Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kris-lack ที่ กรกฎาคม 28, 2014, 16:38:46
-
คือเข้าดูเว็บ ตลาดรถบ่อยๆ เลยสงสัยว่า ทำไมราคามันต่างกันจังคะ
นอกจากเรื่องรูปร่างหน้าตาที่แล้วแต่คนชอบแล้ว อย่างอื่นมันสู้ ฟอร์ ไม่ได้เลยเหรอคะ
ขอบคุณค่ะ
-
Mu7 ดูเป็นกระบะมากกว่า ตัวรถใหญ่กว่า จุได้มากกว่า fortune ชอบตัวถัง ผมไม่ชอบการพับของแถว3
-
เป็นเพราะยอดขายแหละครับ ตอนที่ MU-7 ยังทำตลาดอยู่ยอดขายสู้ Fortuner กับ Pajaro ไม่ได้เลยครับ เช่นเดียวกับ Ford Everest ความต้องการซื้อจึงมีน้อยกว่า ทำให้ราคามือสองตกกว่าครับ
อีกอย่าง เท่าที่รู้มาคือ MU-7 กับ Ford Everest ช่วงล่างหลังเป็นแหนบ ซึ่งไม่อยู่ในความนิยมของผู้ใช้ ต่างจาก Fortuner และ Pajaro ที่ช่วงล่างหลังเป็นคอล์ยสปริง
-
ความต้องการของผู้ใช้ครับ และเทียบราคามือ1 mu 7 ถูกกว่า fortuner ครับ
-
มิวช่วงล่างแหนบ Chassis ก็ยกมาจาก Dmax (ถึงจะปรับแต่งต่างกันก็ตาม)
ส่วนฟอร์(รวมถึง PJS) ลดความยาว Chassis และใช้ช่วงล่างหลังคอยล์สปริง
พอครอบบอดี้ดูสวยกว่าเหมือน SUV แท้ๆและเหมาะกับการนั่งมากกว่า...
-
Mu7น่าใช้ตอนมือสองนี่แหละ ราคาตกเยอะดี ผมนั้งกลับจากสนามบินบ่อยๆ มันก้อนั้งสบายดีนะครับ
-
mu7 มี mu x มาแทนจึงเป็นรถเก่าเต็มตัว แต่ฟอร์ตัวใหม่ยังไม่มา ราคาจึงยังดีอยู่ รอฟอร์ใหม่ออกก่อนค่อยเทียบราคาอีกทีครับ
-
เทียบราคาขายตอนมือ1
MU-7 จะถูกกว่า Fortuner ราวๆรุ่นย่อยละ 1 แสนบาทครับ
รวมถึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่า Fortuner ครับ
-
Mu7น่าใช้ตอนมือสองนี่แหละ ราคาตกเยอะดี ผมนั้งกลับจากสนามบินบ่อยๆ มันก้อนั้งสบายดีนะครับ
+1 ;D
-
เคยวางแผนว่าจะซื้อ Ford Everest ตัวท็อปขับสี่มือสอง รุ่นปี 2007-2010 เห็นมันดูเท่บึกบึนดีครับ ยางอะไหล่อยู่ข้างหลังด้วย ประตูท้ายเปิดด้านข้าง
แต่ก็แอบเสียดายเล็กน้อยที่ Everest ตัวใหม่ ยางอะไหล่เอาไปเก็บไว้ใต้ท้อง แล้วเปิดประตูท้ายขึ้นเหมือนรถ suv รุ่นอื่นๆ แต่ feature นี้ดันไปอยู่กับ Ecosport แทน
-
ผมว่าข้อเสียนอกจากช่วงล่างเป็นแหนบและคันใหญ่มากไปแล้ว
อีกอย่าง คือ ค่าต่อทะเบียนแพงมาก หลายพัน
ประกันแพง
ค่ายางรถยนต์แพง เส้นละ 4000 พันขึ้นไป
ค่าดูแลไม่แพง แต่ของเหลวใช้เยอะ (มันก็แพงในทางอ้อม)
การจะซื้อรถมือสอง ราคาสัก 5-7 แสนผมว่าคนกลุ่มนี้คิดมากกว่าเจ้าของมือแรกนะครับ
คนที่จะซื้อ MU-7 น่าจะเป็นคนที่ใส่ใจค่าใช้จ่ายด้วย มองรถเป็นสิ่งพาจากจุด A ไป B แต่ดูหรู (นิดๆ)
ส่วนจูน ผมว่าคนซื้อจะดูทีตัวรถ สมรรถนะ (เครื่องยนต์) มากกว่า เรื่องค่าใช้จ่ายไม่คิดมากเท่า
ผมก็สนใจ MU-7 กับ อินโนว่า มือสอง ก่อนจะซื้อรถก็ไปดูมา แต่เจอค่าใช้จ่ายเข้าไป + ตัวเองคับคนเดียว
ไม่ค่อยคุ้มครับ
รถหนัก ใหญ่ นิ่ม สบาย แต่กินน้ำมัน + ค่าใช้จ่ายตามมาสูงเกินไป :D
ใช้รถที่เล็กลงมาสบายใจกว่า
แต่ถ้ามีเงินมากขึ้น และอนาคต Isuzu มีการ downsize เครื่องมาเหลือ 1.9 ดีเซล (MU-X ที่เป็นตัวเตี้ยแบบอินโนว่า) ผมว่าน่าสนใจมากครับ
-
การดูแลmu7 ก็เหมือนรถกระบะ4ประตูยกสูงเครื่อง3.0atทั้วไป
ต่อทะเบียนปีละ6พันกว่า(จดป้ายดำคิดเป็นcc.)
ป.1 18,000 ยางผมพึงเปลื่ยนมา มิสลิน7,250
หนักไหมก็หนักอยู่ อิอิ
-
เทียบราคาขายตอนมือ1
MU-7 จะถูกกว่า Fortuner ราวๆรุ่นย่อยละ 1 แสนบาทครับ
รวมถึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่า Fortuner ครับ
แล้วตอนขาย For ก็ แพงกว่า Mu ด้วยใช่ไหม แบบนี้ผมว่า พอๆ กันหละ
-
การดูแลmu7 ก็เหมือนรถกระบะ4ประตูยกสูงเครื่อง3.0atทั้วไป
ต่อทะเบียนปีละ6พันกว่า(จดป้ายดำคิดเป็นcc.)
ป.1 18,000 ยางผมพึงเปลื่ยนมา มิสลิน7,250
หนักไหมก็หนักอยู่ อิอิ
หนักอยู่ครับ
เพราะถ้าเป็นรถ MPV เล็ก 1.5
ค่ายางเส้นละไม่เกิน 2 พันบ.
ภาษีรถ 1.5 ก็ประมาณ 1600 บ.
ป.1 พอๆ กันครับ (1.5-1.8 หมื่นบ.) แต่รถผม 13000 บ. ซึ่งมันแพงเพราะนำเข้า (อันนี้เดาล้วนๆ)
-
ราคามือ2 ของFortuner แพงกว่าจริงๆครับ
ราคามือ2 MU7 ตอนนี้
chioz รุ่น 1 - 3 ราคาไม่เกิน 8แสนนิดๆครับ
mu7 ปี10-11 ไม่เกิน 7แสนนิดๆครับ
กลับเป็นว่ามือ2 MU7 ขายดีพอสมควร ราคาไม่แพงมาก เดี่ยวนี้แถวบ้านคนใช้Mu7เยอะครับ
-
ตอนออกมาใหม่ๆทั้งคู่ฟอร์จูนเอร์แพงกว่าด้วยครับ แล้วมิวเซเวนก็ไม่ค่อยนิยมเท่า ด้วยหน้าตาที่มัแข็งเหมือนกระบะไปหน่อยแต่ส่วตัวผมชอบนะ ภายในตัวแรกๆออฟชันแทบไม่ต่างกับกระบะดีแมคมีแค่เบาะหนังมั้ง แต่ข้อดีคือมีแอร์มาให้ถึงแถวสามเย็นฉ่ำกว่าแน่จนฟอร์จูนต้องมีให้ทีหลัง กับช่วงล่างที่เป็นแหนบแต่ฟอร์จูนเอนร์เป็นคอยล์สปริงแต่เอาเข้าจริงแหนบมิวเซวนกลับนั่งนิ่มดีกว่าฟอร์จูนเนอรืซะงั้น(เทียบเฉพาะตัวแรกนะไม่รู้เทียบกับฟอร์จูนตัวหลังๆจะเป็นยังไง) ก็ไม้รู้ว่าช่วงนั้นโตโยต้าข่าววงในดีรู้ว่ารัฐบาลจะแก้กฎหมายหรือว่ารู้กันกับรัฐบาลก็ไม่ทราบได้อีซุซุก็ถือว่าพลาดไป คนไม่ค่อยซื้อเท่าส่วนมากคนที่ซื้อมักเป็นแฟนกระบะอีซูซุหรือไม่ก็มองความคุ้มค่าความประหยัด ส่วนคนซื้อฟอจูนจะมองรูปทรงสมรรถนะมากกว่า พอเป็นมือสองก็น่าเล่นนะครับเอนกประสงใช้อะไหล่กับดีแมคซ์ได้เซฟน้ำมัน แต่จะเปลืองตอนต่อภาษีกับเปลี่ยนยาง
-
ตามนั้นครับ ความนิยม ราคาขายที่ถูกกว่า MU-Xออกมาอีก
-
ผมคนนึงละครับที่ถอยน้องหมู7มือสองมาได้สองสามเดือนแล้ว อยากจะแชร์ความคิดอย่างนี้ครับว่าถ้าไม่มองที่หน้าตาว่าตกรุ่นแล้วผมบอกได้คำเดียวครับว่าคุ้มมากกับราคารถเอนกประสงค์(ผมจะไม่บอกว่าน้องหมู7เป็นppvครับแต่มันเป็นรถเอนกประสงค์ที่ตอบโจทย์มากที่สุดครับเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น) ช่วงล่างหลังเป็นแหนบก็จริงอยู่แต่จะไม่เหมือนกระบะนะครับการเซ็ทค่ามามันนุ่มและก็ทนทานมากๆ ยิ่งการดูแลรถก็จะไม่จุกจิกมากด้วยครับ ไม่ได้อวยครับแต่มันเป็นประสบการณ์ที่ได้สัมผัสมาครับ
-
ตัวนี้แหละ ของดีราคาถูก ที่ผมเล็งๆเพราะ
1. เครื่องแรงดี ไม่มีใครบ่น
2. ขโมยไม่สนใจ
3.บำรุงรักษาไม่แพง 0บริการไว้ใจได้
4.ราคามือสอง ถูกมากๆ 6 แสนกลางได้รถสดๆ ไม่ช้ำ
5.ยังกว้างขวางดีอยู่ขนของได้เยอะ
อิอิ ชอบๆๆๆๆ
-
มิวช่วงล่างแหนบ Chassis ก็ยกมาจาก Dmax (ถึงจะปรับแต่งต่างกันก็ตาม)
ส่วนฟอร์(รวมถึง PJS) ลดความยาว Chassis และใช้ช่วงล่างหลังคอยล์สปริง
พอครอบบอดี้ดูสวยกว่าเหมือน SUV แท้ๆและเหมาะกับการนั่งมากกว่า...
+1 เรื่องความยาวของตัวรถ
Fortuner ไหวตัวเร็วกว่า ในขณะที่ MU7 ยังยึดติดกับกระบะดัดแปลงเดิมๆ ว่าตัวรถต้องยาวบรรทุกเยอะ
ทรงมันเลยออกมาคนละแนว Fortuner ไปทาง สปอร์ต + กีฬา ในขณะที่ MU7 พ่อบ้าน+ครอบครัว
-
มิวช่วงล่างแหนบ Chassis ก็ยกมาจาก Dmax (ถึงจะปรับแต่งต่างกันก็ตาม)
ส่วนฟอร์(รวมถึง PJS) ลดความยาว Chassis และใช้ช่วงล่างหลังคอยล์สปริง
พอครอบบอดี้ดูสวยกว่าเหมือน SUV แท้ๆและเหมาะกับการนั่งมากกว่า...
+1 เรื่องความยาวของตัวรถ
Fortuner ไหวตัวเร็วกว่า ในขณะที่ MU7 ยังยึดติดกับกระบะดัดแปลงเดิมๆ ว่าตัวรถต้องยาวบรรทุกเยอะ
ทรงมันเลยออกมาคนละแนว Fortuner ไปทาง สปอร์ต + กีฬา ในขณะที่ MU7 พ่อบ้าน+ครอบครัว
+1 แต่จริงๆ ผมชอบแนวแหนบแบบ MU-7 นะครับ
อ่อ ข้างหน้าเป็นทอร์ชั่นบาร์ด้วย
ดูทนทาน ไว้ใจได้ตาม style รถบรรทุก
:D
-
mu7 ช่วงล่างเป็นแหนบก็จริง แต่แถว 2 นั่งแล้วนิ่มกว่า fortuner อีก
-
ตอนออกมาใหม่ๆทั้งคู่ฟอร์จูนเอร์แพงกว่าด้วยครับ แล้วมิวเซเวนก็ไม่ค่อยนิยมเท่า ด้วยหน้าตาที่มัแข็งเหมือนกระบะไปหน่อยแต่ส่วตัวผมชอบนะ ภายในตัวแรกๆออฟชันแทบไม่ต่างกับกระบะดีแมคมีแค่เบาะหนังมั้ง แต่ข้อดีคือมีแอร์มาให้ถึงแถวสามเย็นฉ่ำกว่าแน่จนฟอร์จูนต้องมีให้ทีหลัง กับช่วงล่างที่เป็นแหนบแต่ฟอร์จูนเอนร์เป็นคอยล์สปริงแต่เอาเข้าจริงแหนบมิวเซวนกลับนั่งนิ่มดีกว่าฟอร์จูนเนอรืซะงั้น(เทียบเฉพาะตัวแรกนะไม่รู้เทียบกับฟอร์จูนตัวหลังๆจะเป็นยังไง) ก็ไม้รู้ว่าช่วงนั้นโตโยต้าข่าววงในดีรู้ว่ารัฐบาลจะแก้กฎหมายหรือว่ารู้กันกับรัฐบาลก็ไม่ทราบได้อีซุซุก็ถือว่าพลาดไป คนไม่ค่อยซื้อเท่าส่วนมากคนที่ซื้อมักเป็นแฟนกระบะอีซูซุหรือไม่ก็มองความคุ้มค่าความประหยัด ส่วนคนซื้อฟอจูนจะมองรูปทรงสมรรถนะมากกว่า พอเป็นมือสองก็น่าเล่นนะครับเอนกประสงใช้อะไหล่กับดีแมคซ์ได้เซฟน้ำมัน แต่จะเปลืองตอนต่อภาษีกับเปลี่ยนยาง
ไม่เข้าใจประโยคนี้ค่ะ รบกวนอธิบายหน่อยค่ะ
"ก็ไม้รู้ว่าช่วงนั้นโตโยต้าข่าววงในดีรู้ว่ารัฐบาลจะแก้กฎหมายหรือว่ารู้กันกับรัฐบาลก็ไม่ทราบได้อีซุซุก็ถือว่าพลาดไป"
คือเพลาดรื่องอะไร??
-
MU-7 ตัวก่อน Minor change ราคา 3 แสนเองครับ
โห ลงไปเยอะมาก :D
ผมว่า CR-V ยังไม่ตกเท่านี้นะครับ
-
ถ้าสองตัวนี้ ผมชอบ fortuner นะ Mu-x ออกมา สดกว่าใหม่กว่า แฟนผมยังบอกเลยว่า Fortuner น่าซื้อกว่า
ที่ยังไม่ซื้อตอนนี้เพราะรอให้มาครบๆ ทุกเจ้าก่อน
เชื่อไหมครับตอน mu7 ออกมาใหม่ๆ พวกรับซื้อมือสอง ซื้อกันประมาณ 5 แสนเองครับ แล้วเอามาขาย 7 8 แสน
ตามที่หลายท่านๆกล่ามานั่นแหละครับ Mu7 ดูเป็นครอบครัว (คนแก่ๆ ขับ ประมาณนั้น) for ดูลงตัวกว่ามาครับ
และราคาเริ่มต้นมันก็แพงกว่า
ส่วนค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง ไม่ต่างกับกระบะ4ประตูสักเท่าไหร่ครับ ยางก็ขนาดเท่าๆ กัน
ส่วน Mu7 ได้เปรียบการบำรุงรักษาตรงที่ ไม่ต้องเปลี่ยนสายพานไทมิ่งครับ แต่ก็ต้องแลกด้วยเสียงดังกว่านะครับผม
:)
-
ตอนออกมาใหม่ๆทั้งคู่ฟอร์จูนเอร์แพงกว่าด้วยครับ แล้วมิวเซเวนก็ไม่ค่อยนิยมเท่า ด้วยหน้าตาที่มัแข็งเหมือนกระบะไปหน่อยแต่ส่วตัวผมชอบนะ ภายในตัวแรกๆออฟชันแทบไม่ต่างกับกระบะดีแมคมีแค่เบาะหนังมั้ง แต่ข้อดีคือมีแอร์มาให้ถึงแถวสามเย็นฉ่ำกว่าแน่จนฟอร์จูนต้องมีให้ทีหลัง กับช่วงล่างที่เป็นแหนบแต่ฟอร์จูนเอนร์เป็นคอยล์สปริงแต่เอาเข้าจริงแหนบมิวเซวนกลับนั่งนิ่มดีกว่าฟอร์จูนเนอรืซะงั้น(เทียบเฉพาะตัวแรกนะไม่รู้เทียบกับฟอร์จูนตัวหลังๆจะเป็นยังไง) ก็ไม้รู้ว่าช่วงนั้นโตโยต้าข่าววงในดีรู้ว่ารัฐบาลจะแก้กฎหมายหรือว่ารู้กันกับรัฐบาลก็ไม่ทราบได้อีซุซุก็ถือว่าพลาดไป คนไม่ค่อยซื้อเท่าส่วนมากคนที่ซื้อมักเป็นแฟนกระบะอีซูซุหรือไม่ก็มองความคุ้มค่าความประหยัด ส่วนคนซื้อฟอจูนจะมองรูปทรงสมรรถนะมากกว่า พอเป็นมือสองก็น่าเล่นนะครับเอนกประสงใช้อะไหล่กับดีแมคซ์ได้เซฟน้ำมัน แต่จะเปลืองตอนต่อภาษีกับเปลี่ยนยาง
ไม่เข้าใจประโยคนี้ค่ะ รบกวนอธิบายหน่อยค่ะ
"ก็ไม้รู้ว่าช่วงนั้นโตโยต้าข่าววงในดีรู้ว่ารัฐบาลจะแก้กฎหมายหรือว่ารู้กันกับรัฐบาลก็ไม่ทราบได้อีซุซุก็ถือว่าพลาดไป"
คือเพลาดรื่องอะไร??
หมายถึง ภาษีกระบะดัดแปลง เรื่องแหนบ เรื่องช็อคอัพหรือเปล่า??? #เดาล้วน
-
มาตอบว่า MU มือสองราคาโอเคมากๆ
(แต่ไม่รู้ทำไมถูกกว่า FORTUNER เยอะขนาดนี้)
เอาเป็นว่าดีแล้ว
ได้รถนั่งนิ่มกว่า ดูแลง่ายพอกัน ในราคาถูกกว่าครับ :)
-
ตอนออกมาใหม่ๆทั้งคู่ฟอร์จูนเอร์แพงกว่าด้วยครับ แล้วมิวเซเวนก็ไม่ค่อยนิยมเท่า ด้วยหน้าตาที่มัแข็งเหมือนกระบะไปหน่อยแต่ส่วตัวผมชอบนะ ภายในตัวแรกๆออฟชันแทบไม่ต่างกับกระบะดีแมคมีแค่เบาะหนังมั้ง แต่ข้อดีคือมีแอร์มาให้ถึงแถวสามเย็นฉ่ำกว่าแน่จนฟอร์จูนต้องมีให้ทีหลัง กับช่วงล่างที่เป็นแหนบแต่ฟอร์จูนเอนร์เป็นคอยล์สปริงแต่เอาเข้าจริงแหนบมิวเซวนกลับนั่งนิ่มดีกว่าฟอร์จูนเนอรืซะงั้น(เทียบเฉพาะตัวแรกนะไม่รู้เทียบกับฟอร์จูนตัวหลังๆจะเป็นยังไง) ก็ไม้รู้ว่าช่วงนั้นโตโยต้าข่าววงในดีรู้ว่ารัฐบาลจะแก้กฎหมายหรือว่ารู้กันกับรัฐบาลก็ไม่ทราบได้อีซุซุก็ถือว่าพลาดไป คนไม่ค่อยซื้อเท่าส่วนมากคนที่ซื้อมักเป็นแฟนกระบะอีซูซุหรือไม่ก็มองความคุ้มค่าความประหยัด ส่วนคนซื้อฟอจูนจะมองรูปทรงสมรรถนะมากกว่า พอเป็นมือสองก็น่าเล่นนะครับเอนกประสงใช้อะไหล่กับดีแมคซ์ได้เซฟน้ำมัน แต่จะเปลืองตอนต่อภาษีกับเปลี่ยนยาง
ไม่เข้าใจประโยคนี้ค่ะ รบกวนอธิบายหน่อยค่ะ
"ก็ไม้รู้ว่าช่วงนั้นโตโยต้าข่าววงในดีรู้ว่ารัฐบาลจะแก้กฎหมายหรือว่ารู้กันกับรัฐบาลก็ไม่ทราบได้อีซุซุก็ถือว่าพลาดไป"
คือเพลาดรื่องอะไร??
หมายถึง ภาษีกระบะดัดแปลง เรื่องแหนบ เรื่องช็อคอัพหรือเปล่า??? #เดาล้วน
หมายถึงพลาดตรงไม่ทำระบบช่วงล่างเป้นคอยล์สปริงครับเพราะก่อนหน้านี้กฏหมายกระบะดัดแปลงต้องเป็นแหนบเท่านั้นตอนหลังแก้ใหม่ครับ