Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kwancanoe ที่ พฤษภาคม 08, 2014, 18:32:47
-
คือว่า... ผนน่ะจอง Pulsar Turbo ไว้ และแน่นอนครับผมยังไม่พอใจกับรูปร่างหน้าตามันเท่าไหร่นักก็เลยจะเอาไปแต่งครับ ซึ่งแต่งเรื่องของ Body นั้นผมไม่มีปัญหาครับ มันขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนบุคคล แต่... เรื่องขนาดยางนี่สิครับปัญหาเลย คือว่าปัญหามันมีดังนี้ครับ
ผมลองมองรถ Pulsar, Lancer EX GT, Ford Focus เป็นต้น ซึ่งเดิมๆ(ในตัวแพงสุด) เขาจะใช้ล้อดังต่อไปนี้ครับ
Pulsar 205/50 R17, Lancer EX GT 215/45 R18, Ford Focus 215/50 R17 ซึ่งทั้ง 3 ตัว(และในรถบ้านๆทั่วไป)ผมรู้สึกเหมือนว่าขนาดล้อมันจะดูเล็กไปนิดหน่อย เหมือนไม่ลงตัวกับตัวถังรถน่ะครับ
ทีนี้มาดู BMW Series 3 กับ MB C-Class กัน
BMW Series 3 225/45 R17, MB C250 AMG 225/40 R18 ซึ่ง แปลกมาก เพราะหากว่าดูจากตัวเลขแล้ววงล้อของทั้งสองรุ่นนี้จะเล็กกว่าบรรดารถญี่ปุ่นข้างบน แต่... ทำไมผมดูแล้วรู้สึกว่ามันใหญ่มาก มันสวยและลงตัวกับตัวถังมากๆ เอ๊ะ!!!หรือว่าผมมโนไปเอง????
จะเห็นว่ามีเฉพาะหน้ายางของทั้ง BMW และ MB ที่หน้ายางกว้างกว่า เอ...หรือว่าความกว้างของหน้ายางมันจะมีผลต่อความรู้สึกของความใหญ่ของขนาดล้อ
และผมอยากจะขอปรึกษาอะไรเป็นความรู้ด้วยครับ จะได้ประกอบการตัดสินใจเรื่องของขนาดยาง
คือว่า แก้ม 40 45 50 เนี่ยมันทำให้รถแข็งกระด้างแตกต่างกันไหม ผมน่ะอยากได้ทั้งสวยทั้งนิ่มครับ(ขับไกลๆกลัวใส้เลื่อน) แล้วความกว้างของหน้ายางควรจะกว้างประมาณไหนครับ สมมติว่าผมเอารถของผมไปเปลี่ยน Body kit ใหม่ให้เป็นแบบมีโป่งซุ้มล้อ ผมควรจะเปลี่ยนยางให้เป็นหน้ากว้างขึ้นให้พอดีกับซุ้มล้อหรือว่าใช้ยางเดิมแล้วใส่บูทรองเอาครับ(แล้วในพวกรถแข่งในสนามเขาทำกันยังไง มันสวยลงตัวมากๆเลยครับ)
สุดท้ายนี้ ผมจะแต่งรถให้เป็นคล้ายรถแข่งในสนาม(GT)ตามภาพที่แนบมานี้ ผมควรจะใช้ล้อและยางยังไงดี ซึ่งตามภาพเขาใช้ R20 แต่ผมไม่ได้ถามว่าแก้มยางเท่าไหร่ครับ ผมว่ามันสวยมากๆ แต่กลัวว่ามันจะแข็งกระด้างจนขับทางไกลแล้วใส้+กระเพาะอาหาร กระเทือนไปหมดครับ อ้อ.... ผมไม่ต้องการให้เวลาเลี้ยงแล้วล้อไปติดตัวถังด้วยนะครับ และสามารถลงหลุมบ่อได้บ้างโดยล้อไม่ไปติดตัวถัง ครับผม
ขอบคุณมากๆครับ
-
ถ้าไม่ชอบกระด้างเกิน แนะนำ แก้ม 50 ครับ ..... แก้ม 40-45 ตึงตัง+กระด้าง ชัดเจน
-
ถ้าไม่ชอบกระด้างเกิน แนะนำ แก้ม 50 ครับ ..... แก้ม 40-45 ตึงตัง+กระด้าง ชัดเจน
แล้วทำไม BMW กับ MB ถึงเลือกใช้ 40 45 ครับผม ผมงง แล้วมันไม่แข็งเหรอครับ???
-
แล้วทำไม BMW กับ MB ถึงเลือกใช้ 40 45 ครับผม ผมงง แล้วมันไม่แข็งเหรอครับ???
---------------------->>>
มันอยู่ที่ Design ของช่วงล่างรถรุ่นนั้นๆด้วยครับคุณ
Mercedes C200 ยางแก้ม 45 วิ่งนิ่มกว่า BMW หลายๆรุ่นที่ใช้ยางแก้ม 55 นะครับ
(เดิมผมก็คิดแบบนั้นแหละ ว่ายางแก้มเตี้ยจะต้องแข็งตลอดไป ทำไป ทำมา ชักชอบแก้มบางๆ มันดูเท่ดี))
-
ผมก็ไม่เคยขับเจ้าพัลซ่า แต่โดยปกติวิสัยรถญี่ปุ่นจะนุ่มกว่ายุโรป...
ดังนั้นรถพวก บีเอ็ม มันน่าจะกระด้างกว่าอยู่แล้ว แต่การวัดแก้มยางเขาวัดเป็นร้อยละของหน้ายาง พอยุโรปหน้ายางกว้างกว่า ความสูงของยางก็มากกว่า(ขนาดแก้มเท่ากัน) ไอ้ครั้นจะใส่ยางหน้ากว้างให้พัลซ่าหน้ากว้างของแม็กก็แคบไป หรือเลี้ยวติด ต้องดัดแปลง ฯลฯ มันก็เลยมองดูแหม่ง ๆ ประมาณนั้นมั้งครับ
ดังนั้น ยาง245/45 (แก้มจะอยู่ที่ 101) นุ่มกว่า ยาง 215/45(แก้ม 96) คงพอมองออกนะครับ..
-
ถ้าไม่ชอบกระด้างเกิน แนะนำ แก้ม 50 ครับ ..... แก้ม 40-45 ตึงตัง+กระด้าง ชัดเจน
แล้วทำไม BMW กับ MB ถึงเลือกใช้ 40 45 ครับผม ผมงง แล้วมันไม่แข็งเหรอครับ???
** ส่วนนึง อยู่ที่ช่วงล่างของรถแต่ละคันด้วยครับ...ว่า ออกแบบระบบกันสะเทือนมายังไง สามารถสลายแรงกระแทกได้แตกต่างกันไปครับ ซึ่งส่วนใหญ่ รถยุโรปจะทำได้ดีกว่าครับ
แม้ใช้แก้มบางกว่า แต่ก็ตัวถังถูกออกแบบมาดี ซับแรงกระแทกไปได้มาก ทำให้นั่งแล้วไม่กระเทือนเท่า...
ผมตอบในมุมมอง รถญี่ปุ่นทั่วไป ที่เคยใช้มาหลายยี่ห้อ...แก้ม 50 จะยังมีความนุ่มนวลหลงเหลืออยู่ ไม่ย้วยเกินไปเหมือนแก้ม 55-60
// ต่างกับ 40-45 ที่จะเจอแต่ความกระด้างมากกว่า แต่ก็แลกมาด้วยความเฟิร์มในการ บังคับควบคุมที่ดีขึ้น
-
.
.
.
ผมใช้ Benz ที่ให้ยาง 225/40/18 มาจากโรงงาน
ขอบอกว่าไม่เด้ง ไม่แข็งเลยครับ นุ่มกำลังดีเลยด้วย
ซึ่งตอนแรกก็กลัวว่ามันจะแข็งเหมือนกัน แต่มันไม่เลย
น่าแปลกใจมาก
ต่างกับเคยนั่งรถญี่ปุ่นของเพื่อนที่เป็นยางขนาดเดียวกัน
เด้งไปเด้งมาแทบอ้วก ก็งงเหมือนกันครับว่า Benz ทำได้ยังไง
ทั้งๆที่ยางแก้มมันบางมาก แต่ถ้าให้เดา ผมว่าเค้าออกแบบช่วงล่าง
มาเพื่อยาง size นี้ตั้งแต่แรก เลยสามารถปรับจูนให้มันลงตัวได้
ส่วนถ้าคุณจะไปเปลี่ยนเอง ผมว่าก็เตรียมเด้งได้เลยครับ
ถ้า 40 หรือ 45 ถ้าไม่อยากเด้งมากก็แนะนำไป 50 ดีกว่าครับ
-
คว้ามกว้างหน้ายางมีผลให้ล้อดูใหญ่ขึ้น และสวยกว่าจริงครับ แถมขับดีกว่า ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมรถญี่ปุ่นถึงให้ล้อวงแคบจัง บางรุ่นนี่หุบไปในซุ้มล้อด้วยซ้ำ
ความกระด้าง รถญี่ปุ่นยังงัยก้อกระด้างกว่า รถผมw211ใส่235/45r18 นุ่มแน่นสบายมาก. Accord g8 ตอนเดิมๆ 225/50r17 ยังกระด้างกว่าเห็นๆ
-
225/45/17 เส้นรอบวงใกล้เคียงกับ 205/50/17 มากครับ
ตัวเลขกลาง 45,50 ต้องคิดเป็น % ของหน้ายางอีกทีครับ
-
โจทย์คือความนิ่มและยางใหญ่ๆ
-ความนิ่มคงต้องใช้แค่ขอบ 17 ครับ
-ต่อมาความกว้างยาง
ถ้าใช้ล้อเดิม ก็ดูความกว้างต่อว่า 6.5 หรือ 7
...ถ้า 6.5 ก็ใช้ 215/50/17 พอ
...ถ้า 7 หรือเปลี่ยนล้อเป็น 7.5 ขึ้นไป ก็ใช้ 225/45/17 ครับ
-
นิ่มแข็งอยู่ที่ชนิดของยางด้วยนะครับ ยางสปอตจะกระด้างกว่ายางซอฟในขนาดเดียวกัน
-
ปัจจุบัน เพิ่งเอา E car ไปทำโช๊ค อัดน้ำมันใหม่มาครับ แข็งกว่าเดิมๆ ส่วนยาง 175/70/13 รู้สึกได้ว่าแข็งแต่ทำโช๊คมาเลยโค้งหนึบ คราวนี้เพิ่งเปลี่ยนยางและล้อใหม่เป็นขนาด 195/55/15 โอ้ว ปึกปักๆ เลยครับ แข็งเกาะเลย
มันอยู่ที่หลายปัจจัยด้วยครับ โช๊ค สปริง น้ำหนักรถ (ทำให้มันเด้งขึ้นเด้งลงเยอะ) แก้มยางก็มีผลครับ
-
ผมคิดว่า ส่วนใหญ่รถยุโรป ผลิตออกมาที แต่ละรุ่น เหมือนเค้าสร้างบอดี้มาให้รองรับ ขนาดเครื่องยนต์ แรงม้า ในหลายๆขนาดในบอดี้เดียวกัน จากรถบ้านๆจนจะเป็นซุปเปอร์คาร์ได้ มันคงเป็นจุดหนึ่งละครับ ที่เค้าจะเน้นเรื่อง Performance ของรถต่างๆ ไปในทีเดียว ช่วงล่างต่างๆอะไรมันก็เลยต้องออกแบบให้รองรับกันไปด้วยเลย
-
BMW Series 3 225/45 R17, MB C250 AMG 225/40 R18 ซึ่ง แปลกมาก เพราะหากว่าดูจากตัวเลขแล้ววงล้อของทั้งสองรุ่นนี้จะเล็กกว่าบรรดารถญี่ปุ่นข้างบน แต่... ทำไมผมดูแล้วรู้สึกว่ามันใหญ่มาก มันสวยและลงตัวกับตัวถังมากๆ เอ๊ะ!!!หรือว่าผมมโนไปเอง????
ตอบ ไม่ได้มโนหรอกครับ มันเป็นยังงั้นจริงๆ เพราะรถยุโรป เค้าออกแบบโดยคำนึงถึงระยะซุ้มล้อกับยาง สังเกตได้ว่าจากโรงงาน ช่องว่างระหว่างยางกับบังโคลนจะแคบ แคบมากว่ารถยี่ปุ่นเยอะ และตัวล้อก็จะยื่นออกมาใกล้กับแนวบังโคลนมากกว่ารถยี่ปุ่นเช่นกัน ตรงนี้แหละเคล็ดลับที่ทำให้รถยุโรปดูสวยตั้งแต่ออกมาจากโรงงาน ลองดูเบนซ์ บีเอ็ม ออดี้ โฟล์ค(โดยเฉพาะกอล์ฟ GTI) ออกมาจากโรงงาน ล้อชิดบังโคลนเลย สวยเลย ไม่ต้องโหลด ไม่รู้ทำไมเรื่องแบบนี้รถยี่ปุ่นถึงไม่คิด
คือว่า แก้ม 40 45 50 เนี่ยมันทำให้รถแข็งกระด้างแตกต่างกันไหม ผมน่ะอยากได้ทั้งสวยทั้งนิ่มครับ(ขับไกลๆกลัวใส้เลื่อน) แล้วความกว้างของหน้ายางควรจะกว้างประมาณไหนครับ สมมติว่าผมเอารถของผมไปเปลี่ยน Body kit ใหม่ให้เป็นแบบมีโป่งซุ้มล้อ ผมควรจะเปลี่ยนยางให้เป็นหน้ากว้างขึ้นให้พอดีกับซุ้มล้อหรือว่าใช้ยางเดิมแล้วใส่บูทรองเอาครับ(แล้วในพวกรถแข่งในสนามเขาทำกันยังไง มันสวยลงตัวมากๆเลยครับ)
สุดท้ายนี้ ผมจะแต่งรถให้เป็นคล้ายรถแข่งในสนาม(GT)ตามภาพที่แนบมานี้ ผมควรจะใช้ล้อและยางยังไงดี ซึ่งตามภาพเขาใช้ R20 แต่ผมไม่ได้ถามว่าแก้มยางเท่าไหร่ครับ ผมว่ามันสวยมากๆ แต่กลัวว่ามันจะแข็งกระด้างจนขับทางไกลแล้วใส้+กระเพาะอาหาร กระเทือนไปหมดครับ อ้อ.... ผมไม่ต้องการให้เวลาเลี้ยงแล้วล้อไปติดตัวถังด้วยนะครับ และสามารถลงหลุมบ่อได้บ้างโดยล้อไม่ไปติดตัวถัง ครับผม
ตอบ ก็ต้องใช้ตามแบบของเค้าแหละครับ ถึงจะสวยเหมือนของเค้า หากเล่นล้อเล็กลงเป็น 19นิ้ว ยางก็จะต้องหนาขึ้น เพื่อรักษาเส้นรอบวงให้คงเดิม ความสวยก็จะน้อยลง แต่ใช้ง่าย สบายขึ้น พวกนี้เป็นสัจจะธรรม หนีไม่พ้น ต้องแลกกันครับ จำไว้ว่ารถจะยิ่งสวย หากล้อยิ่งใหญ่ ยางยิ่งบาง ล้อยิ่งยื่น ยิ่งชิดบังโคลน แต่ก็จะยิ่งขับยากขึ้นเรื่อยๆ อันนี้เราต้องบาลานซ์ความต้องการกับการใช้งานเอาเองครับ
ขอบคุณมากๆครับ
-
ผมอธิบายไปรอบที่100ได้แล้ว เลิกพูดถึงเรื่องซีรี่ย์ยาง ว่า 40 จะต้อง บางกว่า 45
การคำนวณ ว่าแก้มยางหนา-บาง มันต้องใช้ความกว้างของหน้ายางมาคำนวณด้วยครับ
จะคุยว่ายางอันไหนหนา บางกว่ากันต้องบอกไซด์ของยางมาเต็มๆครับ ไม่ใช่ยางซีรี่ย์
เท่านี้ เท่านั้น แบบนี้บอกไม่ได้ครับ ยกตัวอย่างง่าย
215/40R17 VS 275/30R19 ถ้าคนทั่วไป มักจะคิดว่ายางซีรี่ย์30 ต้องบางกว่าโข
ในความเป็นจริง ยาง2เบอร์นี้ความหนาแก้มยางต่างกัน3.5mmเท่านั้นเอง เรื่องความกระด้าง
ของรถ ยางมีส่วน, unsprung weight มีผล, geometry ของช่วงล่าง ผู้เล่นหลัก
ไปลองหาBMW E39 ใส่ล้อสัก19 ยางบางๆดูครับ ช่วงล่างมันยังนุ่มกว่ารถstd ล้อขอบ
15 16 ยกตัวอย่างลองไปเทียบกับvolvo 850 ก็ได้ ล้อ15 เดิม BMW ล้อ19 ช่วงล่าง
นุ่มกว่า สะเทือนน้อยกว่า แต่เกาะกว่า
-
BMW ซีรี่3 ยางเป็น 225/50/17 นะครับ
ไม่ใช่ 225/45