Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Insideout ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 13:54:22

หัวข้อ: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Insideout ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 13:54:22
ถามผู้รู้หรือเพื่อนๆที่ใช้ BMW
ผมใช้ 5
ถ้าเลย 1.2 แสนกิโล หรือ 5 ปี BSI ไปแล้ว

ผมซื้อเพิ่ม 1 ปี อีก 55000 บาท
หลังจากนั้น ปีที่ 7-11 ต้องเตรียมเงินไว้เท่าไหร่ โดยประมาณต่อปี
ในสองแบบคือ

1. ซ่อม 0
2. อู่นอก

หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: art_s ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 14:26:30
มาราอฟังครับ
หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Parinceo ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 16:43:20
หมด BSI แล้วคงต้องเตรียมเงินไว้ซักก้อนแน่ๆ
น่าจะประมาณ 4 ล้านครับ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ไว้ออก 5 ตัวใหม่ เพราะคงห้ามใจไม่ไหว  :P
หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Insideout ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 16:47:19
5555 ใช่ครับ

ที่ถามเพราะถ้ามันแพงมากเกิน
จะเอาคันนี้เทิร์น แล้ว บวกเงินอีกก้อน ออก 2018 Model ดีมั๊ย
แต่ถ้าไม่แพงมาก ก็อยากใช้ไปนานๆกว่านี้ ซัก 10 ปีค่อยเปลี่ยน

หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ArM 159 ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 17:27:26
แล้วแต่ดวงครับ ฮ่าๆๆๆ

รถผมหมด 5 ปี ไม่ได้ต่อ BSI ครับ 

หนึ่งเดือนต่อมา คอมแอร์เสียร์ครับ ต้องยกชุดใหม่ ตก 4หมื่นกว่าบาทครับ T_T

ยังเสียใจจนถึงทุกวันนี้ครับ 55555  :D :D :D
หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: maxillofacial surgeon ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 17:30:22
หมด BSI แล้วคงต้องเตรียมเงินไว้ซักก้อนแน่ๆ
น่าจะประมาณ 4 ล้านครับ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ไว้ออก 5 ตัวใหม่ เพราะคงห้ามใจไม่ไหว  :P
4 ล้านอาจจะไม่พอ  อาจจะลามไป  porche lumbo ก็ได้ครับ อิๆ
หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: HYDE-- ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 19:41:22
E60 ของพ่อผม ซื้อมือสองมา ตอนจะหมด BSI ก็ไปเช็ค แล้วก็เครมทุกอย่างเท่าที่จะเครมได้ แต่พอใช้ต่อมาอีกปีเศษๆ สุดท้ายยังไงก็โดนอยู่ดี
ผมไปเช็คศูนย์มา เห็นราคาแล้ว สุดท้ายก็ออกมาทำอู่นอกครับ ถูกกว่าประมาน 20-50%

ส่วนที่จำเป็นต้องซ่อม ผมจำราคาได้คร่าวๆ
- ปีกนก ซ้าย2 ขวา2 รวม 15000
- พวกซีล นมค แล้วก็ ประเก็นฝาครอบวาวล์ ประมานเกือบๆหมื่น
- จริงๆมีหลายรายการ แต่จำไม่ได้ครับ ถ้าหาบิลเจอจะเอามาแชร์ก็แล้วกัน

ไหนๆเข้าอู่ทั้งที ก็เลยเปลี่ยนไปอีกหลายอย่าง จริงๆยังไม่ต้องเปลี่ยนทันทีก็ได้ แต่เปลี่ยนดีกว่า
- โช้คเดิม 4 ต้น ราคา 20,xxx แล้วก็พวกยางกันกระแทก
- เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ 7,5xx
- ประเก็นอ่างเกียร์ กรองเกียร์ 7,5xx
- น้ำมันเฟืองท้าย ประมาน 6-7 พัน

แล้วก็มีเพิ่มอีกนิดหน่อย รายการยาวมากๆ รวมๆแล้ว ก็ประมาน 6 หมื่นนิดๆ ราคาอู่นอก ถ้าเข้าศูนย์ ผมว่ามีเหยียบๆแสนแน่นอน
แต่ทำออกมา ก็รู้สึกว่า รถแน่นขึ้น นุ่มขึ้น เพราะเปลี่ยนอะไหล่ช่วงล่างไปหลายตัว โดยเฉพาะ โช้ค

ผมคิดว่า หลังจากการซ่อมครั้งนี้ หวังว่าจะไม่มีอะไรหนักๆต้องทำไปอีกสักพักใหญ่ๆ คงมีแค่ เปลี่ยน นมค แล้วก็ อะไหล่สึกหรอทั่วๆไป
หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Spec C Wannabe ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 20:30:01

^^^^
ค่าใช้จ่ายหนักอยู่ครับ

ผมมีความคิดว่ารถเดี๋ยวนี้ตั้งใจทำให้ไม่ทนทานเหมือนสมัยก่อนรึเปล่า แบบว่าห้าปีละลาย กรอบ แข็ง เปื่อย

ผมไปเที่ยวเยอรมันแล้วรู้สึกแปลกใจมาก ขับรถเที่ยวทั่วประเทศ บ้านเมืองเค้ามีรถเก่าๆบนถนนน้อยมากๆ มากๆ ยิ่งเบนซ์ บีเอ็ม ออดี้นี่รุ่นใหม่ล่าสุดทั้งนั้น รุ่นก่อนหน้านั้นแค่รุ่นเดียวยังไม่เห็นวิ่งบนถนนเลย  รถเช่าที่สนามบินนี่รุ่นใหม่ล่าสุด  ตอนไปช่วงนั้น C-Class เพิ่งออก เมืองไทยยังไม่เปิดตัว แต่ที่สนามบินจอดในลานรถเช่าเป็นสิบๆคัน

กลับมานั่งคิดๆเอาเองว่าคงจะมีนโยบายไม่ใช้นาน รถมันถูก กรูก็รวย รถใหม่ๆใช้แล้วสามสี่ปีแล้วคงส่งไปประเทศยุโรปยากจนแถบตะวันออก พวกแล้ตเวีย เอสโทเนีย โรมาเนีย อะไรแบบนั้นรึเปล่า พวกเอ็งเอาไปซ่อมกันเอาเอง กรูใช้รุ่นใหม่ล่าสุด ก็เลยไม่ต้องซ่อม เมื่อไม่ต้องซ่อม ก็ไม่ต้องทำให้ทนทานนัก แล้วก็สามารถจัดราคาให้ถูกลงได้ เพราะสามารถใช้วัสดุที่ถูกลง โดยเฉพาะพวกวัสดุรีไซเคิ่ล  ใครทนใช้ก็เจอค่าอะไหล่ไป

อันนี้สังเกตและคิดเอาเอง ผิดถูกไม่แน่ใจ
หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: oryor ที่ พฤศจิกายน 15, 2013, 22:45:04
E60 ของพ่อผม ซื้อมือสองมา ตอนจะหมด BSI ก็ไปเช็ค แล้วก็เครมทุกอย่างเท่าที่จะเครมได้ แต่พอใช้ต่อมาอีกปีเศษๆ สุดท้ายยังไงก็โดนอยู่ดี
ผมไปเช็คศูนย์มา เห็นราคาแล้ว สุดท้ายก็ออกมาทำอู่นอกครับ ถูกกว่าประมาน 20-50%

ส่วนที่จำเป็นต้องซ่อม ผมจำราคาได้คร่าวๆ
- ปีกนก ซ้าย2 ขวา2 รวม 15000
- พวกซีล นมค แล้วก็ ประเก็นฝาครอบวาวล์ ประมานเกือบๆหมื่น
- จริงๆมีหลายรายการ แต่จำไม่ได้ครับ ถ้าหาบิลเจอจะเอามาแชร์ก็แล้วกัน

ไหนๆเข้าอู่ทั้งที ก็เลยเปลี่ยนไปอีกหลายอย่าง จริงๆยังไม่ต้องเปลี่ยนทันทีก็ได้ แต่เปลี่ยนดีกว่า
- โช้คเดิม 4 ต้น ราคา 20,xxx แล้วก็พวกยางกันกระแทก
- เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ 7,5xx
- ประเก็นอ่างเกียร์ กรองเกียร์ 7,5xx
- น้ำมันเฟืองท้าย ประมาน 6-7 พัน

แล้วก็มีเพิ่มอีกนิดหน่อย รายการยาวมากๆ รวมๆแล้ว ก็ประมาน 6 หมื่นนิดๆ ราคาอู่นอก ถ้าเข้าศูนย์ ผมว่ามีเหยียบๆแสนแน่นอน
แต่ทำออกมา ก็รู้สึกว่า รถแน่นขึ้น นุ่มขึ้น เพราะเปลี่ยนอะไหล่ช่วงล่างไปหลายตัว โดยเฉพาะ โช้ค

ผมคิดว่า หลังจากการซ่อมครั้งนี้ หวังว่าจะไม่มีอะไรหนักๆต้องทำไปอีกสักพักใหญ่ๆ คงมีแค่ เปลี่ยน นมค แล้วก็ อะไหล่สึกหรอทั่วๆไป

ที่บอกมาทั้งหมดนี้ คืออะไหล่สิ้นเปลืองที่เสื่อมตามอายุการใช้งานทั้งนั้นนะครับ
คือยังไงมันก็ต้องเสียต้องเปลี่ยนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโตต้า ฮอนด้า นิสสัน
เพียงแต่ว่า พอมาเป็น BM ราคามัน x2 x3 ครับ
ยังจะมีอย่างอื่นอีกเยอะครับ
เช่น
เกียร์เสีย วิ่งกระตุก 2 แสนกว่าบาท กำไว้เลยแน่นๆ
แอร์เย็นไม่เท่ากันสองข้าง น้ำยาแอร์ขาดตู้รั่ว 3-4 หมื่น เกิดดวงดีหน่อย คอมแอร์พังด้วยก็เพิ่มไปอีก 4 หมื่น
แร็คพวงมาลัยเสียก็เตรียมไว้อีก 1.5 แสน
เซ็นเซอร์พวงมาลัยที่คอเสีย โดนอีก 2-3 หมื่น
ปั้มติ๊กเสีย กำไปเลย 2 หมื่น

ที่บอกมาข้างบนนี่ E60 นะครับ
ที่อายุอานามก็ล่อเข้าไป 5 6 7 8 ปีกันแล้ว

ราคาค่าซ่อม
ถ้าซ่อมอู่นอกก็เท่ากับรถญี่ปุ่นเข้าศูนย์
ถ้าเข้าศูนย์ก็เท่ากับเงินดาวน์ Eco Car ป้ายแดง


ส่วน F10 นั้นคิดว่าจะโดนมากกว่านี้แน่ๆๆ เพราะว่าระบบไฟมันเยอะกว่า


หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: fishfinger ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 04:12:27
แต่ละปีอย่างน้อยๆก็ 50k up ละครับรถยุโรปพอเกิน5ปีออกอาการทุกคัน

ยิ่งคันที่ใช้งานหนักมากๆ กระทืบ ขึ้นเขา ออก ตจว. ไม่ยั้ง ขอบอกว่า วิ่งเป็นดับขยับเป็นพัง

E คันเก่าโดนไปหลายแสบ ทั้งเกียร์อะไรสารพัด ซ่อมแล้วใช่จะหาย

ขนาดขับน้อยขับระวัง เดี๋ยวววก็มาครับ

แต่ชิ้นส่วนสึกเหรอตรงนี้ต้องเตรียมเผื่อไว้อยู่แล้ว ราคาเกือบeco car แหละ

แล้วที่น่าปวดหัวคือ ระบบไฟ มีความรู้สึกว่า ถ้าชิ้นส่วนสึกเหรอก็เหมือนไข้หวัดกินยาก็หาย

แต่ไฟมันchronicหนะสิ :'(
หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rocky55555 ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 09:52:14
E60 ของพ่อผม ซื้อมือสองมา ตอนจะหมด BSI ก็ไปเช็ค แล้วก็เครมทุกอย่างเท่าที่จะเครมได้ แต่พอใช้ต่อมาอีกปีเศษๆ สุดท้ายยังไงก็โดนอยู่ดี
ผมไปเช็คศูนย์มา เห็นราคาแล้ว สุดท้ายก็ออกมาทำอู่นอกครับ ถูกกว่าประมาน 20-50%

ส่วนที่จำเป็นต้องซ่อม ผมจำราคาได้คร่าวๆ
- ปีกนก ซ้าย2 ขวา2 รวม 15000
- พวกซีล นมค แล้วก็ ประเก็นฝาครอบวาวล์ ประมานเกือบๆหมื่น
- จริงๆมีหลายรายการ แต่จำไม่ได้ครับ ถ้าหาบิลเจอจะเอามาแชร์ก็แล้วกัน

ไหนๆเข้าอู่ทั้งที ก็เลยเปลี่ยนไปอีกหลายอย่าง จริงๆยังไม่ต้องเปลี่ยนทันทีก็ได้ แต่เปลี่ยนดีกว่า
- โช้คเดิม 4 ต้น ราคา 20,xxx แล้วก็พวกยางกันกระแทก
- เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ 7,5xx
- ประเก็นอ่างเกียร์ กรองเกียร์ 7,5xx
- น้ำมันเฟืองท้าย ประมาน 6-7 พัน

แล้วก็มีเพิ่มอีกนิดหน่อย รายการยาวมากๆ รวมๆแล้ว ก็ประมาน 6 หมื่นนิดๆ ราคาอู่นอก ถ้าเข้าศูนย์ ผมว่ามีเหยียบๆแสนแน่นอน
แต่ทำออกมา ก็รู้สึกว่า รถแน่นขึ้น นุ่มขึ้น เพราะเปลี่ยนอะไหล่ช่วงล่างไปหลายตัว โดยเฉพาะ โช้ค

ผมคิดว่า หลังจากการซ่อมครั้งนี้ หวังว่าจะไม่มีอะไรหนักๆต้องทำไปอีกสักพักใหญ่ๆ คงมีแค่ เปลี่ยน นมค แล้วก็ อะไหล่สึกหรอทั่วๆไป

ที่บอกมาทั้งหมดนี้ คืออะไหล่สิ้นเปลืองที่เสื่อมตามอายุการใช้งานทั้งนั้นนะครับ
คือยังไงมันก็ต้องเสียต้องเปลี่ยนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโตต้า ฮอนด้า นิสสัน
เพียงแต่ว่า พอมาเป็น BM ราคามัน x2 x3 ครับ
ยังจะมีอย่างอื่นอีกเยอะครับ
เช่น
เกียร์เสีย วิ่งกระตุก 2 แสนกว่าบาท กำไว้เลยแน่นๆ
แอร์เย็นไม่เท่ากันสองข้าง น้ำยาแอร์ขาดตู้รั่ว 3-4 หมื่น เกิดดวงดีหน่อย คอมแอร์พังด้วยก็เพิ่มไปอีก 4 หมื่น
แร็คพวงมาลัยเสียก็เตรียมไว้อีก 1.5 แสน
เซ็นเซอร์พวงมาลัยที่คอเสีย โดนอีก 2-3 หมื่น
ปั้มติ๊กเสีย กำไปเลย 2 หมื่น

ที่บอกมาข้างบนนี่ E60 นะครับ
ที่อายุอานามก็ล่อเข้าไป 5 6 7 8 ปีกันแล้ว

ราคาค่าซ่อม
ถ้าซ่อมอู่นอกก็เท่ากับรถญี่ปุ่นเข้าศูนย์
ถ้าเข้าศูนย์ก็เท่ากับเงินดาวน์ Eco Car ป้ายแดง


ส่วน F10 นั้นคิดว่าจะโดนมากกว่านี้แน่ๆๆ เพราะว่าระบบไฟมันเยอะกว่า





เห็นด้วยครับและเป็นเรื่องจริง ยกตย.ที่ผมใช้tts เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เพืองหน้าเฟืองท้ายเฮาเดกกรองเกียร์ออกมาหมื่นเดียว
ทุกอย่างผลิตในเยอรมัน คือ0กำไรเยอะเว่อร์ 10 เท่าได้ เพราะค่าน้ำมันเฟืองท้ายผม700เอง
หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mick ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 13:42:01
ช่วยแนะนำศูนย์นอกดีๆให้ด้วยครับ e90 ครับ
หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: season1008 ที่ พฤศจิกายน 16, 2013, 20:46:42
แล้วแต่ดวงครับ ฮ่าๆๆๆ

รถผมหมด 5 ปี ไม่ได้ต่อ BSI ครับ 

หนึ่งเดือนต่อมา คอมแอร์เสียร์ครับ ต้องยกชุดใหม่ ตก 4หมื่นกว่าบาทครับ T_T

ยังเสียใจจนถึงทุกวันนี้ครับ 55555  :D :D :D

คอมแอร์ มันจะรวมอยู่ใน BSI ด้วยหรือครับ?
หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: famicom ที่ พฤศจิกายน 17, 2013, 00:38:56
ของผม E90 นะครับ ซื้อมามือหนึ่ง ขับมา 8 ปีแล้วไมล์อยู๋108000km ก็ตามนี้ครับ
ปี 1-5 ฟรี BSI
ปี 6 ซื้อ BSI เพิ่ม เครมไปสองหมืนนิดๆ
ปี 7(2012) หมด BSI ไปเจอคอมแอร์เสีย โช้คอัพหน้า หม้อน้ำ พวกท่อยางต่างๆ หมดไป 7หมื่นกว่าๆ ที่ไม่แพงมากเพราะผมซ่อมศูนย์บางอย่าง+ซ่อมอู่นอกบางอย่าง+ซื้ออะไหล่จากวัดโสมบางรายการแล้วให้อู่นอกใส่ให้ ถ้าซ่อมศูนย์หมดน่าจะโดนแสนนิดๆ
ปี 8(2013) ซ่อมไปแล้ว 57000 บาท จนถึงเดือน11 เหลืออีกเดือนเดียวน่าจะไม่มีอะไรต้องเสียเงิน(หวังว่านะ) ปีนี้ส่วนใหญ่ซ่อมศูนย์เพราะไม่มีอะไรเสียหนัก มีช่วงล่างบางรายการผมไปซ่อมอู่นอก แต่ราคาก็พอๆกับศูนย์เลย

ผมประมาณไว้นะว่าซ่อมไม่เกินปีละ 70000 บาท
หัวข้อ: Re: หลังหมด BSI ต้องใช้เงินเท่าไหร่ต่อปีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Monn ที่ พฤศจิกายน 17, 2013, 19:12:06
แล้วแต่ดวงครับ ฮ่าๆๆๆ

รถผมหมด 5 ปี ไม่ได้ต่อ BSI ครับ 

หนึ่งเดือนต่อมา คอมแอร์เสียร์ครับ ต้องยกชุดใหม่ ตก 4หมื่นกว่าบาทครับ T_T

ยังเสียใจจนถึงทุกวันนี้ครับ 55555  :D :D :D

คอมแอร์ มันจะรวมอยู่ใน BSI ด้วยหรือครับ?

ถ้ามี BSI ทุกอย่างที่เป็นของ BM หากเสีย รวมหมดครับ

ผมว่า ต้องเตรียมปีละ 50-100k ไว้ในมือนะครับ หากมันเสีย มันคือเสียหละ หากใครติดตามว่า รถแม่ผม E34 17 ปี ทนอยู่นะ แต่พอปีนี้ เริ่มเสีย แค่ปีนี้ จ่ายไปแสนกว่าแล้ว รถปล่อยตอนนี้ ก็ไม่ถึงสองแสน แต่มันไม่ได้เสียทีเดียวนะครับ ทีละ 10-20k ประมาณ 4-5 ครั้ง หนักสุดคือเครื่องน็อค ก็เปลี่ยน short block ก็ 45k หนักสุดที่เคยซ่อม

ดังนั้นหาก F10 ไฟฟ้าพรึ่บ ผมว่า กำ 100k ไว้เผื่อทุกปี ปีไหน ต้องซ่อมเจอตัวหนัก ก็ถึงแน่ๆ ครับ

ความเห็นผมตอนนี้ หากถึงเวลาหมด BSI ผมคงต่ออีกปี คือ 6 ปี แล้วยังไงเสีย ผมก็เทิรน เพื่อเอารุ่นใหม่ จะ 3 จะ 5 จะ x ก็ว่าไป แล้วแต่อารมณ์ในช่วงนั้น ส่วนรถ แน่นอน หลายท่านจะบอก ราคามันตก หากหมด BSI ถึงจะไม่หมด มันก็ตกหละครับ แต่หากเราเคลมหมด ก่อนขาย ก็เหมือนเขาใช้ BSI ไปแล้วเหมือนกัน คงไม่ต่างเท่าไหร่ ผมขอแค่รถพอจะดาวน์ โดยไม่ต้องควักเงินก้อน แล้วก็ผ่อนต่อ ผมว่าวงจรคนใช้ BM MB คงพอๆ กัน ผมไม่ใช้ไปซ่อมไปหละครับ ยอมผ่อนไปเรื่อยๆ เหมือนเช่ารถใช้ไปตลอดละกัน ยอม  แต่ได้รถใหม่ๆ ตลอดเวลา เทคโนใหม่ แล้วก็ไม่ต้องคอยกังวลครับ