Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Impulse ที่ เมษายน 06, 2014, 16:38:27
-
ผมเห็นคำโฆษณาบ่อยๆ ในทำนองว่า "เชิญทดลองขับ"ไม่ว่ากับรุ่นที่เปิดตัวใหม่หรือ ต้องการกระตุ้นความสนใจ
บางทีถึงกับออกโฆษณาว่า "เชิญทดลองขับ รับฟรี_____ มูลค่า _____"
แล้วการที่เราเข้าไปลองขับ โดยที่ ไม่ได้มี ความคิดอยากจะซื้อ มันเป็นการเสียมารยาทมั๊ยครับ ?
แล้วพอเราเข้าไปทดลองขับแล้วใครได้อะไร เสียอะไร ทำไมถึงขั้นเอาของแถมมาล่อ เพื่ออยากให้มาทดลอง
-
เย้!!! มีคนคิดเหมือนเราละ
ผมก็เป็นคนนึงที่อยากขับคันนู้นคันนี้นะ อย่างมาสด้า 3 ใหม่นี่ยิ่งอยากเลย
แต่ด้านหนึ่งก็ไม่อยากเนียนเพราะถ้าไม่มีแผนการซื้อรถคงไม่เข้าไปติดต่อทดลองขับ
ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่ได้ทำงานทางสายยานยนต์ด้วย
ปล่อยให้เป็นหน้าที่คนทำงานด้านนี้เขาขับแล้วทำบทความมาลงให้อ่านดีกว่า
บางครั้งไม่รู้หน้ารู้ใจ ว่าเซลล์คนที่มาแนะนำสินค้านั้นมองเราเป็น
"ลูกค้าเพื่อการปิดจ็อบของเดือนนี้" หรืออาจจะเป็น "ลูกค้าคนแรกในชีวิตการทำงานเป็นเซลล์ของเขา" ก็เป็นได้
ทุกวันนี้ยังรู้สึกผิดที่ไปลองขับฟอร์ด โฟกัส 2012 อยู่เลย ขับเสร็จ หายตัวแว้บบบ กลับบ้าน
-
ผมว่าใจเขา ใจเราครับ
ถ้าเราไม่ได้สนใจจะซื้อรถรุ่นนั้น
ก็อย่าไปทำให้เขาเสียเวลา
เสียค่าน้ำมันเลย
-
ผมหน่ะ ถ้าไม่คิดจะซื้อรถก็ไม่ทดลองขับครับ เกรงใจ
-
ผมคิดต่างครับ
ผมชอบจะไปลองขับ หลายๆรุ่น หลายๆยี่ห้อ หลายๆเกรด
และผมจะบอกเซลล์เสมอว่า ผมอยากลองขับเพื่อการตัดสินใจ และอยากรู้นิสัยใจคอรถ แต่ไม่ใช่ว่าผมจะซื้อตอนนี้
เชื่อไหมครับว่ามีแค่ honda ศูนย์ใกล้ nelson ชลบุรีที่เดียวเท่านั้นที่ไม่ยินดีให้ลอง
แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา
ถามว่าเกรงใจไหม เกรงใจครับ แต่รถไม่ใช่คันละหมื่นสองหมื่น ซื้อเสื้อเรายังลองจนกว่าจะชอบ
บางครั้งก็ลองแบบที่ไม่เคยใส่ เพราะอยากรู้ว่ามันจะเข้ากับผมไหม และหลายครั้งผมก็ได้เสื้อผ้าแบบที่เคยคิดจะไม่ใส่
-
ระวังเป็นแบบผมน่ะครับ
ตอนแรกว่าจะไม่ซื้อ
แต่พอลองขับเ่านั้นแหละ.........เก็บตังค์ด่วนเลย ;D ;D
-
ในอีกมุมมองนึงนะครับ ผมว่าเป็นผลดีทั้ง 2 ฝ่าย แม้ว่าเราจะยังไม่มีความตั้งใจจะซื้อตอนนี้ แต่อนาคตมันก็ไม่แน่!!
คุณอาจถูกหวยเดือนหน้าแล้วทำให้นึกอยากจะซื้อรถคันนั้นก็เป็นได้
หรือมีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องมาปรึกษาคุณ คุณก็นำข้อมูลจากการทดลองขับรถรุ่นนั้นไปบอกกล่าวและแนะนำได้
มันอาจจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับการตัดสินใจซื้อรถของบุคคลเหล่านั้น
ถ้ารถดีจริง มีผู้คนชมและบอกต่อกันปากต่อปาก นั้นแหละครับคือจุดประสงค์ที่ทางค่ายรถต้องการจากคนที่มาทดลองขับรถของเค้า
-
การทดสอบขับรถ ค่ายรถก็เปิดโอกาสให้ ลูกค้า เข้าไปประสบการณ์ ความดีของรถ ว่าดีขนาดไหน ต้องลอง ตามหลักควรเป็นอย่างงั้น
นอกงาน ขับไปลองได้ ผมไม่เกรงใจ
แต่ ในงานโชว์ คนเยอะ คนจะซื้อจริงๆมี เซลล์เข้ามาก็อยากจะขายทั้งนั้น
ผมเลือกที่จะดูเฉยๆ sale offer ให้ลองขับเอง (mazda3 ใหม่) แต่เลือกที่จะไม่ลอง ไปลองแถวบ้านดีกว่า ให้เซลล์ได้มีโอกาสไปขายคนที่จะซื้อจริงๆดีกว่า เราจะไปลองไปลองนอกงาน ศูนย์แถวบ้านดีกว่า
-
การทดลองขับรถ ไม่ใช่ไปถึงได้ขับเลย ต้องคุยกันก่อน เซลพอจะจับความรู้สึกได้ว่า ต้องการอะไรบ้าง...
1. ในช่วงที่มีการประชาสัมพันธ์ ทดลองขับ และให้บัตรรับประทานอาหาร บริษัทได้ทำเป้า ถ้ามีคนมาทดลองน้อย ก็ไม่คุ้มกับการโฆษณา
2. ท่านที่ตัดสินใจว่าจะจอง เซลก็จะเติมเต็มรายละเอียดที่ต้องการ หากมีข้อขัดข้อง หรือมีหลายตัวเลือก เซลก็จะให้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจ
3. ท่านที่ไม่ซื้อ เซลก็เต็มใจเพราะเป็นหน้าที่ บางทีอาจแนะนำลูกค้าให้ โดยฉพาะข้อมูลที่เผยแพร่ออนไลน์ บริษัทไม่ต้องลงทุนเลย
ยกตัวอย่าง รถรุ่นหนึ่งมีคนไปทดลองจำนวนมาก ส่วนอีกรุ่นหนึ่งมีคนไปทดสอบน้อยมาก ภาพพจน์ต่างกันแยะเลย
-
ไม่หรอกครับอย่าคิดมาก จริงอยู่ที่เราไม่ได่คิดจะซื้อแต่ลองแล้วชอบก็อาจเป็นลูกค้าเค้าได้ครับหรือถ้าเราไม่ซื้อแต่เอาความรู้สึกที่ได้ลองไปบอกญาติบอกเพื่อนหรือบอกเพื่อนๆพี่ๆในนี้ก็เป็นการโฆษณาให้เค้าได้
-
กาได้ทดลองหรือสัมผัสสินค้า จะเป็นการกระตุ้น need ของลูกค้าได้นะคะ ผู้บริหารที่ดีคงแบ่ง budget ส่วนหนึ่งไว้ทำการตลาดด้าน Product นี่แหล่ะค่ะ
การกระตุ้น demand นี่ไม่ใช่เล่นๆนะคะ มันเป็นผลดีของสินค้าอยู่แล้ว
-
ไม่เสียมรรยาทครับ รถไม่ใช่ราคาร้อยสองร้อยครับ อันที่จริงควรได้ลองขับให้ครบทุกคันในตลาดไปเลย เพื่อจะได้รถที่คุ้มค่ากับเงินที่เราเหนื่อยยากหามาครับ
-
คือ ถ้าอยากลองเพราะสนใจ อยากรู้ ถ้าดี ในอนาคตอาจจะซื้อได้บ้าง ก็ควรไปลองเลย
แต่ถ้าลอง เพราะอยากเที่ยวสนุกๆ ว่างๆ อยากเหยียบมันๆ ไม่มีทางซื้อ 100% ก็อย่าลองเลยครับ ใจเขาใจเรา
-
บริษัทรถคงอยากให้ลองขับทุกบริษัทแหละครับ
แต่เซลล์นี่ซิ บางทีเข้าไปคุยแล้วดูไม่เป็นมิตรเท่าไร ก็ไม่กล้าขอลองแล้ว เพราะถ้าลองแล้วชอบรถ อาจไม่ชอบโปรโมชั่นก็ได้
แบบว่าเกรงใจ
ปล. ถ้าจะให้ดีแยกเป็นแผนกทดลองขับเลยดีกว่า
-
เห็นเหมือนกับหลายๆ ท่านครับ ว่า
บริษัทรถน่าจะชอบ แต่เซลล์บางคนอาจไม่ชอบ
แต่มีอีกด้านหนึ่ง ของการไปทดลองขับรถ (เป็นกรณีของผมเอง ผ่านมาปีกว่าๆละ)
ตอนนั้นมีคนจะซื้อต่อรถคันเดิม ผมจึงมีแผนต้องซื้อคันใหม่
ไปลองหลายคันอยู่ แต่กับ Focus GDi นี่ ฟินจนลืมไม่ลงจริงๆ ตกลงวางเงินจองไป 10,000 บาท
แต่สุดท้าย เค้าเบี้ยว ไม่ซื้อต่อรถเราแล้ว
จึงทำให้ผมทรมาน ฝันค้างมาจนทุกวันนี้ รถอะไรขับดีเป็นบ้า!
แม้วันนี้ผมจะลงเอยกับคันใหม่แล้ว แต่ก้อลืมเธอไม่ลงจริงๆ ยิ่งทุกครั้งที่ได้เจอ ;)
ถ้าย้อนไปได้ วันนั้นผมจะไม่ไปลองขับมันเด็ดขาด!!!
-
ผมคิดต่างกันครับ ผมบอกศูนย์เลยว่า ผมเป็นคนตัดสินใจเรื่องรถนาน เพราะผมค่อนข้างบ้ารถ เวลาเลือกรถจึงใช้เวลามากหน่อย อยากลองให้ครบทุกรุ่นที่ผมชอบ ผมจะลองเฉพาะรุ่นที่อยู่ในความสนใจของผม หลังจากลองเสร็จ มักจะมีแบบสอบถาม ผมจะช่วยเขานั่งทำจนเสร็จแบบตั้งใจ แล้วบางศูนย์ผจก. ก็มาพูดคุยอย่างเป็นกันเองว่า เป็นยังไงบ้าง อะไรยังไง เคยเจอของโตโยต้าบางสาขาครับ อย่างโตโยต้าบางนารายนั้นค่อนข้างใจดีเลยครับ เป็นกันเองและไม่รู้สึกว่าถ้าเราไม่ซื้อแล้วเราไม่ใช่ลูกค้าหรืออะไรด้วยนะ เค้าก็ยังยิ้มแย้มตอบคำถามอย่างดิบดี อาจจะเพราะเห็นผมขับโตโยต้าเข้ามาด้วยหรือเปล่าไม่แน่ใจนะ ศูนย์นิสสันที่เคยลองถือว่ากลางๆตามมาตรฐานครับไม่ได้ดีเด่นแต่ก็ไม่มีอะไรให้ติ ศูนย์มาสด้าที่ฉะเชิงเทราก็ดีมากครับ ผมบอกเลยว่า ผมยังไม่คิดจะซื้อนะ แต่อยากลอง BT50 จะได้รู้ว่า ถ้าจะเปลี่ยนมาขับกระบะจากที่เป็นเก๋ง ฟีลลิ่งจะต่างไปขนาดไหน เขาก็เอาน้ำเอาท่ามารับรองทำเรื่องให้เราลองขับชิลมาก Ford ฉะเชิงเทราเซลล์ก็ดูแลดีครับ ให้ลองโฟกัสไกลเกือบ 10 km ไปกลับ เล่นเอาเคลิ้มเลย รถมันดีจริงๆครับแค่นั่งไม่สบาย นานาจิตตัง
ถ้าศูนย์ไหนจะไม่ให้ลองผมก็ไม่ว่าอะไรนะ ยกเว้นที่เคยเจอแบบพอบอกแบบนี้แล้วสีหน้าพนักงานเปลี่ยน แล้วบอกเสียงแข็งๆ อ๋อ รถไม่อยู่ค่ะ ผมก็เลยหันไปมองทางรถเทสที่จอดอยู่ข้างๆรถผม แล้วหันมามองเค้า แล้วบอก อ๋อ ไม่เป็นไรครับ
ศูนย์นั้นคือ Honda ฉะเชิงเทราครับ จะไปลองเทสซีวิคไฮบริดดูว่าโอไหม ถ้าในอนาคตจะเปลี่ยนมาใช้ หลังจากนั้นมาเลยยิ่งเบื่อ Honda ขึ้นอีก รถดี คนห่วย ไม่รู้จักอบรมกันดีๆบ้างหรือไงนะ >:(
ปล. ศูนย์ฮอนด้าที่พอได้หน่อยก็ตรงห้วยขวางใกล้ๆ MRT ดูไม่หยิ่งมากนัก ติเรื่องเดียวคือเซลผู้หญิงที่เดินไปหยิบโบรชัวร์แอคคอร์ดมาถือไว้ ถามเราว่ามีแผนจะซื้อเมื่อไหร่คะ บอกว่ายังครับ แต่เห็นรุ่นใหม่ออกมาน่าสนใจเลยแวะมาดูเฉยๆ หล่อนก็ไม่ว่าอะไรยิ้มแล้วเดินกลับไปนิ่งๆเอาแคตะลอคไปเก็บแล้วเดินลงไปนั่งจิบกาแฟเล่นไอโฟน
-
ถ้าไม่ตะบี้ตะบันขับหรือเกรียนใส่เซลเพราะอยากขับก็ไม่เป็นไรหรอกครับ
ลูกค้าอย่างเพื่อนผมบางคนขอทดลองขับรุ่นเดิมอยู่หลายครั้งจนเซลจำหน้าได้แม่น แถมขับแบบรถแทบจะพังไปข้าง แบบนี้ไม่ดีแน่
ที่บริษัทรถเขาเชิญให้ทดลองขับได้ฟรีแม้ลูกค้าจะอยากซื้อหรือแค่อยากลองเฉยๆ ก็ได้ก็เพราะว่าแม้เขาจะขายรถกับลูกค้าคนที่ทดลองขับคนนั้นไม่ได้ แต่ถ้ารถดีจริง ลูกค้าคนนั้นก็จะบอกต่อๆ กันไปจนเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างครับ ถือว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย :)
-
กระทู้นี้ดีนะ ตอบกันมีเหตุมีผล และ มีแนวคิดที่ เออ เข้าท่าจัง
ส่วนตัวผมเอง ค่อนข้างมีเซลล์หยิบยื่นให้ร่วมทดลองรถบ่อยๆ แต่ผมแทบไม่เคยไปลองเลย
เพราะเหตุผลว่า ยังไม่มีความคิดจะเปลี่ยนรถตอนนี้ แต่ก็ชอบจะเข้าไปหยิบจับ สัมผัส ต้องตา ดูซะหน่อยว่ารถใหม่ๆเป็นยังไง
ใจเขาใจเราครับ คิดง่ายๆ ถ้าเราจะขายรถมือสองแล้วมีพวกตรีนหนักๆ มาลองอัดเล่นแล้วไป เราก็คงรู้สึกแย่เหมือนกัน
ปล.แต่ถ้ามีคนหยิบยื่นโอกาสให้ลองเทสต์พวกซุปเปอร์คาร์...ผมไปนะฮะ 5 5 5
-
ผมรู้แต่ว่า ผมยังรู้สึกผิดจนถึงทุกวันนี้ที่ไปลองขับรถยี่ห้อหนึ่ง แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้ซื้อ หวังว่าเซลคงจะเข้าใจ
กระทู้นี้ดีนะ ตอบกันมีเหตุมีผล และ มีแนวคิดที่ เออ เข้าท่าจัง
ส่วนตัวผมเอง ค่อนข้างมีเซลล์หยิบยื่นให้ร่วมทดลองรถบ่อยๆ แต่ผมแทบไม่เคยไปลองเลย
เพราะเหตุผลว่า ยังไม่มีความคิดจะเปลี่ยนรถตอนนี้ แต่ก็ชอบจะเข้าไปหยิบจับ สัมผัส ต้องตา ดูซะหน่อยว่ารถใหม่ๆเป็นยังไง
ใจเขาใจเราครับ คิดง่ายๆ ถ้าเราจะขายรถมือสองแล้วมีพวกตรีนหนักๆ มาลองอัดเล่นแล้วไป เราก็คงรู้สึกแย่เหมือนกัน
ปล.แต่ถ้ามีคนหยิบยื่นโอกาสให้ลองเทสต์พวกซุปเปอร์คาร์...ผมไปนะฮะ 5 5 5
ได้ยินมาว่ามีคนให้เช่าอยู่ครับ วันละ40000บาท ให้ขับในเส้นทางที่เขากำหนด
-
มันก็ไม่น่าเกลียดครับสำหรับการลองเทสอย่างน้อยเราได้ข้อมูลเกียวกับตัวรถหละครับเพีอเราจะชีอรถรุ่นนันภายในอนาคดครับ
-
ส่วนตัวผม ถ้าไม่ใช่รถยุโรป กับ รถกะบะ
ผมลองขับมาแล้วทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ
ย้ำว่า ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ เลยครับ ตั้งแต่ อีโค่คาร์ ซิตี้คาร์ คอมแพ็ค d-segment suv ppv
ผมเป็นคนบ้ารถครับ บ้าจนถึงขั้นการขับรถเป็นงานอดิเรกของผมไปแล้ว
ดังนั้น ผมก็ไปขอเขาทดลองขับมาทุกยี่ห้อครับ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่ซื้อครับ พูดตรงๆก็คือทำเนียนๆไปครับ
คือผมมองว่าการที่เราได้ลองขับรถมาทุกรุ่น มันจะบอกเราได้ว่าแต่ละยี่ห้อมีบุคคลิกยังไง
เวลาเราซื้อรถ มันก็ช่วยเราได้เยอะครับ
ผมมองว่าเราไม่ต้องไปเกรงใจครับ เพราะถ้าสุดท้ายเราขับแล้วเราชอบ วันนี้เราอาจยังไม่ซื้อ แต่ในอนาคตเราก็จะซื้อเองครับ
-
ในอีกมุมมองนึงนะครับ ผมว่าเป็นผลดีทั้ง 2 ฝ่าย แม้ว่าเราจะยังไม่มีความตั้งใจจะซื้อตอนนี้ แต่อนาคตมันก็ไม่แน่!!
คุณอาจถูกหวยเดือนหน้าแล้วทำให้นึกอยากจะซื้อรถคันนั้นก็เป็นได้
หรือมีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องมาปรึกษาคุณ คุณก็นำข้อมูลจากการทดลองขับรถรุ่นนั้นไปบอกกล่าวและแนะนำได้
มันอาจจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับการตัดสินใจซื้อรถของบุคคลเหล่านั้น
ถ้ารถดีจริง มีผู้คนชมและบอกต่อกันปากต่อปาก นั้นแหละครับคือจุดประสงค์ที่ทางค่ายรถต้องการจากคนที่มาทดลองขับรถของเค้า
เห็นด้วยครับ มันเป็นสิทธิ์ของเราที่น่าจะได้โอกาสในการทดลองขับ เพียงแต่เวลาเราลองขับมันก็ต้องถนอมรถกันหน่อย ไม่ใช่เหยียบเต็มตีนเนอะ ;) ;) ;)
ผมเพิ่งเจอมากับตัวครับ เมื่อไม่นานมานี้ ไปลองขับ เทียนา L33 กับโชว์รูมแห่งหนึ่ง ประทับใจในการต้อนรับของเซลล์ และ สมรรถนะของรถมาก พอกลับมา โพสขึ้น facebook เลยครับ และ รีบเก็บตังค์เพื่อไปออกรถกับโชว์รูมนี้เลย ;D ;D ;D ;D
-
ผมเชื่อว่าหลายคน บางทีไม่ได้คิดจะซื้อหรอกครับ ลองแล้วเปลี่ยนใจ เหอๆ
ส่วนตัวคิดว่าไม่ผิดอะไร ของราคาเป็นล้าน จะลองหลายๆรอบ ยังไม่แปลกด้วยซ้ำครับ
-
เท่าที่ผมเข้าใจนะครับ คำถามของจขกทคือ ถ้าไม่มีความคิดที่จะซื้อรถใหม่อยู่เลย"แม้แต่นิดเดียว"เช่น เพิ่งออกรถใหม่มา1เดือน หรือเงินเดือนหมื่นนึงแต่อยากลองรถคันละสิบล้าน จะเข้าไปลองขับมั้ย
อันนี้ผมคงไม่ล่ะครับ ถึงมันอาจจะส่งผลดีกับแบรนด์ กับตัวรถในแง่การโฆษณาอย่างที่หลายๆคนบอกก็จริง
แต่เซลล์เค้าต้องมาเสียเวลากับเราแทนที่จะได้ไปหาคนที่ตั้งใจจะซื้อรถจริงๆ
เงินเดือนเค้าก็ไม่ได้เยอะ เงินที่ได้ก็ได้มาจากการขายรถ ไม่อยากเปลืองเวลาทำมาหากินเค้า
แต่คำตอบของท่านอื่นๆเหมือนกับคนที่มีแนวโน้มจะซื้อรถในระยะเวลาอันใกล้ เช่น ยังไม่มีรถ รถเก่าอายุ10กว่าปีแล้ว หรือจะซื้อแต่ยังไม่ได้เลือกว่าจะเอารุ่นไหนยี่ห้ออะไร ผมว่าลองไปก็ไม่ผิดครับ
-
ผมว่ามันอยู่ที่จิตสำนึกครับ ถ้าเรามีแผนจะซื้อรถใน segment นั้นๆหรือใกล้เคียงจริงๆ และมีปัญญาซื้อจริงๆ ไป
ลองคือสิ่งที่ถูกต้องครับ ลองแล้วไม่ซื้อ แต่ไปซื้อรุ่นอื่น ก้อไม่ผิด
แต่ถ้ายังงัยก้อไม่ได้ซื้อรถแนวนั้น หรือไม่มีตัง แล้วไปลองแบบจัดหนัก ซัดเล่น ผมว่าพวกนี้ขยะ สมควรจะได้รับ feedback ที่ไม่ดีจากเซลส์ เพราะเค้าเสียเวลาทำมาหากินของเค้าครับ
ส่วนเซลส์ที่กะจะขายอย่างเดียว เจอคนแต่งตัวไม่ดีมาแล้วก้อไม่สนใจ มีรถให้ลองก้อไม่พาลูกค้าไปลอง แบบนี้ก้อขอให้ไม่เจริญครับ
เข้าใจตรงกันนะ
-
เห็นเหมือนกับหลายๆ ท่านครับ ว่า
บริษัทรถน่าจะชอบ แต่เซลล์บางคนอาจไม่ชอบ
แต่มีอีกด้านหนึ่ง ของการไปทดลองขับรถ (เป็นกรณีของผมเอง ผ่านมาปีกว่าๆละ)
ตอนนั้นมีคนจะซื้อต่อรถคันเดิม ผมจึงมีแผนต้องซื้อคันใหม่
ไปลองหลายคันอยู่ แต่กับ Focus GDi นี่ ฟินจนลืมไม่ลงจริงๆ ตกลงวางเงินจองไป 10,000 บาท
แต่สุดท้าย เค้าเบี้ยว ไม่ซื้อต่อรถเราแล้ว
จึงทำให้ผมทรมาน ฝันค้างมาจนทุกวันนี้ รถอะไรขับดีเป็นบ้า!
แม้วันนี้ผมจะลงเอยกับคันใหม่แล้ว แต่ก้อลืมเธอไม่ลงจริงๆ ยิ่งทุกครั้งที่ได้เจอ ;)
ถ้าย้อนไปได้ วันนั้นผมจะไม่ไปลองขับมันเด็ดขาด!!!
เป็นเหมือนกันเลยครับ
วันนี้ไปเดินมอเตอร์โชว์ หมายตาอัสติสไว้ พอไปถึงก็ไปขอเทสก่อนเลยเพราะอยากรู้ว่าตัวรถดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน
ตัวที่ลองเป็นรุ่น 1.8s พอลองเสร็จ ค่อยข้างประทับใจมากๆ แฟนก็ชอบมาก
ผมว่าถ้าไม่ได้ลองขับ เราก็ไม่ทีทางรับรู้ได้เลย ว่ารถคันนั้นดีขึ้นหรือแย่ลง
ซึ่งผมว่าทางบริษัทรถต่างก็ยินดีที่ลูกค้ามาลองขับกันอยู่แล้ว
พอกลับเข้ามาในฮอล์ โทรถามเพื่อนที่จะซื้อรถต่อ ปรากฎว่าการเงินไม่พร้อม
สุดท้ายเลยไม่ได้จองครับ ต้องใช้คันเก่าไปก่อน 555
-
ถ้าแบบอยากไปซัดเล่นนี่ก็ไม่ควรนะ
แต่สำหรับคือเวลามีรถรุ่นใหม่ๆเปิดตัวแล้วตัวรถนี่สนใจ ก็อยากจะไปลองขับดูว่ามันเป็นยังไง
อย่างพวกที่มีกระแสในเว็บเงี้ย ก็ไปลองมาหลายคันแล้ว ไปก็เนียนๆว่าสนใจแหละ
พอได้ลองมันก็ได้เป็นข้อมูลกับตัวเรา ถึงผมจะไม่ได้ซื้อ หรือซื้อไม่ได้ แต่ก็พอจะแนะนำคนใกล้ตัวได้
เพราะคนส่วนใหญ่จะเกรงใจอ่ะครับ เวลาไปลองรถ ไม่กล้าไปทดลองขับ ตัดสินใจซื้อรถคันนึงหลายยังไม่ได้ลองขับด้วยซ้ำ
ไปลองขับแต่ไม่ได้จะซื้อก็ไม่ได้เสียหายอะไรครับ
แต่เวลาไปลองแล้วมันเกิดกิเลสตลอดเลย 55555 ;D ;D
(ล่าสุดไปลอง mazda 3 ติดใจ แม่สั่งปล่อยรถคันเก่าเลยทีเดียว 5555)
-
เท่าที่ผมเข้าใจนะครับ คำถามของจขกทคือ ถ้าไม่มีความคิดที่จะซื้อรถใหม่อยู่เลย"แม้แต่นิดเดียว"เช่น เพิ่งออกรถใหม่มา1เดือน หรือเงินเดือนหมื่นนึงแต่อยากลองรถคันละสิบล้าน จะเข้าไปลองขับมั้ย
อันนี้ผมคงไม่ล่ะครับ ถึงมันอาจจะส่งผลดีกับแบรนด์ กับตัวรถในแง่การโฆษณาอย่างที่หลายๆคนบอกก็จริง
แต่เซลล์เค้าต้องมาเสียเวลากับเราแทนที่จะได้ไปหาคนที่ตั้งใจจะซื้อรถจริงๆ
เงินเดือนเค้าก็ไม่ได้เยอะ เงินที่ได้ก็ได้มาจากการขายรถ ไม่อยากเปลืองเวลาทำมาหากินเค้า
แต่คำตอบของท่านอื่นๆเหมือนกับคนที่มีแนวโน้มจะซื้อรถในระยะเวลาอันใกล้ เช่น ยังไม่มีรถ รถเก่าอายุ10กว่าปีแล้ว หรือจะซื้อแต่ยังไม่ได้เลือกว่าจะเอารุ่นไหนยี่ห้ออะไร ผมว่าลองไปก็ไม่ผิดครับ
ไม่ถึงขั้นนั้นครับ
สนใจและมีโอกาสซื้อในอนาคตครับ แต่ไม่ใช่เร็วๆนี้
-
แต่ที่ผมเจอแล้วก็ฮาที่สุดคือ เซลล์ชวนไปเทสต์ S5 คือขับไปถึงปราจีนนู่น....เที่ยวฟรี กินฟรี ดีจริงๆ
เซลล์ก็บอกนะว่า รู้ว่าพี่ไม่ได้สนใจซื้ออยู่แล้ว (เพื่อนผมไปดู X1) แต่เห็นพวกพี่คุยสนุก เฟรนด์ลี่ดี เลย
ขอให้ไปเป็นเพื่อน ถือว่าจะได้รู้จักกันไว้....เออ เอากับเขาสิ สุดท้ายเพื่อนผมมันก็ไม่ได้ออก X1 นะฮะ
มันจะเอาเข้าชื่อบริษัท แต่บริษัทมันดันทำบัญชีติดลบมาสี่ห้าปี จบข่าว
แต่เซลล์โอเคเลยนะ นิสัยดี ไม่งี่เง่า เลยมองบีเอ็มดีขึ้นเยอะ
เบนซ์ก็เหมือนกัน แวะไปแถวบ้าน ขับอิมไป ว.5 กันตั้งแต่ทางเข้าโชว์รูม ถึงประตู เซลล์ออกมายื่นต้อนรับ 4 คน ซ้ายขวา
ทำอย่างกับเจ้าของโชว์รูมมาตรวจงาน ลงi5มาถึงกับเงิบ ไปดู ซีคูเป้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้ออยู่ดี 5 5 5
ล่าสุดเพื่อนไปดูฮอนด้าฟลีด แถวๆบ้าน ไม่มีเซลล์มาคุยด้วยเลย สงสัยแต่งตัวบ้านๆเกิน สุดท้ายต้องเรียกถึงจะมา
แต่น้องที่มาก็บริการดีนะ โอเคแหละ สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้ออยู่ดี....
คือมันแปลกอย่าง ถ้าไปอย่างตั้งใจเนี่ย มักจะไม่ได้รถหรอกครับ
แต่ถ้าไปแบบสุ่มๆเดาๆ มั่วนิ่มนี่...ผมได้รถกลับบ้านสองคันแล้วนะ
-
ผมว่าไม่ผิดนะ ลองขับเปรียบแต่ละยี่ห้อ เด่วถ้าอยากซื้อวันหลัง ก่อมาซื้อ
-
ผมว่าเป็นการเปิดโอกาสขายนะครับ ขับถูกใจกลับไปอาจจะนอนตาค้างเลย ถ้ามีงบพร้อมอยู่แล้วอาจจะปิดการขายได้เลยก็ได้ ผมเคยไปลองขับFord Focusระยะทางสั้นๆรอบนึง ลงรถมาแทบคลั่งเลยรถขับดีเกิ๊น ดีว่ากังวลเรื่องหลังการขายเลยรอดมาได้ ปีหน้าผมว่าจะออกเทียน่าหรือAccord อยากไปทดสอบระบบกล้องรอบตัวของเทียน่า แต่เกรงใจเซลเลยไว้ปีหน้าใกล้ๆแล้วค่อยลองน่าจะดีกว่า
-
จริงๆ การทดลองขับ ไม่ได้เป็นการเพิ่มหรือกระตุ้นการขายเฉพาะผู้ทดลองนะครับ
เพราะคนทดลอง สามารถเอาไปบอกเพื่อนๆ ต่อได้ เอาไปเชียร์เพื่อนต่อได้ ว่าฉันลองมาแล้ว ดียังไง เสียยังไง
เธอจะซื้อหรอ เธอไปลองสิ ฉันเคยไปลองกะน้องคนนี้ เขาดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้
การทดลองขับ ไม่ได้ให้ผลสำเร็จ 100% หรอกครับ
แต่หลายคนก็ได้ลูกค้าเพราะพาไปทดลองขับหลายครั้งละนะ (โดยเฉพาะในงาน)
ส่วนเวลาอยู่โชว์รูม ออกไปวนๆเล่นบ้างก็ดี อยู่เฉยๆ น่าเบื่อ แต่ขอร้อง อย่าซัดแรงนัก เซลส์ก็กลัวตายนะ
รถบริษัทก็จริง แต่ไม่รู้ว่า ถ้าพังขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ ประกันจ่ายแน่ แต่ซ่อมมา ยังไงก็เป็นรถที่เคยชน
สภาพก็ไม่ได้ดีเหมือนเดิม เซลส์ที่พาไปทดลอง ก็ต้องโดนสอบสวน ทำไมปล่อยให้ลูกค้าออกนอกเส้นทาง
ทำไมปล่อยให้ลูกค้าทดลองแบบผาดโผน
แล้วก็ ไม่ต้องขอขึ้นทางด่วนนะครับ มันเป็นกฏ เชื่อมต่อจากประโยคข้างบน (เฉพาะค่ายหลัก ไม่รวมถึงรถเกรย์ ที่ให้เอาไปร่วมหลับนอนได้)
สรุป ทดลองเถอะครับ ซื้อไม่ซื้อ ก็คุยกันดีๆ ตรงไปตรงมา ถามหาพนักงานคนที่ว่างก็ได้ครับ ถ้าเกรงใจ
-
ไม่ผิดอะไรนี่ครับ ผมเองชอบลองขับรถครับ มีรุ่นใหม่ ๆ มาโชว์รูมไม่ว่ายี่ห้อไหน
ผมจะไปชม แล้วถ้าเค้ามีรถทดลองตับ ผมก็จะขอลองครับ
-
จากที่ถามเซลนะครับ
เซลยินดีให้ลองนะครับ ที่ลูกค้ามาสนใจรถของเขา ถึงจะปิดด้วยการขายไม่ได้ อย่างน้อยก็ได้ต้อนรับลูกค้าและมีสถิติการพาลูกค้าไปเทส หัวหน้า หรือผู้บริหาร ก็ดูเซลว่ามีลูกค้าบ้างไหม ประมาณนี้ครับ
อาจเจอเซลบางคน ลูกค้าเยอะ หงุดหงิด ถ้าตำนิรถเขาต่อหน้าคงไม่เป็นการดีแน่ ควรหลีกเลี่ยง ถ้าเราไม่คิดจะซื้อของเขา
-
ไปลองเถอะครับ อย่าได้เกรงใจผู้ใด เพราะล้วนเป็นผลประโยชน์ต่อเรา และเงินในกระเป๋าเราเช่นกัน
อย่างที่หลายๆ ท่านกล่าวว่า ของอย่างอื่นถูกกว่าตั้งแยะ ยังลองแล้วลองอีก ทำไมกะของแพงอย่างรถ เรามาเกรงใจเซลล์ซะงั้น เงินเราเป็นคนจ่ายนะครับ เซลล์ไม่ได้มาออกให้เราด้วย จะมีก็แค่หั่นค่าคอมในส่วนของเค้าบ้าง แต่นั่นจะเกิดขึ้นเมื่อเราทำการจองกับผู้นั้นแล้วต่างหาก ฉนั้นเซลล์ที่อิดออด อย่าสนใน ไปหาคนอื่นที่มีจิตใจบริการดีกว่าครับ
แต่เราก็ต้องมีคุณสมบัติผู้ดีกับทางค่ายรถที่เราจะลองด้วย จะไปลองเค้าทั้งที่ ก็ให้ความสนใจรถเค้าด้วย ถามไถ่ตัวรถ ไฟนงไฟแนนซ์บ้าง การขับขี่ สมรรถนะ ตำหนิได้แต่พองาม อย่าเอาแต่ติ ไม่มีสินค้าชนิดใดจะเลวไปหมด หรือเพอร์เฟคชั้นฟ้า ผมไปลองก็มียอบ้างนิดๆ ให้เค้ารู้สึกดีบ้าง เพราะเซลล์หลายท่าน ผมเชื่อว่ากรำศึกหนักมาหลายยกเลยทีเดียว
-
ไม่ผิดครับ แต่เสียเวลาทำมาหากินของเค้า ลองเป็นคุณทำงานดูสิ ใจเขาใจเรา คุณอยากมาเสียเวลามั้ย
ท้ายสุด คุณจะได้รับการสรรเสริญอย่างลับหลังครับ
-
บอกเค้าว่าจะเอาข้อมูลไปเชียร์เพื่อนๆ ญาติๆ
-
ไม่ผิดครับ แต่เสียเวลาทำมาหากินของเค้า ลองเป็นคุณทำงานดูสิ ใจเขาใจเรา คุณอยากมาเสียเวลามั้ย
ท้ายสุด คุณจะได้รับการสรรเสริญอย่างลับหลังครับ
ผมว่ามันก็ไม่ไดถึงกับเสียเวลาทำมาหากินขนาดนั้นหรอกครับ มันก็แล้วแต่กรณี
อย่างผมไม่ได้สนใจจะซื้อฟอร์ดเลย แต่ก็มีเซลล์โทรมาชวนไปลองขับรถอยู่เรื่อยๆ
มาสด้าเองก็เช่นกัน แล้วก็อย่างตอน mu-x ตอนเปิดตัวไม่ได้คิดจะซื้อเลย เพราะรู้ว่ากำลังทรัพย์ไม่ถึง ก็ไปลอง ไปขับ
พอผมได้ขับ ก็ประจวบเหมาะกับมีคนรู้จักมาสอบถามว่ารถรุ่นนี้ดีมั้ยผมก็แนะนำไป สุดท้ายเขาก็ลงเอาที่จองรุ่นนี้
โดยที่เขาไม่ได้ลองขับ(เพราะเขาไม่ค่อยรู้เรื่องรถมาก แล้วอีกอย่างก็ไม่เคยไปลองทดลองขับอะไรอย่างงี้เลย)
ผมว่ามันเป็นการขยายตลาด แบบปากต่อปากนะครับ ผมถึงได้บอกว่ามันต้องแยกกันที่เจตนาของคนที่ไปลอง
ว่าอยากจะลองเพื่อหาข้อมูลรถ อยากสัมผัสรถ สนใจในตัวรถ
หรือแค่อยากจะไปซัดเล่นดูว่ามันแรงแค่ไหน ที่เขาว่าอ่ะ อะไรอย่างงี้ มันก็ไม่เหมาะไม่ควร
คงไม่ให้คิดถึงกับว่าถ้าไม่คิดจะซื้อก็อย่าไปลองขับเลย อันนี้ผมว่ามันก็เกินไปอ่ะครับ
-
ผมว่าไม่นะครับ
การที่เราได้ลองคือประสบการณ์
และเราสามารถแชร์ประสบการณ์ให้คนอื่นได้อีก
-
ตอนเอา Mazda3เข้าไปเช็คระยะที่ศูนย์ มีเวลาว่างเลยไปเดินเล่นในโชว์รูม
เจอ CX5จอดอยู่ เข้าไปดู เเล้วขอลองรถกะเซลส์ จัดเครื่องดีเซลมาให้ลอง
เลยออกไปทดสอบ ชอบมาก แต่ยังไม่มีเเพลนจะซื้อ
จากวันนั้นมา เจอพี่อีกคนกะลังจะออกรถใหม่ เข้ามาพูดคุยกัน เลยเชียร์ CX5
ตอนนี้ ไปจองเเล้วครับ
-
ผมว่าเป็นการเปิดโอกาสขายนะครับ ขับถูกใจกลับไปอาจจะนอนตาค้างเลย ถ้ามีงบพร้อมอยู่แล้วอาจจะปิดการขายได้เลยก็ได้ ผมเคยไปลองขับFord Focusระยะทางสั้นๆรอบนึง ลงรถมาแทบคลั่งเลยรถขับดีเกิ๊น ดีว่ากังวลเรื่องหลังการขายเลยรอดมาได้ ปีหน้าผมว่าจะออกเทียน่าหรือAccord อยากไปทดสอบระบบกล้องรอบตัวของเทียน่า แต่เกรงใจเซลเลยไว้ปีหน้าใกล้ๆแล้วค่อยลองน่าจะดีกว่า
เราน่าจะชอบอะไรที่คล้ายๆ กันนะครับ ^^
ผมเองก้อฟินเวอร์กะเจ้า Focus เหมือนกัน ทุกวันนี้เจอทีไรยังต้องเหลียวมอง
แต่สุดท้ายก้อไปลงเอยกะ Teana ครับ
แต่ คหสต. อยากจะบอกว่า AVM นี่ด้านการใช้งานจริงก็ไม่เท่าไหร่นะครับ
เส้นแบ่งบนจอสามารถบังแนวรั้วได้ทั้งแนวเลยทีเดียว(ถ้ามันทับกันพอดี)
หรือสิ่งกีดขวางเล็กๆ ที่สามารถสร้างความเสียหายได้ ก้อไม่เห็นชัดเจนนะครับ
คือไม่ใช่ AVM มันไม่เวิร์คนะครับ เพียงแต่ว่ายังต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร