Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kritsada ที่ กรกฎาคม 29, 2014, 05:41:03
-
สวัสดีครับพี่ๆ ผมมีข้อสงสัยหลายอย่างจะมาถามพี่ๆครับ
1.มี city 1.5 ลิตร เทอร์โบ 300 แรงม้าที่ล้อ กับ civic eg6 เครื่อง k20 แดง โมดิฟายแบบ N/A 300 แรงม้าเช่นกัน คำถามคือเวลาที่เครื่องยนต์ N/A เทคเปิดจะมีฟีลคล้ายๆกับเครื่อง 1.5 เทอร์โบติดบูสรึเปล่าครับ
2.การบำรุงรักษาแบบไหนจะยุ่งยากกว่ากันครับ
ขอเป็นความรู้นะครับพี่ๆ ขอบคุณครับ
-
ขอตอบตามความคิดตัวเองนะครับ
1.5 ลิตร 300 ม้าที่ล้อด้วย ... ก็คงต้องทำท่อนล่าง โบบูสหนัก
ด้วยเครื่องแค่ 1.5 ลิตร แรงม้าขนาดนั้น คิดว่าแรงคงมาในรอบสูงพอควรเพราะไม่มี CC เยอะคอยช่วยให้มารอบต่ำ
แต่พอมาคงดึงหนักทีเดียว
--------------
ฝาแดง 300 ม้า อันนี้ผมไม่แน่ใจ ว่าถ้าไม่ทำเป็นท่อนล่าง K24 จะถึงไหม
แต่ NA รีดม้า ก็ต้องรอบสูงเช่นกัน แต่ได้ CC ที่มากกว่าช่วยเรื่อง torque ในรอบต่ำด้วย
แต่ใส่ในรถที่น้ำหนักเบาแบบนั้น จะรู้สึกว่า torque มันเยอะ ดึงแรง
----------
สุดท้ายผมคิดว่า K20 / K24 จะให้แรงบิดได้ในรอบกว้างกว่าเยอะ
แต่ 1.5 โบ ตอนบูสต์มาจะดึงหนักกว่า เพราะ turbo ทำ torque ได้เยอะ
-----------
การบำรุงถ้าทำมาดี ผมยังคิดว่า NA ดูแลง่ายกว่านะครับ
ผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยครับ
-
ตอบแบบไม่มีความรู้ด้านนี้นะครับ
เครื่อง 1.5 @ 300 hp ท่าทางจะขับยากมากนะครับ กว่าจะได้เกิน 250hp
เครื่อง 2.0 @ 300 hp นี่ก็น่าจะขับยาก
ถ้าขับบ้านๆ(คงจาก อิอิ) การ service ผมว่าพอกัน na อาจจะเยอะกว่านิด
-
สงสัยนะครับว่า เครื่อง 1.5L turbo โมจนได้ 300 แรงม้าลงล้อ ได้ในความเป็นจริงหรือครับ (เอาแบบขับได้ปกติไม่ใช่วิ่งสักพักเครื่องพังนะครับ)
ถามเป็นความรู้นะครับ ไม่ได้กวน
-
ผมว่า K20 na น่าจะขับสะใจกว่าคับแต่ลงทุนสูงมากนะนั่น
-
แรงม้า,แรงบิด มาที่รอบต่างกันคาแรคเตอร์ของรถทั้ง2คันก็ต่างกัน
แต่โดยธรรมชาติ แรงบิดจากเครื่องFIจะมากกว่า NA บำรุงรักษา
NAง่ายกว่าเยอะมากๆครับ เครื่อง1.5ลิตร แรงม้าขนาดนี้ ทุกชิ้นส่วน
อัพเกรด และรับภาระแบบเต็มเหยียดอยู่แล้วครับ รถNAมีแต่negative
pressure ในขณะที่ FI มีNegativeและPositive Pressure
-
ในเกม Gran Turismo 2 ผมเคยทำรถกระป๋องแรงได้ถึง280แรงม้า แต่เอามาวิ่งจริงๆจังๆ ก็โดน R34 แตนๆ ที่มี280แรงม้าเท่ากัน สวนไปได้แบบง่ายๆ
สำหรับคำถามของจขกท. ผมว่าวาง K20 ดีกว่าครับ เพราะโมน้อยกว่ายังขับชิลๆในเมืองได้
-
ตอบแบบไม่อิงหลักทฤษฎี
ถ้าวิ่งคลอเตอร์ไมล์ 1500 turbo กินเห็นๆ
K20 เทคเปิดแป๊ดๆ แต่ดึงไม่เท่าเทอร์โบตอนบูสมา
ถ้าวิ่ง street race K20 ทิ้งหายแน่นอน
ปล. K20 ทำดีๆ อิม กับ อีโว หนีไม่ออกเลยครับ เคยโดนมาแล้ว :'(
-
สงสัยนะครับว่า เครื่อง 1.5L turbo โมจนได้ 300 แรงม้าลงล้อ ได้ในความเป็นจริงหรือครับ (เอาแบบขับได้ปกติไม่ใช่วิ่งสักพักเครื่องพังนะครับ)
ถามเป็นความรู้นะครับ ไม่ได้กวน
ทำเกิน 300 แรง กับพิกัด 1.5 +โบ มีเยอะครับ หาดูได้ตามยูทูบ ;) http://youtu.be/WM7_o81Mt5U (http://youtu.be/WM7_o81Mt5U)
ถ้าถามผม ผมว่า ซีๆ เยอะ แรงม้าเท่ากัน กับบอดี้ที่นน. ไม่ได้หนีกันเท่าไหร่ ผมถือหาง EG ครับ แน่นอน เกียร์มันน่าจะเหมาะสมกว่า
-
สงสัยนะครับว่า เครื่อง 1.5L turbo โมจนได้ 300 แรงม้าลงล้อ ได้ในความเป็นจริงหรือครับ (เอาแบบขับได้ปกติไม่ใช่วิ่งสักพักเครื่องพังนะครับ)
ถามเป็นความรู้นะครับ ไม่ได้กวน
ทำเกิน 300 แรง กับพิกัด 1.5 +โบ มีเยอะครับ หาดูได้ตามยูทูบ ;) http://youtu.be/WM7_o81Mt5U (http://youtu.be/WM7_o81Mt5U)
ถ้าถามผม ผมว่า ซีๆ เยอะ แรงม้าเท่ากัน กับบอดี้ที่นน. ไม่ได้หนีกันเท่าไหร่ ผมถือหาง EG ครับ แน่นอน เกียร์มันน่าจะเหมาะสมกว่า
ขอบคุณครับ
-
ถ้าใช้ยางสเป็คเดียวกัน มีแนวโน้มว่า Civic จะชนะ เพราะแรงบิดจากตัวเครื่องไม่ได้เยอะ แต่มีแรงบิดรอบสูงที่ดี ลากได้ยาว ทำให้การยึดเกาะของยางและออกตัวในเกียร์ 1 เลี้ยงง่ายกว่า กำหนดแรงเครื่องง่าย รอบสูงกว่า K20 ลาก 300 ม้านี่น่าจะมี 8,500 ได้แล้ว ในขณะที่ City ..คิดว่าอาจจะไม่ได้ทำสปริงวาล์วมา หลัง 6,500รอบไปวาล์วเริ่มลอยแล้ว ช่วงต่อเกียร์ ก็ดีกว่า
EG6 ลำพังแค่วาง K20 แล้วมีกล่อง เฮด ท่อ กรอง ก็วิ่งลงมาแตะ 13.7 กันได้แล้วถ้ายางดีและคนขับเจ๋ง ส่วน City โบที่ทำมา 220 แรงม้า กว่าจะเข้าเส้นได้ก็มี 14.5 วิ นี่คือเทียบรถที่ม้าใกล้เคียงกันให้ดูว่ายังห่างกันมาก ข้อเสียของ K20 คือแพ้รถหนักๆ ไม่เชื่อลองดูได้ K20 วางใน EG ไปเร็วมาก วางใน EK Coupe ก็เร็ว แต่วางใน EP3 จะวิ่งช้ากว่าทั้งที่ทำมาเท่าๆกัน ยิ่งตัวที่วางใน FD ขนาดม้าเยอะกว่าใคร วิ่งทะลุไป 15 วิเลยก็มีแม้ 14 ปลายจะมีเช่นกัน
นี่เทียบให้ดูกันเฉยๆ แต่ในความเป็นจริง ถ้าเริ่มต้นด้วยรถคันเดียวกัน กำเงินเท่ากันที่ 200,000 ในงบขนาดนี้ถ้าเป็น K20 น่าจะได้เครื่อง กล่อง เฮด ท่อ วาง ส่วน City นั้นถ้ามีเครื่องมาเป็น L15 อยู่แล้วก็สามารถลงโบได้ ทำท่อนล่าง ก้านใหม่ ลูกใหม่ได้ ซึ่งม้ามันจะไม่ได้หยุดอยู่แค่ 300 หรอกครับ..ถ้าทำเต็มๆระดับนี้ 400 ม้า บูสท์ 2 บาร์ DEFI ยันเต็มผมเห็นมาแล้ว แต่พวกนี้ให้ขับ ผมกลัวครับ สองเกียร์แรกกดไม่ได้ แต่ 3-4-5 ไปนี่สบาย
อย่างไรก็ตาม..สิ่งนึงที่ L Turbo ให้ไม่ได้คือรสชาติเสียงของ DOHC VTEC นะ ผมชอบรถเทอร์โบ แต่เวลาขับ K ทำดีๆแล้วเสียงเครื่องมันแผด มันเร้าใจกว่ามากในความคิดผม
-
city 300 ม้าโอว เข้าโค้งได้ม้ยคับเนี่ย หรือวิ่ง drag อย่างเดียว
-
รถบนถนนที่รถเยอะๆคงจะเหนื่อยน่าดู เกียร์ 1-2 จะดิ้นขนาดไหนกันเนี่ย
-
K20 เกือบ 300 ม้า ต้องทำไส้ กันวุ่นวายเลยครับ แคมก็ต้องสูงๆ ท่อร่วมก็ต้องใหญ่ กว่าจะเปิดเรียกม้าที พวก turbo เค้าไปไหนกันแล้ว ค่าทำอีก ไม่รู้กี่แสนอ่ะครับ
เพราะของแต่ง Honda แพงมากๆครับ อาจต้องขายเป็น 2400 ผสมผสานบางชิ้นส่วนของรุ่นพี่ K24 เห็นทำกันเยอะครับ
คู่นี้ผมว่าเอาแค่L15เทอรโบไส้เดิมๆ VS K20A ปรับแต่งนิดหน่อยดีกว่าอ่ะ แต่งบต่างกันพอควร
เอาให้ม้าลงพื้นเกิน 220 ตัว แค่นี้ก็สนุกแล้วล่ะครับ หน้าตากับเสียงยังเหมือนรถบ้านไม่หนวกหูนัก เอาไว้สั่งสอนพวกกระบะดันราง
งบที่เหลือถ้าอยากจัดต่อเอา K20 ไปลงเทอรโบไส้เดิมๆ 300 ม้าที่นี้ไม่ยากเย็น เปิดฝากระโปรงที แทบไม่อยากจะยุ่งด้วยเลย K20 มันเต็มพื้นที่ได้ใจคับ
ไหนจะเบรคคยางกับช่วงล่าคลัสอีก บวกไปบวกมาขายรถไปหา อีโวมือสองขับ แรงสะใจกว่าทนทานอะไหล่มือสองหาได้กว่าเยอะอีกคับ
City ห้องเครื่องใหญ่คับ ยัดอะไรได้สบายกว่า Jazz เยอะ
-
ถ้าต้องเลือกระหว่างรถทั้ง 2 คัน
EG6 K20A กับ CITY TURBO
แรงม้า 300 เท่ากัน
ผมเลือก EG6 K20A ครับ
รถเบากับ K20A นี่ถูกทางครับ
ความแรงคงสู้เทอร์โบไม่ได้ครับแต่มีรอบที่เพียงพอครับ
ถ้า EG6 ใช้รอบของ K20A ได้เต็มๆ CITY TURBO ก็ไม่ได้กินหมูนะครับ
ปล.
ว่าแต่ งบโมดิฟายคงต่างกันเยอะแบบเทียบไม่ได้เลย
กว่าจะขุนเจ้า EG6 ให้ลง K20A ได้เนียนๆ
กว่าจะโมเจ้า K20A ให้ได้ 300 ม้า
งบประมาณคงบานปลายอย่างหนักครับ
-
มีอีกวิธีนึงที่สามารถทำ K20A ให้ม้าดีดไปแตะ 300 ได้ ไม่ต้องทำอะไรมาก
ดมสารระเหยไง
ข้อเสียมีอย่างเดียวคือ สารระเหยหมด แล้วต้องเติม ยิ่งเสี้ยนจิตกดกันบ่อยๆยิ่งหมดไว ไปๆมาๆหมดค่าเติม NOS ไปเดือนละ 4-5 พัน ทำแบบนี้สองปีเอางบตรงนั้นไปทำเครื่องได้แล้ว ดังนั้นสารระเหยจึงเหมาะกับคนที่ทำรถซิ่งไว้เป็นรถคันที่สอง เอาออกขับแค่อาทิตย์ละวันสองวัน ปกติไม่ซิ่ง มีนานๆครั้งจะต้องใช้พลังจริงๆ
-
ถือหางk20aมากกว่านะครับเพราะลักษณะทางกายภาพมันดูไปได้ไกลมีอนาคตกว่า ส่วนl15a turbo 300ม้าเหมือนเค้นมันจนจะสุดลิมิตแล้วแถมรอบต่ำน่าจะรอรอบมากกว่า
-
เคยนั่ง 16+20 ของเพื่อน มันดึงที ตกใจเลย
-
มีอีกวิธีนึงที่สามารถทำ K20A ให้ม้าดีดไปแตะ 300 ได้ ไม่ต้องทำอะไรมาก
ดมสารระเหยไง
ข้อเสียมีอย่างเดียวคือ สารระเหยหมด แล้วต้องเติม ยิ่งเสี้ยนจิตกดกันบ่อยๆยิ่งหมดไว ไปๆมาๆหมดค่าเติม NOS ไปเดือนละ 4-5 พัน ทำแบบนี้สองปีเอางบตรงนั้นไปทำเครื่องได้แล้ว ดังนั้นสารระเหยจึงเหมาะกับคนที่ทำรถซิ่งไว้เป็นรถคันที่สอง เอาออกขับแค่อาทิตย์ละวันสองวัน ปกติไม่ซิ่ง มีนานๆครั้งจะต้องใช้พลังจริงๆ
แรงอ่ะครับ COMMANDER CHENG
แบบนี้รถนานๆ แว้นซ์มียิ้มเลยฮะ
ขอบคุณมากครับ
-
K20 ฝาแดง เดิมๆ ผมว่าก็โอเคแล้ว ไม่ต้องถึง 300 ม้าหรอก
ไม่ใช่อะไรนะ ถ้าซิตี้โมฯขนาดนั้น คงอยู่กับเราได้ไม่นาน
ผมว่าเคยี่ฝาแดง แตนๆจากโรงงานมันได้อารมณ์กว่ารถแต่งนะครับ