Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ssandss ที่ พฤษภาคม 23, 2014, 21:43:50
-
คุยกับพี่ชายมาหน่ะครับ พอดีพี่ชายมีแพลนออกรถใหม่ อีก 3-4 เดือน งบ 600k+_เล็กน้อย
เค้าสนใจชอบ bmw เลยมองไป e90 318 ปี 2007 หน่ะครับ แต่พอลองศึกษา
เห็นสมาชิกแทบทุกท่านบอกว่าหลังหมด bsa 5 ปี bmw ค่อนข้างจุกจิกจะเล่น
มือสองควรมีความรู้ แต่พี่ชายไม่ค่อยมีเลยครับ แต่ว่าจะศึกษาในเวลาที่เหลือ ก็จะมีแต่พนักงานในบริษัทที่ซ่อม
เครื่องเป็นเล็กน้อยแต่ก็เคยแต่รถญี่ปุ่นคอยช่วย เลยอยากถามสมาชิกครับ
1. ใครมีอู่ประจำแนะนำบ้างครับ แถว กทม. หรือ ปทุม นนทบุรี นครปฐม
2. ตัว e90 318 นี่ เติมน้ำมันไรได้บ้างหรอครับ
3. ไม่ว่าจะ 318 320 325 body เหมือนกันใช่มั้ย
-
รถเก่าจุกจิกทุกคันแหละ อยู่ที่คุณรับได้หรือเปล่า
320d จะดีกว่า
-
น่าจะยังเติมได้แค่ E10 นะครับ เพราะข่าวว่าทำให้เติมได้ถึง E20 ก็มาช่วงหลังๆหน่อย
-
ลองหาข้อมูลดีๆ และศึกษารถก่อนก็ดีนะครับ คือ BMW ต้องยอมรับว่า จุกจิกครับ และด้วยราคารถที่สูงตอนใหม่ๆ อุปกรณ์ ชิ้นส่วน ก็แพงตามๆ กันไปนะ ราคารถ อาจจะไม่สูง เพราะทุกคนพอทราบว่า ซ่อมไม่ถูกครับ หากซื้อรถมา 600k ก็ควรมีสำรองซ่อมไว้ 100-150k เผื่อๆ เจอชิ้นโตๆ ก็ 70-80k สบายๆ เลยนะ
1. มีอู่ประจำ อยู่ ถ.นราธิวาส ครับ
2. e90 เติมได้ GSH95 นะ
3. บอดี้เดียวกัน ต่างอุปกรณ์
แต่หากจะเล่นมือสอง ผมอยากให้เล่นรุ่นสูง อย่าเล่นรุ่นต่ำเลยครับ และหาที่มีประวัติครบๆ ดูรายละเอียดการซ่อม การเข้าศูนย์ต่างๆ ค่อยๆ หา อย่าใจร้อน ราคา 600k ผมว่า ไปมอง E46 รุ่น 323i เลย เครื่องหกสูบ BM เสียงมันเพราะจริงๆ นะ หากชอบ E90 ลองไป 325i ดู ราคาอาจจะไม่ห่างมาก แต่ขับสนุกกว่าเยอะ 318/320i ของ E90 ไม่เห็นมีใครชอบนะ ขับชิลๆ ได้ แต่เกรงว่า มันจะไม่มันส์ มาทำเพิ่มยากกว่า ไป 6 สูบเลย ดีกว่าแน่ๆ ครับ
-
ถ้าวิ่งแล้วได้ยินเสียงกุ๊กกั๊กแล้วรับไม่ได้ต้องซ่อม เห็นไฟเตือนขึ้นแล้วสงสัยต้องแก้ตลอด แบบนี้ก็เตรียมค่าซ่อมไว้เยอะๆ เลยครับ
-
คุยกับพี่ชายมาหน่ะครับ พอดีพี่ชายมีแพลนออกรถใหม่ อีก 3-4 เดือน งบ 600k+_เล็กน้อย
เค้าสนใจชอบ bmw เลยมองไป e90 318 ปี 2007 หน่ะครับ แต่พอลองศึกษา
เห็นสมาชิกแทบทุกท่านบอกว่าหลังหมด bsa 5 ปี bmw ค่อนข้างจุกจิกจะเล่น
มือสองควรมีความรู้ แต่พี่ชายไม่ค่อยมีเลยครับ แต่ว่าจะศึกษาในเวลาที่เหลือ ก็จะมีแต่พนักงานในบริษัทที่ซ่อม
เครื่องเป็นเล็กน้อยแต่ก็เคยแต่รถญี่ปุ่นคอยช่วย เลยอยากถามสมาชิกครับ
1. ใครมีอู่ประจำแนะนำบ้างครับ แถว กทม. หรือ ปทุม นนทบุรี นครปฐม
2. ตัว e90 318 นี่ เติมน้ำมันไรได้บ้างหรอครับ
3. ไม่ว่าจะ 318 320 325 body เหมือนกันใช่มั้ย
1. อู่ BMW นครปฐม ก็มีอู่ช่างต๊ะครับ อยู่ขาเข้ากรุงเทพ เลยวัดพระปโทนไปหน่อย
2. E10 ได้ทุกตัว
3. เหมือนกันครับ
ถ้าไม่อยากมีปัญหาเยอะ แนะนำเล่นรุ่นที option น้อย ๆ เพราะไอ้ที่ต้องซ่อมกัน ก็คือ Option นี่ล่ะครับ จอ idrive ขาด เส้นขึ้น วิ่งหาเซียงกงได้มาก็ยังต้องมาโปรแกรมกันใหม่ เอารุ่นไม่มี ก็ไม่ต้องห่วงตรงนี้ 318 320 คือรถเครื่องตัวเดียวกันครับ โปรแกรมไม่เหมือนกัน option ต่างกัน ถ้าคุณเป็นพวกลัทธิคลั่ง option เยอะ กลัวซ่อมแพง แนะนำ Honda City ครับ งบเท่ากัน
-
ลองหาข้อมูลดีๆ และศึกษารถก่อนก็ดีนะครับ คือ BMW ต้องยอมรับว่า จุกจิกครับ และด้วยราคารถที่สูงตอนใหม่ๆ อุปกรณ์ ชิ้นส่วน ก็แพงตามๆ กันไปนะ ราคารถ อาจจะไม่สูง เพราะทุกคนพอทราบว่า ซ่อมไม่ถูกครับ หากซื้อรถมา 600k ก็ควรมีสำรองซ่อมไว้ 100-150k เผื่อๆ เจอชิ้นโตๆ ก็ 70-80k สบายๆ เลยนะ
1. มีอู่ประจำ อยู่ ถ.นราธิวาส ครับ
2. e90 เติมได้ GSH95 นะ
3. บอดี้เดียวกัน ต่างอุปกรณ์
แต่หากจะเล่นมือสอง ผมอยากให้เล่นรุ่นสูง อย่าเล่นรุ่นต่ำเลยครับ และหาที่มีประวัติครบๆ ดูรายละเอียดการซ่อม การเข้าศูนย์ต่างๆ ค่อยๆ หา อย่าใจร้อน ราคา 600k ผมว่า ไปมอง E46 รุ่น 323i เลย เครื่องหกสูบ BM เสียงมันเพราะจริงๆ นะ หากชอบ E90 ลองไป 325i ดู ราคาอาจจะไม่ห่างมาก แต่ขับสนุกกว่าเยอะ 318/320i ของ E90 ไม่เห็นมีใครชอบนะ ขับชิลๆ ได้ แต่เกรงว่า มันจะไม่มันส์ มาทำเพิ่มยากกว่า ไป 6 สูบเลย ดีกว่าแน่ๆ ครับ
320i ก็พอไล่พวก Civic 2.0 ได้อยู่นะครับ เกียร์6speed ทำให้ได้เปรียบพวก Compact car ฝั่งญี่ปุ่นแม้ว่าน้ำหนักรถจะหนักกว่าก็ตาม แต่ก็เห็นด้วยตามคุณ Monn เล่น 325i ดีกว่าครับ ถ้าเป็นตัว LCI ได้ก็ดีเพราะมี Msport มาให้จากโรงงาน
-
bmw มีระบบอิเลคโทรนิก เยอะที่สุด เรียกว่า ไฟฟ้าทั้งคัน on board มีอะไรเสียหาย ไฟจะโชร์หมดครับ
ดังนั้น รถที่ option เยอะๆ จะมีข้อเสียตรงนี้ครับ แต่พวกนี้ไม่ได้เสียกันง่ายๆ นะครับ ต้องมี 10 ปีครับ
พอดีว่า พี่ชายผมเคยเล่น e34 อยู่ครับ แต่ตอนนี้ขายไปแล้วครับ
ถ้าจะเล่น bmw มือสอง ต้องมีเวลา ดูแล เยอะมากหน่อยครับ ชอบเดินเชียงกง เพื่อหาอะไหล่ถูกๆ และต้องหาอู่ที่ไว้ใจได้ด้วยครับ
-
ขอบคุณทุกคนครับ พี่ชายไม่ใช่พวกคลั่ง option หรอกครับ สงสัย
คงต้องหารุ่น option น้อยๆ ปัญหาจะได้น้อยๆ 55 ความรู้ก็น้อย TT
ปล. รถใช้น้อยครับเดือนละ 100km โดยประมาณ แต่ใช้เกือบทุกวัน
จะช่วยลดปัญหามั้ย หรือมันก็เป็นตามอายุ
-
ผมใช้ 325 e92 ปี 2008 ตัวสองประตูซื้อมือสองมาเกือบสองปีแล้ว เจอไดชาร์จเสียไปอย่างเดียว
หมดค่าซ่อมไปหมื่นกว่าบาท แต่อย่างอื่นไม่มีอะไรจุกจิกเลย ขับดีสุดๆ แต่กินน้ำมันเยอะไปหน่อย
-
ซีรี่ 3 โดยเฉพาะ กับพวก 6 เม็ด เป็นรถที่ไม่มีอะไรจุกจิกเลยครับ ท่าน
จะมีก็แค่พวกช่วงล่างแค่นั้นเองครับ ที่ลูกหมากบางตัวแตกง่าย ถ้าขับรูดบ่อยๆ เพราะตัวถังหนัก และ ด้วยความที่ช่วงล่างนิ่ง เลยทำให้บางครั้ง ขับรูดโดยไม่รู้ตัว
อิเลคโทรนิคมาก แต่ทนครับ ไฟท้ายเบรคขาดยังเอาไฟหรี่มาแทนไฟเบรคเลย หลอดไฟขาดไฟโชว์ขึ้นหน้าปัทท์เลย ไม่ต้องไปกลัวหรอกครับระบบอิเลคโทรนิค มันไม่ได้เสียง่ายๆเลยครับ ทนทายาทครับ ชั่วลูกชั่วหลาน ผมใช้มาไม่เห็น มันจะเสียอะไร วิ่งก็ตั้ง 2 แสนกว่าโล แต่เป็นรุ่นก่อนน๊ะ
อะไหล่ถูกมากๆ อู่คิดแพงเพราะว่าบวกไปมาก มากกว่า คิดว่า คนขับมีตังส? เลยคิดแพง เมื่อคิดแพงเลยเป็น มาตราฐานในการคิด ของเกือบจะทุกอู่
รถยุโรปถ้ามีอะไหล่ oem ผลิต รึอะไหล่เทียบ ราคาอะไหล่ ถูกว่ารถญี่ปุ่นอีกครับ ขนาดพวก ซีรี่ 7 ที่วิ่งสุวรรณภูมิ อะไหล่ oem ยังมีเลยครับ โดยเฉพาะกับช่วงล่างด้วยแล้ว มีทุกชิ้นครับ
ถ้าได้มา กระปุ๊กพักน้ำ ต้องเปลี่ยนก่อนเลยครับ กับพวกท่อยาง หม้อน้ำ ยุโรปนั้นถ้าอายุได้เมื่อไหร่ ต้องเปลี่ยน ก่อนเลย
วัดโสมอะไหล่เพียบ
เซียงกง แถบ ถนนนวมินทร์ ครบ ของเซียงกงเข้าถูกที่ อะไหล่มีครบ และราคาถูกมากๆ
เล่น บีเอ็ม ต้อง 6 เม็ดเท่านั้นครับ ถึงจะทนถึก และทนกว่ารถญี่ปุ่นด้วยครับ เกียร์ก็ทนระเบิดเถิดเทิง บีเอ็มมีปัญหาแค่ ช่วงล่างเองครับ ที่ตอบสนองไว ชิ้นส่วนลูกหมากเลยเล็กเลยแตกง่ายกับรถที่น้ำหนักมาก
ยังไง มองหาอู่ก็เมล์มาครับ
-
ชอบ 318I E46 เครื่อง M43TU :D
(http://e4.isanook.com/df/0/ui/post/2013/10/30/1/b/9769abe83e3a89a9b3ef986a48606566.jpeg)
ไม่รู้ว่ารุ่นนี้จุกจิกไหม อยากได้ครับ ถ้ามีตังนะ :D
-
ซีรี่ 3 โดยเฉพาะ กับพวก 6 เม็ด เป็นรถที่ไม่มีอะไรจุกจิกเลยครับ ท่าน
จะมีก็แค่พวกช่วงล่างแค่นั้นเองครับ ที่ลูกหมากบางตัวแตกง่าย ถ้าขับรูดบ่อยๆ เพราะตัวถังหนัก และ ด้วยความที่ช่วงล่างนิ่ง เลยทำให้บางครั้ง ขับรูดโดยไม่รู้ตัว
อิเลคโทรนิคมาก แต่ทนครับ ไฟท้ายเบรคขาดยังเอาไฟหรี่มาแทนไฟเบรคเลย หลอดไฟขาดไฟโชว์ขึ้นหน้าปัทท์เลย ไม่ต้องไปกลัวหรอกครับระบบอิเลคโทรนิค มันไม่ได้เสียง่ายๆเลยครับ ทนทายาทครับ ชั่วลูกชั่วหลาน ผมใช้มาไม่เห็น มันจะเสียอะไร วิ่งก็ตั้ง 2 แสนกว่าโล แต่เป็นรุ่นก่อนน๊ะ
อะไหล่ถูกมากๆ อู่คิดแพงเพราะว่าบวกไปมาก มากกว่า คิดว่า คนขับมีตังส? เลยคิดแพง เมื่อคิดแพงเลยเป็น มาตราฐานในการคิด ของเกือบจะทุกอู่
รถยุโรปถ้ามีอะไหล่ oem ผลิต รึอะไหล่เทียบ ราคาอะไหล่ ถูกว่ารถญี่ปุ่นอีกครับ ขนาดพวก ซีรี่ 7 ที่วิ่งสุวรรณภูมิ อะไหล่ oem ยังมีเลยครับ โดยเฉพาะกับช่วงล่างด้วยแล้ว มีทุกชิ้นครับ
ถ้าได้มา กระปุ๊กพักน้ำ ต้องเปลี่ยนก่อนเลยครับ กับพวกท่อยาง หม้อน้ำ ยุโรปนั้นถ้าอายุได้เมื่อไหร่ ต้องเปลี่ยน ก่อนเลย
วัดโสมอะไหล่เพียบ
เซียงกง แถบ ถนนนวมินทร์ ครบ ของเซียงกงเข้าถูกที่ อะไหล่มีครบ และราคาถูกมากๆ
เล่น บีเอ็ม ต้อง 6 เม็ดเท่านั้นครับ ถึงจะทนถึก และทนกว่ารถญี่ปุ่นด้วยครับ เกียร์ก็ทนระเบิดเถิดเทิง บีเอ็มมีปัญหาแค่ ช่วงล่างเองครับ ที่ตอบสนองไว ชิ้นส่วนลูกหมากเลยเล็กเลยแตกง่ายกับรถที่น้ำหนักมาก
ยังไง มองหาอู่ก็เมล์มาครับ
ที่เขียนมานี่ E46 รึเปล่าครับ ?
E90 กระปุกพักน้ำแยกแล้วครับ ท่อน้ำก็เป็นวัสดุใหม่แล้ว ไม่ต้องห่วงแล้วล่ะครับ
เครื่อง 6 สูบ e90 มันไม่เหมือน E46 นะครับ คนละตระกูลกัน ไปบอกเจ้าของคำถามว่าไม่จุกจิก เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน รหัส M กับ N เนี่ย หนังคนละม้วน N นะครับ ใช้ดี ใช้เหมือนจะทน อย่าให้มีปัญหาแล้วกัน แล้วจะรู้นรกเป็นอย่างไร ทำไมพวกขายทิ้งกันถูก ๆ อู่ที่ผมนึกชื่ออกตอนนี้ ซ่อมเป็นรึยังไม่รู้ครับ ไม่ว่าจะเลียบทางด่วน ราชพฤกษ บางใหญ่ ลาดพร้าว พวกนี้ ช่างออกมาจากศูนย์ก่อน N จะได้ซ่อมกันทั้งนั้น ถ้าเข้าศูนย์ ไม่ต้องพูดถึง
สี่สูบทน ๆ ของ BMW ก็ M43TU งัยครับ เครื่องรถแท๊กซี่ Limo ในยุโรปมันก็เป็นตัวนี้ วิ่่งกันไมล์ตีกลับ
พักนี้ ตอบเรือ่ง BMW เยอะละ ผมขอพอดีกว่าครับ เหมือนเทน้ำลงบ่อทราย ไปตอบปัญหาดรามาดีกว่า ไร้สาระดี 555
-
ชอบ 318I E46 เครื่อง M43TU :D
(http://e4.isanook.com/df/0/ui/post/2013/10/30/1/b/9769abe83e3a89a9b3ef986a48606566.jpeg)
ไม่รู้ว่ารุ่นนี้จุกจิกไหม อยากได้ครับ ถ้ามีตังนะ :D
บู๊ชปีกนกแตกง่ายครับ แต่ราคา คู่นึงแค่ ไม่เกิน 2500 บาทเองครับ แบบเปลี่ยนแค่ ใส้ยางอย่างเดียวก็ พันต้นๆ เอาโครงเดิม
ถ้าเครื่อง มีปัญหามากๆ รึ เบื่อ ความเป็นเรือเกลือ ของมัน เอาเครื่อง 2800 ยัด จบที่ 1 แสนครับราคาอู่ทั่วไป เครื่องตัวนี้หาง่ายในเซียงกง ครับ
อัพ เบรค ใหม่ หาชุด คาลิปเปอร์ ของ 330 มาใส่ หายากหน่อยแต่หาได้ เอาแค่หน้าก็พอ หลังเอาของ e34 มาใส่ ชุดเดียวกันขนาดเท่ากัน จานเบรคเบิก วัดโสมไม่เกิน คู่ล๊ะ 5500 บาท
ตัวที่ให้ดูตัวตาตก ปี 2000-2013 มั้งไฟท้ายไม่ใส ถ้าเล่นต้องเอาตายกดีกว่าครับ ได้กันชน m1 หล่อกว่ากันมาก
ราคาร่วงมาขนาดนี้ จากราคา ล้านเก้ามั้ง ถ้าผมจะซื้อ ซิตี้คาร์ ผมจับ 323 มาติดแก๊สดีกว่า หล่อได้อีกนาน ของเล่นเพียบ รุ่นนี้เวลาจับ ต้องดูช่วงล่างให้ดีๆครับเพราะเปราะโดยเฉพาะกับด้านหน้า ถ้าไปลองแล้ว เบรคขึ้นพวงมาลัยผ่านได้เลยครับ แต่หลังนั้น ไม่ต้องกลัวครับ ผมว่าน๊ะซื้อมือสองมา อายุ 10ปี ยังไม่ต้องไปยุ่งกับมันเลยครับ อะไหล่ถูกจริงๆครับ ปั๊มติ๊ก ตัวนึงถ้าเบิกห้างก็ หมื่นกลางๆ เอาเซียงกงใส่ก็หลักพันเอง รึเบิกวัดโสม ก็ หมื่นต้นๆน่าจะได้ คร่าวๆน๊ะครับไม่ได้มีการเช็ค ราคาแต่อย่างใด ในราคาปัจจุบัณ ในขณะที่พิมท์อยู่นี้
ผมเองเล่นมาตั้งแต่รุ่น 2002 โน่น รถของพ่อ บีเอ็มเป็นรถที่ไม่จุกจิ๊กครับ
เรื่องที่สำคัญสำหรับ บีเอ็มและยุโรปก็คือ ต้องหาอู่ที่ไม่ฟันครับ ราคาอะไหล่นั้นไม่แพงแต่ส่วนมากอู่ฟันทั้งนั้นครับ เพราะ อู่นอกเอามาตราฐานการคิดราคาของศูนย์บริการมาเป็นตัวกำหนดไม่ได้เอาราคา ของการซ่อมรถญี่ปุ่นมาเป็นตัวกำหนด ซึ่งรถยุโรปนั้นการซ่่อมไม่ต่างไปจากรถญี่ปุ่นหรอก เพราะว่าซ่อมน๊ะไม่ใช่สร้างรึออกแบบซึ่งยากกว่ามากๆ เสียก็เปลี่ยน เดี่ยวนี้ แบบกระเป๋าหิ้ว เสียบเพื่อเช็ค อู่ต่างๆเล็กๆก็มีกันหมดแล้ว ราคาไม่กี่หมื่นบาทเอง เช็คได้หมด
อย่าเข้าผิดอู่ล๊ะกัน บางอู่แพงกว่าศูนย์บริการอีกครับ
-
ซีรี่ 3 โดยเฉพาะ กับพวก 6 เม็ด เป็นรถที่ไม่มีอะไรจุกจิกเลยครับ ท่าน
จะมีก็แค่พวกช่วงล่างแค่นั้นเองครับ ที่ลูกหมากบางตัวแตกง่าย ถ้าขับรูดบ่อยๆ เพราะตัวถังหนัก และ ด้วยความที่ช่วงล่างนิ่ง เลยทำให้บางครั้ง ขับรูดโดยไม่รู้ตัว
อิเลคโทรนิคมาก แต่ทนครับ ไฟท้ายเบรคขาดยังเอาไฟหรี่มาแทนไฟเบรคเลย หลอดไฟขาดไฟโชว์ขึ้นหน้าปัทท์เลย ไม่ต้องไปกลัวหรอกครับระบบอิเลคโทรนิค มันไม่ได้เสียง่ายๆเลยครับ ทนทายาทครับ ชั่วลูกชั่วหลาน ผมใช้มาไม่เห็น มันจะเสียอะไร วิ่งก็ตั้ง 2 แสนกว่าโล แต่เป็นรุ่นก่อนน๊ะ
อะไหล่ถูกมากๆ อู่คิดแพงเพราะว่าบวกไปมาก มากกว่า คิดว่า คนขับมีตังส? เลยคิดแพง เมื่อคิดแพงเลยเป็น มาตราฐานในการคิด ของเกือบจะทุกอู่
รถยุโรปถ้ามีอะไหล่ oem ผลิต รึอะไหล่เทียบ ราคาอะไหล่ ถูกว่ารถญี่ปุ่นอีกครับ ขนาดพวก ซีรี่ 7 ที่วิ่งสุวรรณภูมิ อะไหล่ oem ยังมีเลยครับ โดยเฉพาะกับช่วงล่างด้วยแล้ว มีทุกชิ้นครับ
ถ้าได้มา กระปุ๊กพักน้ำ ต้องเปลี่ยนก่อนเลยครับ กับพวกท่อยาง หม้อน้ำ ยุโรปนั้นถ้าอายุได้เมื่อไหร่ ต้องเปลี่ยน ก่อนเลย
วัดโสมอะไหล่เพียบ
เซียงกง แถบ ถนนนวมินทร์ ครบ ของเซียงกงเข้าถูกที่ อะไหล่มีครบ และราคาถูกมากๆ
เล่น บีเอ็ม ต้อง 6 เม็ดเท่านั้นครับ ถึงจะทนถึก และทนกว่ารถญี่ปุ่นด้วยครับ เกียร์ก็ทนระเบิดเถิดเทิง บีเอ็มมีปัญหาแค่ ช่วงล่างเองครับ ที่ตอบสนองไว ชิ้นส่วนลูกหมากเลยเล็กเลยแตกง่ายกับรถที่น้ำหนักมาก
ยังไง มองหาอู่ก็เมล์มาครับ
ที่เขียนมานี่ E46 รึเปล่าครับ ?
E90 กระปุกพักน้ำแยกแล้วครับ ท่อน้ำก็เป็นวัสดุใหม่แล้ว ไม่ต้องห่วงแล้วล่ะครับ
เครื่อง 6 สูบ e90 มันไม่เหมือน E46 นะครับ คนละตระกูลกัน ไปบอกเจ้าของคำถามว่าไม่จุกจิก เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน รหัส M กับ N เนี่ย หนังคนละม้วน N นะครับ ใช้ดี ใช้เหมือนจะทน อย่าให้มีปัญหาแล้วกัน แล้วจะรู้นรกเป็นอย่างไร ทำไมพวกขายทิ้งกันถูก ๆ อู่ที่ผมนึกชื่ออกตอนนี้ ซ่อมเป็นรึยังไม่รู้ครับ ไม่ว่าจะเลียบทางด่วน ราชพฤกษ บางใหญ่ ลาดพร้าว พวกนี้ ช่างออกมาจากศูนย์ก่อน N จะได้ซ่อมกันทั้งนั้น ถ้าเข้าศูนย์ ไม่ต้องพูดถึง
สี่สูบทน ๆ ของ BMW ก็ M43TU งัยครับ เครื่องรถแท๊กซี่ Limo ในยุโรปมันก็เป็นตัวนี้ วิ่่งกันไมล์ตีกลับ
พักนี้ ตอบเรือ่ง BMW เยอะละ ผมขอพอดีกว่าครับ เหมือนเทน้ำลงบ่อทราย ไปตอบปัญหาดรามาดีกว่า ไร้สาระดี 555
อืม พอดี ผมใช้คันสุดท้ายคือ e46 กระปุ๊กพักน้ำ มันก็แยก อยู่ แถบใต้กันชนหน้า ด้านขวา ซึ่งกระปุ๊กอาจจะร้าวได้ง่ายแต่ไม่แตกแค่ซึม เพราะอยู่ในจุดโผ่ลแค่หัวเองส่วน ตัวจมลงไปข้างล่างมองไม่เห็น ผมเห็นท่อน้ำ รถทุกญี่ห้อมันก็ท่อยาง ผมก็เลยเตือน เพราะรถยุโรปเป็นรถที่ความร้อนสูงมากๆ เปิดฝากระโปรงออกมาทีไอร้อนๆกว่ารถญี่ปุ่นมากๆ เลยคิดว่า ถ้าได้มือสองมา ต้องควรที่จะเปลี่ยนใหม่
-
ซีรี่ 3 โดยเฉพาะ กับพวก 6 เม็ด เป็นรถที่ไม่มีอะไรจุกจิกเลยครับ ท่าน
จะมีก็แค่พวกช่วงล่างแค่นั้นเองครับ ที่ลูกหมากบางตัวแตกง่าย ถ้าขับรูดบ่อยๆ เพราะตัวถังหนัก และ ด้วยความที่ช่วงล่างนิ่ง เลยทำให้บางครั้ง ขับรูดโดยไม่รู้ตัว
อิเลคโทรนิคมาก แต่ทนครับ ไฟท้ายเบรคขาดยังเอาไฟหรี่มาแทนไฟเบรคเลย หลอดไฟขาดไฟโชว์ขึ้นหน้าปัทท์เลย ไม่ต้องไปกลัวหรอกครับระบบอิเลคโทรนิค มันไม่ได้เสียง่ายๆเลยครับ ทนทายาทครับ ชั่วลูกชั่วหลาน ผมใช้มาไม่เห็น มันจะเสียอะไร วิ่งก็ตั้ง 2 แสนกว่าโล แต่เป็นรุ่นก่อนน๊ะ
อะไหล่ถูกมากๆ อู่คิดแพงเพราะว่าบวกไปมาก มากกว่า คิดว่า คนขับมีตังส? เลยคิดแพง เมื่อคิดแพงเลยเป็น มาตราฐานในการคิด ของเกือบจะทุกอู่
รถยุโรปถ้ามีอะไหล่ oem ผลิต รึอะไหล่เทียบ ราคาอะไหล่ ถูกว่ารถญี่ปุ่นอีกครับ ขนาดพวก ซีรี่ 7 ที่วิ่งสุวรรณภูมิ อะไหล่ oem ยังมีเลยครับ โดยเฉพาะกับช่วงล่างด้วยแล้ว มีทุกชิ้นครับ
ถ้าได้มา กระปุ๊กพักน้ำ ต้องเปลี่ยนก่อนเลยครับ กับพวกท่อยาง หม้อน้ำ ยุโรปนั้นถ้าอายุได้เมื่อไหร่ ต้องเปลี่ยน ก่อนเลย
วัดโสมอะไหล่เพียบ
เซียงกง แถบ ถนนนวมินทร์ ครบ ของเซียงกงเข้าถูกที่ อะไหล่มีครบ และราคาถูกมากๆ
เล่น บีเอ็ม ต้อง 6 เม็ดเท่านั้นครับ ถึงจะทนถึก และทนกว่ารถญี่ปุ่นด้วยครับ เกียร์ก็ทนระเบิดเถิดเทิง บีเอ็มมีปัญหาแค่ ช่วงล่างเองครับ ที่ตอบสนองไว ชิ้นส่วนลูกหมากเลยเล็กเลยแตกง่ายกับรถที่น้ำหนักมาก
ยังไง มองหาอู่ก็เมล์มาครับ
ที่เขียนมานี่ E46 รึเปล่าครับ ?
E90 กระปุกพักน้ำแยกแล้วครับ ท่อน้ำก็เป็นวัสดุใหม่แล้ว ไม่ต้องห่วงแล้วล่ะครับ
เครื่อง 6 สูบ e90 มันไม่เหมือน E46 นะครับ คนละตระกูลกัน ไปบอกเจ้าของคำถามว่าไม่จุกจิก เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน รหัส M กับ N เนี่ย หนังคนละม้วน N นะครับ ใช้ดี ใช้เหมือนจะทน อย่าให้มีปัญหาแล้วกัน แล้วจะรู้นรกเป็นอย่างไร ทำไมพวกขายทิ้งกันถูก ๆ อู่ที่ผมนึกชื่ออกตอนนี้ ซ่อมเป็นรึยังไม่รู้ครับ ไม่ว่าจะเลียบทางด่วน ราชพฤกษ บางใหญ่ ลาดพร้าว พวกนี้ ช่างออกมาจากศูนย์ก่อน N จะได้ซ่อมกันทั้งนั้น ถ้าเข้าศูนย์ ไม่ต้องพูดถึง
สี่สูบทน ๆ ของ BMW ก็ M43TU งัยครับ เครื่องรถแท๊กซี่ Limo ในยุโรปมันก็เป็นตัวนี้ วิ่่งกันไมล์ตีกลับ
พักนี้ ตอบเรือ่ง BMW เยอะละ ผมขอพอดีกว่าครับ เหมือนเทน้ำลงบ่อทราย ไปตอบปัญหาดรามาดีกว่า ไร้สาระดี 555
อืม พอดี ผมใช้คันสุดท้ายคือ e46 กระปุ๊กพักน้ำ มันก็แยก อยู่ แถบใต้กันชนหน้า ด้านขวา ซึ่งกระปุ๊กอาจจะร้าวได้ง่ายแต่ไม่แตกแค่ซึม เพราะอยู่ในจุดโผ่ลแค่หัวเองส่วน ตัวจมลงไปข้างล่างมองไม่เห็น ผมเห็นท่อน้ำ รถทุกญี่ห้อมันก็ท่อยาง ผมก็เลยเตือน เพราะรถยุโรปเป็นรถที่ความร้อนสูงมากๆ เปิดฝากระโปรงออกมาทีไอร้อนๆกว่ารถญี่ปุ่นมากๆ เลยคิดว่า ถ้าได้มือสองมา ต้องควรที่จะเปลี่ยนใหม่
E46 ไม่มีตัวที่เรียกว่ากระปุกพักน้ำแยก มันเป็นแบบ ต่อประกบข้างหม้อน้ำ
E90 แยกไปอยู่ข้างเครื่องครับ คนละแบบ
ขออภัยท่านอื่น ๆ ที่ต้องQoute ซ้ำ ๆ เกะกะกระทู้
-
^
^
^
^
^
^
ไม่เกะกะหรอกครับ ความรู้ทั้งนั้น
ผมต้องแอบๆจำเอาไว้ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องซ่อมมาก มาจำๆไว้ก่อน
ไปอู่จะได้บอกอาการถูก
-
ความรู้จริงๆครับ
ผมมึนไปหมด TT คงต้องลองศึกษา
-
ถ้าเป็น S5 E60 ควรจะเล่นเครื่องตระกูลM หรือNที่เป็นสีฝาเงิน ครับ
-
เครื่องตระกูล m กับ n แคมกระดิ๊กได้ทั้งคู่
ตระกูลรหัส m ผ่านศึกมาโชกโชนเลยครับ รหัสนี้ทนถึกแน่นอนครับ
รุ่นแรกๆ e60 จะใส่ ตระกูล m ออกซักพัก ตระกูล n มา
รู้สึกว่า ตัว n ฝาเงินกับฝาดำ เหมือนกันหมด ต่างกัน ที่ฝาดำ จะออกก่อน มาช่วงสุดท้ายของ เครื่องบล๊อค m
ถ้าให้เลือก ผมเลือก เครื่องที่ใหม่กว่าครับ ยังไงผมก็เลือก รหัส n ตัวถังรถก็ปีใหม่กว่า เครื่องก็ เทคโนโลยี่ห่างกัน เป็น 10 ปี แต่เห็น มีแต่คนที่เล่นแต่ bm บอกว่า ตัว e39 ขับแล้วมั่นคงกว่า e60 ก็ไม่รู้จะจริงรึเปล่า เพราะก็ยังไม่เคยขับซักคัน
ผมก็ชอบครับ บอดี้ e60 แต่งเป็น m ทั้งคัน หล่อจริงๆ ของใต้หวัน มีกันชนหล่อพลาสติคก้อปเหมือน ขายด้วย
-
ถ้าเป็น S5 E60 ควรจะเล่นเครื่องตระกูลM หรือNที่เป็นสีฝาเงิน ครับ
มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
เครื่อง M แนวโน้มจะทนกว่า ซับซ้อนน้อยกว่า ติดแก๊สได้
เครื่อง N แรงกว่า ใหม่กว่า แต่ถ้ามันเก่า โอกาสจุกจิกก็เยอะกว่า ไม่ควรติดแก๊ส
E39 มั่นคงกว่า จริงๆครับ เวลาขับเร็วๆ มันจะดูดลงพื้นแบบชัดเจน
ส่วน E60 ก็หนึบครับ แต่ไม่รู้สึกว่าดูดลงพื้นเหมือน E39
-
BMW E46 รุ่นสี่สูบนะครับ
ตัวแรกๆ ราวปี 1999-2000 เป็นเครื่อง M มีสี่เกียร์ แนวๆเดียวกับนกแก้ว แต่หน้าตาสวยเช้ง (Model นี้สวยมากๆเลยนะ ในยุคนั้นๆราวกับเพิ่งมาจาก 12 ปันนา ใหม่ๆเลย)
ตัวราวๆปี 2002 จะเป็นเครื่อง N42 แล้ว ซึ่งมี 5 เกียร์ เป็น N ตัวแรกๆของ BMW ด้วย ปัญหาเลยเยอะครับ
มันอยู่ที่ว่า ได้ขับรถ 5 เกียร์ แลกกับเครื่องมีปัญหาบ้าง มันก็ต้องแลกกัน
ไม่งั้นก็ไป W203 เลยคร้าบ สวย Classic แต่ราคามือสองแพงกว่าเยอะ
-
18i อย่าเล่นเลยครับ
แนะนำ E60 M54