Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ThinkOutBox ที่ มีนาคม 25, 2014, 01:46:30
-
มีเพื่อนมาปรึกษาว่า "เขา" ได้รับเลือกให้เป็นศิษย์เก่าดีเด่นของคณะฯ และ ได้รับเกียรติให้ขึ้นไปกล่าวบนเวทีให้กับรุ่นน้องฟัง เนื่องจากสถานที่ ๆ คณะได้จัดเตรียมไว้ (หอประชุม) บังเอิญมีที่จอดรถ ที่ถูกสำรองเอาไว้ให้วิทยากรจอด ซึ่งทางคณะฯ ก็ได้จองที่จอดดังกล่าวไว้ให้ นั่นก็หมายความว่า หากบรรยายเสร็จแล้ว น้อง ๆ และ อาจารย์ในคณะก็จะเห็นเพื่อนเดินขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ
เพื่อนมาปรึกษาว่า ในฐานะรุ่นพี่ และ ศิษย์เก่าดีเด่น ที่มีโอกาสไปบรรยายให้รุ่นน้องฟังนั้น จึงอยากที่จะสร้างความประทับใจให้กับน้อง ๆ ได้เห็นจึงมาปรึกษาผมว่า ควรจะขับรถที่ใช้อยู่ประจำ คือ โตโยต้า Camry โฉมปัจจุบันไป หรือจะยืมรถพี่ชาย คือ BMW F10 ไปดี (คิดไปไกลถึงขนาดไป "เช่ารถ" หากจำเป็น)
จึงอยากจะมาปรึกษาเพื่อน ๆ ว่า
หากคุณได้รับโอกาสเช่นเดียวกันกับเพื่อนของผม คุณจะเลือกขับรถอะไรไป ระหว่าง Camry ที่ใช้ประจำ หรือ จะยืมรถพี่ชายไป (F10) หรือ จะไปเช่ารถที่ดูหรูดีครับ
ปล. เพื่อนเป็นผู้บริหาร มีรายได้ประมาณเดือนละ 250,000 บาท (จริง ๆ ผมแนะนำว่า ให้ขับ SLK ไป)
-
ไม่สำคัญเลย สำหรับผม
มันออกจะน่าแปลกใจซะด้วยซ้ำที่ เพื่อนของคุณ ดีกรี ขนาดนี้แล้ว ยังมาตั้งคำถาม อะไรแบบนี้
เอาแบบแนวๆ ขับรถ classic ไปสิ ดูดีมีรสนิยมกว่า พวก ยุโรปใหม่ๆซะอีก ในสายตาผม
เช่น e30 cabriolet , bmw 2002
แต่ถ้าถามว่า ระดับนี้แล้วขับรถ camry , f10 น่าเกลืยดไหม ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร
อยู่ที่มันสมอง ไม่ใช่ รถยนต์
บางทีขับรถธรรมดา แต่ดูแลรถอย่างดี รถเงา ก็บ่งบอกถึงนิสัย ความเป็นระเบียบ รักสะอาด ทำให้ดูมีราศี ขึ้นแล้ว
-
งานแบบนี้ camry ก็ได้แล้วครับ แต่ถ้างานใหญ่โตระดับผู้บริหารขึ้นไปก็ยืม f10 มาใช้ก็ได้ เพราะเอาเข้าจริงแล้วตัวรถ(หรือสิ่งของอื่นๆ)สามารถบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือและตัวตนของคนได้ระดับหนึ่งเลยครับ
ส่วนเรื่องการขึ้นพูดเป็นวิทยากรนั้นก็ตามความสามารถอีกที่หนึ่งว่ามันจริงไหม มันคู่กับสิ่งที่เขามีหรือป่าว
ผมไม่แปลกใจครับที่เพื่อนคุณตั้งคำถามขึ้นมาแบบนี้ และผมชื่นชมกับสิ่งที่เขาใส่ใจในรายละเอียดส่วนนี้ด้วย (แต่มากเกินก็ไม่ดี)
สุดท้าย เรื่องการเลือกใช้รถของผม เป็นผมก็ยังคงเลือกใช้ camry กับงานแบบนี้อยู่ ไม่หรูเกินไป ไม่ธรรมดาเกินไป อยู่ในระดับพอดีๆ กับตำแหน่ง
-
ของแต่ละคนไม่เหมือนครับ แต่ละคนคิดต่งงกัน แต่สำหรับผมรถที่เราซื้อมันมาด้วยน้ำพักทำแรงของเราล้วนๆโดยไม่พึ่งคนอื่น นั้นคือความสำเร็จของผมครับ
แต่สำหรับเพื่อนคุณแล้ว คือผมไม่ได้ว่านะ การทำแบบนั้นเเช่นไปยืมรถคนอื่นมาขับหรือเช่ารถหรูๆมา มันไม่ใช่การสร้างความประทับใจครับ มันคือการเหมือนอวดๆซะมากกว่า การสร้างความประทับใจก็คือ การพูดคุย อะไรประมานนี้มากกว่าอ่ะครับ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแต่ละสังคมนั้นเค้าคิดอย่างไร :)
เอ่อถ้าจะให้ผมแนะนำนะ ขับรถที่ใช้ประจำนั้นแหละครับไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับ (การดูคนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ดูที่รถหนะครับ ดูที่ผลงานมากกว่านะ) ;)
ปล.อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ อย่าจะแรงไปนิด ผิดพลาดตรงใดก็ขอโทษด้วยนนะครับ
-
สำหรับดิฉันแล้ว ตอบง่ายๆเลยค่ะ
ขับcamryไปค่ะ ทำตัวปกติ ไม่ต้องปรุงแต่งหรือสร้างภาพใดๆเลย
ระดับเงินเดือน2แสนกว่าขับcamryก็ดูเหมาะสมดีแล้วนะค่ะ
เป็นอย่างที่เราเป็น นั่นแหละดีที่สุดค่ะ
-
ขับคันที่ใช้ประจำไปจอดเลยครับ ไม่ต้องไปดิ้นรน หา รถ เพื่อ สร้างภาพลักษณ์อะไรทั้งสิ้น "เราหลอกคนอื่นได้แต่หลอกตัวเองไม่ได้ครับ" ตามนี้นะครับ
-
เป็นผม จะไม่คิดอะไรมากและขับรถคันที่ใช้ประจำไป
ถ้าไปพบลูกค้าทางธุรกิจที่อาจหวังผลเรื่องการ appeal ฐานะการเงินของบริษัทก็ว่าไปอย่าง
กรณีนี้นี่ ไม่เห็นความจำเป็นเลยครับ
แต่ก็เข้าใจว่าหลากคนก็หลากความคิด
ไม่ต้องคิดอะไรมาก แล้วทำอย่างที่ตัวเองสบายใจก็พอแล้ว
-
ขับรถที่ตัวเองมีไปบรรยาย แล้วให้คำจัดความของคำว่า "ประสบความสำเร็จ" กับผู้ฟังครับ
การประสบความสำเร็จหรือไม่มันอยู่ที่ใจเราล้วนๆ ถ้าเราพอใจกัยสถาณะเรา มีบ้าน มีรถ ไม่มีหนี้ มีเงินเก็บ
มีเวลาให้ครอบครัว มีเวลาให้กิจกรรมที่เรารัก ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
แค่นี้ก็ถือว่าประสบความสำเสร็จแล้วครับ ถ้ายังอยากได้อะไรที่ยังเอื้อมไม่ถึงก็ไม่ถือว่าประสบความสำเสร็จ
จะดีมากถ้าการบรรยายนี้ สอนให้ผู้ฟังรู้จักประมาณตนและรู้ว่าการประสบความสำเร็จในชีวิตนั้นไม่ใช่แค่เงินทอง
ปล ผมยังไม่ประสบความสำเสร็จ แต่นี่เป็นแนวคิดผมครับ
-
ทำยังกับบริษัทขายตรง ต้องมีรถหรูไปสร้างภาพลักษณ์ให้รุ่นน้องดูด้วย
ใช้รถอะไรอยู่ก็ขับไปเถอะครับ เป็นผู้บริหาร เงินเดือนสองแสนห้าก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
ผมว่าแทนที่จะเอาเวลามาคิดเรื่องรถ เอาไปคิดเนื้อหาบรรยายให้รุ่นน้องฟังดีกว่าว่าคุณพี่มาถึงจุดนี้ได้ยังไง
-
ขับรถของตัวเองไปครับ ถ้าบรรยายถึงเรื่องประสบความสำเร็จควรเอาของที่เป็นของเราดีกว่ายิ่งการไปคุยกับรุ่นน้องแล้วยิ่งควรเปิดอกมากๆซะด้วยซ้ำแคมรี่นี่ก็ใช่ย่อยนะครับ แต่ถ้ากังวลด้านนี้จริงๆผมว่ายืม F10 ของพี่ชายจะเหมาะกว่าเช่านะครับกรณีเช่าผมว่าดูจงใจสร้างภาพลักษณ์มากไปหน่อยอันนั้นไปดีลงานใหญ่ๆจะเหมาะกว่า
-
ผมว่าการได้รับเลือกให้เป็นศิษย์เก่าดีเด่นของคณะฯนี่ก็เป็นความสำเร็จอย่างนึงแล้วนะครับ ทางคณะต้องเล็งเห็นความสามารถในการดำเนินชีวิตและความสำเร็จในหน้าที่การงานที่โดดเด่นมากอยู่แล้ว
แล้วการไปเล่าถึงความสำเร็จให้กับรุ่นน้องฟัง นั่นคือสิ่งที่รุ่นน้องจะชื่นชมครับ ว่าเราเก่ง เรามีความสามารถ และนำคำบอกเล่าไปประยุกต์ใช้เป็นแบบอย่าง
ฉะนั้นในกรณีนี้รถไม่ได้สำคัญเลยครับ ขับ Camry ไปก็เพียงพอครับ ความภาคภูมิใจเวลาขึ้นรถหรูๆมันได้แค่ชั่วคราวครับ เราขึ้นรถไปแล้วก็ไม่รู้ละว่ารุ่นน้องพูดอะไรเกี่ยวกับตัวเรา
-
ไม่อยากขัดบรรยากาศนะครับ แต่คำถามที่คุณถามแทนเพื่อนนี่มีการปรับเปลี่ยนยี่ห้อรถหรือสถานการณ์ไหม
หรือว่าเอาสถานการณ์จริงๆ รุ่นรถจริงๆ ที่เพื่อนคุณถามมาเลยครับ
ไม่ใช่อะไรนะครับ เว็บรถยนต์ชื่อดังแบบนี้ผมแค่กลัวว่าบังเอิญมีนักศึกษาสถาบันที่จะบรรยายมาอ่านเจอแ
ละอาจจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเพื่อนคุณได้นะครับ
(คหสต. พอดีอ่านและนึกได้ว่าหากเราเป็นคนฟังบรรยายแล้วมาทราบเรื่องเบื้องหลังแบบนี้จะเป็นยังไงน้าาาาาา อ่ะครับ) ;)
-
รายได้ 250,000 ขับแคมรี่ แสดงว่าตอนซื้อเขาก็ต้องคิดมาพอสมควรแล้วครับถึงซื้อคันนี้ แสดงออกถึงตัวตนได้ดีกว่าขับรถหรูอีก ผมว่าขับแคมรี่ไปนะดีแล้ว
คนเรามองไม่เหมือนกันจะขับอะไรไปจะมองให้มันไม่ดีก็มองได้หมด ขับแคมรี่ไปบางคนก็มองว่าฉลาดรู้จักใช้เงินคุ้มค่า บางคนก็มองว่าทำไมขับแค่แคมรี่เอง
*ถ้าไปเช่ารถมาแล้วที่รถมีสัญลักษณ์บอกว่าเป็นรถเช่านี่ละครับ ที่จะดูไม่ดีสุด ทำไมต้องเช่ารถมา ??
-
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ แต่เกรงว่าจะออก ดราม่านิดๆ เลยต้องแจ้งให้ทราบดังนี้
1. ผมว่า อารมณ์ของคนที่ถาม น่าจะประมาณ คุณสุภาพสตรี ที่พยายามจะเตรียมชุดที่สวยที่สุด ดีที่สุด เพื่อไปออกงานดินเนอร์สุดหรู (ที่มีเกียรติมาก ๆ) ที่เขาตั้งใจและมุ่งมั่นกับงานนี้จริง ๆ (แต่มันเป็นผู้ชายก็แค่นั้น)
2. หลายท่านพยายามที่จะบอกว่า "ความสำเร็จไม่ได้ขึ้นกับรถ" ซึ่งผมก็เชื่อเช่นนั้น แต่ ... นี่มันเว็บไซต์รถยนต์นะครับ คนเราก็ต้องมี "อยาก" ที่จะแสดง ภาพลักษณ์ออกมาบ้าง เพราะ ตามความคิดของผม เพื่อนท่านนี้ ฐานะดี จนผมคิดว่า น่าจะมีปัญญาซื้อรถราคาแพงระดับ หลาย 10 ล้าน มาขับก็ได้ แต่เนื่องจากเป็นคนไม่ค่อยสนใจเรื่อง "รถ" สักเท่าไหร่ จึงเลือกใช้รถประจำตำแหน่ง "แทนที่จะซื้อรถใช้เอง" ซึ่งครั้งนี้ เป็นครั้งแรก ที่เพื่อนคนนี้ อยากขับรถ ที่ดูสมฐานะ จึงมาปรึกษาผม
3. ผมว่าไม่บ่อยนะที่ "คนๆ" หนึ่ง จะได้รับเลือกให้เป็นศิษย์เก่า "ดีเด่น" จนได้รับเกียรติให้ขึ้นไปพูดบนเวที ดังนั้น มันต้องมีกันบ้าง เชื่อผม!!!
-
ถ้ายืมf10มาได้ง่ายๆ ก็ขับf10ไปก็ได้ครับ ถ้าลำบากขับแคมรี่ก็ไม่มีปัญหา
-
ผมว่า Range ของเงินได้ของคนใช้ รถ Camry หรือ D-seg ที่ราคาระดับเดียวกัน มันกว้างมากนะครับ เงินเดือน 250,000 ก้เหมาะแล้ว กับ Camry คนที่ผมรู้จัก ที่ใช้รถระดับนี้ ก้มีเงินเดือน ตั้งแต่หลัก หมื่นปลายๆ ไปจนเจ้าของกิจการหลายร้อยล้าน ก็ใช้ Camry Accord Teana แต่คนที่มีมากหน่อยเค้าอาจไม่ได้ มีแค่ D-seg คันเดียว แต่ในชีวิตประจำวัน ใช้แค่นี้ ก้เพียงพอแล้ว ขับไปไหน สังคมให้การยอมรับในระดับหนึ่ง ตอบโจทย์ ได้มั้ยครับ
ถ้าไปติดต่อ ธุรกิจ Deal ที่ใหญ่หน่อยค่อยเปลี่ยนเป็นรถ Europe แต่ถ้าไปแค่บรรยายหรือแค่งานสัมมนา Camry ครับ ไม่ต้องยืมครับ
-
เชียร์ให้เอา f10 ไปครับ
-- ผู้บรรยาย บรรยาย พูดถึงการประสบความสำเร็จในอาชีพ
ให้รุ่นน้องฟัง บรรยายจบ เดินขึ้น f10 ขับออกไปช้าๆ ดูสง่าดีครับ
(ระดับรายได้ขนาดนี้ ก็สามารถซื้อรถ 3-4 ล้านได้ ไม่ใช่อวดอ้าง แค่ไม่ซื้อ)
-- เด็กมหาวิทยาลัยสมัยนี้ ขับรถยุโรปเป็นว่าเล่น
Camry ไม่ใช่ดูไม่ดี แต่มันไม่เสริมความน่าเชื่อถือเท่ารถยุโรปครับ
-- ผมเคยไปฟังบรรยายเรื่อง เทคนิคการขาย , การหาลูกค้า , การสร้างยอดขาย ฯลฯ
ออกจากห้องประชุม วิทยากรขึ้น camry บ้าง accord บ้าง teana บ้าง
บอกตรงๆ ที่ฟังเค้าพูดมาเป็นชั่วโมงๆ ผมกลายเป็นเฉยๆ ไปเลย
(ถ้าออกมาขับ super car ผมคงวิ่งไปขอตำรารวยเค้าอีกรอบ)
โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ ครับ ไม่ได้จะแนะนำให้บ้าทุนนิยม
แต่ควรจะต้องสร้างความประทับใจ ภูมิใจ ทั้งต่อตัวผู้พูด ผู้ฟัง และผู้เชิญไป ครับ
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็น และประสบการณ์ส่วนตัวครับ
-
ทำยังกับบริษัทขายตรง ต้องมีรถหรูไปสร้างภาพลักษณ์ให้รุ่นน้องดูด้วย
ใช้รถอะไรอยู่ก็ขับไปเถอะครับ เป็นผู้บริหาร เงินเดือนสองแสนห้าก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
ผมว่าแทนที่จะเอาเวลามาคิดเรื่องรถ เอาไปคิดเนื้อหาบรรยายให้รุ่นน้องฟังดีกว่าว่าคุณพี่มาถึงจุดนี้ได้ยังไง
เห็นด้วยครับ ทำยังกับ งานประกาศเกียรติคุณขายตรงงั้นแหละ ผมว่า คนที่ฟังเขาไม่ได้มาสนใจดูรถว่าคุณขับอะไรหรอกครับ เผลอๆ รุ่นน้องที่ฟัง บางคนอาจขับ fer, porsche ก็ได้ครับ ถ้าบ้านเขารวยมากอยู่แล้ว
-
ได้ทั้งสองคันแหละครับ
สมัยคุณพ่อผมเข้ารับเครื่องราชฯ ในวัง ไปร่วมงานเลี้ยงในวังก็ใช้แคมรี่ครับ
-
Camry ก้อพอแล้วครับ. นึกย้อนกลับไปสมัยเป็น นศ. ผมไม่สนหรอกว่าคนที่มาบรรยายขับอะไรมา สนแค่ว่า เช็คชื่อป่าวอะ? ไม่เช็คผมโดด
5555
-
คันไหนก็ได้ครับ
แต่ถ้าเอา camryไป แล้วยังรู้สึกไม่สบายใจ คงถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนรถแล้ว (ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา)
-
สำหรับผู้ฟังอย่างผมถ้าพูดดีก็ชื่นชม พูดไม่ดีก็เฉยๆไปจนถึงเสียดายเวลา มันเป็นความประทับใจแรกจากการฟังไปแล้ว
ขับรถอะไรออกไปผมเฉยๆ
-
ไม่อยากขัดบรรยากาศนะครับ แต่คำถามที่คุณถามแทนเพื่อนนี่มีการปรับเปลี่ยนยี่ห้อรถหรือสถานการณ์ไหม
หรือว่าเอาสถานการณ์จริงๆ รุ่นรถจริงๆ ที่เพื่อนคุณถามมาเลยครับ
ไม่ใช่อะไรนะครับ เว็บรถยนต์ชื่อดังแบบนี้ผมแค่กลัวว่าบังเอิญมีนักศึกษาสถาบันที่จะบรรยายมาอ่านเจอแ
ละอาจจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเพื่อนคุณได้นะครับ
(คหสต. พอดีอ่านและนึกได้ว่าหากเราเป็นคนฟังบรรยายแล้วมาทราบเรื่องเบื้องหลังแบบนี้จะเป็นยังไงน้าาาาาา อ่ะครับ) ;)
เห็นด้วยครับ
-
ถ้าเป็นผม ผมขับแคมรี่ที่ใช้ประจำไปคับ มันคือความจิง มันคือตัวตนของเรา ผมไม่ชอบสร้างภาพ
ในสายตาผม ผมแบ่งรถในเมืองไทยกะคนขับ เป็น 4 ระดับ (คหสต.ล้วนๆนะคับ)
1.รถราคาไม่เกินล้านห้าแสน : ปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป ตั้งแต่รากหญ้าจนคนระดับกลาง รายได้หลักยังใช้คำว่า "เงินเดือน"
2.รถยุโรป 3-5 ล้าน : เจ้าของร้านค้า กิจการขนาดเล็ก,ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทใหญ่ๆ รายได้คือ "ผลกำไร ปันผล ค่าเช่า Passive income"
3.รถระดับสิบกว่าล้าน : เจ้าของธุรกิจขนาดกลาง มีห้างร้านหลายสาขา รายได้ต่อเดือน 3 ล้าน up
4.รถระดับ20กว่าล้านขึ้นไป : เจ้าของบริษัท โรงแรม รีสอร์ท ธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นLandlord นายทุน เก็งกำไร ปล่อยเช่าอสังหา อยู่ในระดับที่ "ไม่ต้องทำงานแล้ว ขับรถเที่ยว ขับไปดูกิจการ"
พูดแล้วก็นึกถึง ตอนนั้นผมไปร่วมงานแต่งเพื่อนที่โรงแรม Eastin สาทร พองานเลิก ผมขับลงมาจากตัวโรงแรม เห็นตัวอะไรแดงๆงามๆ กระแทกตาอย่างแรง "โอ แม่เจ้า! ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอตัวจิง Ferrari F12 Berlinetta!!" ...
ผมมโนเองทันทีว่า น่าจะเป็นของเจ้าของโรงแรมระดับห้าดาวนี่แหล่ะ ถึงจะเหมาะสม :D
-
Camry ก็พอแล้วครับ
การประสบความสำเร็จไม่ได้แปลว่าคุณต้องมีรถราคาแพง บ้านราคาหลายสิบล้าน
แต่มันคือการที่คุณใช้ความรู้ความสามารถสร้างเกียรติประวัติเป็นที่ประจัก และสร้างความมั่นคงให้กับตนเองต่างหาก
อาจารย์ของผมท่านอายุยังน้อยยังไม่ถึง 40 แต่เป็นศาสตราจารย์ ได้รางวัลและการเชิดชูเกียรติมากมาย มีผลงานตีพิมพิ์นานาชาติจำนวนมาก
ถูกเชิญไปพูดหรือไปสอนในมหาวิทยาลัยต่างๆ แต่ท่านก็ขับ city ไปทุกครั้ง และไม่เคยคิดจะเอารถที่บ้านคุณพ่อซึ่งมีราคาแพงมากไปเลยซักครั้ง
หรือผมเคยจะขับแคมรีผมไปรับเพื่อมาบรรยายที่คณะผม ท่านก็ไม่ยอม และขับ city มาเอง
รถ มันเป็นแค่ของปรุงแต่งที่ผมมองว่าไร้สาระหากต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้มาหรือเพื่ออวดอ้างคนอื่นว่าตัวเองประสบความสำเร็จ
มันเป็นวัฒนธรรมจอมปลอมที่พบเจอในกลุ่มธุรกิจบางประเภทที่คนตำแหน่งสูงกว่าจะต้องดิ้นรนหารถราคาแพงๆมาขับเพื่อกระตุ้นให้คนที่ต่ำกว่า
เกิดแรงบันดานใจจะได้ทุ่มเทเวลาทำงาน ทั้งๆที่เวลาโฆษณาบอกว่าเป็นธุรกิจที่ทำให้อยู่กับครอบครัว แต่เอาเข้าจริงแทบไม่มีเวลาคุยกับลูกๆเลย
ที่ผมพูดถึงเรื่องนี้เพราะญาติผมทำอยู่ ลูกๆน่าสงสารมาก แต่พ่อกับแม่ก็ดินรนเหลือเกินเพื่อจะขับรถยุโรปให้ได้ แล้วใครกันที่มีความสุข ใครกันที่ประสบความสำเร็จ
-
ผมมองว่า
ความสำเร็จของตัวท่าน ย่อมอยู่ในตัวท่าน
รถอะไรที่ทำให้ท่านมีความสุข และบ่งบอกความเป็นตัวตนของท่าน
ผมว่านั่นแหล่ะใช่เลย :)
-
ผมคิดว่ารถ ไม่สามารถนำมาคิดว่า คนไหนรวยกว่าคนไหน คนไหนประสบความสำเร็จโดยดูจากรถ หลายคนที่ผมรู้จักรวยเป็นพันล้าน ก็ยังขับรถพวกญี่ปุน คันละล้านกว่าบาทเยอะแยะไป ก็เพราะพวกเค้าไม่ได้ชอบรถ ก็เลยไม่สนใจเรื่องรถ
-
camry เป็นรถประจำตำแหน่งใช่ไหมครับ นี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงความสำเร็จในหน้าที่การงานนะครับ
-
เป็นผมเอา 2002 ไปแน่นอน สภาพเนียบๆนี่รวยก็ยังเหนื่อย
-
เป็นผมคงไปหาเช่ารถสปอร์ตแต่งเต็มสูบ จะได้บ่งบอกว่ารวยขนาดมีเงินเหลือทำเรื่องฟุ่มเฟือยได้
ส่วนตัวผมว่าเป็นเรื่องไร้สาระมาก อย่างเวลาเราไปดีลงานใครเนี่ยเราไม่ได้ไปนั่งมองรถไปทำสัญญาไปซักหน่อยถ้ามีบริษัทไหนคิดเรื่องรถที่ขับมาเป็นตัวบ่งบอกความน่าเชื่อถือผมว่าแย่แล้วล่ะครับ หลอกง่ายจริงๆ
-
เป็นตัวของตัวเราเอง เราเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น ไม่ต้องเส้แสร้ง ผมแนะนำตามนี้ เพราะผมปฎิบัติและประพฤติเช่นนี้ ผมเพิ่งยื่นแบบภาษีภงด 90 เมื่อเร็วนี้มียอดเสียภาษีของปีที่ผ่านมาร่วมหนึ่งล้านเจ็ดแสน (เท่ากับรถหรูหนึ่งคัน) ผมยังขับรถที่ผมมีและพอใจกับมัน ไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะมองอย่างไร
เราควรเสริมสร้างความคิดค่านิยมที่ถูกต้อง ว่าเราควรทำตามหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริต และภูมิใจในตัวเอง ผมทำงานสุจริตและเสียภาษีครบถ้วน
-
เชียร์ให้เอา f10 ไปครับ
-- ผู้บรรยาย บรรยาย พูดถึงการประสบความสำเร็จในอาชีพ
ให้รุ่นน้องฟัง บรรยายจบ เดินขึ้น f10 ขับออกไปช้าๆ ดูสง่าดีครับ
(ระดับรายได้ขนาดนี้ ก็สามารถซื้อรถ 3-4 ล้านได้ ไม่ใช่อวดอ้าง แค่ไม่ซื้อ)
-- เด็กมหาวิทยาลัยสมัยนี้ ขับรถยุโรปเป็นว่าเล่น
Camry ไม่ใช่ดูไม่ดี แต่มันไม่เสริมความน่าเชื่อถือเท่ารถยุโรปครับ
-- ผมเคยไปฟังบรรยายเรื่อง เทคนิคการขาย , การหาลูกค้า , การสร้างยอดขาย ฯลฯ
ออกจากห้องประชุม วิทยากรขึ้น camry บ้าง accord บ้าง teana บ้าง
บอกตรงๆ ที่ฟังเค้าพูดมาเป็นชั่วโมงๆ ผมกลายเป็นเฉยๆ ไปเลย
(ถ้าออกมาขับ super car ผมคงวิ่งไปขอตำรารวยเค้าอีกรอบ)
โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ ครับ ไม่ได้จะแนะนำให้บ้าทุนนิยม
แต่ควรจะต้องสร้างความประทับใจ ภูมิใจ ทั้งต่อตัวผู้พูด ผู้ฟัง และผู้เชิญไป ครับ
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็น และประสบการณ์ส่วนตัวครับ
ลองคิดอีกด้านนะครับ ถ้าวันหลังมีคนไปเจอคนนี้ขับ camry เค้าอาจจะคิดก็ได้ว่าคนนี้มันเอาขับรถ F10 มาสร้างภาพ
แต่ถ้าขับ camry ไปเค้ารุ่นน้อง หรือ อาจารย์อาจจะมองว่า สมฐานะ ไม่ทำอะไรเกินตัว เป็นหนึ่งเหตุผลที่เค้าประสบความสำเร็จก็ได้นะครับ
-
เอาแคมรี่ไป
ตอนบรรยาย ถ้ามีโอกาสก็ทำให้คนฟังรู้ว่ารถที่ขับมาวันนี้เป็นรถประจำตำแหน่ง
-
ุถ้าไปประกาศความสำเร็จให้พวกขายตรง --> คุณต้องเช่ารถซูปเปอร์คาร์ไป
ถ้าไปบรรยายให้รุ่นน้องฟัง --> เอาอะไรไปก็ไม่ต่าง เพราะคงไม่ได้ไปบรรยายที่ลาดจอดรถ และ ในมุมมองนักศึกษาสมัยนี้ ทั้งสองคันนั้นก็ไม่ต่างเท่าไรหรอกครับ เพื่อนคุณโปรไฟล์ดีที่เก่ง ไม่ใช่ที่บ้านรวย
-
แค่ 250000 ผมบอกตรงๆ ผมรู้สึกเฉยๆ ครับ ถึงตอนนี้ผมจะยังเรียนไม่จบแต่ก็เฉยๆ ครับ
แต่ถ้าถามว่าเอารถอะไรไปดั เอารถที่เขาทำให้พี่คุณประสบความสำเร็จครับ คนรู้จักผมตอนนี้เป็นเจ้าของโรงเรียนเอกชนชื่นดังมีสาชาเต็มไปหมด........ตอนที่เขาได้รับเชิญไปบรรยายงานต่างๆ ไปออกงานสังคม ไปด้วยรถตู้ VW โฮม VR6 โน่น เหตุเพราะนั่งสบาย แค่นั้นครับ...
เคยเห็นครั้งนึงเขาไปบรรยายที่มหาลัย....เขาเอา Toyota Hilux Hero คันที่สร้างเขามาถึงวันนี้ไปครับ....ไม่จำเป็นต้องหรู.....ไม่เห็นมีอะไรเลย...ค่านิยมรถ มันผิดๆน่ะครับ....ฮ๋าๆๆๆๆๆๆ
ถ้าจะไปงานแบบนี้แต่ไปเช่ารถแพงๆ มา...ไร้สาระสิ้นดีเลยครับ รถแพงๆ หรูๆ มันคือของเล่น คุณมั่นใจหรือเปล่า ที่พร้อมจะมีของเล่นระดับนั้นอ่ะครับ
-
มหาลัยผม มีถึง R8 GTR R35 Lamborghini Porsche 911
เกรงว่าถ้าผมต้องหารถมาให้ภาพลักษณ์ดีกว่ารุ่นน้องคงยากอ่ะครับ
ผมแนะนำว่าขับคันเก่งไปครับ คันที่อยู่กับเค้ามาตลอด พาเค้าไปทำงาน พาเค้าไปเที่ยว นั่นแหละ รถที่ภาพลักษณ์ดีทั้งคุณและคนรอบข้าง
-
ไม่ได้ว่านะ แต่สังคมไทยมันนิยมเปลือกเลยต้องเป็นแบบนี้ ก็ดู แม้แต่คนที่เป็นคนที่สังคมยกย่องว่าเก่งฉลาด ยังคิดแบบนี้ อย่าสร้างภาพเลย ยิ่งเป็นภาพลักษณ์จอมปลอมยิ่งไปกันใหญ่
-
เชียร์ให้เอา f10 ไปครับ
-- ผู้บรรยาย บรรยาย พูดถึงการประสบความสำเร็จในอาชีพ
ให้รุ่นน้องฟัง บรรยายจบ เดินขึ้น f10 ขับออกไปช้าๆ ดูสง่าดีครับ
(ระดับรายได้ขนาดนี้ ก็สามารถซื้อรถ 3-4 ล้านได้ ไม่ใช่อวดอ้าง แค่ไม่ซื้อ)
-- เด็กมหาวิทยาลัยสมัยนี้ ขับรถยุโรปเป็นว่าเล่น
Camry ไม่ใช่ดูไม่ดี แต่มันไม่เสริมความน่าเชื่อถือเท่ารถยุโรปครับ
-- ผมเคยไปฟังบรรยายเรื่อง เทคนิคการขาย , การหาลูกค้า , การสร้างยอดขาย ฯลฯ
ออกจากห้องประชุม วิทยากรขึ้น camry บ้าง accord บ้าง teana บ้าง
บอกตรงๆ ที่ฟังเค้าพูดมาเป็นชั่วโมงๆ ผมกลายเป็นเฉยๆ ไปเลย
(ถ้าออกมาขับ super car ผมคงวิ่งไปขอตำรารวยเค้าอีกรอบ)
โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ ครับ ไม่ได้จะแนะนำให้บ้าทุนนิยม
แต่ควรจะต้องสร้างความประทับใจ ภูมิใจ ทั้งต่อตัวผู้พูด ผู้ฟัง และผู้เชิญไป ครับ
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็น และประสบการณ์ส่วนตัวครับ
ลองคิดอีกด้านนะครับ ถ้าวันหลังมีคนไปเจอคนนี้ขับ camry เค้าอาจจะคิดก็ได้ว่าคนนี้มันเอาขับรถ F10 มาสร้างภาพ
แต่ถ้าขับ camry ไปเค้ารุ่นน้อง หรือ อาจารย์อาจจะมองว่า สมฐานะ ไม่ทำอะไรเกินตัว เป็นหนึ่งเหตุผลที่เค้าประสบความสำเร็จก็ได้นะครับ
ไม่ต้องคิดเผื่อไปไกลขนาดนั้นหรอกครับ รถมีได้หลายคันครับ แหม่
ผมแนะนำบนข้อมูลที่ว่า มีรถ f10 ของพี่ให้ยืม ,
มีเงินเดือนระดับนึง ที่ซื้อรถประมาณนี้ไหว , และไปออกงาน
ที่นานๆ ทีจะมีโอกาสแบบนี้ครับ
เหมือนเวลาจะไปงานกินเลี้ยงโรงแรมหรูๆ มีรถที่บ้าน
(ของคนในครอบครัว) ให้เลือกหยิบยืมได้ ก็ขอเลือกคันที่ดูดีกว่านิดนึง
แต่ก็ไม่ใช่จะไปเช่ารถแพงๆ เป็นสิบล้าน มาโชว์ อันนี้ก็เกินไปครับ
-
ยืมได้ก็ยืมคับ แต่ถ้ายืมยากก็ขับคันเดิมไปจบ ไม่ได้เสียหายอะไรเลยครับผม
รถมันก็เปนแค่เปลือกอะคับ ผมว่าเลือกแค่ที่เราพอใจกะมันที่สุดนั่นคือที่สุดแล้ว
ปล.GM โรงแรมท่านหนึ่งที่ผมไปฝึกงานมา ใช้ฟอจูนเนอร์ทั้งๆ ที่ รายได้หลักล้านคับ :o
-
พี่ชายเต็มใจให้ยืม ก็ยืมเถอะครับ ^^
เชียร์ F10 ครับ
-
ถ้างานแบบนี้ เป็นผมจะขับรถตัวเองไป เพราะเขาเชิญไปบรรยายถึงตัวคุณเอง ความสำเร็จของคุณ อะไรที่ไม่ใช่ของผม ผมคงจะไม่เอาไปอวด ไปโชว์ เพียงเพื่อแสดงถึงความสำเร็จของตัวเอง มันดูยังไงๆ อยู่...ถึงแม้จะเป็นรถของพี่ หรือของพ่อของแม่ก็ตาม
แต่ถ้ายืมรถพี่ หรือรถเพื่อน ขับโก้ไปร้านเหล้า อวดสาว เที่ยวเล่น อันนี้ไม่ซีเรียส มันให้ยืมก็ยืม เพราะผมก็เคยเปลี่ยนรถกันขับกับน้องชายเหมือนกัน ^^
-
จริงๆ ก็ไม่ได้แปลกใจกับคำถาม แต่เกรงว่า การทำแบบนี้คือการหลอกให้ดูดีหรือเปล่าครับ
เอาตัวตนจริงๆ ไปดีกว่ามั้ยครับ ขับคันไหนอยู่ ก็เอาคันนั้นไป คุณค่าตัวเขาไม่ได้ด้อยลงหรอกครับ แล้วผมเชื่อว่า การที่ได้รับเลือกเป็นศิษย์เก่าดีเด่น เขาก็ไม่ไปดูใช่ไหม รุ่นพี่คุณขับรถอะไรไป เขาวัดจากอะไรหละครับ ก็โชว์สิ่งนั้นให้กับรุ่นน้องดู ดีกว่ามั้ย
ผมแปลกใจกับคำตอบคุณ TRcdi นิดหน่อย เพราะที่คุณว่าไปฟังบรรยาย แล้วเขาขึ้นรถญี่ปุ่น คุณกลายเป็นเฉยๆ กับสิ่งที่เขาพูดไป คุณรู้ได้ไง ในบัญชีเขาอาจจะมีหลายสิบล้าน หลายร้อยล้าน เพียงเพราะเขาไม่ได้บ้ารถ ไม่ได้ชอบจะขับรถแพง หรือเขาอาจจะมีทุกยี่ห้อที่ดังๆ แต่ขี้เกียจเอามา วันนั้นไม่ได้ล้าง หรืออะไรก็ได้ เราไม่สามารถรู้ได้เลย ผมว่าเรามองเปลือกนอกกันมากไปแล้วหรือไม่ครับ พอดีมีคนที่ผมรู้จัก เขารายได้เดือนละ 5แสน ขับ nissan เก่าๆ 10 กว่าปี ไม่เห็นสนใจ ถามทำไมไม่เปลี่ยนรถ เขาบอก ก็ไม่ได้ชอบ ยังไม่พัง คันนี้เป็นคันแรกที่ซื้อด้วยเงินสด ก็อยากเก็บไว้ จบข่าว ส่วนอีกคน มีแน่ๆ เดือนละล้าน มีเงินในบัญชีไม่ต้องนับ ก็ขับแค่ F10 5 ปีเปลี่ยนรถที BM หรือ MB ออกรุ่นใหม่ตอนไหน ก็เปลี่ยน ไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาซื้อ lambo เงินสดยังได้หลายคันเลย
อยากฝากไว้ ไม่อยากให้เราๆ มองคนที่เปลือกแบบนี้จริงๆ ไม่แปลกใจ ที่ทำไม รุ่นพี่ จขกท ถึงได้มีความคิดนี้มาถามได้ไงครับ
-
อยากรู้สถาบันขึ้นมาตะหงิดๆ
มีคนคิดอะไรแบบนี้ด้วยหรอ ดีเด่นด้านอะไรพอจะแชรได้ไหมครับ อยากทราบจริงๆ
-
จริงๆ ก็ไม่ได้แปลกใจกับคำถาม แต่เกรงว่า การทำแบบนี้คือการหลอกให้ดูดีหรือเปล่าครับ
เอาตัวตนจริงๆ ไปดีกว่ามั้ยครับ ขับคันไหนอยู่ ก็เอาคันนั้นไป คุณค่าตัวเขาไม่ได้ด้อยลงหรอกครับ แล้วผมเชื่อว่า การที่ได้รับเลือกเป็นศิษย์เก่าดีเด่น เขาก็ไม่ไปดูใช่ไหม รุ่นพี่คุณขับรถอะไรไป เขาวัดจากอะไรหละครับ ก็โชว์สิ่งนั้นให้กับรุ่นน้องดู ดีกว่ามั้ย
ผมแปลกใจกับคำตอบคุณ TRcdi นิดหน่อย เพราะที่คุณว่าไปฟังบรรยาย แล้วเขาขึ้นรถญี่ปุ่น คุณกลายเป็นเฉยๆ กับสิ่งที่เขาพูดไป คุณรู้ได้ไง ในบัญชีเขาอาจจะมีหลายสิบล้าน หลายร้อยล้าน เพียงเพราะเขาไม่ได้บ้ารถ ไม่ได้ชอบจะขับรถแพง หรือเขาอาจจะมีทุกยี่ห้อที่ดังๆ แต่ขี้เกียจเอามา วันนั้นไม่ได้ล้าง หรืออะไรก็ได้ เราไม่สามารถรู้ได้เลย ผมว่าเรามองเปลือกนอกกันมากไปแล้วหรือไม่ครับ พอดีมีคนที่ผมรู้จัก เขารายได้เดือนละ 5แสน ขับ nissan เก่าๆ 10 กว่าปี ไม่เห็นสนใจ ถามทำไมไม่เปลี่ยนรถ เขาบอก ก็ไม่ได้ชอบ ยังไม่พัง คันนี้เป็นคันแรกที่ซื้อด้วยเงินสด ก็อยากเก็บไว้ จบข่าว ส่วนอีกคน มีแน่ๆ เดือนละล้าน มีเงินในบัญชีไม่ต้องนับ ก็ขับแค่ F10 5 ปีเปลี่ยนรถที BM หรือ MB ออกรุ่นใหม่ตอนไหน ก็เปลี่ยน ไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาซื้อ lambo เงินสดยังได้หลายคันเลย
อยากฝากไว้ ไม่อยากให้เราๆ มองคนที่เปลือกแบบนี้จริงๆ ไม่แปลกใจ ที่ทำไม รุ่นพี่ จขกท ถึงได้มีความคิดนี้มาถามได้ไงครับ
ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับคุณ monn
ผมกล่าวไว้แล้วว่า เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่ผมเจอมา ผู้บรรยายมาสอนให้รวย
และผมก็ไม่ได้รู้จักผู้บรรยายดีขนาดว่า เค้ามีเงินในบัญชีเท่าไหร่ บ้านหลังใหญ่มั้ย
มีรถ lambo จอดอยู่ที่บ้านหรือไม่
ผมรับรู้จากการฟังว่า วิทยากรคุยเก่ง จินตนาการกว้างไกล ฟังดูร่ำรวย มีพร้อมทุกอย่าง
แต่พอได้เห็นพาหนะที่เค้าใช้ ผมก็แค่ขาดศรัทธาไป ก็เท่านั้นครับ (ก็มีสิ่งยืนยันที่จับต้องได้
ถึงความรวยของเค้า ให้ผมได้เห็นแค่นี้ครับ)
ถ้าเป็นอาจารย์ผมที่จุฬา ท่านจะปั่นจักรยาน ขึ้นรถเมล์ หรือไม่มีรถขับ ก็ไม่ได้มองจุดนั้นครับ
ต้องดูเป็นกรณีๆ ไปครับ
ส่วนใครจะมีเงินเดือนกี่แสน กี่ล้าน อันนี้ไม่มีความเห็นครับ คนละประเด็นกัน
-
จริงๆ ก็ไม่ได้แปลกใจกับคำถาม แต่เกรงว่า การทำแบบนี้คือการหลอกให้ดูดีหรือเปล่าครับ
เอาตัวตนจริงๆ ไปดีกว่ามั้ยครับ ขับคันไหนอยู่ ก็เอาคันนั้นไป คุณค่าตัวเขาไม่ได้ด้อยลงหรอกครับ แล้วผมเชื่อว่า การที่ได้รับเลือกเป็นศิษย์เก่าดีเด่น เขาก็ไม่ไปดูใช่ไหม รุ่นพี่คุณขับรถอะไรไป เขาวัดจากอะไรหละครับ ก็โชว์สิ่งนั้นให้กับรุ่นน้องดู ดีกว่ามั้ย
ผมแปลกใจกับคำตอบคุณ TRcdi นิดหน่อย เพราะที่คุณว่าไปฟังบรรยาย แล้วเขาขึ้นรถญี่ปุ่น คุณกลายเป็นเฉยๆ กับสิ่งที่เขาพูดไป คุณรู้ได้ไง ในบัญชีเขาอาจจะมีหลายสิบล้าน หลายร้อยล้าน เพียงเพราะเขาไม่ได้บ้ารถ ไม่ได้ชอบจะขับรถแพง หรือเขาอาจจะมีทุกยี่ห้อที่ดังๆ แต่ขี้เกียจเอามา วันนั้นไม่ได้ล้าง หรืออะไรก็ได้ เราไม่สามารถรู้ได้เลย ผมว่าเรามองเปลือกนอกกันมากไปแล้วหรือไม่ครับ พอดีมีคนที่ผมรู้จัก เขารายได้เดือนละ 5แสน ขับ nissan เก่าๆ 10 กว่าปี ไม่เห็นสนใจ ถามทำไมไม่เปลี่ยนรถ เขาบอก ก็ไม่ได้ชอบ ยังไม่พัง คันนี้เป็นคันแรกที่ซื้อด้วยเงินสด ก็อยากเก็บไว้ จบข่าว ส่วนอีกคน มีแน่ๆ เดือนละล้าน มีเงินในบัญชีไม่ต้องนับ ก็ขับแค่ F10 5 ปีเปลี่ยนรถที BM หรือ MB ออกรุ่นใหม่ตอนไหน ก็เปลี่ยน ไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาซื้อ lambo เงินสดยังได้หลายคันเลย
อยากฝากไว้ ไม่อยากให้เราๆ มองคนที่เปลือกแบบนี้จริงๆ ไม่แปลกใจ ที่ทำไม รุ่นพี่ จขกท ถึงได้มีความคิดนี้มาถามได้ไงครับ
ไม่แปลกหรอกครับ ถามความเห็นแบบนี้ในเวปรถ คนที่นี่ทุกคนชื่นชอบรถ บางคนอาจจะยอมจ่ายเงินหลายล้านซื้อรถ เพราะความชอบ และอยากให้ตัวเองดูดี ได้ขับรถดีๆ
แต่ถ้าไปถามเกี่ยวกับคนบริหารเงินเก่งๆ หรือ นักลงทุน แต่ไม่ได้ชอบรถ เค้าอาจจะขับรถเก่าๆ เพราะคิดว่าการจ่ายเงินซื้อรถเป็นอะไรที่ไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนก็เป็นได้
ของอย่างงี้ คนเราตัดสินใจไม่เหมือนกันครับ แต่ถ้าผมมีรายได้เดือนละ250,000 ผมคงไม่อยากเอา F10 ไปโชว์แน่ เพราะคนจะคิดว่าเราใช้เงินส่วนใหญ่ของเงินเดือน
ในการผ่อนรถ ถ้าเป็นแบบนี้สมมุติกลับไปเจออาจารย์ด้านการเงิน เค้าคงคิดในใจว่าบริหารเงินไม่ดีแน่ๆ
-
จริงๆ ก็ไม่ได้แปลกใจกับคำถาม แต่เกรงว่า การทำแบบนี้คือการหลอกให้ดูดีหรือเปล่าครับ
เอาตัวตนจริงๆ ไปดีกว่ามั้ยครับ ขับคันไหนอยู่ ก็เอาคันนั้นไป คุณค่าตัวเขาไม่ได้ด้อยลงหรอกครับ แล้วผมเชื่อว่า การที่ได้รับเลือกเป็นศิษย์เก่าดีเด่น เขาก็ไม่ไปดูใช่ไหม รุ่นพี่คุณขับรถอะไรไป เขาวัดจากอะไรหละครับ ก็โชว์สิ่งนั้นให้กับรุ่นน้องดู ดีกว่ามั้ย
ผมแปลกใจกับคำตอบคุณ TRcdi นิดหน่อย เพราะที่คุณว่าไปฟังบรรยาย แล้วเขาขึ้นรถญี่ปุ่น คุณกลายเป็นเฉยๆ กับสิ่งที่เขาพูดไป คุณรู้ได้ไง ในบัญชีเขาอาจจะมีหลายสิบล้าน หลายร้อยล้าน เพียงเพราะเขาไม่ได้บ้ารถ ไม่ได้ชอบจะขับรถแพง หรือเขาอาจจะมีทุกยี่ห้อที่ดังๆ แต่ขี้เกียจเอามา วันนั้นไม่ได้ล้าง หรืออะไรก็ได้ เราไม่สามารถรู้ได้เลย ผมว่าเรามองเปลือกนอกกันมากไปแล้วหรือไม่ครับ พอดีมีคนที่ผมรู้จัก เขารายได้เดือนละ 5แสน ขับ nissan เก่าๆ 10 กว่าปี ไม่เห็นสนใจ ถามทำไมไม่เปลี่ยนรถ เขาบอก ก็ไม่ได้ชอบ ยังไม่พัง คันนี้เป็นคันแรกที่ซื้อด้วยเงินสด ก็อยากเก็บไว้ จบข่าว ส่วนอีกคน มีแน่ๆ เดือนละล้าน มีเงินในบัญชีไม่ต้องนับ ก็ขับแค่ F10 5 ปีเปลี่ยนรถที BM หรือ MB ออกรุ่นใหม่ตอนไหน ก็เปลี่ยน ไม่ได้สนใจอะไรมาก เขาซื้อ lambo เงินสดยังได้หลายคันเลย
อยากฝากไว้ ไม่อยากให้เราๆ มองคนที่เปลือกแบบนี้จริงๆ ไม่แปลกใจ ที่ทำไม รุ่นพี่ จขกท ถึงได้มีความคิดนี้มาถามได้ไงครับ
ไม่แปลกหรอกครับ ถามความเห็นแบบนี้ในเวปรถ คนที่นี่ทุกคนชื่นชอบรถ บางคนอาจจะยอมจ่ายเงินหลายล้านซื้อรถ เพราะความชอบ และอยากให้ตัวเองดูดี ได้ขับรถดีๆ
แต่ถ้าไปถามเกี่ยวกับคนบริหารเงินเก่งๆ หรือ นักลงทุน แต่ไม่ได้ชอบรถ เค้าอาจจะขับรถเก่าๆ เพราะคิดว่าการจ่ายเงินซื้อรถเป็นอะไรที่ไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนก็เป็นได้
ของอย่างงี้ คนเราตัดสินใจไม่เหมือนกันครับ แต่ถ้าผมมีรายได้เดือนละ250,000 ผมคงไม่อยากเอา F10 ไปโชว์แน่ เพราะคนจะคิดว่าเราใช้เงินส่วนใหญ่ของเงินเดือน
ในการผ่อนรถ ถ้าเป็นแบบนี้สมมุติกลับไปเจออาจารย์ด้านการเงิน เค้าคงคิดในใจว่าบริหารเงินไม่ดีแน่ๆ
ถูกต้องเลยครับ เพียงแต่หากถึงกับเช่ารถ ให้รู้สึกว่าสำเร็จ เวลาเจอกันข้างนอกอีกที อ้าว รถพี่ละครับ อ่อ เช่ามาจ๊ะ งงไหม
ผมแค่ว่าให้เป็นตัวตนเถอะ ตัวเองยังไงก็ยังงั้น เพราะเขาเลือกให้คุณดีเด่น เพราะตัวตนของคุณไม่ใช่ขับรถอะไร
ส่วนเรื่องมองคนก็อย่างที่ว่าแหละครับ เอาเป็นว่า การขับรถอะไรไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกว่าคนไหนดีกว่าคนไหน หรือคนไหนประสบความสำเร็จกว่าคนไหนอะครับ ผมก็เพิ่งอ่านเจอ คุณบัญฑิต อึ้งรังสี ใช้ H1 คันเดียว ถูกกว่า d segment อีกนะ แปลว่าเขาไม่ประสบความสำเร็จเหรอ สมมุติไม่รู้จักเขา คุณมองรถ คนนี้เฉยๆ แต่ความจริงเขาสำเร็จมากๆ ประมาณนี้แหละครับ แชร์ความรู้สึกกันนะครับ
-
รู้สึกว่า ถ้าผมเป็นคนฟัง
และผมแอบรู้โดยบังเอิญว่า
guest lecturer หรือรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จ ยืมหรือเช่ารถคนอื่นมาสร้างภาพ
ผมคงตั้งคำถามในใจว่า
1. คนคนนี้ ได้ความสำเร็จด้วยการไม่ตรงไปตรงมา หรือไม่
2. คนคนนี้ สร้างภาพให้เราเห็นแบบหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง แล้วจริงๆแล้ว ตัวตนที่แท้จริง เป็นเหมือนกับที่เค้าบรรยายให้เราฟังเสียสวยงามหรือไม่ หรือ fake เหมือนกัน?
ไม่นิยมครับ
-
Camry ก็พอแล้วคร้าบบบบบบบ
ในมุมมองผม ใครจะใช้รถอะไรไม่สำคัญ เพราะยังไงเราก็ไม่เกี่ยวกับเขา เขาใช้แล้วมีความสุขก็เป็นสิ่งดีแล้วครับ
ใช่ ที่รถเป็นตัวบ่งบอกบุคลิก หน้าที่การงาน แต่มันไม่ใช่ว่าบอกทั้งหมด เพราะฉะนั้น ขอให้เชื่อมั่นในตัวเอง
รถที่เราเลือก รถที่เราใช้ นั่นแหละคือตัวเรา มันต้องมีบางอย่างที่มันสื่อว่าใช่ตัวเรา เราถึงได้เลือก ฉะนั้นไม่ต้องพยายามเป็นอื่นจะดีที่สุด
อีกอย่าง F10 ที่ยืมมาก็เป็นของพี่ชายเขา ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ครับ มันรู้ดีแก่ใจว่าไม่ใช่ของของเราอ่ะ