Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Skyforce ที่ พฤศจิกายน 06, 2013, 23:04:28
-
วันนี้ว่างเกินเลยมานั่งคิด เห็นรถอย่างสมมติ C-seg ขายกัน 800,000 - 1,000,000 ต้นๆ เลยอยากมานั่งแยกธาตุว่าเจ้ารถคคันนึงที่มาขายเราเนี่ย ถ้าไม่นับเอาค่าวิจัย know how ต่างๆ เอาเฉพาะวัสดุอุปกรณ์ล้วนๆ มันเท่าไหร่ เราจะซื้อรถแพงไปมั้ย
ยกตัวอย่างเช่น corolla altis หนึ่งคัน
ค่างานโครงสร้างตัวถัง = ?
ค่างานระบบไฟ = ?
ค่ายาง = ?
ค่าเบาะ = ?
ค่าเครื่องยนต์ = ?
ใครพอรูั ประมาณการคร่าวๆ ได้บ้างครับ ;D ;D
-
20-25% ของราคาที่เขาขายอ่ะครับ
-
ผมเดาว่าประมาน 200000-300000 แค่นั้นครับ
-
แล้วแต่ OEM ด้วยครับ
ราคาชิ้นส่วนแบบ Mass ถูกมากๆ ครับ
ค่ายรถ Japan ต้นทุน รถ โครตถูกมากๆ ครับ
แต่ Ford นี่ ต้นทุนแพงกว่ารถในคลาสเดียวกันแน่นอนครับ
-
B-segment ไม่ถึงแสน ในบางค่าย และแพงสุดก็แสนต้นๆ
;D
กระบะ
แสนปลายๆในบางค่าย :P
-
ถึงว่าค่ายรถยนต์โบนัสกระจาย แถลงกำไรที นี่สุดๆ 55
-
ลองย้อนมาดูรากฐานภาษีบ้านเราดูขำๆสิครับยังไม่หักกำไรราคารถก็ถูกกว่าเกินครึ่งแล้วครับจะถูกมากถูกน้อยลองดูที่กระบอกสูบครับ
-
30-40% ของราคาขาย
-
ที่แพงมาจาก ค่าแรง ค่าโฆษณา ค่า brand ค่าภาษี แพงกว่าราคาตัวรถ
-
ค่า R&D ก็แพงอยู่นะคับ
-
ถ้ารถขาย 7 แสน ต้นทุนเฉพาะค่าวัสดุรอบคันที่ขึ้นรูปประกอบแล้วน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนไม่เกินนี้นะครับ
ที่เหลือค่าแรง ค่าออกแบบรอบคัน วิศวกรรม กำไรอะไรก็ว่าไปละกัน
-
ถ้าพวก Supercar, Sportcar นำเข้าอย่าง Ferrari, Porsche
นี่ผมว่าเทียบต้นทุนกับราคาขายบ้านเรา คงแค่ 10% เพราะเจอภาษีก็โดนไปก่อนแล้ว 3เท่า
โดยเฉพาะ Porsche ผมเคยอ่านเจอใน Autobild กำไรต่อคันเค้าเยอะมาก
มากที่สุดใน VW Group
-
จริงๆถ้าคิดเฉพาะค่าวัสดุเฉยๆ คงไม่แพงหรอกครับ เพราะชิ้นส่วนแต่ละชิ้นบริษัทรถยนต์เค้าสั่งกันที่เป็นแสนชิ้น
แต่ถ้าให้พวกเราๆไปซื้อเองทีละชิ้นมาประกอบเป็นคัน ผมว่าราคาอาจจะเกินราคารถได้ ดูจากราคาอะไหล่เวลาซ่อมได้
แต่จะคิดแค่ว่าราคารถมีแค่ค่าอะไหล่ซึ่งไม่เห็นแพงทำไมตั้งราคาขายโหดอย่างนั้นอย่างนี้ก็ไม่ถูกครับนะครับ
เพราะว่าโรงงานต้องลงทุนสร้างสายการผลิตรถแต่ละรุ่นหลายพันล้านหรืออาจจะเป็นหมื่นล้าน แล้วยังมีค่าแรงงาน
ค่าภาษีนำเข้าอะไหล่ ภาษีอื่นๆอีกที่ไม่ใช่แค่ภาษีที่มาบวกตอนขายเราแค่นั้น ซึ่งผมว่าราคาที่ผลิตรถในบ้านเรา 1 ใน 3 เป็นภาษี (ประมาณเอานะครับ)
ยิ่งถ้าเป็นรถนำเข้าทั้งคันไม่ต้องพูดถึงครับ ภาษีนี่ x2 x3 ราคารถ ทำให้ที่บริษัทรถยนต์ต้องลดต้นทุนตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย
แล้วสุดท้ายผลก็ตกสู่ผู้บริโภค แต่บางบริษัทก็นะครับ ผลิตรถทีนึงก็เยอะกว่าชาวบ้าน ต้นทุนก็ต่ำกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว ดันขายแพงกว่า แต่ให้น้อยกว่า
อย่างงี้ก็กดขี่ผู้บริโภคเกิ้นนนน!!
-
ต้นทุนมันคิดได้หลายวิธีครับ
แต่ถ้าเอาเฉพาะค่าการผลิตกะวัตถุดิบ คันนึง มาร์จิ้นมันไม่ต่ำกว่า 30%หรอกครับ อันนี้เคยเรียนมา แต่ลืมละว่าตอนไหน *-*
-
แล้วแต่ OEM ด้วยครับ
ราคาชิ้นส่วนแบบ Mass ถูกมากๆ ครับ
ค่ายรถ Japan ต้นทุน รถ โครตถูกมากๆ ครับ
แต่ Ford นี่ ต้นทุนแพงกว่ารถในคลาสเดียวกันแน่นอนครับ
รู้ได้ไงครับ
-
ราคาหน้าโรงงาน B SEC รุ่นTOP ไม่เกิน 2แสน นอกนั้นเป็นภาษีและกำไรครับ
ที่มาคงบอกไม่ได้ ;)
-
ต้นทุนไม่ได้ถูกขนาดนั้นหรอกครับ
ถ้าจะบอกว่ากำไรบางรุ่นยังไม่ถึงแสนเลยนะครับ หักค่าดำเนินการอื่นแล้ว คุณจะเชื่อไหม เค้าเน้นขายเยอะๆ
แต่ถ้่าเป็นกระบะค่ายดังๆนี้ กำไรหลายแสน
-
ให้ผมเดานะ ยังก็ไม่เกิน 50 เปอร์เซ็น
-
รถที่ลงทุนแล้วคุ้มทุนก็บรรดารถที่ใช้bodyเดิมแต่ขายกัน 9-10 ปีละครับ ประหยัดค่า model ไปเยอะ พวกนี้คนส่วนใหญ่มองไม่เห็นครับว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ฉะนั้นให้ซื้อรถรุ่นใหม่ๆดีกว่า อย่าไปนิยมยี่ห้อมากนัก
-
ที่แน่ๆ เวลาโปรโมชั่นจัดหนัก ลดทีเป็นแสน
กำไรคันนึงคงต้องแสนอัพ ละครับ
-
จริงๆถ้าคิดเฉพาะค่าวัสดุเฉยๆ คงไม่แพงหรอกครับ เพราะชิ้นส่วนแต่ละชิ้นบริษัทรถยนต์เค้าสั่งกันที่เป็นแสนชิ้น
แต่ถ้าให้พวกเราๆไปซื้อเองทีละชิ้นมาประกอบเป็นคัน ผมว่าราคาอาจจะเกินราคารถได้ ดูจากราคาอะไหล่เวลาซ่อมได้
แต่จะคิดแค่ว่าราคารถมีแค่ค่าอะไหล่ซึ่งไม่เห็นแพงทำไมตั้งราคาขายโหดอย่างนั้นอย่างนี้ก็ไม่ถูกครับนะครับ
เพราะว่าโรงงานต้องลงทุนสร้างสายการผลิตรถแต่ละรุ่นหลายพันล้านหรืออาจจะเป็นหมื่นล้าน แล้วยังมีค่าแรงงาน
ค่าภาษีนำเข้าอะไหล่ ภาษีอื่นๆอีกที่ไม่ใช่แค่ภาษีที่มาบวกตอนขายเราแค่นั้น ซึ่งผมว่าราคาที่ผลิตรถในบ้านเรา 1 ใน 3 เป็นภาษี (ประมาณเอานะครับ)
ยิ่งถ้าเป็นรถนำเข้าทั้งคันไม่ต้องพูดถึงครับ ภาษีนี่ x2 x3 ราคารถ ทำให้ที่บริษัทรถยนต์ต้องลดต้นทุนตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย
แล้วสุดท้ายผลก็ตกสู่ผู้บริโภค แต่บางบริษัทก็นะครับ ผลิตรถทีนึงก็เยอะกว่าชาวบ้าน ต้นทุนก็ต่ำกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว ดันขายแพงกว่า แต่ให้น้อยกว่า
อย่างงี้ก็กดขี่ผู้บริโภคเกิ้นนนน!!
ถูกใจประโยค สุดท้ายครับ " ผลิตรถทีนึงก็เยอะกว่าชาวบ้าน ต้นทุนก็ต่ำกว่าชาวบ้านอยู่แล้ว ดันขายแพงกว่า แต่ให้น้อยกว่า
อย่างงี้ก็กดขี่ผู้บริโภคเกิ้นนนน!! " :) ;) :D ;D
-
จริงๆ แล้วต้นทุนมันไม่ได้มีเฉพาะค่าชิ้นส่วนรถยนต์นะครับ
คิดแบบนั้นไม่ได้หรอก
แชร์ให้งงหนักเข้าไปอีกว่ากำไรเยอะจริง
แต่ถ้าให้เทียบกับสัดส่วนรายได้แล้ว ได้ไม่ถึง 10% นะครับ
แม้ว่าจะเทียบเงินปันผลที่ไปอยู่ในบริษัท supplier ทั้งหลายแล้วก็เถอะ
-
ผลกำไร ต่อ คัน
กับ
ผลกำไร ต่อ เงินลงทุน ทั้งหมด มันคนละเรื่องกัน
รถกำไรต่อคัน ได้ 50 %
แต่รถขายได้ไม่ตามเป้าหมาย ที่คาดการณ์ไว้ ก็ ขาดทุนมหาศาลครับ
ขาดทุนทั
ดังนั้นกำไรของ OEM จริงๆ อยู่ที่ยอดขายรวม
เข้าใจ ว่า จขกท ต้อวการรู็
ค่าต้นทุนการผลิตต่อคัน ก็หมายถึง ราคา ชิ้นส่วน ที่ซื้อเข้ามารวมถึงค่าแรงประกอบ ค่าดำเนินการเท่านั้น
อย่าเอา R&D หรือ โฆษณาไปรวมเชียว อันนั้น เค้าเอาไปเฉลี่ย ในราคารถและราคาชิ้นส่วนแล้วแล้ว
บางที โฆษณา เพิ่มมาทีหลังเพื่อกระตุ้นยอดขายก็มี