Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sriracha ที่ กรกฎาคม 01, 2014, 09:52:51
-
กรณีโด่งดัง ที่มีข่าว ทางคลับได้ประสานงานกับทาง ฮอนด้า ออโตโมบิล จนได้รับการติดต่อให้เข้าพบ เพื่อชี้แจงปัญหา และแนวทางแก้ไข ในวันที่ 2 กรกฏาคม เวลา 15:00 น
ณ ศูนย์ฮอนด้า สุวรรณภูมิ
ตามนี้ครับ
http://www.allnewcity-club.com/index.php/topic,1574.0.html (http://www.allnewcity-club.com/index.php/topic,1574.0.html)
ดังนั้นหากท่านเจ้าของรถรุ่นดังกล่าว ที่พบปัญหา หรืออยากเข้าร่วมฟังการชี้แจงในครั้งนี้ ได้ร่วมกันเข้ารับฟังดังกล่าว พร้อมๆกันครับ
ติดต่อได้ที่ผม 0924481112 เล็กครับ
ขออภัยหากผิดกฏของเว็บ
ขอบคุณครับ
-
ใช้ JAZZ GE แต่ตามข่าวอยู่เหมือนกัน คืบหน้ายังงัยมา update ให้ฟังด้วยนะครับ
-
สงสัยไม่ค่อยมีคนใช้รุ่นนี้ ทำไมเงียบจัง :P
-
ผมติดงานประจำ ถ้าไม่เช่นนั้นก็คงอยากไปฟังให้ได้ยินกับหูตัวเองเหมือนกันครับ
เรื่องนี้ ที่จริงผม จิมมี่ ก็ทราบมาแล้ว แต่ผมคิดว่าผมดูอยู่เฉยๆดีกว่า เพราะอยากรู้ว่าแต่ละคน แต่ละที่ พูดไปในทางเดียวกันหรือเปล่า
เพื่อนผมในกลุ่มที่เพิ่งออก Jazz มาก็ได้คุยกับช่างเทคนิคของฮอนด้าแล้ว และไม่ได้โม้นะ แต่ผมคิดว่าผมแทงหวยถูก ปัญหาทั้งหมดเกิดจากการที่ระบบ E85 ของ Jazz/City ใหม่นั้นไม่มีการใช้เซนเซอร์วัดค่าเอธานอลโดยตรงจากท่อน้ำมันเข้าเครื่อง แต่ใช้วิธีอ่านค่าต่างๆของไอเสียหลังจากที่มันถูกเผาไหม้ไปแล้ว
ถามว่าฮอนด้าบอกว่ารถของพวกเขารองรับ E85 แล้วเป็นแบบนี้ถือว่าโกหกหรือเปล่า ผมตอบเลยว่าไม่ใช่ มันก็คือรถที่เติม E85 ได้ และจัดเป็นรถ Flex fuel ได้ เพียงแต่ Honda ควรอธิบายให้ลูกค้าทราบตั้งแต่แรกว่า "เมื่อมีการเปลี่ยนประเภทของน้ำมันที่แตกต่างจากค่าเดิมมากๆ เช่นจาก E20 กระโดดไป E85 ระบบจะต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และปรับค่าตาม" ผมว่าแค่นี้ ถ้าคนเข้าใจ ไม่มีปัญหานะ ผมว่าการที่ผู้ใช้รถ ไม่ยอมศึกษาเรื่องรถนั้นจะไปโทษว่าบริษัทผิดอย่างเดียวก็ไม่ถูกหรอกครับ คุณอยากได้รถ B-Segment คันละไม่เกิน 7แสนกลาง แต่อยากได้แอร์ออโต้ ครูส ถุงลมหกใบ กดปุ่มสตาร์ท และอุปกรณ์อื่นๆชนิดที่ C-Segment จากเมื่อ 5 ปีก่อนอายม้วน และอยากเติม E85 ได้ ..ก็นี่ล่ะครับที่ผมบอก รถคือก้อนเงินก้อนนึง เมื่อเราเรียกร้องอยากได้หลายสิ่งมาก บางอย่างจะถูกตัดออกไปโดยที่บางทีเราก็ไม่รู้ ..ผมหมายถึงของพวกเน้นเอาเท่ห์นะ..ไม่ได้หมายถึงพวกอุปกรณ์ความปลอดภัย..ของเซฟชีวิต ใส่มาเถอะ แต่ปัญหาคือพอใส่ของเซฟชีวิตครบ..แล้วคนอยากได้ของเอาเท่ห์ พอใส่เสร็จราคาออกมา 8 แสน คนไม่ซื้อแถมด่า นั่นคือความจริง
กลับมาที่เรื่อง E85 ของ Jazz/City ผมมีความสนใจในประเด็นบางอย่าง ซึ่งถ้าใครได้ไปร่วมฟัง จะถามแทนผมก็ได้นะครับ
1. เมื่อ ECU จดจำได้แล้วว่าเราเติม E85 ในการเติมน้ำมันถังต่อไป ถ้าเติม E85 เหมือนเดิม ECU จะไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ต้อง..ก็แปลว่าคนที่เติม E85 ตลอดเวลาอยู่แล้ว จะไม่มีปัญหาใดๆใช่หรือไม่
2. ในการเรียนรู้ของกล่อง ECU เราต้องขับไปกี่กิโลเมตร หรือกี่นาที กล่องจึงจำค่าได้และสามารถแซงได้อย่างมั่นใจ (ประเด็นนี้ ผมได้ข้อมูลจาก 2 แหล่งที่ระบุระยะเวลามาไม่เท่ากัน)
3. Honda มีแผนอย่างไรในการทำให้แน่ใจว่าลูกค้ารายอื่นซึ่งไม่ใช่คนที่เล่นเว็บรถ และไม่ได้เช็ค Social media บ่อยๆจะรับรู้ถึงข้อมูลนี้ และสามารถเลี่ยงการพบเหตุเร่งไม่ขึ้นได้ (เช่น Direct Mail ชี้แจง, ออกสื่อช่องทางอื่น หรืออย่างไร)
4. หากกรณีที่ลูกค้าหาทางออกโดยการติดอุปกรณ์ใดๆเพิ่มเพื่อให้ตัวรถสามารถอ่านค่าเอธานอลและปรับโปรแกรมกล่องได้ (โดยลูกค้าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายดังกล่าวเอง) Honda จะยอมประนีประนอมโดยการไม่ตัด Warantee ในส่วนที่เกี่ยวข้องเช่นเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และอิเล็กทรอนิกส์ที่คุมทั้งสองอย่างนี้ได้หรือไม่ (ทั้งนี้ ส่วนอื่นเช่นช่วงล่าง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆถือตามเงื่อนไขการรับประกันเดิม เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกัน)
ผมให้ไอเดียไว้ประมาณนี้ ซึ่งใครจะลองเอาไปถามฮอนด้า ผมยินดีให้เอาไปถามด้วย แต่อยากให้แชร์คำตอบกัน ในระหว่างนี้ใครที่มีเพื่อนใช้รถสองรุ่นดังกล่าว ผมบอกง่ายๆว่า "ถ้าเปลี่ยนค่าเอธานอลแบบจาก E10หรือ20 โดดไป E85 หรือกลับกัน..ช่วงขับออกถนนแรกๆให้ขับแบบปกติก่อน ขับเหมือนเราขับเวลาเครื่องยังเย็นไม่พร้อมซัดนั่นล่ะครับ
เพื่อนผมใช้แนวคิดแค่นี้ ขับแบบนี้ ทุกวันนี้ยังไม่เจออาการเร่งไม่ไปอย่างที่ว่า
-
น่าจะเติม E85 ออกมาจากโรงงานเลยนะครับ หรือไม่ก็ตัวแทนจำหน่ายน่าจะเติมใส่ไว้เลย
เกรงว่ารถจะต้องจอดทิ้งไว้ตามลาน ตามสต๊อกนานๆ น่ะสิครับ
-
เรื่องสำคัญแบบนี้ น่าจะนัดวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ นะครับ
นัดวันธรรมดาแบบนี้ ใครจะไปได้ ;D ;D ;D
-
พี่ๆเว็บ http://www.allnewcity-club.com/ (http://www.allnewcity-club.com/) ไปร่วมงานแล้วสรุปมาให้ฟังครับ
ต้องขอขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย เป็นประโยชน์มาก ๆๆ ;D ;D ;D
" ขอสรุปผลของการเข้าพบน่ะครับ ตามความเข้าใจของผมเอง และเท่าที่จำได้
เรียนว่า ผมไม่ใช่ช่างยนต์ และ ไม่ได้จบวิศวฯ ดังนั้นคำพูดที่เรียบเรียงออกมา ก็ตามความสามารถของบุคคลธรรมดา คนหนึ่ง
ผู้ที่ร่วมเข้าพูดคุย ชี้แจงในครั้งนี้
- ผมในฐานะ แอดมิน webmaster all new city club.
- คุณ ดรั๊ม Live SoundEngineer ( ANC0001 )
- คุณ ณรงค์ศักดิ์ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ฮอนด้า ออโตโมบิล
- ผู้บริหาร จากฮอนด้า ออโตโมบิล ระดับผู้จัดการฝ่าย 2 ท่าน ( จำไม่ได้จริงๆครับ )
- ผู้บริหาร ศูนย์ ฮอนด้า สุวรรณภูมิ ( เครือเดียวกันกับ ฮอนด้า บางพลี )
- ช่าง และ พนักงานใน โชว์รูมฮอนด้า สุวรรณภูมิ สถานที่นัดพบ
เรื่องที่ได้นำเสนอส่งให้ทาง ฮอนด้าฯ รับไปดำเนินการ พิจารณาแก้ไข และ หาทางช่วยลูกค้า
1. เสียงพวงมาลัย ที่มีเสียงดังเวลาหมุน เช่นตอนถอยรถ หรือตอนต้องสาวพวงมาลัยมากๆ ดังตามรอบการหมุน
2. เสียงประหลาดๆ ตามคอนโซล เสา a เสา b ในรถ
3. งานประกอบที่ค่อนข้างไม่เรียบร้อย รอบคัน ที่มีลูกค้าฝากผ่านผมมาจากภูเก็ต
เรื่องหลักที่ต้องการคำตอบ และ ชี้แจงแนวทางแก้ไข ก็คือ กรณี ความเร็วของรถ มีขีดจำกัดที่ 130km หรือเร่งไม่ไป ได้คำตอบ แบบนี้
- ecu ของรถ ต้องการรับทราบค่าออกเทน ของน้ำมันที่ใช้ ( มีการตรวจเช็ค ) ทุกครั้งที่ สตาร์ทรถใหม่
แม้จะเป็นน้ำมันชนิดเดิมที่ใช้อยู่ประจำ ก็ต้องการตรวจสอบทุกครั้ง เพราะ ECU จะไม่ทราบว่า เราเปลี่ยนน้ำมัน ตอนใหน ( เพราะมันไ่มมีตามั้งน่ะ ฮ่าๆ )
- ทำไมต้องตรวจเช็คชนิดของน้ำมัน
เพราะ city 2014 และ jazz 2014 ใช้น้ำมันได้หลากหลาย ตั้งแต่ E0 จนถึง E85 ซึ่งค่าส่วนผสมในน้ำมัน มีความแตกต่างกัน เกือบ 100 %
หากไม่มีการตรวจสอบ หรือ ตรวจสอบไม่ละเอียด ไม่ถูกต้อง ก็จะทำให้การสั่งจ่ายน้ำมัน และอากาศ ที่ป้อนเข้าเครื่องยนต์ ในสัดส่วนที่ไม่เหมาะสมกับชนิดน้ำมันที่ใช้ในขณะนั้น
เมื่อการสั่งจ่ายน้ำมัน และ อากาศ ไม่ถูกต้อง การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ก็จะผิดปกติ ทำให้เกิดผลต่างๆ ตามมา มลพิษ ความร้อน ประสิทธิภาพ แรงม้าที่ได้ ฯลฯ
- การตรวจเช็คดังกล่าว จะทำได้ดีและใช้เวลาในการตรวจสอบน้อยก็ต่อเมื่อผู้ขับ ขับรถและใช้ความเร็วคงที่สม่ำเสมอ
ในช่วงความเร็ว 40-80 km ประมาณ 3-5 นาที
ในช่วง เดินเบา idle speed ก็ประมาณ 10 นาที
หากเงื่อนไขการตรวจสอบ ผิดไปจากข้างต้น ก็จะมีผลเหมือนที่ได้พบเห็น ตามคลิปที่ปรากฏ
หากเงื่อนไขการตรวจสอบน้ำมัน ไม่เรียบร้อย ก็จะทำให้ความเร็วจำกัดไว้เพียง 130 km เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเครื่องยนต์
การแก้ไข ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
- ฮอนด้า จะทำการปรับปรุง ซอฟต์แวร์ที่ใช้ใน ECU ให้รองรับ ขารีบ ขาเหยียบ ที่ทำตามเงื่อนไขของ ECU ในการตรวจสอบน้ำมันที่ใช้ ตามปกติไม่ได้
- แจ้งศูนย์ฯ แจ้งให้ลูกค้า ที่ต้องการอัพเกรด ECU ได้ทำการอัพเกรด
- ลูกค้าที่ไม่ต้องการอัพเกรด ก็ไม่มีการแตะต้องใดๆ
- ระยะเวลาปรับปรุง ซอฟท์แวร์ ประมาณ 1 เดือนจากนี้
รถทุกรุ่นของฮอนด้า และยี่ห้ออื่นๆ ที่ใช้ E85 ได้ ก็จะใช้หลักการเดียวกันนี้
คือยังไงก็ต้องตรวจสอบน้ำมันก่อน แต่...
บางคนแย้งว่า ทำไมพวก civic acccord หรือรุ่นอื่นๆเค้าไม่เป็นหละ ได้คำตอบว่า
- เนื่องจากรุ่นเหล่านั้น เป็นรถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่า ซิตี้ และแจ๊ซ ทำให้ ลิมิต ของความเร็วที่กดไว้ ในกรณีตรวจสอบชนิดน้ำมันไม่เรียบร้อย จะสูงกว่า 130 จึงไม่ทันได้รู้ตัวว่าเครื่องยังหน่วงอยู่เพื่อตรวจสอบน้ำมันอยู่น่ะ
- มีความเป็นไปได้ว่า ฮอนด้า จะขยายขีดจำกัดของความเร็ว ที่จำกัดไว้ 130-140 นั้น ให้สูงขึ้นไปอีก แต่ก็ต้องแลกกับ อัตราสิ้นเปลือง การเผาไหม้ ที่จะไม่ได้ตามมาตรฐานเดิม
- การอัพเกรด ซอฟต์แวร์ดังกล่าวนั้น อัพแล้วไม่สามารถ ดาวน์กลับไปใช้มาตรฐานเดิมๆได้
- การอัพเกรด ซอฟต์แวร์ ทำให้เฉพาะผู้ที่ต้องการเท่านั้น !!!
จำได้เท่านี้ครับ หากอยากทราบเรื่องใดอีก ก็รบกวนสอบถามได้เลยครับ :emo_051: :emo_102: :emo_114:
ปล.
เพื่อเป็นการขอบคุณ เพื่อนสมาชิก ที่ได้ร่วมเข้าพบกับทางฮอนด้าฯ คือคุณ ดรั๊ม Live SoundEngineer
ผมได้มอบ หมายเลขสมาชิก ANC.0001 พร้อมสติ๊กเกอร์ All New City club ด้วยแล้ว
ขอบคุณ คุณดรั๊ม อีกครั้งครับ. "
http://www.allnewcity-club.com/index.php/topic,1606.0.html (http://www.allnewcity-club.com/index.php/topic,1606.0.html)
-
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ :)
-
ตามคำชี้แจงของHonda ยังข้องใจนิดหนึ่งว่า เครื่องยนต์ต้องการเรียนรู้ชนิดน้ำมันในตอนสตาร์ทใหม่ทุกครั้ง
ตัวอย่างกรณีขับรถทางไกลประเภทไปแบบสบายๆ ในแต่ละครั้งที่แวะเติมน้ำมัน ,แวะซื้อของ,แวะเข้าห้องน้ำ-แวะกินกาแฟ.แวะทานออาหารกลางวัน
พอเริ่มออกเดินทางใหม่ในแต่ละครั้งนั้นต้องอาศัยเวลาเรียนรุ้นานเท่าเดิมไหม? หรือเครื่องยนต์ร้อนการเรียนรู้จะใช้เวลาสั้นลง?
อาจต้องเรียนเสนอ(Honda)ให้ทดสอบเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ
(ปล.จากคำชี้แจงแสดงว่าอาจจะเกิดอาการดังกล่าวสามารถเกิดได้กับ Civic Accordได้ ?ถ้าลากเครื่องให้ถึงจุดLimit ที่แม้จะตั้งไว้สูงกว่าของCity เช่น ความเร็ว200 กม/ชม แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว แต่ทีอ่านมาก็ยังไม่เคยเจอใครร้องเรียน !! หรือว่าใช้เวลาในการทดสอบชนิดน้ำมันน้อยกว่ามากๆ)
-
สำหรับผมคงไม่มีโอกาสได้ขับเร็วถึง100+มั้ง
ใช้ในเมืองแค่70+ยังแทบจะไม่มีโอกาสถึง ;D
-
ผมขอบคุณสำหรับลิงค์และข้อมูลดังกล่าวตามที่คณะคุณศรีราชาได้โพสท์ไว้ครับ
สรุปได้ดังนี้
1. รถ ต้องมีการ Learn ประเภทน้ำมันทุกครั้ง "ที่มีการสตาร์ท"
2. ขั้นตอนการ Learn ใช้เวลา 5 นาทีถ้าวิ่งด้วยคันเร่งเบาๆคงที่ 10 นาทีถ้าจอดเดินเบาเฉยๆ ในช่วงเวลาดังกล่าวสามารถขับแบบล่องไปเรื่อยๆตามปกติได้ แค่วิ่งเกิน 130ไม่ได้
3. ถ้าไม่ชอบ. Honda สามารถอัพเฟิร์มแวร์กล่องใหม่ได้ให้ระบบยอมให้เร่งเครื่องต่อไป การอัพเฟิร์มแวร์ ต้องรอพัฒนาอีกราว 1 เดือน และเมื่อทำแล้วจะย้อนกลับมาเป็นแบบเดิมไม่ได้
4. จะทำให้เฉพาะลูกค้ารายที่มีการร้องขออัพเฟิร์มแวร์ ECU เท่านั้น
-
แต่ดูแล้วขำแบบเอามือก่ายหน้าผาก..เข้าใจความพยายามรักษาภาพลักษณ์ถึงได้สรรหาถ้อยคำมาเวิ่นเว้อไปนิด จริงๆก็บอกไปก็ได้ว่า ไม่มีเอธานอลเซนเซอร์มาป้อน feedback เข้ากล่องโดยตรง เลยต้องใช้วิธี Learn เอาจากตัวเครื่องหรือจากไอเสีย..บอกไปตรงๆ ไม่มีใครว่า รถ5-7 แสน ยี่ห้อไหนบ้างเติม E85 ได้แล้วมีเซนเซอร์พวกนี้? Volvo S60,80FT มี..แต่นั่นมันราคาเท่าไหร่ การจะเพิ่มต้นทุนเซนเซอร์ตัวนึงเข้าไปมันไม่ต้องคิดมากเหมือนรถระดับทั่วไปที่พวกเราซื้อหากัน
และผมก็งงมาก เออใครวะคิดได้ Learn ยังไม่เสร็จให้ล็อค 130? ทำไมไม่ตั้ง Condition ในกล่องว่าถ้าคันเร่งถูกกดเกิน 80% และการ Learn ยังไม่จบ อย่าใช้วิธีตัดความเร็วได้มั้ย ก็แค่ตู้มน้ำมันลงไปหนาอย่างที่ E85 ต้องใช้สำหรับ Open Loop และลดไฟจุดระเบิดลงเหลือเท่า MAP น้ำมัน 91..รถอืด มลพิษเยอะ แต่ไม่ส่งผลด้านความปลอดภัย ลูกค้าอาจจะบอกตื้อๆแต่วิ่งไปสักพัก Learn เสร็จตัดเข้าโหมดปกติ ก็วิ่งลื่นสบาย ผมว่าแบบนี้คนส่วนมากรับได้นะ รถราคาระดับนี้ อุปกรณ์ให้มาตั้งเยอะแล้วจะเอาอะไรอีกก็ไม่รู้มากมาย เติม E85 ได้โดยไม่ต้องไปเปลี่ยนหํวฉีดกับสายน้ำมันอะไรต่างๆก็บุญแล้ว..แค่อย่างน้อยบอก และเตือนผู้ใช้ให้รู้เรื่องกันหน่อยก็ดีเรื่องการ Learning แค่นั้นแหละ
-
เห็นด้วยกับคุณแพนครับ
จริงๆ เขียนโปรแกรมให้จำระดับน้ำมันในถังก็น่าจะได้นะ ประมาณว่าให้จำระดับน้ำมันถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำมันเชื้อเพลิงก็ใช้ค่าที่ learn ไว้ล่าสุด