Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: YenChar ที่ กรกฎาคม 05, 2014, 19:20:46
-
มีคำถามอยากขอความเห็นครับ
ช่วงนี้เห็นแคมรี่ป้ายแดงเยอะแยะมากมาย และส่วนใหญ่เป็นรุ่น 2.0 กันหมด
ตอนนี้มีข้อสงสัยครับว่า "Repair or Replace" ดี??
ระหว่างแคมรี่ตาเหยี่ยวเครื่อง 2.4 คุ้นเคยกันดี ขับมาเป็น 10 ปี
เทียบกับแคมรี่ 2.0G รุ่นปัจจุบัน ตัวไหนน่าสนใจกว่ากัน
มีงบ(ของตัวเอง สำรองไว้ซ่อมบำรุง)อยู่เกือบๆแสน บวกกับคุณแม่สนับสนุน
เนื่องจากมันก็เก่าแล้ว กำลังตัดสินใจครับว่า จะเลือก Choice ไหนดี ระหว่าง...
.......................................
1. "Repair" ซ่อมคันเดิมไปก่อน
ด้วยความเสียดายที่ขับเครื่อง 2.4 มาตลอด (ที่ทำงานผมเบิกน้ำมันฟรี)
ถ้าจะหันไปขับรถที่เครื่องเล็กกว่านี้ก็เสียดาย บวกกับช่วงล่างมันนิ่ม แฟนชอบ ที่บ้านชอบ
ใช้แล้วไม่ต้องเสียดาย ไม่กลัวครูด ขับแล้วสบายใจดี รถมันคุ้นๆกัน
แต่... ตอนนี้ ฟิลม์รถไม่เหลือแล้ว สภาพสีก็ไม่โอเค ยางก็ลากมา 3 ปี ช่วงล่างหลังเริ่มมีเสียง
ลำโพงหน้าซ้ายแตก เกียรเริ่มกระตุกนิดๆ ไฟหน้าเริ่มเหลือง ขุ่น
คิดว่า ลงทุนครั้งเดียว ซ่อมมัน แล้วใช้ไปอีกซัก 3-4 ปี เก็บเงินแล้วค่อยซื้อคันใหม่ ไม่เกิน 4-5 หมื่นก็จบ
2 "Replace" ซื้อเจ้า Camry 2.0 G แทน
ด้วยความที่รถใหม่ และผมใช้งานรถค่อนข้างนานเป็น 10 ปี ซื้อใหม่แล้วยิงยาวๆไปเลย
ได้ข่าวว่า แคมรี่ 2.0 รุ่นนี้ เร่งดี เรี่ยวแรงดี เร่งปรู๊ดปร๊าด ช่วงล่างดี ภายในดี เลยสนใจขึ้นมา
แต่ติดที่เครื่อง 2.0 เทียบกับเจ้าตาเหยี่ยว 2.4 แล้วจะเป็นยังไงน้าา
ทุกวันนี้ ทำงานนอกเมือง ขับเป็นร้อยกิโลทุกวัน ออกเช้า กลับดึก ขับค่อนข้างเร็ว
อีกประเด็นคือรถใหม่ ขี้เกียจมานั่งระวัง กลัวรอย และที่สำคัญคือ "ค่าใช้จ่าย" ที่เพิ่มขึ้น ทั้งค่ารถ ค่าดูแลรักษาช่วงแรกๆ
........................
เป็นทุกท่าน จะตัดสินใจยังไงดีครับ
คือ ฟังเสียงคุณพ่อมาว่า
"จะเปลี่ยนทั้งที เอา 2.5 ไปเลยดีมั้ย ขับ 2.4 มาตลอดไปขับ 2.0 จะทันใจเหรอ แต่...จ่ายตังเอง พ่อไม่ช่วยนะ"
ผมเลยรู้สึกว่า รุ่น 2.5 มันเกินเอื้อมจริงๆ ที่บ้านดาวน์ให้ แต่ต้องผ่อนเอง ยอมรับว่าไม่ไหวครับ อยากเที่ยวบ้าง (T___T)
เป็นคุณ จะเลือก??
ปล. คำถามส่งท้ายครับ
... ในขณะที่ในตลาดมีตัวเลือกมากมาย แปลกมั้ย ถ้าผมจะเลือกแคมรี่ 2.0 ...
-
ถ้าเทียบสองคันนี้รถใหม่อะไรอะไรก็ดีกว่าครับ ช่วงล่าง บรรยากาศภายใน อัตราเร่งไม่ขี้เหร่น่ะครับ จากรีวิวคุณจิมมี่
รถใหม่สบายใจตรงขับจ่ายค่าน้ำมันอย่างเดียว แถมเบิกได้สบายเลยครับ ค่าบำรุงโตโยต้าไม่แพงน่ะ ผมใช้ hybrid อยู่ก็ถูกดีครับ
ถ้าเทียบ2.0 กับ 2.5 แน่นอน 2.5 ดีกว่า แต่ผมว่ามันอยู่ที่เท้าครับ อยากแรงก็กดลึกๆ ช้าลงนิดนึง ไม่ได้ไปแข่งกะใครนิครับ
ถ้าผ่อนแล้วลำบากตัวเอง อยากให้คิดให้ดีน่ะครับ ชีวิตเรามีอะไรให้ต้องทำอีกเยอะ ไม่ใช่แค่เรื่องรถครับ อย่าทิ้งเป้าหมายชีวิตตัวเอง
สุดท้าย ผมว่าราคาเท่านี้แอคคอด 2.0 ก็น่าสนใจครับ สวยดี ฟีลลิ่งเชื่อว่าเหมาะกะคนขับรถเร็วมากกว่า แคมรี่ เคยใช้แต่รุ่นเก่าครับ มีกล้องมองหลังไม่ต้องไปติด สะดวกดีนะครับ
ขอให้ได้รถที่ถูกใจนะครับ อย่าลืมไปลองขับด้วยตัวเองน่ะครับผม
-
ซื้อใหม่เลยครับ ซ่อมเสีบเวลา + ไม่ค่อยจบ
-
2.0 ผมขับตามบ่อยๆ แนะนำแบบพ่อคุณว่า ไม่ก็ใช้คันเดิมไปก่อนครับ รออีก 2 ปี น่าจะมีอะไรออกมาสนุกๆเยอะครับ
ตอนนี้รถยังไม่มีอะไรใหม่ๆให้น่าสนใจครับ
;D ;D ;D
-
เก่าหรือใหม่ มันอยู่ที่ตัวท่านครับ ถ้ารับได้กับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ก็แนะนำให้ใช้รถใหม่กับ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องซ่อมบำรุงหรือปัญหารถเสียระหว่างทาง ความปลอดภัยสำหรับรถใหม่ก็มีมากกว่า ทั้งด้าน active และpasssive อย่าลืมนะครับว่ารถเก่าจะซ่อมอย่างไรมันก็คือรถเก่า อย่างไรแล้วมันก็ทำได้แค่ประวิงเวลาเสียแค่นั้นครับ. ระบบต่างๆก็จะเริ่มรวนมากขึ้น abs. Airbag EBD. VSC. เราจะมันใจได้อย่างไรว่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินมันจะยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่ ขนาดรถใหม่ยังพบปัญหาอยู่บ่อยครับ...
-
รถใหม่2.0 สภาพมันสมบูรณ์กว่ารถ2.4อายุ10ปีครับ ยังไงๆรถใหม่ก็ขับดีกว่าเเน่ครับ เมื่อก่อนผมใช้ A33 เครื่องVQ3.0 ขายไปตอนอายุ 8ปี แล้วมาซื้อ J32 250xv ซีซีน้อยกว่า500cc แต่ขับดีกว่ามาก
ถ้าขับทางไกล ขับรถเร็ว ผมเลือกรถที่สมบูรณ์ครับ ซื้อใหม่แบบไม่คิดนานเลย ซื้อรถซื้อชีวิตครับ
2.0 ไม่เลวร้ายครับ ก่อนซื้อเพื่อนผมหลายๆคนบอกว่าพอ แต่พอใช้จริงก็บ่นกันทุกคน บางคนก็ดิ้นรนแต่งจะให้มันเเรงขึ้น
ช่วงนี้เห็น D Seg. ลดราคาเเรง ไปลองที่ศูนย์เลยครับ คุณจะมีคำตอบให้กับตัวคุณเองครับ
-
ณ ตอนนี้ camry ปรับออฟชั่นใหม่ น่าใช้ขึ้นเยอะ จากที่เด่นที่ห้องโดยสาร อัตราเร่ง บลาๆ ทีนี้ออฟชั่นพื้นฐานก็มีพอๆกับเจ้าอื่นแล้ว
แล้วอีกอย่างถ้าอยากได้ 2.5 ลองไล่ๆหลายๆศูนย์ดู เผื่อมีส่วนลดน่าสนใจ
แต่ถ้าไม่ใช่คนขับรถต้องการอัตราเร่งมาก แบบเหยียบเร่งเซงเยอะๆ มุดแล้วเร่งเร่งออก ออกตัวเร็วๆ 2.0 ก็คงพอ (แต่อย่าได้ไปลองขับ 2.5 นะ อันนี้เดี๋ยวกิเลสพุ่ง 555)
และเครื่องยนต์รถใหม่มันก็ดีกว่ารถ 10 ปีแน่นอน
-
ขับไกล+เร็ว รถใหม่ดีกว่าเก่าเยอะ
แต่ผมว่าลอง มอง Accord กับ Teana ด้วยดีกว่า
-
ถ้าจะเอา Camry ตัวใหม่จริงๆ แนะนำ ขยับไปรุ่น 2.5 ครับ
ตัว 2.0 ดูเหมือนจะวิ่งดี แต่พอออกทางไกล กำลังสำรองมันไม่พอครับ
-
ถ้าถามในนี้ ส่วนใหญ่จะบอกว่ารถใหม่
ผมกดเครื่องคิดเลขแล้วมีความเห็นคล้ายกับหลายๆ ท่านว่า
"ใช้ตัวเดิมไปอีกหน่อยสัก 2 ปี เก็บตังค์เพิ่ม แล้วเปลื่ยนใหม่ครับ"
อีก 2 ปี รอชมรีวิวครับ
-
ผมเลือกที่จะซ่อมคันเก่า
แต่ถ้าอยากได้รถใหม่จริงๆ ข้ามไปรุ่น 2.5 ครับ
เพราะตัว 2.0 ผมรำคาญ นิสัยคันเร่ง กับ ปัญหาเกียร์กระตุก
ส่วนเรื่องพละกำลัง โดยส่วนตัว ผมว่างั้นๆ นะ
ไม่หนี B segment เจ้าตลาดเครื่อง 1500 เท่าไหร่
จะมีดีแค่ปลายไหลกว่า
-
ถ้าเพิ่มอีกตัวจะว่าอะไรผมไหม ผมอยากแนะนำ avc40 2.4 มากกว่า ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องมือสองนะ ;D
-
ส่วนตัวผมเลือก accord teana หรือ อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ camry ครับ
ผมว่าไม่สวยเลย ดูธรรมดาสุดในกลุ่มเลยจริงๆ เหตุผลแค่นั้นภายนอกครับ
-
ถ้าเพิ่มอีกตัวจะว่าอะไรผมไหม ผมอยากแนะนำ avc40 2.4 มากกว่า ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องมือสองนะ ;D
คิดเหมือนผมเลย
-
ผมสงสัยอย่างหนึ่ง ทำไม่ชอบว่าพวก D Segment 2.0 ไม่พอต่อการใช้งาน
0-100 ประมาณ 12 วินาที 80-120 ประมาณ 8.5 วินาที
Ecocar กินทุกตัว ทุกช่วง
B-segment 0-100 พอๆกัน 80-120 ดีกว่าเกือบทุกตัว
C-segment 0-100 แพ้หมด 80-120 แพ้เกือบหมด
mini mvp กินทุกตัว ทุกช่วง
SUV 0-100 แพ้เกือบหมด 80-120 ดีกว่าเกือบหมด
Pickup -100 แพ้เกือบหมด 80-120 ดีกว่าเกือบหมด
ppv กินทุกตัว ทุกช่วง
Premium แพ้ทุกอย่าง
ดูแบบรวมๆนะ
ที่เห็นๆว่าดีกว่า D Segment 2.0 ทุกช่วงความเร็วก็มีประมาณ พวก C-segment กะ Premium นี้ละ
ตีนต้นมันอาจอืด แต่ช่วง ที่ได้ความเร็วแล้ว มันดีเลยละ ผมว่าขับในเมืองมันลำบาก แต่ขับทางไกล ง่ายเลยละ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html)
-
ถ้ามีตังผมว่าจัดไปเลยดีกว่าครับ
ผมเดาๆ ว่าคุณน่าจะได้ตำแหน่งใหม่ รายได้ดีขึ้น สมควรครับ กับรถใหม่ :D
-
ไม่แปลกครับ เอาที่ไม่ลำบากก็พอครับ 2.0 กำลังมันก็พอๆกับรถเครื่อง 1.8 อะแหละครับ แต่ออกตัวจะอืดๆหน่อยอะครับเพราะถังหนักกว่า
-
ลองดู CX-5 เพิ่มอีกตัวสิครับตัว 2.0 หรือ 2.5 ก็ได้ ขับทางไกลรถสูงได้เปรียบมองเห็นชัดดีครับ
-
ผมสงสัยอย่างหนึ่ง ทำไม่ชอบว่าพวก D Segment 2.0 ไม่พอต่อการใช้งาน
0-100 ประมาณ 12 วินาที 80-120 ประมาณ 8.5 วินาที
Ecocar กินทุกตัว ทุกช่วง
B-segment 0-100 พอๆกัน 80-120 ดีกว่าเกือบทุกตัว
C-segment 0-100 แพ้หมด 80-120 แพ้เกือบหมด
mini mvp กินทุกตัว ทุกช่วง
SUV 0-100 แพ้เกือบหมด 80-120 ดีกว่าเกือบหมด
Pickup -100 แพ้เกือบหมด 80-120 ดีกว่าเกือบหมด
ppv กินทุกตัว ทุกช่วง
Premium แพ้ทุกอย่าง
ดูแบบรวมๆนะ
ที่เห็นๆว่าดีกว่า D Segment 2.0 ทุกช่วงความเร็วก็มีประมาณ พวก C-segment กะ Premium นี้ละ
ตีนต้นมันอาจอืด แต่ช่วง ที่ได้ความเร็วแล้ว มันดีเลยละ ผมว่าขับในเมืองมันลำบาก แต่ขับทางไกล ง่ายเลยละ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html)
ถ้าจะเอาตัวเลขอย่างที่ว่า ต้องกระทืบเต็มตรีน เรดไลน์เท่านั้น
ตัวเลขในการ test กับการใช้งานจริงมันต่างกันครับ
-
เป็นผม ถ้าจัดตัว 2.0 ได้ ผมไม่ลังเลเลยครับ ถึงแม่มันจะไม่มีอะไรใหม่ และไม่ได้เท่าตัว 2.5 แต่ว่า
มันก็เป็นของใหม่ ผมว่า 2.0 ขับระดับนี้ผมว่าสบายๆ นะครับ(ถ้าไม่ใจร้อนเกินไป)
5 ปี แทบจะไม่ได้ซ่อมครับ ถ้าเก็บตัวเพิ่มได้ อีกสองปีไปเปลี่ยนคันใหม่ก็ไม่ได้่น่าเกลียดอะไรครับ
แต่ว่าที่ทำงานผม มีพี่ที่ขับ Corona ติดแก๊ส อายุน่าจะ 15 UP แล้วครับผม แต่ว่าไม่ได่ขับเร็วครับ
มันก็ทนจริงๆ ครับ :)
-
มีตังค์ ไม่ลำบาก ไม่ขัดสน จะซื้ออะไรก็ซื้อได้
แต่ถ้าซื้อแล้ว ต้องมาคิ้วหมวด อารมณ์เสีย กินมาม่า ห้ามไปเที่ยว
คงไม่คุ้มตั้งแต่ คิ้วขมวด แล้ว
-
ถ้าต้องการความสดใหม่,กำลังที่ดีขึ้น,เทคโนโลยีที่ทันสมัย ก็คงต้องซื้อใหม่คับ เเต่ยังไงก็อยากให้ไปลองเทส accord หรือ teana ดูคับคุณอาจะเปลี่ยนใจก็ได้ อิอิ หรือถ้าชอบ camry จริงๆ เครื่อง2.5น่าเล่นว่าเพราะ ได้เกียร์6speeds + dual vvt-i
-
ผมสงสัยอย่างหนึ่ง ทำไม่ชอบว่าพวก D Segment 2.0 ไม่พอต่อการใช้งาน
0-100 ประมาณ 12 วินาที 80-120 ประมาณ 8.5 วินาที
Ecocar กินทุกตัว ทุกช่วง
B-segment 0-100 พอๆกัน 80-120 ดีกว่าเกือบทุกตัว
C-segment 0-100 แพ้หมด 80-120 แพ้เกือบหมด
mini mvp กินทุกตัว ทุกช่วง
SUV 0-100 แพ้เกือบหมด 80-120 ดีกว่าเกือบหมด
Pickup -100 แพ้เกือบหมด 80-120 ดีกว่าเกือบหมด
ppv กินทุกตัว ทุกช่วง
Premium แพ้ทุกอย่าง
ดูแบบรวมๆนะ
ที่เห็นๆว่าดีกว่า D Segment 2.0 ทุกช่วงความเร็วก็มีประมาณ พวก C-segment กะ Premium นี้ละ
ตีนต้นมันอาจอืด แต่ช่วง ที่ได้ความเร็วแล้ว มันดีเลยละ ผมว่าขับในเมืองมันลำบาก แต่ขับทางไกล ง่ายเลยละ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html)
ถ้าจะเอาตัวเลขอย่างที่ว่า ต้องกระทืบเต็มตรีน เรดไลน์เท่านั้น
ตัวเลขในการ test กับการใช้งานจริงมันต่างกันครับ
A กดเต็ม B กดเต็ม แล้ว A ชนะ B
แต่ถ้า A กดครึ่ง B กดครึ่ง แล้ว B จะชนะ A เพราะอะไร ??? ถามจริงๆนะ ไม่ได้กวน อยากรู้
-
ดูจากสเป็คแล้ว เครื่อง2.0 ปรับสเป็คมาพอสมควร ลองขับดูดีกว่าครับ ถ้ารับกับอัตราเร่งได้ก็แนะนำให้ถอยใหม่ครับ
-
เป็นผม ถ้ายังมีความสุขกับมันดี ผมก็ซ่อมให้ปิ๊งแล้วใช้ต่อไป แล้วค่อยมองดูตัวที่ถูกใจที่สุดแทนครับ :)
เรื่องเกียร์เริ่มกระตุก เคยเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ้างหรือยังครับ? ถ้ายังแล้วตัวเกียร์สามารถเปลี่ยนถ่ายน้ำมันได้ก็ลองเปลี่ยนดูครับ น้ำมันเกียร์อาจเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว
เรื่องไฟหน้าเริ่มเหลือง ลองหาน้ำยาขัดไฟหน้าหรือไม่ก็ยาสีฟันขัดดูครับ จากเหลืองจะกลับมาปิ๊งวิ้งอีกครั้ง
เรื่องลำโพง เปลี่ยนคู่หน้าใหม่แบบดีหน่อยก็ประมาณพันกว่าๆ เอง
เรื่องช่วงล่าง เปลี่ยนโช็คครบสี่ต้นน่าจะหมื่นกว่าๆ แล้วก็กลับมาขับดีเหมือนเดิม
เรื่องฟิล์มรถ เปลี่ยนเป็นรุ่นธรรมดาของ Lamina, 3M, Hi-Kool รอบคันก็เกือบหมื่น แล้วรถก็กลับมาเย็นเหมือนเดิม
เรื่องสีรถ แล้วแต่เลยครับ ทำใหม่ทั้งคันประมาณหมื่นกว่าๆ เนี๊ยบหน่อยก็สองหมื่นนิดๆ
รวมแล้วห้าหมื่นกับปัญหาที่แจ้งก็เอาอยู่ ใช้สบายใจ+เก็บตังซื้อรุ่นที่ต้องการไปได้อีกหลายปีแล้วค่อยเปลี่ยนคันใหม่ดีกว่าครับ
-
ผมสงสัยอย่างหนึ่ง ทำไม่ชอบว่าพวก D Segment 2.0 ไม่พอต่อการใช้งาน
0-100 ประมาณ 12 วินาที 80-120 ประมาณ 8.5 วินาที
Ecocar กินทุกตัว ทุกช่วง
B-segment 0-100 พอๆกัน 80-120 ดีกว่าเกือบทุกตัว
C-segment 0-100 แพ้หมด 80-120 แพ้เกือบหมด
mini mvp กินทุกตัว ทุกช่วง
SUV 0-100 แพ้เกือบหมด 80-120 ดีกว่าเกือบหมด
Pickup -100 แพ้เกือบหมด 80-120 ดีกว่าเกือบหมด
ppv กินทุกตัว ทุกช่วง
Premium แพ้ทุกอย่าง
ดูแบบรวมๆนะ
ที่เห็นๆว่าดีกว่า D Segment 2.0 ทุกช่วงความเร็วก็มีประมาณ พวก C-segment กะ Premium นี้ละ
ตีนต้นมันอาจอืด แต่ช่วง ที่ได้ความเร็วแล้ว มันดีเลยละ ผมว่าขับในเมืองมันลำบาก แต่ขับทางไกล ง่ายเลยละ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html)
ถ้าจะเอาตัวเลขอย่างที่ว่า ต้องกระทืบเต็มตรีน เรดไลน์เท่านั้น
ตัวเลขในการ test กับการใช้งานจริงมันต่างกันครับ
A กดเต็ม B กดเต็ม แล้ว A ชนะ B
แต่ถ้า A กดครึ่ง B กดครึ่ง แล้ว B จะชนะ A เพราะอะไร ??? ถามจริงๆนะ ไม่ได้กวน อยากรู้
ก็คงประมาณว่ากดคันเร่งไม่ต้องเยอะแต่ความเร็วไต่ขึ้นได้ดี
แต่บางคันกดไม่เยอะรถไม่ค่อยมีกำลังไต่ความเร็วครับ
ความคิดส่วนตัวนะครับ
-
เป็นผม ถ้ายังมีความสุขกับมันดี ผมก็ซ่อมให้ปิ๊งแล้วใช้ต่อไป แล้วค่อยมองดูตัวที่ถูกใจที่สุดแทนครับ :)
เรื่องเกียร์เริ่มกระตุก เคยเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ้างหรือยังครับ? ถ้ายังแล้วตัวเกียร์สามารถเปลี่ยนถ่ายน้ำมันได้ก็ลองเปลี่ยนดูครับ น้ำมันเกียร์อาจเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว
เรื่องไฟหน้าเริ่มเหลือง ลองหาน้ำยาขัดไฟหน้าหรือไม่ก็ยาสีฟันขัดดูครับ จากเหลืองจะกลับมาปิ๊งวิ้งอีกครั้ง
เรื่องลำโพง เปลี่ยนคู่หน้าใหม่แบบดีหน่อยก็ประมาณพันกว่าๆ เอง
เรื่องช่วงล่าง เปลี่ยนโช็คครบสี่ต้นน่าจะหมื่นกว่าๆ แล้วก็กลับมาขับดีเหมือนเดิม
เรื่องฟิล์มรถ เปลี่ยนเป็นรุ่นธรรมดาของ Lamina, 3M, Hi-Kool รอบคันก็เกือบหมื่น แล้วรถก็กลับมาเย็นเหมือนเดิม
เรื่องสีรถ แล้วแต่เลยครับ ทำใหม่ทั้งคันประมาณหมื่นกว่าๆ เนี๊ยบหน่อยก็สองหมื่นนิดๆ
รวมแล้วห้าหมื่นกับปัญหาที่แจ้งก็เอาอยู่ ใช้สบายใจ+เก็บตังซื้อรุ่นที่ต้องการไปได้อีกหลายปีแล้วค่อยเปลี่ยนคันใหม่ดีกว่าครับ
เรื่องสีรถทำใหม่ทั้งคัน ที่ราคา 1-2 หมื่น ไม่น่ามีนะครับ ขั้นต่ำ 3 หมื่นไปแล้วทั้งนั้นครับ
หรือมีที่ไหนครับ ใช้สีอะไร มีห้องอบไหมครับ
:-\ :-\ :-\
-
ผมเพิ่งทำสี Accord งูเห่าทั้งคัน 3 หมื่นต้นๆ ครับ
-
เป็นผม ถ้ายังมีความสุขกับมันดี ผมก็ซ่อมให้ปิ๊งแล้วใช้ต่อไป แล้วค่อยมองดูตัวที่ถูกใจที่สุดแทนครับ :)
เรื่องเกียร์เริ่มกระตุก เคยเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ้างหรือยังครับ? ถ้ายังแล้วตัวเกียร์สามารถเปลี่ยนถ่ายน้ำมันได้ก็ลองเปลี่ยนดูครับ น้ำมันเกียร์อาจเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว
เรื่องไฟหน้าเริ่มเหลือง ลองหาน้ำยาขัดไฟหน้าหรือไม่ก็ยาสีฟันขัดดูครับ จากเหลืองจะกลับมาปิ๊งวิ้งอีกครั้ง
เรื่องลำโพง เปลี่ยนคู่หน้าใหม่แบบดีหน่อยก็ประมาณพันกว่าๆ เอง
เรื่องช่วงล่าง เปลี่ยนโช็คครบสี่ต้นน่าจะหมื่นกว่าๆ แล้วก็กลับมาขับดีเหมือนเดิม
เรื่องฟิล์มรถ เปลี่ยนเป็นรุ่นธรรมดาของ Lamina, 3M, Hi-Kool รอบคันก็เกือบหมื่น แล้วรถก็กลับมาเย็นเหมือนเดิม
เรื่องสีรถ แล้วแต่เลยครับ ทำใหม่ทั้งคันประมาณหมื่นกว่าๆ เนี๊ยบหน่อยก็สองหมื่นนิดๆ
รวมแล้วห้าหมื่นกับปัญหาที่แจ้งก็เอาอยู่ ใช้สบายใจ+เก็บตังซื้อรุ่นที่ต้องการไปได้อีกหลายปีแล้วค่อยเปลี่ยนคันใหม่ดีกว่าครับ
เรื่องสีรถทำใหม่ทั้งคัน ที่ราคา 1-2 หมื่น ไม่น่ามีนะครับ ขั้นต่ำ 3 หมื่นไปแล้วทั้งนั้นครับ
หรือมีที่ไหนครับ ใช้สีอะไร มีห้องอบไหมครับ
:-\ :-\ :-\
ผมเคยเอารถกระบะคันเก่าไปทำทั้งคัน (เมื่อห้าปีที่แล้ว) อยู่แถวเกษตร-นวมินทร์น่ะครับ มีห้องอบครับผม ส่วนสียี่ห้ออะไรผมไม่ทราบครับ :)
-
ถ้าต้องการความสดใหม่,กำลังที่ดีขึ้น,เทคโนโลยีที่ทันสมัย ก็คงต้องซื้อใหม่คับ เเต่ยังไงก็อยากให้ไปลองเทส accord หรือ teana ดูคับคุณอาจะเปลี่ยนใจก็ได้ อิอิ หรือถ้าชอบ camry จริงๆ เครื่อง2.5น่าเล่นว่าเพราะ ได้เกียร์6speeds + dual vvt-i
+1 ครับ ถ้าอยากจะเปลี่ยนรถทั้งทีก็ให้มันได้ความสดใหม่ที่ดีขึ้นหน่อยครับอยากให้ลองดูตัว 2.5 ครับเพราะถ้าซื้อตัว Camry 2.0 จะได้อารมณ์คันเดิมเปี๊ยบเลยครับเพราะกำลังมันพอๆ กันเกียร์แบบเดิมครับ
-
จากที่ใช้ตาเหยี่ยวเหมือนกัน บอกเลยว่า แพ้รถใหม่หมดทุกยี่ห้อ เว้นอีโค่ กะ Bseg ถ้าจะซ่อมช่วงล่างทำใหม่ ซื้อใหม่ดีกว่าครับ จริงๆ
ฟิลลิ่งดีกว่าแน่ แต่กำลังเครื่องน่าจะเท่าเดิมนะครับ เพราะเครื่อง2.0 กับ2.4ที่ สึกหรอกว่า แต่ยังไงผมว่าเครื่อง2.4 เวลาเหยียบความรู้สึกน่าจะเหมือนมีกำลังกว่านิดๆ รถใหม่ได้บอดี้ใหม่สวยขึ้นไม่เยอะ แต่โฉมต่างกัน2รุ่นแล้วคุณค่าทางสายตาต่างกันเยอะเหมือนกัน
ถ้าจะซ่อมแพง ใช้คันเดิม ซ่อมแค่พอประมาณใช้งานได้พอ ไม่ต้องซ่อมแพง ...
ส่วนเรื่องออกแคมรี่ 2.0ใหม่ ตัวเลือกเยอะก็จริง แต่ส่วนลดเจ้าตัวนี้ก็ไม่ธรรมดา ภาพลักษณ์ก็ดีกว่า c-seg คู่แข่ง แพงกว่าทั้งนั้น แต่ไม่แน่ใจ เทียน่า ว่าลดเยอะแค่ไหน
ถ้าซื้อใหม่มาแฮปปี้หรือป่าวบอกกันด้วย ตั้งกระทู้เลยแบบเปรียบเทียบรถตัวเอง
-
ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ
เอา 2.0 G หล่ะครับ (เคยตั้งกระทู้ไปว่าจะเอาอัลติส แต่อดทนรอดีกว่า)
แต่รอช่วงก่อน MC น่าจะดีกว่า รอช้อนรถโฉมก่อน MC น่าจะได้ส่วนลดเยอะ
เผลอๆ ถ้าเงินถึง ส่วนลดเยอะ อาจจะเอื้อมถึง 2.5 ไหว
คือ ไม่อยากรบกวนพ่อแม่ครับ ทุกวันนี้เงินเดือนยังไม่ถึง 40k แต่โชคดีที่น้ำมันฟรี กับค่าครองชีพถูก
ตัดสินใจ ซ่อม+เปลี่ยนยาง ใช้ไปพลางๆก่อน
-
2.5G เครื่องใหญ่ ขับต่างจังหวัด แล้วชอบขับเร็วหน่อย จัดครับ จัดเลย
-
ถ้าซื้อ2.0 ความจริงไม่อืด แต่ได้บ่นแน่ๆ ผมว่าจริงๆคุณอยากได้รุ่น2.5 ตอนนี้ไม่พร้อม ฉะนั้นก็ซ่อมคันเดิมใช้ดีกว่าครับ วันหลังยังมีโอกาส
-
ขอตอบเฉพาะคำถามส่งท้ายนะครับ ทั้ง ๆ ที่เจ้าของกระทู้สรุปไปแล้ว
ไม่แปลกครับ ถ้าให้ผมเลือก d seg 2.0 ตอนนี้ผมเอา camry extremo แน่นอน เพราะส่วนลดเยอะ+ชอบ+อัตราเร่งไม่ขี้เหร่
accord รองรับ e85 แต่ถ้าค่าน้ำมันฟรีก็คงไม่ใช่ประเด็น ผมว่า accord สวยคม เท่ แต่ camry ดูสง่า ลงตัวกว่า(ความเห็นส่วนตัวจากคนใช้ฮอนมาเกือบ 15 ปี และยังใช้อยู่)
ส่วน teana ผมรู้สึกเฉย ๆ กับมัน สวยแบบเรียบ ๆ แต่ไม่ดึงดูด
ปอลอ ผมอายุไม่ถึง 20 แต่ชอบ camry มากกว่า accord 555
-
ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ
เอา 2.0 G หล่ะครับ (เคยตั้งกระทู้ไปว่าจะเอาอัลติส แต่อดทนรอดีกว่า)
แต่รอช่วงก่อน MC น่าจะดีกว่า รอช้อนรถโฉมก่อน MC น่าจะได้ส่วนลดเยอะ
เผลอๆ ถ้าเงินถึง ส่วนลดเยอะ อาจจะเอื้อมถึง 2.5 ไหว
คือ ไม่อยากรบกวนพ่อแม่ครับ ทุกวันนี้เงินเดือนยังไม่ถึง 40k แต่โชคดีที่น้ำมันฟรี กับค่าครองชีพถูก
ตัดสินใจ ซ่อม+เปลี่ยนยาง ใช้ไปพลางๆก่อน
ไปลองขับหรือยังครับ
-
ผมสงสัยอย่างหนึ่ง ทำไม่ชอบว่าพวก D Segment 2.0 ไม่พอต่อการใช้งาน
0-100 ประมาณ 12 วินาที 80-120 ประมาณ 8.5 วินาที
Ecocar กินทุกตัว ทุกช่วง
B-segment 0-100 พอๆกัน 80-120 ดีกว่าเกือบทุกตัว
C-segment 0-100 แพ้หมด 80-120 แพ้เกือบหมด
mini mvp กินทุกตัว ทุกช่วง
SUV 0-100 แพ้เกือบหมด 80-120 ดีกว่าเกือบหมด
Pickup -100 แพ้เกือบหมด 80-120 ดีกว่าเกือบหมด
ppv กินทุกตัว ทุกช่วง
Premium แพ้ทุกอย่าง
ดูแบบรวมๆนะ
ที่เห็นๆว่าดีกว่า D Segment 2.0 ทุกช่วงความเร็วก็มีประมาณ พวก C-segment กะ Premium นี้ละ
ตีนต้นมันอาจอืด แต่ช่วง ที่ได้ความเร็วแล้ว มันดีเลยละ ผมว่าขับในเมืองมันลำบาก แต่ขับทางไกล ง่ายเลยละ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html (http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,39032.0.html)
ผมใช้รถคุณพ่อหลายครั้งหลายครา ไอ ACV50 2.0 นี่แหละ ติดเรื่องเดียวคือกำลังเครื่องจริงๆ ไม่ต้องคิดจะแข่งกับใครเลย แค่แซงพวกขับช้าแช่ขวา ก็เหนื่อยแล้ว ถ้าจ๊ะเอ๋กับพวกบ้าพลังทั้งหลายก็งานงอกกว่าเดิม มิดตีนก็ยังเป็นรอง B-Segment ครับ ถึงตัวเลขมันจะพอๆ กัน แต่ไม่ทุกช่วงความเร็วแน่ๆ ยกเว้นคุณจะขับรถแบบเย็นใจ หรือไม่เน้นขับปาดซ้ายป่ายขวา ไม่ก็เดินทางไกลสวนเลนบ่อยๆ จัดเลยครับ ตัวใหม่ออปชั่นเพียงพอเลยล่ะ ;)
-
ถ้า ผมมีงบจำกัดอยู่ที่ 1.5 m อยากได้ D Segment ที่แรงๆ
ตัว 2.4-2.5 ราคาอยู่ที่ประมาณ 1.5 m
ตัว 2.0 ราคาอยู่ที่ประมาณ 1.3 m
ผมสามารถ นำส่วนต่าง 2 แสน ไปแต่ง ตัว 2.0 ให้แรงกว่า 2.4-2.5 ได้ไหมครับ โดยไม่สนออฟชั่นเลย เพราะผมคิดว่า 2.0 ออฟชั่นเพียงพอแล้ว
-
สำหรับผม อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ Camry 2.0G 2.5G ครับ ถึงจะสดกว่า แต่สเปกแทบไม่ต่างจาก 2.4Q ยุคอดีตกาลเลย นอกจากของจุกจิกเช่น แอร์สองโซน ฯลฯ
ตรงข้าม 2.4Q มีถุงลมข้าง ในขณะที่ 2.0G ไม่มี เป็นความปลอดภัยทั้งนั้น ผมยังทำใจไม่ค่อยได้ที่จะซื้อรถเงินล้านสอง ที่ไม่มีถุงลมข้าง
และใช้เครื่องเกียร์ที่เป็นเทคโนโลยีโบราณคร่ำครึ
เป็นผม ทางเลือกแรกที่ต้องการคือ ซ่อมคันเก่าครับ แต่ถ้าอยากซื้อใหม่ อย่างน้อยต้อง Camry Hybrid หรือถ้าแพงไปก็มองดู Teana ครับ
-
เพิ่งได้ลองขับ คัมรี่ 2.0G ปี 2013 ไปหมาดๆ ส่วนตัวมองว่าไม่อืด แต่ไม่ทันใจยามขับขัน ถ้าขับเรื่อยๆ คือวิ่งเร็ว แต่ไม่ต้องการอัตราความเร็วในการไต่ที่รวดเร็วมาก มันก็พอได้คับ ความคิดผมนะ ถ้าซื้อรถใหญ่ เครื่อง 2000 มันเล็กเกินไป ขนาดผมวิ่งในเมืองเชียงใหม่ นั่ง 2 คนรวมคนขับ ยังรู้สึกเฉยๆ แล้วถ้านั่งครบ ขึ้นเขา. จะต้องรู้สึกไม่พอแน่ๆ. เทียบกับรถที่ผมขับทุกวันคืิอ อัลติส 1.6 ปี 2009 ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะครับ ผมยังคิดว่า รถผมความเร็วขึ้นไวกว่าอีก แต่ถึงกระนั้น เวลาขึ้นเขา. บางจังหวะ ยังอืดเลย แต่ที่แน่ๆ รอบเดินเบา คัมรี่ สั่นคับ สั้นกว่ารถผมอายุการใช้งานเกือบ 6 ปี ระยะทาง 90000 โลอีก. อันนี้ไม่ประทับใจเลย
-
ผมลองสมมติ(โครตๆ)นะ :
ซื้อคันใหม่ราคา 1.2 ล้าน คันเก่าเทิร์นได้ 3 แสน
ต้องเพิ่มเงิน 9 แสน และต้องผ่อนให้หมดใน 5 ปี
และพอครบ 5 ปีจากรถราคา 1.2 ล้านอาจจะเหลือ 6 แสน
ฉะนั้นเราจ่ายไปทั้งสิ้น 1.2 ล้าน และเหลือ 6 แสนใน 5 ปี
1.2 MB --> 0.6 MB ใน 5 ปี
หายไป 0.6 MB ใน 5 ปี
VS
ปัจจุบันรถมีราคา 3 แสนบาท
ซ่อมรถคันเดิม 1 แสนบาท
และใน 5 ปี CAMRYคันเก่าเหลือ 1.5 แสน
ฉะนั้นเราจ่ายไปทั้งสิ้น 4 แสนบาท และเหลือ 1.5 แสนใน 5 ปี
0.40 MB --> 0.15 MB ใน 5 ปี
หายไป 0.25 MB ใน 5 ปี
ยังไงซื้อคันใหม่ก็จ่ายมากกว่า
ก็ต่างกันประมาณ 3.5 แสนบาท (0.60MB - 0.25MB)
อันนี้ก็แล้วแต่ว่า 3.5 แสนบาทใน 5 ปี แต่ละคนหายาก หรือง่ายต่างกัน
หรือ
สมมติถ้าอีคันเก่าซ่อมหนัก โมหนัก อาการป่วนเรื่อยๆ
จนซ่อมอีกใกล้ๆ 2.0 แสน แบบนี้ผมว่าเพิ่มอีก 1.5 แสน
เปลี่ยนคันใหม่เวิร์คกว่าเยอะมาก
หรือ
คุณพอใจในคันใหม่ชัดเจน และไม่มีทางที่จะทำให้คันเก่าใกล้เคียงหรือ
เทียบเท่าคันใหม่ โดยใช้งบประมาณอันจำกัดได้ แบบนี้คันใหม่เหอะ
หรือ
ถ้าคันใหม่ความปลอดภัยดีมากๆ แบบนี้ก็น่าคบมากๆเหมือนกัน
ไม่รู้นะความปลอดภัยสำหรับผมมันประเมินเป็นตัวเงินไม่ได้
แต่ถ้าถามว่าหากวันหนึงชีวิตเปลี่ยนไปไม่ปรกติ
มีเงินเท่าไรก็เอาชีวิตปรกติกลับมาไม่ได้นะ
-
จริงๆ 2.0 มันก็เพียงพอครับ แต่ไป 2.5 เถอะ
-
อยากได้แรงแต่ดันอยากได้ D-segment งบไม่เกิน2.0 มันผิดคอนเซปนะครับ
แรงสุดก็Teana2.0 0-100 = 11.45 / 80-120 = 8.19 วิ ดีกว่าB-segmentนิดเดียว
แต่ถ้าไป C-segment จะมีตัวเลือกพรึบ
-
ลองขับตัว 2.0 ดูก่อน เครื่องน่าจะแรงพอๆกัน หรือ ด้อยกว่านิดเดียว แต่ก็จะลดจาก เกียร์ 5 speed เหลือ 4 speed ออฟชั่นก็ ไม่มีอะไร แค่พื้นๆ
ถ้าเป็นผม ผมคงเอา C-segment เครื่อง 2.0 ตัว Full option แทนครับ ตอนนี้มีที่น่าสนใจหลายตัว เครื่องแรง เกียร์ดี นอกจากติดว่า ต้องใช้รถใหญ่อย่างเดียว
-
ถ้าเทียบสองคันนี้รถใหม่อะไรอะไรก็ดีกว่าครับ ช่วงล่าง บรรยากาศภายใน อัตราเร่งไม่ขี้เหร่น่ะครับ จากรีวิวคุณจิมมี่
รถใหม่สบายใจตรงขับจ่ายค่าน้ำมันอย่างเดียว แถมเบิกได้สบายเลยครับ ค่าบำรุงโตโยต้าไม่แพงน่ะ ผมใช้ hybrid อยู่ก็ถูกดีครับ
ถ้าเทียบ2.0 กับ 2.5 แน่นอน 2.5 ดีกว่า แต่ผมว่ามันอยู่ที่เท้าครับ อยากแรงก็กดลึกๆ ช้าลงนิดนึง ไม่ได้ไปแข่งกะใครนิครับ
ถ้าผ่อนแล้วลำบากตัวเอง อยากให้คิดให้ดีน่ะครับ ชีวิตเรามีอะไรให้ต้องทำอีกเยอะ ไม่ใช่แค่เรื่องรถครับ อย่าทิ้งเป้าหมายชีวิตตัวเอง
สุดท้าย ผมว่าราคาเท่านี้แอคคอด 2.0 ก็น่าสนใจครับ สวยดี ฟีลลิ่งเชื่อว่าเหมาะกะคนขับรถเร็วมากกว่า แคมรี่ เคยใช้แต่รุ่นเก่าครับ มีกล้องมองหลังไม่ต้องไปติด สะดวกดีนะครับ
ขอให้ได้รถที่ถูกใจนะครับ อย่าลืมไปลองขับด้วยตัวเองน่ะครับผม
+1
-
ขอตอบแบบความคิดเด็กๆคนนึงนะครับ
ของผมเองใช้ ACV40 ตัว 2.4V อยู่
ตอน โฉม 50 ออกมา พ่อผมก็จะเปลี่ยนเป็นตัว Hybrid ให้ เหตุผลที่ว่ามันใหม่ เทคโนโลยีของรถต่างๆมันต้องดีกว่าเดิมสิ ทั้งช่วงล่าง เครื่องยนต์ ฯลฯ
อีกอย่างคันเดิมมันก็ 5 ปีแล้ว เดี๋ยวก็อาจจะต้องมีบำรุงกันบ้างซึ่งจะเมื่อไหร่ก็ไม่รู้...
ผมเลยพาพ่อไปดูรถ ขอใบเสนอราคา ของแถม เรียบร้อย และขอกลับมาคิดอีกคืนนึง แล้วบอกพ่อไปว่า เงินที่จะต้องเพิ่มอีกล้านนิดๆ เพื่อแลกกับของที่ใหม่กว่า แต่ขณะเดียวกัน ของที่มีอยู่มันก็ใช้ได้ดีด้วย ความจำเป็นที่จะต้องทุ่มเงินล้านเพื่อเปลี่ยนรถคันใหม่ มันยังมีไม่มากพอ ผมเลยเลือกเก็บเงินไว้บำรุงรักษารถคันเดิม+ติดแก๊ส ในวงเงินไม่เกิน1แสนบาท
ทุกวันนี้ผมมีความสุขกับทางเลือกนี้มาก ยังไม่ต้องเป็นหนี้ไม่เดือดร้อนไปกู้เงินเพิ่มเพื่อแลกมากับรถคันใหม่ครับ