Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: S55B30 ที่ กรกฎาคม 17, 2014, 11:09:24
-
จาก http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=7883:Nissan-Pulsar-Qashqai-Nismo- (http://www.headlightmag.com/main/index.php?option=com_content&view=article&id=7883:Nissan-Pulsar-Qashqai-Nismo-)จะใส่ของแรงด้วยเครื่อง-1-8-Turbo-266-แรงม้า&catid=47:worlds-news&Itemid=160
สรุป NISSAN SYLPHY DIG-T จะมาในช่วงปลายปีนี้ใช่มั้ยครับ ;D ;D ;D
-
เคยเห็นพี่จิมมี่พูดไว้ว่าปลายปีอาจจะมีนิสสันซิลฟีมาพร้อมกับเครื่อง1.6ผูกโบ เครื่องเดียวกับพัลซ่า ครับ
-
ผมว่ายากแล้วหล่ะครับ ตอนนี้ผมนับคันในคลับ pulsar ได้เลย สำหรับตัวเทอร์โบนะครับ และผมเจอบนถนนจริงๆแค่ครั้งเดียว!!! คันสีขาวเปลี่ยนแม็กนี่สวยเลย
ตอนแรกอย่าง pulsar ก็มีกระแสตอบรับค่อนข้างดีเลยที่จะให้เอาตัวเทอร์โบเข้ามา แต่พอตัดมาขายจริงๆกลับเป็นแบบนี้ นี่ขนาดยัดออฟชั่นมาเต็มแล้วนะเนี่ยใน C-segment ยุ่น
เดี๋ยวพอเอาเข้ามาจริงๆ ก็มีบอก ราคาแพงเกินไป ไม่สวย ไม่ต่างจากตัวธรรมดา บลา บลา พวกนี้คือคนที่ไม่ได้ซื้อ ต้องลองไปถามคนที่ซื้อครับ ว่าทำไมถึงซื้อ
บ้างยี่ห้อบอกยี้กับช่วงล่าง เดี๋ยวก็มีสาวกมาบลัฟอีกบอกว่าเปลี่ยนนั่นนู่นนี่ได้หมด แล้วทำไม Nissan ถึงจะทำไม่ได้ละครับ?
-
โคราชผมเพิ่งเจอเมื่อเช้าเลยครับ คันเดียว สีขาว พัลซ่า เป็นรถขายยากอยู่แล้งครับ ขนาดตัวธรรมดา ยังว่ายากแล้ว
-
โอววว1800ccเทอโบ266แรงม้า :o
-
ที่ขอนแก่นพัลซาหาดูยากกว่าแลมโบอีกคับ
-
แปลกนะทำไมพัลซ่าขายไม่ออกเขาก็อุตส่าดันโบมากระตุ้นยอด แต่ผมว่าที่ยังขายไม่ออก เพราะไม่โฆษณาหรือป่าวการตลาดไม่ดี เป็นซิลฟี่น่าจะขายได้นะ เพราะรถก็เห็นเต็มถนนละ เดือนละ 300ๆ ถ้าทั่วประเทศเรียกน้อยแต่ สงสัยคนกทมออกเยอะ ส่วนพัลซ่านี่แทบไม่เห็นจริงๆ บอกตรงว่ารู้งี้ผมซื้อพัลซ่าดีกว่า สงสารรถ
-
ถ้าเป็นผม ผมไม่ขายหรอกครับ Sylphy ผูกโบ แม้ว่า Potential จะดีไม่แพ้พัลซาร์
คิดดูว่าคนเท้าหนักมีเท่าไหร่ และคนเท้าหนักที่ชอบรถที่หน้าตาไม่ได้ลิ่มแหลมเป็นสปอร์ตมีสักกี่คน
โดยแนวคิดแล้วผมชอบนะ รถหน้าตาจืดๆแต่วิ่งตับแล่บ .แต่คิดแทนบริษัทรถยนต์ ..ถ้าผมเป็นบอสนิสสัน ผมคงไม่ขายหรอกครับ
แต่ถามว่าตัวรถมีอะไรแย่เหรอ ก็ไม่นะ Pulsar Turbo เท่าที่ลองมาเต็มๆ อัตราเร่ง "ในงบล้านสามกับรถป้ายแดงไม่มีอะไรที่แรงกว่านี้"
พวงมาลัย..ไม่ไวเท่า Mazda 3 แต่น้ำหนักและความไวในการตอบสนองดีกว่า Altis
ช่วงล่าง..ไม่นุ่มพอแล้วหนึบดีแบบ Focus ..ไม่ได้เฟิร์มนิดๆและมั่นแบบ Mazda 3 แต่มาในสไตล์เฟิร์มแบบญี่ปุ่นแข็ง และในภาพรวมยังสาดโค้งได้มั่นใจกว่า Altis ESport
พื้นที่ภายใน หายห่วง สบาย
ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบใช้งานในชีวิตจริง ก็โหดเท่า Tiida Turbo ยำเองของผมเลยคือครึ่งถัง 150 ก.ม.ถ้าเท้าหนัก
ผมมีความสุขนะเวลาขับมัน แต่ถ้าให้ซื้อ ผมคิดหนัก ถ้าเกียร์มันเป็น 6 จังหวะดีๆที่มั่นใจว่าเอาไปทำเพิ่ม 40-50 ม้าแล้วไม่ขี้กลัวเข้า safe mode ไปก่อน ถ้ามันเป็นเกียร์ที่ทำให้รถสามารถดีดออกตัวได้สะนใจ และถ้าหน้าตามันถูกใจ ผมคงชอบนะ แต่ถ้าสมมติว่ามีคนทำ Mazda 3 แล้วลงโบได้ ทำม้าได้ 230-240 ได้ ผมว่างานนี้มีเฮ
-
จะมีหรอครับ ขนาดพัลซาร์ยังเงียบเหงาตั้งแต่เปิดตัวเห็นแค่3ครั้งเองสำหรับเทอร์โบ :o
-
ยังไม่เคยเห็นพัลซ่าโบซักคันครับ
-
ถ้าลงใน sylphy พร้อมล้อ 16 หน้าตาบ้านๆ
รถซุ่มชัดๆ :D
-
ข้องใจเรื่องเครื่อง m3 ยัดโบเหมือนกันครับ คือเครือง sky กำลังอัดในสูบสูงอยู่แล้ว ถ้าอัดโบเข้าไปอีกเครื่องจะรับไหวมั๊ยครับ คือเสื้อไม่แตกหรือ...(คืออาจจะถามโง่ๆนะครับ แต่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเครื่องมากนัก) ในความคิดผมเครื่อง sky เหมือนเครื่องทำ NA เต็มๆ ผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อยครับ
-
เครื่องฉีดตรง ไฮเพรเชอร์ผูกโบได้ครับ มิตซูก็มีเครื่องแบบนี้ เป็น gdi turbo อยู่ในรหัส 4g93t gdi 1800 cc 165 แรงม้า ในแรลลี่อาร์ทไงครับ เอามาโมต่อได้ 210 แรงม้าเลยนะครับ มาสด้าก็น่าทำได้ครับเป็นฉีดตรงเหมือนกัน
-
อีกหน่อยมันจะเป็น rare item ยิ่งกว่าวีออสโบมั้ยเนี่ย
-
ข้องใจเรื่องเครื่อง m3 ยัดโบเหมือนกันครับ คือเครือง sky กำลังอัดในสูบสูงอยู่แล้ว ถ้าอัดโบเข้าไปอีกเครื่องจะรับไหวมั๊ยครับ คือเสื้อไม่แตกหรือ...(คืออาจจะถามโง่ๆนะครับ แต่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเครื่องมากนัก) ในความคิดผมเครื่อง sky เหมือนเครื่องทำ NA เต็มๆ ผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อยครับ
ขึ้นอยู่กับความทนของวัสดุครับ CR สูงแต่ลูก ก้าน กับปากกระบอกทนทาน จะบูสท์สูงก็ยังได้ แต่ถึง CRต่ำแต่แหวนห่วย สูบห่วยก้านห่วย ก็พังได้เหมือนกัน เครื่อง NA CR สูงๆที่เซ็ตโบได้ในปัจจุบันคือ 86/BRZ ซึ่งอย่างสำนัก Tekno ที่ออสเตรเลียใช้ Garett/Honeywell เทอร์โบ GT28 บูสท์ 0.4-0.5 บาร์ ได้ม้า 300 กว่าตัวลงพื้น และอัดโหดๆได้ไม่พัง คำถามจะมีอยู่สามอย่างคือ
1. แหวน กับลูกสูบของ 3 จะทนขนาดไหน (ก้านสูบคงไม่มีปัญหาถ้าทำม้าลงพื้นไม่เกิน 220)
2. เกียร์ทนได้กี่ม้า และมีกลไกอะไรที่จะไปจับค่าความผิดปกติจนส่งผลให้เกียร์ไม่ยอมทำงานตามปกติหรือไม่
3. ECU ไม่บล็อคโน่นนี่บ้าบอคอแตกจนไม่สามารถเอากล่อง Piggyback จูนได้แม้จะถอดO2 Sensor หรือเปล่า
ถ้าสามอย่างนี้ผ่านฉลุย แล้วรถเดิมมี 160-170 ม้าอยู่แล้ว การทำเป็น 220-230 แรงม้านั้นสบายมาก ถ้ากล้าพออาจได้ถึง 280