Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Insideout ที่ ตุลาคม 23, 2013, 23:36:23
-
ตั้งชื่อกระทู้ หยั่งกะ ขี่พายุทะลุฟ้า
ตั้งใจไว้นานมากแล้วนะครับ ว่าอยากทำรีวิวอันนี้ก่อนซื้อรถอีก
หลายๆคนที่ลังเลอยู่ว่าจะเคลือบดีมั๊ย ราคาแพง chi...หาย
ลองอ่านที่ผมรีวิวดูก็ได้ครับ วันนี้ผมไปทำมาแล้ว 9 ชั่วโมง
รูปที่เห็นด้านบน ทำเป็นแอ๊คไปงั้นอ่ะ
จริงๆคือหมดสภาพ คลานมากินข้าวนั่นเอง
ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่บ้านเรายังไม่ค่อยรู้จัก glass coating
ผมเนี่ยสนใจมาก หาข้อมูลมาอ่านมากมาย ก่อนเอารถที่บ้านไปทำ
ที่ร้านที่ว่ากันว่า ดีที่สุด แพงที่สุด อันดับ 1
ครั้งที่สองผมเอารถผมเองไปทำ ร้านที่ว่ากันว่า (ว่ากันว่า ตกลงใครว่าวะเนี่ย)
เป็นอันดับสองของประเทศ
ทั้งสองครั้ง ทำให้ผมได้ประสบการณ์อะไรมาหลายอย่าง ...
-
(http://img833.imageshack.us/img833/9356/x1q7.jpg)
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม รถคันนี้ ผมเปลี่ยนแนวเลยครับ
paradigm shift ไปร้านเล็กๆธรรมดา ...
(ผมขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อร้านทั้งหน้าไมค์หลังไมค์นะครับ รูปต่างๆผมจะตัดชื่อร้านออกทั้งหมด)
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา แชร์ให้เพื่อนๆน้องๆ
1. น้ำยานาทีนี้ ไม่ต่างกันมากครับ ไม่ต้องไปสนใจคำโม้ต่างๆ
สำคัญที่สุดคือการเตรียมพื้นผิวต่างหาก!!!!
ที่ต้องละเอียด ไม่ใช่แคละเอียด
แต่ต้องเนี๊ยบแบบโหดสัสจริงๆ
ผมใช้วิธี เอารถไปล้างตามร้านต่างๆ แล้วแอบสังเกตการทำงาน ของทีมงานแต่ละแห่ง ใช้เวลาความหาอยู่หลายเดือน
2. การดูแลหลังเคลือบครั้งแรก อันนี้ต้องถามจากเพือนๆที่ทำมาก่อนในแต่ละที่ ว่าดูแลเราดีแค่ไหน
เช่น ถ้าชนมา พ่นใหม่ บางที่คิดค่า recoat เฉพาะชิ้น 3000-5000 มันเกินไป
3. อย่าไปเสีย package หลายปีแพงๆ maxๆ ไม่ควรเกินสองปี เชื่อผม
4. ถ้าราคาเกิน 4 หมื่น มันไม่ใช่ละครับ ถอยออกมาซะ
-
(http://img811.imageshack.us/img811/8231/m6k5.jpg)
ก่อนไป User Review
คำถามยอดฮิตกับการเคลือบแก้ว (ใช้ตัวเองเป็นเกณฑ์ อะไรที่เราสงสัย)
1. จำเป็นต้องเคลือบมั๊ย?
ไม่จำเป็น
2. เคลือบแล้วดียังไง?
ป้องกันสีรถเป็นหลักครับ ความเงาก็เงานะครับแต่จะออกแข็งๆไม่นุ่มเท่า wax
เพียงแต่มันอยู่ทนกว่า wax อายุ
ที่บอกอยู่ได้ 3ปี 5ปี ไม่จริงนะครับ
ไม่เกินปี ก็หมดครับ
(ผมจะโดนพวกคาร์แคร์ตามกระทืบมั๊ยวะเนี่ย)
3. ที่เค้าบอกจะดูแลให้สองปี ห้าปี คือทำอะไร?
ไม่ได้ recoat นะครับ อย่าเข้าใจผิด เค้าลงให้คุณที่เดียว
ยกเว้นบางที่อาจจะมี recoat ให้จริงๆทุก สอง หรือ หนึ่งปี ถามดีๆ
ส่วนใหญ่เค้าแค่ลูบน้ำยาธรรมดา แต่คิดราคาเหมารวมคุณโคตรเว่อร์ !!!
4. ลง wax เองไม่เคลือบแก้วได้มั๊ย
ได้ครับ แต่ wax ควรลงทุกเดือน ถ้าจะเอาให้เนี๊ยบๆ
process เยอะ ค่าใช่จ่ายโหดมาก
ผมแนะนำว่า ไป glass coat ซักรอบนึงก็ดีครับ
เผื่อช่วงไหนยุ่งๆ มันยังมีความเงาของการเคลือบแข็งอยู่ เมื่อ wax หลุดไปหมด
-
ตื่นมาอ่าน อารมณ์ค้าง
รอครับ นั่งรอ นอนรอ กินรอ เลยครับ
รอเรื่องนี้เลยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าด้วยครับ ;D
-
(http://img826.imageshack.us/img826/4829/sj2p.jpg)
เริ่มจากล้างรถ
การล้างรถจะทำสามรอบ โดยมีการลูบดินน้ำมันสองครั้ง
ล้าง - แขมพู - ล้าง - ดินน้ำมัน - ล้าง - แชมพู - ดินน้ำมัน - ล้าง - แชมพู - ล้าง
(http://img600.imageshack.us/img600/2960/t1sv.jpg)
(http://img716.imageshack.us/img716/4812/xhwa.jpg)
ดินน้ำมันแต่ละก้อนจะแยกเก็บในกระปุก ตกพิ้นไม่ได้
(http://img23.imageshack.us/img23/3452/6m6w.jpg)
-
ตื่นมาอ่าน อารมณ์ค้าง
รอครับ นั่งรอ นอนรอ กินรอ เลยครับ
รอเรื่องนี้เลยครับ
ขอบคุณล่วงหน้าด้วยครับ ;D
ขอบคุณมากครับที่ติดตาม
จะพยายามเจียดเวลามาโพสท์ลงให้สำเร็จให้ได้ ;D
-
หลังจากล้างดินน้ำมันออกไปทั้งหมด สามรอบ
ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง !!
พอล้างน้ำสุดท้ายออกไป อืมม ... ผมว่ามันเงามากแล้วนะ
เอามือไปลูบ นุ่มนวลชวนฝันมาก
นึกในใจ (กรูเอารถกลับเลยได้มั๊ยเนี่ย ต้องใช้คำพูดคลาสสิกแห่งยุค
ที่ว่า "พอกับการใช้งานแบบทั่วๆไปแล้วครับ")
ต้องตื่นจากภวังค์ เมื่อมีชายร่างใหญ่ผิวคล้ำ
หน้าตาดุร้ายมาก ใส่ชุดเอี้ยมเคลือบแก้ว เดินมาบอก
"พี่ ... ขอกุญแจครับ"
คือแกจะเลื่อนรถออกมา
(http://img823.imageshack.us/img823/3272/p0n4.jpg)
เอารถออกมาดูดฝุ่น เช็ดแห้ง เหมือนขั้นตอนล้างรถทั่วๆไปนะครับ
ขัดเบาะ หน้าปัทม์ อันนี้จะเป็นทีมงานปกติ หรือ regular staff นะครัช
(http://img5.imageshack.us/img5/1548/tlb0.jpg)
งานภายในก็ถือว่าเนี๊ยบอยู่
ตอนเช็ดแห้ง เป่าแห้ง นานจนผมนึกว่าจะกลับอยู่แล้ว
พี่คนเดิมแกโผล่ออกมาข้างหลัง ... อีกแล้ว
นึกภาพหนังกำลังภายในสมัยก่อน เวลาตัวละครสำคัญ
จะออกมา มักจะเดินออกมาจากหลืบ หัวเราะ หึๆๆๆ ประมาณนั้นนะครับ
"ต้องให้แห้งจริงๆพี่"
ระหว่างนั้นก็สอบถามพี่แก ได้ความว่า ทีมเคลือบแก้ว มีกันสามคน
คือ กระบี่มือ 1 มือ 2 และ มือ 3 ต้องทำด้วยกันเป็นทีม
รับทำได้ไม่เกินวันละหนึ่งคัน (ติสท์มาก)
"มือ 1 2 3 นี่มันอะไร(วะ)ครับ"
"เป็นมือวาง เหมือนเทนนิส"
"แล้วพี่คือ ... "
"มือ 1 ครับ"
"คือ เก่งสุด"
"เปล่า ... แก่สุด"
-
รถเข้าไปในห้อง ที่ใช้เคลือบแก้ว
อันนี้สำคัญ ควรเป็นห้องแอร์ ปลอดฝุ่น ปิดทึบ
เก็บเสียง ... อันนี้ไม่ใช่ละ
ห้องแอร์ ปลอดฝุ่น ครับสำคัญจริงๆ
(http://img545.imageshack.us/img545/60/tor7.jpg)
รถผมก็เข้าไปใน Garage ติดแอร์เรียบร้อย
ห้องก็สะอาดมาก เย็นฉ่ำ
แต่มีอุปกรณ์ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการเคลือบแก้วใดๆ
แต่พี่มือ 3 หันมาบอกว่าเกี่ยว
ลำโพง BOSE 6 ตัว ... เบสนุ่มลึกชวนฝัน เก็บเสียงเพิ่มขึ้น 40% ถุงลม 6 ใบ กล้อง 6 ตัว
เปิดเพลงหมอลำล้วนๆ ไม่ใช่ เพลงแจ๊สนุ่มๆนะครัช
น้องมือ 3 หน้าเหมือนดีเจเด คลื่น Seed ทรงผมก็คล้าย
ส่วนพี่มือ 2 หน้าตาหล่อมาก ขาวๆ ตี๋ๆ นะครับ เดินกะ 2pm ในสนามบินมีแยกไม่ออก
ผมถ่ายรูปรวมด้วยแบบแอ๊ค แต่พี่มือ 1 บอก ลบซะ
ต่อไปรถผมจะฝังตัวอยู่ในห้องนี้อีก 7 ชั่วโมง
(http://img513.imageshack.us/img513/8558/9p6a.jpg)
ใครเพิ่งเข้ามาอ่าน อยากบอกว่า
ไอ้ที่ผ่านๆมานี่ ไร้สาระล้วนๆ
ของจริงจะเริ่มจากนี้นะครัช
-
อ่านมันส์มาก รอครับ
-
อ่านมันส์ นึกว่าเป็นเรื่องอื่นซะอีก
ต่อเลยเพ่ปูเสื่อกางมุ้งอยู่เป็นเพือน
-
รออ่านต่อนะครับ
น่าสนใจมากๆ
-
อ่านเพลินมากๆเลย :D
มารออ่านต่อด้วยคนนะครัช
-
กำ อ่านแล้วค้างคา รออ่านต่ออยู่นะครัช ;D
-
พี่มือ1โหดได้ใจ :D
-
โดนมือ4 ตบคว่ำ รอเงิบบบบ แล้วครับ ^_^
-
ชอบมากครับ
paradigm shift
พาราไดม์ ชิฟท์
หลุดไปจากมายาคติ(Myth) เดิมๆ
เปลี่ยนกระบวนทัศน์ไปเลย.. อิ อิ
-
หลังจากติดแถบสติ๊กเกอร์ ตามขอบต่างๆเรียบร้อยแล้ว
มือ 2 มือ 3 จะกวาดตาดูรอบๆคันกันก่อน มาร์คตำแหน่งที่มีรอยขนแมว
หรือ รอยขูดต่างๆ
โดยมใช้วิธีมองกับไฟในมุมต่างๆ
(http://img826.imageshack.us/img826/5769/ixi4.jpg)
ซึ่งผมก็เห็นกับตาตัวเองว่า มันมีขนแมวซ่อนอยู่เยอะเกินคาด
ทั้งๆที่เพิ่งใช้รถแบบไม่ได้ลุยอะไร แค่ 1 เดือน
ผมบอก "ทำไมพี่ไม่เคยเห็น แต่พอน้องชี้พี่ถึงเห็นเนี่ย"
มือ 2 หน้าเกาหลีๆ "ถ้าพี่มองมามากพอ จะเห็นจุดที่คนทั่วไปไม่เห็นครับ"
มือ 1 เดินเปิดประตูเข้ามา พร้อมกับกดเปิดเพลง คว้าอุปกรณ์
ขั้นแรก คือ ขัดลบรอย หรือ detailing
-
เรามาดูน้ำยาที่ทีมนี้ใช้กัน
ถ้าผมไม่ก่งก๊ง สองขวดนี้คืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บรายละเอียด
(http://img703.imageshack.us/img703/3940/sz4e.jpg)
(http://img42.imageshack.us/img42/9016/xthm.jpg)
การทำงานจะใช้เครื่องขัดสองตัวแยกกันทำ คนนึงมอง คนนึงขัด
สลับกันไปทีละชิ้น แบบโคตรใจเย็น ผมว่าสามคนนี้ เล่นกีฬาที่ใช้ความอดทนสูงๆ
และจิตใจที่แข็งแกร่งได้สบายเลย
เช่น เป่ากบ หรือ โดดยาง เป็นต้น
(http://img209.imageshack.us/img209/1271/xzts.jpg)
ผมแอบนั่งดูเค้าทำ
รู้สึก เหมือนเค้ามีคความสุข ทำงานศิลปะอะไรซักชิ้น
ทำงานประสาน สลับตำแหน่งกันลงตัวมาก
เปิดเพลงประกอบ มีผิวปากตาม
ภาพพวกนี้ ผมไม่เคยเห็นในร้านเคลือบแก้วอันดับ 1 อันดับ 2 ของประเทศ
ที่เคยไปทำมา
อันนั้นเค้าเหมือนหุ่นยนตร์เลยนะครับ
ไม่พูดไม่จา ถามคำตอบคำ หน้าเครียดๆ อุปกรณ์ ไอ้นี่ไอ้นั่นก็ ไฮเทคไปหมด
แต่อาจจะดีก็ได้นะ แต่ผมเห็นสามคนนี้ทำแล้ว .... แบบ อยากลงไปทำด้วยมากอ่ะ
(http://img856.imageshack.us/img856/5177/n24b.jpg)
-
ใช้น้ำยากัน เหมือนได้มาฟรีนะครับ
หมดไปหลายขวดอยู่
ผมเริ่มหิว ออกไป นั่งเล่นเน็ทที่ล๊อบบี้ อ่าน Headlightmag เรื่อง
Mazda 6 ถ้ามาราคา 1.77 ล้านว่าไงกัน อะไรซักอย่างนี่แหละ
ก็นั่งเม้นท์ ไป อ่านไป
เดินออกมา เรียกแท๊กซี่ ไปกินข้าว อ่านนสพ. คุยโทรศัพท์
หมดไป เกือบสามสีชั่วโมงได้
เดินกลับมาที่ห้อง เพลงกะลังเร้าใจ
เข้าไปเจอภาพเดิมเหมือนก่อนออกมา คือยัง detailing กันอยู่
แม่เจ้า!!
"ใกล้แล้วพี่ เนี๊ยบแน่คราวนี้" มือ 1 หันมายิ้มทั้งๆที่มือถือเครื่อง
นั่นเป็นรอยยิ้มครั้งแรกของแกเลยทีเดียว
"ผมซื้อ ผัดซีอิ๊วมาสามห่อนะ กินกันก่อนเหอะ"
"ไม่เป็นไรพี่ ถ้ามีงานเคลือบแก้ว พวกผมไม่ค่อยกินกลางวันกัน"
-
หลังจาก detailing เสร็จเรียบร้อย
ไม่เหลือรอยใดๆเลยจริงๆ สามชั่วโมงที่คุ้มค่ามาก
ขั้นที่สองเป็นการลงน้ำยาขัดก่อน ลงน้ำยาเคลือบแก้ว
ใช้น้ำยาอีกชนิดนึงของ Menzerna ใช้ตัวขัดอีกชนิด สังเกตหัวจะเป็นสีดำ
(http://img196.imageshack.us/img196/4637/z073.jpg)
ทิ้งให้มือ 3 ทำคนเดียว ที่เหลือออกไปนั่งกินผัดซีอิ๊วผม
"ไหน ตะกี้ บอกไม่กินกันไง ... "
.. "หิวอ่ะพี่ งานนี้ไม่หินเท่าเมื่อกี้ละ เดี๋ยวค่อยมาเปลี่ยนมือ"
หลังจากกินเสร็จ ลงน้ำยาเสร็จ ลอกสติ๊กเกอร์ออก เตรียมพร้อมก่อนลงน้ำยา
งานต่อไป ผมว่าโหดไม่แพ้กัน คือขัดซี่ล้อแมกซ์ด้วยน้ำยา ทีละซี่ๆ
(http://img191.imageshack.us/img191/584/yky2.jpg)
-
ผมชอบผิวรถผมหลังขั้นตอนที่ 1+2 ก่อนลงน้ำยาเคลือบแก้วมากๆ
(http://img853.imageshack.us/img853/1283/qp9h.jpg)
มันดำแบบ ดำออกมาจากข้างใน หรือ ดำฉ่ำจริงๆ
เดี๋ยวเพื่อนๆน้องๆ พอเห็น งานตอนเสร็จทั้งหมด
ผมจะออกไปถ่าย outdoor กับแสงกลางวัน และถ่าย indoor ให้ดูกันชัดๆแน่นอน
ระหว่างที่ผมกำลังเคลิบเคลิ้มอยู่
มือ 1 เหมือนจะรู้ใจ
"สีรถพี่แบบนี้แหละ เดี๋ยวผมจะเอาเกราะแก้วหุ้มมันไว้ทั้งคัน ... "
เรามาที่น้ำยาเคลือบแก้ว ที่แพงนักแพงหนา
ที่นี่จะใช้สองชนิด (อันนี้ผมถูกใจมาก) คือ น้ำ และ สเปรย์พ่น ที่เป็นน้ำยาแก้วหรือเคลือบแข็งทั้งคู่
มาดูหน้าตาพระเอกของเรากัน
อันนี้เป็นน้ำยา
(http://img9.imageshack.us/img9/2847/gclc.jpg)
ส่วนอันนี้เป็นสเปรย์
(http://img849.imageshack.us/img849/5049/btk2.jpg)
ขั้นตอนของการเคลือบที่นี่ (แต่ละที่ไม่เหมือนกัน)
1. เอาน้ำยาลูบไปทางเดียวทีละชิ้นๆ ไม่ปาดซ้ำ
2. หลังจากเสร็จทั้งคันจะอบด้วยอินฟราเรด หนึ่งรอบ
3. หลังจากอบจนเซ็ทตัว ปาดน้ำยาอีกรอบเหมือนข้อ 1 ก่อน จะอบอินฟราเรดอีกรอบ
4. พ่นสเปรย์แก้วและขัดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ ก่อนอบอินฟราเรด รอบสุดท้าย
ทั้ง process ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
การลูบน้ำยา
(http://img5.imageshack.us/img5/1221/d2er.jpg)
อบด้วยอินฟราเรด
(http://img405.imageshack.us/img405/6164/gh0p.jpg)
-
น้ำยาตัวขวดแบบนี้ กับกระป๋องแบบนี้
ขอบอกเลยว่า เกรดดีใช้ได้ครับ
ราคาน้ำยา ถ้ารู้กันจริงๆจะตกใจ
ที่แพงผมจะบอกว่าแพงการเก็บรายละเอียดนี่แหละ
เตรียมผิว ส่วนรูปที่ จขกท ถ่ายมา ผมช่วยอธิบายให้
ขั้นแรกล้างรถลูบดินน้ำมัน สอง-สามรอบ ใช้ Detailer ช่วยในการดึงคราบ
ขั้นสอง ขัดน้ำยา 2-3 ตัว ขึ้นอยู่กับว่ารถสภาพหนักแค่ไหน(ขั้นตอนนี้กินเวลานานที่สุด งานสวยไม่สวยอยู่ที่ฝีมือคนขัดแล้ว)
รถจขกทน้ำยา 2 ตัวครับ จากที่ดูใข้ Menzana เป็นน้ำยาเกรดดีที่นิยมใช้ในคาร์แคร์ เป็นน้ำยาใช้เครือของ Chemical Guys ผู้นำเข้าคนเดียวกัน
ส่วนที่แพงจริงๆ เท่าที่นึกออก Scholl Concept ใช้ในร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่งในเครือร้านของ Swissvax
ตอนผมเคลือบแก้วก็ใช้ Menzana ครับ คุ้มเงินสุดแล้ว เทียบกับราคานะ ผมให้คนรู้จักทำให้ครับ
ขั้นที่สาม ลงน้ำยาจะ 1,2,3 โค๊ท แล้วแต่ตัวน้ำยาแนะนำมา ส่วนตัวที่เจ้าของกระทู้ใช้ น่าจะเป็นน้ำยาจาก Crystal Process นำมา Rebrand
น้ำยาจากบริษัทนี้ใช้กับ ร้านตัวย่อ 3 ตัว ที่ดังๆนั่นแหละ แพ็คเกจเป็นแสนๆ
ส่วนกระป๋อง เป็นน้ำยาช่วยในเรื่องการรีดน้ำ แต่ความแข็งไม่หนามาก เป็นแบบพ่น
ส่วนการใช้อินฟาเรดนั้นช่วยในการเช็ตตัวของน้ำยาเคลือบแก้ว หากทิ้งไว้ปกติต้องใช้เวลานาน ใช้ Infarade ทำให้เช็ตตัวเร็วขึ้นครับ
ปล. ฝีมือคนขัดสำคัญมากครับ ร้านดังๆบางร้านใช้คนงานขัดเยี่ยงทาส ผมแนะนำทำร้านแบบนี้ดีกว่า ละเอียดกว่าเยอะ น้ำยาไม่ต่างกันมากหรอกครับ
ผมก็เคลือบแก้วมาแล้วเหมือนกัน แนะนำ จขกท ใช้น้ำยาพวก Mainteanace ประจำสัปดาห์ได้นะคับ พวก ซิลิกา ส่วนตัวผมใช้ Si-700 ครับ
บางครั้งมีงานก็ลง Wax เอาได้นะครับ ผมใช้ Swissvax Concorso ครับ
-
ทั้งหมด 9 ชั่วโมง
ทิ้งให้น้ำยาเซ็ทตัวหนึ่งคืน เอารถออกมาถ่ายงาน
ให้ดูทั้งแบบ daylight และ nightshot นะครับ
เพื่อนๆน้องๆ ลองดูนะครับ
งานจะออกเงาแบบแข็งๆ ไม่นุ่มนวลเหมือน wax แต่บางคนชอบมากนะครับ
ข้อดีคือทนอยู่ได้เป็นปีโดยไม่ต้องทำอะไรซ้ำ ปกป้องสีรถได้มากกว่า wax ทั่วๆไป
ผมทำเพราะเหตุผลเรื่อง ปกป้องสีเป็นหลักครับ อีกอย่างคือไม่ชอบติดฟิล์มใสกันรอย
ลองดูภาพกลางวันก่อน
(http://imageshack.us/a/img547/8514/ubx6.jpg)
(http://imageshack.us/a/img89/8417/l7tr.jpg)
(http://imageshack.us/a/img823/3967/zzua.jpg)
(http://imageshack.us/a/img31/7118/0tkt.JPG)
(http://imageshack.us/a/img801/5958/e7og.jpg)
(http://img801.imageshack.us/img801/7769/gcee.jpg)
-
ตอนกลางคืนในอาคารจอดรถกับโรงจอดรถพ่อ
(http://imageshack.us/a/img32/5867/f0ud.JPG)
(http://imageshack.us/a/img29/1112/jij6.jpg)
(http://imageshack.us/a/img96/7493/8o54.jpg)
(http://imageshack.us/a/img11/1079/txet.jpg)
พอได้ไอเดียกับการเคลือบแก้วไม่มากก็น้อย
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ;)
-
ขอบคุณคุณ Ongszaa สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ;)
อย่างที่บอกผมเจ็บมาเยอะแล้วกับเคลือบแก้ว
ไม่ใช่เพราะไม่รักรถคันนี้ ถึงไม่ไปร้านดังนะครับ
แต่เพราะรักมากเลยไม่ไป แต่ตามหาสามคนนี้แทน ...
-
ไม่ถามร้านก็ได้ครับ
ถามว่าหาร้านแบบนี้ยังไง!!!
ปกติหาในอินเตอร์เนตก็มีแต่คนแนะนำร้านที่ดังๆอยู่แล้ว
ไปตั้งกระทู้ถามที่ไหนก็มีแต่เอาร้านดังไว้ก่อน
จะหาแบบนี้ได้จากไหนล่ะเนี่ย - -"
ปล. ตอนนี้ไม่ได้เคลือบแก้วครับ แต่เข้าคาร์แคร์ประจำ ร้านนี้พอโอเค ดีกว่าทำเอง เพราะทำไม่ไหว ;D
แต่คิดว่าเดี๋ยวต้องจัดเองซักที เพราะยังไงๆมันก็ยังมีขนแมว+น่าจะเก็บงานละเอียดกว่าด้วย
-
เกิดมาไม่เคยเห็นอะไรจะเงาแบบนี้มาก่อนเลยยๆๆ
อึ๋ยย..
ขอบคุณนะครับ สำหรับประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง
คุณ insideout เล่าได้สนุกดีครับ
:)
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวด้วยครับ
เงาแบบว่า ใช้ถ่ายโฆษณา ทำอนิเมชั่น แบบไม่ต้องตกแต่งเพิ่มได้เลยนะเนี่ย ถ้าเห็นแต่ภาพ นึกว่ารีทัชมาเลยครับ >_<
-
ขอบคุณมากกกกกกกกกกกกกกกกกครับ
ถ่ายรูปสวยมากครับ เห็นแล้วอยากเคลือบแก้วอีกครับ
ตอนนี้ ลงwaxไปก่อน เก็บเงินเปลี่ยนยางเสร็จ(อีก6เดือนได้เปลี่ยนยางละ) จะมา ค่อยมาเก็บเงินเคลือบแก้วต่อ ^_^ เห็นแล้วอิจฉามากมาย
-
เงางามมากโดยไม่ต้องใช้ effect ช่วยเลยครับ
นึกถึงงานร้านเคลือบแก้วทั้งหลายเอารูปมาโปรโมท แต่เล่นติดเปิดไฟบนเพดาน10ดวงสะท้อนแล้วค่อยถ่ายรูป
มันจะไปเห็นความเงาอะไร แค่ล้างดีๆจอดล่อไฟก็ได้รูปแบบนั้นแล้วครับ...
-
ราคาผมซื้อ package 2 ปี มาทำ treatment ทุก 3 เดือน
ครบ 1 ปี recoat ให้ทั้ง process แบบครั้งแรก
ชิ้นไหนเป็นรอยพ่นสีมาใหม่ recoat ฟรีทุกชิ้น
25000 บาท
ถ้าเป็น package 1 ปี coat ครั้งแรกนี่เหมือนกันทุกอย่าง อยู่ที่ 15000
ราคาแปรตามขนาดรถ ถ้า C-seg หรือ D-seg ญึ่ปุ่นจะถูกกว่านี้ครับ
เผื่อน้องๆคนไหนสนใจ
ราคาร้านทั่วๆไป ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณนี้เกือบหมด
ถ้าผิดจากนี้มากๆ เดินออกมาเลยครับเชื่อพี่
ย้ำอีกครั้ง ... สำคัญสุดไม่ใช่น้ำยาแต่เป็น ฝีมือและความละเอียด!!!
พี่ขอโทษจริงๆนะครับ เรื่องบอกชื่อร้าน จริงๆไม่ได้หวงอะไร
ผมต้องให้เกียรติคุณ Jimmy และทีมงานของ Headlightmag
เลยอยากให้คอนเท้นท์เป็นรีวิวในแบบ User Review แท้ๆ ครับ
-
ดำเงาแบบblack pianoเลยครับ
👍
-
ขอบคุณคุณ Ongszaa สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ;)
อย่างที่บอกผมเจ็บมาเยอะแล้วกับเคลือบแก้ว
ไม่ใช่เพราะไม่รักรถคันนี้ ถึงไม่ไปร้านดังนะครับ
แต่เพราะรักมากเลยไม่ไป แต่ตามหาสามคนนี้แทน ...
ผมว่าไม่ใช่ร้านดังเนี่ยแหละคับ ที่ดีกว่า
ราคาถูกกว่า คุณภาพงานดีกว่า ทำไมต้องจ่ายแพง
ไม่ถามร้านก็ได้ครับ
ถามว่าหาร้านแบบนี้ยังไง!!!
ปกติหาในอินเตอร์เนตก็มีแต่คนแนะนำร้านที่ดังๆอยู่แล้ว
ไปตั้งกระทู้ถามที่ไหนก็มีแต่เอาร้านดังไว้ก่อน
จะหาแบบนี้ได้จากไหนล่ะเนี่ย - -"
ปล. ตอนนี้ไม่ได้เคลือบแก้วครับ แต่เข้าคาร์แคร์ประจำ ร้านนี้พอโอเค ดีกว่าทำเอง เพราะทำไม่ไหว ;D
แต่คิดว่าเดี๋ยวต้องจัดเองซักที เพราะยังไงๆมันก็ยังมีขนแมว+น่าจะเก็บงานละเอียดกว่าด้วย
ผมพอมีคนแนะนำให้ แต่ไม่ใช่ร้าน สนใจมั้ยคับ เป็นโปรใน twcc เนี่ยแหละ
เป็นไม่กี่คนที่ล้างรถให้พี่จิมมี่ด้วย 555 ผมทำกับคนนี้แหละ ถ้าสนใจ PM มาหาผมละกัน
ราคาผมซื้อ package 2 ปี มาทำ treatment ทุก 3 เดือน
ครบ 1 ปี recoat ให้ทั้ง process แบบครั้งแรก
ชิ้นไหนเป็นรอยพ่นสีมาใหม่ recoat ฟรีทุกชิ้น
25000 บาท
ถ้าเป็น package 1 ปี coat ครั้งแรกนี่เหมือนกันทุกอย่าง อยู่ที่ 15000
ราคาแปรตามขนาดรถ ถ้า C-seg หรือ D-seg ญึ่ปุ่นจะถูกกว่านี้ครับ
เผื่อน้องๆคนไหนสนใจ
ราคาร้านทั่วๆไป ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณนี้เกือบหมด
ถ้าผิดจากนี้มากๆ เดินออกมาเลยครับเชื่อพี่
ย้ำอีกครั้ง ... สำคัญสุดไม่ใช่น้ำยาแต่เป็น ฝีมือและความละเอียด!!!
พี่ขอโทษจริงๆนะครับ เรื่องบอกชื่อร้าน จริงๆไม่ได้หวงอะไร
ผมต้องให้เกียรติคุณ Jimmy และทีมงานของ Headlightmag
เลยอยากให้คอนเท้นท์เป็นรีวิวในแบบ User Review แท้ๆ ครับ
ราคามาตรฐานครับ แต่ฝีมือโอเคเลยครับ
ดีตรงที่มี Recoat ให้ แต่ความจริงน้ำยาตัวนี้ทนได้ถ้าสอง Coat ได้ 5 ปีนะคับ
แต่เอาออกก่อนก็ดี หุหุ
-
ถ้าเปนสีขาวทำได้เปล่าครับ
-
ถ้าเปนสีขาวทำได้เปล่าครับ
สีขาวก็ทำได้ สวยด้วยครับ ;)
-
เหมือนผิวน้ำบนตัวรถเลยครับ เงาพริ้วมาก ^^
-
เจอชื่อร้านแล้วฮะ Beauty car garage ติดที่ขวดสเปรย์ครับ :D
-
ครับ เห็นขวดมันบอกชื่อร้านแถว นวมินทร์ แต่ร้านคุ้นๆ เหมือนแพนด้า คาร์แคร์เลยครับ
-
ผมขอเดาว่าร้านสัตว์สงวนของจีน
ปล.ถ้าถูก รบกวนpmมาบอกว่าถูกก็พอครับ ถ้าผิดก็บอกว่าผิดพอครับ ขอบคุณครับ (ไม่ถือเป็นการเปิดเผยชื่อร้านหลังไมค์ใช่ไหมครับ)
-
.....อ่านสนุกและเพลินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เลยครับบ ;D ;D ;D ;D ขอบคุณนะครับ
รถของเจ้าของกระทู้ ดำเงามากกกก สวยมากกก มันดำลึกๆ อ่ะครับ ชอบมากเลยครับ :D :D
-
ขอบคุณครับ
สีดำนี่มันเงาได้ใจจริงๆ หล่อมาก
-
สวยมากเลยคร้าฟ ยิ่งผมเป็นคนชอบ BMW เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โอ้ย สวย เงางาม หรู มีสไตล์ :D
-
เงางามมากกกๆ = v =
-
โอโห้ สวยงามมากๆเรยครับ รบกวน pm ชื่อร้านมาให้หน่อยนะครับ
-
ผมตามไปทำร้านนี้เพราะพี่เลยนะเนี่ย
แต่ตอนผมรับรถกลับมา ขับกลับบ้านดันเจอฝนซะงั้น ไม่รู้จะมีปัญหาไรรึป่าว เซ็งเลย 555
-
อ่านสนุกมากๆเลยค่ะ ได้มีโอกาสไปลองดูตามใน review ประทับใจ ค่ะ ;D ;D ;D
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ ;D ;D ;D