Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: blade ที่ เมษายน 26, 2014, 00:47:54

หัวข้อ: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: blade ที่ เมษายน 26, 2014, 00:47:54
ทางบ้านมีโครงการจะออก รถญี่ปุ่น D segment เลยไล่อ่านพวกกระทู้เก่าๆ
เรื่ิองมีอยู่ว่า ที่ไล่อ่านดู ช่วงรถ D segment ออกใหม่ๆ จะมีว่ามันดีขึ้น แต่ก็ยังสู้พวกรถยุโรปเก่าๆไม่ได้เลย
แต่พอหลังๆเริ่ม มีว่า พวก D segment เริ่มใกล้เคียง รถยุโรป พวกๆตัวปัจจุบันบ้างละ
ก็เลยสงสัย ว่า รถยุโรปเมื่อก่อนดีกว่าสมัยปัจจุบันหรือ ???? และก็ รถญี่ปุ่น ดีขึ้นใช่ไหม ????
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: teaykung31 ที่ เมษายน 26, 2014, 00:50:11
เทคโนโลยีตอนนี้มันก็แทบจะทัดเทียมกันหมดแล้วครับ

อยู่ที่ว่าใครจะใส่ต้นทุนมามากกว่ากัน
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย
เริ่มหัวข้อโดย: kimhalua ที่ เมษายน 26, 2014, 00:55:08
อาจจะเท่าเทียมในเรื่องวัสดุภายในครับ แต่ดีไซน์และการขับขี่บางจุดผมว่ามันยังต่างครับ นี้คือผมเทียบที่ราคาน่ะครับ ยิ่งถ้าฟัดกันแบบตรงเซกเม้นอันนี้ ก้คงห่างกันมากพอสมควรครับ และไม่ใช่ว่ารถญี่ปุ่นทำไม่ได้น่ะครับ แต่เขาเว้นช่องว่างให้พวก เลกซัท อินฟินิตี้ เอคคิวร่าพวกนั้นมากกว่า
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: mick ที่ เมษายน 26, 2014, 01:12:03
ผมว่ารถยุโรปรุ่นก่อนๆ ช่วงล่างหนักแน่นกว่าสมัยนี้ และ
ความต่างของยุโรปกับญี่ปุ่นสมัยก่อน มากกว่าสมัยนี้ สมัยก่อนยุโรปกันชนแข็งแรง สมัยนี่ ข้างนอกก็ไฟเบอร์เหมือนๆกัน
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: choomodify ที่ เมษายน 26, 2014, 04:49:27
ถ้าเอา Performance เป็นที่ตั้ง รับรองได้ว่าต่างแบบสุดขั้วครับ หลายๆคันที่ บอกกันว่าใกล้เคียง ผมว่ามันไม่ใกล้เลย  แต่ถ้ามองวัตถุประสงค์จากการใช้งานและอรรถประโยชน์สูงสุดรวมถึงความคุ้มค่าและการบำรุ่งรักษา อันนี้ ญี่ปุ่น ชนะเลิศครับ
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: Zephyrs ที่ เมษายน 26, 2014, 08:42:47
ญี่ปุ่น vs รถยุโรปสมัยนี้
ความต่างเรื่อง Performance ผมว่ามากขึ้นนะ แต่เรื่องอื่นๆอย่างช่วงล่าง ผมว่าญี่ปุ่นขยับเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อยๆละ
แปลกมาก ทำรถแรงได้แต่ช่วงล่างกลับไม่ค่อยมั่นเหมือนสมัยก่อน (หรือรถสมัยก่อนมันไม่แรงขนาดนี้ แต่ทำช่วงล่างเท่ากันเลยรู้สึกว่า
มันมั่นคงกว่าเยอะ?)
ความ Reliable ที่น้อยลง ก็เข้าใกล้กันมากขึ้น (แต่จะว่าไม่ได้ เพราะเดี๋ยวนี้อิเล็กทรอนิกส์เยอะเหลือเกิน) เพียงแต่
เหมือนว่ารถยุโรปจะค่อนข้างทิ้งห่างมากขึ้นเรื่อยๆตามระบบไฟฟ้าที่ใส่มาในรถ
วัสดุภายในรถ ถ้าตัดเรื่องหนังไรงี้ทิ้ง ถ้าวัดกันที่พลาสติกโดยตรง ญี่ปุ่นจะพอๆกับยุโรปแล้ว (ยกเว้นที่มันบางจริงๆ)
ถ้าเรื่องหนัง ผมยังให้ยุโรปดีกว่านะ
เหล็กสมัยก่อนมีมากกว่านี้เยอะ รถยุโรปแข็งแรงมากๆถ้าเทียบกับรถญี่ปุ่น (ไม่พูดถึงเรื่องชนแล้วคนขับตายไม่ตายนะฮะ เอาแค่เรื่องชนแล้วบุบไม่บุบก่อน)
อย่างถ้าเป็นรถที่เริ่มใช้กันชนพลาสติก ถ้าเป็น MB ก็คือช่วงต้น 90 อย่าง W124,W201,W140 ก็ยังมีความเหนียวกว่าสมัยนี้เยอะ
สมัยนี้กดหรือรถจักรยานขับช้าๆ ชนปึ้กเข้าไปที บุบแล้ว (แต่มันก็แก้ง่ายกว่า) 3 คันข้างบน วิ่งเร็วยังไงเต็มทีก็แค่ถลอก ส่วนนึงอาจจะเพราะมีเหล็กกันชนค้ำไว้

อย่างที่ถามว่ายุโรปสมัยก่อน งัดกับยุโรปสมัยนี้ ยุโรปสมัยก่อนดีกว่ารึ?
คำตอบคือ ถ้าในแง่Performance,ความประหยัดน้ำมัน ยุโรปสมัยนี้ ดีกว่า "ค่อนข้างมาก" เพราะเทคโนโลยีหัวฉีดบ้าง เทอร์โบบ้าง ซุปเปอร์ชาร์จเจอร์บ้าง(เอ่อ ประหยัด?)
มันไปไกลกว่าสมัยก่อนมากแล้ว รวมถึงการลดน้ำหนักไรงี้ก็เอาของญี่ปุ่นมาปรับใช้ (สมัยก่อนรถยุโรปหนักมาก Volvo รุ่นเก่าๆ ถ้าจำไม่ผิดเกือบๆ 2 ตันในบางรุ่น) ทำให้มันประหยัดขึ้นมาก มลพิษก็น้อยลง
แต่พวกนี้ก็คือต้องแลกกับความจุกจิกที่มากขึ้น เพราะพอมีคำว่า เทอร์โบ ซุปเปอร์ชาร์จฯ หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ และระบบคอมพิวเตอร์ที่วัดหลายๆอย่าง (พวกระบบทั้งหลาย
แหล่ ที่ต้องใช้คอมฯ) นั่นคือในแง่ของความ Reliability
แต่ถ้าในแง่ของช่วงล่าง การทรงตัว คือ มันต้องวัดเป็นคันๆไปนะ
อย่าง W124 Benchmark ของเรื่องช่วงล่างที่นั่งสบาย แต่ไม่ย้วย โคตรมั่นใจ แต่ทื่อไปหน่อยในการขับ ไม่จุกจิก การออกแบบช่วงล่างแบบปีกนกที่ไม่ซับซ้อนไรมากนัก
รถ MB ใหม่ๆ ช่วงล่าง Elegance ยังทำให้มั่นใจไม่ได้เท่า หรือแม้แต่ Avantgrade ที่เน้นสปอร์ตแล้ว บางทียังสู้ไม่ได้ เพราะมันแข็งเกินไป (สำหรับคนแก่) และถ้า AVG ยัง
แข็งไป ก็อย่าไปพูดถึง AMG (คือมั่นใจแน่ๆ แต่แข็ง)
คำถามที่ตามมาคือ ทำไมทำแล้วแย่ลง?

ผมมีมุมมองส่วนตัวคือ ในสมัยก่อน รถที่ทำออกมา หลายๆคันยังเน้นเรื่องการใช้นานๆ (ไปดูก็ได้ ยุโรปเก่าๆที่อายุเกิน 10 ปียังวิ่งกันเยอะอยู่) แบบ 10 ปีขึ้นไปใช้ได้อยู่
การใช้วัสดุ ทั้งในแง่ของพวกอุปกรณ์ทั้งภายในรถ ทำมาแล้วดูอยู่นานๆกว่า ไม่ใช่แบบ 5 ปีมีรอยแตกไรงี้
แต่พอเวลาผ่านไป บริษัทรถก็ต้องการกำไรมากขึ้น (ค้าขายก็อย่างนี้แหละ) ทีนี้ทำไงให้ต้นทุนลด แต่ขายราคาเดิม ไม่ก็ถูกกว่าเดิมนิดๆ แต่ได้กำไรมากกว่าเดิม?
ก็คือต้องลดคุณภาพวัสดุที่เรา "มองไม่เห็น" การออกแบบอะไรที่ทำให้ต้นทุนสูงเกินไป ก็ลดคุณภาพลง โดยที่ต้องมองว่า เอาระบบอิเลกทรอนิกส์ มาช่วยได้
ผลก็คือ W210 ที่ตามมา มีปัญหาทั้งเรื่องความจุกจิก ช่วงล่างที่ไม่มั่นใจเท่า 124 (เป็นครั้งแรกเลยมั้ง ที่อันดับ J.D. Power (ตรงนี้ผมไม่แน่ใจอีกครั้งที่ว่าเป็นรางวัลของใคร
แต่คือเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของตัวรถ) ของ MB ตกจากอันดับต้นๆมาเกือบ 10 อันดับ) กว่าจะอันดับขึ้นมาอีกทีก็ตอน W211 ที่แก้ปัญหาพวกนี้ได้
แถมสมัยนี้ คนขับรถก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องรถมากนัก (คือซื้อมาใช้ มาขับ ไม่ได้เผื่อเรื่องซ่อมด้วยตัวเอง แต่ผมไม่โทษคนขับนะ เพราะสมัยนี้ระบบไรงี้เยอะ เข้าใจได้ว่าถ้าซ่อม
เองคือ ... อืมมม) พอเสียก็โยนให้ช่าง ถ้าค่าซ่อมแพงก็คือขายทิ้งเข้า Junk บ้าง Trade กับศูนย์ฯเปลี่ยนเป็นคันใหม่ บ้าง ดังนั้นเรื่องการทำช่วงล่างที่ "ลงทุนมากไป" ก็
ถือว่าเป็นการศูนย์เปล่าโดยใช่เหตุ (คงเข็ดกับช่วงยุค Over-Engineered นั่นแหละ)

จากที่บ่นไปทั้งหมด สรุปก็คือ ที่รถยุโรปสมัยก่อนทำได้ดีกว่าในสมัยปัจจุบัน เป็นเพราะเรื่องต้นทุน การออกแบบให้รถรองรับความต้องการของคนซื้อให้กว้างขึ้น
(มันก็มีแหละ คนที่อยากได้เบนซ์ขับสนุก บีเอ็มนั่งสบายหน่ะ) แล้วก็ความเรียบง่ายที่สมัยก่อนมีมากกว่าสมัยนี้ อิเล็กทรอนิกส์ที่น้อยกว่าและซับซ้อนน้อยกว่า สมัยนี้


ปล ผมอาจจะเอียงมาทางเบนซ์มากกว่ายุโรปคันอื่น เพราะมันมองออกได้มากกว่า BMW (ที่มาเป๋เรื่องช่วงล่างเอาตอน F30) หรือ Volvo
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: keanetona ที่ เมษายน 26, 2014, 09:23:24
ผมว่ารถยุโรปรุ่นก่อนๆ ช่วงล่างหนักแน่นกว่าสมัยนี้ และ
ความต่างของยุโรปกับญี่ปุ่นสมัยก่อน มากกว่าสมัยนี้ สมัยก่อนยุโรปกันชนแข็งแรง สมัยนี่ ข้างนอกก็ไฟเบอร์เหมือนๆกัน

กันชน E28 ใช้นั่งต่างเก้าอี้ได้เลยนะครับนั่น
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: Nikle_pk ที่ เมษายน 26, 2014, 09:35:57
สำหรับผม รถยุโรปก็ยังคงนำอยู่หลายก้าว
แต่อาจมีบางรุ่นที่ระยะห่างของก้าวมันลดลง
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: trumpetx ที่ เมษายน 26, 2014, 10:44:37
เมื่อก่อนยุโรปวัสดุแย่กว่าครับ ปัจจุบันวัสดุดีขึ้น D sec ญี่ปุ่นก็วัสดุ ดีขึ้นมาแทบจะเท่ากันเลย

แต่เรื่องการขับยุโรป สมัยนี้ดีกว่าเดิมมาก

ญี่ปุ่นก็ดีขึ้น ฟิวลิ่งการขับแบบดุโหด+ความปลอดภัย ผมก็ยังไม่มั่นใจรถญี่ปุ่นเท่ารถยุโรปน่ะ

แต่ปัจจุบัน ทั้งสองก็ทำใส่ใจผู้ขับขี่มากขี้น ต่อไปเลือกรถ จากระบบความปลอดภัยอันดับแรก ต่อไปค่อยเป็นออฟชั่น
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: BestHuafoo ที่ เมษายน 26, 2014, 10:46:07
สิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือ
หลังขึ้นปีที่ 5 ญี่ปุ่นยังพอวิ่งได้ต่อ อย่างมากก็บางชิ้น
ถ้ายุโรปต้องมีระบบไฟฟ้าซักอย่างใดอย่างหนึ่งเริ่มออกอาการจนต้องเปลี่ยน
เข้าปีที่ 10 JP ยังหาอะไหล่ได้บ้าง EU อะไหล่เริ่มแพง


สิ่งที่เปลี่ยนไป
JP เริ่มมีออฟชั่นที่ทัดเทียมรถยุโรปมากขึ้น งานประกอบดีขึ้น ทำช่วงล่างใกล้เคียงมากขึ้น
แต่มักแลกกับชิ้นส่วนบางชิ้น ลดต้นทุนได้แนบเนียน ถ้าไม่สังเกตคงไม่เป็นไร
แต่ำ็มีบ้างที่พอรู้แล้วเสียความรู้สึกไปเลยก็มี

ยุโรปมีราคาในรุ่นเบสิกที่ลดลงมาจนทำให้คนชั้นกลางกล้าจับกล้าเล่นมากขึ้น
เครื่องยนต์ที่พิกัดเดียวกันกินน้ำมันน้อยกว่าอีกฝ่ายที่ยังยึดติดกับการแซยิด
กล้าเล่นกับระบบอัดอากาศ เลือกใช้เกียร์แบบ step AT มากกว่าอีกฝั่งที่เอะอะก็ซีวีที
ส่วนใหญ่มีบริการเช็คฟรี เคลมได้ทุกอาการในระยะ 3-5 ปี แทบทุกเจ้า(แต่หลังหมดประกัน แล้วแต่จะคิด)
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: prai ที่ เมษายน 26, 2014, 11:17:49
จริงๆ มันต้องดูกลุ่มเป้าหมายหรือตลาดที่จะเทียบเคียง จะดูแค่ตะวันตกหรือตะวันออกไม่ได้

อย่างวัสดุ เช่น หนังเป็นต้น
ในเมอร์เซเดส อี คลาส ก็มีใช้หลายเกรด แล้วแต่งบประมาณของลูกค้า
ซึ่งเกรดที่ดีที่สุดแน่นอนมันอาจดีกว่าในเล็กซัส จีเอส แต่แน่นอนคุณต้องจ่ายด้วยราคาที่แพงกว่า
แต่สำหรับในประเทศไทย ถ้าคุณซื้อกับผู้ถือสิทธิ์ คุณอาจจะได้เกรดธรรมดาหรือล่างสุด

ด้านเครื่องยนต์
อันนี้ต่างกันชัดเจน แม้แต่ในกลุ่มพรี่เมี่ยม
ฝั่งญี่ปุ่นยังใช้ เทคโนโลยีเดิม เน้นความจุกระบอกสูบ เป็นหลักในหลายๆ รุ่นที่ทำตลาดในยุโรป และ อเมริกา
แต่ในรถยุโรป จะเน้นเทคโนโลยีใหม่ คือ ระบบอัดอากาศ และลดน้ำหนัก
ส่วนไฮบริด ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร

ด้านช่วงล่าง
ส่วนนี้ผมเห็นว่า ฝั่งยุโรปพรีเมี่ยมจะเน้นไปที่ช่วงล่างถุงลม และระบบขับสี่มากกว่า ซึ่งประเทศไทยไม่มีให้ลอง
แต่ถ้าลองเทียบกลุ่มแมส ผมคิดว่าหลายคนยังคงติดใจช่วงล่างของกลุ่ม VW AG

ด้านความปลอดภัย
อันนี้ต้องยกให้รถยนต์จากสแกนดิเนียเวียน อย่าง Volvo เพราะรถรุ่นเก่าอย่าง XC90 ทดสอบการชนแบบใหม่ของ IIHS ในสหรัฐยังได้รับคำว่า Good กลับมาเชยชม ส่วนรถจากเยอรมันคลาสเริ่มต้น ยังต้องพัฒนา แต่รุ่นบนๆ โอเค
ส่วนฝั่งญี่ปุ่น เห็นแต่จะมีแค่กลุ่มนิสสัน เท่านั้นที่คะแนนออกมาดี แต่แน่นอนเป็นรุ่นบนๆ ของค่าย
ส่วนโตโยต้า ยังต้องพัฒนาจุดนี้อีกไกล รวมถึง Volkswagen ด้วย

สรุป ผมเห็นว่า สุดท้าย อย่างไรแล้ว ราคามันต้องสะท้อนคุณภาพ ไม่อย่างนั้น ผู้บริโภคจะเสียเงินส่วนต่างอีกเกือบ 100% ไปทำไมถ้าสินค้ามันตอบสนองได้เท่ากัน
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: Alcatraz ที่ เมษายน 26, 2014, 11:23:49
BMW E30 M3 vs BMW 320d - Auto Express (http://www.youtube.com/watch?v=9EUaPlGlSIk#ws)


ในคลิปอย่าลืมว่า ดีเซลธรรมดาไปเทียบกับตัวแรง m3 วิ่งตีคู่ได้ขนาดนั้นแถมออกตัวนำถือว่าโอเคมากๆแล้ว
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: kongktkt ที่ เมษายน 26, 2014, 11:49:55
ณี่ปุ่นเค้าทำได้สบายๆ  แต่เค้ามองเรื่องราคากับฐานลูกค้ามากกว่าครับท่าน
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: ChiLun ที่ เมษายน 26, 2014, 12:05:39

ส่วนตัวผมมองว่า

รถญี่ปุ่นในไทยต่างกับสมัยก่อนคือ ให้อะไรเยอะขึ้นแต่ก็แพงขึ้น ซึ่งที่ให้เยอะเพราะคนไม่เหมือนแต่ก่อน เข้าถึงข้อมูลข่าวสารและเริ่มเห็นว่าทำไมประเทศอื่นเค้ามีแต่เราไม่มี

รถยุโยปให้อะไรมากขึ้น แต่ราคากลับลดลง ด้วยเหตุผลเรื่องการแข่งขันกับเกรมาเก็ตและกับคู่แข่งต่างค่าย

รถยุโรปในไทยมีการแข่งขันจริงเหมือนต่างคนต่างทำ แต่รถญี่ปุ่นเหมือนจับมือกันแข่ง คุยกันในสมาคมก่อนแล้วค่อยแบ่งช่วงกันทำการตลาด
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: imachi ที่ เมษายน 26, 2014, 14:49:28
ส่วนใหญ่คนไทยชอบเอา d sec รุ่นทอป   ญี่ปุ่น  ไปเทียบกับ premium compact  รุ่นล่างยุโรป 

จะได้ผลสรุปว่า

D sec

เครื่องแรง

วัสดุค่อนข้างดี

ช่วงล่างโอเค ในระดับความเร็วไม่เกิน 160

ลูกเล่นเยอะกว่า

และลืมไปว่ารถมันคนละ secment กัน เทียบเฉพาะราคาที่ใกล้กัน   ต้องเทียบรถ secment เดียวกัน    serie 3   c-class   S 60    ต้องไปเทียบกับ  altis civic  sylphy   ไม่ใช่ไปเทียบกับ   camry  accord   teana

หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: topus0230 ที่ เมษายน 26, 2014, 15:06:42
benchmark รถญี่ปุ่นคงเป็นรถยุโรป ในขณะที่ฝั่งยุโรปก็ต้องวิจัยและพัฒนาหนีญี่ปุ่นไปเรื่อยๆ ซึ่งสภาวะเศรษฐกิจยุโรปที่ผ่านมาอาจทำให้การพัฒนาลดลง เพราะต้องคำนึงถึงต้นทุนและการทำตลาดมากขึ้น จึงดูเหมือนว่าพัฒนาช้าลง รถญี่ปุ่นจึงดูใกล้เคียงรถยุโรปมากขึ้น
หัวข้อ: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: flybigbear ที่ เมษายน 26, 2014, 15:12:00
เทคโนโลยีพอๆๆกัน แต่ความแตกต่างมันก็ยังมีอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: ichok ที่ เมษายน 26, 2014, 17:53:17
ส่วนใหญ่คนไทยชอบเอา d sec รุ่นทอป   ญี่ปุ่น  ไปเทียบกับ premium compact  รุ่นล่างยุโรป 

จะได้ผลสรุปว่า

D sec

เครื่องแรง

วัสดุค่อนข้างดี

ช่วงล่างโอเค ในระดับความเร็วไม่เกิน 160

ลูกเล่นเยอะกว่า

และลืมไปว่ารถมันคนละ secment กัน เทียบเฉพาะราคาที่ใกล้กัน   ต้องเทียบรถ secment เดียวกัน    serie 3   c-class   S 60    ต้องไปเทียบกับ  altis civic  sylphy   ไม่ใช่ไปเทียบกับ   camry  accord   teana


ในรีวิวหรือในบางคอมเมนท์จากผู้ใช้จริงก็มีบอกนะครับว่าช่วงล่าง d เซกเมนท์ญี่ปุ่นดีขึ้นเทียบเคียงหรือยังแอบมั่นใจกว่าเบนซ์ e class หรือพวงมาลัยก็ยังเทียบเคียงvolvo ประมาณนี้ หรือผมเข้าใจผิด ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ผมว่าจะเอาดีเซลเบนซินเทอร์โบยุโรปไปเทียบกับแบบธรรมดาก็คงไม่ได้ ส่วนเรื่องเกียร์และความฉลาดเจ้าแคมรี่กับเกียร์cvtก็สร้างอัตราเร่งได้แบบที่รถยุโรปมีอายได้เหมือนกันและอนาคตเกียcvt อาจเจ๋งกว่าก็ได้ สำหรับผมไม่เคยลองรถยุโรปสมัยใหม่เพราะเอื้อมไม่ถึงจึงไม่คิดไปลองเทส และไม่รู้คำว่าห่างชั้นกันแบบเทียบไม่ติดมันประมาณไหน มันวัดเป็นตัวเลขได้จะดีมากๆ สำหรับผมสิ่งที่ห่างชั้นแบบชัดๆคือเรื่องการออกแบบ ซึ่งรถยุโรปมีการออกแบบที่ดีคงเดิมแต่ญี่ปุ่นก็ออกแบบได้ดีขึ้นกว่าเก่า คือมันสวยได้นานขึ้น ถ้าเป็นรุ่นเก่าๆเอามาเทียบนี่ญี่ปุ่นดูไม่ได้เลย แต่ยุโรปเส้นสายยังดูสวยอยู่เลยแม้ผ่านไป10-20ปี
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: TDCI ที่ เมษายน 26, 2014, 17:56:56
ระวังเกาหลีเอาไปกินหมดหละ!!!!
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: fhasociety ที่ เมษายน 26, 2014, 17:57:53
สำหรับผมมองว่า "ค่ายรถญี่ปุ่นเริ่มมีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของรถยนต์ โดยเอาพรีเมียมแบรนเป็น benchmark"

ถ้าจะเปรียบเทียบ ผมว่ามันยังห่างกัน 2-3 ก้าว ทุกวันนี้ผมไม่ขออะไรมาก ขอแค่รถญี่ปุ่นมีระบบความปลอดภัยที่ครบตั้งแต่รุ่นล่าง

ขอแค่นี้ ถ้าทำได้ทุกแบรนก็ถือว่าปฏิวัติวงการรถยนต์ของค่ายญี่ปุ่นแล้ว ส่วนเรื่องเครื่องอะไรนั่น มันก็พัฒนาต่อเนื่องเป็นปกติอยู่แล้วล่ะ

ปล.อย่าพัฒนาเทคโนโลยีจนเทพ แล้วไปลดต้นทุนในอีกหลาย ๆ ส่วน ทำแบบนี้มันก็ไม่ไหวนะ
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ เมษายน 26, 2014, 18:38:03
แค่ใช้งานชีวิตประจำวัน ญี่ปุ่นก็เพียงพอ แต่ถ้าเป็นรถสปอร์ตก็คงต้องเปนรถยุโรปครับ ;)

ยกเว้นถ้าคุณงบถึง GTR นะจ๊ะ !!
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: earth3005 ที่ เมษายน 26, 2014, 20:46:19
ส่วนใหญ่คนไทยชอบเอา d sec รุ่นทอป   ญี่ปุ่น  ไปเทียบกับ premium compact  รุ่นล่างยุโรป 

จะได้ผลสรุปว่า

D sec

เครื่องแรง

วัสดุค่อนข้างดี

ช่วงล่างโอเค ในระดับความเร็วไม่เกิน 160

ลูกเล่นเยอะกว่า

และลืมไปว่ารถมันคนละ secment กัน เทียบเฉพาะราคาที่ใกล้กัน   ต้องเทียบรถ secment เดียวกัน    serie 3   c-class   S 60    ต้องไปเทียบกับ  altis civic  sylphy   ไม่ใช่ไปเทียบกับ   camry  accord   teana



+1 เห็นด้วยครับ คนส่วนใหญ่มองเรื่องราคาเป็นหลักเเต่ไม่ได้มองที่segmentของรถ เลยลืมจุดนี้ไป :)
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: unconsent ที่ เมษายน 26, 2014, 21:07:37
ส่วนใหญ่คนไทยชอบเอา d sec รุ่นทอป   ญี่ปุ่น  ไปเทียบกับ premium compact  รุ่นล่างยุโรป 

จะได้ผลสรุปว่า

D sec

เครื่องแรง

วัสดุค่อนข้างดี

ช่วงล่างโอเค ในระดับความเร็วไม่เกิน 160

ลูกเล่นเยอะกว่า

และลืมไปว่ารถมันคนละ secment กัน เทียบเฉพาะราคาที่ใกล้กัน   ต้องเทียบรถ secment เดียวกัน    serie 3   c-class   S 60    ต้องไปเทียบกับ  altis civic  sylphy   ไม่ใช่ไปเทียบกับ   camry  accord   teana


ในรีวิวหรือในบางคอมเมนท์จากผู้ใช้จริงก็มีบอกนะครับว่าช่วงล่าง d เซกเมนท์ญี่ปุ่นดีขึ้นเทียบเคียงหรือยังแอบมั่นใจกว่าเบนซ์ e class หรือพวงมาลัยก็ยังเทียบเคียงvolvo ประมาณนี้ หรือผมเข้าใจผิด ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ผมว่าจะเอาดีเซลเบนซินเทอร์โบยุโรปไปเทียบกับแบบธรรมดาก็คงไม่ได้ ส่วนเรื่องเกียร์และความฉลาดเจ้าแคมรี่กับเกียร์cvtก็สร้างอัตราเร่งได้แบบที่รถยุโรปมีอายได้เหมือนกันและอนาคตเกียcvt อาจเจ๋งกว่าก็ได้ สำหรับผมไม่เคยลองรถยุโรปสมัยใหม่เพราะเอื้อมไม่ถึงจึงไม่คิดไปลองเทส และไม่รู้คำว่าห่างชั้นกันแบบเทียบไม่ติดมันประมาณไหน มันวัดเป็นตัวเลขได้จะดีมากๆ สำหรับผมสิ่งที่ห่างชั้นแบบชัดๆคือเรื่องการออกแบบ ซึ่งรถยุโรปมีการออกแบบที่ดีคงเดิมแต่ญี่ปุ่นก็ออกแบบได้ดีขึ้นกว่าเก่า คือมันสวยได้นานขึ้น ถ้าเป็นรุ่นเก่าๆเอามาเทียบนี่ญี่ปุ่นดูไม่ได้เลย แต่ยุโรปเส้นสายยังดูสวยอยู่เลยแม้ผ่านไป10-20ปี

อื้อหืมม จากประสบการณ์ตรงขับ teana J32 เปลี่ยนมาใช้ E facelift และได้ลองขับ D segment ญี่ปุ่นรุ่นล่าสุดครบแล้วทั้ง accord teana camry รวมทั้งได้ขับ S5 F10 รุ่นแรก แบบเหยียบบนทางด่วนบอกได้เลยครับ ไม่ว่า พวงมาลัย ช่วงล่าง ความนิ่ง ไม่มีทางเอามาเทียบกันได้เลยครับ ระหว่างรถญี่ปุ่นกับยุโรป

d segment เหยียบ 120 เวลาเข้าโค้งก็เริ่มต้องใส่ใจละครับ ส่วน ของ E กับ bmw นี่ยังชิวๆอยู่เลย ถ้าถามว่าวัดความห่างชั้นได้ยังไงบ้าง ก็คงบอกยากน่ะครับ แต่ถ้าวันหนึ่งคุณได้ขับมันแล้วมันก็จะบอกได้เองแหละ ส่วนตัว ชีวิตนี้ไม่ขอกลับไปใช้รถญี่ปุ่นแล้วครับ มันติดความสบายไปซะแล้ว แหะๆ
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: Monn ที่ เมษายน 26, 2014, 22:03:19
ผมบอกได้แบบนี้ ส่วนใหญ่คนที่ผมรู้จัก และตัวผมเอง อัพจาก d seg ญี่ปุ่น (accord G8) เป็น c seg ยุโรป (F30)

บอกได้คำเดียวว่า หากไม่ดีขึ้น คงไม่จ่ายเพิ่มเป็นล้านครับ

อีกอย่าง อุปกรณ์ในกระดาษ สเป๊คบนกระดาษ กับ ฟิลลิ่ง เวลาขับลงถนนจริงๆ มันคนละเรื่องครับ

G8 ผมเปลี่ยนช่วงล่าง และยางกว้าง ยังไม่กล้าเข้าโค้งเกิน 80 เลย F30 เดิมๆ ไม่ได้ทำไร เข้าโค้งเดียวกัน 120 สบายๆ

ทางตรง G8 ไป 140 เริ่มแกว่ง ปล่อยละ  F30 ไป 170 เริ่มรู้ตัว ไปอีกได้สบายๆ แต่ตกใจทุกที ต้องถอนออก แต่ไม่แกว่งเลย

คราวรู้สึก เลยวัดยาก ว่าดีกว่าแค่ไหน วัดเป็นกี่บาท  แต่ยอมรับตรงๆ F30 เท่ห์กว่ามากมาย 555  ;D
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: Highway Star ที่ เมษายน 26, 2014, 22:41:49
มันก็เทียบได้แค่บางส่วนครับแต่ไม่ใช่ทั้งหมด บางอย่างเริ่มใกล้เคียงแต่หลายอย่างยังห่างชั้นกันอีกเยอะครับ แต่เรื่องซ่อมญี่ปุ่นย่อมดีกว่ายุโรปปัจจุบันความทนสู้แต่ก่อนไม่ได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: l2acing_G ที่ เมษายน 27, 2014, 06:34:47
ผมว่าเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่จะใกล้เคียงกัน

d-seg ของยุโรปมันต้อง s5 e-class แต่ถ้าจะเทียบกับ s3 c-class ผมว่ามันก็เทียบไม่ได้

ยุโรปรถเค้าถูกออกแบบมาเพื่อเดินทางไกลๆ เน้น performance เป็นหลัก

ญี่ปุ่น เรารู้กันอยู่แล้วเน้น ความล้ำสมัย ลูกเล่นใส่เยอะเข้าไว้

แค่เกียร์ ผมว่ามันต่างกันมหาศาลล่ะครับ ไม่ต้องเทียบเรื่องความปลอดภัยที่คนไทยมักมองข้ามเลย

ใน 6 ปีมานี้ ผมใช้วีออส(แต่งไป 4 แสนได้) focus tdci (remap คันเร่งไฟฟ้า ช่วงล่างb6) bmw f30(ช่วงล่าง m-per)

ต่างกันมหาศาลครับ ความเครียดในการเดินทางไกล นี้ก็ต่างแบบสุดๆ

แต่ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวน่ะครับไม่ได้ตัดสิน ว่าฟันธงว่าตรงตามผมคิดเน้อออ
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: boneshiro ที่ เมษายน 27, 2014, 07:09:08
คุณภาพใกล้หรือเปล่าไม่อยากถกครับ ที่ใกล้แน่ๆคือราคาครับ

เห็น camry accord ตั้งแต่ราคาไม่ถึงล้าน ยันปัจจุบันจะแตะ 2 ล้านแล้ว

จำได้ว่า 10 กว่าปีก่อนสมัยผมเรียนตรี series 3 คันนึงซื้อ accord ตัวท้อปได้ 2 คัน

แต่ตอนนี้ราคาห่างกันไม่กี่แสนแล้ว
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: boneshiro ที่ เมษายน 27, 2014, 07:19:14
จริงๆถ้าวัดกันที่เทคโนโลยี ผมว่ารถญี่ปุ่นไม่แพ้หรอกครับ แค่เรื่องเครื่องลองดู เจโบ สองเจโบ กี่สิบปีแล้ว
เจอกันในสนาม bmw รหัส m ตัวใหม่ๆ ยังสู้ไม่ได้
Nsx ก้อยังเจ๋งขนาดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง Mclaren f1 ในตำนานเลย
 ถ้าทำรถมาขายราคาเท่าๆรถยุโรปเชื่อว่าคุณภาพไม่หนีกันหรอกครับ

แต่ถ้ายกตัวอย่างเอารถอย่าง camry accord teana มาบอกว่าคุณภาพพอๆกับ series5 หรือ e class
ผมว่าเพ้อครับ ^^
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: crucifixzz ที่ เมษายน 27, 2014, 09:19:18
ผมว่าของแบบนี้มันขึ้นอยุ่กับ voice of customer ถ้ากลุ่มลูกค้าอยากได้รถแบบไหน บริษัทรถก็ต้องผลิตมาตามนั้น จริงๆแล้วก็มองได้ 3 แกนหลักคือ Emotion (ความรู้สึกในการได้ใช้รถ), Function, cost ที่เกิดขึ้น  เวลาต่างไป 3 ปัจจัยย่อมต่างกัน  อย่างe90 คนบอกว่าแข็งไป f30 ก็เลยนุ่มลง ขับแล้วดูไม่แน่น แต่เท่าที่ผมอ่าน car and driver ฉบับเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม 56   ที่ bmw ออกแบบช่วงล่างใหม่โดยให้roll center สูงขึ้น1นิ้วซึ่งสอดคล้องกับจุด cg สูงขึ้นอีก1นิ้วเมื่อเทียบกับe90 ความหนืดโช้คน้อยลง10% กันโคลงใหญ่ขึ้นนิดเดียว แต่ถ้าดูperformanceๆจริงแล้ว body-roll ไม่ต่างจากตัว e90 แต่ความนิ่มและพวงมาลัยไฟฟ้าทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไป

ปล. รถญี่ปุ่นกับยุโรปไม่ต่างกันมากที่ความเร็วต่ำ ที่ 140+ ความแตกต่างนั้นจะเห็นได้ชัดเจน
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: IS2000 ที่ เมษายน 27, 2014, 10:38:55
ถ้าเทียบรถ segment เดียวกันผมว่าปัจจุบันรถทั้งสองฝั่งใกล้กันมากๆครับ แต่ในไทยรถยุโรปยังเป็นที่รู้จักในตลาด premium มากกว่า และรถญี่ปุ่นก็ไม่มาเน้นตลาดนี้ด้วย ถ้าจะเทียบ E-Class หรือ ซีรี่ย์ 5 รถระดับ Lexus GS ก็สู้ได้ในหลายๆด้านเลยครับ (ยกเว้นราคา)
ถ้าจะเทียบ D-segment ญี่ปุ่นบ้านเราก็ต้องไปเทียบรถยุโรประดับเดียวกันด้วย อย่างเช่น VW Passat หรือพวก Ford Mondeo
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: f1rstgot ที่ เมษายน 27, 2014, 11:16:43
ผมว่าของแบบนี้มันขึ้นอยุ่กับ voice of customer ถ้ากลุ่มลูกค้าอยากได้รถแบบไหน บริษัทรถก็ต้องผลิตมาตามนั้น จริงๆแล้วก็มองได้ 3 แกนหลักคือ Emotion (ความรู้สึกในการได้ใช้รถ), Function, cost ที่เกิดขึ้น  เวลาต่างไป 3 ปัจจัยย่อมต่างกัน  อย่างe90 คนบอกว่าแข็งไป f30 ก็เลยนุ่มลง ขับแล้วดูไม่แน่น แต่เท่าที่ผมอ่าน car and driver ฉบับเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม 56   ที่ bmw ออกแบบช่วงล่างใหม่โดยให้roll center สูงขึ้น1นิ้วซึ่งสอดคล้องกับจุด cg สูงขึ้นอีก1นิ้วเมื่อเทียบกับe90 ความหนืดโช้คน้อยลง10% กันโคลงใหญ่ขึ้นนิดเดียว แต่ถ้าดูperformanceๆจริงแล้ว body-roll ไม่ต่างจากตัว e90 แต่ความนิ่มและพวงมาลัยไฟฟ้าทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไป

ปล. รถญี่ปุ่นกับยุโรปไม่ต่างกันมากที่ความเร็วต่ำ ที่ 140+ ความแตกต่างนั้นจะเห็นได้ชัดเจน
ความเร็วต่ำไม่แตกต่าง ข้อนี้ไม่จริงครับ ผมเปลี่ยนจาก FD 2.0 MC มาเป็น 320d f30 แม้กระทั่งโค้งหักสอกหน่อยที่ความเร็ว80ก็ต่างกันมากแล้วครับ พอเป็นโค้งกว้างๆนิดนึง เอาตรงๆ ซีวิคผมจะเข้าไปที่120 ถ้าเข้าไปนี่มีโอกาศหลุดสูงแน่ๆ ยังไม่กล้าเลย รู้สึกว่ารถมันไม่ไหว เต็มที่ได้แค่110คือสุดๆแล้วใช้ฝีมือตัวเองคอลโทรลสุดๆแล้ว พอเป็น F30 มันเข้าได้ที่140 โดยที่ยังไม่สุดลิมิตของรถ ซึ่งผมคิดว่า160รถมันก็ยังได้ เพียงแต่ว่าผมไม่กล้าแล้ว วิ่งทางตรงๆแค่120 ก็ต่างกันแล้วครับ ความนิ่ง ความหนึบ ต่างกันหมด ยิ่งพอ140+ คนละเรื่องอย่างที่คุณว่าเลยครับ
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: despinaauto lci ที่ เมษายน 27, 2014, 16:43:47
   ผมมองว่านับวันดูเหมือนห่างกันมากขึ้น เช่นเครื่องยนต เกียร์

  ส่วนช่วงล่างต่างกันมากครับ ทุกย่านความเร็ว

  แต่ความคุ้มค่า ยกให้รถญี่ปุ่นครับ เนื่องจากรถยุโรปราคาในเมืองไทยแพงเกินไป

หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: Impulse ที่ เมษายน 27, 2014, 17:22:14
รถญี่ปุ่นน่าจะใกล้เคียงรถจากยุโรปมากขึ้นครับ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยดีครบทุกด้านแบบรถยุโรปครับ
เช่น บางคันอาจจะอัตราเร่งที่ดี ประหยัด แต่ Performance ตอนขับไม่สนุก ช่วงล่างก็ยังเทียบไม่ติด
บางคันช่วงล่างดี พวงมาลัยดี แต่อัตราเร่งกลับไม่ดีนัก
บางคันดีหมด ประหยัดสู้ไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรจ่ายเงินถูกกว่าเกินค่าน้ำมันส่วนต่าง แต่ก็ยังสู้เรื่องระบบความปลอดภัยไม่ได้อยู่ดี

แล้วเราจะไม่ค่อยเจอ รถยุโรปตัวเด่น เทียบกับรถญี่ปุ่นตัวเด่นครับ จะเจอ ตัวเด่นญี่ปุ่นชนตัวกลางๆยุโรป มากกว่า
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: cloud ที่ เมษายน 27, 2014, 21:52:10
ระบบความปลอดภัยก็ต่างเยอะนะครับ d segmentมี6ใบ
 c class มี10ใบ ระบบเตือนการเหนื่อยล้า เบรคhold ระบบpresafe
พวกนี้มีมาให้ครบๆตั้งแต่ตัวล่างๆนะครับ ในขณะที่ d segะบบความปลอดภัยไม่มีอะไรนอกจาก แอร์แบค vsc
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: HYDE-- ที่ เมษายน 27, 2014, 23:57:33
ก็ดีขึ้นทั้งสองอย่างแหละครับ
แต่ยังไง รถญี่ปุ่นที่ยังอยู่ในตลาด Mass คงทำให้ดีเท่ารถยุโรป ที่อยู่ในตลาด Premium ไม่ได้

รถยุโรป ขับดีกว่า แน่นกว่า รถญี่ปุ่น ก็เพราะ ตัวรถมีความซับซ้อนมากกว่า
ก็เลยทำให้ ต้นทุนในการดูแลรักษาแพงกว่าตามไปด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: beercs ที่ เมษายน 28, 2014, 10:11:24
ผมว่าญี่ปุ่นทำรถได้ดีขึ้น  ถ้าคิดว่าในโลกนี้มีแต่รถญี่ปุ่นก็ไม่เป็นไรแล้ว
ความแรง  ความประหยัด  ความปลอดภัย  ถือว่าโอเคแล้ว  ในราคาที่ใครก็พอจะซื้อได้
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ เมษายน 28, 2014, 18:48:45
เรากำลังพูดถึงรถหลายสิบรุ่น ซึ่งมันยากจะพูด แต่ในความเห็นผม มันอยู่ที่ใครเอาเงินไปลงกับอะไรในตัวรถมากกว่า
แต่ถ้าพูดกันเรื่องช่วงล่าง..ผมยังรู้สึกว่าพวกรถเยอรมันจะมีเทคโนโลยีการเซ็ตแชสซีส์เริ่มต้นมาให้ดีกว่าญี่ปุ่นในภาพรวม
ไม่ต้องอะไรมาก รถอย่าง Focus ไม่ว่าจะเป็นรุ่นก่อนหน้านี้ หรือรุ่นปัจจุบัน ช่วงล่างเฉียบ พวงมาลัยแจ๋ว เป็นมรดกจากฝีมือ
กูรูแชสซีส์ ริชาร์ดแพรร์รี่โจนส์ ซึ่งเข้ามาช่วยดูตั้งแต่สมัย Ford Mondeo แล้ว ในปัจจุบัน สำหรับรถช่วงล่างเดิมโรงงาน100%และราคาไม่เกิน 1ล้านบาท ผมว่าหาคนมากิน Ford ยาก ที่จะทำรถยังไงให้เกาะ ให้มั่น แต่ดันขับแล้วไม่กระด้างเกินไป

ผมเห็นพูดเอา D-Segment เทียบกับพรีเมียมแบรนด์ของยุโรปกัน..ไม่ลองมองอะไรที่ใกล้กันมากกว่า? VW Golf 1.4บ้านๆก็เป็น C-Segment ธรรมดา, Octavia ก็เป็นรถคลาสธรรมดา, Superb ก็เป็นรถ D-Segment ตัวยาวฟัดกับ Camry, Accord ได้ตรงรุ่น...ลองเอามาเทียบกันดูสิครับ..ถ้าเป็นแบบนี้ยังไงรถเยอรมัน/เช็คก็มั่นคงกว่า พวงมาลัยมีน้ำหนักดีกว่า สาดโค้งมันส์ แต่ความกระด้างไม่ได้ต่างกันมากนัก

เรื่องบอดี้คอนโทรล ถ้าคุณไม่ปักใจกับความเป็นยุโรปมากเกินไปนัก ผมว่า Teana ก็เป็นตัวอย่างที่ไม่เลว บอดี้คอนโทรลดีกว่าเบนซ์ E300BlueTec Hybrid อีกนะผมว่า..และ E300BlueTec Hybrid ของทุกวันนี้ก็ยังไม่นิ่งแน่นเท่ารถที่เก่าแก่แต่overengineer อย่าง W124 ด้วยซ้ำ ทำไมจั๊มเนินแล้วต้องมีแกว่งในแนวข้าง..ซึ่งนี่มันนิสัยของ Teana สมัยเป็น J32ชัดๆ...แต่ถ้าเข้าโค้งออกโค้ง สบม. เบนซ์ทำได้ดี..ดีจนอย่างลองเอายางกว้างเท่าๆกันมาใส่ Teana บ้าง (รถญี่ปุ่นหลายรุ่นชอบมาลด Cost กับคุณภาพยางติดรถ) ที่แน่ๆ ผมคิดว่าTeana ไม่ได้แพ้E-Classแบบห่างชั้นขนาดนั้นแม้จะด้วยยางติดรถก็เถอะ..แต่โอเคถ้าใครบอกว่าคมและมั่นเหมือน 528i MSport อันนี้ผมคงต้องถามกลับเป็นภาษารัสเซียว่าปราฟด๊า? (จริงเหรอวะ)

หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ เมษายน 28, 2014, 22:39:50
ผมว่ามันก็ดีขึ้นเรื่อยๆนะ ทั้งคู่

แต่ราคาญี่ปุ่นมันเพิ่มขึ้น แต่ยุโรปมันลดลง

ไม่รู้ว่าเป็นแค่เฉพาะบ้านนี้ เมืองนี้หรือไม่
หัวข้อ: Re: ปัจจุบัน รถญี่ปุ่นดีขึ้น กับ รถยุโรปแย่ลง ????
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ เมษายน 29, 2014, 11:45:38
เรืีองของความทนทานรอดูยุคนี้ไปครับ รถญีีปุ่นใส่ของเล่นเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์มาให้มากมายไล่ตามรถยุโรปมาิดๆเพืีอให้คนซื้อมองว่ามันปลอดภัยมากมีออฟชั่นเยอะคุ้มเงินจ่าย ที่ผ่านมารถญี่ปุ่นให้อย่างมากก็ม่านนิรภัยกับvscมาให้ แต่จากนี้ไปมาดูกันว่าระบบกล้องรอบคันเวลาเสียจะยังยิ้มแย้มบอกว่าซ่อมสบายกระเป๋ากันอีกไหม มันเป็นประเด็นที่คนไทยเอารถยุโรปที่ใส่อุปกรณ์มากๆมาให้แล้วมันมีจุดให้ต้องดูแลเยอะมาเทียบกับรถญี่ปุ่นที่ใส่อุปกรณ์มาน้อยๆมีอะไรให้ซ่อมน้อยกว่าแล้วบอกรถยุโรปแม่งจุกจิกซ่อมเยอะ........ :-X  ถ้ารถญี่ปุ่นยังคงจะสู้กันด้วยอุปกรณ์ต่างๆที่ใส่เพิ่มเข้ามาให้ใกล้เคียงรุ่นที่ขายประเทศอื่นๆ อีกไม่นานได้รู้กัน จินตนาการง่ายๆเหมือนเหตุผลทำไมคนไม่สนพรีอุสเหตุผลแรกๆเลยคือกลัวซ่อมแบตเตอรี่แพงกับระบบไฟฟ้าเยอะ  :P

เรืีองคุณภาพรถญี่ปุ่นทำดีขึ้นกว่าในอดีตแต่ก็อย่าลืมว่ารถยุโรปเองก็ไม่ได้อยู่กับที่ครับ ที่ต่างแดนเค้ามีคู่แข่งยี่ห้ออื่นทั้งรถยุโรปทั้งรถญี่ปุ่นที่ไม่มีขายในไทยอีกมากมายทึ่ต้องสู้รบไม่ใช่แค่โตโยต้า ฮอนด้า นิสสันเท่านั้น อย่างที่คนบนๆบอก การใช้งานพื้นฐานไม่ค่อยต่างแต่ลองใช้งานแบบรีดเร้นประสิทธิภาพดูสิครับ  :P