Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: blade ที่ กรกฎาคม 13, 2014, 20:07:18
-
เรื่องมันมีอยู่ว่า...มีรุ่นน้องในกลุ่มจะออกรุ่นหนึ่ง เลยคุยเรื่องรถกับกลุ่มเพื่อนๆผม
คือแก่ชอบ รถรุ่น A ตัว top มาก แต่เนื่องจาก ออชั่น ความปลอดภัย มันไม่ค่อยดีเท่ากับ ตัว Top อีกยี่ห้อ นึ่ง
รุ่นน้อง : พี่ๆถ้าว่าผมออกรุ่น A พี่ๆว่าเป็นไง ดีไหม
เพื่อน : ก็สวยดี ชอบก็เอาเลย
รุ่นน้อง : แต่รุ่นนี้ ระบบความปลอดภัยมันน้อย ไม่มีพวกๆ ทรงตัวล้อฟรี เหมื่อนอีกยีห้อครับพี่
เพื่อน : โอ้ยน้อง น้องไปซื้อรุ่นชอบ แล้วเอาตัวกลางๆ เหลือเงินเป็นแสนๆ
แล้วเอาไปลงกับยางดีๆซักชุด ช่วงล่างดีๆ เบรคดีๆ มันก็ปลอดภัยแล้ว ดีกว่าอีกตัวด้วยซ้ำ
ถ้าเป็นคุณจะเลือกอะไรดี ระหว่างรถที่ชอบเอาไปทำต่อ...กับรถที่มาแบบครบๆ
-
ระบบทรงตัวอย่าง vsc ebd bla bla bla....
มีเงินแค่ไหนก็ทำไม่ได้ครับ ยามจะใช้ขึ้นมามันอาจรักษาชีวิตคุณได้ครับ
ยางดีๆเบรคดีๆ เงินเล็กน้อยไม่ตายค่อยทำเพิ่มได้ครับ
-
:)
เป็นผม จะดูว่า
- ยี่ห้ออะไร มีศูนย์ที่ไว้ใจได้ตามฟีดแบ็กผู้ใช้จริงใกล้ๆ บ้านผมมั้ย
- จะใช้รถยาวแค่ไหน
เพราะเท่าที่ดู คุณน่าจะดูสักประมาณตัวทอป C-Segment
รุ่นที่ใส่เทคโนโลยีเต็มๆ ขนาดนั้น มันดีกว่าแน่นอนในตอนใช้เริ่มต้น
หลายคนก็จะพูดว่า ซื้อความปลอดภัยในชีวิตเพิ่มเติมด้วยเงินไม่กี่บาท
แต่ในความเห็นผม ก็คือ ถ้ามันมีปัญหาแล้วผมต้องใช้ระยะยาว ผมก็ไม่อยากรำคาญกะการดูแลรักษารถเหมือนกัน
รถพื้นๆ ไม่มีเทคโนโลยีอะไรวุ่นวาย แต่พื้นฐานดี ใช้แบบรู้ข้อจำกัด คุ้มค่าจะใช้ยาวๆ
สามารถปรับปรุงในส่วนที่รู้ว่าด้อยแน่ๆ ให้ดีขึ้นได้พอสมควร เป็นคำตอบของผมครับ
เพราะผมใช้รถยาวและแคร์การดูแลรักษาต่อเนื่องมากกว่าซื้อเปลี่ยนในระยะเวลาที่ผ่อนหมด
แต่ถ้าคุณใช้รถเหมือนญาติสนิทผมคนนึง ที่ผ่อนหมดเปลี่ยน ผ่อนหมดเปลี่ยน
แบบนั้น ก็จะเข้าอีหรอป "ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตลอดอายุ" อะไรแบบนั้น
คือสามารถใช้พวกไฮเทคได้ มันจะพอดีขายรถทิ้งก่อนหมดอายุพวกของจุกจิกเกือบๆ พอดี
-
ถึงเวลาที่ต้องใช้ เงินแค่ไหน ก็ซื้อชีวิตไม่ได้นะครับ
-
เอาจริงๆ ซื้อรถที่ดีที่สุดที่เงินเรามีจะซื้อได้ครับ จะ top ไม่ top ไม่รู้ รู้แต่เอารุ่นสูงสุดที่ไหว
เพราะระบบความปลอดภัยที่มากับรถ บางอย่าง ถึงจะเปลี่ยนได้ แต่ระบบความปลอดภัยบางอย่าง มันใส่เข้าไปไม่ได้นะครับ
พวกของเสริม ยังไงก็เป็นของเสริม หาทีหลังได้ครับ ค่อยๆ ทำไป
-
เมื่อก่อนเคยเห็นกระบะยี่ห้อเจ้าตลาดยี่ห้อนึงให้ vsc มาในตัวท้อป เห็นคว่ำอยู่บ่อยๆ กับอีกยี่ห้อคู่แข่งไม่มี vsc สถิติอุบัติเหตุน้อยกว่าเห็นๆ ผมคิดว่าระบบพวกนี้ช่วยได้นิดหน่อยสู้พื้นฐานดีกับใช้รถแบบรู้ลิมิตไม่ได้
-
ไม่ทราบว่ารุ่น A คือรุ่นไหน ใหเอะไรมาบ้าง....ไปต่อไม่เป็นเลย
-
อุปกรณ์พวกนี้ไม่สามารถทำทีหลังได้ แต่ถ้ามีมันก็สมามารถช่วยได้ไม่มาก ส่วนยางดี ช่วงล่างดี เบรคดี นั่นก็อีกส่วนที่ช่วยได้อีกนิดหน่อย
แต่สาเหตุสำคัญคือ อยู่ที่ตัวผู้ขับว่ามีนิสัยการขับแบบไหน เพราะเมื่อ10กว่าปีก่อนอุปกรณ์พวกนี้ก็ไม่มีให้ในรถผู้ขับก็สามารถขับอย่างระมัดระวังได้
บางคนมีอุปกรณ์ก็ไม่ช่วยอะไร แต่ บางคนไม่มีอุปกรณ์อะไรเลยแต่ก็ไม่เคยจะเกิดสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ::) ::)
-
ผมเคยลอง วีโก้เปลี่ยนโช้ค ต้นละ5300 4ต้น
ช่วงล่างดีขึ้นผิดหูผิดตาเลยละ แบบที่กระบะยี่ห้อบอกว่าหนึบเดิมๆยังไม่สู้ (ไม่รวมเอากระบะหนึบนั่นไปเปลี่ยนโช้คนะ ได้ครบฟิล แน่นกว่า หนึบกว่า)
แบบนี้อาจจะพอช่วยได้บ้าง
แ่ต่ถ้าเอายางกับ เบรคไปเทียบกับ ESP มันเทียบไม่ได้อะครับ
ฝนตกถนนลื่น ยางคุณห่วยแต่คุณมี ESP มันก็เท่านั้น ต้องคลานไป ESP ช่วยตลอดทาง
ฝนตกถนนลื่น ยางดี เบรคดี แล้วยังไงคุณมั่นใจกดคันเร่งไป ท้ายปัดขวางถนน ก็ไม่ช่วยอะไร
คืออยากจะบอกว่า บางระบบ ไม่สามารถทดแทนได้ด้วย ยางที่ดี เบรคที่ดี
เหนืออื่นใด สติที่ดี ไม่ประมาท นี่ละอุปกรณ์ชิ้นเยี่ยม
-
ผมว่าพื้นฐานไม่ดี ต่อให้ยัดของดีๆเพิ่มไปก็ได้ดีไม่เท่า
คงสู้ระบบที่มาจากโรงงานไม่ได้
แต่โดยส่วนตัวผม
ผมกลับไม่ค่อยซีเรียสมากกับระบบต่างๆ เพราะรู้สึกว่า เมื่อ20กว่าปีก่อนที่เพิ่งเริ่มขับรถ
ตอนนั้นไม่มีอะไรสักอย่าง เหยียบมิดตลอด แต่ตอนนี้พอจะมีบ้าง แต่ขับเบาลงเยอะมาก
ก็เลยไม่ค่อยซีเรียสมากครับ ขึ้นอยู่กับการขับมากกว่า
-
ถ้ารถพลังไม่เยอะ ผมเลือกพื้นฐานการขับขี่ดีมาก่อนครับ
พวกระบบความปลอดภัยขอพื้นๆ (อย่าโล้น)
โครงสร้างปลอดภัย+ABS+ถุงลม แบบนี้รับได้ครับ
ถ้ารถโหดๆ พื้นฐานต้องดี+ระบบความปลอดภัยต้องเหลือไว้ก่อนครับ
แต่ที่สำคัญสุด
คือไม่ว่าขับรถอะไรก็ต้องมีสติ ไม่ประมาท
เก็บเกี่ยวประสบการณ์ก็ไม่ต้องวิ่งเร็วครับ
-
ทดแทนได้ในบ้างสถานการณ์ครับ แต่อย่าลืมนะครับ การใส่ช่วงล่างที่เกาะถนนให้ดีขึ้น มันก็ย่อมแข็งขึ้น ความสบายลดลง
ยางใส่ขึ้น หน้ากว้างมากขึ้น หรือ ยางที่ดอก sport ผลที่ตามมา คือ เสีบงดัง อืดลง กรินน้ำมันมากขึ้น
ผมว่า ได้จะไม่คุ้มเสียนะครับ
สำหรับผม ผม มองเรื่องความปลอดภัยก่อน ตัวเสริม เราทำต่อตอนหลังได้ ครับ
-
มันก็แมนกันได้แต่ไม่ทั้งหมดนะครับ ถ้าคุณใส่ยางเบรคช่วงล่างดีมันก็ขับดีขึ้นอาจจะทำให้รถมีโอกาสเสียการควบคุมน้อยลงแต่ถ้ามันเกินลิมิตของรถก็เปล่าประโยชน์เพราะไม่มีตัวช่วย ผมก็เคยคิดแบบเพื่อน จขกท นะ สมัยก่อนเอารถรุ่นไม่มีabsเพราะถูกกว่าหลายหมื่นแล้วใส่ยางดีๆเบรคดีๆแทนแต่พอถึงจุดๆนึงที่ยางหมดสภาพเบรคแรงๆมันก็ล้อล็อคจนผมเกือบเอาไม่อยู่เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ต้องดูรุ่นรถด้วยเพราะบางรุ่นตัวช่วยน้อยกว่าแต่ออกแบบมาดีกว่าจึงทำให่ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้นะ
-
สำหรับผม อาจจะบอกว่า มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ยี่ห้อไหนที่ไม่ชอบ ซื้อมาก็ต้องทนเจอหน้ามันทุกวัน รับได้หรือเปล่าครับ ถ้าท่านตอบว่าไม่ ก็เลือกตามใจรักเถอะครับ ถึงแม้มันจะมีมาให้ แต่มันก็มีใช้แบบพอเพียงและรู้ลิมิตตัวรถ ท่านก็จะปลอดภัยครับ
-
สติ = ปลอดภัย
-
ใครบอก ESP TSC เพิ่มทีหลังไม่ได้ไปดูในคลับ RANGER ครับยัดกันให้หลึมเลย
คนที่ทำ DIY ในคลับเทพเกิน กระทู้ DIY อย่างเยอะ ตอนนี้เห็นเริ่มยัด AIRBAG แล้ว
คือ ออฟชัน 3.2 ตัว 2.2 ใส่ได้กันหมดทุกอย่างแล้วขาดแค่ยกเครื่อง ไม่เว้นแม้แต่แอร์ออโต้
ตั้งแต่ใช้รถมาหลายคันอยู่มาหลายคลับ คลับ RANGER นี้ DIY กันโหดมาก ;D ;D
-
สติ = ปลอดภัย
ตามนี้ครับ ผมเองยังแอบสงสัยเลยว่าทุกคนในนี้ซีเรียสมากเรื่องออปชั่นความปลอดภัยจังเลยครับ
ถ้าพี่ๆไม่เข้าโค้งแบบบ้าพลัง เอาสนุก ผมว่ารถเดิมๆมี EBD กับ ABS มันก็พอครับ เอาจริงๆนะ
บางคนถึงขั้นตัดสินว่ารถกาก แค่มันไม่มี VSC เนี่ย มันจะขนาดไหนเชียว และเห็นปีนึงก็วิ่งในกรุงเทพเป็นหลักด้วย
เหอะๆ ;)
-
คงทดแทนไม่ได้ครับ
แต่ก็ดีกว่าไม่ทำแน่นอน
ผมเห็นด้วยสุดๆ และที่สุด สติ = ปลอดภัย จริงๆครับผม
+ ถนนไม่ใช่ของเรา ครับผม
:)
-
ระบบกันรถหมุน กันล้อลื่นไถลนี่ ถ้ายางมันเอาอยู่ ระบบพวกนี้แทบจะไม่ได้ทำงานเลยครับ
อย่างน้อยๆที่ผมเจอมากับตัวคือ ยางดีเหิรน้ำลดลง ระบบการทรงตัวก็ทำงานไม่ถี่เหมือนยางบ้านๆ
ระบบเบรคอีกอย่าง ถ้าเนื้อยางดี ดอกยางดี เบรคแล้วล้อไม่ล็อกครับ
แต่ทุกอย่างที่กล่าวมา มันมีขอบเขต มีความสามารถอยู่ระดับนึง ถ้าเกินขอบเขตนั้นไป ก็จะใช้พวกระบบอีเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
-
มีถังดับเพลิงในบ้านถึงไม่ได้ใช้ก็อุ่นใจ
มีตู้ยาสามัญประจำบ้าน ยังไงเวลาตะใช้ก็หายาได้ไว
มีเครื่องใช้ไฟฟ้าบางตัวต้องลงกราวนด์ ลงเอาไว้ รึ เดินปั๊กไฟลงกราวนด์ แต่แรก ตั้งแต่เดินสายไฟ ปลอดภัยทั้งครอบครับเรื่องไฟดูด
นาทีชวิต มาเมื่อไหร่ไม่รู้ครับ ข่าวออก ฝนตกๆ คนไปเติมน้ำมันน้ำขังถูกไฟดูดตาย
ไม่ต้อง คิดไรมาก มีร่มติดรถดีกว่าไม่มี มีไฟฉายติดรถมีกุญแจประจำรถ ดีแน่ๆ
มีวิทยุติดรถ ถึงไม่ค่อยได้ฟัง นานๆเปิดทีก็ยังดี
มีผ้าเช็ดรถติดรถเอาไว้ ยามจะใช้ไม่ต้องไปหา
บนถนน ถ้าไม่ประมาทก็อย่าคิดว่าจะปลอดภัย คันอื่นข้ามอีกฟากมาก็ได้
ขับเซียนแค่ไหน แก้ อาการเป็น ยามจริงๆแล้วพื้นที่มันจำกัดบนถนน ระบบ มันช่วยได้
และในยามที่สมองไม่โล่ง ผมว่า มือหนึ่งแค่ไหนในเสี้ยววินาที คิดไม่ออกแน่ๆ จะแก้ยังไง เพราะไม่ได้ตั้งใจขับอย่างในสนามแข่ง ที่ตั้งใจ กดให้มิด สมองตื่นตัวตลอดเวลา
บริษัทผู้ผลิตนั้นเอาเปรียญเราอย่างมากๆ ระบบ ป้องกัน การลื่นไถล การเสียการทรงตัว จริงๆระบบนี้ไม่ได้เพิ่มต้นทุนอะไรเลยแค่ลงซอรพ์แวร์มันก็แค่นั้นเองแต่ไม่ยอมลงให้ ระบบช่วยเหลือการทรงตัวมาพร้อมกันกับเบรคล้อล๊อคก็ได้ ดันเอาไปลงในรุ่นท๊อป ผมว่า ระบบ เช่น เสริมแรงดันเบรค ช่วยเหลือการทรงตัว เบรคไม่ให้ล้อล๊อค ถุงลม พวกนี้น่าจะเป็นอุปกรณ์มาตราฐาน ด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีไม่ให้ขาย ออกเป็นกฎมาเลย เหมือนอย่างหมวกของมอไซค์
พูดยากเราไม่ประมาท แต่ คนอื่นประมาท เรา ง่วงนอนเมื่อไหร่ไปล้างหน้า หยุดพัก แต่ คนอื่น
ไม่ต้องไรมาก ปีใหม่ รึวันหยุดยาวๆ สงการณ์ น่าจะให้ สิบล้อรถพ่วงหยุดวิ่งได้แล้ว จะหากินอะไรทั้งปี ไม่หยุดหย่อน อ้างว่า เดี่ยวส่งของไม่ทัน เออ ก็จัดระบบใหม่ เผื่อล่วงหน้า ไม่เห็นจะกำไรลดลงตรงไหน ลูกน้องได้พักด้วย
มาพิการเพราะอุบัติเหตุรึเสียชวิตมันไม่คุ้มจริงๆ ชวิตเกิดได้ยากมากๆ
ผมคนนึงยอมที่จะจ่ายแพงขึ้นอีกนิด อยากแก่ตายไปเอง อย่างน้อยๆผมว่า ระบบต่างๆช่วยให้เราปลอดภัยขึ้น เมื่อ โอกาศมันมาเยือน เพราะเคยเห็นมากับตาแล้ว กระบะ พลิก เพราะมอไซค์ตัดหน้า ถ้ามีระบบช่วยเหลือการทรงตัวก็อาจจะไม่พลิกก็ได้
นอกเหนือจากระบบช่วยเหลือต่่างๆ ระบบสุดท้ายเลยคือ โครงสร้างของรถ ตรงนี้ผมให้ความสำคัญมากๆ เพราะตรงนี้สามารถเซพชวิตของเราได้จริงๆ
-
มีถังดับเพลิงในบ้านถึงไม่ได้ใช้ก็อุ่นใจ
มีตู้ยาสามัญประจำบ้าน ยังไงเวลาตะใช้ก็หายาได้ไว
มีเครื่องใช้ไฟฟ้าบางตัวต้องลงกราวนด์ ลงเอาไว้ รึ เดินปั๊กไฟลงกราวนด์ แต่แรก ตั้งแต่เดินสายไฟ ปลอดภัยทั้งครอบครับเรื่องไฟดูด
นาทีชวิต มาเมื่อไหร่ไม่รู้ครับ ข่าวออก ฝนตกๆ คนไปเติมน้ำมันน้ำขังถูกไฟดูดตาย
ไม่ต้อง คิดไรมาก มีร่มติดรถดีกว่าไม่มี มีไฟฉายติดรถมีกุญแจประจำรถ ดีแน่ๆ
มีวิทยุติดรถ ถึงไม่ค่อยได้ฟัง นานๆเปิดทีก็ยังดี
มีผ้าเช็ดรถติดรถเอาไว้ ยามจะใช้ไม่ต้องไปหา
บนถนน ถ้าไม่ประมาทก็อย่าคิดว่าจะปลอดภัย คันอื่นข้ามอีกฟากมาก็ได้
ขับเซียนแค่ไหน แก้ อาการเป็น ยามจริงๆแล้วพื้นที่มันจำกัดบนถนน ระบบ มันช่วยได้
และในยามที่สมองไม่โล่ง ผมว่า มือหนึ่งแค่ไหนในเสี้ยววินาที คิดไม่ออกแน่ๆ จะแก้ยังไง เพราะไม่ได้ตั้งใจขับอย่างในสนามแข่ง ที่ตั้งใจ กดให้มิด สมองตื่นตัวตลอดเวลา
บริษัทผู้ผลิตนั้นเอาเปรียญเราอย่างมากๆ ระบบ ป้องกัน การลื่นไถล การเสียการทรงตัว จริงๆระบบนี้ไม่ได้เพิ่มต้นทุนอะไรเลยแค่ลงซอรพ์แวร์มันก็แค่นั้นเองแต่ไม่ยอมลงให้ ระบบช่วยเหลือการทรงตัวมาพร้อมกันกับเบรคล้อล๊อคก็ได้ ดันเอาไปลงในรุ่นท๊อป ผมว่า ระบบ เช่น เสริมแรงดันเบรค ช่วยเหลือการทรงตัว เบรคไม่ให้ล้อล๊อค ถุงลม พวกนี้น่าจะเป็นอุปกรณ์มาตราฐาน ด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีไม่ให้ขาย ออกเป็นกฎมาเลย เหมือนอย่างหมวกของมอไซค์
พูดยากเราไม่ประมาท แต่ คนอื่นประมาท เรา ง่วงนอนเมื่อไหร่ไปล้างหน้า หยุดพัก แต่ คนอื่น
ไม่ต้องไรมาก ปีใหม่ รึวันหยุดยาวๆ สงการณ์ น่าจะให้ สิบล้อรถพ่วงหยุดวิ่งได้แล้ว จะหากินอะไรทั้งปี ไม่หยุดหย่อน อ้างว่า เดี่ยวส่งของไม่ทัน เออ ก็จัดระบบใหม่ เผื่อล่วงหน้า ไม่เห็นจะกำไรลดลงตรงไหน ลูกน้องได้พักด้วย
มาพิการเพราะอุบัติเหตุรึเสียชวิตมันไม่คุ้มจริงๆ ชวิตเกิดได้ยากมากๆ
ผมคนนึงยอมที่จะจ่ายแพงขึ้นอีกนิด อยากแก่ตายไปเอง อย่างน้อยๆผมว่า ระบบต่างๆช่วยให้เราปลอดภัยขึ้น เมื่อ โอกาศมันมาเยือน เพราะเคยเห็นมากับตาแล้ว กระบะ พลิก เพราะมอไซค์ตัดหน้า ถ้ามีระบบช่วยเหลือการทรงตัวก็อาจจะไม่พลิกก็ได้
นอกเหนือจากระบบช่วยเหลือต่่างๆ ระบบสุดท้ายเลยคือ โครงสร้างของรถ ตรงนี้ผมให้ความสำคัญมากๆ เพราะตรงนี้สามารถเซพชวิตของเราได้จริงๆ
+++++
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับผม
แล้วตรงโครงร้างของรถ ทุกคันต่างก็โฆษณา และก็มีข้อมูลการทดสอบไม่เห็นมีการทดสอบในไทย ให้อุ่นใจเลย รถที่ทดสอบก็ไม่รู้ว่าขายในไทยหรือเปล่า แล้วเราจะให้ใครเป็นคนการันตีให้เราหละครับผมว่ามันแข็งแรงและดีจริง หรือว่าเราก็ต้องยอมถูกเอาเปรียบจากคนขาย และก็ถูกเมินหน้าหนีจากหน่วยงานที่ต้องช่วยเหลือเรา จากการกินภาษีที่เราจ่ายไปหละครับผม
เหนื่อยใจจริงๆ ครับผม :)
:)
-
มีถังดับเพลิงในบ้านถึงไม่ได้ใช้ก็อุ่นใจ
มีตู้ยาสามัญประจำบ้าน ยังไงเวลาตะใช้ก็หายาได้ไว
มีเครื่องใช้ไฟฟ้าบางตัวต้องลงกราวนด์ ลงเอาไว้ รึ เดินปั๊กไฟลงกราวนด์ แต่แรก ตั้งแต่เดินสายไฟ ปลอดภัยทั้งครอบครับเรื่องไฟดูด
นาทีชวิต มาเมื่อไหร่ไม่รู้ครับ ข่าวออก ฝนตกๆ คนไปเติมน้ำมันน้ำขังถูกไฟดูดตาย
ไม่ต้อง คิดไรมาก มีร่มติดรถดีกว่าไม่มี มีไฟฉายติดรถมีกุญแจประจำรถ ดีแน่ๆ
มีวิทยุติดรถ ถึงไม่ค่อยได้ฟัง นานๆเปิดทีก็ยังดี
มีผ้าเช็ดรถติดรถเอาไว้ ยามจะใช้ไม่ต้องไปหา
บนถนน ถ้าไม่ประมาทก็อย่าคิดว่าจะปลอดภัย คันอื่นข้ามอีกฟากมาก็ได้
ขับเซียนแค่ไหน แก้ อาการเป็น ยามจริงๆแล้วพื้นที่มันจำกัดบนถนน ระบบ มันช่วยได้
และในยามที่สมองไม่โล่ง ผมว่า มือหนึ่งแค่ไหนในเสี้ยววินาที คิดไม่ออกแน่ๆ จะแก้ยังไง เพราะไม่ได้ตั้งใจขับอย่างในสนามแข่ง ที่ตั้งใจ กดให้มิด สมองตื่นตัวตลอดเวลา
บริษัทผู้ผลิตนั้นเอาเปรียญเราอย่างมากๆ ระบบ ป้องกัน การลื่นไถล การเสียการทรงตัว จริงๆระบบนี้ไม่ได้เพิ่มต้นทุนอะไรเลยแค่ลงซอรพ์แวร์มันก็แค่นั้นเองแต่ไม่ยอมลงให้ ระบบช่วยเหลือการทรงตัวมาพร้อมกันกับเบรคล้อล๊อคก็ได้ ดันเอาไปลงในรุ่นท๊อป ผมว่า ระบบ เช่น เสริมแรงดันเบรค ช่วยเหลือการทรงตัว เบรคไม่ให้ล้อล๊อค ถุงลม พวกนี้น่าจะเป็นอุปกรณ์มาตราฐาน ด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีไม่ให้ขาย ออกเป็นกฎมาเลย เหมือนอย่างหมวกของมอไซค์
พูดยากเราไม่ประมาท แต่ คนอื่นประมาท เรา ง่วงนอนเมื่อไหร่ไปล้างหน้า หยุดพัก แต่ คนอื่น
ไม่ต้องไรมาก ปีใหม่ รึวันหยุดยาวๆ สงการณ์ น่าจะให้ สิบล้อรถพ่วงหยุดวิ่งได้แล้ว จะหากินอะไรทั้งปี ไม่หยุดหย่อน อ้างว่า เดี่ยวส่งของไม่ทัน เออ ก็จัดระบบใหม่ เผื่อล่วงหน้า ไม่เห็นจะกำไรลดลงตรงไหน ลูกน้องได้พักด้วย
มาพิการเพราะอุบัติเหตุรึเสียชวิตมันไม่คุ้มจริงๆ ชวิตเกิดได้ยากมากๆ
ผมคนนึงยอมที่จะจ่ายแพงขึ้นอีกนิด อยากแก่ตายไปเอง อย่างน้อยๆผมว่า ระบบต่างๆช่วยให้เราปลอดภัยขึ้น เมื่อ โอกาศมันมาเยือน เพราะเคยเห็นมากับตาแล้ว กระบะ พลิก เพราะมอไซค์ตัดหน้า ถ้ามีระบบช่วยเหลือการทรงตัวก็อาจจะไม่พลิกก็ได้
นอกเหนือจากระบบช่วยเหลือต่่างๆ ระบบสุดท้ายเลยคือ โครงสร้างของรถ ตรงนี้ผมให้ความสำคัญมากๆ เพราะตรงนี้สามารถเซพชวิตของเราได้จริงๆ
+++++
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับผม
แล้วตรงโครงร้างของรถ ทุกคันต่างก็โฆษณา และก็มีข้อมูลการทดสอบไม่เห็นมีการทดสอบในไทย ให้อุ่นใจเลย รถที่ทดสอบก็ไม่รู้ว่าขายในไทยหรือเปล่า แล้วเราจะให้ใครเป็นคนการันตีให้เราหละครับผมว่ามันแข็งแรงและดีจริง หรือว่าเราก็ต้องยอมถูกเอาเปรียบจากคนขาย และก็ถูกเมินหน้าหนีจากหน่วยงานที่ต้องช่วยเหลือเรา จากการกินภาษีที่เราจ่ายไปหละครับผม
เหนื่อยใจจริงๆ ครับผม :)
:)
เรื่องโครงสร้างอาจจะดูได้จากยูทูป
แต่ถ้าดูเอง ลองก้มไปไปดูแถบกันชนหน้าหลัง รึเปิดฝากระโปรงดูคานหน้าได้
พวกรถที่โครงสร้างดีๆโดยมากมีเหล็กแป๊บเหล็กกล่องไม้ขีดติดอยู่ในกันชนด้านในทั้งนั้นบางยี่ห้อใหญ่พอกับคัสซีรถเลยอยู่ด้านในของกันชน ถ้ามองดูมือลุบๆแล้วเป็นแบบนี้ รถประมาณนี้ จะไม่ลดสเป็ค พวกคานประตูต้องแกะถึงเห็น ลองถ้าคานประตูใหญ่ๆประมาณ เอาเหล็กแป๊บดุ้นโตๆมายัด ไม่ใช่เหล้กตัว c แบบบางๆเล้กมาแปะเอาไว้เชื่อมไม่กี่จุด
ถ้าเหล้กคล้ายแป๊บดุ้นโตๆ แบบนี้เซพ แบบนี้ต้องสุ่มๆหาดูรูปจากในอากู๋เอา
คานยึดกลอนประตูหลัง เสากลางหลังคา ถ้ากว้างๆแหละดี พวกนี้มือเคาะๆดูได้
ผมไม่อยากเอ๋ยชื่อ รถญี่ห้อนึง ขนาดฝากระโปรงหน้ายังมีกันชนฝากระโปรงด้านในเลย มีลูกยาง ทำเป็นตัวรับแรงกับคานหน้าทิ้งระยะห่างจากฝากระโปรงหน้านิดนึง ชนแรงๆ ฝากระโปรง เป็นเกาะกันชนได้อีก ช่วยรับแรงได้อีก สุดยอดล้ำลึกจริงๆ
โดยรวมทั้งหมดรถที่น้ำหนักตัวมากๆ นั่นแหละรถโครงสร้างดี อุปมาเอาไว้ก่อน จะเสมอไปรึไม่ แต่ผมเลือกรถที่น้ำหนักตัวมากๆเอาไว้ก่อน กินน้ำมันมากกกว่าเพื่อนร่วมก๊วนช่างมันไป
-
พึ่งใช้ ระบบ VDC ใน J32 V6 2.5 มาสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ตอนลงจากดอยอินทนนท์ โค้งสุดท้าย ก่อนถึงด่านตรวจที่ 1 ครับ ทั้งๆที่
- ร่างกายพร้อม พักผ่อนเพียงพอ ไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ ไม่คึกคะนอง
- รถพร้อม ยางก็ใหม่ Turanza GR33
แต่ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้คือ
- ทางโค้งหักศอก ลงเนิน
- ฝนตกหนัก + โคลนที่อยู่ บนถนน (ไม่มีทางมองเห็น )
=== ตั้งแต่ซื้อมาไม่เคยใช้ครับ ใครไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ แบบนี้ไม่มีวันรู้ ครั้งเดียวเกินคุ้ม ===
เหตุการณ์คือ ลงจาก ดอยอินทนนท์มา โค้งสุดท้าย ก่อนถึงด่านตรวจ ที่ 1 เห็นป้าย จะถึงแล้ว เลย relax นิดหน่อย ใครเคยขึ้นลงอินทนนท์ จะรู้ว่าตอนลงเครียดมาก เพราะทางยาวจริงๆ แถมวันที่ผมไป ฝนตกหนักตลอด โค้งสุดท้าย ก่อนเข้าด่าน ไม่ได้ประมาท แต่ไม่ได้จดจ่อ เผลอปล่อย O/D off เพราะคิดว่าจบแล้ว อีกโค้งเดียว รถเลยไหลลงมาด้วยความเร็วมากเกินไป
แต่ อนิจจา....
โค้งเดียวนั้น มันเป็นโค้งขวาหักศอก แบบ สองจังหวะครับ เห็นอีกที รถอยู่กลางโค้งแล้ว ...... ใจหาย วาบ ท้ายรถเสียอาการแล้ว ยางหลังร้อง เอี๊ยด ..... รถขับหน้า ทำไมท้ายออกวะ ? ..... อ๋อ รถเราติดแก็ส ถังโดนัท น้ำหนักถ่วงท้ายมาก โมเมนตัม เลยเหวี่ยงเอาท้ายออก.... อ้อๆๆ โคลนอีก พวก พี่ๆ ออฟโรด มาทิ้งไว้ แล้วจะแก้พวงมาลัยยังงัย ซ้ายเป็นเหว แล้วๆๆๆ
เล่าเหมือนสนุก นะครับ แต่เหตุการณ์ทั้งหมด เกิดขึ้นในช่วงเวลาแค่ แมลงกระพือปีก
แล้วเขาก็มา ไฟ VDC กระพริบ แว่บๆๆ เครื่องยนต์ถูกตัดกำลังลง ล้อหลังซ้ายซึ่งกำลังจะตกไหล่ทาง ( ถ้าตกคว่ำแน่ๆ) ก็ถูกดึงกลับเข้ามาอยู่ ในถนน traction กลับมา ครบทั้งสี่ล้อ แล้วผ่านโค้งนั้น เข้าสู่ด่านที่ 1 แบบ นิ่งๆ ในขณะที่หัวใจผม ยังไม่ขึ้นมาจากปลายเท้าเลย
กล่าวโดยสรุปนะครับ สติ กับความไม่ประมาท สำคัญที่สุด แต่ถ้าท่านเลือกได้ เชื่อเถอะว่า ระบบพวกนี้ผ่อนหนักเป็นเบาได้ครับ ผมขับรถมาเกือบ 15 ปี แต่ในเวลานั้น แก้อาการไม่ทันแล้ว เพราะความล้า
หากพอจะหาซื้อมาไหว ผมแนะนำให้ท่านเลือกรถที่มีระบบ ช่วยการทรงตัวครับ
-
ขับรถบนถนน คู่ไปกับเก๋งเจ้าตลาด รุ่นแท็กซี่ มหานิยม (รุ่นเมื่อ10ปีที่แล้ว)
ได้ยินเสียงเบรกหนักๆ หันไปมอง ที่เสียงนั้น
ล้อล็อค รถเสียการทรงตัว ท้ายปัด ถไหลไปซัดท้ายกะบะเจ้าตลาด คันหน้า
สันนิฐานได้เลยว่า รถคันดังกล่าว ไม่มี ABS :o
-
ช่วยได้คับแต่ไม่ 100 % นะคับ ยางดีๆช่วยได้เวลาฝนตกกับเข้าโค้งแรงๆ โช้คสปริงช่วยได้ให้หนืดคับส่วนตัวผมว่าช่วยได้เยอะ ส่วนเบรคผมว่าไม่คุ้มที่ลงทุนเพราะแพงมากแต่ช่วยได้ไม่มาก ส่วนใหญ่ผมก้ใช้รถที่มีระบบไรเยอะแยะแหละคับแต่เชื่อว่า ถ้าซื้อรถรุ่นที่ชอบแล้วไปทำเพิ่มหน่อยก้ช่วยได้เยอะคับ รถหลายคันที่มีระบบ VSA VSC Traction ต่างๆ บางทีระบบทำงานขึ้นมา เพราะยางที่ติดรถมาไม่ดีก้มีนะคับ
-
อืม มันก็น่าสำคัญทั้งคู่ คือมีทั้งคู่ ลิมิตมันก็สูงขึ้น
ถ้าเจอเหตุการณ์ผิดปรกติ ประการแรกก็คือยาง ยางที่ดีกว่าก็ยังช่วยให้มี traction ที่ดีกว่า สามารถแก้อาการให้กลับมาปรกติได้ง่ายกว่า
และถ้าเลยลิมิตของยางไปแล้ว ก็จะเป็นตัวช่วยด้วยระบบไฟฟ้าของรถยนต์
แต่เท่าที่ขับมาก็ยังไม่เคยเลยลิมิตของรถ เพราะใช้รถจนรู้ว่าลิมิตของรถอยู่ที่ไหน หรือถ้าใกล้ถึงลิมิต ที่ได้ใช้ส่วนใหญ่คือ ยางกับเบรค
ดังนั้นถ้าถามว่า มันทดแทนระบบปลอดภัยจากโรงงานได้ไหม ทดแทนไม่ได้ครับ
แต่ระบบปลอดภัยจากโรงงานทดแทนยางกับเบรคได้ไหม คำตอบคือยิ่งไม่ได้มากกว่า
ถ้าเป็นลักษณะการขับของคนทั่วไป น่าจะให้ความสำคัญกับยางดี และเบรคดีมากกว่า รวมทั้งใน Circuit ด้วยนะ
-
มันทดแทนกันไม่ได้นะ แต่ถ้าค่าไหนสูงกว่าผมให้ระบบสูงกว่านิดนึง เพราะถ้าคนขับรถเร็วมันเกินลิมิตได้ง่ายเช่นเจอแอ่งน้ำเจอน้ำมันยางมะตอนโคลนเยอะๆถนนลื่นยางดีแค่ไหนก็เกาะไม่ได้แล้ว ต้องให้ระบบมาช่วยให้ตรงเลน
-
พูดก็พูดต่ออีกหน่อย ระบบช่วยเหลือการทรงตัวของรถแต่ล๊ะยี่ห้อ โปรแกรมไม่เหมือนกันอีกครับ
ถ้าแตกประเด็นไปอีก
ผมขับรถยี่ห้อนึงไม่ขอบอก เบรคจนเฟร๊ต ไม่คิดว่ามันจะเฟร๊ตเพราะจานใหญ่มากๆ รถเซซ้ายขวา นาทีที่ต้องประคองพวกมาลัยให้ตรงอย่างเดียวแล้วหักไม่ได้มีหมุน ยี่ห้ออื่นเห็นบอกกันตัดแรงเครื่องยนต์แต่ทำไมวินาทีนั้น รถผมทำไมเครื่องมันเร่งเองได้ พร้อมกันกับที่ผมกดเบรคแบบเต็มฝ่าเท้าพื้นแทบทะลุ เป็นจังหวะๆ ด้วยความคึกคะนองจริงๆตอนนั้น ถ้าไม่มีระบบนี้รถผมคงหมุนไปแล้วไม่ได้มานั่งพิมท์แบบนี้ ไม่รู้ไปอยู่โลกไหนแล้ว เชื่อมั้ยครับช่วงเวลาที่มันเซซ้ายขวา นอกจากเครื่องจะเร่งเองแล้ว จนรถตั้งตรงจึงหยุด กระจกมันลงเองหมดทั้ง 4 บานเลย รอดครับ ถ้ากระจกไม่ลงเองหมดทั้ง 4 บานผมชนท้ายไปแล้วแน่ๆ เพราะผมเองเตรียมใจว่าชนแน่ๆแล้วในวินาทีนั้น กำพวงมาลัยแน่นเลย ห่างไม่ถึงฟุต ความเร็วลดมาเหลือประมาณ 120 ได้ มือซ้ายเนี่ยโยกตบเกียร์เป็นเมน่วน ปั๊บๆ ไม่มียั้ง เหมือนภาพลวงตาไม่มีผิด เหมือนรถจอดอยู่กับที่แล้วคันข้างๆเราเลื่อนออกไป ดู เหมือนรถเราไหล เป็นภาพลวงตาจริงๆวินาทีนั้น
เหตุเกิดทางด่านรามอินทรา สมัยเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วรถไม่มาก
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผม ให้ความสำคัญกับระบบช่วยเหลือการทรงตัวเป็นอย่างมาก
ซื้อรถต้องมี ระบบเสริมแรงดันเบรค มีป้องกันล้อล๊อค มีช่วยเหลือการทรงตัว มีถุงลม ผมเอา 4 อย่าง ต้องมี
รถที่ระบบดีๆ ลงเขาเนี่ย กดเต็มฝ่าเท้ายังได้เลย เบรคแรงความเร็วเกินเมื่อไหร่ เกียร์มันเชนข้ามสเต๊ปให้เราเองเลย เบรคปั๊บดูดยังกับพื้นถนนธรรมดาเลย ระบบดีเกินไปมันก้ดีถ้าเราไม่ประมาท
ในคู่มือ รถเฉียบๆนั้น ยังระบุเลยว่า ระบบไม่สามารถต้านแรงโน้มถ่วงของโลกได้
ดังนั้น ใครเจอผสบการณ์แค่ครั้งเดียว แล้วจบ ก็จบ แต่ถ้า ผ่านมาอีก ก็ จะเข็ดกับมันจริงๆ
เด็กเว้นถ้าลองเจอซักครั้งนึง ทีนี้ก็จะหายแว้นแล้ว รึบิ๊กไบค์เจอซักครั้ง จะเข็ดจนขยาดทีเดียว
ผมเจอไป ก็ คงเข็ดแล้ว จริงๆ
ยังไง ระบบต่างๆมันช่วยได้จริงๆครับ เพราะสมองของเราไม่ได้โล่งตลอดเวลา อิเลคโทรนิคที่โปรแกรมเข้าไปมัน ช่วยเราได้ กับโปรแกรมที่มีหลายสเต็ป ผ่านการทดสอบมา มันก็ช่วยได้
แต่ถ้าพูดถึงระบบช่วยเหลือการทรงตัวนั้น ในรถแต่ล๊ะยี่ห้อ ยังแตกต่างกันอีกด้วยครับ อย่าคิดว่า ตัวหนังสือ ภาษา ประกิต ตรางู ที่เอามาลงในโบว์ชัวล์นั้น พอมี ตัวหนังสือนี้แล้ว ทุกยี่ห้อจะเหมือนกัน ระบช่วยเหลือการทรงตัวผมว่า แต่ล๊ะยี่ห้อแตกต่างกันมากๆครับ
-
พึ่งใช้ ระบบ VDC ใน J32 V6 2.5 มาสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา ตอนลงจากดอยอินทนนท์ โค้งสุดท้าย ก่อนถึงด่านตรวจที่ 1 ครับ ทั้งๆที่
- ร่างกายพร้อม พักผ่อนเพียงพอ ไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ ไม่คึกคะนอง
- รถพร้อม ยางก็ใหม่ Turanza GR33
แต่ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้คือ
- ทางโค้งหักศอก ลงเนิน
- ฝนตกหนัก + โคลนที่อยู่ บนถนน (ไม่มีทางมองเห็น )
=== ตั้งแต่ซื้อมาไม่เคยใช้ครับ ใครไม่เคยอยู่ในสถานการณ์ แบบนี้ไม่มีวันรู้ ครั้งเดียวเกินคุ้ม ===
เหตุการณ์คือ ลงจาก ดอยอินทนนท์มา โค้งสุดท้าย ก่อนถึงด่านตรวจ ที่ 1 เห็นป้าย จะถึงแล้ว เลย relax นิดหน่อย ใครเคยขึ้นลงอินทนนท์ จะรู้ว่าตอนลงเครียดมาก เพราะทางยาวจริงๆ แถมวันที่ผมไป ฝนตกหนักตลอด โค้งสุดท้าย ก่อนเข้าด่าน ไม่ได้ประมาท แต่ไม่ได้จดจ่อ เผลอปล่อย O/D off เพราะคิดว่าจบแล้ว อีกโค้งเดียว รถเลยไหลลงมาด้วยความเร็วมากเกินไป
แต่ อนิจจา....
โค้งเดียวนั้น มันเป็นโค้งขวาหักศอก แบบ สองจังหวะครับ เห็นอีกที รถอยู่กลางโค้งแล้ว ...... ใจหาย วาบ ท้ายรถเสียอาการแล้ว ยางหลังร้อง เอี๊ยด ..... รถขับหน้า ทำไมท้ายออกวะ ? ..... อ๋อ รถเราติดแก็ส ถังโดนัท น้ำหนักถ่วงท้ายมาก โมเมนตัม เลยเหวี่ยงเอาท้ายออก.... อ้อๆๆ โคลนอีก พวก พี่ๆ ออฟโรด มาทิ้งไว้ แล้วจะแก้พวงมาลัยยังงัย ซ้ายเป็นเหว แล้วๆๆๆ
เล่าเหมือนสนุก นะครับ แต่เหตุการณ์ทั้งหมด เกิดขึ้นในช่วงเวลาแค่ แมลงกระพือปีก
แล้วเขาก็มา ไฟ VDC กระพริบ แว่บๆๆ เครื่องยนต์ถูกตัดกำลังลง ล้อหลังซ้ายซึ่งกำลังจะตกไหล่ทาง ( ถ้าตกคว่ำแน่ๆ) ก็ถูกดึงกลับเข้ามาอยู่ ในถนน traction กลับมา ครบทั้งสี่ล้อ แล้วผ่านโค้งนั้น เข้าสู่ด่านที่ 1 แบบ นิ่งๆ ในขณะที่หัวใจผม ยังไม่ขึ้นมาจากปลายเท้าเลย
กล่าวโดยสรุปนะครับ สติ กับความไม่ประมาท สำคัญที่สุด แต่ถ้าท่านเลือกได้ เชื่อเถอะว่า ระบบพวกนี้ผ่อนหนักเป็นเบาได้ครับ ผมขับรถมาเกือบ 15 ปี แต่ในเวลานั้น แก้อาการไม่ทันแล้ว เพราะความล้า
หากพอจะหาซื้อมาไหว ผมแนะนำให้ท่านเลือกรถที่มีระบบ ช่วยการทรงตัวครับ
ผ่านเวลาแบบนั้นมาได้ ดีใจแทนเลยครับ ของแบบนี้ใครไม่เคยเจอ จะคิดไปอีกอย่างเลย
ส่วนคำถามท่าน จขกท. ผมคิดแบบนี้ครับ
มีไว้ไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มีครับ
-
ต่อไปรถราคาแพงกว่า6แสน คงต้องมีแทบทุกคันทุกยี่ห้อนะครับ(โดยเฉพาะรถเก๋ง)
เมื่อกางดูโบชัวร์ เจ้าตลาดเรายังเป็นเจ้าเดียวที่งกมากๆ
คนที่ขับรถช้าๆใจเย็นๆขับเรื่อยๆ คงไม่จำเป็นเท่าไหร่ สมัยก่อนไม่มีกันมานมนานก็ขับกันได้
แต่สำหรับผมจำเป็นต้องมีครับ ผมได้ใช้บ่อยมากๆ (ขับรถเร็วและเยอะ)
สำคัญกว่ายางเทพๆ เบรคดีๆ(จริงๆยางกับเบรคก็สำคัญนะ)
เพราะมันติดตัวตลอดเวลา หาใส่เพิ่มก็ยุ่งและยาก
จากใจจริงใช้มา2ปี คันต่อไปต้องมีครับ
-
เป็นเอารถที่เราชอบที่สุด ยอมรับกับสิ่งที่เป็นมันได้ครับทั้งข้อดีข้อเสีย ให้ทนขับรถที่ไม่ได้ชอบผมคงไม่เอาไม่มีความสุข
-
รถช่วงล่างดี เกาะถนนอย่างเทพ ไม่ได้แปลว่าจะไม่ชนไม่เสียหลักนะครับ
และถึงเวลามันชน รถที่มี Airbag, VSC, TRC, DSC และ ระบบช่วยเหลือต่างๆ
ย่อมช่วยผ่อนหนักเป็นเบากว่ารถที่ไม่มีอะไรเลยครับ
ยกตัวอย่าง ผมมี Mazdaspeed Protege อยู่คันนึง ช่วงล่างทำทุกชิ้น
ช็อคอัพ K-Sport ค้ำหน้าบน Carbing ล่าง Cusco กันโคลง Mazdaspeed
บู็ชยูรีเทน Super Pro ทั้งคัน เบรกอัพเกรดเป็น Lantis V6 จาน 275mm ผ้าเบรกซิ่ง
ยางถนน PilotSport3 ยางสนาม Nitto NT-01
แต่เวลาวิ่งเร็วๆ บนถนน ผมก็ยังเหวอกว่า Camry Hybrid
ที่มีทั้ง Traction Control, Airbag เยอะกว่า, ฯลฯ เพราะมีครอบครัวแล้วก็กลัวตายครับ
-
ยาง ช่วงล่าง ช๊อก สปริง ช่วยในการบังคับควบคุมการทรงตัวของรถ ถ้าเราใช้ของที่ดีขึ้นก็เป็นการขยับลิมิตของรถขึ้นไป
ABS ESP BA ... เป็นตัวช่วย ABS ยางดี จานดี ผ้าเบรคดี ถ้ากดจนล๊อกมันก็ล๊อกครับ
ESP เข้าโค้งเร็วเกินไป ด้วยเหตุผลใดๆก็แล้วแต่ มันเบรคเฉพาะล้อให้เองเลย
ฟังก์ชั่นช่วยเหลือแบบซื้อประกันภัยนี้มันติดเพิ่มทีหลังไม่ได้ด้วยสิครับ
-
เลือกรถที่ชอบ มีก็ดีแต่ไม่ใช่สาระ มีก็หลุดอยู่ดี
ทำช่วงล่างเพิ่ม ก็ดีครับ ช่วงล่างดี ยางเหมาะกับสภาพถนนก็ขับขี่ได้ดีขึ้น ปลอดภัยขึ้นแน่นอน แต่มันก็คนละส่วนกับระบบปลอดภัย อันนั้นเหมือนมันตอนมีเหตุแล้วมากกว่า
-
เคยมีคนสอนผมว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับรถ หรือทักษะการควบคุมที่ฝึกฝนด้วยประสบการณ์ เหมือนจักรยานไม่ล้ม ไม่ได้แผล ก็จะปั่นไม่เป็น
-
พูดก็พูดต่ออีกหน่อย ระบบช่วยเหลือการทรงตัวของรถแต่ล๊ะยี่ห้อ โปรแกรมไม่เหมือนกันอีกครับ
ถ้าแตกประเด็นไปอีก
ผมขับรถยี่ห้อนึงไม่ขอบอก เบรคจนเฟร๊ต ไม่คิดว่ามันจะเฟร๊ตเพราะจานใหญ่มากๆ รถเซซ้ายขวา นาทีที่ต้องประคองพวกมาลัยให้ตรงอย่างเดียวแล้วหักไม่ได้มีหมุน ยี่ห้ออื่นเห็นบอกกันตัดแรงเครื่องยนต์แต่ทำไมวินาทีนั้น รถผมทำไมเครื่องมันเร่งเองได้ พร้อมกันกับที่ผมกดเบรคแบบเต็มฝ่าเท้าพื้นแทบทะลุ เป็นจังหวะๆ ด้วยความคึกคะนองจริงๆตอนนั้น ถ้าไม่มีระบบนี้รถผมคงหมุนไปแล้วไม่ได้มานั่งพิมท์แบบนี้ ไม่รู้ไปอยู่โลกไหนแล้ว เชื่อมั้ยครับช่วงเวลาที่มันเซซ้ายขวา นอกจากเครื่องจะเร่งเองแล้ว จนรถตั้งตรงจึงหยุด กระจกมันลงเองหมดทั้ง 4 บานเลย รอดครับ ถ้ากระจกไม่ลงเองหมดทั้ง 4 บานผมชนท้ายไปแล้วแน่ๆ เพราะผมเองเตรียมใจว่าชนแน่ๆแล้วในวินาทีนั้น กำพวงมาลัยแน่นเลย ห่างไม่ถึงฟุต ความเร็วลดมาเหลือประมาณ 120 ได้ มือซ้ายเนี่ยโยกตบเกียร์เป็นเมน่วน ปั๊บๆ ไม่มียั้ง เหมือนภาพลวงตาไม่มีผิด เหมือนรถจอดอยู่กับที่แล้วคันข้างๆเราเลื่อนออกไป ดู เหมือนรถเราไหล เป็นภาพลวงตาจริงๆวินาทีนั้น
เหตุเกิดทางด่านรามอินทรา สมัยเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วรถไม่มาก
หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผม ให้ความสำคัญกับระบบช่วยเหลือการทรงตัวเป็นอย่างมาก
ซื้อรถต้องมี ระบบเสริมแรงดันเบรค มีป้องกันล้อล๊อค มีช่วยเหลือการทรงตัว มีถุงลม ผมเอา 4 อย่าง ต้องมี
รถที่ระบบดีๆ ลงเขาเนี่ย กดเต็มฝ่าเท้ายังได้เลย เบรคแรงความเร็วเกินเมื่อไหร่ เกียร์มันเชนข้ามสเต๊ปให้เราเองเลย เบรคปั๊บดูดยังกับพื้นถนนธรรมดาเลย ระบบดีเกินไปมันก้ดีถ้าเราไม่ประมาท
ในคู่มือ รถเฉียบๆนั้น ยังระบุเลยว่า ระบบไม่สามารถต้านแรงโน้มถ่วงของโลกได้
ดังนั้น ใครเจอผสบการณ์แค่ครั้งเดียว แล้วจบ ก็จบ แต่ถ้า ผ่านมาอีก ก็ จะเข็ดกับมันจริงๆ
เด็กเว้นถ้าลองเจอซักครั้งนึง ทีนี้ก็จะหายแว้นแล้ว รึบิ๊กไบค์เจอซักครั้ง จะเข็ดจนขยาดทีเดียว
ผมเจอไป ก็ คงเข็ดแล้ว จริงๆ
ยังไง ระบบต่างๆมันช่วยได้จริงๆครับ เพราะสมองของเราไม่ได้โล่งตลอดเวลา อิเลคโทรนิคที่โปรแกรมเข้าไปมัน ช่วยเราได้ กับโปรแกรมที่มีหลายสเต็ป ผ่านการทดสอบมา มันก็ช่วยได้
แต่ถ้าพูดถึงระบบช่วยเหลือการทรงตัวนั้น ในรถแต่ล๊ะยี่ห้อ ยังแตกต่างกันอีกด้วยครับ อย่าคิดว่า ตัวหนังสือ ภาษา ประกิต ตรางู ที่เอามาลงในโบว์ชัวล์นั้น พอมี ตัวหนังสือนี้แล้ว ทุกยี่ห้อจะเหมือนกัน ระบช่วยเหลือการทรงตัวผมว่า แต่ล๊ะยี่ห้อแตกต่างกันมากๆครับ
นี่แหละครับผมปัญหาใหญ่ของคนซื้อ หรือเราๆ ท่านๆ ที่เป็นผู้ใช้รถ ไอ้ระบบความปลอดภัยที่มี ที่บอกว่ามีไม่รู้ว่าดีแค่ไหน หรือว่ามันผ่านรับรองมาแล้วครับ ยี่ห้อ A ก็มี ยี่ห้อ ฺB ก็มี แต่ไม่รู้ว่ามีแล้วดียังไง ประสิทธิภาพ เป็นยังไง แล้วในไทยใครเป็นคนรับรองครับ หรือว่า ติดๆ ไป คนใช้คงไม่รู้ อะไรประมาณนั้น
:)
-
มันทดแทนได้ครับ แต่ไม่ทั้งหมด ไม่ทุกสถานะการ