Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ กรกฎาคม 03, 2014, 18:41:41
-
ผมรู้สึกไปเองรึเปล่า ? รถที่ออกมาหลัง ๆ นี่้ ไม่ว่ายี่ห้ออะไร มันก็ดูจะเสียง่ายจัง ไม่เกิน 5 ปี
รถลุง SLK 200 ออกไม่กี่เดือน เรียกศูนย์มาslide ไปเพราะน้ำหาย
รถพี่ชายผม MINI R56 สี่ปีพังคาเท้า โซ่ขาด
รถน้องสาวผม Ford Fiesta ป้ายแดง ดับสนิท กลางทางด่วน
รถพี่สาวแท้ๆ E90 สามปี น้ำหายเหมือนกัน เข้าศูนย์เช็คอาทิตย์นึง
INNOVA ดีเซลที่บ้าน ดับกลางแยก ทุกทีที่ติดไฟแดงนาน ๆ รถวิ่งช้าๆ ยังแก้ไม่หายตั้งแต่วันแรกที่ซื้อ จนถึงวันนี้ แต่สตาร์ทใหม่ติดทุกครั้ง
ล่าสุดสด ๆ ร้อน ๆ BMW F10 520D สตาร์ทไม่ติดเรียกรถslide on เข้าศูนย์กทม
มีคนรู้จักรอบ ๆตัวอีกหลายคนที่ รถเสีย ทั้ง ๆที่ยังป้ายแดง มีแทบทุกยี่ห้อ
คนอื่น ๆ ปรกติดีกันไหมครับ ? 5ปีแรกในประกันไม่มีปัญหาเลย ?
-
ผมว่าไม่ทนเท่าสมัยก่อนครับ :D
สมัยก่อนวัสดุทนทานกว่าโดยเฉพาะเครื่องยนต์ :D
-
คิดครับ รถสมัยนี้มันจุกจิกอ่ะ เดี๋ยวก็อันนั้นอันนี้พัง เพราะเทคโนโลยีมันเยอะด้วยแหละ
-
.
.
.
gอาจริงๆผมก็อยากให้มันพังในประกันนะ
เพราะถ้าพังหลังจากนั้นเซ็งกว่าเยอะเลย ;D
-
ประสบการณ์ตรงนะครับ ป้างแดง ออกห้าง เดิมทั้งคัน ดูแลดีกว่า คนในครอบครัว มันก็ยัง พังครับ พังนู่นนี่ เปลี่ยนอะไหล่แท้ทุกชิ้น จบบ้างไม่จบบ้าง สรุป ผมฟันธงที่ 4-5 ปีพอแล้ว สำหรับรถในปัจจุบันนี้ เกินกว่านั้น ถือว่าโชคดีครับ
-
เทคโนโลยีที่มากกว่า แลกมาด้วยการต้องดูแลรักษาที่มากกว่าเช่นกันนะครับ ไม่ต้องอะไร ดูโทรศัพท์มือถือ เมื่อก่อนใช้กัน 4-5 ปี เด๋วนี้ 2 ปีก็เต็มที่แล้ว
ว่าแล้ว iPhone4 ก็ไปต่อไม่ได้แล้วเช่นกัน 555+ ไม่เกี่ยวเลยนะเนี่ย
-
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
CRV G3 อายุ 6 ปี เทียบกับ accord งูเห่าอายุ 13 ปี ซึ่งมีจุดอ่อนเดียวคือเกียร์
CRV G3 อะไหล่เสียเร็วกว่า และเยอะกว่า accord มาก
-
รุ่นที่ท่านกล่าวมามันจุกจิกปกตินี่ครับ
;D ;D ;D
ผมใช้ Lancer EX ก็ไม่มีอะไรจุกจิกครับ 4 ปีครับ ยังไม่ถึง 5 ปีครับ
-
สมัยนี้ผมว่าอุปกรณ์ส่วนควบมันเยอะ
ถ้ามาตราฐานการประกอบไม่ดีรึว่าอุปกรณ์ไม่คิวซีดีๆ ย่อมออกอาการไม่ช้าก็เร็ว และถ้าช่างแก้ไม่จบก็จะไม่เจอต้นตอที่แท้จริง
ส่วนตัวผมว่ารถสมัยนี้ทนขึ้นบางชิ้น ตัวถังเป็นสนิมยากขึ้น เครื่องทนทานขึ้น ช่วงล่างทนขึ้น
ท่อทางเดินต่างๆ ส่วนประกอบยางต่างๆทนขึ้น เบรคหนาขึ้น หมดช้า จานเบรคหนาขึ้น คุณภาพดีขึ้น สีพ่นก็ดีขึ้น ทุกอย่างดีขึ้นหมด และทนขึ้นหมดโดยภาพรวม
ถ้าหัวฉีดยุคแรกๆเนี่ย ทนระเบิด พวกที่เสื้อสูบยังเป็นเหล็ก ทนกว่าเครื่องคาบูมากๆ
แต่บางจุดก็สู้แบบเก่าๆไม่ได้ เช่น ไฟหน้า ยุคเก่ามันเป็นกระจก แม้แสงจะออกได้น้อยและเหลืองไวแต่ทน
สมัยก่อน จากยุค 80 ผมว่าสร้างมาเพื่อให้ใช้ได้นานๆแต่ถูกจำกัดด้านต่างๆในด้านวิศวกรรม ต่างๆ เลยเป็นไปตามวิศวกรรมของยุคนั้นๆ
สมัยนี้ ก้าวหน้ามากขึ้น แต่ก็ยังมีปัจจัยของ ทำชิ้นงานมาให้พอดีกับอายุที่จะใช้มัน ตามอายุที่ถูกกำหนดมา
พวกชิ้นงานนั้นกำหนดได้ จะให้แตกเมื่อไหร่เสียเมื่อไหร่ เช่นพวก พลาสติคต่างๆ ลูกหมากต่างๆ
แต่โดยรวมผมว่ารถยุคนี้ทนกว่ารถยุคก่อน ครับ โดยเฉพาะกับเครื่องยนต์ รถยุคนี้ทนมากๆ ประกอบกับของเหลวต่างๆพัฒณาไปมาก
ยุคนี้ผมว่าที่เจอปัญหากันก็น่าจะมาจากการ คิวซี และ การผลิตที่ ผลิตมากขึ้น ที่ต้องผลิตเพื่อต่อสู้กัน เลยหลุดคิวซีได้
แต่รถยุคก่อนๆ ก็ ต้องเลือกรุ่นมาชนอีก ถ้ารถที่ ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน ทางระบบแบบนี้จะทนจริงๆ
แต่ถ้าเป็นเครื่องดีเซลล๊ะก้อ รถยุคก่อนนั้นเครื่องทนระเบิดแน่ๆ ทนจนตัวถังเป็นซากไปแล้วเครื่องยังไม่เป็นอะไรเลย
วัศดุสมัยนี้ทนกว่าแต่ก่อนมาก เอาแค่ ปะเก็นก็พอ ไปเทียบกับสมัยก่อนต่างกันลิบ แต่เนื่องจากมีอุปกรณ์ส่วนควบมาก เลยเกิดปัญหาได้ในบางจุด แค่เซนเซอร์สกปรก ไฟก็โชว์แล้ว
รถสมัยก่อนการบำรุงรักษาถี่ เกินไป อย่างเครื่องคาบู ก็ต้องหมั่นมาล้าง สายคันเร่งสลิงใช้ๆไปไม่เท่าไหร่ยืดแล้วค้างแล้วต้องมาตั้งหยอดน้ำมันรึเปลี่ยนใหม่ สมัยนี้ คันเร่งไฟฟ้า แต่ก่อนคนกลัวกัน ผ่านมามันทนมั้ยล๊ะ
ลูกกุญแจ สมัยนี้ผ่านมาหลายปียังไม่ลอกเข้าเนื้อทองเหลืองเลย ถ้าเป็นยุคก่อนๆ หน้านี้ซักเกือบ 20 ปี ใช้ไม่เท่าไหร่ สารเคลือบหลุดหมดแล้วเห็นเนื้อทองเหลืองแล้ว ถ่านก็ทนขึ้น รถบางรุ่นมีชารท์ในตัวอีกเสียบกุญแจเมื่อไหร่ชารท์ไฟให้กุญแจรึโมทตลอดเวลา ถ่านไม่หมดด้วย
ทุกอย่างทนขึ้นหมด
แต่อย่างว่าแหละ โดยภาพรวมต่างๆ ผมว่าปัญหามาจากประกอบมากทำเวลา เลยหลุดคิวซีได้ และ ผู้ผลิตกำหนดเวลาให้เสียได้ ในบางจุด สมัยก่อน กล่อง ecu เอาไว้ใต้ครอนโซน มาเดี่ยวนี้บางยี่ห้อ เอาไว้ในห้องเครื่องเลย คงต้องว่ากันเป็นรุ่นๆไป อย่างเกียร์ cvt มันก็เปราะมากๆ คงต้องมีการพัฒณาต่อไปอีก แต่เชื่อ เหอะ มนุษย์เราไม่มีทางเอาชนะกฎของวิศวกรรทางธรรมชาติได้ ตรงนี้ไปไม่ได้ ไปอีกทาง เพื่อ จะหนีปัญหาข้างเคียง สุดท้ายแล้วนั้น ยังไงก็ไม่มีทางชนะกฎของธรรมชาติได้ เพราะไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะทำให้ โลหะชนิดหนึ่งที่บางกว่าแต่แข็งกว่าโลหะอีกชนิดได้ ถ้าโลหะอีกชนิดมันพอดีในตัวของมันแล้ว การหลีกเลี่ยงทำให้ เป็นหยักเพื่อเสริมความแข็งแรงให้เพิ่มมากขึ้น ยังไงซะ มันก็ไปได้ตามที่ได้เท่านั้น น้ำไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ ออกแบบเครื่องยนต์ มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น ตามธรรมชาติอยู่แล้ว หนีไปใช้แบบระบบดูดและพ่นซะเลยเมน่วนมันช้าเกินไป อย่างพวกซุปเปอร์คาร์ แบบน้ำมันเครื่อง เพื่อผล หลายๆด้าน มันก็มีอุปกรณ์ส่วนควบเพิ่มขึ้นมาอีก หม้อ อากาศดูดช้านักใส่ใบพัดช่วยส่งให้เลยดีกว่า ได้ตรงนี้แต่เสียตรงโน้น
ซึ่งทั้งหมดผมว่า มุนษย์เราออกแบบอะไรก็ได้ จะเป็นไป ตามธรรมชาติตามที่มันควรจะเป็น ฝืนไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ในกรอบทั้งนั้น
-
เห็นด้วยครับคันเก่าพ่อผม3ห่วง1994overhornตอน350,000กม
altisหน้าหมู2004overhornตอน200,000กม
รถอาผมaltis2011ขับๆอยู่เครื่องก็ดับโดยไม่รู้สาเหตุ
ผมว่ารถสมัยนี้นับวันความทนยิ่งน้อยลงครับ :(
-
หรือว่ามันคือการตลาดอีกรูปแบบหนึ่ง (ขายอะไหล่) อิอิ
-
เครื่องยนต์ เกียร์ ผมว่าไม่แตกต่างครับ
แต่ที่ต่างกันแบบชัดๆเลยคือ
1. ช่วงล่าง
2. ระบบไฟ
ระบบไฟนี่ รถเก่าๆบางรุ่น ใช้มา 10 ปี ไม่พังเลยนะ
แคมรี่ที่บ้านผม เชื่อมั้ยว่าอายุ 11 จะ 12 ปีแล้ว หลอดไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไม่ขาดเลย
แต่รถใหม่ๆบางรุ่น แปปเดียวไฟหน้าดับแล้ว แปปเดียวไฟท้ายลาโลกแล้ว
ยิ่งช่วงล่าง สังเกตุรถรุ่นเก่าๆ ช่วงล่างโครตทน ลุยไปเหอะ
แต่รถรุ่นใหม่ๆ ช่วงล่างดีนะ แต่เปราะมากๆ ใช้ได้ไม่นานเสียงมาก่อน โช๊ครั่ว ช่วงล่างหลวม เยอะแยะ
แต่เครื่องกับเกียร์ ผมว่าไม่แตกต่างนะครับ
-
ญี่ปุ่นผมว่า เหมือนเดิม ยิ่ง toyota นี่ยอมรับเลยว่า qc ดีมาก
แต่พวกยุโรป คงจุกจิก ระบบเยอะ แก้ยาก คุม qc ก็ยาก หลายระบบเกิน
-
คิดและเห็นด้วยที่มันจุกจิกมากกว่าแต่ก่อน ใส่ระบบไฟฟ้า ระบบอำนวยความสะดวกสุดไฮเทคเข้าไปเยอะๆ สิ เดี๋ยวได้มีเสียเรื่อยๆ (ขอยกเว้นอุปกรณ์ความปลอดภัยนะ)
ยกตัวอย่างง่ายๆ กับ Nissan Cefiro A31 สุดหรูและไฮเทคมากในยุคของมัน แต่ก็ไม่วายที่เริ่มมีอายุหน่อยก็โช็คไฟฟ้าเจ๊ง แอร์ออโต้เสีย กระจกอัตโนมัติพัง เสาวิทยุยืดหดเองได้เจ๊ง และอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นระบบไฟฟ้า เมื่อเทียบกับรถในยุคเดียวกันที่มันมีแต่ของพื้นๆ แต่อยู่โคตรทน ผ่านไปสิบปี แทบไม่มีอะไรเสียเลย
-
เค้าไม่ได้กะให้เราใช้นานๆเหมือนสมัยก่อนครับ รถสมัยนี้เป็น Fashion Item อย่างนึง เค้าก็เลยทำให้มันเสียเร็วๆ จะได้เปลี่ยนรถบ่อยๆ
-
ตอนนี้ที่ใช้มา ส่วนใหญ่เป็นพวก ลูกปืน กะเบรค มากกว่า
แต่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก ยังไม่รู้ว่ามันจะพังเมื่อไร แต่เครื่องเล่นวิทยุ เริ่มแล้ว กินcdบ้าง ไม่กินบ้าง 3ปีนิดๆเอง
-
รถสมัยใหม่มีระบบอิเลคโทรนิคส์ร่วมด้วยเยอะครับ แต่เวลาดีก็ขับดีใจหายนะครับ
-
march ที่บ้านของน้องสาว อายุเพิ่ง 3ปี วิ่ง 5หมื่นโลเอง
ต้องเปลี่ยนระบบแอร์เกือบยกชุดแล้วครับ ตอนนี้เหลือแค่คอมเพรสเซอร์
-
ผมว่าวิศวกรที่ออกแบบเก่ง สามารถคำนวณระยะเวลาให้เสียทามที่กำหนดได้ เพื่อลดต้นทุนในการผลิต และสามารถขายPast ได้อย่างต่อเนื่อง หากซื่อมาแล้วใช้เป็นสิบปีไม่เสีย ทำให้พวกPast ต่างขายไม่ได้ครับ
-
ขออนุญาตนะครับ
ผมเห็นด้วยนะ รถผม Jazz 2009 เข้าปีที่สี่ คอมแอร์ก็ไปเหมือนกัน เปลี่ยนไปหนึ่งชุด นี่ก็ย่างเข้าปีที่ 6 แล้ว ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีอะไรเสียหนักๆครับ :D
-
เมื่อช่วง 2ปี ที่แล้วมีคนบอกผมเรื่องนี้เหมือนกันครับ รถใช่งาน 5ปี จะเริ่มมีปัญหา ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรครับ ค้านในใจด้วยจริงเหรอ?? สุดท้าย 2ปี ให้กลังรถผมอายุครบ 5ปี เริ่มออกอาการ
ตั้งแต่ช่วงล่างหลวม เปลี่ยนยก Set ก็ยังไม่คิดอะไรมาก ต่อมายางรองแท่นเครื่อง เสื่อม/แข็ง ก็เลยยก Set อีก ต่อมาคลัชแข็ง คลัชหมด เลยยก set ทั้งหวีกล้วยเลย ต่อมาอีก คลัชคอมแอร์หมด!!! เริ่มแล้วครับ เริ่มจ่ายเยอะ เริ่มคิดแล้วครับ
หนักสุดคือ ตอนติดไฟแดงกำลังออกตัวคลานไปเรื่อยๆ รถดับ!!!! ผมรีบสตาส สตาสยังไงก็ไม่ติด แอ๊ดๆๆๆๆๆ ไฟเครื่องโชว อ่าวซวยแล้ว โชคดีที่ผมเอา เครื่องสแกน OBDii ไปด้วย เสียบ สแกนโคต เจอ รหัส เกี๋ยวกับ อีโม Code ไม่เข้ากันกับ ECU ต้อง เคลียโคตถึงสตาสเครื่องติด!!
ตอนนี้เข้าใจเลยครับ ว่ารถเรามันอายุแค่นี้จริงๆ และก็อย่างที่คุณ jaesz ว่าเลย รถอาผมและคนรอบๆข้าง ก็เจอเหมือนกัน
ปล.คุณ jaesz ใช่คนที่เคยนำเข้า catalytic converter จาก USA หรื่อเปล่าครับ???
-
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ แสดงว่าเจอกันหลายคนเหมือนกันกับรถเสียเร็ว
เมื่อช่วง 2ปี ที่แล้วมีคนบอกผมเรื่องนี้เหมือนกันครับ รถใช่งาน 5ปี จะเริ่มมีปัญหา ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรครับ ค้านในใจด้วยจริงเหรอ?? สุดท้าย 2ปี ให้กลังรถผมอายุครบ 5ปี เริ่มออกอาการ
ตั้งแต่ช่วงล่างหลวม เปลี่ยนยก Set ก็ยังไม่คิดอะไรมาก ต่อมายางรองแท่นเครื่อง เสื่อม/แข็ง ก็เลยยก Set อีก ต่อมาคลัชแข็ง คลัชหมด เลยยก set ทั้งหวีกล้วยเลย ต่อมาอีก คลัชคอมแอร์หมด!!! เริ่มแล้วครับ เริ่มจ่ายเยอะ เริ่มคิดแล้วครับ
หนักสุดคือ ตอนติดไฟแดงกำลังออกตัวคลานไปเรื่อยๆ รถดับ!!!! ผมรีบสตาส สตาสยังไงก็ไม่ติด แอ๊ดๆๆๆๆๆ ไฟเครื่องโชว อ่าวซวยแล้ว โชคดีที่ผมเอา เครื่องสแกน OBDii ไปด้วย เสียบ สแกนโคต เจอ รหัส เกี๋ยวกับ อีโม Code ไม่เข้ากันกับ ECU ต้อง เคลียโคตถึงสตาสเครื่องติด!!
ตอนนี้เข้าใจเลยครับ ว่ารถเรามันอายุแค่นี้จริงๆ และก็อย่างที่คุณ jaesz ว่าเลย รถอาผมและคนรอบๆข้าง ก็เจอเหมือนกัน
ปล.คุณ jaesz ใช่คนที่เคยนำเข้า catalytic converter จาก USA หรื่อเปล่าครับ???
ผมเคยเอา Cat จาก USA มาใช้เองนะ ไม่เคยเอาไปให้ใครดู ยกเว้นคนรู้จัก ตั้งใจจะเอามาขายแต่ไม่ได้ทำ ไม่แน่ใจว่าคุณหมายถึงผมหรือแค่ชื่อเหมือน
-
ผมว่ามันแล้วแต่คันด้วยมั้งครับ ของผมที่ใช้มาก้อยังไม่เคยต้อง Slide on เลยนะครับ มีแค่อาการเหมือนจะเริ่มเสีย เราก้อเอาไปให้ช่างตรวจเช็ค
-
ถ้าไม่ให้รถเสียเร็ว อุปกรณ์ต่างๆ เสื่อมอายุ เร็ววัน
รถใหม่คงจะขายยาก อะไหล่ คงจะไม่ได้ขาย
บริษัทรถ อะไหล่ ก็จะเสียรายได้ หรือกำไรลดลง
สมัยนี้เทคโนโลยียานเยนต์ เรามาไกล มาก มีระบบช่วยมากมาย เตือนโน่น เตือนนี่
ดูอย่างยานอวกาศสิครับ ก็เทคโนโลยียานยนต์ พัฒนาไปเนี่ยละ เขายังรู้กำหนดวันเสื่อมและสิ้นอายุของมันตั้งแต่ตอนสร้างเลย
เพราะฉะนั้น ค่ายรถยนต์หรืออะไหล่ผลิตของออกมาจะคำนวน การเสื่อมของอะไหล่และอุปกรณ์ต่างๆ ได้แน่นอน และค่อนข้างแม่นยำนะครับ
ลองคิดดูสิครับ รถใช้ ได้ 10 ปี ส่วนใหญ่เสีย เล็กๆ น้อยๆ ไม่ซ่อมบ่อยให้รำคาญหัวใจ และสมอง โรงงาน เขาจะได้ขายอะไหล่งั้นเหรอ
เหตุผลที่คนอยากเปลี่ยนรถ เพื่อซื้อคันใหม่
เหตุผลหลักๆ ไม่ใช่มันเก่า หรอกครับ เป็นเพราะ มันได้ซ่อมบ่อย เปลี่ยนโน่น เปลี่ยนนี่ ทำให้เจ้าของรถรำคาญ จนในที่สุดทนไม่ได้ ต้องซือคันใหม่
-
บางกรณีก็มาจากออกแบบไม่ดีก็มีนะครับ
เช่น ไฮลักซ์ ไทเกอร์ D4D ถ้าไฟเลี้ยวไม่หลุดจากเบ้าแปลว่าขับน้อยหรือเปลี่ยนมาแล้ว
-
ผมว่าจริงครับ e90 ของผมวิ่งได้ 50,000 โล ยางแท่นเครื่องเสีย แอร์ไม่เย็น ดีที่ยังมีประกันเคลมกันได้ อานุรถแค่สองปีกว่าๆเอง เทียบกับรถสมัยก่อนใช้กันลืมเลย แต่ก็อย่างว่าล่ะครับรถสมัยนี้มันซับซ้อนขึ้นเยอะ ประกอบกับผู้ผลิตก็กำหนดอายุมันมาให้สั้นลง เพื่อต้องการขายของให้ได้มากขึ้น เพื่อผลประกอบการและกำไรที่มากขึ้นนั่นเอง เราผู้ใช้ก็ต้องทำใจ
-
จริงครับ ไม่ถึงกับเสีย แต่ปัญหาจุกจิกเยอะมาก
-
Cla 250 กล่อง ECU ผมก็ไปซะแล้ว ขับมาแปปเดียวเอง :o
-
ผมเคยเอา Cat จาก USA มาใช้เองนะ ไม่เคยเอาไปให้ใครดู ยกเว้นคนรู้จัก ตั้งใจจะเอามาขายแต่ไม่ได้ทำ ไม่แน่ใจว่าคุณหมายถึงผมหรือแค่ชื่อเหมือน
ไม่แน่ใจอะครับ ตอนนั่นผมเห็นจาก เว็บแห่งหนึ้งจำไม่ได้แล้ว เห็นว่าขาย Cat จาก USA ผมได้อ่านถึงประวัติตอน อยู่ USA ด้วยอะครับ ไม่แน่ว่าว่าใช่คุณ jaesz หรือเปล่าครับ
-
ผมเคยเอา Cat จาก USA มาใช้เองนะ ไม่เคยเอาไปให้ใครดู ยกเว้นคนรู้จัก ตั้งใจจะเอามาขายแต่ไม่ได้ทำ ไม่แน่ใจว่าคุณหมายถึงผมหรือแค่ชื่อเหมือน
ไม่แน่ใจอะครับ ตอนนั่นผมเห็นจาก เว็บแห่งหนึ้งจำไม่ได้แล้ว เห็นว่าขาย Cat จาก USA ผมได้อ่านถึงประวัติตอน อยู่ USA ด้วยอะครับ ไม่แน่ว่าว่าใช่คุณ jaesz หรือเปล่าครับ
ไม่ใช่ผมแล้วล่ะครับ ผมไม่เคยเล่าประวัติใน USA ของผมลงในเว็บครับ อาจจะเคยคุยกับคนในเว็บ ถามตอบกัน จำได้ล่าสุดก็น่าจะคุณ JIRATH ที่เว็บนี้ล่ะ
น่าจะเป็นคนที่ชื่อ SAM นะครับ เขาจะสิงอยู่ใน HONDA CLUBซักแห่ง
...ว่าแต่ ทำไมมีคนคิดว่าผมเป็นคนนั้นคนนี้บ่อยจัง..
-
Cla 250 กล่อง ECU ผมก็ไปซะแล้ว ขับมาแปปเดียวเอง :o
พูดไปน่ะท่าน CLA รถเพิ่งเปิดตัวไปปีกว่าๆ เองนะครับ
-
Cla 250 กล่อง ECU ผมก็ไปซะแล้ว ขับมาแปปเดียวเอง :o
พูดไปน่ะท่าน CLA รถเพิ่งเปิดตัวไปปีกว่าๆ เองนะครับ
SLK รถปีนี้ ก็เคลมแล้วครับ สตาร์ทไม่ติด
-
สอบถามครับ
แล้วพวกรถ premium car ล่ะครับเป้นยังไงบ้าง ตั้งแต่ตัวเริ่มต้นเลยครับ เสียง่าย เสียบ่อย จุกจิกไหมครับ
-
สอบถามครับ
แล้วพวกรถ premium car ล่ะครับเป้นยังไงบ้าง ตั้งแต่ตัวเริ่มต้นเลยครับ เสียง่าย เสียบ่อย จุกจิกไหมครับ
มันขึ้นกับดวง+ความซับซ้อนของตัวรถครับ ถ้าพวกรถที่ออปชั่นไรงี้ไม่มาก ก็อาจจะมีเสียน้อย (ระบบไฟฟ้าไม่ Complex มาก)
ผมว่ามันถูกออกแบบมาแล้วแหละว่าจะอยู่ได้นานขนาดไหน เพราะยิ่งวิศวกรรมด้านนี้ก้าวหน้า การหาสิ่งมาทดแทน (ซึ่งใช้ได้เหมือนกับตัวเก่า) สิ่งที่สิ้นเปลือง (ลดต้นทุนได้น่ะแหละ) ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
มันคงไม่มีอีกแล้วแหละครับ พวกรถที่สร้างมาวิ่งได้นานๆอย่าง Diesel ของยุโรปสมัยก่อนที่ผ่านไป 10-20 ปี จอดทิ้งไว้แล้ว แค่เปลี่ยนแบตกับถ่ายน้ำมันออกก็สตาร์ทติดขับได้เหมือนเดิม :3
-
ถ้าเป็นรถใหม่ ผมว่าไม่จุกจิกเลยคับ ถ้าเทียบกับรถสมัยก่อน ที่แทบจะต้องมีสายจั๊มแบตติดรถกัน และภาพรถเสียจอดพ่วงแบตเป็นภาพที่เห็นบ่อยกว่าสมัยนี้เยอะ
แต่ผมว่าความคิดของคนสมัยนี้ต่างหากครับ ที่เสีย และจุกจิก หรือคาดหวังกันมากเกินพอดี
-
ไม่รู้สิผมว่าเกี่ยวกับดวงด้วยเพราะบางคนก็บอกรถเก่าจุกจิกบางคนบอกรถใหม่จุกจิก
สำหรับผม มันก็จุกจิกพอๆกันอยู่ที่เราดูแลรักษาเป็นส่วนหนึ่งแต่เท่าที่ผมเจอมา ถ้ารถเก่าจุกจิกทีก็เข้าเนื้อ ส่วนรถใหม่ก็ไม่ค่อยจะจบสักที เรื่องนี้คงเกี่ยวกับดวงจริงๆที่จะไม่โดน