Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: aobpanda ที่ พฤศจิกายน 07, 2013, 13:31:12
-
มาแชร์ความรู้สึกหลังจากได้ทดลองขับ CX-5 2.2 Diesel เปรียบเทียบกับ XV
ที่เทียบกับ xvเพราะกำลังเลือกระหว่าง2ตัวเลือกนี้อยู่ครับ
1.ช่วงล่าง แข็งกระด้างกว่า xv นิดหน่อย และการเข้าโค้งcx-5ทำได้ ดีไม่แพ้ xv ผมว่าสูสีกัน
2.เครื่องยนต์ 2.2 diesel อัตราเร่งดีกว่า2.0ของxv ชัดเจน ลองจับเวลาแบบเล่นๆดู 0-100 ผมว่า ประมาณ10วินาที +นิดหน่อย
3.พวงมาลัยตอบสนองคล่องแคล่วดี แต่เบาไปนิดนึง ที่ความเร็วสูง
4.เบาะนั่งด้านหลังสำหรับผม คิดว่าโอเค นั่งได้สบายอยู่สำหรับคนสูง175 เสียดายปรับเอนหลังไม่ได้แค่นั้น
โดยรวม สำหรับผมเป็นรถที่ขับสนุกดีครับ ฟีลลิ่งของรถคันนี้ให้ความรู้สึกว่ารถเบากว่า xv (ส่วนตัวชอบความรู้สึกหนักแน่นแบบxvมากกว่า)
แต่cx-5ก็โอเค รู้สึกมีความคล่องตัว ฟีลลิ่งของรถเหมือนขับรถเก๋งอยู่ การเปลี่ยนเลน การเข้าโค้ง รู้สึกมั่นคง ทำได้ดี อัตราเร่งแซง2.2 D ดีใช้ได้ คิดว่า2.0skyactivG คงจะอืดพอๆกะxv ซึ่งถ้าxvได้เครื่องที่แรงกว่านี้ผมอาจจะเปลี่ยนใจไปxv (brand loyalty นิดนึง จขกท. ใช้แมวคอแดงอยู่ ;D) ถ้าคนเท้าหนักจัด2.5 หรือ 2.2ดีเซลโลด ส่วนตัวคงเอา cx-5 2.2 diesel แต่จะขอรอดู V40 cross country อีกหน่อย
ท่านอื่นที่ไปลองมาแล้วมีความเห็นเป็นอย่างไรมาแชร์กันคับผม
-
V40 จะไปทับไลน์กับแมวรึเปล่าครับ แนวคล้ายๆกัน
-
ว่าจะไปลองขับดูเหมือนกันครับ
แต่แอบเสียดายนิดๆตรงที่เบาะหลังปรับเอนไม่ได้
อันนี้ผมว่าหลายท่านอยากให้มันปรับได้นะ
โดยรวมรถสวยดีครับ ชอบดีเซล+ถุงลม 6 ใบ+ออฟชั่นไม่กั๊ก
แต่ใครจะซื้อรอดู X-trail ปีหน้าอีกตัวน่าจะสนุกครับ
-
ยังไม่มีเวลาไปลองเลยครับ ไปลองศูนย์ไหนมาเอ่ย เห็นบางศูนย์ เช่น รัตนาธิเบศน์ตัวเทสต์ไดรว์เป็น 2.0S
-
ศุนย์ชลบุรีครับ
Xtrail เครื่องเป็นสเปกไหนครับ มีเครื่องดีเซลมั้ยหนอ
-
new x-trail ไม่มีเครื่องดีเซลครับ
ถ้าในอเมริกา new rogue (x-trail) จะใช้เครื่อง 2.5L เครื่องเดียวกับ new teana L33
แรงม้าน้อยกว่า CX-5 แรงบิดพอๆกันแต่ x-trail ประหยัดน้ำมันมากกว่าครับ
-
ศุนย์ชลบุรีครับ
Xtrail เครื่องเป็นสเปกไหนครับ มีเครื่องดีเซลมั้ยหนอ
ไม่มีครับ น่าจะเป็นเบนซิน4สูบ เครื่องตัวเดียวกะ Teana
-
ตอนนี้ xv เริ่ม โปร ดอก 1.99 48 ด. + ประกัน + น้ำมัน 30000 แล้ว ต่อไปคงได้เห็นโปรเด็ดๆ กว่านี้
-
ยังไม่มีเวลาไปลองเลยครับ ไปลองศูนย์ไหนมาเอ่ย เห็นบางศูนย์ เช่น รัตนาธิเบศน์ตัวเทสต์ไดรว์เป็น 2.0S
วันนี้ไปศูนย์รัตนาธิเบศร์มาแล้วครับ ว่าจะไปลองเหมือนกันแต่เห็นเซลส์บอกว่ารถมีปัญหา code ขึ้น
ต้องให้ช่างจากมาสด้าใหญ่มาดู เค้าว่าพรุ่งนี้น่าจะลองได้ครับ
-
++
เพิ่งกลับจากไป test CX-5 เครื่องดีเซลมาช่วงสั้นๆ ครับ
ขับสนุก แรงดึงดี กดเป็นมา วิ่งผ่านทางขรุขระนุ่มนวลดี ไม่ตึงตัง
เซลพยายามพรีเซ้นต์เรื่องวงเลี้ยวที่แคบ ก็โอเค แคบจริงๆ
พวงมาลัยเบา แต่พอชินแล้วก็บังคับง่ายดี วัสดุภายในดูดีกว่าคิดไว้ตอนแรก
และดีกว่า CR-V (คหสต) เบาะหนังคุณภาพใช้ได้ เบาะหน้านุ่มก้นดี แต่เบาะหลังแข็งไปนิด
ลำโพง bose ยังไม่ได้ลองตั้งใจฟัง แต่ก็ไม่ขี้เหร่
สรุปว่าชอบครับ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนบิ้วพี่สาวต่อไป 555
++
-
2.5 เทียบกับ ดีเซล เป็นอย่างไรบ้างครับ
มีใครลองขับทั้ง 2 รุ่นบ้างไหมครับ
-
ไปลองขับมาแล้วครับที่ ตัวดีเซล เครื่องเงียบมากครับ นั่งข้างในได้ยินเสียงเบามากครับ
อัตราเร่งดีครับ เข็มวัดรอบกวาดยังกะเบนซิน ผมชอบเกียร์มากนะ มันสมูทมากไม่สดุดเลย เนียนกว่า เกียร์ ฮอนด้าอีก
วัสดุภายในผมชอบครับ รถคันนี้เอาใจคนขับจริงๆ เสียงปะทะมีบ้างตามรถ SUV ล้อ 19 แต่นุ่นแน่นดีครับ มีเสียง และ สะเทือนบ้างเล็กน้อยที่ความเร็ว สูง ผมกดไป 160
-
ไป test drive มาแล้วครับ cx-5 2.2 ดีเซล awd
ภายในดูดี สวยครับ เบาะคู่หน้าสบายเลย วัสดุก็ดูสมกับราคา
แต่เบาะหลังนี่แหละ สั้นครับ ปรับเอนไม่ได้อีกเสียดายเล็กๆ และเบาะหลังแอบแข็งไปครับ (ผมสูง 185 ซ.ม.) พื้นที่เหนือศรีษะและพื้นที่วางขา เหลือเยอะครับ
สรุป เบาะหลังไม่สบายสำหรับผม แต่ท่านอื่่นอาจจะพอดี
เครื่องเสียง BOSE ไม่ได้ตั้งใจฟัง ฟังเป็น วิทยุ (ไม่มีแผ่น) คุณภาพเสียงดีครับ
ช่วง test drive ยาวๆครับ เสียงเครื่องได้ยินตอนสตาร์ทชัดเจน แต่หลังจากนั้น โอ้วว! เงียบมาก เงียบพอๆกับเบนซิน(นั่งในรถนะ)
อัตราเร่ง ขับสนุกมาก แรงดึงดี เหยียบทีหลังติดบาะ กดเป็นมา แรงครับแรง
เกียร์ 6 สปีด ทำหน้าที่ได้ดี โหมด M+,- เปลี่ยนเกียร์ไวครับ แต่ถ้าจะเร่งแซง กดคันเร่งเต็มTeen ป๊าาาป รอประมาณเกือบๆ 1 วินาที เกียร์ถึงจะเปลี่ยนให้ ช้าไปครับ (พนักงานของโชว์รูมที่ไปด้วยกัน ลงมติกับผมแล้วว่า เกียร์เปลี่ยนช้า(ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ)
ช่วงล่าง ถ้าคุณขับรถเร็วๆ คุณจะรักมัน คือแบบว่า นุ่มและแน่น ไม่โยน เข้าโค้งเอาอยู่ ช่วงล่างดีครับ
เบรก เนื่องจากรถยังใหม่อยู่ ผมไม่ขอออกความคิดเห็นล่ะกัน
พวงมาลัยความเร็วต่ำเบากำลังดี หนักและแน่น แต่เมื่อความเร็วสูงพวงมาลัยไวไปนิดนิงครับ คล่องตัวดี แต่ผมชอบมากเลย
การเก็บเสียง เมื่อความเร็วไม่เกิน 120 ยังเงียบอยู่ 140 เริ่มมาและ เมื่อถึง 160 เสียงลมจากขอบประตู มันดังชัดเจนมากและดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ใครมันจะไปขับ160 ทุกวันล่ะ
สรุปได้ว่า CX-5 diesel 2.2 turbo Skyactiv-D 6AT AWD ถ้ารับราคาได้ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีและน่าสนใจ
ส่วนผมเอง ชอบมากก!!!
-
อยากรู้ว่าถ้าเทียบกับ CRV gen4 ในเรื่องการซับสะเทือนจากพื้น และการเก็บเสียงจากนอกรถ CX5 ทำได้ดีกว่ามั้ยคะ
-
โอ้ยยย ความเห็นแต่ละท่านสุดยอดมาก อยากไปลองจริงๆเลย
-
มีแต่คนเท้าหนักไปลองกัน
สงสัยต้องรอซื้อตัวเทสไดว์ ราคาน่าจะตก อิอิ
-
cx5 ดูเหมือนคนจะไปลองมากกว่า ทุกรถทุกตัวที่เปิดตัวช่วงนี้นะ
แสดงว่าแฟนๆเยอะจริง สงสัยต้องไปลองบ้าง
-
วันนี้ไปงานเปิดตัว...พรุ่งนี้ไปลอง โชว์รูม แถวบ้านดีกว่า :D ;) ;D
++ชอบออฟชั่นจัดเต็มดีครับ ตำแหน่งการจัดวาง ที่รู้ใจคนขับดี อารมณ์คล้าย BMW X3 ที่เคยลองขับอยู่พักนึง
**เบาะหลังสบายน้อยกว่าที่คิด เสียดายเอนไม่ได้ แต่พอไหวครับ ไม่ได้แย่ แต่สบายไม่สุด....Legroom เหลือๆครับ ไม่ได้น้อย แต่ไม่ได้เยอะเท่า CR-V
-
อยากเห็นอัตราสิ้นเปลืองจังครับผม
-
ผมลองขับ ตัว 2.2 Diesel จากศูยน์ตรงพระรามเก้า ไป กลับ สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วสลับให้เพื่อนที่ขับตัว 2.5 ขับ สองมาลองขับดูบ้างเป็นช่วงสั้นๆ จากศูยน์ไปกลับรถตรงที่เลยห้าง The ninth โดยผมนั่งอยู่เบาะหลัง
ผมจะต้องขอเปรียบเทียบกับ X1 Diesel น่ะครับเพราะเคยใช้มาก่อน และอาจจะมีอ้างถึง Subaru XV บ้างเพราะเพิ่งไปลองขับมาเหมือนกัน
- เบรคเป็นสิ่งที่ผมประทับใจที่สุดของรถคันนี้ ระยะเบรคสั้นมาก และ หน้ารถไม่มีอาการทิ่มลงให้รู้สึกเท่าไหร่ และ มีการเปิด ไฟฉุกเฉินให้อัตโนมัติถ้ามีการกระทืบเบรคอย่างแรงและแช่ค้างไว้
- พวงมาลัยค่อนข้างเบาเวลาอยู่กับที่ แต่พอไต่ความเร็วสูงไปแล้ว ไม่มีความรู้สึกเบา แต่ก็ไม่รู้สึกหนักเหมือนกัน
- ช่วงล่างเป็นสไตล์สปอรต์คล้ายๆ BMW แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกับ X1 แล้ว X1 จะกระด้างกว่าแต่นิ่งกว่า ถ้าเปรียบเทียบกับ Subaru XV จะรู้สึกหนักกว่า CX-5 จะรู้สึกมีลูกนุ่มเข้ามาเสริมตอนท้ายในการยุบตัวของสปริงและโช๊ค
- ความคล่องตัวในการขับขี่ดีกว่า X1 และ XV ในความรู้สึกของผม จากการที่ลองขับประมาณ 120 - 140 แล้วลองเปลี่ยนเลนดู รถค่อนข้างนิ่งไม่ออกอาการโคลงให้เห็น ผมได้ลองโค้งวงแหวนที่เลี้ยวเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ แบบ Out In Out ความเร็วประมาณ 110 รถไม่มีอาการโคลง ท้ายปัด หรือ หน้าดื้อโค้งให้เห็นสักนิด น่าจะเป็นเพราะขับสี่
- การขับขี่ผ่านทางขรุขระก็นุ่มนวลแต่ยังรู้สึกได้จากพวงมาลัย (อันนี้ดีน่ะครับ) การขับผ่านคอสะพาน ก็ไม่มีอาการกระโดดให้เห็นเท่าไหร่
สรุปคือช่วงล่างดีมากครับ เวลาขับแล้วความรู้สึกเหมือนขับรถคันเล็กๆเลยครับ แต่แค่ยังขาดความนิ่งไปนิดเดียวเองถ้าเปรียบเทียบกับ X1
เครื่องเสียง Bose ก็ดีน่ะครับ แต่เบสไม่ค่อยลึก เสียงกลางเลยไม่ค่อยกระชับเท่าไหร่ แต่ก็ดีมากแล้วครับ อันนี้อ้างอิงจากการฟังรายการวิทยุช่อง 107 FM ระหว่างขับ
สิ่งเดียวที่ผมไม่ชอบเกี่ยวกับรถคันนี้ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกับใครๆเขา คือเบาะหน้าครับ ผมว่ามันนั่งไม่สบาย พยายามปรับเท่าไหร่ก็ไม่ลงตัว อันนี้ผมให้ Subaru XV กินขาด อย่างลืมน่ะครับ อันนี้คือความเห็นส่วนตัว และก้อ Blind Spot ตรงเสากระจกท้ายค่อนข้างเยอะครับ สำหรับคนที่ยังติดกับการถอยหลังแล้วต้องหันไปมองกระจกหลังด้วยแบบผม
หลังจากเพื่อนได้ลองขับตัว 2.5 ขับ 2 แล้วได้มาลองขับเจ้า 2.2 Diesel ดู โดยที่ผมมีโอกาสนั่งหลัง เพื่อนบอกว่า ตัว 2.5 แรงกว่าและดึงกว่าอย่างเห็นได้ชัด ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเพราะาน้ำหนักตัวรถที่เบาได้เปรียบกว่า
ความรู้สึกที่นั่งเบาหลัง พื้นที่เหนือหัวมีค่อนข้างมาก เบาะหลังสั้นและชันจริง แต่นั่งระยะสั้นๆ ยังไม่ก่อความรำคาญหรือเมื่อยให้กับผม
เพื่อนได้ทำการทดลองกระทืบเบรคอย่างแรงจากประมาณ 100 จนถึงจุดเกือบหยุดนิ่ง ผมว่าระยะไม่น่าจะเกิน 35 เมตร (กะเอาจากตาน่ะครับ)
ขอขอบคุณเซลของโชว์รูมนี้ที่ให้ทำการลองรถในครั้งนีี้ครับ Mazda ทำรถออกมาได้ดีจริงๆ ถึงแม้ว่า CX-5 จะเป็นรถในแนว SUV ผมว่าสมถรรณะในการขับขี่อาจจะดีกว่า รถ Sedan บางรุ่น บางยี่ห้อซะอีกครับ
ถ้าเพื่อนๆชาว Headlightmag ตัดสินใจว่าจะเอา CX-5 จริงๆแล้วไม่อยากรอรถ โชว์รูมนี้มีรถให้รับได้เลยครับ