเตเจ้ แต่สีภายในจะโทนสีต่างกันนิดหน่อย ถายในดูวัสดุดูดีทีเดียว ออฟชั่นน่าจะมีให้พอสมควรเลยมั้ง
เครื่อง 1.6 หากรู้สึกว่ายังไม่พอใจสามารถหาเครื่องที่สดใหม่อย่าง FS-ZE 170 ม้ามาวางได้เห็นพี่ท่านนึงแถวนนท์ก็วางแบบร้อยน๊อตได้เลย ติดแก็ซได้สบายใจกว่าเครื่องเดิม แค่หาอู่ที่ถนัดเฉพาะทาง(พอดีพี่แกพาไปหาเครื่องด้วยกัน)
ช่วงล้่างจะกระด้างนิดหน่อยสำหรับคนมีอายุ แต่เหนียวหนึบสำหรับวัยรุ่น รถคันไม่ใหญ่คล่องตัวทีเดียวครับ
ปัญหาเครื่องรุ่นนี้ไม่เหมาะกับติดแก็ซมั้งครับ และปัญหาอื่นๆตามอายุรถบ้าง และคงรับประทานนํ้ามันเยอะกว่ารุ่นอื่นๆที่ออกมายุคนั้น
และเรื่องซ่อมบำรุงควรจะเข้าอู่ที่ชำนาญข้างนอกจะดีกว่าครับ เข้าหาข้อมุลตามคลับได้เลย (เคยเซ็นเซอร์แอร์โฟร์เสียถามศูนย์ฟอร์ด 8000 หาข้างนอก 1500 )
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับผม ;D
ถ้าใช้อะไหล่กับมาสด้าได้ก็ค่อยยังชั่วหน่อย เสียที่ผมอยู่เชียงใหม่ คงหาอะไหล่ยากกว่า
-
เอาง่ายๆนะครับ ญาติสนิทของผมเพิ่งปล่อยไปสัปดาห์ที่แล้ว
เป็นตัวท้อปสุด 2.0 RS ปี 2005 มีซันรูฟ เบาะดำแดง รุ่นลิมิเต็ด
น้อยคนจะรู้ว่ามีรุ่นย่อยนี้ รถวิ่งไป 140,000 กม. เช็กศูนย์ตลอด
เต้นทตีให้แค่แสนกลางๆเองนะครับ รถไม่มีชนหนัก ผมตื้อญาติ
ผมอยู่ตั้งนาน แกก้ไม่ยอมขายให้ผมทั้งๆที่ผมอยากจะซื้อแกบอก
ให้ฟรียังไม่อยากให้เลย ผมเคยขับบ่อยๆ รถขับดีมากครับ
ช่วงล่างดี พวงมาลัยคมแต่เก็บรายละเอียดทุกรอยต่อเลยทีเดียว
พวงมาลัยดิ้นมากๆ เหตุผลที่แกไม่ยอมขายญาติกันเองเพราะ
รถเป็นสนิทค่อนข้างเยอะ ซ่อมจุกจิกและแพง
ปล.ผมอยู่ภูเก็ตนะครับ
-
รถเป็นสนิทค่อนข้างเยอะ ซ่อมจุกจิกและแพง
ปล.ผมอยู่ภูเก็ตนะครับ
เริ่มงงๆกะรุ่นนี้ละครับ บางคนบอกไม่จุกจิก บางคนบอกจุกจิกมาก สงสัยโรค defect การประกอบของ Ford อีกแล้วสินะครับ :-\
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับผม :)
-
ถ้าอยู๋ กทม ผมแนะนำอู่ ไม่ฟันหัวแบะ ซ่อมเก่ง ไม่แพงให้ได้ครับ
ฟันธงว่ารุ่นนี้ ขับดีอัตราเร่ง ไม่น่าเกลียด
เรื่องกินไม่รู้ เพราะไม่ใช่รถตัวเอง
เลยลองทางยาวๆแลกกันขับกับเพื่อนในกลุ่ม กทม-โคราช
แฟนผมบอกว่า นั่งสบายกว่ากัส 2008 ทีเดียว ทัศนวิสัยโปร่งกว่ากันมาก
พื้นที่ข้างในกว้างขวาง ช่วงล่างเหมาะสำหรับคนชอบขับรถ เพราะเกาะจิก และเก็บรายละเอียด
-
มันก็คือโปรทีเจ เปลี่ยนหัวและหาง ติดตรา Ford แทนมาสด้า
รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยครับ เพราะเสียงจากฝั่งฟอร์ดบอกว่ารถจุกจิก ซ่อมแพง มีจุดให้เสียประจำ
ฝั่งมาสด้าเอง ผมว่ารถมันไม่จุกจิกเลย ใช้ได้อย่างกะโคโรลล่า ไม่มีอะไรเสียบ่อยซ่อมไม่จบ
บำรุงรักษาตามระยะก็วิ่งทนสบายใจมาก
ก็แนะนำว่าถ้าราคาไม่แพง สภาพดีมาก ลองขับแล้วชอบก็ซื้อมาเก็บไว้ใช้ก็ได้ครับ
ถ้ารถมีปัญหาก็วิ่งเข้า mazdaclub.net หาอะไหล่จากโปรทีเจไปใส่แทนก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องปวดหัวกับฟอร์ด
-
ขอบคุณทุกท่านมากครับ
ปล ส่วนเรื่องสภาพรถนี่ ได้ยินมาว่าใหม่มากกกกก(ตัวผมยังไม่เคยเห็น) แต่เค้าบอกบางจุดยังไม่ได้แกะพลาสติกออกเลยตั้งแต่ซื้อมา