Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: เดย์ ที่ มกราคม 15, 2014, 00:44:10
-
เรื่องยาวหน่อยนะครับ ผมขอแบ่งเป็นช่วงๆ แล้วกัน
ถ้าใครขี้เกียจอ่าน ก็ดูตามหัวข้อได้ครับ
[จุดเริ่มต้น]
งาน motor expo ปีที่แล้วผมตั้งงบไว้ว่าจะซื้อรถราคาประมาณล้านต้นๆ ที่เล็งไว้คือ Prius, Subaru XV แต่บังเอิญเดินผ่านไปเห็น Volvo V40 ราคาไม่ถึง 2 ล้าน วันรุ่งขึ้นจึงพาภรรยาอุ้มลูก(อายุไม่ถึงขวบ) ไปดูอีกรอบ อยากให้มาทดสอบนั่งด้านหลังดูว่ากว้างพอสำหรับแม่ลูกมั้ย เพราะต้องคิดเรื่องเงินที่เพิ่มขึ้นจากงบอีกพอสมควร
เจอเซลส์ (ขอเรียกชื่อ น้อง A นะครับ) เข้ามาคุยดีมากครับ และหลังจากลองนั่งดูก็คิดว่าจะมองขึ้นไปเป็น V60 โดยคิดว่าเพื่อความสะดวกสบาย ไม่อึดอัด และความปลอดภัยของลูก และได้อ่านจากหลายๆ กระทู้ในนี้ว่า volvo ใช้งานดี มี free maintenance แล้วด้วย เลยไม่กังวลเท่าไหร่ แต่ในใจก็ห่วงกับค่าตัวที่เพิ่มจากงบเดิมถึง 1 ล้านบาท ซึ่งน้องA ก็คะยั้นคะยอให้จองไปก่อน เนื่องจากจะได้โปรโมชั่นพิเศษของ motor expo และสามารถคืนเงินได้เต็มจำนวนแน่นอน ไม่มีปัญหา(ซึ่งมาทราบภายหลังว่าไม่ใช่เลย) ผมยิ้มให้ลูกแล้วก็ตัดใจรูดการ์ดลงเงินจองไป 50,000 บาท ได้โปรดาวน์ 25% ผ่อน0.6%x48 เดือน และของแถมเป็นฟิล์ม ถาด พรม นิดๆ หน่อยๆ
ตกเย็นวันเดียวกันผมได้รับการติดต่อจากน้องเซลส์ของ dealer อีกเจ้านึงซึ่งได้เบอร์ผมจากการแวะบูธวันแรกและยังไม่ทราบว่าผมได้จองกับอีก dealer ไปแล้ว ผมก็เลยถามเล่นๆ ไปว่ามีโปรโมชั่นอะไรบ้างเพื่อเปรียบเทียบ ก็พบว่ามีโปรโมชั่นบางอย่างที่ต่างจากที่ผมได้รับข้อมูลก่อนหน้านี้ จึงโทรสอบถามไปที่น้อง A และได้รับการยืนยันว่าโปรโมชั่นที่ว่านั้นเป็นไปไม่ได้ ซึ่งผมก็รับทราบและไม่ติดใจอะไร (ยังคุยเล่นแซวกับน้องเค้าด้วยซ้ำว่าต้องแย่งลูกค้ากันขนาดนี้เลยเหรอ)
-
[ผู้ใหญ่ไม่ยอมรับ นำไปสู่ปัญหาสภาพคล่อง และความคิดในการถอนจอง]
หลังจากนั้นผมไปปรึกษากับทางบ้าน พูดตรงๆ คือเพื่อขอยืมค่าดาวน์เพราะคิดว่าจะออกรถภายในม.ค.นี้เลย แต่พ่อตาผมไม่เห็นด้วย เนื่องจากอยากให้เก็บเงินส่วนต่างไว้จะมีประโยชน์มากกว่า ในช่วงสัปดาห์ถัดมาผมกับภรรยานั่งคำนวณเงินกันอย่างจริงจัง คิดรายได้ หักภาษี หักค่าใช้จ่ายของตัวเองและลูก ฯลฯ โดยที่ระหว่างนี้ก็ถูกพ่อตาเทศนาหลายต่อหลายครั้ง และลงท้ายที่ว่าผมคงจำเป็นต้องถอนจอง เนื่องจากทรัพย์สินที่มีอยู่ ครอบครัวเราไม่ได้เก็บในรูปของเงินสดเลย และเราไม่มีสภาพคล่องเพียงพอ
[หนทางสว่างที่วูบดับไป กับ Leasing บริษัท]
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผมจะแจ้งถอนจอง น้อง A ก็ติดต่อมาพอดี เพื่อแนะนำให้ทำ leasing ซึ่งจะได้รับสิทธิทางภาษีมาเป็นส่วนลด และจะมีส่วนลดเงินสดให้อีก 2-3 หมื่นบาท ซึ่งผมทราบมาว่าโดยปกติแล้วการทำ leasing ทางศูนย์ฯ จะสามารถเปลี่ยนส่วนลดในตัวของดอกเบี้ยผ่อนมาเป็นส่วนลดเงินสดให้ ซึ่งมากกว่า 2-3 หมื่นแน่ๆ หลังจากทักท้วงไป น้อง A จึงยอมเพิ่มส่วนลดเป็น 150,000 บาท แต่ขอตัดของแถมจิปาถะอย่างอื่นทิ้งหมด และหลังจากที่กลับบ้านนั่งคำนวณความเป็นไปได้กับภรรยาอีกครั้ง ก็สรุปว่าอาจจะพอทำได้ แต่การเงินในอีก 3-4 ปีข้างหน้าจะตึงมากๆ และทั้งหมดนี้ก็ยังมีข้อแม้สำคัญคือผมต้องหาชื่อบริษัทมาดำเนินการแทนให้ได้ เนื่องจากผมและภรรยาไม่มีกิจการส่วนตัว (และ option ผ่อน 0.6%x48 ผมทำไม่ได้แน่ๆ แล้ว เพราะพ่อตาไม่เห็นด้วย)
หลังจากที่ตัดสินใจกันอยู่หลายรอบ พยายามหลายต่อหลายครั้งสอบถามญาติสนิทเพื่อฝากชื่อรถ สุดท้ายผมก็ยอมรับสภาพ คือติดต่อน้อง A เพื่อขอถอนจอง
-
[การถอนจองครั้งที่ 1 กับปัญหาที่มาจากสาเหตุที่ไม่เคยมีอยู่จริง]
แต่เมื่อติดต่อไป น้อง A ปฏิเสธจะคืนเงินจอง และบอกว่าจะคืนเงินจองได้ก็ต่อเมื่อเป็นกรณีการทดลองขับแล้วไม่พอใจเท่านั้น ผมจึงบอกให้น้อง A เอารถมาให้ผมทดลองขับ (ผมยังไม่ได้ทดลองขับ เพราะวันนัดผมบังเอิญมีประชุมด่วน) เพื่อผมจะได้ให้ความเห็นและขอเงินจองคืน น้อง A ก็บอกอีกว่าผมทำแบบนั้นไม่ได้ โดยอ้างว่าทางศูนย์ฯ ได้ทำเรื่องส่งไป VCT เกี่ยวกับโปรโมชั่นที่ผมไปได้รับจาก dealer อีกเจ้า ทำนองกล่าวหาว่าผมวางแผนจองซ้อน แถมอีกว่าเซลส์คนนั้นยอมรับผิดแล้วด้วย และแจ้งอีกว่าทางผู้จัดการและ VCT รับทราบเคสนี้ว่าเป็นการถอนจองเนื่องจากโปรโมชั่นไม่ถูกใจ จึงไม่สามารถคืนเงินจองได้
ผมก็อึ้งสิครับ เพราะหลังจากวันงานผมก็ไม่เคย deal กับเซลส์อื่นเลย นามบัตรก็ทำหายไปแล้ว ชื่อเซลส์ผมก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วทางนั้นจะยอมรับผิดได้ไง ในเมื่อไม่เคยมีเหตุการณ์ตกลงใดๆ กันเลย ตอนนั้นช็อคมากครับ จึงขอเบอร์ VCT จากน้อง A แต่น้องเค้าอ้างว่าไม่มีเบอร์ ให้ไปหาเอง ซึ่งหลังจากหาเบอร์ได้แล้ว ผมจึงติดต่อไปยัง VCT ทันทีเพื่อแจ้งว่าผมมีปัญหาการขอเงินจองคืน โดยที่ไม่ได้มีปัญหากับโปรโมชั่น ไม่เคยจองซ้อน และถ้าเป็นไปได้ก็เพื่อแก้ข้อกล่าวหาให้เซลส์ที่ผมไม่รู้จักคนนั้นด้วย ซึ่ง VCT ก็รับเรื่องไว้เป็นอย่างดีแม้จะเป็นช่วงเลิกงาน
[การถอนจองครั้งที่ 2 คุยกันดีๆ ด้วยกฎหมายที่รู้ๆ กันอยู่]
ค่ำวันเดียวกันนั้นผมหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถอนจอง และพบว่าถ้าไฟแนนซ์ไม่ผ่าน ทางศูนย์จะต้องคืนเงินสัญญาจองตามข้อบังคับทางกฎหมาย ผมจึงโทรไปแจ้งน้อง A อีกครั้งว่าผมหาทางออกได้แล้วด้วยวิธีการทางกฎหมาย โดยในใจตอนนั้นผมคิดไปเองว่าน้องเค้าอาจจะยังไม่รู้ และที่เสนอไปก็เพื่อให้ง่ายและไม่เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย ซึ่งน้อง A บอกว่าจะแจ้งผู้จัดการให้
-
[ข้อเสนอใหม่ การบ้านใหม่ เข้าสู่กระบวนการเดิมๆ กับความเครียดรับปีใหม่]
หลังจากเงียบหายไปราวๆ สัปดาห์เศษ ช่วงก่อนปีใหม่ น้อง A โทรมาบอกให้รับรถไว้ โดยทาง VCT อนุมัติส่วนลดพิเศษให้อีกจำนวนหนึ่ง(ขอสงวนตัวเลขครับ) เนื่องจากไม่อยากให้มีการถอนจอง พร้อมทั้งเสนอทางเลือกเป็นรถตกรุ่น ค้างสต๊อค ซึ่งจะราคาถูกกว่านิดหน่อย (แต่เนื่องจากราคาขายได้ลดลงจากราคาป้ายแล้ว จึงไม่มีส่วนลดอะไรเพิ่มเติมอีก) ผมก็เลยลองฮึดอีกตั้ง ทำการบ้านตลอดช่วงปีใหม่ พยายามติดต่อญาติๆ เพื่อนๆ แต่จนข้ามปีใหม่ ก็หาชื่อบริษัทไม่ได้ครับ โดยที่ระหว่างนี้ทางภรรยาผมไม่พอใจที่เรามีปัญหากับผู้ใหญ่บ่อยครั้ง และคิดว่าไม่เอาแน่ๆ แล้ว เพราะครอบครัวเราไม่เคยต้องมีปัญหาแบบนี้กันมาก่อนเลย เราเครียดกันมากครับ
[ถอนจองครั้งที่ 3 ไฟแนนซ์ไม่ผ่าน และการทอดทิ้งลูกค้า]
ขึ้นปีใหม่ ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ กดโทรศัพท์ติดต่อน้อง A เพื่อถอนจองอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันพูดจบน้อง A ก็เสนอรถค้างสต็อค รถทดลองขับ มาเรื่อยๆ และผมก็เอากลับไปคุยกับทางบ้านเรื่อยๆ ราวกับว่าผมเป็นเซลส์ Volvo เลยทีเดียว แต่ ณ จุดนี้ซึ่งภรรยาผมไม่รับข้อเสนอแล้ว สุดท้ายผมจึงติดต่อไปที่ไฟแนนซ์เพื่อขอดำเนินการ และหลังจากทางไฟแนนซ์สอบถามข้อมูลเบื้องต้นทางโทรศัพท์ ก็ยืนยันว่าไฟแนนซ์ผมไม่ผ่านแน่ๆ (เพราะตอนนี้มีผมเพียงคนเดียวที่ยอมยื่นเอกสารไฟแนนซ์) และได้ติดต่อไปยังน้อง A เพื่อแจ้งว่าไฟแนนซ์ผมไม่ผ่าน
หลังจากนั้นผมก็โทรไปยืนยันกับน้อง A อีกครั้ง ว่าไฟแนนซ์ไม่ผ่าน และขอให้ดำเนินการเรื่องคืนเงินจอง ซึ่งน้อง A รับปากว่าจะคุยกับผู้จัดการให้ แต่ก็เงียบหายไปอีก และเมื่อผมพยายามติดต่อน้อง A หลายครั้ง ก็ถูกกดสายทิ้งตลอด จนเมื่อวานนี้ผมใช้เบอร์อื่นโทรไป น้อง A จึงได้รับสาย และบอกสั้นๆ ว่า ผู้จัดการและทาง VCT ไม่อนุมัติการคืนเงินจอง ถ้าต้องการจริงๆ ให้ฟ้อง สคบ.เอาเอง
-
[บทสรุป ณ วันนี้ที่ยังต้องรอข้อสรุป]
ที่ผ่านมาตั้งแต่วันจองรถในงาน สิ่งที่ผมเห็นได้จากน้อง A คือความพยายามในการขายรถให้ผม ซึ่งผมพอเข้าใจว่าเป็นอาชีพ เป็นหน้าที่ของเค้า แต่สิ่งที่ผมคาดหวังแต่ไม่เคยได้รับเลย คือความพยายามเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัวผม ผมเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้น้องเค้าฟังตลอด ผมมีความรู้สึกว่าผมควรแสดงความจริงใจในการเล่าสาเหตุที่แท้จริง และแสดงให้เห็นว่าผมพยายามเพียงไรในการโน้มน้าวผู้ใหญ่ จนกระทั่งภรรยาก็ต้องพลอยเครียดไปด้วย ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ
สิ่งที่น้อง A ตอบกลับมาแต่ละครั้งจะเป็นการนำเสนอรถรุ่นต่ำลงมา รถค้างสต๊อค เพื่อปิดจ๊อบ ซึ่งถึงแม้ว่าจะดูเป็นการช่วยเหลือ แต่น้อง A ได้มองข้ามข้อเท็จจริงสำคัญที่ว่าการซื้อรถไม่ใช่เรื่องของผมคนเดียว แต่มันเป็นเรื่องของครอบครัวซึ่งต้องตัดสินใจร่วมกัน ผมไม่ใช่เศรษฐีมีเงิน มีบ้านใหญ่โต มีที่จอดรถเหลือเฟือพอที่จะสามารถซื้อรถเข้าบ้านโดยไม่ต้องฟังเสียงใคร และการผ่อนไม่สามารถทำได้ด้วยลำพังเงินเดือนของผมคนเดียว ในวันที่ผมจองรถ ผมอุ้มลูกไปด้วย วันนั้นทุกคนมีท่าทีอบอุ่นเหมือนเป็นครอบครัวของผม แต่เมื่อมีปัญหาว่าผมไม่สามารถซื้อได้แน่นอนแล้ว เซลส์กลับมองผมเป็นตัวน่ารำคาญ กดสายโทรศัพท์ทิ้ง และไล่ให้ไปพึ่ง สคบ.
วันที่ 13 ม.ค. ผมได้โทรเข้าสำนักงานเพื่อคุยกับผู้จัดการโดยตรงเป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยพยายามขอเบอร์เพื่อติดต่อกับผู้จัดการหลายครั้ง แต่น้อง A ก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด และรับทราบมาว่าทางผู้จัดการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเคสผมเป็นคนละประเด็น และรับปากว่าจะตามเรื่องให้ ส่วนบ่ายนี้ผมก็โทรไปแจ้งกับทาง VCT อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผมขอบคุณและประทับใจกับการรับเรื่องของทาง VCT มากในทุกๆ ครั้งที่โทรไป ส่วนตอนนี้กำลังรอดูอยู่ครับว่าผลออกมาจะเป็นอย่างไร และหวังว่า VCT และ dealer จะช่วยกรุณาดูแลเซลส์ให้เปิดใจรับฟังปัญหาของ(ว่าที่)ลูกค้า เพราะตอนนี้ถึงแม้ว่าผมจะชอบ Volvo มากๆ แต่คงต้องตัดใจแล้วล่ะครับ อย่างน้อยก็จนกว่าจะถึงวันที่ผมมีเงินสดของผมเอง
จริงๆ แล้วผมก็ไม่แน่ใจว่าผมควรจะเอาเรื่องส่วนตัวมาเล่าในนี้มั้ย แต่อีกใจผมก็อยากทราบว่าผมทำผิดข้อสัญญาตรงไหนหรือเปล่า และอยากทราบว่าโอกาสที่ผมจะได้เงินจองคืนมีมากน้อยแค่ไหน เพราะเงินครึ่งแสนนี่ก็ไม่ใช่น้อยๆ และหากใครมีข้อแนะนำอย่างไร กรุณาด้วยครับ
-
เซลล์ค่อนข้างงี่เง่ามาก..ถึงมากที่สุดเลยครับ..ติดต่อผู้จัดการเเล้วก็คุยกับVCT เลยครับ..เงินตั้ง5หมื่น..เป็นกำลังใจให้ จขกท นะครับ ...
-
สงสัยครับ 1 ในหนังสือสัญญามีระบุไหมครับว่าคืนเงินจองได้ในทุกกรณี
2 สรุปคุณไม่มีเงิน จองโดยอาศัยว่าพ่อตาจะให้ยืมเงิน แต่ไม่มีการพูดคุยกันก่อนเหรอครับ
-
ลองขายใบจองดูสิครับ น่าจะได้อยู่ ขายสัก 25000 อะไรแบบนี้
-
ในใบจองน่าจะมีเงื่อนไขการคืนเงินจองอยู่นะครับ อีกถ้าอย่างไฟแนนซ์ไม่ผ่านก็ต้องคืนเงินจองให้ลูกค้านี่หน่า แต่เซลล์คนนี้จะเอาแต่ขายของแย่ที่สุด
-
ถ้าไฟแนนซ์ไม่ผ่าน คุณรอรับเงินจองคืนได้เลยครับ คุณได้คืนแน่ๆเพราะกฎหมายคุ้มครองอยู่แล้ว
อาจจะใช้เวลาทำเรื่องหน่อยแต่ไม่น่าเกิน 30 วัน ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องก็อย่าไปเครียดเลยครับ
โดยส่วนตัวเคยถอนจอง F25 เพราะไม่พอใจที่นัดรอรถเทส 3 สัปดาห์ก็ยังไม่มาเลยโมโหถอนจองไป
แต่ตอนนั้นโชคดีเพราะเซลระบุท้ายใบจองไว้ว่า "สามารถทำเรื่องคืนเงินจองได้โดยไม่มีเงื่อนไข" ;D
เมื่อธันวาที่ผ่านมาก็ถอนจอง R172 ไป ด้วยเหตุผลว่าให้เวลา 9 เดือนแต่ดันมาไม่ทันกำหนดอีก
เคสล่าสุดนี้ใช้เวลาทำเรื่องประมาณสัปดาห์เดียว ;D
ถ้าเป็นผมสมัยก่อนเจอแบบนี้ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับ
-
เซลส์แบบนี้ใช้ไม่ได้ ก่อนลูกค้าจะจอง ไปโม้เป็นตุเป็นตะ อะไรก็ได้หมด พอจองไปแล้ว อะไรที่เคยว่าได้ มันทำยังกับไม่เคยพูด พอนั่นก็มาว่าลูกค้าซิว่า ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้
ไฟแน้นซ์ไม่ผ่าน ต้องได้รับเงินจองคืนครับ ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก !
-
แนะนำว่าให้ไปที่ศูนย์ ไปคุยให้รุ้เรื่องเลยครับ
พูดเสียงดังๆหน่อย เซลล์งี่เง่า ไม่รับฟังปัญหาแบบนี้ จะไปพูดดีด้วยทำไมครับ
ส่วนตัวผมไม่ให้คนนอกครอบครัวมาวุ่นวายกับการตัดสินใจของผมแบบนี้หรอก ยิ่งทำให้คนในครอบครัวเครียด ทะเลาะด้วย นี่ไม่ใช่เลย
เซลล์ไร้จรรยาบรรณมาก ขายของแบบนี้ เสียยี่ห้อรถหมด
-
แจ้งความกับสภานีตำรวจคับ ง่ายที่สุด แล้วเอาเจ้าหน้าที่ไปด้วย ได้เงินคืนแน่ เพราะทางโชว์รูมยังไม่ได้เกิดความเสียหายใดๆเลยจะมาอ้างไม่คืนจองมันใช้ไม่ได้คับ แล้วคุณก็ไม่ได้เอารถเค้ามาใช้ในชีวิตประจำวันไม่ใช่เหรอคับ ถ้าคุณเอารถเค้ามาขับแล้วก็ว่าไปอย่าง
-
ผมคิดว่าลองคุยกัน Call center ดูก่อน
ผู้บริโภคมีสิทธิบอกเลิกสัญญา ... หากขอสินเพื่อไม่ได้
ผู้ประกอบธุรกิจ้องคืนเงินมัดจำทั้งหมด ภายใน 15 วัน
http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=5630 (http://www.decha.com/main/showTopic.php?id=5630)
-
ไฟแนนซ์ไม่ผ่าน สามารถรับเงินจองคืนได้ครับ แต่ต้องมีเอกสารของทางไฟแนนซ์ด้วยครับเพื่อยืนยัน และเซลไม่มีสิทธิมาเตะถ่วงเรื่องเงินจองครับ(ถ้าไฟแนนซ์ผ่านอันนี้อีกเรื่องหนึ่ง)
-
ศ ไหนคับ เพื่อพอรู้จักคนใน
จริงๆมันไม่ยากนะถ้าจะเอาคืนจริง อย่าหาว่าด่าน ะติเพื่อก่อล่ะกันและผมปากไม่ดี ผมว่าคุณไม่จริงจังเอง อาจจะหน้าใหญ่อยากได้ ถึงได้พลาดจองรถที่เกินตัวไปตั้งแต่แรก
แก้ที่ตัวคุณครับ จะไม่เอาก็ ไม่เอาจริง ไปโว้ยที่ ศ แม่มเลย อย่างช้า ตัดบัญชีสิ้นเดือนก็ได้เงินคืนแล้ว
-
เสียงดังเข้าไว้ครับเมื่อเค้าทำอย่างนี้เท่ากับไม่เกรงใจเราก็ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเกรงใจ เอาหลักฐานที่มีลองไปปรึกษาคนที่เค้าพอช่วยได้มั๊ยหล่ะครับ อย่างคลับวอลโว่ สคบ หรือลองหลังไมค์ไปปรึกษาคุณจิมมี่ดู(แต่คิดว่าช่วงนี้งานยุ่งมาก)
ซื้อรถระดับนี้แต่การเงินไม่พร้อมแล้วยังไม่ปรึกษาคนที่จะมาช่วยอีกผมว่าประมาทอย่างมากเลยครับ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน แต่นี่ต้องไปพึ่งพ่อตาไม่ใช่พ่อตัวอีก ยิ่งเพิ่มงบเป็นล้านจากที่ตั้งไว้ยังไงก็ต้องรอบคอบกว่านี้ให้มาก จำไว้เป็นบทเรียนเลยนะครับ ยังไงเรื่องทางบ้านต้องเคลียร์ให้ได้ส่วนเงิน 50,000 ผมว่าเป็นปัญหารองแต่ก็ต้องเอาคืนให้ได้จากนั้นก็ค่อยมองหาคันที่เหมาะจริงๆแต่คราวนี้อย่าพลาดอีกนะครับ
-
Finance ไม่ผ่าน คืนเงินจองได้แน่นอนครับ ตอนผมออกก็ถาม Sale ว่า ถามีปัญหา เรื่อง Finance จะทำยังไง เพราะไม่เห็นมีเขียนเงือนไขใว้ในใบจอง Sale ตอบว่า ตามกฏหมาย ถ้า Finince ไม่ผ่าน ต้องคืนเงินตามกฏหมายอยู่แล้ว
ก็คงยืนเอกสารตามขั้นตอนครับ
ขอพูดตรงๆว่า งานนี้ส่วนนึง เป็นความผิดคุณเองด้วย ที่จองไป ทั้งๆที่ไม่พร้อม ก็ทำให้ต้องมีเรื่อง clear เรื่อง เครียดด้วย ถือว่าเป็นบทเรียนครับ
แต่ถ้ายืนเอาสารไปแล้ว Finance เกิดผ่าน ต้องรับรถ ภายใน 15 วันน๊ะครับ อันนี้เขียนใว้ชัดในใบจองเลย ในทางปฏิบัติ อาจเลื่อนได้บ้าง ถ้าไม่พร้อมจริงๆ แต่ถ้า Late มาก เงินจองไม่ได้คืนน๊ะครับ
-
สงสัยครับ 1 ในหนังสือสัญญามีระบุไหมครับว่าคืนเงินจองได้ในทุกกรณี
2 สรุปคุณไม่มีเงิน จองโดยอาศัยว่าพ่อตาจะให้ยืมเงิน แต่ไม่มีการพูดคุยกันก่อนเหรอครับ
1. ไม่ได้ระบุไว้ครับ เรื่องคืนเงินหากไม่พอใจในการขับทดสอบจริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีเขียนไว้ แต่ตามที่ได้รับแจ้งเหมือนเป็นแนวทางปฏิบัติของ volvo ครับ
2. จากที่บอกน่ะแหละครับ คือจริงๆ ตั้งใจว่าจะไปดู range ราคาล้านต้นๆ และได้บอกน้องเซลส์ไปตั้งแต่ตอนเริ่มคุยเลยครับว่างบตั้งไว้เท่านี้ ซึ่งในใจผมรู้แต่แรกครับว่าต้องคุยกับทางพ่อตาดูก่อน แต่บังเอิญว่าถ้าจำได้ช่วงนั้นจะมีการชุมนุมบริเวณแจ้งวัฒนะ น้องเค้าก็เลยบอกให้จองไปเลยดีกว่า เพราะวันรุ่งขึ้นอาจติดขัดมาไม่ได้ และสามารถคืนเงินจองได้เต็มจำนวนแน่นอน ไม่มีปัญหา ไม่มีเรื่องกั๊กเงินจอง (น้องเค้าย้ำหลายรอบมาก) ผมก็เลยตามนั้นครับ
หมายเหตุนิดนึงครับ คือเงินจากพ่อตา ผมกับภรรยาตั้งใจว่าจะผ่อนคืนนะครับ เพราะถือว่ามีครอบครัวแล้ว ไม่อยากเป็นเด็กแบมือขอเงินน่ะครับ ฉะนั้นเงินต้นส่วนนี้ก็เป็นภาระผ่อนของผมต่อ หลังจากที่ผ่อนกับไฟแนนซ์ เพียงแต่ว่าจะผ่อนสบายขึ้นน่ะครับ เมื่อพ่อตาไม่อนุญาตผมก็เลยต้องมาทบทวนกันใหม่หมดไงครับ
-
ศ ไหนคับ เพื่อพอรู้จักคนใน
จริงๆมันไม่ยากนะถ้าจะเอาคืนจริง อย่าหาว่าด่าน ะติเพื่อก่อล่ะกันและผมปากไม่ดี ผมว่าคุณไม่จริงจังเอง อาจจะหน้าใหญ่อยากได้ ถึงได้พลาดจองรถที่เกินตัวไปตั้งแต่แรก
แก้ที่ตัวคุณครับ จะไม่เอาก็ ไม่เอาจริง ไปโว้ยที่ ศ แม่มเลย อย่างช้า ตัดบัญชีสิ้นเดือนก็ได้เงินคืนแล้ว
ขอบคุณและน้อมรับครับ ผมยอมรับว่าผมเป็นคนขี้เกรงใจและมองโลกแง่ดีเกินไปครับ ในตอนนั้นผมเข้าใจว่าที่น้องเค้าเสนอมาก็เพื่อช่วยเหลือผมจริงๆ ส่วนเรื่องรถเกินฐานะ ผมไม่เคยคิดเรื่องหน้าตาเลยนะครับ ตัวผมเองตอนนี้ทุกเช้าขับรถไปส่งลูกกับภรรยา แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปทำงานนะครับ (ฝนตกก็ใส่เสื้อฝน) แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะรถคันปัจจุบันมันแคบมากครับ วางกระเป๋าเบาะหน้า ส่วนภรรยาผมให้นมลูกอยู่เบาะหลัง มันก็แคบไม่สะดวกเลยครับ แล้วก็ไหนๆ ซื้อทั้งทีก็คิดว่าอยากได้รถที่ดี ปลอดภัย และว่าจะใช้ไปยาวๆ ครับ
ผมแจ้งไปที่ศูนย์แล้วครับ ตอนนี้ยังรอทางผู้จัดการอยู่ว่าจะจบลงอย่างไร ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจเพราะเซลส์ปฏิเสธด้วยการอ้างชื่อผู้จัดการมาตลอด ซึ่งถ้าผู้จัดการเห็นด้วยกับเซลส์อย่างที่อ้างมา ผมก็ไม่รู้จะติดต่อใครแล้วล่ะครับ
-
เคสนี้้ เซลล์เล่นแง่ ครับ
ตรงดิ่งเข้าไปที่ศูนย์ขอคุยกับ ผู้จัดการ/ผู้มีอำนาจ ด้วยตัวเอง
แต่ก่อนที่จะเข้าไป แนะนำให้มีเอกสารไม่อนุมัติสินเชื่อจากทางไฟแนนซ์ด้วย
เพื่อนที่จะได้คุยแล้วจบในครั้งเดียว
-
ทางสว่างรำไร คือ หนังสือปฎิเสธการอนุมัติวงเงินจากไฟแนนซ์ ครับ
จากนั้นก็เข้าไปคุยกับผู้จัดการศูนย์เลยครับ
ปล.
อยากให้นึกถึงใจเขาใจเราด้วยครับ
หากผู้ซื้อรถจองแล้ว ถอนจองกันแบบเข้าๆออกๆ
ถ้ามีกรณีเช่นนี้มากๆ ทางศูนย์บริการเขาก็วุ่นวายเช่นเดียวกับเราครับ
ถ้าจะให้ดีอยากให้ตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรตั้งแต่วางเงินจองกันเลยครับ
จะได้ทราบว่าทั้งฝ่ายศูนย์บริการและฝ่ายลูกค้า ยอมรับในข้อตกลงเดียวกัน ด้วยกันทั้งสองฝ่ายครับ
-
.... สั้นๆ ง่ายๆ เลยนะครับ
ไฟแนนซ์ไม่ผ่าน ยังไงก็ได้เงินจองคืนครับ
มันเป็นกฏอยู่แล้ว
-
.
.
.
เอาจริงๆลองนึกดูดีๆ เรื่องทั้งหมดมันเริ่มที่ตัวคุณเลยนะครับ
วันนั้นถ้าจอง XV ไป ป่านนี้มีรถใหม่ขับ ครอบครัวสุขสันต์ไปแล้ว
จริงๆเซลล์ก็ไม่ได้อยากมาอยู่ในปัญหาแบบนี้หรอกครับ
ใครๆก็อยากขายรถได้ตามปกติ ลูกค้าจองแล้วก็รับรถ คงไม่มีใครอยาก
จะยึดเงินจองใครหรอก เพราะเงินตรงนั้นเซลล์ก็ไม่ได้ ศูนย์เป็นคนเก็บ
แล้วการตัดสินใจเรื่องขอคืนเงินจองก็เป็นของศูนย์ ไม่ใช่ของเซลล์แล้ว
เค้าก็ทำได้แค่พูดให้แทนคุณแค่นั้น แต่จะคืนไม่คืนมันหน้าที่ผู้จัดการศูนย์
(แต่ในความจริงถ้าคุณไฟแนนท์ไม่ผ่านยังไงก็ต้องคืน 100% ครับ)
แต่ถ้าเป็นผม ผมจะบอกเซลล์ว่า ถ้าทำเรื่องหรือตามเรื่องคืนเงินให้
ผมจะให้ค่าเหนื่อยพิเศษซักหมื่นนึง เพราะถือว่าเราเองก็ผิดที่ตัดสินใจไม่คิดครับ
และจริงๆแล้วคนที่ผิดสัญญาคือเราเอง
-
รายละเอียดว่ากรณีไหน ได้เงินจองคืน หรือกรณีไหนสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินจอง
มีระบุอยู่ด้านหลังใบจองครับ
-
ไม่ต้องเครียดไป จริงๆผมว่าไม่จำเป็นต้องไปอธิบายเรื่องราวอะไรเกี่ยวปัญหาต่างๆให้ sale ฟังหรอก เหตุผล Finance ไม่ผ่าน พอแล้ว
ผมขอแนะนำสั้นๆที่น่าทำอนนี้นะครับ 1.เข้าไปทำเรื่องถอนจองที่ศูนย์ก่อน 2. โทรคุยกับบัตรเครดิต ปกติบัตรเครดิตมีอะไรที่ให้เรามากกว่า สะสมแต้ม (แม่บ้านผมชอบอันนี้มากเ ;D) เขาคุุ้มครองเราพอสมควรนะครับ
-
เป็นผมนะบุกศูนย์ไปอาละวาดแล้ว เรียกหา a มารับฟังเทศนาอันดับแรก สิทธิ์ของเราห้ามยอม
-
เอาใจช่วยครับ
อย่างผมเองพาคุถปู่แและคุณย่าไปจองมิราจมา กะออกชื่อพ่อผม แล้วให้คุณปู่ใช้ เซลล์ก็รับเอกสารจองไปเรียบร้อย คิดไปคิดมา ผมก็ยังไม่อยากซื้อรถเพิ่มตอนนี้ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี เลยยังไม่อยากได้ตอนนี้จะเป็นภาระ ผมก็บอกเซลล์ไปเขาบอกจะให้คุยกับผู้จัดการว่าติดขัดอะไร เขาเพิ่มส่วนลดให้อีก ...แต่ผมบอกยังไม่เอา เขาก็บอก เดี๋ยวจัดการให้ ก็ให้ไฟแนนซ์โทรมา แต่ให้ผมยื่นเอกสารมา จะตีว่าไม่ผ่าน เสร็จ ก็ตีกลับไปเซลล์ เรียบร้อยดีครับ คืนเงินจองได้ครับ แต่รอประมาณเดือนกว่า ให้เป็นเช็คมา สรุปได้ใจเซลล์คนนี้คุยง่ายตั้งแต่เอาจนไม่เอา จนทุกวันนี้ผมเอารถ มิตซูของผมไปเข้า 0 เขาก็ยังคุยดีว่า พี่พร้อมบอกผมเลยนะ...
-
เคสจขกทคล้ายเราเลยค่ะ ตอนแรกจะไปจอง XV แต่ไปติดใจ V40 ในงานมอเตอร์โชว์ เซลก้อตื๊อให้เราจองก่อนบอกว่าถอนจองได้ทุกกรณีไม่มีเงื่อนไขเหมือนกัน แต่เกินงบไปเยอะเลยยังไม่จองขอกลับไปคิดก่อนสำหรับเราไม่มั่นใจเราไม่วางเงินค่ะ แต่สุดท้ายก้อเลือก V40 นะคะ ทางบ้านเชียร์ Volvo เพราะเคยใช้มาสองคันและจ่ายได้ไม่เดือดร้อน
ถ้ากังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอย่าเลือกรุ่นนี้เลยค่ะ ยังไงรถยุโรปซ่อมบำรุงก้อแพง แถมรุ่นนี้ทำมาเน้นแรงไม่เน้นประหยัด กินน้ำมันพอตัวและเติม e85 ไม่ได้
ขอให้ได้เงินคืนนะคะ คราวหน้าเจอเซลตื๊อใจแข็งไว้ เงินอยู่กะเราอำนาจต่อรองอยู่กะเราค่ะ
ปล จขกทน่าจะได้ลดเยอะนะ อยากถามอยู่แต่กลัวรู้แล้วจิตตก
-
ไม่ได้อ่าน แต่เจอ คำนี้ครับ > ไฟแนนซ์ไม่ผ่าน
ไฟแนน ไม่ผ่าน ถอนจองได้ครับ ได้เงินคืนภายใน 15 วัน
ต้องทำเรื่องถอนจอง เพราะ ไฟแนนไม่ผ่าน มีหลักฐานว่าไฟแนนไม่ผ่าน ( เก็บไว้กับตัวอีกฉบับ)
มีปัญหา บอกกรรมการบริษัทนั้นว่า จะ ร้องเรียนต่อ สคบ ครับ(กรรมการอยู่ในบรษัทนั้นแหละ เดินหาเอา ถ้าเซลหาให้รับรอง ไม่ได้เจอ เพราะ เซลกลัวกรรมการบริษัทมากเพราะมีอำนาจลงโทษได้)
หากไม่ได้อีก ร้องเรียนต่อ สคบ ครับ ว่า ได้ขอถอนจองเพราะไฟแนนไม่ผ่านแล้ว แต่ศูนย์ปฏิเสธ
เรื่องเสร็จที่ขั้นตอนเจรจา ไม่มีฟ้องร้อง แน่นอน ครับ
กฎหมาย ใบจองรถ เขียนไว้ชัด ไฟแนนไม่ผ่าน ถอนจองได้
-
เคสนี้ สคบ. จบแน่ เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ต้องสอบสวนเลย เพิ่งไปฟังบรรยายจาก สคบ. มา เค้าเน้นเรื่องนี้มาก
ปล. พฤติกรรมเซลส์คนนี้ น่าโดนด่ามาก ๆ
-
คุณ จขกท เป็นคนดีมากๆ ที่ตอนนี้เราหาคนแบบนี้ในสังคมลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ นะ อันนี้ผมว่าทุกคนคงรู้สึกเหมือนกัน
ดังนั้น คุณเลยตกเป็นจำเลย เพราะความที่คุณเป็นคนดีครับ บอกตรงๆ
สมัยนี้ ต้องดุ ต้องกล้า ต้องไม่ยอมคน บางทีเราอ่อนเกินไปก็กลายเป็นมีแต่คนมาเอาเปรียบ เพียงแค่เราอย่าเอาเปรียบคนก็พอ
สรุปเคสนี้ ยังไงก็ควรได้เงินจองคืน ทำ finance ไม่ผ่าน ง่ายสุด ไม่งั้น รีบโทรไปอายัดบัตรเครดิต ว่ารายการนี้ คุณไม่รับ เขาน่าจะคุ้มตรองในระดับนึง และเดินไปที่ศูนย์ คุยกับผู้จัดการหรือเจ้าของ ยืนยันว่าไม่คุยกับเซลส์ จบครับ เซลส์ ยังไงก็กลัวตกงาน หากไม่รู้เรื่อง ก็ สคบ.
ผมว่า เงินมันไม่ได้เป็นประเด็นหรอก แต่ความที่เซลส์ไร้ความรับผิดชอบ ไม่ดูแลลูกค้า และไม่ใส่ใจ อันนี้อยากให้สอนบทเรียนเซลส์มากกว่าครับ
-
คุณ จขกท เป็นคนดีมากๆ ที่ตอนนี้เราหาคนแบบนี้ในสังคมลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ นะ อันนี้ผมว่าทุกคนคงรู้สึกเหมือนกัน
ดังนั้น คุณเลยตกเป็นจำเลย เพราะความที่คุณเป็นคนดีครับ บอกตรงๆ
สมัยนี้ ต้องดุ ต้องกล้า ต้องไม่ยอมคน บางทีเราอ่อนเกินไปก็กลายเป็นมีแต่คนมาเอาเปรียบ เพียงแค่เราอย่าเอาเปรียบคนก็พอ
สรุปเคสนี้ ยังไงก็ควรได้เงินจองคืน ทำ finance ไม่ผ่าน ง่ายสุด ไม่งั้น รีบโทรไปอายัดบัตรเครดิต ว่ารายการนี้ คุณไม่รับ เขาน่าจะคุ้มตรองในระดับนึง และเดินไปที่ศูนย์ คุยกับผู้จัดการหรือเจ้าของ ยืนยันว่าไม่คุยกับเซลส์ จบครับ เซลส์ ยังไงก็กลัวตกงาน หากไม่รู้เรื่อง ก็ สคบ.
ผมว่า เงินมันไม่ได้เป็นประเด็นหรอก แต่ความที่เซลส์ไร้ความรับผิดชอบ ไม่ดูแลลูกค้า และไม่ใส่ใจ อันนี้อยากให้สอนบทเรียนเซลส์มากกว่าครับ
คำว่าเป็นคนดีมากๆ เก็บไว้ให้กับคนที่ ช่วยเหลือคนอื่นแบบไม่ต้องการผลตอบแทนดีกว่ากระมั้งครับ ผมแค่คิดว่า จขกท เป็นคนขี้เกรงใจมากๆ เท่านั้นเอง
-
อย่าไปหวังอะไรกับสคบ.มากเลยครับ เคสผมโดนดีลเลอร์เบนซ์แห่งนึงไม่ยอมคืนเงินจอง
ไปฟ้องสคบ.จนป่านนี้เรื่องยังไม่ไปถึงไหนเลยครับ
-
ไฟแนนซ์ไม่ผ่าน สามารถรับเงินจองคืนได้ครับ แต่ต้องมีเอกสารของทางไฟแนนซ์ด้วยครับเพื่อยืนยัน และเซลไม่มีสิทธิมาเตะถ่วงเรื่องเงินจองครับ(ถ้าไฟแนนซ์ผ่านอันนี้อีกเรื่องหนึ่ง)
ตอนนี้ผมไม่มีเอกสารในมือเลยครับ ตอนที่ผมคุยกับไฟแนนซ์ที่เซลส์ให้เบอร์มา เค้าแค่สอบถามผมทางโทรศัพท์ก็ฟันธงเลยว่าไม่ผ่าน ไม่ต้องส่งเอกสารให้เค้าพิจารณาก็ได้ แล้วเค้าจะโทรไปแจ้งเซลส์ให้
หลังจากนั้นได้คุยกับเซลส์ เซลส์บอกรับทราบเรื่องไฟแนนซ์ไม่ผ่านแล้ว แต่พอผมถามว่าจะทำเรื่องคืนเงินจองยังไง เค้าก็ตอบว่าจะส่งเรื่องไปที่ผู้จัดการ แล้วเงียบหายไป (ที่ผมเล่าให้ฟังว่าโทรไปก็ไม่รับสาย)
หลังจากเห็นท่าว่าโดนเล่นแง่แน่ๆ แล้วผมก็โทรไปหาไฟแนนซ์อีกครั้ง เพื่อขอยื่นเอกสาร เค้าก็ยืนยันคำเดิมว่า ไม่ต้องใช้ก็ได้ เค้าแจ้งให้แล้ว ให้ไปตกลงกับเซลส์ได้เลย
แบบนี้ผมทำอย่างไรได้บ้างครับ?
-
ทำยังไงต่อ? ผมว่าไม่น่าถามนะครับ เพราะ มีคนตอบไปหมดแล้ว และหลายคนด้วย
มาถามวัตถุประสงค์เดิม ก็ได้คำตอบเดิม แหละ แต่คุณไม่ทำตาม มันจะได้ผล หรือ
---------------
สคบ ยังไม่ต้องก็ได้ ค่อยทำตามลำดับ
--------------
ทำเรื่องถอนจอง เพราะไฟแนน ไม่ผ่าน เป็นหนังสือ ลงวันที่ (ทำแล้วควรให้เซลถ่ายสำเนาให้ และมีลายมือชื่อตัวแทนศูนย์ด้วย)
ไฟแนนคงขี้เกียจทำเรื่องไม่ผ่านให้ เพราะไม่ใช่ธุระ ทำไปก็ไม่ได้ผลงาน ไม่ได้ตัง ไม่ได้ค่าข้าว ให้ไฟแนนโทรคุยกับกรรมการศูนย์เลยว่า ไฟแนนไม่ผ่าน เมิงนิเรื่องมากจริง ไม่ต้องให้ไฟแนนคุยกับเซลแล้ว มันยึกยัก หิวส่วนล่าง
ถ้าไม่ได้ หาทางติดต่อผู้จัดการศูนย์ และกรรมการศูนย์ ตามลำดับ ด้วยตนเอง บอกว่า ขอถอนจองเพราะไฟแนนไม่ผ่าน เซลชื่อ...ทราบแล้วไม่ให้
รับรอง หากเซลผิด เซลจะทำทุกวิถีทางที่ไม่ให้คุณไปถึงกรรมการศูนย์ เพราะถ้าถึง เซลโครตซวย ซวยแน่ รับรอง จบก่อน ถึงมือกรรมการศูนย์ หรือจบเมื่อถึงมือกรรมการศูนย์
-
คุณ จขกท เป็นคนดีมากๆ ที่ตอนนี้เราหาคนแบบนี้ในสังคมลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ นะ อันนี้ผมว่าทุกคนคงรู้สึกเหมือนกัน
ดังนั้น คุณเลยตกเป็นจำเลย เพราะความที่คุณเป็นคนดีครับ บอกตรงๆ
สมัยนี้ ต้องดุ ต้องกล้า ต้องไม่ยอมคน บางทีเราอ่อนเกินไปก็กลายเป็นมีแต่คนมาเอาเปรียบ เพียงแค่เราอย่าเอาเปรียบคนก็พอ
สรุปเคสนี้ ยังไงก็ควรได้เงินจองคืน ทำ finance ไม่ผ่าน ง่ายสุด ไม่งั้น รีบโทรไปอายัดบัตรเครดิต ว่ารายการนี้ คุณไม่รับ เขาน่าจะคุ้มตรองในระดับนึง และเดินไปที่ศูนย์ คุยกับผู้จัดการหรือเจ้าของ ยืนยันว่าไม่คุยกับเซลส์ จบครับ เซลส์ ยังไงก็กลัวตกงาน หากไม่รู้เรื่อง ก็ สคบ.
ผมว่า เงินมันไม่ได้เป็นประเด็นหรอก แต่ความที่เซลส์ไร้ความรับผิดชอบ ไม่ดูแลลูกค้า และไม่ใส่ใจ อันนี้อยากให้สอนบทเรียนเซลส์มากกว่าครับ
คำว่าเป็นคนดีมากๆ เก็บไว้ให้กับคนที่ ช่วยเหลือคนอื่นแบบไม่ต้องการผลตอบแทนดีกว่ากระมั้งครับ ผมแค่คิดว่า จขกท เป็นคนขี้เกรงใจมากๆ เท่านั้นเอง
ตอบแบบนี้อย่ามาตอบเลยครับ