Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: somchailek ที่ มิถุนายน 03, 2014, 18:56:39
-
สนใจ BMW 520 แต่ไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกดีเซลหรือเบนซินดีครับ
ราคาต่างกันประมาณแสนห้าหมื่นบาท
ดีเซลเสียงเครื่องดังกว่า เบนซินน้ำมันแพงกว่า
ปกติใช้รถในกรุงเทพ ปีละประมาณ 12,000 กิโล
สมาชิกท่านใดพอจะช่วยให้คำแนะนำ ขอบคุณครับ
-
20i 28i จะแรงกว่า 20d 25d นิดหนึ่ง แทบไม่ต่าง ใช้รถน้อยเอา 20i ดีกว่าครับ
-
20i 28i จะแรงกว่า 20d 25d นิดหนึ่ง แทบไม่ต่าง ใช้รถน้อยเอา 20i ดีกว่าครับ
จริงหรอครับท่าน ผมเข้าใจมาตลอดเลยว่าดีเซลน่าจะแรงกว่า
คือมัน 520i win 520d
528i win 525d
อย่างงี้เลยหรอครับ ?
-
เชียร์ 520d คับ ยังไงก้คุ้มกว่าด้านการใช้งานถ้าหารเปนเงินต่างกันอยุ่แบบรุ้สึกได้นะคับ ถ้าจะพูดถึงเรื่องแรงต้องเลย 200 ไป i อาจจะไหลดีกว่านิดๆ
-
20i 28i จะแรงกว่า 20d 25d นิดหนึ่ง แทบไม่ต่าง ใช้รถน้อยเอา 20i ดีกว่าครับ
จริงหรอครับท่าน ผมเข้าใจมาตลอดเลยว่าดีเซลน่าจะแรงกว่า
คือมัน 520i win 520d
528i win 525d
อย่างงี้เลยหรอครับ ?
ดีเซลจะแรงเฉพาะช่วงต้นเพราะแรงบิดมาในรอบต้นๆมาแปบเดียวแล้วหายไปเลยอย่าง 520d แรงบิด 380 ที่รอบ 1750-2750 และ 525d แรงบิด 450 ที่รอบ 1500-2500 ซึ่งต่างจากเบนซินเทอโบที่ลากยาวและต่อเนื่องอย่าง 520i ที่แรงบิด 270 ที่รอบ 1250-4500 และ 528i แรงบิด 350 ที่รอบ 1250-4250
สรุป
ดีเซล แรงๆดึงหลังติดเบาะช่วงต้นปลายหายแต่ประหยัดน้ำมันสุดๆ
เบนซินขับสนุกยาวๆชอบแรงแบบต่อเนื่องไปเบนซินแต่แลกกับค่าน้ำมันที่แพงกว่า เคยมีพี่ในนี้เอา 520i มารีวิวขับในเมืองได้ 6กม/ลิตร ;D
-
ผมว่าไม่ต่างกันมากที่ไปลองมาแต่520dจะรู้สึกดึงๆมากกว่า เสียงเครื่องดังกว่า
520iแรงแบบเรียบๆกล่มกล่อมกว่าเสียงเครื่องเบากว่าจอดติดเครื่องเงียบกว่ามากๆ
ผมเพิ่งไปจองมาแต่ถ้าชอบเสียงเครื่องดีเซลจัดเลยครับ แต่ผมจองเป็น520iผมชอบเครื่องเบนซินมากกว่า
-
20i 28i จะแรงกว่า 20d 25d นิดหนึ่ง แทบไม่ต่าง ใช้รถน้อยเอา 20i ดีกว่าครับ
จริงหรอครับท่าน ผมเข้าใจมาตลอดเลยว่าดีเซลน่าจะแรงกว่า
คือมัน 520i win 520d
528i win 525d
อย่างงี้เลยหรอครับ ?
ดีเซลจะแรงเฉพาะช่วงต้นเพราะแรงบิดมาในรอบต้นๆมาแปบเดียวแล้วหายไปเลยอย่าง 520d แรงบิด 380 ที่รอบ 1750-2750 และ 525d แรงบิด 450 ที่รอบ 1500-2500 ซึ่งต่างจากเบนซินเทอโบที่ลากยาวและต่อเนื่องอย่าง 520i ที่แรงบิด 270 ที่รอบ 1250-4500 และ 528i แรงบิด 350 ที่รอบ 1250-4250
สรุป
ดีเซล แรงๆดึงหลังติดเบาะช่วงต้นปลายหายแต่ประหยัดน้ำมันสุดๆ
เบนซินขับสนุกยาวๆชอบแรงแบบต่อเนื่องไปเบนซินแต่แลกกับค่าน้ำมันที่แพงกว่า เคยมีพี่ในนี้เอา 520i มารีวิวขับในเมืองได้ 6กม/ลิตร ;D
ตามนั้นครับ ถ้าใช้งานทั่วไป 20i พอแล้วครับ 20dประหยัดจริงแต่ส่วนต่างที่จ่ายไปอย่างน่อยคุณต้องใช้ แสนกิโลขึ้นไปถึงคุ้มครับถ้าใช้ปีละ12000ใช้520iดีกว่า แต่ถ้าใช้ในเมืองอย่างเดียวไป20dครับ
-
ผมขอเทียบที่มีอยู่นะคับ
ผมมี 525d เครื่อง 3พันตัวแรกปี2011 และ 520i ปี2012
ทั้ง2คัน ได้รับความรู้สึกที่ต่างกันคือ
ดีเซลแรงดึงดี ช่วงล่างกระด่างกว่า ขับแล้วเหนื่อย เมื่อยสะสมกว่า แต่ประหยัดมากก
ส่วนเบนซิน แรงดึงสู้ไม่ได้ แต่ไม่ได้น่าเกลียดเลย ขับสนุก ขับแล้วเหนื่อยและเมื่อยสะสมน้อยกว่ามาก ช่วงล่างเช็ทมานุ่มนวลกว่าเยอะคับ ส่วนน้ำมันกินมากกว่าคับ
:D :D :D
-
ถ้าขับน้อย 20i ดูเหมือนจะคุ้มกว่า เพราะ ราคาถูกกว่าครับ
แต่ลองคำนวนค่าน้ำมัน ราคาขายต่อในอนาคต ผมว่า 20d ดีกว่านะครับ
ทั้งสองรุ่นขับขี่ปรกติ ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกครับ เบนซินได้เงียบ smooth กว่า ดีเซลได้ประหยัด ดึงหนักกว่า ครับ
ลองขับชอบตัวไหนเลือกตัวนั้นดีทั้งคู่ครับ
-
20d คุ้มกว่า ถ้าไม่เน้นแรงปลายก็จัดเลย น้ำมันก็ถูกกว่า
เสียงเครื่องถ้าอยู่ในรถ เสียงมันก็ไม่ดังมากนะครับ สบายๆเลย
-
คำถามนี้จะตัดสินได้ด้วยการไปทดลองขับด้วยตัวคุณเองเท่านั้นครับ
อย่าฟังคนอื่นพูดอย่างเดียว ขอให้ไปลองเอง เสียเวลาซักครึ่งวันกับเงินหลายล้านที่จะเงียไป...คุ้มครับคุ้ม
-
ปีละ 12,000 โล
520i ก็พอครับ
-
ญาติใช้ 520d ใช้มาหลายปีละ พอเค้าเข้าบ้านเค้าทีไร ผมจะรู้ทุกครั้งเลย เสียงเครื่องดังมาก เรียกว่าดังข้ามบ้าน แรกๆก็ไม่ดังมาก แต่หลังๆนี่ดังมาก ชัดเจนมาแต่ไกล
ราคารถต่างกัน 150,000 บาท เอาเงินส่วนต่างนี้ไปซื้อน้ำมันเบนซินได้ประมาณ 3,600 ลิตร หากวิ่งได้ 7-8 กิโลเมตร/ลิตร คุณก็จะได้ระยะทาง 25,000-28,000 กม.
ถ้าใช้รถปีละ 12,000 โล ก็คือมีเงืนเหลือเติมน้ำมันไปอีกสองปี แต่ดีเซลจะได้เปรียบตรงค่าน้ำมันต่อกิโลเมตรจะต่ำกว่า เพราะน้ำมันดีเซลถูกว่า และไปได้ไกลกว่า
เรื่องการขับขี่ ดีเซลดีตรงออกตัว เพราะแรงดึง(ทอร์ค)มากตั้งแต่รอบต่ำ ไม่ต้องกดคันเร่งเยอะ ก็น่าจะทำให้รู้สึกสบายกว่า เหนื่อยน้อยกว่า ไม่ต้องโหนรอบ แต่พอรอบปลายๆ ดีเซลมันไปต่อไม่ไหว สี่พันรอบก็หมด
เครื่องเบนซินเทอร์โบมีช่วงกำลังที่กว้างกว่า เลือกใช้รอบได้กว้างกว่า แต่ต้องลากรอบมากกว่าดีเซล
ต้นจัดแต่หมดเร็ว หรือ แรงยาวๆตลอดช่วง ตรงนี้แล้วแต่ชอบ แล้วแต่นิสัยการขับขี่ของแต่ละคน
-
520d โอกว่าคับเครื่องดีเซลตอนเร่งแซงมันได้ดั่งใจดี เเถมประหยัดกว่า
มีข้อเสียตรงที่ เสียงเครื่องกับความเร็วปลายที่จะด้อยกว่าเบนซิลหน่อย
-
ระหว่างเบนซินกับดีเซล ไม่ว่าจะใช้รถน้อยหรือมาก ผมอยากให้มองเรื่องค่าน้ำมันและความประหยัดเป็นเรื่องรองลงไปครับ แต่ถ้ารถวิ่งมากก็ให้ถือว่าประหยัดและได้เปรียบกว่ารถวิ่งน้อย
ผมอยากให้ลองขับแล้วเอาความรู้สึกกับการขับขี่ว่าเราชอบรถบุคคลิกแบบไหนมาเป็นปัจจัยสำคัญ
ถ้าชอบรอบต้นดึงดี ขับสบาย ไม่ลาก ไม่โหมเครื่อง ไม่จุกจิก ได้ชื่อว่าทนทานกว่า ยอมรับได้กับเสียงเครื่องที่ดังกว่า อันนี้จบที่ดีเซล
ถ้าชอบขับลากรอบ กำลังมาได้ยันรอบสูง เสียงเครื่องเบากว่า แต่เพราะกว่า หวานกว่า ตอนซื้อก็ประหยัดงบไปได้อีกแสนกว่า ก็ไปจบที่เบนซินครับ
-
ผมใช้ 320i base เข้าใจว่าใช้เครื่องblock เดียวกับ 520i ครับ
ขอบอกว่าถ้าใช้ในเมือง กินน้ำมันยังกะปล้นครับ ผมเติม E20
วิ่งในเมืองโดยได้ความเร็วเฉลี่ย ไม่ถึง 20 Km./L. (ดูจากtrip computer)
บริโภคน้ำมันที่ประมาณ 7-8 Km./L. ครับ
-
ผมใช้ 320i base เข้าใจว่าใช้เครื่องblock เดียวกับ 520i ครับ
ขอบอกว่าถ้าใช้ในเมือง กินน้ำมันยังกะปล้นครับ ผมเติม E20
วิ่งในเมืองโดยได้ความเร็วเฉลี่ย ไม่ถึง 20 Km./L. (ดูจากtrip computer)
บริโภคน้ำมันที่ประมาณ 7-8 Km./L. ครับ
ไม่แปลกครับผมเคยใช้แจ๊สอยู่พักหนึ่งกินกว่าคุณอีกครับ ;D มีแต่คนว่าผมขับโหดแต่เปล่าเลยครับออกจากบ้านแค่ในซอยก็ติดแล้ว
-
ปีละแค่ 12,000 km นี่ผมว่า เลือกแบบที่ชอบเลยครับ ชอบออกตัวเร็วๆนี่ต้องดีเซล แต่ก็ติดตรงเสียงเครื่อง ในความรู้สึกผมว่ามันก็ดังนิดๆ แต่ก็ได้ประหยัด น้ำมันถูกกว่า
เบนซินถูกกว่า แต่ต้นอาจไม่จัดเท่าดีเซล
สรุป ลองขับดูว่าอันไหนตอบโจทย์กับการขับของ จขกท เลยครับ
-
จุดคุ้มทุนของการซื้อ 520d ที่มีราคาสูงกว่า 150,000 บาทคือประมาณ 100,000 กิโลเมตรครับ ถ้าส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินกับดีเซลยังเป็นแบบนี้นะครับและหากซื้อแบบผ่อนส่วนต่างค่าตัวของ 520d จะสูงขึ้นตามดอกเบี้ยด้วยนะครับ ดูจากโจทย์ถ้าใช้รถไม่เกิน 10 ปีเลือก 520i ครับแต่หากใช้ยาวกว่านี้ไป 520d ดีกว่าครับ ส่วนเรื่องอัตราเร่งคงไม่ต่างกันเท่าไหร่ครับเพราะในเว็บของ BMW ให้ 0-100 เท่ากันเลยครับ
-
เชียร์520i ด้วยส่วนต่างราคา มีน้ำมันเลือกเติมได้ เครื่องเดินเรียบเงียบบบ
-
เชียร์ 520i อีกเสียงครับ อัตราเร่งไม่ต่างกันมากครับ เพื่อนใช้ตัวดีเซลมา 3 ปี ขับมาได้ยินเสียงเครื่องแต่ไกลเลยครับ ;D
-
หากจะซื้อตัวปัจจุบันนะครับ
ทาง BMTH 520d กับ 520i อัตตราเร่งเท่ากันครับ ต่างแค่ดีเซลกับเบนซิน
การกินน้ำมันเท่ากันแต่ต่างตรงราคาน้ำมัน เพียงทว่าราคาส่วนต่างนั้น ท่านต้องใช้รถ หลัก 2 แสนกิโลขึ้นไปถึงจะคุ้มส่วนต่างครับ
ปัจจัยอยู่แค่ว่าท่านขับรถเยอะและจะใช้รถนานแค่ไหนครับ
เบนซินมีเอทานอล ดีเซลมีไบโอ กัดกร่อนเหมือนกันครับ
แต่หากท่านสนใจตัว 525 กับ 528 นั้น ตัวเบนซินจะแรงกว่านิดหน่อยครับ
ลองมาทดลองขับดูก่อนครับ ไม่แน่ท่านอาจไปตกหลุมรัก hybrid ก็ได้
-
เข้ามาเชียร์ 528i ครับ ราคาตัวก่อน pre lci ลดเยอะมากๆครับ น่าสนที่สุด
-
วิ่งน้อย เบนซิน
วิ่งมาก ดีเซล
บำรุงรักษา ไม่ต่างกันมากเท่าไรครับ แต่ถ้าระยะยาว หลัง 5 ปี ดีเซล บำรุงรักษาต่ำกว่า ถ้าโชคดีไม่มีอะไรเสียมากนะ แต่ถ้าเสียราคาก็ไม่เบาเหมือนกัน
-
ดีเซลเก๋ง(ย้ำว่าเก๋ง)สมัยนี้เครื่องไม่ดังเท่าไหร่แล้ว ท็อคเยอะต้นขับสนุกดึงดีแป๊บเดียวไป 180 จากนี้ค่อยเหี่ยวผมว่า
น่าจะพอแล้ว ประหยัดน้ำมันต่อลิตรในเมืองนอกเมืองดีกว่าเบนซิน ราคาน้ำมันก็ถูกกว่าเป็น 10 บาท ต่างจังหวัดขึ้นเนินขึ้นเขา
นั่งหลายคนยังฉิวไม่มีอืด ผมเพิ่มเงินเลือก 520D ครับ