Headlight Magazine : community
General => Relax & Photoshop Room => ข้อความที่เริ่มโดย: ___LOFT ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2014, 19:50:59
-
สวัสดีชาว HEADLIGHTMAG ทุกคนครับ
ก่อนอื่นต้องขออนุญาตแนะนำตัว
ผมชื่อ คิว ครับ อายุ 18 ปี
กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.6 สายวิทย์ (ใกล้จบแล้ว)
รักรถและการขับรถเป็นชีวิตจิตใจ ;D ;D
อนาคตอยากทำงานเกี่ยวกับทางด้านยานยนต์ครับ
ผมสอบติด (สอบตรง) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมยานยนต์ที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น
โดยก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสไปเข้าค่ายเกี่ยวกับการแนะแนวทางในการศึกษาต่อที่สถาบันแห่งนี้
ผมค่อนข้างประทับใจรูปแบบการจัดการเรียน การสอน รวมไปถึงสังคม สภาพแวดล้อม ของที่นี่มาก
มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม ชมรมเกียร์ ซึ่งคว้ารางวัลมาแล้วมากมายทั้งไทยและเทศ (ชอบมว้ากก !!)
แต่ยังมีหนึ่งเรื่องที่ทำให้ผมกังวลใจ และคิดไม่ตก อยู่ ณ ขณะนี้
คือเรื่องของโอกาสการทำงานในอนาคต ความเป็นที่ยอมรับของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ฯลฯ
พูดง่าย ๆ ก็คือเครดิตของสถาบันนั่นแหละครับ แฮ่ะๆ
ซึ่งผมเองก็ได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด
ถึงแม้ว่าโอกาสในการทำงานหรือโอกาสในการก้าวหน้านั้น มันขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคล โดยอาศัยความรู้ ความสามารถเป็นสำคัญ
ทว่าชื่อเสียงของสถาบันนั้น ก็สำคัญเช่นเดียวกัน ถึงไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม
จึงอยากขอความคิดเห็นจากพี่ๆ ผู้มากด้วยประสบการณ์ทุกคนน่ะครับ
ขอบคุณคร้าบ ;)
-
วิศวะยานยนต์ ม.สุรนารี ใคร่สงสัยด้วยครับ ตอนนี้รอสอบสัมภาษณ์
แต่เจอ 190 หน่วยกิตเข้าไปแอบคิดหนัก เยอะเหลือเกินกลัวไปไม่รอด
-
ผมเป้นหนึ่งในคนที่เคยสอบติดแต่ไม่ได้ไปเรียนที่นั้น (ผมสอบรุ่นแรก ตั้งเป้าไว้ว่าถ้าสอบติด และได้ทุนจะไป เผอิญอดทุน)
ก็แอบเสียดายเล็กๆ ชอบหนังสือที่มาจาก ม.นี้หลายเล่มเหมือนกันครับ
เรื่องชื่อเสียให้คนรู้จริงมาตอบ ขอให้ได้ ม.ถูกใจนะครับ
-
อาจดูไปทาง วศ.เครื่องกล แทนก็ได้ครับเพราะก็สามารถต่อยอดเรื่องรถยนต์ได้ไม่ยาก
อย่างพี่ (เรียกพี่ก็ได้มั้งเพราะอายุ 23 และเพิ่งจบมาเมื่อปีก่อน ;D) ที่ชอบและบ้าเรื่องรถในระดับไม่ใช่น้อย
ตอนแรกก็เล็ง วศ.ยานยนต์ เหมือนกันแหละครับ แต่คิดว่าถ้าจะเอาที่ที่ดังที่สุดก็ต้อง จุฬา
แต่ว่าถ้าภาคปกติ จุฬา เขาจะรับ วศ. รวมๆ ไปก่อน แล้วขึ้นปี 2 ค่อยเอาเกรดปีแรกมาจัดอันดับและเลือกแยกสายกัน
ซึ่งดูแล้วยานยนต์รับแค่ปีละ 30 คน ซึ่งตัวโหดๆ ก็มักเลือกยานยนต์กัน โอกาศได้คงยากมากๆ
แต่ว่าถ้าเป็นแบบ inter ที่จุฬา จะมีแบบยานยนต์โดยตรงตั้งแต่ปีแรกเลย
แต่พี่ไม่เก่งภาษา และที่บ้านจ่ายค่าเทอมไม่ไหวแน่ๆ เพราะรู้สึกตกอยู่ที่ 80000-100000 บาท ต่อเทอม ก็เลยไม่เอา
เมื่อเห็นแบบนี้ก็เลยมุ่งแต่ เครื่องกลแทน
ผลสุดท้ายก็มาสอบตรงติดเครื่องกลที่ เกษตรกำแพงแสน ก็เลยเลือกที่นี่ครับ
ซึ่งดูๆ แล้วในอนาคต ถ้าจะไปต่อโททางยานยนต์ก็ไม่น่ายากเพราะเครื่องกลก็เป็นพื้นฐานของยานยนต์อยู่แล้ว
และเครื่องกลก็มีเรียนยานยนต์ด้วยเล็กน้อย ถ้าชอบรถก็ยังทำ Project เกี่ยวกับรถได้อีกด้วย
ลองตัดสินใจดูนะครับ ;)
-
เพื่อนผมก็เรียนที่นี่ จบรุ่นที่ 2 ทุกวันนี้ทำงานอยู่อิซูซุ ทำงานอยู่ในไลน์ผลิต โบนัส 10 เดือน
ประมาณนี้แหละครับ
-
ผมลงรับตรงของมข. คณะเทคโนโลยีการผลิต อยากทำงานด้านรถยนต์เหมือนกันครับ
ปล.อยากเรียนวิศวะอยู่นะครับ แต่เป็นคนที่ไม่ชอบคณิตมากๆเลยต้องถอนใจไปเรียนอยากอื่น 5555+
-
อุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย โอกาสโตมันมีอยู่แล้ว ยังไงก็ไม่ตกงาน (จำนวนการผลิตบุคลากรไม่ได้สูงมากเหมือนวิศวฯไฟฟ้า หรือ โยธา)
เรื่องหางาน ผมว่าไม่ยากหรอก ภาคยานยนต์จะมีภาษีดีกว่าภาคเครื่องกล ตรงที่มีความรู้เฉพาะทางด้านนี้มากกว่า (เครื่องกลก็เรียนเกี่ยวกับรถ แต่ว่ามันไม่ลึกเท่า)
ถ้าอยากเรียนภาคยานฯจริง ต้องถามตัวเองต่อว่า คุณอะชอบอะไร ระหว่าง "ออกแบบ" กับ "วิศวกรด้านยานยนต์"
ถ้าออกแบบ ผมจำได้ลางๆว่า ต้องไปทางสถาปัตยฯ ที่มีด้านนี้โดยเฉพาะ (ออกแบบยานยนตร์) ไม่ก็ภาควิชา ADME ของวิศวฯจุฬา ซึ่งอันหลังจะได้ทั้งวิศวฯและออกแบบ
ถ้าวิศวกรด้านยานยนตร์จะมีที่ จุฬาฯ ที่ "พอมี" คอนแท็คกับทาง โตโยต้าบ้าง (แต่ไม่ได้การันตีว่าจะได้ทำงานโตโยต้า 100 เปอร์ เท่าที่ผมถามเพื่อนมา)
มหาลัยมีผลต่อการเลือกสถานที่ทำงานก็จริง แต่สุดท้ายเค้าก็วัดว่าใครทำงานได้ดีกว่ากันนะครับ :3
-
สถาบันนี้มีชื่อเสียงตรงสายอยู่แล้ว ถ้าได้ก็คว้าไว้ครับ
-
เรียนที่นี่แหละครับ เครดิตน่ะ ดีอยู่แล้ว ม.นี้ น้องผมเรียนจะจบแล้วแต่ว่าคนละสาขากับเจ้าของกระทู้
ได้ไปแข่งหุ่นยนต์ที่ญี่ปุ่นด้วย เรียนดีก็มีทุนเรียนต่อ เป็น ม.เอกชนที่ดีแห่งหนึ่งเลยล่ะ
-
เคยพาน้องชายไปสอบเข้าฮอนด้าครับ
เค่้าไม่สนว่าจบจากไหน วัดกันที่ผลสอบ มีสอบภาษาอังกฤษด้วยแหละ วิช่าช่างยากโคตร
ประมานว่าระยะจุดระเบิดที่ดีที่สุดของเครื่องดีเซลคือเท่าไหร่ :o
-
ผมก็เคยสอบได้ตอนรุ่นแรกครับ ได้ทุนด้วย แต่ไม่มีโอกาสได้ไปเรียนครับ เลยไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร :'(
-
ขอบคุณคุณทุกความเห็นครับ
คิดว่ายังไงก็คงต้องเป็นที่นี่แหละ เพราะทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว
เริ่มเรียนปรับพื้นฐานช่วงเดือนเมษา-มิถุนา
และคงไม่รอยื่นคะแนนแอดมิดชั่น เนื่องจากไม่สมัครสอบ Pat1 (ง่าวขนาด)