Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2014, 12:47:40
-
ผมได้ข่าวมาก็รีบเอามาบอกก่อนเลยครับ ชัวร์แค่ไหนไม่แน่ใจครับ แต่เซลบอกว่าเจ้าของโชว์รูมแจ้งราคามาแบบนี้
-
ต้องโดนเอาไปเปรียบกับ D segment ตัวล่างแน่ๆ ราคามาแรงแบบนี้
-
ผมคิดว่า มันไม่ควรทะลุ 1.1 เลยครับ
เพราะ d seg ตัวล่าง มันเรท 1.2x
คนจะมองว่ามันดิฟกันแค่แสนเดียว ข้ามไปรุ่นใหญ่ดีกว่า
-
เขาตั้งราคาตามเพื่อนๆ (altis2.0(1.8) civic2.0 cruze2.0 ex2.0)
หรือว่าตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้อ่ะครับ?
-
ราคาก็ประมาณนี้แหละครับ อยู่ในวิสัยที่ผมรับได้ คือจะมองว่าแพงกว่าตัวเก่า ซันรูฟหาย มันก็จริง แต่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟกับออปชั่นอย่างอื่นมาชดเชย ผมว่าก็สมเหตุสมผลอยู่นา :)
-
เสียดายกับ ซันรูฟไม่หายเลย หากราคานี้มากับซันรูฟก็ยังอยากซื้อเลย
-
LTZ 2.0 Diesel
เริ่มต้นที่ ฿ 1,248,000.-
ครูซ LTZ ดีเซล ล่อไป 1.209 ล้าน ยังทำได้
ทำไม ยี่ห้ออื่นจะทำไม่ได้
อิๆๆ
-
อย่างน้อยก็ถูกกว่ามาเลย์ครับ :'(
-
ออกแรกๆตั้งไว้แพง แล้วค่อยมาให้ส่วนลดเยอะๆรึป่าวภายหลัง ^^
-
1.1X
จริงอยู่ว่าอาจมีคนเอาไปเทียบกับ D Segment ตัวล่าง
แต่ option เท่าที่รู้มา มันเทียบกันไม่ได้เลยนะครับ
ถ้าวัดกันแค่ option แล้ว Mazda 3 ตัว top นี่แทบจะขึ้นไปฟัดกับ D seg ตัว top กันเลย ;D
-
ราคาประมาณนี้แหละครับ focus ตัวท๊อปคู่แฝดทาง DNA ก็ราคาประมาณนี้ +/- นิดหน่อย ผมว่าอ๊อฟชั่นมันต้องดีกว่า d-seg ตัวล่าง
-
ราคานี้ผมยังลังเลกับแอคคอร์ดตัวล่างเลย
-
อย่าลืมว่า 2.0 165 ม้า อาจจะแรงกว่า D-segment ทุกค่ายแน่ๆ
-
อย่าลืมนะครับ ว่าทำไมครูซถึงตั้งได้ เพราะเขาไม่มี D-seg ไงครับ ผมเดาเอานะ แหะๆๆๆ
-
อย่าลืมนะครับ ว่าทำไมครูซถึงตั้งได้ เพราะเขาไม่มี D-seg ไงครับ ผมเดาเอานะ แหะๆๆๆ
Mazda ก็ยังไม่มีหนิฮะ (เฉพาะในไทยหนะ) ;D
ปล.แต่ถ้าเกิน 1.1 m ควรจะใส่ Moonroof มาให้ด้วยได้แล้วนะ จะตัดทำพระแสงเลเซอร์อะไรก็มิทราบ >:(
-
Cruze มันเครื่องดีเซลไม่ใช่รึครับส่วน 3 เบนซิน ?
ในบอร์ดก็เรื่องนึงขายจริงอีกเรื่อง จะขายได้ถึงปีละ 100 คันไหมตัว top ราคานั้น.
-
ตอนแรกได้ยินมาว่าไม่เกิน 1.1 ล้านบาทน่ะครับ แต่ราคานี้ก็พอกับ Civic 2.0 น่ะครับ และแพงกว่า Altis 1.8 ตัวท้อปไม่มาก ผมว่าก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
-
อย่าลืมว่า C-Seg MZ-3 2.0 ขายได้มากอยู่นะครับ
-
แล้วตัวล่างสุดเริ่มต้นที่ 8xx,xxx ตามข่าวก่อนหน้านี้หรือปล่าวครับ ขอบคุณครับ :)
-
ราคานี้จริง ผมข้ามไป G9 ไม่ก็ L33 ไม่ดีกว่าเหรอ :-\
-
อย่าลืมว่า C-Seg MZ-3 2.0 ขายได้มากอยู่นะครับ
ก็มันมีซันรูฟจึงเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในการเล่น2.0 แต่รุ่นใหม่ทำไมไม่เอามา งงแท้กับการตลาดmazda thailand
-
มาสด้า 3 มีกี่ระดับครับ ตัวท๊อป รองทอป ตัวล่าง แบบนี้ป่าวครับ มี 3 รุ่น
-
อย่าลืมนะครับ ว่าทำไมครูซถึงตั้งได้ เพราะเขาไม่มี D-seg ไงครับ ผมเดาเอานะ แหะๆๆๆ
Mazda ก็ยังไม่มีหนิฮะ (เฉพาะในไทยหนะ) ;D
ปล.แต่ถ้าเกิน 1.1 m ควรจะใส่ Moonroof มาให้ด้วยได้แล้วนะ จะตัดทำพระแสงเลเซอร์อะไรก็มิทราบ >:(
เห็นด้วยอย่างยิ่ง จะตัดทำพระแสงเลเซอร์อะไรก็มิทราบ ;)
-
ไม่มีผลสำหรับผม เพราะถ้าซื้อ คงเป็นตัวที่ระบบความปลอดภัยครบก็พอ
-
เอกสารของแฟนผม (แฟนเป็นเซลล์)
แจ้งไว้ว่า
ตัว 5 ประตู 2.0 มี 4 รุุ่น ต่ำสุด คือ 830,000 - 850,000 บาท ส่วนรุ่นแพงสุด คือ High plus 1,080,000 - 1,100,000 บาท
ตัว 4 ประตู 2.0 มี 3 รุ่น ต่ำสุด คือ 830,000 - 850,000 บาท ส่วนรุ่นแพงสุด คือ High 970,000 - 990,000 บาท
-
ราคานี้ ควรมี moonroof bose
-
อยากอื่นไม่รู้อยากรู้ราคาและดอกเบี้ย 55
-
ราคาก็ประมาณนี้แหละครับ อยู่ในวิสัยที่ผมรับได้ คือจะมองว่าแพงกว่าตัวเก่า ซันรูฟหาย มันก็จริง แต่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟกับออปชั่นอย่างอื่นมาชดเชย ผมว่าก็สมเหตุสมผลอยู่นา :)
สกายแอคทีฟ มันเป็นเพียงชื่อ ทางการตลาดที่ตั้งขึ้นมา เพื่อสื่อสารกับลูกค้า เฉยๆ
แต่ มองในแบบทั่วๆไป ระบบการพัฒนาที่คล้ายๆกันของสกายแอคทีฟ คู่แข่งเค้ามีนานแล้ว เพียงแต่เค้าไม่เอามาโฆษณา
ยกตัวอย่างเช่น ระบบฉีดน้ำมันเบนซิน Direct Injection ที่ยุโรป มีมานานแล้ว
ระบบเกียร์ AT ที่ มี ระบบล็อคอัพคลัทช์ เค้าก็มีใช้กันมานานแล้ว
สรุปคือ เป็น นวัตกรรม ที่ดี ครับ
แต่ อย่าเอามาอ้าง เพื่อตั้งราคาแพงกว่า คนอื่น
-
ราคาก็ประมาณนี้แหละครับ อยู่ในวิสัยที่ผมรับได้ คือจะมองว่าแพงกว่าตัวเก่า ซันรูฟหาย มันก็จริง แต่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟกับออปชั่นอย่างอื่นมาชดเชย ผมว่าก็สมเหตุสมผลอยู่นา :)
สกายแอคทีฟ มันเป็นเพียงชื่อ ทางการตลาดที่ตั้งขึ้นมา เพื่อสื่อสารกับลูกค้า เฉยๆ
แต่ มองในแบบทั่วๆไป ระบบการพัฒนาที่คล้ายๆกันของสกายแอคทีฟ คู่แข่งเค้ามีนานแล้ว เพียงแต่เค้าไม่เอามาโฆษณา
ยกตัวอย่างเช่น ระบบฉีดน้ำมันเบนซิน Direct Injection ที่ยุโรป มีมานานแล้ว
ระบบเกียร์ AT ที่ มี ระบบล็อคอัพคลัทช์ เค้าก็มีใช้กันมานานแล้ว
สรุปคือ เป็น นวัตกรรม ที่ดี ครับ
แต่ อย่าเอามาอ้าง เพื่อตั้งราคาแพงกว่า คนอื่น
ประมาณว่าใช้ หัวฉีดตรงคู่แบบเดียวกับ focus ปัจจุบัน
และระบบเกียร์ใหม่ ก็เท่านั้นเองใช่ไหมครับ แบบนี้ก็ประหยัดพอๆกับ focus เพียงแต่เติม e85 ได้ ประมาณนี้ป่าวไอ้สกายแอคทีฟ
แล้วที่ว่าแรงๆ ออกตัวดีๆ ก็เพราะเครื่อง 2.0 ด้วย ป่าวครับ เพราะเห็น c-seg ทั้งหลายที่แรงๆ ออกตัวดีๆ ก็เครื่อง 2.0 กันทั้งนั้น
นึกว่าเป็นเครื่องสกายแอคทีฟใหม่หมดจด แบบเครื่อง ecoboost
-
ราคานี้ที่แน่ๆคุ้มกว่า อัลติิส1.8ท็อปล่ะครับ แต่ก็นะตัดมูนรูฟทำไมมิทราบ นั่นล่ะจุดขายแตกต่างเลย ดูอย่างโฟกัสยังให้ แต่ผมรับได้นะเพราะรถดีจริงสวยจริง เพียงใส่มูนรูฟมา รุ่นท็อปยอดขายน่าจะขายดีกว่า
-
ถามว่าแรงคา นี้แพงมั้ยตอบเลยว่าไม่แพง มันดูคุ้มค่ากว่า altis top civic top cruze top ด้วย ถ้าเป็นผมมีเงินก็ซื้อนะ5555 option พอๆกับ Focus แต่ defect ไม่น่าจะเยอะแบบ focus นะ อิอิ
-
skyactiv ก็น่าจะคือๆนั้นครับ TSI TFSI ECOBOOST หรืออื่นๆอีกมากมาย แต่ผมเข้าใจว่าทางค่ายญี่ปุ่นเขาจะมีแนวคิดที่ต่างจากทางฝั่งยุโรปครับ
ผมเข้าใจว่าอย่างพวก TSI TFSI ECOBOOST อะไรพวกนี้เน้นเพิ่มกำลังอัด ลดความจุ อัดเทอร์โบชาร์จ หัวฉีดตรง เกียร์ Direct Shift/Power shift/DSG/PDK 9ล9 แต่ทางญี่ปุ่นเท่าที่สังเกตก็มาแนวไม่CVT ก็เกียร์ออโต้ที่ efficiency สูงๆ ล็อคอัพได้ดีดี เครื่องไม่เน้นลดความจุ แต่เน้นลดความฝืด ลดน้ำหนัก เครื่องฉีดตรงก็มาเป็น N/A อะไรทำนองนี้น่ะครับ
-
รอลุ้น ตัว 5 ประตู 6MT ;D
-
ราคาก็ประมาณนี้แหละครับ อยู่ในวิสัยที่ผมรับได้ คือจะมองว่าแพงกว่าตัวเก่า ซันรูฟหาย มันก็จริง แต่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟกับออปชั่นอย่างอื่นมาชดเชย ผมว่าก็สมเหตุสมผลอยู่นา :)
สกายแอคทีฟ มันเป็นเพียงชื่อ ทางการตลาดที่ตั้งขึ้นมา เพื่อสื่อสารกับลูกค้า เฉยๆ
แต่ มองในแบบทั่วๆไป ระบบการพัฒนาที่คล้ายๆกันของสกายแอคทีฟ คู่แข่งเค้ามีนานแล้ว เพียงแต่เค้าไม่เอามาโฆษณา
ยกตัวอย่างเช่น ระบบฉีดน้ำมันเบนซิน Direct Injection ที่ยุโรป มีมานานแล้ว
ระบบเกียร์ AT ที่ มี ระบบล็อคอัพคลัทช์ เค้าก็มีใช้กันมานานแล้ว
สรุปคือ เป็น นวัตกรรม ที่ดี ครับ
แต่ อย่าเอามาอ้าง เพื่อตั้งราคาแพงกว่า คนอื่น
ผมว่ามันก็แล้วแต่ทิศทางการโปรโมทนะครับโตโยต้าก็แสดงถึงผู้นำระบบ Hybrid ชัดเจนส่วน
blueefficiency vs efficientdynamics ของ mercedes และ bmw ก็ล้วนมาแนวทางเดียวกันแต่ไม่เอามาใช้เป็นจุดขายเท่า
ในส่วนของมาสด้าเองตัวถังก็ได้ปรับแนวทางการพัฒนาใหม่ลดน้ำหนักลงในหลายๆชิ้นส่วนลดการศูนย์เสียพลังงานในแต่ระบบบให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนนึงกระแสมาสด้าในไทยแรงพอสมควรเลยเป็นประเด็นมากกว่าราคาที่ตั้งผมว่าไม่ได้แพงกว่าคู่แข่งในตลาดมากนะเทียบกับออปชั่นที่ให้มา
สกายแอคทีฟ-ดี (SKYACTIV-D) (http://www.youtube.com/watch?v=oT2lpud1W0I#ws)
สกายแอคทีฟ-จี (SKYACTIV-G) (http://www.youtube.com/watch?v=XptXPrfj0uQ#ws)
-
Option ที่จะมีในรุ่น high plus
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับของสายตาผู้ขับ
(RVM : Rear Vehicle Monitoring)
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ SCBS (Smart city brake support)
- Mazda Connect เชื่อมต่อ social network ผ่านระบบ bluetooth
- ระบบ text to voice อ่าน-รับส่งข้อความ SMS แสดงบนจอ touchscreen
- ระบบ voice command สั่งงานด้วยเสียง ให้ค้นหาเพลง เลือกเล่นเพลง เล่นเพลงซ้ำ
- ระบบ infotainment ทันสมัย ทำงานร่วมกับ smartphone หรือ tablet
- เชื่อมต่อ smartphone ผ่านระบบ bluetooth
- ช่องเชื่อมต่อ USB / AUX, CD วิทยุ AM/FM และ Internet radio Aha โดย HARMAN
- ระบบนำทาง Navigator ผ่าน SD Card
- เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G
- หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่
- จอ center display แบบ touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
- ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ commander control
- ถุงลม และม่านถุงลมนิรภัย 6 จุด
สีมีทั้งหมด 7 สี
- Soul red สีแดงโซลเรด (สีใหม่และสีเปิดตัว)
- Titanium Flash สีน้ำตาล ไทเทเนียม แฟลช (สีใหม่)
- Gunmetal Blue สีฟ้า กันเมทัลบลู
- Aluminum Metalic สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิค
- Black Mica สีดำ แบล็คไมก้า
- Snow Flake White Pearl สีขาวมุก สโนวเฟ็ค ไวท์เพิร์ล
- Metropolitan Gray สีเทา เมโทรโพลิทัน
Sedan 4 ประตู
- รุ่น Entry เบาะผ้าสีดำ 830,000-850,000
- รุ่น Core เบาะหนังสีดำ แต่งด้วยด้ายสีแดง 910,000-930,000
- รุ่น High เบาะหนังสีดำ แต่งด้วยด้ายสีแดง 970,000-990,000
รุ่น Hatchback 5 ประตู
- รุ่น Entry เบาะผ้าสีดำ 830,000-850,000
- รุ่น Core เบาะหนังสีดำ แต่งด้วยด้ายสีแดง 910,000-930,000
- รุ่น High เบาะหนังสีดำ แต่งด้วยด้ายสีแดง 970,000-990,000
- รุ่น High Plus เบาะหนังทูโทน สีขาวสลับดำ แต่งด้วยด้ายสีแดง 1,080,000-1,100,000
****ข้อมูลทั้งหมดนี้ยังไม่ชัวร์ official 100% นะครับ แต่คิดว่าใกล้เคียงครับ****
ดูภาพรวม option แล้วก็ใกล้เคียง D-seg 2.0 ตัวล่างอย่าง Teana/Accord
แต่คิดว่า ระบบควบคุมการทรงตัว DSC / ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
น่าจะมีมาให้ แต่เท่าที่ผ่านๆตา ยังไม่เห็นมีระบุในตาราง / Leaflet ครับ
(http://image.ohozaa.com/i/gf3/eTdvTp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoyWPwRxZS5Il6ey)
(http://image.ohozaa.com/i/579/SP31Ii.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoyWOOUbqxiN5ZTZ)
(http://image.ohozaa.com/i/262/v6W9bX.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoyWQANAQGUuHa3V)
(http://image.ohozaa.com/i/07e/kAyi2T.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xoyWRiKXpRaBWijP)
-
ราคาก็ประมาณนี้แหละครับ อยู่ในวิสัยที่ผมรับได้ คือจะมองว่าแพงกว่าตัวเก่า ซันรูฟหาย มันก็จริง แต่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟกับออปชั่นอย่างอื่นมาชดเชย ผมว่าก็สมเหตุสมผลอยู่นา :)
สกายแอคทีฟ มันเป็นเพียงชื่อ ทางการตลาดที่ตั้งขึ้นมา เพื่อสื่อสารกับลูกค้า เฉยๆ
แต่ มองในแบบทั่วๆไป ระบบการพัฒนาที่คล้ายๆกันของสกายแอคทีฟ คู่แข่งเค้ามีนานแล้ว เพียงแต่เค้าไม่เอามาโฆษณา
ยกตัวอย่างเช่น ระบบฉีดน้ำมันเบนซิน Direct Injection ที่ยุโรป มีมานานแล้ว
ระบบเกียร์ AT ที่ มี ระบบล็อคอัพคลัทช์ เค้าก็มีใช้กันมานานแล้ว
สรุปคือ เป็น นวัตกรรม ที่ดี ครับ
แต่ อย่าเอามาอ้าง เพื่อตั้งราคาแพงกว่า คนอื่น
ผมขออนุญาตแชร์ไอเดียซักหน่อย เกี่ยวกับสกายแอคทีฟ
คือพี่จิมแกก็บอกนะครับ ว่าต้นทุนมันแพง ไอสกายแอคทีฟทั้งระบบเนี่ย ในการ invent เทคโนโลยีอะไรก็ตาม แม้จะเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในธรรมดา มันก็มีต้นทุนทั้งนั้น เค้าไม่ได้หยิบยืมเทคโนโลยีชาวบ้านมาง่ายๆ แบบบางค่ายนะครับ สื่อหลายสำนักในยุโรปยังเอ่ยปากชมตรงจุดนี้ จะให้บริษัทไซส์ค่อนข้างคอมแพคอย่างมาสด้าตั้งราคาขายปลีกเท่าเดิม ออปชั่นมากขึ้น แล้วกำไรเค้าจะไปซุกอยู่ตรงไหนล่ะครับ economies of scale ก็ไม่ได้มากมาย เหมือนเจ้าตลาด
จริงอยู่ครับที่คู่แข่งเค้ามีมานานแล้ว ทั้งระบบหัวฉีด DI ทั้งเกียร์ล็อคชิพ ดูออลคลัชท์ แต่มาสด้าเค้าไม่เคยมีเครื่องยนต์และเกียร์ที่ดีหนิครับ (แม้แต่เครื่องโรตารี่ สำหรับผมแล้วไม่ใช่ตัวอย่างเครื่องยนต์ที่ดี เพราะดีแต่สูบน้ำมัน) สมัยยังเป็นคาร์บิวเรเตอร์ ก็ล้าหลังกว่าเค้า มันถึงเวลาที่เค้าจะพัฒนาเต็มรูปแบบ ด้วยการลงทุนด้าน R&D จะเห็นได้จากเครื่องยนต์ที่นำมาใช้ ไม่ได้เป็นตัวเก่าโบราณ คร่ำครึ แต่เป็น brand new ทั้งระบบ รวมทั้งเกียร์ 6AT ก็เช่นกัน
ผมเองเคยผ่านรถมาหลายรุ่น แต่แทบไม่เคยผ่านมือกับมาสด้าเลย เหตุผลก็เพราะเครื่องยนต์นั่นแหละ มาสด้าได้ know how จากฟอร์ดในการทำช่วงล่างที่ดี แต่ลืมหยิบการทำเครื่องยนต์ที่ดีเช่นกัน จะว่าไปฟอร์ดช่วงยุค 90 ก็ใช่ว่าจะทำรถเครื่องแรงล้ำหน้าอะไรนัก
แต่มาครั้งนี้ ผมได้ไปลอง CX-5 ตัว 2.5 กับ 2.2 ดีเซลสั้นๆ รับรู้เลยครับ ว่ามาสด้าเค้าเอาจริงกับหัวใจหลักได้ซักที ไม่ใช่ราคาคุย เรียกว่าผมประทับใจกับมาสด้ามากที่สุด ตั้งแต่ผมเคยขับแอสติน่าช่วงขับเป็นใหม่ๆนั่นแหละ
อ่อ ผมลืมไป ด้านตัวถังรถยนต์ ที่ใช้ชิ้นส่วนน้ำหนักเบาเพื่อลดน้ำหนัก ก็เป็นส่วนหนึ่งของเทรดมาร์กนี้เช่นกันนะครับ ช่วงล่าง แอโร่ไดนามิกส์ ก็เป็นส่วนนึงของการพัฒนา สรุปง่ายๆ เค้าพัฒนาทั้งคันเลยทีเดียว ไม่ใช่ model change แล้วลากของเก่าหากินแบบตัวก่อน ลองค้นข้อมูลดูดีดี แล้วไปลองขับเอง ผมเชื่อว่าคุณๆ จะลดอคติของเทรดมาร์ก ที่หลายๆค่ายมาโฆษณาเป่าหู ผู้บริโภคอย่างเรา :)
-
ราคาก็ประมาณนี้แหละครับ อยู่ในวิสัยที่ผมรับได้ คือจะมองว่าแพงกว่าตัวเก่า ซันรูฟหาย มันก็จริง แต่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟกับออปชั่นอย่างอื่นมาชดเชย ผมว่าก็สมเหตุสมผลอยู่นา :)
สกายแอคทีฟ มันเป็นเพียงชื่อ ทางการตลาดที่ตั้งขึ้นมา เพื่อสื่อสารกับลูกค้า เฉยๆ
แต่ มองในแบบทั่วๆไป ระบบการพัฒนาที่คล้ายๆกันของสกายแอคทีฟ คู่แข่งเค้ามีนานแล้ว เพียงแต่เค้าไม่เอามาโฆษณา
ยกตัวอย่างเช่น ระบบฉีดน้ำมันเบนซิน Direct Injection ที่ยุโรป มีมานานแล้ว
ระบบเกียร์ AT ที่ มี ระบบล็อคอัพคลัทช์ เค้าก็มีใช้กันมานานแล้ว
สรุปคือ เป็น นวัตกรรม ที่ดี ครับ
แต่ อย่าเอามาอ้าง เพื่อตั้งราคาแพงกว่า คนอื่น
ผมขออนุญาตแชร์ไอเดียซักหน่อย เกี่ยวกับสกายแอคทีฟ
คือพี่จิมแกก็บอกนะครับ ว่าต้นทุนมันแพง ไอสกายแอคทีฟทั้งระบบเนี่ย ในการ invent เทคโนโลยีอะไรก็ตาม แม้จะเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในธรรมดา มันก็มีต้นทุนทั้งนั้น เค้าไม่ได้หยิบยืมเทคโนโลยีชาวบ้านมาง่ายๆ แบบบางค่ายนะครับ สื่อหลายสำนักในยุโรปยังเอ่ยปากชมตรงจุดนี้ จะให้บริษัทไซส์ค่อนข้างคอมแพคอย่างมาสด้าตั้งราคาขายปลีกเท่าเดิม ออปชั่นมากขึ้น แล้วกำไรเค้าจะไปซุกอยู่ตรงไหนล่ะครับ economies of scale ก็ไม่ได้มากมาย เหมือนเจ้าตลาด
จริงอยู่ครับที่คู่แข่งเค้ามีมานานแล้ว ทั้งระบบหัวฉีด DI ทั้งเกียร์ล็อคชิพ ดูออลคลัชท์ แต่มาสด้าเค้าไม่เคยมีเครื่องยนต์และเกียร์ที่ดีหนิครับ (แม้แต่เครื่องโรตารี่ สำหรับผมแล้วไม่ใช่ตัวอย่างเครื่องยนต์ที่ดี เพราะดีแต่สูบน้ำมัน) สมัยยังเป็นคาร์บิวเรเตอร์ ก็ล้าหลังกว่าเค้า มันถึงเวลาที่เค้าจะพัฒนาเต็มรูปแบบ ด้วยการลงทุนด้าน R&D จะเห็นได้จากเครื่องยนต์ที่นำมาใช้ ไม่ได้เป็นตัวเก่าโบราณ คร่ำครึ แต่เป็น brand new ทั้งระบบ รวมทั้งเกียร์ 6AT ก็เช่นกัน
ผมเองเคยผ่านรถมาหลายรุ่น แต่แทบไม่เคยผ่านมือกับมาสด้าเลย เหตุผลก็เพราะเครื่องยนต์นั่นแหละ มาสด้าได้ know how จากฟอร์ดในการทำช่วงล่างที่ดี แต่ลืมหยิบการทำเครื่องยนต์ที่ดีเช่นกัน จะว่าไปฟอร์ดช่วงยุค 90 ก็ใช่ว่าจะทำรถเครื่องแรงล้ำหน้าอะไรนัก
แต่มาครั้งนี้ ผมได้ไปลอง CX-5 ตัว 2.5 กับ 2.2 ดีเซลสั้นๆ รับรู้เลยครับ ว่ามาสด้าเค้าเอาจริงกับหัวใจหลักได้ซักที ไม่ใช่ราคาคุย เรียกว่าผมประทับใจกับมาสด้ามากที่สุด ตั้งแต่ผมเคยขับแอสติน่าช่วงขับเป็นใหม่ๆนั่นแหละ
เอานี่มาเพิ่มให้ดูเล่นกันครับ แค่อ่านถ้าอ่านเข้าใจก็จะเข้าใจว่ามันไม่ใช่แค่ราคาคุยจริงๆ
http://www.mazda.com/mazdaspirit/skyactiv/engine/skyactiv-g.html (http://www.mazda.com/mazdaspirit/skyactiv/engine/skyactiv-g.html)
-
Option ที่จะมีในรุ่น high plus
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับของสายตาผู้ขับ
(RVM : Rear Vehicle Monitoring)
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ SCBS (Smart city brake support)
- Mazda Connect เชื่อมต่อ social network ผ่านระบบ bluetooth
- ระบบ text to voice อ่าน-รับส่งข้อความ SMS แสดงบนจอ touchscreen
- ระบบ voice command สั่งงานด้วยเสียง ให้ค้นหาเพลง เลือกเล่นเพลง เล่นเพลงซ้ำ
- ระบบ infotainment ทันสมัย ทำงานร่วมกับ smartphone หรือ tablet
- เชื่อมต่อ smartphone ผ่านระบบ bluetooth
- ช่องเชื่อมต่อ USB / AUX, CD วิทยุ AM/FM และ Internet radio Aha โดย HARMAN
- ระบบนำทาง Navigator ผ่าน SD Card
- เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G
- หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่
- จอ center display แบบ touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
- ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ commander control
- ถุงลม และม่านถุงลมนิรภัย 6 จุด
เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G เฉพาะ รุ่น High Plus
แล้วรุ่นอื่นไม่ใช่ Skyactive เหรอครับ
-
Option ที่จะมีในรุ่น high plus
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับของสายตาผู้ขับ
(RVM : Rear Vehicle Monitoring)
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ SCBS (Smart city brake support)
- Mazda Connect เชื่อมต่อ social network ผ่านระบบ bluetooth
- ระบบ text to voice อ่าน-รับส่งข้อความ SMS แสดงบนจอ touchscreen
- ระบบ voice command สั่งงานด้วยเสียง ให้ค้นหาเพลง เลือกเล่นเพลง เล่นเพลงซ้ำ
- ระบบ infotainment ทันสมัย ทำงานร่วมกับ smartphone หรือ tablet
- เชื่อมต่อ smartphone ผ่านระบบ bluetooth
- ช่องเชื่อมต่อ USB / AUX, CD วิทยุ AM/FM และ Internet radio Aha โดย HARMAN
- ระบบนำทาง Navigator ผ่าน SD Card
- เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G
- หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่
- จอ center display แบบ touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
- ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ commander control
- ถุงลม และม่านถุงลมนิรภัย 6 จุด
เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G เฉพาะ รุ่น High Plus
แล้วรุ่นอื่นไม่ใช่ Skyactive เหรอครับ
ทุกรุ่นเป็นสกายแอคทีพครับ
ชื่อเรียกของเครื่องเบนซินจะใช้คำว่า สกายแอคทีพ จี ครับ
-
เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G เฉพาะ รุ่น High Plus
แล้วรุ่นอื่นไม่ใช่ Skyactive เหรอครับ
รุ่นย่อยอื่นก็ skyactiv-G ครับ
-
เท่าที่ดูรุ่นย่อย หมายความว่า Mazda3 ใหม่จะไม่มี 1.6/1.8 เอาใจตลาดทั่วไป แต่ละเล่นสายโหด 2.0 อย่างเดียว ใช่มั้ยครับ
ถ้าจริงผมว่าเป็นการตลาดที่เท่มากเลย (หรือว่าแกแค้น 1.6 สุดอืดกันนะ? เลยตัดทิ้งซะเลย)
เข้าใจว่าค่าเทคโนโลยีมันแพง แต่ว่าตั้งราคาขนาดนี้ กรุณาจัดเต็มออปชันทุกอย่างด้วย ไม่งั้นคนไทยด่าตายแน่นอน
-
option ตัว high plus เยอะขนาดนี้ ทำไม 4ประตู ไม่มี high plus บ้างนะ
มาสด้าคิดไรอยู่เนี่ย แย่จริงๆ โฉมนี้ 4ประตู สวยมากจริงๆ น่าจะมี option ครบๆ เหมือน 5 ประตูนะ
-
เท่าที่ดูรุ่นย่อย หมายความว่า Mazda3 ใหม่จะไม่มี 1.6/1.8 เอาใจตลาดทั่วไป แต่ละเล่นสายโหด 2.0 อย่างเดียว ใช่มั้ยครับ
ถ้าจริงผมว่าเป็นการตลาดที่เท่มากเลย (หรือว่าแกแค้น 1.6 สุดอืดกันนะ? เลยตัดทิ้งซะเลย)
เข้าใจว่าค่าเทคโนโลยีมันแพง แต่ว่าตั้งราคาขนาดนี้ กรุณาจัดเต็มออปชันทุกอย่างด้วย ไม่งั้นคนไทยด่าตายแน่นอน
- 1.8 มาปีหน้า ใน first impresssion ก็มีบอกไว้ครับ
- ส่วนเรื่องอุปกรณ์ ถ้ามองเฉพาะรุ่นท็อปแล้ว moonroof หายก็จริง แต่อุปกรณ์เสริมความปลอดภัยนี่จัดเต็มหมดทุกอย่างเลยนะ ผมชักนึกถึงบทความที่ฝรั่งเขียนถึงนิสัยการเลือกซื้อรถของคนไทยเลยแหะ คือต้องมีอุปกรณ์อะไรก็ได้ที่เอาไว้ให้ชาวบ้านมองเห็นจะได้ไว้คุยอวด ส่วนเรื่องความปลอดภัยช่างมันเพราะมันมองไม่เห็น ถ้าให้เลือกรถที่มีความปลอดภัยครบกับรถที่มีของไว้โชว์โม้คนอื่นได้คนไทยส่วนใหญ่ดันเลือกอันหลัง อ่านแล้วผมฮาก๊ากเลย เพราะส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้จริงๆ
-
เสียดาย ทำไมไม่มี high plus ใน4ประตู
-
กลัวจะเจ็บแบบ Honda Earth dream :D
-
ระบบความปลอดภัยVSC ถุงลมมันควรมองเป็นมาตรฐานได้แล้ว ไม่ใช่ว่าอัดระบบความปลอดภัยให้นั้นหมายถึงอัดออฟชั่นมามาก ออฟชั่นมันควรเป็นMoonroof, เครื่องเสียงBoseมิใช่หรือ?
-
ราคาก็ประมาณนี้แหละครับ อยู่ในวิสัยที่ผมรับได้ คือจะมองว่าแพงกว่าตัวเก่า ซันรูฟหาย มันก็จริง แต่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟกับออปชั่นอย่างอื่นมาชดเชย ผมว่าก็สมเหตุสมผลอยู่นา :)
สกายแอคทีฟ มันเป็นเพียงชื่อ ทางการตลาดที่ตั้งขึ้นมา เพื่อสื่อสารกับลูกค้า เฉยๆ
แต่ มองในแบบทั่วๆไป ระบบการพัฒนาที่คล้ายๆกันของสกายแอคทีฟ คู่แข่งเค้ามีนานแล้ว เพียงแต่เค้าไม่เอามาโฆษณา
ยกตัวอย่างเช่น ระบบฉีดน้ำมันเบนซิน Direct Injection ที่ยุโรป มีมานานแล้ว
ระบบเกียร์ AT ที่ มี ระบบล็อคอัพคลัทช์ เค้าก็มีใช้กันมานานแล้ว
สรุปคือ เป็น นวัตกรรม ที่ดี ครับ
แต่ อย่าเอามาอ้าง เพื่อตั้งราคาแพงกว่า คนอื่น
ผมขออนุญาตแชร์ไอเดียซักหน่อย เกี่ยวกับสกายแอคทีฟ
คือพี่จิมแกก็บอกนะครับ ว่าต้นทุนมันแพง ไอสกายแอคทีฟทั้งระบบเนี่ย ในการ invent เทคโนโลยีอะไรก็ตาม แม้จะเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในธรรมดา มันก็มีต้นทุนทั้งนั้น เค้าไม่ได้หยิบยืมเทคโนโลยีชาวบ้านมาง่ายๆ แบบบางค่ายนะครับ สื่อหลายสำนักในยุโรปยังเอ่ยปากชมตรงจุดนี้ จะให้บริษัทไซส์ค่อนข้างคอมแพคอย่างมาสด้าตั้งราคาขายปลีกเท่าเดิม ออปชั่นมากขึ้น แล้วกำไรเค้าจะไปซุกอยู่ตรงไหนล่ะครับ economies of scale ก็ไม่ได้มากมาย เหมือนเจ้าตลาด
จริงอยู่ครับที่คู่แข่งเค้ามีมานานแล้ว ทั้งระบบหัวฉีด DI ทั้งเกียร์ล็อคชิพ ดูออลคลัชท์ แต่มาสด้าเค้าไม่เคยมีเครื่องยนต์และเกียร์ที่ดีหนิครับ (แม้แต่เครื่องโรตารี่ สำหรับผมแล้วไม่ใช่ตัวอย่างเครื่องยนต์ที่ดี เพราะดีแต่สูบน้ำมัน) สมัยยังเป็นคาร์บิวเรเตอร์ ก็ล้าหลังกว่าเค้า มันถึงเวลาที่เค้าจะพัฒนาเต็มรูปแบบ ด้วยการลงทุนด้าน R&D จะเห็นได้จากเครื่องยนต์ที่นำมาใช้ ไม่ได้เป็นตัวเก่าโบราณ คร่ำครึ แต่เป็น brand new ทั้งระบบ รวมทั้งเกียร์ 6AT ก็เช่นกัน
ผมเองเคยผ่านรถมาหลายรุ่น แต่แทบไม่เคยผ่านมือกับมาสด้าเลย เหตุผลก็เพราะเครื่องยนต์นั่นแหละ มาสด้าได้ know how จากฟอร์ดในการทำช่วงล่างที่ดี แต่ลืมหยิบการทำเครื่องยนต์ที่ดีเช่นกัน จะว่าไปฟอร์ดช่วงยุค 90 ก็ใช่ว่าจะทำรถเครื่องแรงล้ำหน้าอะไรนัก
แต่มาครั้งนี้ ผมได้ไปลอง CX-5 ตัว 2.5 กับ 2.2 ดีเซลสั้นๆ รับรู้เลยครับ ว่ามาสด้าเค้าเอาจริงกับหัวใจหลักได้ซักที ไม่ใช่ราคาคุย เรียกว่าผมประทับใจกับมาสด้ามากที่สุด ตั้งแต่ผมเคยขับแอสติน่าช่วงขับเป็นใหม่ๆนั่นแหละ
อ่อ ผมลืมไป ด้านตัวถังรถยนต์ ที่ใช้ชิ้นส่วนน้ำหนักเบาเพื่อลดน้ำหนัก ก็เป็นส่วนหนึ่งของเทรดมาร์กนี้เช่นกันนะครับ ช่วงล่าง แอโร่ไดนามิกส์ ก็เป็นส่วนนึงของการพัฒนา สรุปง่ายๆ เค้าพัฒนาทั้งคันเลยทีเดียว ไม่ใช่ model change แล้วลากของเก่าหากินแบบตัวก่อน ลองค้นข้อมูลดูดีดี แล้วไปลองขับเอง ผมเชื่อว่าคุณๆ จะลดอคติของเทรดมาร์ก ที่หลายๆค่ายมาโฆษณาเป่าหู ผู้บริโภคอย่างเรา :)
เห็นด้วยตามท่านนี้ครับ
ถ้าได้ลอง CX-5 2.5G /2.2D แล้วจะเข้าใจครับว่า ไม่ใช่ราคาคุย ....ผมใช้ Mazda มา ยอมรับว่ามีจุดอ่อนที่ เครื่องแรงด้อยกว่า+กินน้ำมันกว่าคู่แข่ง
...พอเจอ SkyActiv ผมเริ่มยิ้มในใจแล้วว่า จุดอ่อนที่สำคัญของ Mazda ได้พยายามแก้ได้ดี และตรงจุด อีกทั้ง ต่อไปจะไปพ่วง Hybrid หรือ Turbo ผมว่าไม่ใช่เรื่องยากหรอก
เพราะ เครื่อง N/A ของ mazda ที่ 10 ปีหลังมานี้ อาศัย Ford มากกว่า พัฒนาเอง...แต่ SkyActiv เที่ยวนี้ Mazda หันมาเอาใจใส่กับ หัวใจหลักที่ตัวเองไม่ได้พัฒนา เอาขึ้นมาคิดใหม่ ทำใหม่
-
ระบบความปลอดภัยVSC ถุงลมมันควรมองเป็นมาตรฐานได้แล้ว ไม่ใช่ว่าอัดระบบความปลอดภัยให้นั้นหมายถึงอัดออฟชั่นมามาก ออฟชั่นมันควรเป็นMoonroof, เครื่องเสียงBoseมิใช่หรือ?
RVM,City safety,HUD พวกนี้ที่ต่างประเทศก็เป็นออปชั่นนะครับ เพิ่มหลายตังค์ หรือพวกระบบ infotionment ที่เมืองนอกก็จ่ายตังค์เพิ่มเช่นกัน ถ้าตัดพวกนี้แลกกับ moonroof บานเดียวเอามั้ยครับ
-
ราคาก็ประมาณนี้แหละครับ อยู่ในวิสัยที่ผมรับได้ คือจะมองว่าแพงกว่าตัวเก่า ซันรูฟหาย มันก็จริง แต่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟกับออปชั่นอย่างอื่นมาชดเชย ผมว่าก็สมเหตุสมผลอยู่นา :)
สกายแอคทีฟ มันเป็นเพียงชื่อ ทางการตลาดที่ตั้งขึ้นมา เพื่อสื่อสารกับลูกค้า เฉยๆ
แต่ มองในแบบทั่วๆไป ระบบการพัฒนาที่คล้ายๆกันของสกายแอคทีฟ คู่แข่งเค้ามีนานแล้ว เพียงแต่เค้าไม่เอามาโฆษณา
ยกตัวอย่างเช่น ระบบฉีดน้ำมันเบนซิน Direct Injection ที่ยุโรป มีมานานแล้ว
ระบบเกียร์ AT ที่ มี ระบบล็อคอัพคลัทช์ เค้าก็มีใช้กันมานานแล้ว
สรุปคือ เป็น นวัตกรรม ที่ดี ครับ
แต่ อย่าเอามาอ้าง เพื่อตั้งราคาแพงกว่า คนอื่น
-
Sunroof หล่อ แต่ไม่เหมาะกับการใช้งานคนไทยหรอกครับ ตัดไปดีแล้วล่ะ
-
ผมว่าไม่แพงนะครับ
ตัว top 1.1 ล้านได้ของเล่นมากขนาดนั้น
อีกอย่างศูนย์ mazda ก็ดีกว่า Ford เป็นมูลค่าที่สมควรบวกในราคารถครับ
-
Option ที่จะมีในรุ่น high plus
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับของสายตาผู้ขับ
(RVM : Rear Vehicle Monitoring)
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ SCBS (Smart city brake support)
- Mazda Connect เชื่อมต่อ social network ผ่านระบบ bluetooth
- ระบบ text to voice อ่าน-รับส่งข้อความ SMS แสดงบนจอ touchscreen
- ระบบ voice command สั่งงานด้วยเสียง ให้ค้นหาเพลง เลือกเล่นเพลง เล่นเพลงซ้ำ
- ระบบ infotainment ทันสมัย ทำงานร่วมกับ smartphone หรือ tablet
- เชื่อมต่อ smartphone ผ่านระบบ bluetooth
- ช่องเชื่อมต่อ USB / AUX, CD วิทยุ AM/FM และ Internet radio Aha โดย HARMAN
- ระบบนำทาง Navigator ผ่าน SD Card
- เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G
- หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่
- จอ center display แบบ touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
- ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ commander control
- ถุงลม และม่านถุงลมนิรภัย 6 จุด
เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G เฉพาะ รุ่น High Plus
แล้วรุ่นอื่นไม่ใช่ Skyactive เหรอครับ
สงสัยเหมือนกัน
-
เอกสารของแฟนผม (แฟนเป็นเซลล์)
แจ้งไว้ว่า
ตัว 5 ประตู 2.0 มี 4 รุุ่น ต่ำสุด คือ 830,000 - 850,000 บาท ส่วนรุ่นแพงสุด คือ High plus 1,080,000 - 1,100,000 บาท
ตัว 4 ประตู 2.0 มี 3 รุ่น ต่ำสุด คือ 830,000 - 850,000 บาท ส่วนรุ่นแพงสุด คือ High 970,000 - 990,000 บาท
ถ้า 4 ประตู ราคานี้ พอให้อภัยได้นะ ที่ตัดซันรูฟออก
แต่ก็ยังเสียดายอยู่ดี
-
ออฟชั่นแบบนี้ ให้เค้าไปเถอะราคานั้น ดีกว่าออฟชั่นไม่มีแต่ราคาอุบาต
-
เรื่อง skyactiv เนี่ย ผมว่าเป็นเรื่องที่น่านับถือมากๆนะครับ
คือ ในขณะที่ค่ายอื่นๆหันไปเล่น Hybrid ไม่ก็ใส่ Turbo กันหมด
มีมาสด้านี้แหละที่ยังนืนยันว่า ต้องพัฒนาระบบเครื่องธรรมดาๆ ให้มันได้ efficiency สูงที่สุดเสียก่อน
พอนำไปต่อยอด ก็จะไปได้ไกลกว่าชาวบ้านเขา
ที่บอกว่าต่างประเทศเค้าเอาแนวคิดมาใช้เหมือนกันเนี่ย ผมไม่เห็นด้วยนะ
เช่นเรื่องเครื่องยนต์ Direct Injection ที่ว่าใช้กันมานานแล้วน่ะใช่ครับ
แต่สำหรับเครื่อง skyactiv แล้วมันไม่ได้มีแค่นั้นนะครับ มันก็เป็นแค่ส่วนประกอบนึง
การใช้แรงอัดสูงๆ สำหรับเครื่องเบนซิน แล้วป้องกันการน็อกโดยออกแบบส่วนท่อไอเสียใหม่
ยังไม่เห็นค่ายไหนทำเป็นเรื่องเป็นราวนะครับ
แล้ว ดีเซล แต่ดันไปลดกำลังอัดเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นล่ะ!!
แทบจะเป็นการฉีกตำราทิ้งเลยนะครับ เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าดีเซลแรงอัดจะค่อนข้างมาก
แต่มาสด้าพัฒนาออกมาได้ ผมนี่อยากเปลี่ยนสวยวิศวะไปเครื่องกลเพื่อไปสมัครงานกับมาสด้าเลยเนี่ย :P
-
Option ที่จะมีในรุ่น high plus
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับของสายตาผู้ขับ
(RVM : Rear Vehicle Monitoring)
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ SCBS (Smart city brake support)
- Mazda Connect เชื่อมต่อ social network ผ่านระบบ bluetooth
- ระบบ text to voice อ่าน-รับส่งข้อความ SMS แสดงบนจอ touchscreen
- ระบบ voice command สั่งงานด้วยเสียง ให้ค้นหาเพลง เลือกเล่นเพลง เล่นเพลงซ้ำ
- ระบบ infotainment ทันสมัย ทำงานร่วมกับ smartphone หรือ tablet
- เชื่อมต่อ smartphone ผ่านระบบ bluetooth
- ช่องเชื่อมต่อ USB / AUX, CD วิทยุ AM/FM และ Internet radio Aha โดย HARMAN
- ระบบนำทาง Navigator ผ่าน SD Card
- เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G
- หน้าจอ Active Driving Display แสดงข้อมูลการขับขี่
- จอ center display แบบ touchscreen ขนาด 7 นิ้ว
- ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ commander control
- ถุงลม และม่านถุงลมนิรภัย 6 จุด
เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G เฉพาะ รุ่น High Plus
แล้วรุ่นอื่นไม่ใช่ Skyactive เหรอครับ
สงสัยเหมือนกัน
ทุกรุ่นเป็นเครื่องยนต์ skyactiv ครับ คงน่าจะบล็อกเดียวกันเลยแหละ
Skyactiv-G คือเครื่องยนต์ที่ใช้เบนซีนครับ ไม่ว่าจะ1.5 2.0 2.5
Skyactiv-D คือเครื่องยนต์ที่ใช้ดีเซลครับ
-
4 ประตูราคาไม่ถึงล้านชอบๆแถมเป็น 2.0 ด้วยค่ายอื่นราคานี้ยังเป็น 1.8
.
.
....ว่าแต่ขับเคลื่อนล้อหน้าชิมิ!
-
ไม่น่าขาดมูนรูฟไปเลย
Gen 1,2 ก็มี
-
ไม่น่าตัดมูนจริงๆถึงจะไม่ใช้มันเหมือนขาดไงเฮ้ย
-
น่ามีการล่ารายชื่อ เอามูนรูฟกลับมา ;D (ตอนนี้ใจไปยี่ห้ออื่นแล้ว)
-
อ่านบางความเห็นแล้วเพลีย ทั้งในนี้กับเพจที่ fb
จะเอานู้นนั่นนี่ แต่พอจะซื้อจริงก็ไปเจ้าตลาดอยู่ดี
สังเกตุจากหลายกระทู้ เหมือน ยาริสบ่นแพงมากมายก่ายกอง ไม่ซื้อๆ ตอนนี้ยอดพุ่งปรี้ดดด
คนจะซื้อกับคนเม้นบางทีมันสวนทางกันนะ
ของใส่มาเยอะแยะพอราคาสูงบ่นกันจัง ขายได้ไม่ดีอีก
ของใส่มาน้อย ราคาสูงพอตัว มันดันขายดีแบบเจ้าตลาด
มาสด้าเค้ามีตลาดของเค้าอยู่แล้วละ เค้าไม่ได้หวังขายขึ้นอันดับ1ในปีนี้หรอก
-
อ่านบางความเห็นแล้วเพลีย ทั้งในนี้กับเพจที่ fb
จะเอานู้นนั่นนี่ แต่พอจะซื้อจริงก็ไปเจ้าตลาดอยู่ดี
สังเกตุจากหลายกระทู้ เหมือน ยาริสบ่นแพงมากมายก่ายกอง ไม่ซื้อๆ ตอนนี้ยอดพุ่งปรี้ดดด
คนจะซื้อกับคนเม้นบางทีมันสวนทางกันนะ
ของใส่มาเยอะแยะพอราคาสูงบ่นกันจัง ขายได้ไม่ดีอีก
ของใส่มาน้อย ราคาสูงพอตัว มันดันขายดีแบบเจ้าตลาด
มาสด้าเค้ามีตลาดของเค้าอยู่แล้วละ เค้าไม่ได้หวังขายขึ้นอันดับ1ในปีนี้หรอก
ที่ตลกก็คือ คนที่บ่นว่าไม่มีมูนรูฟ เลยไม่เอา แต่กลับไปซื้อรุ่นอื่นที่ไม่มีมูนรูฟเหมือนกันนี่ซิครับ ผมเจอมาหลายคนเลยครับ
-
อ่านบางความเห็นแล้วเพลีย ทั้งในนี้กับเพจที่ fb
จะเอานู้นนั่นนี่ แต่พอจะซื้อจริงก็ไปเจ้าตลาดอยู่ดี
สังเกตุจากหลายกระทู้ เหมือน ยาริสบ่นแพงมากมายก่ายกอง ไม่ซื้อๆ ตอนนี้ยอดพุ่งปรี้ดดด
คนจะซื้อกับคนเม้นบางทีมันสวนทางกันนะ
ของใส่มาเยอะแยะพอราคาสูงบ่นกันจัง ขายได้ไม่ดีอีก
ของใส่มาน้อย ราคาสูงพอตัว มันดันขายดีแบบเจ้าตลาด
มาสด้าเค้ามีตลาดของเค้าอยู่แล้วละ เค้าไม่ได้หวังขายขึ้นอันดับ1ในปีนี้หรอก
ที่ตลกก็คือ คนที่บ่นว่าไม่มีมูนรูฟ เลยไม่เอา แต่กลับไปซื้อรุ่นอื่นที่ไม่มีมูนรูฟเหมือนกันนี่ซิครับ ผมเจอมาหลายคนเลยครับ
ถูกครับ เข้ามาขำด้วยคน อิอิ ;D
-
อ่านบางความเห็นแล้วเพลีย ทั้งในนี้กับเพจที่ fb
จะเอานู้นนั่นนี่ แต่พอจะซื้อจริงก็ไปเจ้าตลาดอยู่ดี
สังเกตุจากหลายกระทู้ เหมือน ยาริสบ่นแพงมากมายก่ายกอง ไม่ซื้อๆ ตอนนี้ยอดพุ่งปรี้ดดด
คนจะซื้อกับคนเม้นบางทีมันสวนทางกันนะ
ของใส่มาเยอะแยะพอราคาสูงบ่นกันจัง ขายได้ไม่ดีอีก
ของใส่มาน้อย ราคาสูงพอตัว มันดันขายดีแบบเจ้าตลาด
มาสด้าเค้ามีตลาดของเค้าอยู่แล้วละ เค้าไม่ได้หวังขายขึ้นอันดับ1ในปีนี้หรอก
ที่ตลกก็คือ คนที่บ่นว่าไม่มีมูนรูฟ เลยไม่เอา แต่กลับไปซื้อรุ่นอื่นที่ไม่มีมูนรูฟเหมือนกันนี่ซิครับ ผมเจอมาหลายคนเลยครับ
ความคิดเห็นของ 2 ความเห็นนี้มันโดนใจจัง 555
การที่ไม่มี Moonroof ทำให้หลายๆคนมองข้าม ความดีของรถไป
-
อ่านมาตั้งแต่ความเห็นที่ 1 สรุปว่า Sun roof กับ Moon roof นี่เรียกไปคนละอย่างนี่มันต่างกันยังไงครับ
-
อ่านมาตั้งแต่ความเห็นที่ 1 สรุปว่า Sun roof กับ Moon roof นี่เรียกไปคนละอย่างนี่มันต่างกันยังไงครับ
จริงๆ มันก็คืออันเดียวกัน ต่างแค่ช่วงเวลาที่ใช้ ซันรูฟไว้รับแดด มูนรูฟไว้ชมจันทร์
-
อ่านมาตั้งแต่ความเห็นที่ 1 สรุปว่า Sun roof กับ Moon roof นี่เรียกไปคนละอย่างนี่มันต่างกันยังไงครับ
จริงๆถ้าเรียกให้ถูกต้องช่องเปิดบนหลังคาแบบที่มีกระจกคือ moonroof ครับ ส่วน sunroof มันจะเป็นวัสดุทึบทั้งบานเลย ปัจจุบันไม่มีรถยี่ห้อไหนทำออกมาแล้ว แต่ก็ยังมีคนเรียกช่องเปิดบานกระจกนี่ว่า sunroof แม้แต่บริษัทรถบางยี่ห้อก็ยังใช้คำนี้อยู่ดี ดังนั้น ณ เวลานี้ในบ้านเราความหมายเดียวกันไปแล้วครับ
-
อ่านมาตั้งแต่ความเห็นที่ 1 สรุปว่า Sun roof กับ Moon roof นี่เรียกไปคนละอย่างนี่มันต่างกันยังไงครับ
จริงๆถ้าเรียกให้ถูกต้องช่องเปิดบนหลังคาแบบที่มีกระจกคือ moonroof ครับ ส่วน sunroof มันจะเป็นวัสดุทึบทั้งบานเลย ปัจจุบันไม่มีรถยี่ห้อไหนทำออกมาแล้ว แต่ก็ยังมีคนเรียกช่องเปิดบานกระจกนี่ว่า sunroof แม้แต่บริษัทรถบางยี่ห้อก็ยังใช้คำนี้อยู่ดี ดังนั้น ณ เวลานี้ในบ้านเราความหมายเดียวกันไปแล้วครับ
จริงแฮะ ผมก็ลืมนึกไป ว่าสมัยก่อนมันมีแบบทึบด้วยที่เป็นซันรูฟ เลยติดใช้มาตลอด
-
ผมขออนุญาตแชร์ไอเดียซักหน่อย เกี่ยวกับสกายแอคทีฟ
คือพี่จิมแกก็บอกนะครับ ว่าต้นทุนมันแพง ไอสกายแอคทีฟทั้งระบบเนี่ย ในการ invent เทคโนโลยีอะไรก็ตาม แม้จะเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในธรรมดา มันก็มีต้นทุนทั้งนั้น เค้าไม่ได้หยิบยืมเทคโนโลยีชาวบ้านมาง่ายๆ แบบบางค่ายนะครับ สื่อหลายสำนักในยุโรปยังเอ่ยปากชมตรงจุดนี้ จะให้บริษัทไซส์ค่อนข้างคอมแพคอย่างมาสด้าตั้งราคาขายปลีกเท่าเดิม ออปชั่นมากขึ้น แล้วกำไรเค้าจะไปซุกอยู่ตรงไหนล่ะครับ economies of scale ก็ไม่ได้มากมาย เหมือนเจ้าตลาด
จริงอยู่ครับที่คู่แข่งเค้ามีมานานแล้ว ทั้งระบบหัวฉีด DI ทั้งเกียร์ล็อคชิพ ดูออลคลัชท์ แต่มาสด้าเค้าไม่เคยมีเครื่องยนต์และเกียร์ที่ดีหนิครับ (แม้แต่เครื่องโรตารี่ สำหรับผมแล้วไม่ใช่ตัวอย่างเครื่องยนต์ที่ดี เพราะดีแต่สูบน้ำมัน) สมัยยังเป็นคาร์บิวเรเตอร์ ก็ล้าหลังกว่าเค้า มันถึงเวลาที่เค้าจะพัฒนาเต็มรูปแบบ ด้วยการลงทุนด้าน R&D จะเห็นได้จากเครื่องยนต์ที่นำมาใช้ ไม่ได้เป็นตัวเก่าโบราณ คร่ำครึ แต่เป็น brand new ทั้งระบบ รวมทั้งเกียร์ 6AT ก็เช่นกัน
ผมเองเคยผ่านรถมาหลายรุ่น แต่แทบไม่เคยผ่านมือกับมาสด้าเลย เหตุผลก็เพราะเครื่องยนต์นั่นแหละ มาสด้าได้ know how จากฟอร์ดในการทำช่วงล่างที่ดี แต่ลืมหยิบการทำเครื่องยนต์ที่ดีเช่นกัน จะว่าไปฟอร์ดช่วงยุค 90 ก็ใช่ว่าจะทำรถเครื่องแรงล้ำหน้าอะไรนัก
แต่มาครั้งนี้ ผมได้ไปลอง CX-5 ตัว 2.5 กับ 2.2 ดีเซลสั้นๆ รับรู้เลยครับ ว่ามาสด้าเค้าเอาจริงกับหัวใจหลักได้ซักที ไม่ใช่ราคาคุย เรียกว่าผมประทับใจกับมาสด้ามากที่สุด ตั้งแต่ผมเคยขับแอสติน่าช่วงขับเป็นใหม่ๆนั่นแหละ
อ่อ ผมลืมไป ด้านตัวถังรถยนต์ ที่ใช้ชิ้นส่วนน้ำหนักเบาเพื่อลดน้ำหนัก ก็เป็นส่วนหนึ่งของเทรดมาร์กนี้เช่นกันนะครับ ช่วงล่าง แอโร่ไดนามิกส์ ก็เป็นส่วนนึงของการพัฒนา สรุปง่ายๆ เค้าพัฒนาทั้งคันเลยทีเดียว ไม่ใช่ model change แล้วลากของเก่าหากินแบบตัวก่อน ลองค้นข้อมูลดูดีดี แล้วไปลองขับเอง ผมเชื่อว่าคุณๆ จะลดอคติของเทรดมาร์ก ที่หลายๆค่ายมาโฆษณาเป่าหู ผู้บริโภคอย่างเรา :)
ต้นทุนแพงกว่า เอามาอ้างตั้งราคาขายแพงกว่าได้หรอครับ อันนี้สงสัยจริงๆ -.-
เวลาใครจะขายของ ถ้าจะขายแพง เขามีแต่ให้อะไรกับผู้ซื้อมากกว่าเจ้าอื่นยังไง ไม่เคยเห็นมีโรงงาน บริษัทที่ไหน ที่เอาต้นทุนมาอ้างเป็นประเด็นสำคัญเลยครับ ยกเว้นสินค้า Commodity
ผมว่ามันแพงเพราะมาสด้า เขาก็จับกลุ่มลูกค้าเขานั่นแหละครับ โตโยต้า หรือยี่ห้ออื่นๆด้วย หลักการมันมีแค่ ทำไงก็ได้ให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มที่จะจ่าย แต่อย่าเอาต้นทุนมาพูดกับลูกค้าครับ ก่อนนี้มาสด้าก็แทบไม่มีอะไรพัฒนาเลย เทียบกับค่ายอื่น โดยเฉพาะเครื่องยนต์
มาสด้า 3 ตัวเก่า ถ้าเทียบกับ Focus 2.0 เรียกว่าขายโคตรแพงเลยครับ มี invent เทคโนโลยีอะไร? เทคโนโลยี เครื่องยนต์ ออพชั่น เทียบโฟกัสไม่ได้เลย ทั้งที่ รถ 2.0 มาสด้าเป็นเจ้าตลาดด้วยซ้ำ ฟันกำไรเต็มๆ
เหมือนแต่ก่อนที่โตโยต้าบอก ยาริสใส่ VSC ไม่ได้ (หรือจะบอกว่าโตโยต้าต้นทุนแพงกว่ายี่ห้ออื่น อันนี้ Economy of scale เต็มๆ) เพราะมันจะแพงเกิน ไหงเฟียสต้า ใส่มาเฉยเลย แถมตอนนั้นยังได้เครื่อง 1.6อีกต่างหาก
หรือวีออส ออพชั่นก็ทุเรศกว่ามาสด้า 2 เยอะ ทำไมมาสด้าทำราคาขายได้ หรือมาสด้า 2 ต้นทุนถูกกว่าวีออส? แม้แต่วีออสใหม่นี่ รุ่นล่างสุด ยังออพชั่นน้อยกว่ามาสด้า 2 อยู่เลย
มาสด้าขายภาพลักษณ์ กับการขับขี่ อยู่แล้ว ออพชั่นให้มาในระดับไม่น่าเกลียดแม้แต่รุ่นล่างสุด
ผมก็ขับมาสด้าครับ อยากให้มองในสิ่งที่เขาให้ เขาจะลงทุนไปเท่าไรไม่ใช่ประเด็นที่ต้องเอามาถก มันเป็นอะไรที่เขาต้องทำอยู่แล้ว และยี่ห้ออื่นก็ทำไปแล้วเหมือนกัน
-
เรื่องเครื่อง skyactive ผมคงรอให้รถออกมาวิ่งนานพอควรบนสภาพอากาศแบบไทยก่อนครับแล้วค่อยลงความเห็นว่าดีจริงรึเปล่า กลัวมีปัญหากับสภาพอากาศหรือสภาพรถติดแบบไทยจริงๆ เพราะอย่าง cx 5 สำหรับผมก็ถือว่ายังออกมาไม่นานเท่าไร อาจจะต้องขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์สักแป๊ป
ส่วนราคาขาย 1.1 ผมว่าไม่แพงในความคิดผมนะครับ เพราะยี่ห้ออื่นตัว top ราคาก็หนีกันไม่มากในราคานี้ผมรับได้ครับ
ส่วน moonroof ถ้ามีก็คงเท่เหมือนเดิมแต่มีแล้วได้ใช้รึเปล่าคงแล้วแต่คนไปนะครับ บางคนมีอาจจะไม่เคยเปิดเลย บางคนมีอาจจะเปิดต่อเดือนบ่อยมาก ส่วนถ้าไม่มีผมว่าก็ไม่ได้เสียหายอะไรเท่าไรมันแค่ความเท่หายไปเท่านั้น แต่เท่แล้วไม่ได้ใช้มีไว้โชว์อย่างเดียวแถมถึงเวลาเกิดเสียต้องเปลี่ยนยางขอบรอบๆ หรือมอเตอร์ด้วยแล้ว ผมขอไม่เท่ดีกว่าครับ
-
ผมขออนุญาตแชร์ไอเดียซักหน่อย เกี่ยวกับสกายแอคทีฟ
คือพี่จิมแกก็บอกนะครับ ว่าต้นทุนมันแพง ไอสกายแอคทีฟทั้งระบบเนี่ย ในการ invent เทคโนโลยีอะไรก็ตาม แม้จะเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในธรรมดา มันก็มีต้นทุนทั้งนั้น เค้าไม่ได้หยิบยืมเทคโนโลยีชาวบ้านมาง่ายๆ แบบบางค่ายนะครับ สื่อหลายสำนักในยุโรปยังเอ่ยปากชมตรงจุดนี้ จะให้บริษัทไซส์ค่อนข้างคอมแพคอย่างมาสด้าตั้งราคาขายปลีกเท่าเดิม ออปชั่นมากขึ้น แล้วกำไรเค้าจะไปซุกอยู่ตรงไหนล่ะครับ economies of scale ก็ไม่ได้มากมาย เหมือนเจ้าตลาด
จริงอยู่ครับที่คู่แข่งเค้ามีมานานแล้ว ทั้งระบบหัวฉีด DI ทั้งเกียร์ล็อคชิพ ดูออลคลัชท์ แต่มาสด้าเค้าไม่เคยมีเครื่องยนต์และเกียร์ที่ดีหนิครับ (แม้แต่เครื่องโรตารี่ สำหรับผมแล้วไม่ใช่ตัวอย่างเครื่องยนต์ที่ดี เพราะดีแต่สูบน้ำมัน) สมัยยังเป็นคาร์บิวเรเตอร์ ก็ล้าหลังกว่าเค้า มันถึงเวลาที่เค้าจะพัฒนาเต็มรูปแบบ ด้วยการลงทุนด้าน R&D จะเห็นได้จากเครื่องยนต์ที่นำมาใช้ ไม่ได้เป็นตัวเก่าโบราณ คร่ำครึ แต่เป็น brand new ทั้งระบบ รวมทั้งเกียร์ 6AT ก็เช่นกัน
ผมเองเคยผ่านรถมาหลายรุ่น แต่แทบไม่เคยผ่านมือกับมาสด้าเลย เหตุผลก็เพราะเครื่องยนต์นั่นแหละ มาสด้าได้ know how จากฟอร์ดในการทำช่วงล่างที่ดี แต่ลืมหยิบการทำเครื่องยนต์ที่ดีเช่นกัน จะว่าไปฟอร์ดช่วงยุค 90 ก็ใช่ว่าจะทำรถเครื่องแรงล้ำหน้าอะไรนัก
แต่มาครั้งนี้ ผมได้ไปลอง CX-5 ตัว 2.5 กับ 2.2 ดีเซลสั้นๆ รับรู้เลยครับ ว่ามาสด้าเค้าเอาจริงกับหัวใจหลักได้ซักที ไม่ใช่ราคาคุย เรียกว่าผมประทับใจกับมาสด้ามากที่สุด ตั้งแต่ผมเคยขับแอสติน่าช่วงขับเป็นใหม่ๆนั่นแหละ
อ่อ ผมลืมไป ด้านตัวถังรถยนต์ ที่ใช้ชิ้นส่วนน้ำหนักเบาเพื่อลดน้ำหนัก ก็เป็นส่วนหนึ่งของเทรดมาร์กนี้เช่นกันนะครับ ช่วงล่าง แอโร่ไดนามิกส์ ก็เป็นส่วนนึงของการพัฒนา สรุปง่ายๆ เค้าพัฒนาทั้งคันเลยทีเดียว ไม่ใช่ model change แล้วลากของเก่าหากินแบบตัวก่อน ลองค้นข้อมูลดูดีดี แล้วไปลองขับเอง ผมเชื่อว่าคุณๆ จะลดอคติของเทรดมาร์ก ที่หลายๆค่ายมาโฆษณาเป่าหู ผู้บริโภคอย่างเรา :)
ต้นทุนแพงกว่า เอามาอ้างตั้งราคาขายแพงกว่าได้หรอครับ อันนี้สงสัยจริงๆ -.-
เวลาใครจะขายของ ถ้าจะขายแพง เขามีแต่ให้อะไรกับผู้ซื้อมากกว่าเจ้าอื่นยังไง ไม่เคยเห็นมีโรงงาน บริษัทที่ไหน ที่เอาต้นทุนมาอ้างเป็นประเด็นสำคัญเลยครับ ยกเว้นสินค้า Commodity
ผมว่ามันแพงเพราะมาสด้า เขาก็จับกลุ่มลูกค้าเขานั่นแหละครับ โตโยต้า หรือยี่ห้ออื่นๆด้วย หลักการมันมีแค่ ทำไงก็ได้ให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มที่จะจ่าย แต่อย่าเอาต้นทุนมาพูดกับลูกค้าครับ ก่อนนี้มาสด้าก็แทบไม่มีอะไรพัฒนาเลย เทียบกับค่ายอื่น โดยเฉพาะเครื่องยนต์
มาสด้า 3 ตัวเก่า ถ้าเทียบกับ Focus 2.0 เรียกว่าขายโคตรแพงเลยครับ มี invent เทคโนโลยีอะไร? เทคโนโลยี เครื่องยนต์ ออพชั่น เทียบโฟกัสไม่ได้เลย ทั้งที่ รถ 2.0 มาสด้าเป็นเจ้าตลาดด้วยซ้ำ ฟันกำไรเต็มๆ
เหมือนแต่ก่อนที่โตโยต้าบอก ยาริสใส่ VSC ไม่ได้ (หรือจะบอกว่าโตโยต้าต้นทุนแพงกว่ายี่ห้ออื่น อันนี้ Economy of scale เต็มๆ) เพราะมันจะแพงเกิน ไหงเฟียสต้า ใส่มาเฉยเลย แถมตอนนั้นยังได้เครื่อง 1.6อีกต่างหาก
หรือวีออส ออพชั่นก็ทุเรศกว่ามาสด้า 2 เยอะ ทำไมมาสด้าทำราคาขายได้ หรือมาสด้า 2 ต้นทุนถูกกว่าวีออส? แม้แต่วีออสใหม่นี่ รุ่นล่างสุด ยังออพชั่นน้อยกว่ามาสด้า 2 อยู่เลย
มาสด้าขายภาพลักษณ์ กับการขับขี่ อยู่แล้ว ออพชั่นให้มาในระดับไม่น่าเกลียดแม้แต่รุ่นล่างสุด
ผมก็ขับมาสด้าครับ อยากให้มองในสิ่งที่เขาให้ เขาจะลงทุนไปเท่าไรไม่ใช่ประเด็นที่ต้องเอามาถก มันเป็นอะไรที่เขาต้องทำอยู่แล้ว และยี่ห้ออื่นก็ทำไปแล้วเหมือนกัน
ขออนุญาตแชร์ไอเดียกันอีกซักรอบ ไม่มีเจตนาชวนทะเลาะใดๆ ทั้งสิ้นครับผม
ต้นทุนบริษัทใครบริษัทมันสิครับ อย่าเหมารวมว่า ทำไมบริษัทนี้ทำได้ ไม่ได้ ผมเองก็มีธุรกิจ ที่บ้านเช่นกัน พอจะทราบครับ ว่าทำไมต้นทุนพอๆ กัน แต่ตั้งราคาเท่าคู่แข่งไม่ได้
ก่อนจะเข้าประเด็นฟอร์ด ลองหันมามองว่าทำไมบีเอ็ม เมอร์ซีเดส เค้าขายในราคาใกล้เคียงเดิมหรือถูกลง ในขณะที่รถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ขายแพงขึ้นทีละนิดๆ เหตุผลสั้นๆ คือ ค่าวิจัยและพัฒนาไงครับ พวกตะวันตกเค้าลงทุนด้านนี้ในระยะเวลาก่อนพวกเราๆ ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ ส่วนค่ายยุ่น ใช้วิธี C&D มาตลอด แต่มันจะไม่มีวันทำให้รถญี่ปุ่นก้าวไปทัดเทียมรถยุโรปได้เลย พวกเค้าจึงเบนเข็มมาเป็น R&D แบบชาวโลกซะที
พูดถึงโตโยต้า cost ในการผลิตถูกแบบไม่มีใครสู้ พวก lean production , TQM ที่อยู่ในวิชา supply chain ก็มาจากโตโยต้าทั้งนั้น แต่ที่เค้าขายค่อนข้างแพงกว่าหลายยี่ห้อ ได้เพราะชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนาน และความฉลาดของ marketing ที่รู้จักความตัองการผู้บริโภคแต่ละท้องถิ่นได้อย่างถ่องแท้ ฟอร์ดโดนโตโยต้าล้มได้ก็เพราะสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้น แล้วหันมามองมาสด้าจะเอาอะไรไปสู้ด้านต้นทุน ยิ่งมาทุ่มทุ่นสร้างสกายแอคทีฟทั้งคัน ทุกรุ่น ตอบเลยว่าไม่มีทางครับ เต็มที่ก็แค่แชร์เครื่องยนต์บางตัวใส่ข้ามรุ่นกัน มันก็ลดไปไม่ได้มากมายนัก
อย่าลืมว่าตอนที่โตโยต้าเค้าวิจัยด้านไฮบริด แล้วเริ่มผลิตรถออกสู่ตลาด ราคารถไฮบริดมันก็ไม่ถูกนะครับ นั่นเป็นเพราะผู้ผลิตเค้ารวมต้นทุนของเค้าไปแล้วไง เพื่อรักษาระดับ profit margin ใหับริษัทเติบโตได้ในระดับที่ควรจะเป็น หมายความว่าโตโยต้าจะมีสัดส่วนกำไรมากกว่าฟอร์ด? ลองมาดูกันครับ
ฟอร์ดเองก็มีโรงงานใหญ่ที่ระยอง และเค้าก็ผลิตโฟกัสส่งออกนอกด้วย มันมีโอกาสที่จะลดต้นทุนลงได้บ้าง แต่ผมกลับมองว่า ที่เค้าขายในราคานี้ได้ เพราะระดับ profit margin ค่อนข้างต่ำกว่าคู่แข่ง ภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย ค่าจิปาถะ อาจจะน้อยกว่าหลายบริษัท รวมถึงการจะกลับมาแย่งส่วนแบ่ง อีกคำรบในไทยและอาเซียน ถ้าตั้งแพงสุดกู่ ออปชั่นแห้งเหี่ยว ใครจะไปซื้อครับ ขนาดศูนย์แถวบ้านผมแจ้งวัฒนะแทบจะนั่งตบยุงกันเลย ยอมกำไรน้อย แต่ขายได้เรื่อยๆ ให้ผู้บริโภคเริ่มจดจำเกิดเป็น brand recognition ในฐานะตัวเล็กใจใหญ่ใจปล้ำ คุ้มกว่าเยอะครับ แต่ก็หมายความว่า อนาคตฟอร์ดก็จะขายแพงขึ้นได้ (ออกจะเป็น dumping price เล็กๆ แต่ไม่ชัดเจนนัก) ถ้ามีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น คุณภาพและจำนวนศูนย์บริการดีขึ้น จำนวนอะไหล่สำรองมากขึ้น เสียงก่นด่าน้อยลง
สินค้าทุกชนิดในโลกมันมีต้นทุนทั้งนั้นล่ะครับ อยู่ทีี่ว่าใครจะจัดการได้ดีกว่ากัน รถเองก็เช่นกัน โตโยต้าชื่อเสียงคือทนมือทนเท้า อะไหล่เพียบ ซ่อมได้ทั่วไทย ราคาถึงได้ตั้งแบบนั้นได้ไงครับ ยาริสลุงหนวดขายกระจุยกระจาย ทั้งที่ผมเองและอีกหลายท่านใน hlm เคยด่าพี่โตไว้ซะหนำ แต่ประเด็นมันจุ๋มจิ๋มสำหรับผู้บริโภคบ้านเรา อีกอย่างผมคงไม่กล้าเอาฟอร์ดไปบุกป่าฝ่าดงขนาดพี่โตแน่ๆ ถึงจะซื้อมาแล้วรถไม่ดีเฟคก็ตาม
ปล. เฟียสต้าอีโคบูสท์ แพงขึ้นกว่าตัวเดิมแล้วนะครับ เผื่อลืมกัน
-
จะเป็นไปได้หรอครับ รุ่นTop กับ รุ่นล่าง C-Segment
"ราคาต่างกัน 300,000 บาท"
-
จะเป็นไปได้หรอครับ รุ่นTop กับ รุ่นล่าง C-Segment
"ราคาต่างกัน 300,000 บาท"
ผมตอบให้ว่าไม่แปลกครับ ลองไปดูรถบางรุ่นที่ต่างประเทศได้ครับ ตัว std ล่างสุด กับตัว full-option ราคาต่างกันบางทีเท่าราคารถคันนึงเลย
-
วันนี้แวะไปจองมา เซลบอกตัวท็อปมีมูนรูฟท่าทางมั่นใจ บอกเดือนมีนารับรถได้เลย แหมเร็วจริงๆ
-
ผมขออนุญาตแชร์ไอเดียซักหน่อย เกี่ยวกับสกายแอคทีฟ
คือพี่จิมแกก็บอกนะครับ ว่าต้นทุนมันแพง ไอสกายแอคทีฟทั้งระบบเนี่ย ในการ invent เทคโนโลยีอะไรก็ตาม แม้จะเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในธรรมดา มันก็มีต้นทุนทั้งนั้น เค้าไม่ได้หยิบยืมเทคโนโลยีชาวบ้านมาง่ายๆ แบบบางค่ายนะครับ สื่อหลายสำนักในยุโรปยังเอ่ยปากชมตรงจุดนี้ จะให้บริษัทไซส์ค่อนข้างคอมแพคอย่างมาสด้าตั้งราคาขายปลีกเท่าเดิม ออปชั่นมากขึ้น แล้วกำไรเค้าจะไปซุกอยู่ตรงไหนล่ะครับ economies of scale ก็ไม่ได้มากมาย เหมือนเจ้าตลาด
จริงอยู่ครับที่คู่แข่งเค้ามีมานานแล้ว ทั้งระบบหัวฉีด DI ทั้งเกียร์ล็อคชิพ ดูออลคลัชท์ แต่มาสด้าเค้าไม่เคยมีเครื่องยนต์และเกียร์ที่ดีหนิครับ (แม้แต่เครื่องโรตารี่ สำหรับผมแล้วไม่ใช่ตัวอย่างเครื่องยนต์ที่ดี เพราะดีแต่สูบน้ำมัน) สมัยยังเป็นคาร์บิวเรเตอร์ ก็ล้าหลังกว่าเค้า มันถึงเวลาที่เค้าจะพัฒนาเต็มรูปแบบ ด้วยการลงทุนด้าน R&D จะเห็นได้จากเครื่องยนต์ที่นำมาใช้ ไม่ได้เป็นตัวเก่าโบราณ คร่ำครึ แต่เป็น brand new ทั้งระบบ รวมทั้งเกียร์ 6AT ก็เช่นกัน
ผมเองเคยผ่านรถมาหลายรุ่น แต่แทบไม่เคยผ่านมือกับมาสด้าเลย เหตุผลก็เพราะเครื่องยนต์นั่นแหละ มาสด้าได้ know how จากฟอร์ดในการทำช่วงล่างที่ดี แต่ลืมหยิบการทำเครื่องยนต์ที่ดีเช่นกัน จะว่าไปฟอร์ดช่วงยุค 90 ก็ใช่ว่าจะทำรถเครื่องแรงล้ำหน้าอะไรนัก
แต่มาครั้งนี้ ผมได้ไปลอง CX-5 ตัว 2.5 กับ 2.2 ดีเซลสั้นๆ รับรู้เลยครับ ว่ามาสด้าเค้าเอาจริงกับหัวใจหลักได้ซักที ไม่ใช่ราคาคุย เรียกว่าผมประทับใจกับมาสด้ามากที่สุด ตั้งแต่ผมเคยขับแอสติน่าช่วงขับเป็นใหม่ๆนั่นแหละ
อ่อ ผมลืมไป ด้านตัวถังรถยนต์ ที่ใช้ชิ้นส่วนน้ำหนักเบาเพื่อลดน้ำหนัก ก็เป็นส่วนหนึ่งของเทรดมาร์กนี้เช่นกันนะครับ ช่วงล่าง แอโร่ไดนามิกส์ ก็เป็นส่วนนึงของการพัฒนา สรุปง่ายๆ เค้าพัฒนาทั้งคันเลยทีเดียว ไม่ใช่ model change แล้วลากของเก่าหากินแบบตัวก่อน ลองค้นข้อมูลดูดีดี แล้วไปลองขับเอง ผมเชื่อว่าคุณๆ จะลดอคติของเทรดมาร์ก ที่หลายๆค่ายมาโฆษณาเป่าหู ผู้บริโภคอย่างเรา :)
ต้นทุนแพงกว่า เอามาอ้างตั้งราคาขายแพงกว่าได้หรอครับ อันนี้สงสัยจริงๆ -.-
เวลาใครจะขายของ ถ้าจะขายแพง เขามีแต่ให้อะไรกับผู้ซื้อมากกว่าเจ้าอื่นยังไง ไม่เคยเห็นมีโรงงาน บริษัทที่ไหน ที่เอาต้นทุนมาอ้างเป็นประเด็นสำคัญเลยครับ ยกเว้นสินค้า Commodity
ผมว่ามันแพงเพราะมาสด้า เขาก็จับกลุ่มลูกค้าเขานั่นแหละครับ โตโยต้า หรือยี่ห้ออื่นๆด้วย หลักการมันมีแค่ ทำไงก็ได้ให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มที่จะจ่าย แต่อย่าเอาต้นทุนมาพูดกับลูกค้าครับ ก่อนนี้มาสด้าก็แทบไม่มีอะไรพัฒนาเลย เทียบกับค่ายอื่น โดยเฉพาะเครื่องยนต์
มาสด้า 3 ตัวเก่า ถ้าเทียบกับ Focus 2.0 เรียกว่าขายโคตรแพงเลยครับ มี invent เทคโนโลยีอะไร? เทคโนโลยี เครื่องยนต์ ออพชั่น เทียบโฟกัสไม่ได้เลย ทั้งที่ รถ 2.0 มาสด้าเป็นเจ้าตลาดด้วยซ้ำ ฟันกำไรเต็มๆ
เหมือนแต่ก่อนที่โตโยต้าบอก ยาริสใส่ VSC ไม่ได้ (หรือจะบอกว่าโตโยต้าต้นทุนแพงกว่ายี่ห้ออื่น อันนี้ Economy of scale เต็มๆ) เพราะมันจะแพงเกิน ไหงเฟียสต้า ใส่มาเฉยเลย แถมตอนนั้นยังได้เครื่อง 1.6อีกต่างหาก
หรือวีออส ออพชั่นก็ทุเรศกว่ามาสด้า 2 เยอะ ทำไมมาสด้าทำราคาขายได้ หรือมาสด้า 2 ต้นทุนถูกกว่าวีออส? แม้แต่วีออสใหม่นี่ รุ่นล่างสุด ยังออพชั่นน้อยกว่ามาสด้า 2 อยู่เลย
มาสด้าขายภาพลักษณ์ กับการขับขี่ อยู่แล้ว ออพชั่นให้มาในระดับไม่น่าเกลียดแม้แต่รุ่นล่างสุด
ผมก็ขับมาสด้าครับ อยากให้มองในสิ่งที่เขาให้ เขาจะลงทุนไปเท่าไรไม่ใช่ประเด็นที่ต้องเอามาถก มันเป็นอะไรที่เขาต้องทำอยู่แล้ว และยี่ห้ออื่นก็ทำไปแล้วเหมือนกัน
ขออนุญาตแชร์ไอเดียกันอีกซักรอบ ไม่มีเจตนาชวนทะเลาะใดๆ ทั้งสิ้นครับผม
ต้นทุนบริษัทใครบริษัทมันสิครับ อย่าเหมารวมว่า ทำไมบริษัทนี้ทำได้ ไม่ได้ ผมเองก็มีธุรกิจ ที่บ้านเช่นกัน พอจะทราบครับ ว่าทำไมต้นทุนพอๆ กัน แต่ตั้งราคาเท่าคู่แข่งไม่ได้
ก่อนจะเข้าประเด็นฟอร์ด ลองหันมามองว่าทำไมบีเอ็ม เมอร์ซีเดส เค้าขายในราคาใกล้เคียงเดิมหรือถูกลง ในขณะที่รถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ขายแพงขึ้นทีละนิดๆ เหตุผลสั้นๆ คือ ค่าวิจัยและพัฒนาไงครับ พวกตะวันตกเค้าลงทุนด้านนี้ในระยะเวลาก่อนพวกเราๆ ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ ส่วนค่ายยุ่น ใช้วิธี C&D มาตลอด แต่มันจะไม่มีวันทำให้รถญี่ปุ่นก้าวไปทัดเทียมรถยุโรปได้เลย พวกเค้าจึงเบนเข็มมาเป็น R&D แบบชาวโลกซะที
พูดถึงโตโยต้า cost ในการผลิตถูกแบบไม่มีใครสู้ พวก lean production , TQM ที่อยู่ในวิชา supply chain ก็มาจากโตโยต้าทั้งนั้น แต่ที่เค้าขายค่อนข้างแพงกว่าหลายยี่ห้อ ได้เพราะชื่อเสียงที่สั่งสมมายาวนาน และความฉลาดของ marketing ที่รู้จักความตัองการผู้บริโภคแต่ละท้องถิ่นได้อย่างถ่องแท้ ฟอร์ดโดนโตโยต้าล้มได้ก็เพราะสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้น แล้วหันมามองมาสด้าจะเอาอะไรไปสู้ด้านต้นทุน ยิ่งมาทุ่มทุ่นสร้างสกายแอคทีฟทั้งคัน ทุกรุ่น ตอบเลยว่าไม่มีทางครับ เต็มที่ก็แค่แชร์เครื่องยนต์บางตัวใส่ข้ามรุ่นกัน มันก็ลดไปไม่ได้มากมายนัก
อย่าลืมว่าตอนที่โตโยต้าเค้าวิจัยด้านไฮบริด แล้วเริ่มผลิตรถออกสู่ตลาด ราคารถไฮบริดมันก็ไม่ถูกนะครับ นั่นเป็นเพราะผู้ผลิตเค้ารวมต้นทุนของเค้าไปแล้วไง เพื่อรักษาระดับ profit margin ใหับริษัทเติบโตได้ในระดับที่ควรจะเป็น หมายความว่าโตโยต้าจะมีสัดส่วนกำไรมากกว่าฟอร์ด? ลองมาดูกันครับ
ฟอร์ดเองก็มีโรงงานใหญ่ที่ระยอง และเค้าก็ผลิตโฟกัสส่งออกนอกด้วย มันมีโอกาสที่จะลดต้นทุนลงได้บ้าง แต่ผมกลับมองว่า ที่เค้าขายในราคานี้ได้ เพราะระดับ profit margin ค่อนข้างต่ำกว่าคู่แข่ง ภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย ค่าจิปาถะ อาจจะน้อยกว่าหลายบริษัท รวมถึงการจะกลับมาแย่งส่วนแบ่ง อีกคำรบในไทยและอาเซียน ถ้าตั้งแพงสุดกู่ ออปชั่นแห้งเหี่ยว ใครจะไปซื้อครับ ขนาดศูนย์แถวบ้านผมแจ้งวัฒนะแทบจะนั่งตบยุงกันเลย ยอมกำไรน้อย แต่ขายได้เรื่อยๆ ให้ผู้บริโภคเริ่มจดจำเกิดเป็น brand recognition ในฐานะตัวเล็กใจใหญ่ใจปล้ำ คุ้มกว่าเยอะครับ แต่ก็หมายความว่า อนาคตฟอร์ดก็จะขายแพงขึ้นได้ (ออกจะเป็น dumping price เล็กๆ แต่ไม่ชัดเจนนัก) ถ้ามีส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น คุณภาพและจำนวนศูนย์บริการดีขึ้น จำนวนอะไหล่สำรองมากขึ้น เสียงก่นด่าน้อยลง
สินค้าทุกชนิดในโลกมันมีต้นทุนทั้งนั้นล่ะครับ อยู่ทีี่ว่าใครจะจัดการได้ดีกว่ากัน รถเองก็เช่นกัน โตโยต้าชื่อเสียงคือทนมือทนเท้า อะไหล่เพียบ ซ่อมได้ทั่วไทย ราคาถึงได้ตั้งแบบนั้นได้ไงครับ ยาริสลุงหนวดขายกระจุยกระจาย ทั้งที่ผมเองและอีกหลายท่านใน hlm เคยด่าพี่โตไว้ซะหนำ แต่ประเด็นมันจุ๋มจิ๋มสำหรับผู้บริโภคบ้านเรา อีกอย่างผมคงไม่กล้าเอาฟอร์ดไปบุกป่าฝ่าดงขนาดพี่โตแน่ๆ ถึงจะซื้อมาแล้วรถไม่ดีเฟคก็ตาม
ปล. เฟียสต้าอีโคบูสท์ แพงขึ้นกว่าตัวเดิมแล้วนะครับ เผื่อลืมกัน
LIKE ครับ ตามนี้เลยครับ มันเป็นความจริงของโลกแห่งอุตสาหกรรมเลยละครับ
ขนาดบริษัท งบลงทุน กำไร/ขาดทุน ระยะเวลาคืนทุนของเทคโนโลยี ... มีผลหมดครับ บริษัทใหญ่กว่า มีความได้เปรียบกว่าอย่างมาก
ใน Case MAZDA เป็น บริษัทขนาดเล็กกว่ามาก แต่พยายามพัฒนา R&D ขึ้นมาเองได้ พยายามแก้จุดอ่อนของตัวเองที่เคยประสบมา และจุดมุ่งหมายคือรถที่ขับขี่ดี ... ผมว่าดูน่าชื่นชมกว่า
(สัดส่วนกำไรพื้นฐาน เป็นสิ่งที่ทุกบริษัทต้องทำครับ อะไรเป็นต้นทุนก็จำต้องเอามาประกอบในราคาขาย แต่ผมเชื่อว่า mazda พยายามควบคุม และ ไม่ได้เน้นเอา Profit Margin ที่มากมายอะไร)
ในเแบรนด์เจ้าตลาด หลายๆเจ้า กลับทำสวนทางกัน แถมลดต้นทุนในหลายๆส่วน อีกทั้งราคา/ออฟชั่น ผมว่าเจ้าตลาดนั่นแหละครับ ที่กำลังเอาเปรียบบริโภคมากกว่า
( เช่น Toyota ที่การพัฒนาออกแบบโดยรวม เขาเน้น Profit Margin มากกว่า ทำรถให้ใช้งานได้ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมต้นทุนเสมอ)
ถ้าซื้อรถเพื่อ ใช้ในองค์กร หลายมือหลายตีนขับ เน้นส่งของ >> เคสนี้ผมจะเลือกรถที่ซ่อม+หาอะไหล่ได้ง่ายและเร็ว ดังนั้นคำตอบคือเจ้าตลาด อย่าง Vigo / D-Max
ถ้าซื้อรถเพื่อใช้เอง หรือให้สมาชิกในบ้านใช้งาน >> ผมเน้นดูโดยรวมทุกค่ายครับ ไม่จำกัดว่าต้องเป็นเจ้าตลาดเสมอไป เพราะมีหลายยี่ห้อที่ทำได้ดีกว่า เจ้าตลาด ในราคาที่จ่ายออกไปพอๆกัน
-
ด้วยคห.ส่วนตัว ในฐานะคนหนึ่งที่เล็งจะออก Mazda3 2014
เรื่อง Moonroof ตัวผมไม่ได้ serious นะ
แต่อยากรู้ว่าทำไมพี่ Mazda แก ไม่จัด high plus มาใน sedan ด้วยนี่สิ
กะจะดันให้ hatchback ขายดีอย่างเดียวหรือ ทั้งๆที่ใน seg นี้ ก็ไม่ได้ชนกับใคร
เพราะหลักๆมีแค่ Altis, Civic, Sylphy ซึ่งเป็น Sedan ทั้งหมด
ก็ควรจะจัด high plus มาในตัว sedan เพื่อแข่งกับพวกนี้ด้วย
-
อย่าลืมนะครับ ว่าทำไมครูซถึงตั้งได้ เพราะเขาไม่มี D-seg ไงครับ ผมเดาเอานะ แหะๆๆๆ
Mazda ก็ยังไม่มีหนิฮะ (เฉพาะในไทยหนะ) ;D
ปล.แต่ถ้าเกิน 1.1 m ควรจะใส่ Moonroof มาให้ด้วยได้แล้วนะ จะตัดทำพระแสงเลเซอร์อะไรก็มิทราบ >:(
เห็นคุณ Jimmy เคยตอบไว้นะครับ ว่าทำไมต้องตัด
-
ตอนนี้ไม่ได้กังวลเรื่องราคาครับ แต่กังวลเรื่องอะไหล่ในอนาคตมากกว่า เพราะมีแต่เสียงบ่นเรื่องรออะไหล่นานมากกก ไม่ทราบว่าตอนนี้จะดีขึ้นรึยัง
-
ใช้ตัว All New อยู่เลยไม่ต้องมานั่งแคร์เครื่องสะกงสกายแล้ว....5 5 5
ผมชอบหน้าตาตัว All New มากกว่านะ ตัวใหม่มันดูเยอะเกินไปนิด อีกอย่างตัวเก่าได้ราคามาดีมากๆด้วย
รถมือสองสภาพกริ๊บๆ ราคาล่วงเละเทะ นี่แหละจุดอ่อนของมาสด้าครับ...ที่มันไม่แข็งเท่าเจ้าตลาด
แต่ถ้าคนรู้จักเอาจุดอ่อนมาเป็นจุดแข็งเหมือนผม ก็เล่นมือสองสภาพป้ายแดงนี่แหละ จบดี
แต่จุดอ่อนมาสด้าน่าจะเรื่องกินน้ำมันนะ กินกว่าค่ายอื่นแน่ๆ เลยต้องแก้ลำที่เครื่องสกายหล่ะมั๊ง???
ส่วนศูนย์บริการ ผมว่าอาจจะดีกว่าฟอร์ดนะ แต่ก็ยังด้อยกว่าค่ายเจ้าตลาด ขอเวลาลองก่อน
-
High Plus น่าจะมีซันรูฟ จบเลย ถึงจะ 1.1 ก็เถอะ ที่จริงน่าจะมีตั้งแต่ CX5 2.5 2.2D แล้ว
Navi เข้าใจว่ามันมาพร้อมกันทั้งชุดเครื่องเสียงอันนั้น ตัดซันรูฟลดต้นทุนง่ายกว่า CX5 รถครอบครัวไม่มี Navi แต่ 3 มี ตลกมะ ?
High อันนี้ขอเถอะ ถุงลม 6 ใบ ESP แล้วจะตัดอะไรไปก็เชิญ
เพราะถ้าแค่ 2 ใบ รุ่น 4 ประตูตัวท็อปจะมีถุงลมแค่ 2 ใบเท่านั้น !!!!!!
ผมมั่นใจว่ามีคนชอบ 4 ประตูไม่น้อยไปกว่า 5 ประตู ไม่มี High Plus พอเข้าใจได้
แต่ออฟชั่นตัวท็อป 4 ประตูน้อยอันนี้ทำใจไม่ได้
-
สมควรมีรุ่น high plus อย่างยิ่งในรุ่น sedan ครับ
-
จะเป็นไปได้หรอครับ รุ่นTop กับ รุ่นล่าง C-Segment
"ราคาต่างกัน 300,000 บาท"
เรียกว่าเป็นปกติดีกว่าครับ
Altis ตัวล่างสุด 769,000 - ตัวTop 1,069,000 (ต่างกัน 300,000)
Focus ตัวล่างสุด 759,000 - ตัวTop 1,079,000 (ต่างกัน 320,000)
Mazda3 ตัวล่างสุด 755,000 - ตัวTop 1,064,000 (ต่างกัน 309,000)
LancerEX ตัวล่างสุด 794,000 - ตัวTop 1,051,000 (ต่างกัน 257,000)
Civic ตัวล่างสุด 778,000 - ตัวTop 1,130,000 (ต่างกัน 352,000)
Sylphy ตัวล่างสุด 746,000 - ตัวTop 931,000 (ต่างกัน 185,000)
Pulsar ตัวล่างสุด 781,000 - ตัวTop 981,000 (ต่างกัน 200,000)
Prius ตัวล่างสุด 1,199,000 - ตัวTop 1,369,000 (ต่างกัน 170,000)
Cruze ตัวล่างสุด 759,000 - ตัวTop 1,248,000 (ต่างกัน 489,000)