Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Impulse ที่ มีนาคม 31, 2014, 01:12:19
-
หนึ่งในสิ่งที่ผมและคิดว่าหลายท่านไม่สามารถทดสอบจากรถหนึ่งคันได้ คือการขับ และนั้งโดยสารทางใกล
อะไรทำให้เราเหนื่อยจากการขับ และโดยสาร รถแต่ละคันไม่เท่ากันบ้างครับ ?
-
ท่านั่ง
การซัพแรงกระแทกของตัวรถ (ประเทศสารขันต์พื้นถนนมีลักษณะเหมือนพื้นผิวดวงจันทร์)
กำลังเครื่องยนต์ ยิ่งต้องเค้นกำลังเพื่อแซงมากๆ คนขับยิ่งเครียด
-
การควบคุมพวงมาลัย(บางทีอาจเกร็งเกินไปครับ)
การควบคุมคันเร่ง.เช่นรถที่ไม่มีครูซคอนโทรลก็จะทำให้ขาขวาเมื่อยสุดๆได้ครับ
สภาพภูมิประเทศ เช่น ทางโค้งและชันเยอะๆในภาคเหนือก็ทำให้เราเหนื่อยเพิ่มขึ้นครับ
-
เทียบรถกระบะ VS เก๋ง ดูครับ
วิ่งทางไกลยาวๆ กระบะมันเด้ง สะเทือน ทำให้เกิดความล้า
เทียบค่ายเดียวกัน ให้ขับ BT50 กับ Mazda3 ไปเชียงใหม่
ผมเชื่อว่า คนขับมาสด้า3 จะลงจากรถแล้วไปเที่ยวผับออกสเตปได้เต็มที่และอยู่ถึงผับปิด
ในขณะที่คนขับ BT50 เที่ยวได้เหมือนกัน แต่ก่อนผับปิดขอนั่งพักหน่อยเพราะเหนื่อยกว่า
-
ช่วงล่าง อัตราเร่ง เบาะนั่ง
-
ประกอบด้วยสองส่วน.....
1. รถ ไม่นุ่ม ไม่กระด้าง เกินไป หมายความรวมถึงช่วงล่างและเบาะ รวมทั้งไม่ต้องเอาใจช่วยเวลาจะแซง ขึ้นเขา ฯลฯ เวลาเข้าโค้งไม่เอียงวูบจนเสียวท้องน้อย..ฯลฯ
2. คน มีความมั่นใจในรถ ...มีความสุขเวลานั่งอยู่บนรถ ทำให้ไม่เกิดอาการเกรงเวลาขับ ฯลฯ
-
สำหรับผู้โดยสาร หลักๆ คงอยู่ที่เบาะนั่ง (เพราะไม่ต้องมาเครียดกับการขับเหมือนคนขับ)
แต่ในส่วนของคนขับ นอกจากเบาะนั่งแล้ว
รถที่ต้องใช้สมาธิในการขับมากกว่าก็ทำให้เครียดมากกว่า เช่น ระยะฟรีพวงมาลัยมากเกินไป
-
สำหรับผม เบาะนั่งสบาย พวงมาลัยนิ่ง มีครูสคอนโทรล แค่นี้ก็สบายแล้วครับ ไม่ต้องแรงก็ได้เพราะผมวิ่ง 80 - 100 เอง
จะให้ดีสุด เรียกคนข้าง ๆ มาขับแทนเมื่อยน้อยที่สุด ;D
-
1. เบาะนั่งรองรับต้นข้า ได้หมด ทั้งคนนั่งและคนโดยสาร
2. รถไม่ย้วย ไม่โยก (อันนี้กระบะ ไม่ได้เลย)
3. เครื่องยนต์ตอบสนองดี เร่งแซงปรู้ดปร้าด (ดีเซล เอาไป)
4. ภายในห้องโดยสารเงียบ แอร์เย็นฉ่ำ เครื่องเสียงดี
5. วิสัยทัศน์ในการขับดี (รถยกสูงได้เปรียบ)
6. ยางดี หน้ากว้าง เงียบ เข้าโค้งหนึบ ไม่เอี้ยด
7. ไฟหน้าสว่างไสว และไม่รบกวนเพื่อนร่วมทางที่ต้องดริฟไฟตลอด
8. ระยะเบรคสั้น เอาอยู่ ระบบความปลอดภัยเพียบ ABS, EBD, TRC, ESP, HSA ฯลฯ
สรุป หารถบ้านๆ ไม่เกิน 2 ล้าน ขับแล้วไม่เหนื่อยยากมาก
-
สำหรับผมนะ อยู่ที่เบาะนั่ง ท่านั่ง ช่วงล่าง การซับแรงกระแทก และกำลังของเครื่องยนต์+เกียร์ เพราะบางจังหวะถ้าลุ้นบ่อย ๆ นี่เกร็งจนเมื่อยเลยครับ
-
ตามหลักผมไม่รู้ครับ
แต่ชอบเวลานั่งเบาะคนขับของมาสด้าบีทีครับ
ผมขับไกลสุดวันเดียวระยะทาง 1000 กว่ากิโลเมตร พักแค่เติมน้ำมันหยุดไม่ถึง10นาที
ขับต่อไม่เพลียนะ ผมว่าเบาะมันกระชับดีมันโอบตัวเราพอดี ถ้าขับยี่ห้ออื่นมันเมื่อย มันล้าแถวหลัง ใหล่
บางคันปวดคอด้วยเพราะเบาะมันดันคอดันหัว
ขับจากภูเก็ตไป ตรัง(บ้านแฟน) ไปนครปฐม ไปหาหลวงปู่แย้ม (ไม่เจอ) ขับไปอีกบ้านที่แปดริ้ว สรุปวันนั้นยิงยาวได้ไม่ล้าเท่าไหร่
เท่าที่ขับรถมาเบาะมาสด้าทำออกแบบมาแล้ว ถูกใจคนขับจริงๆ คนนั่งเบาะอื่นไม่รู้นะครับ เพราะปกติผมเป็นคนขับตลอด
มาสด้าสองก็โอเค
-
ต้องเงียบ +1
ขับรถที่เสียงแทรกเข้ามามากๆแล้วหงุดหงิดที่สุดอ่ะ
-
รถบ้านๆที่คุณสามารถโดยสารทางไกลได้ไม่เหนื่อยขอยกให้ J32 ครับนั้นแหละครบแทบทุกประการ
1 - เบาะนั้งที่ถูกลักษณะ และต้องหนานุ่มจริงง ของ J32 เป็นฟองน้ำแบบ 3 ชั้นนะถ้าผมจำไม่ผิด ไม่ใช่แบบ Accord G8 นั้ง 2 ช.มก็เหนื่อยแล้ว
2 - การออกแบบภายในให้ดูผ่อนคลาย
3 - ช่วงล่างที่นุ่มนวล
4 - พวงมาลัยก็มีระยะฟรีนิดหน่อยพอดี นิ่งในความเร็วสูง ทำให้ขับไม่ต้องเกร็ง 140 ก้จับพวงมาลัยมือเดียวได้ ( นี้สำคัญมากครับพวงมาลัย เจอบางคนระยะฟรีเยอะ ควบคุมยาก เหนื่อยมากกว่าจะถึงแต่ละจุดหมาย ) เพราะต้องใช้กล้ามเนื้อหลังในการทำงานมากเกินไปส่งผลให้เหนื่อย
5 - แอร์ต้องเย็นฉ่ำสม่ำเสมอพอดี
ปัจจุบันใช้ L33 ผมยังคิดถึง J32 อยู่เลยครับ เบาะนั้งหน้าสบายกว่าเยอะเลยครับ
-
เครื่อง ต้องแรงและใช้ความเร็วสูงแต่รอบต่ำ เสียงต้องต่ำด้วย
ช่วงล่าง เก็บได้ทุกสภาพถนนและความเร็ว
เบาะ นุ่มและรองรับ นั้งนานไม่ปวดไม่เมื่อย
สำหรับผมตามนี้งับ
-
เครื่องแรงพอสมควร นึกอยากแซงกดแล้วแซงขาดไม่ต้องลุ้นตัวโก่ง
ช่วงล่างไม่นุ่มเกินไปและไม่แข็งเกินไป ถ้านุ่มไปเข้าโค้งแรงๆหรือเปลี่ยนเลนเร็วๆมีเสียว แต่ถ้าแข็งไปเวลาเจอหลุมก็จะแข็งกระด้างไปนั่งไม่สบาย
เบาะนั่งดีโอบกระชับรับตัวไม่แข็งเกินจนดันตัวมากไปและไม่นิ่มเกินจนยวบ
พื้นที่ห้องโดยสารกว้าง
ทัศนวิสัยดีอย่างกระบะกับเอสยูวี จะทำให้เรามองได้ไกลอ่านเกมขาดแซงเปลี่ยนเลนได้ไม่พลาด
แต่จะว่าไปรถตลาดทั่วไปคุณสมบัติที่ว่ามาก็หายากอยู่เหมือนกัน
-
จากหลายๆ คคห.
ผมขอเพิ่ม ทัศนะวิสัย ในการขับขี่ด้วยครับ
-
เบาะ (ถ้าไม่กระชับเมื่อยแน่นอน บางทีแทบล้าา)
แอร์เย็นๆ (แอร์ไม่เย็นนี้เคยขับมาเป็นเดือนทรมาณมากครับเปิดกระจกขับทั้งทาง)
ช่วงล่าง+ยางดีๆ
พวงมาลัยที่ไห้คามพอดี
-
ผมจะขอตอบ แบบสลับคำถามนะครับ
คือขับทางไกล ยังไงแล้วเหนื่อย
ช่วงล่างแข็ง เด้งๆๆๆๆ เหนื่อยมากครับ
เครื่องเร่งไม่ขึ้น เวลาแซงจะเหนื่อย ลุ้นเหนื่อย
พวงมาลัยไม่สัมพันธ์กับคนขับ ผมมองว่าพวกมาลัยหนัก เบา ความต้องการแต่ล่ะคันไม่เท่ากัน
ไม่ชินทาง
แสงสว่างน้อย จะเป็นเพราะไฟถนนไม่เพียงพอ หรือไฟหน้าไม่สว่าง สภาพอากาศ ฝนตก หมอกลง
เบาะนั่งนิ่มหรือแข็งเกินไป นั่งนานๆอาจไม่สบายตัว เมื่อย
รถเตี้ย ผมว่ารถสูงทัศนวิสัยจะดีกว่ามาก
ขับย่านความเร็วที่เริ่มสูง รถสั่น ไม่นิ่ง ต้องคอยแต่งพวงมาลัย เช่นรถกระบะ
สภาพแวดล้อม เวลาขับรถเยอะ รถช้าอยู่ขวา รถบรรทุกเยอะ
คิดออกเท่านี้ล่ะครับ
-
โจทย์แบบนี้ ผมยกให้ SUV ช่วงล่างดีๆ ไม่ก้อSUV แพงๆไปเลย
เช่น
X5 ,X3 ,Caryene ,Audi Q5 ,Mazda cx5 ,Captiva ครับ รถพวกนี้แรงดี ช่วงล่างก้อดี ทัศนะวิสัยดีกว่าเก๋ง
ถ้าผมต้องขับทางไกลบ่อยๆ คงมองเป็นรถพวกนี้ครับ
แต่ปัจจุบัน นานๆจะวิ่งทางไกลที ใช้รถเก๋งก้อเพียงพอครับ ขับ G8 กทม. - เชียงใหม่ มือเดียว ก้อไม่ได้เหนื่อยล้าอะไรมากมาย
พอดียังหนุ่ม 5555
-
จากประสบการณ์ตอนเด็กๆที่บ้านเปลี่ยนรถเรื่อยๆ เดินทาง กทม - สงขลา จันทบุรี - สงขลา บ่อยๆ
ความกว้างห้องโดยสาร (มีผลแน่นอน)
ความโปร่งของห้องโดยสาร (มีทางจิตใจ) พอเข้าใจว่าถ้ามีพวกกระจก Panoramic glass roof น่าจะช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งสบายให้อีก
เบาะนั่ง ตำแหน่งนั่ง มีผลมาก
ช่วงล่าง
ความเงียบ
พวงมาลัย หนัก นิ่ง
บรรยากาศภายในห้องโดยสาร โทนสีในห้องโดยสาร (รถภายในสีสว่าง นั่งแล้วมันรู้สึกกว้างกว่าสบายกว่า ไม่ทึบๆ)
ถ้ารถที่เคยมา นั่งทางไกลแล้วชอบที่สุด คงเป็น E34 ส่วนเคยนั่งก็ S60 แต่แปปเดียว แต่คิดว่าทางไกลน่าจะชิลมากๆ ผมว่าพวก Volvo Lexus นี่ละ บรรยากาศในรถมันน่านั่ง มันสบายๆไม่เยอะไปไม่น้อยไป
F10 ก็อยากลองนั่งดูว่าจะสบายแค่ไหนนะ แต่ภายในBMW มันกระชับตัวไปหน่อย ถึง f10 จะคันใหญ่กว่าแต่ภายในมันบีบๆแคบๆแปลกๆ ;D
-
รถบ้านๆที่คุณสามารถโดยสารทางไกลได้ไม่เหนื่อยขอยกให้ J32 ครับนั้นแหละครบแทบทุกประการ
1 - เบาะนั้งที่ถูกลักษณะ และต้องหนานุ่มจริงง ของ J32 เป็นฟองน้ำแบบ 3 ชั้นนะถ้าผมจำไม่ผิด ไม่ใช่แบบ Accord G8 นั้ง 2 ช.มก็เหนื่อยแล้ว
2 - การออกแบบภายในให้ดูผ่อนคลาย
3 - ช่วงล่างที่นุ่มนวล
4 - พวงมาลัยก็มีระยะฟรีนิดหน่อยพอดี นิ่งในความเร็วสูง ทำให้ขับไม่ต้องเกร็ง 140 ก้จับพวงมาลัยมือเดียวได้ ( นี้สำคัญมากครับพวงมาลัย เจอบางคนระยะฟรีเยอะ ควบคุมยาก เหนื่อยมากกว่าจะถึงแต่ละจุดหมาย ) เพราะต้องใช้กล้ามเนื้อหลังในการทำงานมากเกินไปส่งผลให้เหนื่อย
5 - แอร์ต้องเย็นฉ่ำสม่ำเสมอพอดี
ปัจจุบันใช้ L33 ผมยังคิดถึง J32 อยู่เลยครับ เบาะนั้งหน้าสบายกว่าเยอะเลยครับ
ใช้ครับผมยังอยากได้ J32 อีกครั้งเลย เทียบจาก
Civic Coupe ขึ้นเหนือ เชียงใหม่รวดเดียว เพลียครับจอดแวะ 3 ครั้งเติมมน้ำมัน เข้าห้องน้ำ
Civic ES ขับสบายๆ ขึ้นชม. ลงภูเก็ต สบายกว่า Coupe
Mazda 3 BK ลงภูเก็ตเจอถนนเหนือยครับ ช่วงล่างมันตึงไป
Teana 250 J32 ขึ้นเหสือ ปาย ลงภูเก็ต สบายสุดครับ พวงมาลัยนิ่ง ช่วงล่างนุ่ม
Jazz GE แค่ 200 กม ก็เหนื่อยครับ ช่วงล่างตึงตัง แต่พวงนิ่งดี
Freed SE ขับ 300 กม. กำลังดีไปเรื่อย นุ่ม สนุกกันในรถ
Sylphy 1.8ขึ้นปาย พวงเบาไป เหนื่อยครับ แต่ได้ความนุ่ม เลยไม่เท่า Mazda3
-
ให้ความสำคัญกับความเงียบ การเก็บเสียง ในห้องโดยสารที่สุด
แต่จริงๆแล้ว มันยากเหมือนกัน ที่จะทำให้รถเงียบได้ องค์ประกอบหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นวัสดุบุพื้นผิว ความหนาของกระจก การเดินของเครื่องยนต์
นอกจากนี้ความสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ และ ช่วงล่าง ก็สำคัญไม่แพ้กัน
การออกแบบภายใน เบาะนั่งที่รองรับสรีระ
เคยใช้ yaris crvg3 accord teanaj32
ก็เลือกตามโจทย์พวกนี้แหละครับ
หาซื้อรถนั่งสบาย ดูปัจจัยพวกนี้เป็นอันดับต้นๆ เลย
-
ผมว่าท่านั่งกับบรรยากาศสำคัญสุด
ขับคนเดียวหรือกับเพื่อนที่ไม่พูดมาก เปิดเพลงTrance ญี่ปุ่นฟังตลอดทางขับ6ชั่วโมงก็ยังสบายๆ
ขับกับคนแก่เจอระบบครุยซ์คอนโทรลอนาล็อก"เฮ้ยเกิน100แล้วจะรีบไปไหน" แบบนี้ชั่วโมงเดียวก็เพลียแล้ว
-
ถ้าว่าตามทฤษฎีแล้ว รถชนิดที่คำอธิบายตรงตามนี้ก็คือรถประเภท Grand Tourer หรือว่า GT นะครับ
ซึ่งรถGT ส่วนมากก็จะเป็นรถพวกคูเป้ สมรรรถนะสูง เช่น benz sls ,bmw serie 6
-
เท่าที่เคยขับมา ที่ขับแล้วไม่เครียด ไม่เมื่อย ไม่เหนื่อย ยามเดินมางไกลยาวๆ(จากเหนือมาชลบุรี) ชอบที่สุดก็
Ford Escape V6 3.0
1.อัตราเร่งดี ถนนสองเลนแซงแบบไม่ต้องลุ้น
2 ช่วงล่างซับแรงได้กำลังดี
3ทัศนวิศัยดีเนื่องจากสูงกว่ารถเก๋งทำให้มองทางข้างหน้าได้ดีกว่า
4.ยางแก้มหนาไม่ต้องกลัวหลุม(ถ้าขับรถเก๋งยางแก้มเตี้ยผมจะกลัวหลุมเป็นพิเศษ ก็ยางมันแพงนิ่)
เสียอย่างเดียว...........มาเครียดตอนควักกระเป๋าจ่ายค่ำน้ำมัน กับค่าซ่อมนี่แหละ ::)
-
ใช้คนขับให้ครับ แล้วก็หลับตลอดทาง
สบายสุดครับ
หรือไม่ก็
ขึ้นเครื่อง แล้วให้คนไปรับที่สนามบินครับ สบายสุดๆ
//ฟิ้วววววววว หนีดีกว่า ;D ;D ;D
-
เคยลองรถเก่าๆอย่าง VX80 ใหม?
-
ถ้าเอาที่จำได้ว่าสบายสุดๆเลยก็ land cruie vx100 limit ตัวดีเซล v6
ช่วงล่าง นุ่ม สบาย ไม่กระแทกเลย แม้จะขับที่ 120-140 แล้วเจอหลุมก็ตาม เข้าโค้งก็ตัวรถไม่ค่อยเอียง ไม่ไถลไปกับเบาะ
ทัศนะวิสัย โล่ง ดูได้กว้างตา ไม่อึดอัด
การขับขี่ พวงมาลัย สไตล์โตโยต้า acv40 แต่จะหนักกว่านิด แต่จะคมกว่านิดหน่อย อัตราเร่งดีมีกระตุกจังหวัะเกียร์ 2 นิดๆ นอกนั้นดึงยาวๆ 150-160
-
อืม J32 ผมขับแล้วเครียด พวงมาลัยไม่นิ่งเท่าไร เบาๆหวิวๆ, คันเร่งหน่วง, นั่งสบายเฉพาะคนนั่ง
โดยส่วนตัว รถที่ขับสบายไม่เหนื่อย
1. พวงมาลัยนิ่ง คม หนึดตามความเร็ว
2. แรงม้ามีซัก 250-300 แรงบิดสูงหน่อย
3. คันเร่งแบบสาย แต่ถ้าเป็นไฟฟ้าต้องไม่หน่วงนัก
4. ช่วงล่างซับแรงกระแทกได้ดี ไม่แข็งเกินไป, หน้ายางกว้างหน่อยเกาะถนนมากๆ
5. เบาะโอบไหล่, โอบเอว ตัวอย่าง Recaro ไม่เมื่อยดี เบาะเตี้ยหน่อย แนวขาตั้งฉากกับคันเร่งมากหน่อย
คันที่เคยขับอย่างที่ว่า ขับไปโคราช เหมือนขับมาหน้าปากซอย ไม่เมื่อยเลย
-
รถแบบ Series 5 e39 หรือ e-class มั๊งครับ ส่วนตัวผมใช้ e39 ขับไกลๆหรือนานๆ ก็ไม่ล้ามากนะครับ นิ่งดี
-
ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย
พักพิงหลังจัดแนวโค้งรับแผ่นหลังได้ดี
เบาะรองนั่งไม่ปาดมุมเยอะเกิน
ช่วงล่างที่ซับแรงสะเทือนจากถนนได้ดี
ล้อวงไม่ใหญ่เวอร์ ยางไม่หนาจนย้วย
ไม่แก้มเตี้ยเกินจนเด้ง
ขึ้นสะพานข้ามคลองทีเดียวอยู่
ที่ผมมีอยู่ที่บ้าน
พรีอุสถ้าขับทางไกลนี่สบายมาก
ช่วงล่างดีเกินคาดแม้จะเป็นคานบิด
ล้อ 16 สปอร์ติโว่ ทำให้รถตึงตังขึ้นมานิดนึง แต่ไม่มาก
ขับมือเดียว 500 กว่าโลก็ทำมาแล้ว
แต่แวะปั๊มเพราะปวดเยี่ยว
แจ็ส 2012
ที่หลายคนบอกกระด้าง ถ้าเป็นรุ่นล่างล้อ 15 ยาง 175/65
จะนิ่มกว่าตัวท็อปนิดนึง
และด้วยความที่คนบ้านผมเป็นประเภท ตูดรากหญ้ากันยกครัว
เลยไม่ค่อยเจอปัญหาเมื่อยล้าอย่างที่หลายคนเป็นกัน
แต่ตอนนี้ไปโหลดสปริงมา ยาง205/50 ล้อ 16
แข็งขึ้นมาก
กำลังจะพิจารณาเปลี่ยนล้อ 15 เพื่อให้นั่งสบายขึ้น
-
ขับทางไกลเนี่ย... S-CLASS , SERIE 7 เวิร์คชัวร์ ;D ;D
-
ผมว่า ES300H ครับ สบายแน่นอน
แต่แพง ;D
-
ขอเทียบเฉพาะรถของตัวเองที่เคยขับนะครับ
เส้นทาง กรุงเทพ-เชียงใหม่ รถยนต์ที่ใช้
1. Mitsubishi Spacewagon 2.4 gt
2. Toyota Camry 2.0g
3. Hyundai Grandstarex
4. Mercedes Benz E250CDI
5. Volvo XC60 D4
เรียงลำดับความสบายของเบาะนั่งนะครับ ผมขับมือเดียวแวะห้องน้ำครั้งถึงสองครั้งเท่านั้น
5-4-2-1-3
เรียงลำดับอัตราเร่งนะครับ
4-5-3-1-2
เรียงลำดับช่วงล่าง
5-4-1-3-2
คะแนนความพึงพอใจรวม ของพลขับ
4,5เท่ากัน-1-3-2
ความสบายโดยรวมในการโดยสารที่เบาะหลัง(สอบถาม ผบ.)
4-3-1-5-2
-
ผมไม่ค่อยเข้าใจจริงๆกับขับทางไกลแล้วเหนื่อย ปกติยกตัวอย่างจากตัวเอง ตื่นเช้ามืดเดินทางไกล 900 KM ถึงที่หมาย บ่ายๆ พอถึงแล้วรู้สึกง่วง แบบนี้คือเหนื่อยถูกมั้ยครับ แต่จริงๆผมง่วงจากการตื่นเช้ามืดมากกว่าการล้าจากการขับรถ แบบนี้เข้าทำนองไหน เหนื่อยหรือไม่เหนื่อย
หรืออีกกรณี ตื่นสายๆ เดินทาง 600 KM ไปถึงที่หมายเย็นๆ แล้วออกไปเที่ยวได้ต่อจนค่ำกลับมาหลับเอาเป็นเอาตาย แบบนี้คือเหนื่อยถูกมั้ย
ไม่เข้าใจจริงๆนะขับรถแล้วเหนื่อยในการขับทางไกลแบบปกติของคนทั่วไป
//
ส่วนตัวเคยทำสถิติใน 24 ชั่วโมง 1400+- KM เคยมาแล้ว กระบี่ - หาดใหญ่ - กทม + รวมซื้อของกิมหยงด้วย พอถึงที่หมายอันนี้ง่วงนอนมากเพราะไม่ได้นอนเลย อันนี้ใช่แน่ขับแล้วเหนื่อยเพราะมากไป