Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sakano ที่ มกราคม 26, 2014, 18:07:16
-
คือผมสงสัยมานานแล้วครับ
ว่า ทำไม camry ถึงไม่เน้นขาย รุ่น 2.5 G เลยครับ
ไม่มี promotion ส่งเสริมการขาย เหมือนรุ่นอื่นๆเลย
ถ้ามีก็จะห่วยกว่ารุ่นอื่นๆ
งงๆ อ่ะครับ
-
น่าจะเพราะอยากขาย Hybrid ได้มากๆครับ พอขายมาก มันทำให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง
เลยพยายามดันไปให้ซื้อ Hybrid แทน
-
2.5 G นี้รู้สึกว่าจะเน้นขายแบบ fleet นะครับ
สำหรับบริษัทซื้อทีเยอะๆ หรือพูดอีกแบบคือเจ้าของไม่ได้ขับ และคนขับก็ไม่ใช้เจ้าของ
ในส่วนออปชั่นต่างๆ เลยไม่เน้นด้วย เน้นคุ้มค่าถูกอย่างเดียว
-
2.5 G นี้รู้สึกว่าจะเน้นขายแบบ fleet นะครับ
สำหรับบริษัทซื้อทีเยอะๆ หรือพูดอีกแบบคือเจ้าของไม่ได้ขับ และคนขับก็ไม่ใช้เจ้าของ
ในส่วนออปชั่นต่างๆ เลยไม่เน้นด้วย เน้นคุ้มค่าถูกอย่างเดียว
สเปกกับราคา ไม่คุ้มค่า ไม่ถูกเลยนะครับ
-
ผมละเสียดายเครื่องยนต์กับตัวรถจริงๆ สำหรับแคมรี่
ผมได้ลองขับแคมรี่ 2.5G ส่วนตัว ผมชอบเครื่องยนต์กับระบบช่วงล่างมากๆ และ ภายในที่จัดวางตำแหน่งต่างๆได้ดีมาก มันตอบโจทย์สำหรับผม
แต่เมื่อมาดูออฟชั่นที่ให้มา ผมรับไม่ได้กับรถราคา 1.5MB เลยครับ กั๊กจริงๆ สงสัยตั้งใจให้บีบไปซื้อแคมรี่hybrid
สุดท้าย ก็ไปคบกับแอคคอดG9 ดีกว่า
-
ดันให้คนไปซื้อ hybrid หมดครับ ดูราคากับ option สิครับ รถ 1.5 ล้าน VSC ก็ไม่มี Airbag ก็แค่ 2 ลูก ขนาด city คันละ 5 แสนกลางยังให้มาเลย5555
-
ที่ผมสงสัยคือตลาดมือสองทำไมมันมีแต่2.5g 2.0gกับHybridน้อยมากๆ
-
ดันให้ไปซื้อไฮบริดไงครับ ผมเสียดายจริงๆทั้งๆที่เป็นรถที่ดีมากแต่ต้องกลายเป็นบันไดไปซะ
-
2.5 G นี้รู้สึกว่าจะเน้นขายแบบ fleet นะครับ
สำหรับบริษัทซื้อทีเยอะๆ หรือพูดอีกแบบคือเจ้าของไม่ได้ขับ และคนขับก็ไม่ใช้เจ้าของ
ในส่วนออปชั่นต่างๆ เลยไม่เน้นด้วย เน้นคุ้มค่าถูกอย่างเดียว
สเปกกับราคา ไม่คุ้มค่า ไม่ถูกเลยนะครับ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า Toyota เขาคิดอย่างไร
แต่ผมว่าอย่างน้อยก็ถูกทั้งตัวรถและการดูแลรักษา เมื่อเทียบกับ Hybrid (ในมุมมองการซื้อแบบ fleet นะครับ)
-
อ่า ....มันขายได้เยอะหรือครั
ผมแทบไม่เห็นวิ่งเลยนะครับ รุ่น 2.5G
เห็นแต่ รุ่นอื่น
-
เป็นแผนการตลาดที่ผลักดันให้คนไปซื้อ Accord กับ Teana ไงครับ อิอิ
-
ซื้อมือหนึ่งแพงกว่า 2.0g สองแสน แต่มือสองขายราคาพอๆกันเลยครับ
-
2.5 G นี้รู้สึกว่าจะเน้นขายแบบ fleet นะครับ
สำหรับบริษัทซื้อทีเยอะๆ หรือพูดอีกแบบคือเจ้าของไม่ได้ขับ และคนขับก็ไม่ใช้เจ้าของ
ในส่วนออปชั่นต่างๆ เลยไม่เน้นด้วย เน้นคุ้มค่าถูกอย่างเดียว
สงสัยว่าทำไมแบบ fleet ถึงไม่ซื้อ 2.0G ครับ
-
อุตส่าห์ใส่เครื่องใหม่ เกียร์ใหม่มาให้ แต่ออพชั่นไม่เหลี่ยวแล
-
จริงๆ ถ้าไม่ใช่รถประจำตำแหน่งคุณพ่อ (รุ่น 2.0 G) บ้านผมจะไม่เหลือโตโยต้าซักคัน เพราะอัลติสที่เพิ่งตกรุ่นหมาดๆ ผมก็เพิ่งขายไป อย่างไม่เสียดายเท่าไหร่ เข้าเรื่อง รถเค้าน่ะดีครับ ขับดีทีเดียวล่ะ ไอคัมรี่ ACV 50 เนี่ย ขนาดเครื่องเดิม เกียร์เดิม 4 สปีดสุดโบราณ แต่ผมว่ามันทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมสมราคาครับ เครื่องเรียบ เกียร์ฉลาด ขับแป๊บๆ 160 สบายๆ ช่วงล่างนิ่ง ขับทางไกล ไม่เครียด ยิ่งตัว 2.5 G ผมได้ลองขับตอนเปิดตัวใหม่ๆ โคตรฟินบอกเลย
แต่หันมามองออปชั่น ยิ่งมาเทียบกับออลนิว ซิตี้ ณ เวลานี้ บอกได้คำเดียวว่าสถุน (ถ้าหยาบขออภัย) ถุงลม 2 ใบ ไม่มี VSC & TRC เอาอะไรคิด (อัลติสหน้าหมู อายุเลย 10 ขวบปี ทำไมใส่มาได้ ตอบหน่อย งง) ราคารถมันไม่ใช่ 3-4 แสนนะครับ ไม่มีสมงสมาร์ทเอนทรี พุชสตาร์ทก็ไม่ว่า (แต่มิราจและแอททราจมีจ้า) คือจะบอกว่าเน้นขายไฮบริด ไอตัวล่าง 1.6 ล้าน ออปชั่นก็ไม่สมราคาอยู่ดีนะ ล้านสี่ก็เกินจะทนแล้วป่ะครับ
อย่าทำลายคนที่มีความภักดีต่อโตโยต้าไปมากกว่านี้เลย รถดีดีมาปู้ยี่ปู้ยำซะเละเทะ มันเกิดมาจากใครฟะ (ตอนนี้เริ่มรู้) ไอหั่นออปชั่นเพิ่มราคาเนี่ย ตลาดโลกเข้าก็มีครบครันอยู่ทีเดียว มาไทยหายไปไหนครับ ? ถ้าปี 1994 แล้วขับรถที่มีออปชั่นเท่านี้ ราคานี้ผมยอมรับได้ แต่ไม่ใช่ปี 2014 แน่ๆ
-
เห็นด้วยครับว่าเน้นไปทาง fleet ยังไงก็แบรนด์นี้ ซื้ออยู่แล้ว
ส่วนบุคคลธรรมดาก็ดันขึ้นให้เล่นไฮบริด
-
เสียดายครับ รถสมรรถนะดี แต่เสียที่ออพชัน ผมก็คิดเหมือนหลายท่านนะครับว่า Toyota ต้องการดันลูกค้าให้ขึ้นไปเล่นรุ่น Hybrid มากกว่า ซึ่งผมว่าคิดผิดครับ เพราะรุ่น Hybrid ราคาถูกสุด ก็ 1.65 ล้านแล้ว แถมไม่มี dvd กะ กล้องมองหลังจากโรงงานอีก >:( >:( >:( ต้องเล่นรุ่น รองท็อป ราคา 1.75 ล้าน ถึงจะมีออพชันพอดูได้ ตรงนี้มันเกิดช่องว่างครับ ทำให้คู่แข่งอย่าง accord teana วางรถของตนเข้าไปในช่วงราคานี้ และ แย่งลูกค้าไปได้มากพอสมควร จน Toyota ต้องตกจากบัลลังก์ แชมป์รถยนต์นั่งไปเลย แถมต้องแก้เกมด้วยการอัดส่วนลดอีกต่างหาก จุดนี้ผมว่าน่าจะเป็นบทเรียนให้กับ Toyota ครับ เพราะว่า ยุคนี้ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงง่าย คนซื้อรถส่วนใหญ่ ก่อนเข้า showroom ไปดูรถ จะมีข้อมูลอยู่ในใจแล้ว เหลือไปทดลองขับ กับ ต่อรองส่วนลด ของแถมเท่านั้น
คหสต นะครับ ผมว่า Altis ใหม่ แม้ว่าจะแรงขึ้น สมรรถนะโดยรวมดีขึ้น แต่ออพชันยังน้อยกว่าคู่แข่ง เดี๋ยวพอ new mazda 3 กะ civic minorchange ออกมา แม้จะแรงน้อยกว่า แต่ ออพชันจุใจกว่า ลูกค้าก็ไปอยู่ดี ดูแล้ว ประวัติศาสตร์คงซ้ำรอยเมื่อครั้ง Camry กะ Accord แน่
-
เสียดายครับ รถสมรรถนะดี แต่เสียที่ออพชัน ผมก็คิดเหมือนหลายท่านนะครับว่า Toyota ต้องการดันลูกค้าให้ขึ้นไปเล่นรุ่น Hybrid มากกว่า ซึ่งผมว่าคิดผิดครับ เพราะรุ่น Hybrid ราคาถูกสุด ก็ 1.65 ล้านแล้ว แถมไม่มี dvd กะ กล้องมองหลังจากโรงงานอีก >:( >:( >:( ต้องเล่นรุ่น รองท็อป ราคา 1.75 ล้าน ถึงจะมีออพชันพอดูได้ ตรงนี้มันเกิดช่องว่างครับ ทำให้คู่แข่งอย่าง accord teana วางรถของตนเข้าไปในช่วงราคานี้ และ แย่งลูกค้าไปได้มากพอสมควร จน Toyota ต้องตกจากบัลลังก์ แชมป์รถยนต์นั่งไปเลย แถมต้องแก้เกมด้วยการอัดส่วนลดอีกต่างหาก จุดนี้ผมว่าน่าจะเป็นบทเรียนให้กับ Toyota ครับ เพราะว่า ยุคนี้ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงง่าย คนซื้อรถส่วนใหญ่ ก่อนเข้า showroom ไปดูรถ จะมีข้อมูลอยู่ในใจแล้ว เหลือไปทดลองขับ กับ ต่อรองส่วนลด ของแถมเท่านั้น
คหสต นะครับ ผมว่า Altis ใหม่ แม้ว่าจะแรงขึ้น สมรรถนะโดยรวมดีขึ้น แต่ออพชันยังน้อยกว่าคู่แข่ง เดี๋ยวพอ new mazda 3 กะ civic minorchange ออกมา แม้จะแรงน้อยกว่า แต่ ออพชันจุใจกว่า ลูกค้าก็ไปอยู่ดี ดูแล้ว ประวัติศาสตร์คงซ้ำรอยเมื่อครั้ง Camry กะ Accord แน่
เห็นด้วยเลยครับ..ถึงแม้หลังๆมา Toyota จะปรับปรุงสมรรถนะโดยรวมดีขึ้น แต่คนไทยส่วนใหญ่จะมีสักกี่คนได้สัมผัสก่อนซื้อ ทดลองขับก่อนซื้อ
แต่สิ่งที่ทุกคนสัมผัสและเข้าถึงได้ง่ายคือ ออฟชั้่นต่างๆของเล่นต่างๆ
บางคนแค่เห็นออฟชั่นของ Toyota เขาก็ไม่เข้าไปสัมผัสกับสมรรถนะของตัวรถแล้ว
-
เสียดายครับ รถสมรรถนะดี แต่เสียที่ออพชัน ผมก็คิดเหมือนหลายท่านนะครับว่า Toyota ต้องการดันลูกค้าให้ขึ้นไปเล่นรุ่น Hybrid มากกว่า ซึ่งผมว่าคิดผิดครับ เพราะรุ่น Hybrid ราคาถูกสุด ก็ 1.65 ล้านแล้ว แถมไม่มี dvd กะ กล้องมองหลังจากโรงงานอีก >:( >:( >:( ต้องเล่นรุ่น รองท็อป ราคา 1.75 ล้าน ถึงจะมีออพชันพอดูได้ ตรงนี้มันเกิดช่องว่างครับ ทำให้คู่แข่งอย่าง accord teana วางรถของตนเข้าไปในช่วงราคานี้ และ แย่งลูกค้าไปได้มากพอสมควร จน Toyota ต้องตกจากบัลลังก์ แชมป์รถยนต์นั่งไปเลย แถมต้องแก้เกมด้วยการอัดส่วนลดอีกต่างหาก จุดนี้ผมว่าน่าจะเป็นบทเรียนให้กับ Toyota ครับ เพราะว่า ยุคนี้ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงง่าย คนซื้อรถส่วนใหญ่ ก่อนเข้า showroom ไปดูรถ จะมีข้อมูลอยู่ในใจแล้ว เหลือไปทดลองขับ กับ ต่อรองส่วนลด ของแถมเท่านั้น
คหสต นะครับ ผมว่า Altis ใหม่ แม้ว่าจะแรงขึ้น สมรรถนะโดยรวมดีขึ้น แต่ออพชันยังน้อยกว่าคู่แข่ง เดี๋ยวพอ new mazda 3 กะ civic minorchange ออกมา แม้จะแรงน้อยกว่า แต่ ออพชันจุใจกว่า ลูกค้าก็ไปอยู่ดี ดูแล้ว ประวัติศาสตร์คงซ้ำรอยเมื่อครั้ง Camry กะ Accord แน่
ผมว่า city ก็กำลังจะเหยียบ vios จมดินแล้วนะ
-
ก็อย่างที่หลายท่านบอกละครับ TOYOTA พยายามดันให้คนไปซื้อรุ่น HYBRID โดยการใส่อุปกรณ์มาเยอะให้กับรุ่นนั้น ก็เท่านั้นเองครับ เนื่องจากถ้าย้อนกลับไปตอน AVC40 เปิดตัวรุ่น HYBRID ตอนนั้นถือว่ายังใหม่กับบ้านเรา ถ้าเขาขืนยังทำตัว 2.4V อีก โดยที่ option ไม่ต่างกัน ผมเชื่อว่าหลายคนก็ยังไม่สนใจ HYBRID อยู่ดี
ส่วน รุ่น 2.5 ผมว่าเขาไม่ได้เน้นตลาดองค์กร หรือว่า รถเช่า ซะเท่าไหร่นะ เท่าที่เห็น บริษัทรถเช่า จะเป็น 2.0G ไม่ก็ HYBRID ไปเลย
-
ผมคงเป็นคนแปลกครับเพราะใช้รุ่น 2.5 ตัวที่ว่าอยู่ผมมองอย่างนี้นะผมว่าส่วนต่างๆ 2 แสนได้เครื่อง 2.5 ซึ่งแรงเอาเรื่องเลยครับกับได้จอดีวีดีติดรถมาแถมล้อ 17 นิ้วเท่าที่นึกออกนะครับเอาแค่ 3 อย่างก็พอผมว่าคุ้มนะสำหรับส่วนต่าง 2 แสนส่วนรุ่นไฮบริดที่แพงขึ้นอีกแสนกว่ากลับไม่มีจอดีวีดีให้ในรุ่นต่ำสุดแต่มี push start , memory seat และที่ผ่านมาใช้ alphard hybrid มาก็ไม่เห็นจะประหยัดอะไรมากมายถ้าเป็นพรีอุสอันนั้นยอมรับผมก็เลยมองว่าตัวนี้คุ้มครับกับราคา 1.49 ล้านครับเพราะเคยใช้ acv40 2.0 มาก็ขับสบายๆเรื่อยแต่พอเป็น 2.5 ตัวนี้นี่รถที่เคยลองมาทั้ง accord g8 2.4 หรือ teana j32 250xv นั้นลิมไปได้เลยครับแรงสะใจจริงๆครับ...ไม่ผิดหวังเลยครับ
-
Fleetผมก็ไม่ซื้อครับ รุ่นก่อนซื้อแต่รุ่นนี้ไม่ซื้อเพราะห่วงชีวิตผู้บริหาร รถระดับนี้ต้องมีอุปกรณ์ความปลอดภัยพอสมควรแล้ว ขัดใจเลยซื้อVolvo S60ซะเลย
-
ใครรุ้บ้างว่าใครในโตโยต้าเป็นคนอนุมัติว่าจะใส่ออพชั่นไหนไม่ใส่ออพชั่นไหน ฝากตบกบาลมันทีนะครับ
หวังว่าคงไม่ใช่ท่านเคียวอิจิ ทานะดะ นะ